จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1059
> งั้นหรือ? สุ่มได้ออปชันสูงสุดเลย?
ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์
กริดเก็บเลเวลกับสาวกเทพสงครามในเขตแรกบนเกาะโบราณสถาน
ป่ารกทึบ
สาวกเทพสงครามมิอาจต้านทานการรุมล้อมจากโนเอะ แรนดี้ ทีราเม็ท ภูตแสง และโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ไหว
โดยเฉพาะแรนดี้ บทบาทของเธอโดดเด่นมาก
ยิ่ง ‘ร่างโคลนแห่งป่าลึกลับ’ พัฒนาเลเวล ประสิทธิภาพการคัดลอกก็ยิ่งถูกยกระดับ การคัดลอกเทคนิคดาบกริดแฝงเวทมนตร์ ช่วยให้ปาร์ตี้จัดการอีกฝ่ายได้ง่ายดาย
“พักก่อน”
เมื่อหลอดค่าเรี่ยวแรงแดงก่ำ กริดอัญเชิญโอเวอร์เกียร์คอร์นออกมาช่วยเร่งฟื้นฟู
แผล่บ! แผล่บ!
เมื่อยูนิคอร์นเอาแต่ใจเหลียวซ้ายแลขวาและไม่พบสาวสวยเหมือนทุกครั้ง มันทำสีหน้าคล้ายกับฉุกคิดบางสิ่ง
โอเวอร์เกียร์คอร์นบรรจงเลียแก้มกริดด้วยสีหน้าพะอืดพะอม คล้ายกับถูกบังคับให้จุมพิตฝ่าเท้าแสนสกปรก
โนเอะแสยะยิ้ม
“เจ้านาย โอเวอร์เกียร์คอร์นพูดว่า เจ้านายของฉันช่างเป็นบุรุษน่าสมเพช ไม่มีคนรักเลยหรืออย่างไร? มันเคยคิดว่าโลกนี้คงไม่มีผู้ใดไร้วาสนาแบบตนอีกแล้ว ต้องใช้ชีวิตตามลำพังอย่างน่าสมเพชมาตลอด แต่ปัจจุบันได้รับรู้ว่ายังมีเจ้านายเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม”
แผล่บ! แผล่บ!
โอเวอร์เกียร์คอร์นทำทีเห็นใจกริดขณะพยายามฟื้นฟูเรี่ยวแรงให้เจ้านาย
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจเย้ยหยัน
“แต่ฉันแต่งงานแล้ว คนโสดมีแค่แก”
แผล่บ…
จบสิ้นแล้ว โอเวอร์เกียร์คอร์นก้มหัวหลั่งน้ำตาด้วยสีหน้าเจ็บแปลบ
กริดใช้มือขวาลูบแผงขนของมันอย่างทะนุถนอม ขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายนำเตาหลอมขนาดพกพาออกมาวาง สมาธิของชายหนุ่มกำลังจดจ่ออยู่ข้อความเสียงสนทนา
อีกฝ่ายคือคริส
> แล้วใครคือผู้โชคดีคนนั้น?
> แวนเนอร์
หากไม่นับกริด คริสคือผู้มีอิทธิพลเป็นอันดับหนึ่งภายในเมืองหลวงรองเรย์ดัน ด้วยฐานะเจ้าเมือง มันตัดสินใจจัดแคมเปญใหม่ขึ้นโดยใช้ชื่อว่า ‘อยากได้อะไรให้สร้างขึ้นเอง’
จุดประสงค์เพื่อให้อุตสาหกรรมโรงแปรธาตุเรย์ดันยังพัฒนาต่อไปได้โดยไม่กระทบเศรษฐกิจอาณาจักรมากนัก
หลังจากเงื่อนไขได้รับประสบการณ์เปลี่ยนไปการก้มหน้าทุ่มเงินอาณาจักรผลิตสินค้าด้วยโรงแปรธาตุ ไม่ใช่หนทางถูกต้องอีกต่อไปแล้ว จึงเปลี่ยนเป็นการรณรงค์ขอความร่วมมือแทน
ผลก็คือ แรงเกอร์โอเวอร์เกียร์หลายร้อยหมุนเวียนเดินทางมายังเรย์ดันผ่านอุปกรณ์เคลื่อนย้ายมิติในทุกวัน
จุดประสงค์เพื่อใช้งานระบบแปรธาตุ
บางคนเลือก ‘แปรสภาพโลหะ’ บางคนเลือก ‘สุ่มออปชัน’
แต่แน่นอน ระบบสุ่มออปชันถูกใช้โดยสมาชิกเพียงจำนวนน้อย เนื่องจากมีระยะหน่วงยาวนานถึง 48 ชั่วโมง
ถึงกระนั้น ต่อให้ปราศจากระยะหน่วง ระบบสุ่มออปชันก็คงไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไร
ไอเท็มแต่ละชนิดสามารถบรรจุออปชันได้จำกัดจำนวนครั้ง และหากสุ่มออกมาแย่ มูลค่าของไอเท็มก็จะลดลง
ตัวอย่างชัดเจนคือยารุกต์ ออปชันความเท่ได้สิ้นเปลืองจำนวนครั้งไปอย่างสูญเปล่า นับเป็นความเสียหายใหญ่หลวงหากเกิดขึ้นกับไอเท็มมูลค่าสูง
แต่แล้ววันหนึ่ง มีคนถูกหวยเข้า
แวนเนอร์
มันสุ่มได้ออปชัน ‘เพิ่มทักษะ’ ซึ่งมีโอกาสเพียงน้อยนิด แถมทักษะดังกล่าวยังสอดคล้องกับคลาสหลักเป็นอย่างดี
สำหรับโรงแปรธาตุ ระบบ ‘การผลิต’ จะเพิ่มค่าประสบการณ์ 0.01% หากผลลัพธ์ออกมาเป็นค่าสูงสุด
ส่วนระบบแปรธาตุโลหะจะเพิ่มค่าประสบการณ์ 1% และระบบสุ่มออปชันจะเพิ่มค่าประสบการณ์ 5%
เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์จึงพากันโห่ร้องยินดี
> สุ่มได้ทักษะ… อิจฉาชะมัด
> ท้องไส้ฉันเริ่มปั่นป่วนแล้ว
แต่ไหนแต่ไร หากแวนเนอร์ดวงดีล่ะก็ มันจะโอ้อวดเริ่มเดิมซ้ำไปมาอยู่อย่างนั้น ในกรณีนี้อาจนานเป็นปีเลยทีเดียว
หลังจากหัวเสียได้ไม่นาน กริดเริ่มอมยิ้ม
> อย่างน้อยค่าประสบการณ์โรงแปรธาตุก็เพิ่มขึ้นมาก
> ใช่แล้ว แถมยังมีค่าประสบการณ์จากนายอีก 1% ในทุกรอบ 10 วัน และหากพวกพ้องคนอื่นประสบความสำเร็จในระบบสุ่มอย่างต่อเนื่อง โรงแปรธาตุอาจเพิ่มระดับเร็วกว่ากำหนด
หลังจากโรงแปรธาตุเปลี่ยนระบบ และคริสประกาศแคมเปญใหม่ ความมั่งคั่งของอาณาจักรถูกยกระดับขึ้นทันตาเห็น ไม่ต้องทุ่มเงินไปกับการผลิตโพชั่นอย่างสิ้นเปลืองอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านการเงินได้เกิดกับสมาชิกภายในกิลด์แทน บางคนสุ่มได้ดีก็นับว่าเป็นโชค แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีดวง
ฝ่ายผิดหวังจะเข็ดขยาดและไม่กล้าทุ่มเงินให้โรงแปรธาตุอีก แคมเปญคริสอาจได้ผลในช่วงต้น แต่ระบบสุ่มจะคัดกรองให้ผู้เล่นฐานะปานกลางถอยห่างเมื่อนานวันเข้า
> ผู้เล่นสายป่านสั้นจะไม่ได้รับผลดีจากโรงแปรธาตุ ดังนั้นฉันคิดว่า พวกเราควรจัดสรรงบประมาณอาณาจักรบางส่วน ให้กลุ่มผู้เล่นเหล่านั้นมีโอกาสใช้งานโรงแปรธาตุได้เหมือนคนอื่น
> เข้าใจแล้ว
คริสคือแรงเกอร์ระดับหัวแถวของโลก
จากบรรดาผู้เล่นสองพันล้าน ไม่เพียงเลเวลของมันจะอยู่ในระดับท็อป แต่ยังต่อสู้ได้เก่งกาจ และทักษะบริหารเป็นเลิศ
แถมยังมีบริวารฝีมือเยี่ยมอีกหลายคนคอยรับใช้ข้างกาย โดยเฉพาะกลุ่มเจ็ดกัปตัน
กิลด์ไจแอนท์เดิมนั้นแข็งแกร่งพอจะประสบความสำเร็จบนโลกซาทิสฟายได้ไม่ยาก ดังนั้น การเข้าร่วมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ของคริสจึงกลายเป็นเรื่องฮือฮาใหญ่โตอยู่พักหนึ่ง
แล้วสาเหตุใด บุคคลยิ่งใหญ่เช่นนี้ถึงเลือกติดตามกริดด้วยความจงรักภักดีไปทุกหนแห่ง
เพียงเพราะกริดแข็งแกร่งกว่างั้นหรือ?
ผิดแล้ว มนุษย์ไม่ใช่สัตว์ป่า ไม่ได้เลือกจ่าฝูงเพียงเพราะอีกฝ่ายทรงพลังกว่าตน
คริสชื่นชอบกริดจากอุปนิสัยและจิตใจ
สำหรับคนทั่วไป ยิ่งพวกมันถือครองอำนาจในมือมาก ความเห็นแก่ตัวและโอหังก็ยิ่งเพิ่มเป็นเงาตาม แต่ไม่ใช่กับกริด ชายคนนี้ตรงกันข้าม
ยิ่งกริดเติบใหญ่ เขายิ่งห่วงใยและเอาใจใส่คนรอบกายมากขึ้น หวังให้ทุกคนแข็งแกร่งไปพร้อมกันด้วยใจจริง คริสยินดีติดตามรับใช้คนเช่นนี้ ถือเป็นทัศนคติในฝันสำหรับบุคคลเป็นผู้นำ
“เอาล่ะ ถึงเวลาเริ่มยกใหม่แล้ว”
ดวงตาของกริดลุกโชนอย่างมุ่งมั่น มันหวังจะเป็นผู้เล่นเลเวล 400 คนแรกของโลกโดยเร็ว
หลังจากเก็บโอเวอร์เกียร์คอร์น ชายหนุ่มลุกยืนขึ้นเตรียมลุยต่อ
ทันใดนั้น สาวกเทพสงครามพุ่งออกจากพุ่มไม้และลอบจู่โจมฉับพลัน
ทักษะพุ่งตัวของมันคล้ายคลึงกับแรงเกอร์ระดับท็อปอย่างบูบัต สามารถย่นระยะในพริบตา
เมื่อได้ยินเสียงกิ่งไม้หักพร้อมกับสายลมพุ่งปะทะใบหน้า ถึงตอนนั้นก็สายเกินไปเสียแล้ว ยากจะตอบโต้ให้ทันการ
ชิ้ง—
สาวกเทพสงครามตวัดอาวุธในมือคล่องแคล่ว ดาบโค้งแหลมคมพุ่งตรงเข้าหาลำคอกริดอย่างแม่นยำ
แต่ชายหนุ่มมิได้ขยับตัวตอบโต้
หรือพูดให้ถูกคือ ไม่ต้องถึงมือ…
แกร่ก~ แกร่กแกร่กแกร่ก~
“…!?”
ทันใดนั้น สายตาสาวกเทพสงครามพลันเบนไปหาโครงกระดูกประหลาดสองตน พวกมันกำลังหัวเราะพลางเต้นรำอย่างสนุกสนาน
ดาบโค้งยาวแหลม แต่เดิมเคยมีชะตาต้องทะลวงใส่ลำคอกริด ถูกอำนาจลึกลับเบี่ยงเบนหักเหกลับไปหาโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ด้านข้าง
ฉึก!
ดาบโค้งในมือสาวกเทพสงครามแทงเสียบแผ่นอกสุดกำยำของแวมไพร์ทีราเม็ท
มันกระอักเลือดเพียงมุมปาก แต่มิไม่ได้แยแสความเจ็บปวด พุ่งโถมเข้ากอดรัดสะโพกสาวกเทพสงครามไว้แน่นถนัด
“เนี๊ยวฮ่าฮ่าฮ่า!”
“วิชาดาบกริด·ร่ายรำ”
การโจมตีผสานจากโนเอะและแรนดี้ เปลี่ยนให้สภาพสาวกเทพสงครามกลายเป็นผ้าขี้ริ้ว
มันพยายามดิ้นรนขัดขืนให้หลุดพันธนาการของแวมไพร์ทีราเม็ท
วาบ!
พลัง ‘แสงจ้า’ ของภูตแสงสร้างอาการตาบอดใส่ศัตรูชั่วขณะ
กริดปรากฏตัวด้านหลังสาวกเทพสงครามพร้อมกับลงมือกระหน่ำ ‘ฟันธรรมดา’ ใส่ไม่ยั้ง
1 ดาบ 2 ดาบ 3 ดาบ 5 ดาบ 6 ดาบ…
…9 ดาบ ภายในหนึ่งวินาที
ถุงมือว่องไวของอเล็กซ์มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความเร็วโจมตีสามเท่า เมื่อรวมเข้ากับพลังเหนือมนุษย์ของกริด พลังแท้จริงของถุงมือจึงประจักษ์
แรกเริ่มเดิมที ในฐานะผู้เล่นเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั่วไป ขีดจำกัดการโจมตีธรรมดาของกริดคือหกครั้งต่อวินาที
แต่ปัจจุบันถูกเพิ่มเป็นเก้า
โดยไม่ต้องใช้บัฟหรือร่างมืดช่วย
แค่ก…!
สาวกเทพสงครามคุกเข่าลงพลางกระอักเลือด
ร่างศัตรูถูกเพลิงดำสนิทลุกท่วมต่อเนื่องจนกลายเป็นแสงสีเทาเลือนหายไป แต่กริดมิได้แยแสหันไปเหลียวมอง ชายหนุ่มเลือกกล่าวคำชมเชยกับโนเอะ แรนดี้ ทีราเม็ท ภูตแสง และโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ด้านหลัง
“ประสานงานได้ยอดเยี่ยมมาก”
“หือ? ของแค่นี้ง่ายจะตายไป เมี๊ยว! โนเอะเป็นถึงสัตว์อสูรลำดับหนึ่งแห่งขุมนรก ศัตรูอ่อนแอก็เหมือนกับอาหาร”
“ยิ่งกริดแข็งแกร่ง แรนดี้ก็ยิ่งเก่งตามไปด้วย… สนุกจังเลย”
แกร่ก! แกร่ก!
วิ้ง!
เมื่อได้ยินคำชม โนเอะ แรนดี้ โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ และภูตแสง ทั้งหมดต่างแสดงออกถึงความดีใจ
ยกเว้นทีราเม็ท สีหน้าของมันเรียบเฉย
ทีราเม็ทยังคงไม่เข้าใจตัวเอง เหตุใดแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์อย่างตนถึงยอมสวามิภักดิ์ต่อมนุษย์
กริดเข้าใจหัวอกทีราเม็ท ชายหนุ่มมิได้ต่อว่าอีกฝ่าย ปัญหานี้จะถูกแก้ไขด้วยตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป คงต้องให้เวลากับทีราเม็ทสักหน่อย
‘อยู่ด้วยกันไปเดี๋ยวก็คงเปลี่ยนความคิด’
แกร่ก! แกร่ก!
“พวกแกเลิกเต้นไร้สาระสักที ทำแบบนี้จะเป็นการยั่วยุให้มอนสเตอร์ภายในป่าล้อมโจมตีเราจากทุกทิศ”
จนกว่าระยะหน่วงของทักษะ ‘สุดยอดแปรสภาพโลหะ’ วนกลับมาถึง กริดมีแผนจะเก็บเลเวลต่อไปเรื่อยๆ ให้อัปเป็น 400
***
เมืองแวมไพร์และวิหารกัลกุนอส
จุดเก็บเลเวลล้ำค่าซึ่งถูกผูกขาดโดยอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ทั้งสองดันเจี้ยนมีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป
เมืองแวมไพร์จะมีมอนสเตอร์จำนวนมาก เหมาะสำหรับการอัปเลเวลทักษะ รวมถึงลุ้นให้เครื่องประดับแวมไพร์และโอสถค่าสถานะดรอป
กลับกัน วิหารกัลกุนอสมีจำนวนมอนสเตอร์ไม่มาก แต่แข็งแกร่งและมอบค่าประสบการณ์สูง ไอเท็มดรอปจึงมีจำนวนน้อยกว่า
แรงเกอร์ระดับท็อปของโอเวอร์เกียร์จะเลือกเก็บเลเวลในวิหาร ส่วนแรงเกอร์ระดับกลางถึงล่างจะเก็บเลเวลในเมืองแวมไพร์ ทุกคนเติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคง
“ให้ตายสิ เจ้าพวกนี้เก่งชะมัด แล้วกริดโซโล่สาวกเทพสงครามบนเกาะไหวได้ยังไง?”
ณ วิหารกัลกุนอส
ขณะนั่งลง พีคซอร์ดเก็บดาบยารุกต์เล่มงามเข้าฝัก มันหายใจหอบด้วยสีหน้าสุดอ่อนเพลีย
พีคซอร์ดยังมึนงงไม่หาย
ประหนึ่งเป็นตัวตนจากอีกมิติ เหมือนกับพวกตนไม่ได้เล่นเกมเดียวกับกริด ไม่มีใครอยากเชื่อว่าผู้เล่นสามารถโซโล่เก็บเลเวลบนเกาะโบราณสถานไหวตามลำพัง
แวนเนอร์กล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“สำหรับกริดก็คงไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว ฉันเองก็กำลังหาโอกาสลองเก็บเลเวลบนเกาะบ้างเหมือนกัน”
“นายเนี่ยนะ?”
“อย่าลืมสิ ดาบของฉันเพิ่งแปรธาตุได้ทักษะใหม่เพิ่มเข้ามานะ มันเจ๋งเป้ง คุฮ่าฮ่าฮ่า!”
“แต่นายเพิ่งดื่มโพชั่นเพราะเกือบตายมาไม่ใช่หรือ? แล้วจะเอาอะไรไปไหวบนเกาะ?”
“อะแฮ่ม…”
ยิ่งเลเวลสูง มอนสเตอร์ก็ยิ่งแข็งแกร่งแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะกับสาวกเทพสงครามชั้นใต้ดิน พวกมันสามารถโจมตีได้หนักหน่วง
พีคซอร์ด แวนเนอร์ เรกัส จิสึกะ รวมถึงเหล่าสิบวีรชน ทุกคนจับกลุ่มเก็บเลเวลเพื่อลดความสูญเสียและป้องกันเหตุไม่คาดฝัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเผชิญวิกฤติบ่อยครั้ง
ไอเบลลินและเซ็ดนอส ทั้งสองแข็งแกร่งเป็นรองเพียงสิบวีรชน แต่ในรอบสิบวันที่ผ่านมา พวกมันเผชิญความตายไปแล้วสามครั้ง
หากเหม่อลอยเพียงพริบตาเดียว ความตายจะย่างกรายเข้าหาทันที ส่งผลให้สิบวีรชนพยายามโน้มน้าวสมาชิกกิลด์คนอื่นให้เก็บเลเวลภายในเมืองแวมไพร์
“เฮ่อ… มันยากเพราะไม่มีฮีลเลอร์และคนคอยบัฟให้นี่แหละ”
โดยเฉพาะฮีลเลอร์
ตามธรรมชาติของซาทิสฟาย คลาสฮีลเลอร์ต้องมาจากโบสถ์รีเบคก้าเท่านั้น แต่ด้วยระดับความยากของวิหารกัลกุนอส NPC นักบวชทั่วไปจึงไม่กล้าเดินทางมาเยือน ส่งผลให้สิบวีรชนถูกตัดขาดจากฮีลเลอร์โดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีนี้ ความอดอยากปากแห้งดังกล่าวพลันถูกเติมเต็ม
“ให้พวกเราเข้าร่วมปาร์ตี้ด้วยสิ”
“หือ…?”
ปาร์ตี้เหล่าสิบวีรชนจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ขณะกลุ่มหนึ่งนั่งพัก อีกกลุ่มจะคอยกันมอนสเตอร์ไม่ให้รบกวนพวกพ้อง ถือเป็นการเก็บเลเวลไปในตัว
สายตาของผู้เล่นทั้งสองกลุ่มต่างหันมองไปทางต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง
เจ้าของสมญานาม ‘นักบุญ’ หนึ่งเดียวในโลก
เธอมาด้วยเหตุผลใด? ไม่มีใครในสิบวีรชนเอ่ยปากถาม พวกมันรีบรับน้องสาวกริด ‘รูบี้’ และเซ็กซี่สคูลเกิร์ลเข้าปาร์ตี้อย่างว่องไว
ซู่ววว—
ทุกคนล้วนโหยหาเวทฮีลมาแสนนาน แถมพลังของรูบี้ยังแสดงผลเป็นวงกว้าง สีหน้าของสิบวีรชนพลันกระปรี้กระเปร่าสดชื่นขึ้นมาทันใด
พวกมันไต่ถามกึ่งสับสนกึ่งประหลาดใจ
“เธอมาทำอะไรที่นี่?”
รูบี้และเซ็กซี่สคูลเกิร์ล สองสาวเข้าร่วมกิลด์ขณะยังเรียนชั้นมัธยม ถือเป็นผู้เล่นไม่จริงจังเพียงน้อยคนในกิลด์โอเวอร์เกียร์
ทุกคนเข้าใจได้ มหาวิทยาลัยคือช่วงเวลาสำคัญของชีวิต การเรียนต้องมาก่อน ไม่มีใครตำหนิหากรูบี้และเซ็กซี่สคูลเกิร์ลจะเลเวลต่ำ
สองสาวมักถูกพบตัวในจุดเก็บเลเวลระดับล่างเสมอ นานๆ ครั้งจะเห็นเก็บเลเวลในดันเจี้ยนแวมไพร์บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ภาพคุ้นตา
ดังนั้น การปรากฏตัวในวิหารกัลกุนอสจึงไม่ปรกติเลยสักนิดเดียว
พวกเธอมีเลเวลสูงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
เมื่อเห็นพี่ๆ สิบวีรชนกำลังยืนอึ้ง เยริม หรือเซ็กซี่สคูลเกิร์ล เด็กสาวแสนซนทำนิ้วเป็นสัญลักษณ์ตัว ‘V’ ต่อหน้าทุกคนและกล่าวแนะนำตัว
“สวัสดีค่ะ พวกเราคืออดีตนักศึกษามหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นเกมเมอร์มืออาชีพ”
“…”
ในที่สุด…
นักบุญหญิง ความหวังแห่งอนาคต คลาสซึ่งอาจเป็นฮีลเลอร์อันดับหนึ่งของซาทิสฟาย หลายฝ่ายต่างคำนวณไว้ว่า เซฮีจะมีบทบาทสำคัญกับกิลด์โอเวอร์เกียร์ในอีกสองปีข้างหน้า
แต่ข่าวน่ายินดีกลับมาถึงเร็วกว่ากำหนด
“เยส!!”
แวนเนอร์ส่งเสียงสะใจ
สิบวีรชนคนอื่นต่างต้อนรับสองสาวด้วยสีหน้ายินดีปรีดา
เมื่อได้รับเวทฮีลและบัฟศักดิ์สิทธิ์ สปีดการเก็บเลเวลของพวกมันจึงถูกยกระดับอย่างก้าวกระโดด
***
“ดูนั่นสิ! เขาล่ะ! ไม่ผิดแน่”
“ใช่แล้ว ชาวนาแห่งโอเวอร์เกียร์”
“ดยุคแห่ง… ไม่สิ อดีตดยุคแห่งซาฮารัน!”
“ปิอาโร่!”
ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาเยี่ยมชมเขตฟาร์มพืชผลของไรน์ฮาร์ท
นักท่องเที่ยวหลักหมื่นผ่านไปมาในทุกวัน ทั้งหมดล้วนเป็นผู้เล่นซาทิสฟาย
ด้วยจุดประสงค์เดียวคือ ต้องการพบชาวนาในตำนานอย่างปิอาโร่ตัวเป็นๆ
พวกมันหวังจะได้เห็นความสง่างามของอดีตขุนนางใหญ่แห่งซาฮารัน อดีตมือขวาขององค์จักรพรรดิ บุรุษผู้เคยเปี่ยมมีพลังอำนาจล้นพ้นบนทวีปตะวันตก
ฉากอุปกรณ์ทำฟาร์มคุณภาพสูง พุ่งแหวกอากาศทะลวงผ่านร่างเฟย์ริสอย่างแข็งแกร่งดุดัน ยังคงติดตราตรึงใจผู้คนมิรู้ลืม
“สุดยอด! ปิอาโร่เริ่มขุดหัวมันแล้ว!!”
“อ๊า~ เท่จังเลย~”
ทุกสายตาจับจ้องปิอาโร่ด้วยความรู้สึกนับถือและชื่นชม
ปิอาโร่กลายเป็นฮีโร่ของใครหลายคนไปโดยปริยาย ไม่เพียงกริดหรือสมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์เท่านั้น
หลายฝ่ายต้องการให้ปิอาโร่กลายเป็นมาสคอตของเกม นายกเทศมนตรีเมืองเกษตรกรรมในเกาหลีใต้ ประกาศว่าจะสร้างตัวละครซาทิสฟายเพื่อพบปะปิอาโร่เป็นการส่วนตัว รวมถึงนายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ประเทศแห่งการปลูกข้าว ก็มีข่าวลือว่าจะสร้างด้วยละครในซาทิสฟายด้วยเช่นกัน แต่ข่าวยังไม่ได้รับการยืนยัน
ปิอาโร่รับหน้าที่คุมทั้งด้านกำลังทหารและภาคเกษตรกรรมของอาณาจักร จึงไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่า มันคือบุคคลทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
แต่ดูเหมือนเหล่าคนสำคัญของโลกจะลืมไปว่า หากเพิ่งสร้างตัวละครขึ้นใหม่ จะไม่มีทางพบปิอาโร่ในไรน์ฮาร์ทได้ง่ายดายขนาดนั้น…
“คึคึคึก…”
ออร่ามาสเตอร์ ฮูเร็น ศิษย์เอกคนปัจจุบันของปิอาโร่ มันยืนมองกลุ่มนักท่องเที่ยวพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ
ฮูเร็นกำลังตื่นเต้นเมื่อผู้คนมากมายให้การยอมรับอาจารย์ของตน ตัวมันมีโอกาสได้ใกล้ชิดปิอาโร่มากกว่าใคร ฮูเร็นยืดอกภูมิใจกับสิ่งนี้มาก
ทันใดนั้น นายกเทศมนตรีไรน์ฮาร์ท แร็บบิทเดินเข้ามาใกล้ฮูเร็นพร้อมกับส่งเสียงกระแอม
“แฮ่ม! นายน่ะ”
“หือ? เรียกผมหรือ? มีอะไรให้ช่วยครับ?”
“เอานี่ไป”
“มันฝรั่งสีรุ้ง?”
ฮูเร็นขมวดคิ้ว มันตามความคิดแร็บบิทไม่ทัน
นายกเทศมนตรีปรากฏตัวพร้อมกับถุงบรรจุมันฝรั่งใบใหญ่… เพื่ออะไร?
เมื่อแร็บบิทเห็นอีกฝ่ายฉงน มันอธิบายต่อ
“เอาไปขายนักท่องเที่ยว โอกาสทองแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว”
“…?”
“ขาย. นัก. ท่อง. เที่ยว.”
“…”
“ถ้าเราบอกนักท่องเที่ยวว่า ชาวนาในตำนานเป็นผู้ปลูกมันฝรั่งเหล่านี้ ถึงจะขายแพงกว่าปรกติสักห้าเท่า ไม่สิ สิบเท่า พวกเขาต้องเต็มใจซื้อโดยไม่เกี่ยงแน่!”
“…”
และในวันนี้
…
<หัวข้อ: ฉันเห็นออร่ามาสเตอร์อยู่ในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ >
เขากำลังยืนขายมันฝรั่ง…
ความเห็นของ ᄂampsij*: แบบนี้ฉันก็เล่าได้เหมือนกัน วันก่อนฉันเห็นฮิวรอยกำลังยืนอ่านหนังสือจริยธรรมและวิธีพูดจาไพเราะ เจ๋งไปเลยใช่ไหม? ฮะฮะฮะ!
ยังมีอีกหลายกระทู้ช่วยยืนยันว่าพวกมันได้พบกับฮูเร็นจริง แต่น้อยคนนักจะเชื่อ
***
ณ วังหลวงจักรวรรดิซาฮารัน กรุงไททัน
“เชื่อเราเถอะ อย่าได้ขัดขืน ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าจะเจ็บปวดทรมานมาก”
อีธานกำลังยืนข้างกายเหล่าดยุคภายในห้องคุมขัง มันนำภาชนะบรรจุ ‘แก่นยาธาน’ ออกมาถือและเปิดฝาขวด
จากนั้นก็กรอกเข้าปากทีละคน เศษเสี้ยวพลังของ ‘เทพมาร’ กำลังไหลซึมเข้าไปในทุกอนูร่างกายและวิญญาณดยุคทุกคน
เมฆหมอกดำมืดกำลังปกคลุมจักรวรรดิ
ทีเดียว2ตอนสุดจัดดดด
ReplyDeleteอีธาน ฮันท์
ReplyDeleteเดี๋ยวเมิงจะโดน
ตีนกระต่ายอยู่ใหน
Deletemission impossible😁
Thank😊
ReplyDelete