จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1071
“เร่งฝีเท้าเร็วเข้า!”
ความเร็วในการหนีออกจากคุกนรกของปาร์ตี้กริดถูกเร่งจนถึงขีดจำกัด เนื่องจากสภาพสุดสลดหดหู่ของสามดยุค ชายหนุ่มต้องการส่งทุกคนให้ถึงมือนักบุญหญิงรูบี้โดยเร็ว
ถ้าพ้นคุกนรกได้เมื่อใด กริดรีบจะมุ่งหน้ากลับวังหลวงไรน์ฮาร์ททันที
“ไสหัวไปซะ!”
โฮกกกก!
ชายหนุ่มตวัดดาบฆ่าฟันผู้คุมภายในคุกนรกอย่างไร้ความปรานี ตนแล้วตนเล่า เนื่องด้วยการตื่นค่าสถานะระดับสี่ พลังโจมตีกายภาพจึงเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายร้อย มาพร้อมพลังทำลาย
กริดคอยสลับบัฟพลิ้วไหวทุกครั้งเมื่อระยะหน่วงวนกลับมาถึง มันฆ่าฟันมอนสเตอร์ด้วยมือข้างเดียวอย่างไม่ยากเย็น ส่วนมืออีกข้างกำลังโอบกอดบาซาร่าไว้ในอ้อมแขน
“เป็นดาบยาวที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้!”
ด้านหลังสุดขบวนเป็นเคย์กำลังขี่หลังโอเวอร์เกียร์คอร์น ทุกครั้งเมื่อคนแคระสกปรกอ้าปากสรรเสริญดาบกริด น้ำลายเหม็นเน่าของมันพลันกระเซ็นไปถูกตัวโอเวอร์เกียร์คอร์นด้านล่าง
สีหน้าของพาหนะขาวโพลนกำลังบิดเบี้ยว
กรรร!
นอกจากจะเป็นเพศชายแล้ว ไอ้ระยำนี่ยังมีกลิ่นน้ำลายเหม็นบัดซับอีกหรือ
โอเวอร์เกียร์คอร์นไม่ทนอีกต่อไป มันตัดสินใจเร่งฝีเท้าวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด
ใบหน้าเคย์พลันขาวซีดประหนึ่งไก่ต้มสุก
“อ…อึ๋ย! ต…ตาย! ฉันตายแน่! ไอ้ม้าหื่นกาม!”
โครม!
ศีรษะเคย์กระแทกหินงอกหินห้อยบนผนังถ้ำอย่างจัง ผลลัพธ์คือ ใบหน้าของมันพลันบวมฉึ่ง
“โอ๊ย! ไอ้ม้าโง่…! วิ่งดูตาม้าตาเรือบ้างสิฟะ!”
สภาพเคย์ดูไม่ได้ จากคนไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ระหว่างการหนี ร่างกายมันกลับยับเยินยิ่งกว่าคนเจ็บทั้งสาม
ในทางกลับกัน โอเวอร์เกียร์คอร์นเร่งฝีเท้าวิ่งตามกริดอย่างสบายใจ ตัวมันแทบไร้รอยขีดข่วน
หลังจากการสับเท้ามาราธอนโดยไม่มีใครได้พักหายใจ
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
คณะเดินทางหลบหนีออกจากคุกนรกสำเร็จ
“ขอบคุณทุกคนมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องภารกิจ เดี๋ยวผมแจ้งอัศวินอาวุโสให้ จากนั้นพวกคุณจะได้รับรางวัลตามปรกติ”
“ขอบคุณที่เป็นธุระให้ ในหลายๆ เรื่อง”
“คุณกริดขอบคุณทำไม เป็นฝ่ายผมต่างหาก ไม่อย่างนั้น ภารกิจสุดหินคงไม่จบเร็วขนาดนี้”
ถ้อยคำของเลซี่ไม่มีส่วนใดเกินจริง ภารกิจสำรวจคุกนรก มันไม่มีทางผ่านได้หากปราศจากกริดและโค้ก
เลซี่มั่นใจมาก ไม่มีปาร์ตี้ท็อปแรงเกอร์สามคนใดในโลก สามารถฝ่าด่านนรกอย่างบีฟรองเซ่และดยุคแห่งดาบได้
ลำพังผู้คุมตรงทางเข้าและถ้ำแคบก็ตึงมือแล้ว
หากไม่ใช่กริด ผู้เล่นคงไม่มีโอกาสได้เห็นเวิ้งคุกนรก ทางเดินถ้ำแคบสุดหินคือจุดชี้ขาดสำคัญ
จากความคิดของเลซี่ ด่านทางเดินคับแคบของถ้ำคืออุปสรรคใหญ่หลวง น้อยคนในโลกจะเอาชนะผู้คุมหลังค่อมได้ง่ายดายแบบกริด
เป็นโชคดีของตนมาก ชุมชนเกียรติแห่งอัศวินได้ทำให้รู้จักโค้กและมีประสบการณ์วันนี้
“แล้วจะหาโอกาสตอบแทนให้วันหลัง”
“เยี่ยมเลย! อย่าลืมจดไว้ด้วยนะ ผมชอบกินข้าวสวยมาก พวกเราทุกคนล้วนอยู่เกาหลีใต้ คงพบกันได้ไม่ยากใช่ไหม”
โค้กฉีกยิ้มกว้าง มันต้องการสนิทสนมกับเลซี่เข้าไว้ ทั้งสองเป็นผู้เล่นตำแหน่งอัศวินเหมือนกัน มีความชอบคล้ายกัน และมีพรสวรรค์ระดับใกล้เคียงกันมาก การตีซี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
เลซี่รับไมตรีอย่างเต็มใจ
“ถ้ามีโอกาสพบกัน ผมขอเลี้ยงมื้อใหญ่เป็นการตอบแทน การได้รู้จักพวกคุณทั้งสอง นับเป็นวาสนาอย่างมากสำหรับตัวผมแล้ว”
“ถ้าพวกเรานัดพบกันจริง ขอเตือนให้คุณอยู่ห่างจากพีคซอร์ดไว้ ถ้าเขาทราบว่าคุณเป็นเกาหลีเมื่อใด รับรองได้เลยว่าชีวิตลำบากแน่”
“ฮะฮะ… แล้วจะระวังครับ”
“ตกลง แล้วพบกันใหม่เมื่อมีโอกาส”
กริดเองก็ชื่นชอบเลซี่ไม่น้อย อีกฝ่ายมีทักษะและฝีมือในระดับน่าสนใจ แถมนิสัยส่วนตัวยังน่าคบหา ชายหนุ่มต้องการมีคนเช่นนี้ไว้ในกิลด์โอเวอร์เกียร์ แถมตำแหน่งในวังหลวงก็ยังว่างอยู่ ไอรีนหรือลอร์ดควรมีอัศวินส่วนตัวเพิ่ม
แต่ปัจจุบันยังไม่ถึงเวลา เลซี่มีเส้นทางและอนาคตเป็นของตัวเอง ชายหนุ่มไม่ต้องการกดดันอีกฝ่าย
กริดระงับความผิดหวังและหันไปพูดกับโค้ก
“พวกเราเร่งมือกันเถอะ โค้ก”
หากกองทัพอีธานเริ่มเคลื่อนไหว สถานการณ์ฝ่ายตนจะยิ่งยากลำบาก มัวเสียเวลาไม่ได้แล้ว
ขณะกริดและโค้กหันหลังให้เลซี่
กร่อก! กร่อก! กร่อก! กร่อก! กร่อก! กร่อก!
บรรยากาศโดยรอบพลันอึกทึกครึกโครม กองทัพม้าปรากฏจากเส้นขอบฟ้าในลักษณะเรียงหน้ากระดาน
จำนวนนับพันนับหมื่นนาย
นำมาโดยทัพม้าจำนวนมาก
เมื่อพิจารณาว่า ทหารม้าหนึ่งนายต้องใช้เงินบำรุงเทียบเท่าทหารราบ 30 นาย เท่านี้ก็มากพอให้รู้สึกทึ่งกับฉากตรงหน้า
กร่อก! กร่อก! กร่อก!
ทหารม้ากรูเข้ามาล้อมปาร์ตี้กริดไว้ทุกทิศทาง พวกมันยืนชิดเบียดเสียดจนแทบไม่เหลือช่องว่าง
แม้แต่สอดเข็มผ่านยังอาจทำไม่ได้
“กองทัพจักรวรรดิสินะ”
“นึกแล้วเชียว”
โค้กพลันทำหน้าบูดบึ้ง แต่เคย์กลับเรียบเฉยจนผิดปรกติ ราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ขณะกริดกำลังยืนเคร่งเครียด คนแคระเคย์เดินมาหยุดด้านข้างและยื่นแขนเข้าหา
“เจ้าคิดว่าจักรวรรดิมีแต่ชื่อหรืออย่างไร อาชญากรบุกรุกคุกนรก แถมยังช่วยนักโทษออกมาสำเร็จ ไม่มีทางพบจุดจบสวยหรูอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ข้าขอดูดาบเจ้าอย่างเต็มสองตาอีกครั้ง ก่อนจะถูกจับกลับเข้าไปในคุกอีกหน”
“โค้ก เตรียมฝ่าวงล้อม”
กริดไม่แยแสถ้อยคำเหลวไหลของเคย์ มันหันไปบอกโค้กและเตรียมอัญเชิญโนเอะ รวมถึงสรรพสัตว์เลี้ยงอีกมากมาย
“นายท่านเกล็นฮาล!!”
“ท่านหญิงบาซาร่า!!”
“มอริส! เจ้าโง่!!”
ทหารม้ารอบตัวกริดไม่ใช่ใครอื่น ทั้งหมดคือกองทัพในสังกัดของสามดยุค
ถ้าอย่างนั้น ทัพม้าจำนวนมากของดยุค ริอ่านบุกรุกเข้าเขตวังหลวงเชียวหรือ เขตบรรทมขององค์จักรพรรดิเนี่ยนะ
ตามปรกติแล้ว สิ่งเหล่านี้คือความผิดระดับอาญาแผ่นดิน หากถูกตัดเศียรเจ็ดชั่วโคตรก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่
แต่ไม่มีใครสน
ลูกน้องเกล็นฮาล มอริส และบาซาร่าต่างรีบลงจากม้าและวิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าสามดยุค
“พวกเราทุกคนต่างทราบความจริง แต่มิอาจกระทำสิ่งใดได้เลย!”
“พวกเราล้วนไร้ความสามารถ!”
“องครักษ์หลวงกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ได้โปรดหนีเร็วเข้า!”
“เจ้าโง่มอริส! บอกอีกครั้งกี่หนแล้วให้รีบกลับบ้านก่อน! พูดอะไรไปไม่เคยจำใส่สมองสักที!”
“…”
หล่อนเป็นใครกัน หญิงสาวคนนี้เอาแต่ดุด่ามอริสไม่หยุด จะไม่เป็นไรจริงหรือ กับการแสดงกิริยาแบบนี้ใส่ดยุคแห่งจักรวรรดิ
กริดมิได้สนใจหล่อนนานนัก ชายหนุ่มบรรจงวางบาซาร่าลงอย่างทะนุถนอม ก่อนจะหันไปพูดกับเหล่าทหารม้าทุกนาย
“เราคือราชาโอเวอร์เกียร์”
“พวกเราล้วนทราบดี”
ชายชรานาม ‘ลันฟอร์ด้า’ เดินออกมาด้านหน้าสุด มันสวมชุดเกราะเก่า เป็นตัวแทนกองทัพฝั่งตระกูลบาซาร่า
ชื่อของลันฟอร์ด้าถูกเขียนด้วยอักษรสีทอง และไม่เฉพาะชายคนนี้ กริดยังเห็น NPC พิเศษในกองทัพตระกูลสามดยุคอีกมากมาย
“เมื่อครั้งกลับจากวิหารเทพสงคราม นายหญิงบาซาร่าแอบส่งเวทมนตร์สื่อสารกลับมายังคฤหาสน์ตระกูล เธอเล่าเรื่องราวของราชาโอเวอร์เกียร์ให้พวกเราฟังมากมาย”
ไม่เพียงฝั่งตระกูลบาซาร่า แต่กองทัพดยุคอื่นล้วนรู้จักกริดไม่ต่างกัน พวกมันกำลังก้มศีรษะคารวะอย่างนอบน้อม
“ท่านช่วยดยุคทั้งสามออกมาได้ พวกเราทุกคนติดหนี้บุญคุณอย่างใหญ่หลวง”
สถานการณ์ตรงหน้า นอกเสียจากจะไม่มีสมอง คนปรกติย่อมทราบว่าอะไรเป็นอะไร
เรื่องราวมากมายถูกอธิบายด้วยการกระทำ
“พวกเราติดหนี้ท่านแล้ว ตระกูลดยุคเกล็นฮาลจะไม่ลืมบุญคุณราชาโอเวอร์เกียร์ตลอดไป!”
“พวกเราติดหนี้ท่านแล้ว ตระกูลดัชเชสบาซาร่าจะไม่ลืมบุญคุณราชาโอเวอร์เกียร์ตลอดไป!”
“พวกเราติดหนี้ท่านแล้ว ตระกูลดยุคมอริสก็เช่นกัน”
ทหารนับหมื่นนายกำลังยืนร่ำไห้พร้อมกับก้มศีรษะให้กริด แต่ละคนมีอารมณ์แตกต่างกันไป เสียงคร่ำครวญดังระงมหน้าปากทางเข้าคุกนรก
“เราเพียงช่วยสหายรักออกมา… เท่านั้นเอง”
กริดตอบอย่างถ่อมตน แม้สิ่งนี้อาจไม่ใช่นิสัยหรือสันดานแท้จริง แต่ชายหนุ่มสามารถเลือกได้ว่าจะแสดงออกตอนไหน ในระยะหลัง มันเริ่มรับมือกับเหตุการณ์ทำนองนี้ได้ชำนาญ
“…ท่านกริด”
เกล็นฮาลกำลังตื้นตันใจ แม้ตาสองข้างจะบอดเพราะฝีมืออีธาน แต่สมองยังพอจินตนาการภาพกริดในหัวได้
กษัตริย์ผู้โอบอ้อมอารี ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประชาชนชาวโอเวอร์เกียร์จะจงรักภักดีต่อกริดมากเพียงไหน
“…บ้าบอสิ้นดี”
มอริสหมดสติไปนานเนื่องจากถูกความเจ็บปวดแสนสาหัสเล่นงาน เส้นเอ็นแขนขาถูกสะบั้นหมดทุกข้าง หากไม่เคยสัมผัสด้วยตัวเอง คงยากจะเข้าใจความเจ็บปวดเหล่านั้นได้ ไม่ว่าจะด้านร่างกายหรือจิตใจ
มอริสกำลังสับสน
ดยุคอย่างตนถวายชีวิตรับใช้ราชวงศ์ซาฮารันมาช้านาน แต่กลับถูกองค์ชายทรยศเนี่ยนะ
แต่กลับกัน คนแปลกหน้าอย่างกริด ราชาอาณาจักรศัตรู เพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน กลับยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปในคุกนรกเพื่อช่วยเหลือตน
ขณะบรรยากาศกำลังเศร้าหมอง อัศวินคนหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างร้อนรน
“พวกเราต้องรีบพาท่านดยุคกลับดินแดน”
หากถูกกองทัพองค์ชายสี่ล้อมจับภายในกรุงไททัน ผลลัพธ์คงเลวร้ายเหนือจินตนาการ
“รีบต่อติดโบสถ์รีเบคก้าโดยด่วน ให้พวกเขาส่งสภาอาวุโสมาสนับสนุน บางทีอาจช่วยฟื้นฟูบาดแผลของท่านดยุคได้บ้าง”
ขณะเหล่าอัศวินกำลังจะเดินเข้ามาพยุงร่างสามดยุค
“พาไปไรน์ฮาร์ทดีกว่า” กริดเสนอแนะ
“ท…ท่านพูดว่าไรน์ฮาร์ทหรือ”
กรุงไรน์ฮาร์ทคือเมืองหลวงของอดีตอาณาจักรอีเทอนัล และยังเป็นเมืองหลวงอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในปัจจุบัน ว่ากันตามตรง เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในไรน์ฮาร์ท ยังด้อยกว่าดินแดนดยุคจักรวรรดิอยู่มาก
ไปไรน์ฮาร์ทแล้วจะช่วยอะไรได้
ขณะบรรดาอัศวินกำลังกระอักกระอ่วน กริดอธิบายด้วยสีหน้าแสนภูมิใจ
“น้องสาวเราคือนักบุญหญิง”
“…!!”
“ถ้าถึงมือเธอ โอกาสรักษายังพอมี”
“…!!”
“ถึงการรักษาจะยากลำบาก และอาจต้องเสียสละบางสิ่งไปบ้าง แต่เพื่อสหายรักทั้งสามของเราแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหา”
กริดตอกลิ่มอย่างชาญฉลาด
ทันทีเมื่อได้เห็นสีหน้าตกตะลึงปนเคลือบแคลงจากเหล่าลูกน้องสามดยุค ชายหนุ่มถามย้ำ
“พวกเจ้าคิดว่าเราโป้ปดหรือ”
“ห…หามิได้ขอรับ!”
ว่ากันตามตรง ในสถานการณ์ปัจจุบัน ราชาโอเวอร์เกียร์ยังเชื่อถือได้มากกว่าคนของราชวงศ์ซาฮารันด้วยซ้ำ
บรรดาทหารและอัศวินต่างก้มศีรษะขอบคุณกริดจากก้นบึ้ง ส่วนโค้ก มันทำเพียงอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
‘ทุกคนต้องตกตะลึงแน่…’
ในเวลาเดียวกัน เลซี่และเคย์ต่างดวงตาเบิกโพลงราวกับได้เห็นผี
‘ท่ามกลางช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ คนสนิทของดยุคกลับเชื่อใจราชาโอเวอร์เกียร์…’
‘ผ่านไปเพียงไม่กี่สิบปี พวกขุนนางจักรวรรดิเสียสติกันหมดแล้วหรือไง’
***
“น่ารำคาญชะมัด”
องค์ชายลำดับสี่ อีธาน ใบหน้าของมันบูดบึ้งมาสักพักใหญ่แล้ว
“ทำไมเจ้าถึงต้องยื่นมือสอดเรื่องภายในของจักรวรรดิด้วย”
ณ ปลายแม่น้ำฟาลัวร์
อีธานแอบสะกดรอยตามเรเชลมานานมาก ระหว่างทางขณะหล่อนกำลังกลับดินแดนตัวเอง มันออกคำสั่งให้จักรกลเวทมนตร์ลอบโจมตี
หากจับกุมเรเชลได้ ปัจจัยไม่คาดฝันทั้งหมดก็จะไม่หลงเหลือ แต่แผนการต้องพังครืนไม่เป็นท่าจากฝีมือบุคคลภายนอกเพียงหนึ่ง
อริยดาบ
ชายผมดำ ฝีมือยังไม่ถึงระดับปิอาโร่ ปรากฏตัวขึ้นและขัดขวางแผนลอบจู่โจมของอีธาน
ในฐานะเพื่อนร่วมชาติของซีบาล ครอเกลย่อมทราบจุดอ่อนจักรกลเวทมนตร์ทุกซอกมุม โดยเฉพาะระยะเวลาเดินเครื่องและถังเชื้อเพลิงด้านหลัง
อริยดาบคอยควบคุมอาวุธบินปั่นป่วนถังเชื้อพลังให้พวกมันหวาดระแวง ขณะเดียวกันก็ใช้หมอกควันบดบังร่างจนกระทั่งหมดเวลา
เมื่อจักรกลเวทมนตร์ไร้ประโยชน์ คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากอีธานต้องลงมือด้วยตัวเอง
หากเป็นการดวลแบบหนึ่งต่อหนึ่ง อีธานมั่นใจว่าตนสามารถชนะเรเชลได้ แต่เมื่อมีปัจจัยเพิ่มเติมเป็นอริยดาบ สถานการณ์ฝั่งอีธานจึงค่อนข้างเสียเปรียบ
‘ลิมิตไม่ติดต่อกลับมาเลย’
ก่อนเริ่มแผนการ เสาตรวจจับเวทมนตร์ภายในคุกนรกส่งสัญญาณกลับมา หมายความว่ามีผู้บุกรุกย่างกรายเข้าไป
อีธานตัดสินใจส่งลิมิตผู้มีความคล่องตัวสูงสุดกลับไปตรวจสอบ
แต่ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น การติดต่อจากลิมิตขาดหายอย่างไร้ร่องรอย ตัวมันควรรีบกลับไปตรวจสอบให้แน่ชัด ดยุคสามคนย่อมมีค่ากว่าเรเชลเพียงหนึ่ง
มันเคยคิดมาตลอดว่า ภายในคุกนรกมีอสูรบีฟรองเซ่เฝ้าอยู่ ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินเหตุ
‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่’
อีธานสบถในใจอย่างหงุดหงิด ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยปราณสีชาดพุ่งโจมตีอย่างดุดัน
เป้าหมายคือครอเกล
อริยดาบรีบกระโดดถอยหลังพลางใช้ดาบปัดป้องไว้ง่ายดาย แต่นั่นทำให้มันเสียจังหวะ
อีธานชิงจังหวะหนีอย่างว่องไว
“ต้องขอตัวกลับไปสะสางปัญหาก่อน”
มันไม่สนเรเชลอีกแล้ว
ด้วยความสัตย์จริง อีธานต้องการฉีกร่างอริยดาบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยคามือ โทษฐานบังอาจขัดขวางแผนการเกือบสมบูรณ์แบบของมัน
แต่เวลากระชั้นชิดเกินไป
มันหันไปร่ำลาเรเชล
“เธอรอดตัวไปนะ แล้วพบกันใหม่”
“ถ้าได้พบกันอีกครั้ง ฐานะของคุณจะไม่ใช่องค์ชาย แต่เป็นกบฏแผ่นดิน”
“คึคึก! นั่นสิน้า~ แต่แบบไหนก็คงไม่ต่าง”
จิตใจคนผู้นี้บิดเบี้ยวตั้งแต่เมื่อไร
แล้วใครอยู่เบื้องหลัง
‘อะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้…’
หลังจากอีธานระงับโทสะ มันรีบสั่งให้กองทัพฝ่ายตนถอยกลับ แผนการถัดจากนี้ ขั้นแรกคือปรึกษาปัญหากับแกรนมาสเตอร์
อริยดาบและอริยหอกต่างถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย เรเชลหันมาถามครอเกล
“นายรู้ได้อย่างไรว่าต้องมาช่วยฉัน”
“ท่านอาจารย์บอกใบ้”
ภายในหุบเขาไทเลอร์ คิรินัสสัมผัสถึงปราณสีชาดเข้มข้นจากระยะไกล
หากเป็นเรื่องของราชวงศ์ซาฮารันและจักรวรรดิ คิรินัสมักให้ความสนใจมากเป็นพิเศษเสมอ มันมีข้อมูลชนิดละเอียดครบถ้วน เป็นผลจากการลอบสอดแนมตลอดหลายปีหลัง
ประสาทสัมผัสจึงไวต่อปราณสีชาดเป็นพิเศษ
หากภาพปิอาโร่ยืนคุยกับสามดยุคถูกรายงานถึงหูองค์จักรพรรดิ ชะตากรรมของเหล่าดยุคคงจบลงไม่สวย คิรินัสเชื่อเช่นนั้น
มันจึงมอบภารกิจแก่ครอเกล
อริยดาบยืนตัดพ้อในใจ น่าเสียดาย ตนไม่มีข้อมูลของสามดยุคคนอื่นเลย
แต่อย่างน้อยก็ช่วยเรเชลไว้ได้หนึ่งคน มากพอสำหรับบรรลุเงื่อนไขภารกิจของคิรินัส
‘…ส่วนที่เหลือ’
ด้วยเหตุผลบางประการ ครอเกลสัมผัสได้ว่า กริดช่วยเหลือสามดยุคออกมาเรียบร้อยแล้ว
หลักฐานยืนยันคือเลเวลของกริด แม้จะปราบเฟย์ริสลงได้ แต่ราชาโอเวอร์เกียร์กลับยังมีเลเวลค้างที่ 399 มาแสนนาน
ทว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ข้อความระบบหนึ่งได้ทำให้ครอเกลตระหนักว่า กริดอัปเลเวลถึง 400 ถ้วนแล้ว
‘500 อาจยากเกินไป แต่ถ้า 600 พอมีหวัง’
สมญานาม ‘ผู้นำ’ จะเปลี่ยนมือเมื่อมีผู้เล่นคนใหม่อัปเลเวลแตะหลักร้อยในระดับถัดไป
ครอเกลได้ครอบครองมันตั้งแต่เลเวล 100 ลากยาวไปจนถึง 200 และ 300
หรือก็คือ ไม่เคยมีใครทราบถึงตัวตนของสมญานามชนิดนี้มาก่อน นอกจากครอเกลเอง
แต่ปัจจุบัน พลังดังกล่าวถึงคราวเปลี่ยนมือ
มันสูญเสียผลประโยชน์สำคัญ ที่เคยคิดว่าเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว
แต่แล้วเพราะเหตุใด ครอเกลถึงกำลังความสุขมากกว่าหดหู่ คำตอบคือ เพราะไฟแห่งการต่อสู้กำลังลุกโชติช่วงยิ่งกว่าเดิม
ในซาทิสฟาย ไม่มีระบบใดเป็นรูปธรรมมากไปกว่าระบบเลเวลอีกแล้ว ดังนั้น ตนต้องทวงสมญานามผู้นำกลับคืนให้จงได้
[ภารกิจลับ? ช่วยดยุค? สำเร็จ!]
[จำนวนดยุคที่ท่านช่วยเหลือ : 1 คน]
[เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ]
[รางวัลภารกิจ…]
…
…
ขอบคุณครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😁🙏
ReplyDelete