จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1060



ทุ่งเทเรียส


ตามชื่อของมัน รอบข้างปราศจากสิ่งกีดขวาง


ผู้เล่นสามารถมองเห็นได้กว้างพอประมาณ และสามารถกำจัดมอนสเตอร์จากระยะไกลโดยไม่ถูกมอนสเตอร์ซุ่มโจมตีก่อน


เหล่าจอมเวทจึงพากันเรียกขานทุ่งเทเรียสว่า


‘แดนสวรรค์’


ฝูงมอนสเตอร์ถูกรุมถล่มด้วยเวทมนตร์นานับชนิดจากจอมเวททุกธาตุในปาร์ตี้ ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วินาทีก็มีอันต้องจบชีวิตลง


“ง่ายชะมัด รู้แบบนี้มาตั้งนานแล้ว”


“จอมเวทจะยังไม่ได้เรียนทักษะติดตัว ‘มองข้ามค่าต้านทานเวทมนตร์เป้าหมาย’ ก่อนเลเวล 320 ดังนั้น ถึงฉันแนะนำนายไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะยังสู้กับทหารม้าเกราะเงินไม่ไหวอยู่ดี”


“นั่นสินะ นายพูดถูก ฉันมาทุ่งเทเรียสอย่างเหมาะสมตรงตามช่วงเลเวลแล้ว ลองดูค่าประสบการณ์ดรอปพวกนี้สิ! เราจะกลายเป็นท็อปแรงเกอร์ในอีกไม่ช้าแน่นอน!”


“เป็นไปได้ เนื่องจากท็อปแรงเกอร์หลายคนเสียชีวิตในศึกปราบเฟย์ริส เลเวลพวกมันลดลงจากเดิมมาก หลายคนหยุดนิ่ง ถึงเวลาเฉิดฉายของพวกเราบ้างแล้ว”


“พวกโอเวอร์เกียร์ก็ตายไปไม่น้อยในสงครามกับจักรวรรดิ”


ตามปรกติแล้ว หนึ่งปาร์ตี้มักประกอบด้วยผู้คนจากหลากหลายอาชีพเพื่อความสมดุล และเพื่อช่วยกลบจุดด้อยของกันและกัน


แต่กับทุ่งเทเรียสแล้วไม่ใช่ ปาร์ตี้ของผู้เล่นในบริเวณนี้ล้วนมีเพียงจอมเวท แตกต่างตรงประเภทของธาตุ


ณ ทุ่งกว้างแห่งนี้ มอนสเตอร์เลเวลราว 350 จะปรากฏตัวชุกชุม เกือบทั้งหมดอ่อนแอต่อเวทมนตร์ยกเว้น ‘ทหารม้าเกราะเงิน’


ค่าสถานะของมอนสเตอร์ทุ่งเทเรียสจะเน้นหนักไปทางพลังป้องกันกายภาพและพลังชีวิต ส่งผลให้กลายเป็นอาหารจานโอชะของจอมเวทระดับสาม เพราะพวกมันได้รับสิทธิ์เรียนเวทมนตร์โจมตีรุนแรงแปรผันตามพลังชีวิตศัตรู แถมยังมีทักษะมองข้ามค่าต้านทานเวทมนตร์


บนทุ่งกว้างปราศจากสิ่งกำบัง มอนสเตอร์ไม่มีทางรอดจากเงื้อมมือห่าฝนเวทมนตร์ทำลายล้างจากระยะไกล


บึ้มบึ้ม!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


สามัคคีคือพลัง


ยิ่งจอมเวทฝีมือเก่งกาจได้ยินข่าวลือและเดินทางมายังทุ่งเทเรียสมากเพียงใด ปาร์ตี้ก็ยิ่งจับกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นแข็งแกร่งมากเท่านั้น ส่งผลให้สปีดการเก็บเลเวลเป็นไปอย่างติดปีก


กระดานอันดับแรงเกอร์รวมทุกอาชีพกำลังถูกจอมเวทยึดครองทีละนิด


เหมือนกับพวกมันกำลังฝันไป


ทุ่งเทเรียส แต่เดิมเคยเป็นดินแดนในการปกครองของอาณาจักรโรเทมอน อย่างไรก็ตาม จอมอสูรเฟย์ริสปรากฏตัวขึ้นและกวาดล้างจนกลายเป็นดินแดนรกร้างไร้เจ้าของ ส่งผลให้เหล่าจอมเวทสามารถรุกล้ำได้อย่างอิสระ


ช่างน่าขัน จอมอสูรอาจเป็นฝันร้ายสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ใช่กับจอมเวทแน่นอน พวกมันยินดีปรีดาประหนึ่งสวรรค์ประทานพร


“หือ…?”


ทันใดนั้น จอมเวทบางคนบังเอิญเหลือบเห็นมอนสเตอร์แปลกตา


พวกมันไม่เคยพบมาก่อนจนกระทั่งตอนนี้


หากตาไม่ฝาดไป อีกฝ่ายคืออัศวินความตายทั้งหมดสามตน ออร่าสีม่วงห่อหุ้มร่างกายในปริมาณเข้มข้น


“บอสแม็ป? ทุ่งเทเรียสมีบอสแม็ปด้วยหรือ?”


“ไม่เคยได้ยินมาก่อนเหมือนกัน แต่หากประเมินจากความแข็งแกร่ง มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นบอสแม็ป บางที วัฏจักรการเกิดใหม่ของมันอาจยาวนานมาก พวกเราจึงเพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก”


“โฮ่…”


โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งวัฏจักรเกิดใหม่นาน หมายความว่าบอสตนดังกล่าวจะยิ่งแข็งแกร่ง


และยิ่งบอสโหดเพียงใด ไอเท็มดรอปก็ยิ่งมีมูลค่าสูงมากเท่านั้น!


กึก กึก กึก


จากจุดห่างไกล


เมื่อเห็นอัศวินความตายกำลังย่างกรายเข้าใกล้อย่างเชื่องช้า กลุ่มจอมเวทต่างเล็งเห็นเป็นโอกาสล้ำค่า ดวงตาพวกมันลุกโชนด้วยเปลวเพลิงความละโมบ


เหล่าจอมเวทกว่าร้อยคนรีบกระจายตัวไปรอบทุ่งกว้างเพื่อจัดตำแหน่งซุ่มโจมตี


“เมื่อมันเข้ามาในระยะ ให้ทุกคนกระหน่ำท่าไม้ตายใส่พร้อมกัน!”


“ปาร์ตี้ของเราห้ามงกโพชั่นมานาและโพชั่นบัฟเด็ดขาด! รางวัลอันดับหนึ่งต้องเป็นของพวกเราเท่านั้น!”


“เน้นใช้เวทมนตร์ระเบิด! อัศวินความตายคืออันเดดประเภทหนึ่ง พวกมันมีร่างกายเปราะ!”


ในบางครั้ง ความสบายก็เป็นบ่อเกิดหายนะ


หลายวันที่ผ่านมา กลุ่มปาร์ตี้จอมเวทเก็บเลเวลอย่างสะดวกสบายมาตลอด พวกมันเข่นฆ่ามอนสเตอร์แพ้ทางโดยแทบไม่ต้องออกแรง


เมื่อกำลังมั่นใจ ความพ่ายแพ้จึงไม่มีในหัว


ด้วยเหตุนี้


“…!?”


หลังจากอัศวินความตายเดินเข้ามาในระยะสังหาร ห่าฝนเวทมนตร์รุมถล่มจากทุกทิศทางทันที


ทว่า…


ซู่ววว—


เส้นเวทมนตร์สีรุ้งถูกยิงจากเส้นขอบฟ้าด้านหลังอัศวินความตายทั้งสาม


จอมเวทแต่ละคนได้ปลดปล่อยท่าไม้ตายออกไปแล้ว ไม่มีโอกาสเปลี่ยนแผนหรือกลับตัว


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม


“ฮ…เฮ้ย!”


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เวทมนตร์นับร้อยชนิดกลางอากาศถูกเวทมนตร์สีรุ้งเพียงกลุ่มก้อนเดียวลบล้างในพริบตา


อัศวินความตายทั้งสามเปิดฉากกระโจนใส่กลุ่มจอมเวทใกล้ตัวทันที


แข้งขาพวกมันพลันอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงเมื่อต้องเผชิญบรรยากาศน่าสะพรึงจากมอนสเตอร์อันเดดแสนทรงพลัง


มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง


นามของอัศวินความตายทั้งสามคือ


คาโฮ ดูม และเอมี่


ถูกเขียนด้วยอักษรสีทองอร่าม ไม่แตกต่างไปจากมอนสเตอร์ระดับบอสเลยสักนิด โดยเฉพาะคำนำหน้าชื่อ เหล่าจอมเวทต่างเกิดอาการขวัญผวาเมื่อได้อ่านเต็มสองตา


<อัศวินความตายของแอ็กนัส>


“บ้าน่า…”


ขณะกำลังตะลึง ลิชตนใหม่ปรากฏตัวขึ้น


<มูมัด>


ลิช ทรงพลังอันดับหนึ่งของโลก เคยกดดันให้ราชาโอเวอร์เกียร์ต้องเข้าตาจนมาแล้วในสงครามอาณาจักรเบลโต้


“คิคิคิก! คิฮ่าฮ่าฮ่า!!”


“แอ็กนัส…!”


จบสิ้นแล้ว


ถอยกลับตอนนี้ก็คงไม่ทัน


ทันทีที่อัศวินความตายไล่ฆ่าจอมเวทด้วยดาบและขวานอย่างโหดเหี้ยม แอ็กนัสปรากฏตัวขึ้นด้านหลังลิชมูมัดในจุดห่างไกลออกไป


ขณะหยุดยืนด้านข้างมูมัด ดวงตาสีทองของแอ็กนัสกวาดมองเหล่าจอมเวทรอบทุ่งเทเรียสจนถ้วนทั่ว


พวกมันทุกคนพลันเย็นวาบไปถึงสันหลัง


“ท…ทำไมต้องเป็นเรา!!”


ต่างชั้นกันเกินไป


กลุ่มจอมเวทเริ่มล้มตายทีละคนสองคนอย่างเจ็บปวดทรมาน พวกมันต่างจ้องมองแอ็กนัสด้วยสายตาอาฆาตเคียดแค้น


แอ็กนัสเพียงพ่นลมหายใจบางเบาพลางแสยะยิ้มชั่วร้าย


มันไม่ตอบคำถามของเหล่าจอมเวท


หัวเราะแล้วก็ฆ่า


หัวเราะแล้วก็ฆ่า…


***


ช่วงเวลาสันติสุขมักแสนสั้น


ผ่านไปแล้วสามสัปดาห์ นับตั้งแต่เฟย์ริสถูกปราบลงโดยแกนนำกองทัพโอเวอร์เกียร์


เหล่ามนุษย์ถึงเวลาเผชิญภัยพิบัติครั้งใหม่


『ผมได้รับแจ้งมาว่า แอ็กนัสเริ่มฆ่าล้างบางคนบริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมอีกแล้วครับ!!』


แอ็กนัส หนึ่งบุคคลทรงพลังเท่ากองทัพ


หลังจากกิลด์อิมมอทัลล่มสลาย ข่าวคราวของแอ็กนัสเงียบหายไปจากหน้าสื่ออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งโด่งดังอีกครั้งในคดีฆาตกรรมหมู่สุดโหดเหี้ยมคราวนี้


แอ็กนัสตระเวนไปทั่วจุดเก็บเลเวลสำคัญและสังหารผู้เล่นทุกคนทิ้งจนเหี้ยนเตียน เสาแสงเทาส่องสว่างท่วมท้นท้องฟ้าพร้อมกับเสียงโหยหวนดังระงม


ฆ่าไม่เลือกหน้า


ฆ่าไม่เจาะจง


เป็นระดับความบ้าคลั่งชนิดไม่เคยพบเจอสมัยถูกเรียกด้วยฉายา ‘หมาบ้า’ ด้วยซ้ำ


『ผมรู้สึกคลื่นไส้ทุกครั้งขณะนั่งวิเคราะห์วิดีโอสังหารโหด ความป่าเถื่อนของแอ็กนัสล้ำเส้นไปไกลมากแล้ว เขาเป็นนัก PK นิสัยต่ำทราม อาจเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ซาทิสฟายก็ว่าได้ การมีอยู่ของแอ็กนัสคือหลักฐานแสดงให้เห็นว่า บุคคลจิตใจชั่วร้ายไม่สมควรได้ครอบครองพลังไว้ในมือ 』


『ข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายถึงหูท็อปแรงเกอร์ส่วนใหญ่แล้วครับ ส่งผลให้จุดเก็บเลเวลสำคัญทั่วทวีปมีอันต้องรกร้างชั่วคราว เลเวลของกลุ่มผู้เล่นหัวแถวเริ่มชะลอตัว 』


『ผมคิดว่าพวกเราควรตั้งค่าหัวแอ็กนัสครับ ไม่อย่างนั้น การฆ่าคนไม่เลือกหน้าของแอ็กนัสจะไม่มีจุดจบสิ้น』


『ผมไม่คิดว่าเขาทำไปอย่างไร้เหตุผล แอ็กนัสก็มีเรื่องให้ต้องแก้แค้นอยู่ไม่ใช่หรือครับ? 』


『เรื่องไหนครับ? 』


『ราวหนึ่งเดือนก่อน ผู้คนจำนวนมากเรียกร้องให้แอ็กนัสเสียสละศิลาแห่งชีวิต และเมื่อเขาไม่ยอมทำตามเสียงส่วนใหญ่ คนเหล่านั้นจึงด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง รวมถึงคุกคามแอ็กนัสในช่องทางต่างๆ นานา… ผมพอจะเข้าใจความรู้สึกอยู่บ้างนะครับ』


『นั่นคือข้ออ้างสำหรับการกระทำแสนต่ำทรามเช่นนี้หรือ? ไม่ใช่ความคิดของคนสติดีแน่! ไม่มีทาง! แอ็กนัสเป็นพวกวิกลจริต! อย่าพยายามออกตัวปกป้องแทนจะดีกว่า』


『ก่อนจะกล่าวหาว่าแอ็กนัสไร้เหตุผล พวกเราควรพยายามทำความเข้าใจเขาก่อน』


『แต่แอ็กนัสเป็นพวกวิกลจริต คุณพยายามทำความเข้าใจคนวิกลจริตจริงหรือ? มีแต่คนวิกลจริตด้วยกันเท่านั้นจะเข้าใจกันได้!』


『คุณพูดรุนแรงเกินไปแล้ว』


แอ็กนัส แอ็กนัส แอ็กนัส


ข่าวเฟย์ริสเคยกระจายเต็มโลกอินเทอร์เน็ตฉันใด ปัจจุบันถูกแทนด้วยข่าวแอ็กนัสในลักษณะเดียวกันฉันนั้น


สถานีทั่วโลกต่างนำเสนอข่าวสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยมและไม่เลือกหน้าของแอ็กนัส บ้างตำหนิติเตียน แต่บ้างก็พยายามทำความเข้าใจ


แน่นอน ฝ่ายเข้าใจมีเพียงส่วนน้อย


หากยอมรับความชอบธรรมของแอ็กนัส หมายความว่าพวกมันก็ต้องยอมรับความผิดในอดีตด้วย


ความผิดผู้อื่นใหญ่เท่าขุนเขา


ความผิดตัวเราเล็กเท่าเส้นผม


และคนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้แน่นอน ว่าการลงมือสังหารหมู่คือเรื่องถูกต้องเหมาะสมแล้ว


“ลอเอล นายจะทำยังไงต่อ?”


ณ ปราสาทไรน์ฮาร์ท อาณาจักรโอเวอร์เกียร์


จิสึกะเดินเข้าไปในห้องทำงานลอเอลพร้อมกับแผ่นกระดาษ


เป็นจดหมายขอความร่วมมือ ท้ายกระดาษมีตราประทับจากบรรดาหัวหน้ากิลด์ใหญ่ทั่วทวีปตะวันตก


26 กิลด์ใหญ่ต้องการให้โอเวอร์เกียร์เข้าร่วมพันธมิตร


พวกมันย่อมทราบเหตุการณ์แอ็กนัสหักหลังโอเวอร์เกียร์ในลานประหาร หลายฝ่ายจึงมั่นใจว่ากริดจะตอบตกลงเข้าร่วมพันธมิตรล่าค่าหัว


“26 กิลด์ใหญ่ต่างมีคำสั่งล่าตัวแอ็กนัสอย่างเอาเป็นเอาตาย… หมอนั่นคงเคลื่อนไหวไม่สะดวกไปอีกสักพัก”


“พวกมันหยุดแอ็กนัสไม่อยู่หรอก ชายคนนั้นไม่ได้บ้าคลั่ง แต่ทุกการกระทำถูกวางแผนล่วงหน้าเสมอ”


“เพราะยังไม่มี NPC ถูกฆ่าเลยใช่ไหม?”


“ถูกต้อง แอ็กนัสไม่ใช่หมาบ้า มันไม่ได้ไล่ฆ่าอย่างเสียสติ คงทราบแล้วว่าการสังหาร NPC จะทำให้ตนเองตกเป็นอาชญากร มันจึงไม่กระทำผิดซ้ำสอง แผนแก้แค้นคราวนี้ไม่ธรรมดา เกิดขึ้นอย่างแยบยลและถูกออกแบบเป็นอย่างดี ต้องมีเบื้องหลังซ่อนอยู่แน่”


“แก้แค้น…”


จะใช่การแก้แค้นธรรมดาจริงหรือ?


จากเหตุการณ์อิมมอทัล ลอเอลเริ่มตระหนักถึงความฉลาดเป็นกรดของแอ็กนัส


ชายคนนี้พยายามสังหารหมู่ผู้คนจำนวนมากโดยสวมหน้ากาก ‘แก้แค้น’ บังหน้า


‘ต้องมีเบื้องหลังแน่… เช่นยิ่งฆ่าคน พลังของมันจะเพิ่มขึ้น’


ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามมองคลาสผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลเป็นหมอผีธรรมดาเด็ดขาด ต้องมีภารกิจหรือเงื่อนไขลับซ่อนอยู่แน่


บาเอลเป็นจอมอสูรลำดับหนึ่ง หน้าที่ของมันคือการยึดครองโลกมนุษย์กึ่งกลาง


อาจใช้หลักการเดียวกับจอมอสูรทั่วไป


บูชายัญดวงวิญญาณ…?


ขณะลอเอลกำลังใช้ความคิด จิสึกะพูดขึ้น


“พวกเราควรปฏิเสธ”


“ปฏิเสธ?”


สีหน้าลอเอลค่อนข้างประหลาดใจ


จิสึกะคืออดีตหัวหน้าเซดากาห์ กิลด์แสนทะเยอทะยาน หวังจะกลายเป็นท้องฟ้าของซาทิสฟายในสักวัน ไม่แปลกหากจะห่วงภาพลักษณ์ของตัวเอง


การเข้าร่วมแผนล่าแอ็กนัสของ 26 กิลด์จะช่วยสร้างชื่อเสียงให้โอเวอร์เกียร์ได้มาก แถมยังได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนหลายฝ่ายล้นหลาม


แล้วเหตุใดถึงต้องการปฏิเสธ?


“ถึงแอ็กนัสจะไม่แทรกแซงในสงครามหุบเขากับเฟย์ริส แต่มันเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีเราก่อนไม่ผิดแน่ ผู้คนทั่วโลกล้วนประจักษ์ หากทางเราไม่ลงโทษแอ็กนัสเสียบ้าง จะไม่ถูกรุมตำหนิจากสาธารณะเอาหรือ?”


“กริดนำกองทัพปราบจอมอสูรเฟย์ริสและช่วยทวีปตะวันตกไว้ หากถูกรุมตำหนิเพียงเพราะไม่ร่วมมือล่าตัวแอ็กนัส แบบนี้สมเหตุสมผลแล้วหรือ? ถ้ามีใครคิดสั้นทำเช่นนั้น พวกมันคงมีสติปัญญาไม่ต่างจากลิงค่าง”


“…อ่านเกมขาดเหมือนกันนี่”


“ฉันไม่ใช่หัวหน้ากิลด์เซดากาห์อีกแล้ว ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ ไม่ต้องสนใจความคิดของส่วนรวม อยากทำอะไรก็ทำ เร่งพัฒนาตัวเองให้รวดเร็วกว่าใคร”


“…”


“ลอเอล ความรู้สึกฉันบอกว่า นายเองก็ไม่ต้องการเข้าร่วมทีมล่าแอ็กนัสใช่ไหม? ดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องฝืน”


“เธอรู้ได้ยังไง?”


“แค่มองดูก็รู้ พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหน ลืมไปแล้วหรือไง?”


“…”


ใบหน้าลอเอลเริ่มแดงก่ำ


เริ่มต้นจากมีผลประโยชน์ร่วมกัน จนกลายเป็นพวกพ้องคอยร่วมทุกข์ร่วมสุขในสถานการณ์ยากลำบาก


ด้วยตำแหน่งภายในกิลด์ มีน้อยคนนักจะกล้าพูดแบบนี้ตรงๆ กับลอเอล สีหน้าท่าทางของมันจึงกระอักกระอ่วน


“ขี้อายจังน้า~”


จิสึกะเดินเข้าไปใกล้และใช้มือลูบผมสีเงินอย่างทะนุถนอม เธอชอบทำกับกริดเช่นนี้บ่อยๆ เพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลายตัวเอง


ลอเอลยิ้ม


“…เข้าใจแล้ว ขอพูดตามตรง ฉันมีแผนจะฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ครั้งนี้ วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนกองทัพแอ็กนัสอย่างละเอียด คงปล่อยให้จบลงโดยเร็วไม่ได้”


“ไม่เป็นศัตรูสินะ”


“ถูกต้อง ฉันคิดเสมอว่า ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคือคลาสอันดับหนึ่งของซาทิสฟาย”


“แล้วถ้าฝ่ายเราถูกโจมตีก่อน?”


“ฉันเคยบอกไปแล้วว่า แผนการของแอ็กนัสถูกวางไว้อย่างรอบคอบ หมอนั่นคงไม่คิดสั้นหาเรื่องกริดแน่ มีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก ถึงจะหลงใหลการต่อสู้และความสนุก แต่แอ็กนัสรู้จักแยกแยะสถานการณ์ ดังนั้น หากเราเข้าร่วมกับ 26 กิลด์ ด้วยธรรมชาติของมัน มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดอารมณ์เคียดแค้นและลอบโจมตีอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ แบบนั้นจะส่งผลเสียต่อเรามากกว่า”


“เห็นด้วย และขอเสริมอีกหนึ่งเรื่อง ลึกๆ แล้วฉันเชื่อว่า นิสัยของแอ็กนัสสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในสักวัน”


ทุกคนยังไม่ลืม แอ็กนัสเคยสร้างบุญคุณใหญ่หลวงกับกริดไว้ โดยการปกป้องลอร์ดและไอรีนในสงครามวาติกัน


นั่นอาจเป็นตัวตนที่แท้จริงของชายคนนั้น…


ภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน จิสึกะเล็งเห็นว่าการจับตามองห่างๆ คือทางเลือกฉลาดกว่า


คงไม่ดีนักหากทำให้แอ็กนัสกลายเป็นศัตรูขณะอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังฟื้นฟูตัวเอง


ลอเอลก็คิดแบบเดียวกัน


“พวกเราจะไม่เข้าร่วมพันธมิตร”


มหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์โยนจดหมายขอความร่วมมือลงถังขยะ


จิสึกะเห็นดังนั้นจึงผ่อนคลาย


เธอมักหาโอกาสแบ่งเบาภาระของลอเอลอยู่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้สุดยอดมันสมองของโอเวอร์เกียร์ต้องทำงานหนักจนกลายเป็นบ้าเข้าสักวัน


สิ่งนี้เรียกว่ามิตรภาพ


กิลด์โอเวอร์เกียร์พัฒนาตัวเองอย่างแข็งแกร่งมั่นคง โดยมีรากฐานมาจากสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของผู้คนภายใน


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,449
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มาแว้ว อย่างรวดเร็ว

    ReplyDelete
  2. "นิสัยของแอ็ก​นัส​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​ได้ในสักวัน​"
    ผมก็เชื่อเช่นนั้น​😊

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00