จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1062
“ให้ตายสิ…”
เลเวล 398 และ 399
กริดเคยคิดมาตลอดว่า ค่าประสบการณ์ที่ใช้อัปเลเวลถัดไปคงสูงกว่าเดิมสักสองสามเท่า
ทว่าตอนนี้ต้องเปลี่ยนความเข้าใจใหม่หมด
ไม่ใช่สอง… แต่ราวสิบเท่าเห็นจะได้
15 วันหลังจากหมกตัวอยู่บนเกาะเทพสงคราม หลอดค่าประสบการณ์แทบไม่กระดิก
โดยเฉพาะหลังจากแวะโรงแปรธาตุเพื่อใช้พลังเฟย์ริส ‘สุดยอดแปรสภาพ’ กริดเก็บค่าประสบการณ์เพิ่มได้เพียง 0.09% เท่านั้น
ไม่ปรกติเลยสักนิดหากคำนวณว่าเกาะเทพสงครามคือจุดเก็บเลเวลอันดับหนึ่งในเวลานี้
‘ขนาดเราได้รับค่าประสบการณ์ดรอปจากเฟย์ริสมาจำนวนหนึ่งแล้ว… ไม่คิดจะให้ผู้เล่นเลเวลอัปถึง 400 เลยหรือไง?’
ไม่ใช่ความโอหัง แต่กริดมั่นใจในพลังเก็บเลเวลของตน ชายตามองไปทั่วโลก มีผู้เล่นเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถเก็บเลเวลด้วยสปีดเทียบเท่าตน
แอ็กนัสและครอเกล
เทียบกับแรงเกอร์ธรรมดา ต่อให้เป็นหัวแถวของโลก กริดก็ยังอัปเลเวลได้ไวกว่าพวกมันหลายเท่า
เช่นนั้นแล้ว ผู้เล่นทั่วไปจะข้ามผ่านกำแพงชื่อว่าเลเวล 399 ได้อย่างไร?
กริดมองว่ายากมาก
‘หนึ่งปีหลังจากนี้ เลเวล 399 จะมอบความรู้สึกเหมือนกับเลเวลตัน…’
อันดับแรงเกอร์หัวแถวจะมีแต่ 399 เต็มพรืดไปหมดราว 50~100 ลำดับ ขึ้นอยู่กับ % EXP
กริดจึงตระหนักถึงความสำคัญของภารกิจมอบเลเวลและเปอร์เซ็นต์ค่าประสบการณ์เหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อลองย้อนนึกดู ระบบ ‘เลเวลติดลบ’ สมัยเพิ่งกลายเป็นผู้สืบทอดแพ็กม่าได้ไม่นานนับว่ามีมูลค่าอย่างมากในเชิงแต้มสถานะ
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
ชายหนุ่มกำลังหงุดหงิด มันร้อนรนอยากอัปเลเวลให้ถึง 400 ก่อนใคร
และยิ่งหัวเสียเมื่อจินตนาการว่า เจ้าหน้าที่ของเกมกำลังรับชมภาพตนกระเสือกกระสนเก็บเลเวลอย่างยากลำบาก ขณะพวกมันนั่งกินไก่ทอดสบายใจเฉิบ
‘…เราจินตนาการได้แม้กระทั่งฉากพวกมันใช้ปากฉีกน่องไก่’
ทันใดนั้น ข้อความเสียงถูกส่งมาหากริดซึ่งกำลังยืนร่างกายสั่นเทาด้วยความโมโห
ด้วยพรจากเทพสงคราม ระบบสื่อสารรอบตัวชายหนุ่มจึงสามารถทำงานได้ตามปรกติบนเกาะ
> ฝ่าบาทกริด! มีคนขอให้ผมช่วยทำภารกิจ!
> งั้นหรือ? ดีใจด้วย
> ฝ่าบาทเองก็เข้าร่วมภารกิจนี้ได้เหมือนกัน!
> ฉันด้วยหรือ?
ภารกิจร่วมสินะ
กริดเริ่มให้ความสนใจข้อความจากโค้ก มันไม่แยแสรายละเอียดภารกิจแม้แต่น้อย คำถามแรกคือรางวัลตอบแทน
ถ้าช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ตัวละครแบบเป็นเปอร์เซ็นต์ ตนจะเข้าร่วมทันทีโดยไม่สนใจเนื้อหา
> ของรางวัลมีอะไรบ้าง
> หนังสือทักษะเกรดยูนีค!
โค้กตะโกนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
โอกาสสุดหายากกับการครอบครองทักษะเกรดยูนีคฟรี!
ทุกคลาสล้วนมีข้อจำกัดด้านจำนวนทักษะ ด้วยเหตุนี้ ทักษะนอกคลาสจึงมีมูลค่ามหาศาล
โค้กยินดีราวกับอยู่ในความฝัน และคิดว่ากริดก็คงรู้สึกไม่ต่างกันนัก
ทว่าคำตอบจากอีกฝ่ายกลับตรงข้าม
> แค่นี้หรือ?
> อ๊ะ! จริงสิ ยังมีสมญานามใหม่กับค่าความสัมพันธ์ NPC ด้วยครับ!
> …
จากการสำรวจในหมู่แรงเกอร์โอเวอร์เกียร์ ผู้เล่นระดับสูงจะมีสมญานามเฉลี่ย 12 ชนิดต่อคน
แต่กริดมีเกินกว่าสามสิบ และส่วนมากเป็นสมญานามสุดหายากซึ่งส่งผลต่อตัวละครในหลายด้าน
ไม่มีสมญานามใดทำให้มันตื่นเต้นได้อีกแล้ว
การเพิ่มค่าความสัมพันธ์ NPC ก็ไม่เลว แต่ก็ไม่ดึงดูดมากพอจะยอมให้ตนสละเวลาเก็บเลเวล
> ค่าความสัมพันธ์กับใครเพิ่มขึ้น?
> ผมเองก็อยากทราบ…
> โค้ก นายก็ไม่ใช่เด็กแล้ว คิดว่าฉันว่างมากนักหรือ ส่งข้อความมาหาด้วยเรื่องแค่นี้…
> แล้วก็มีเลเวลอัปด้วยครับ!
> …ลูกค้าของพวกเราอยู่ไหน?
***
“น่าสงสัยเกินไป…”
ณ วังหลวง กรุงไรน์ฮาร์ท
ลอเอลกำลังแสดงสีหน้าเคลือบแคลง
“มีใครหน้าไหนโง่พอจะชักชวนคนไม่รู้จักทำภารกิจลับแสนสำคัญบ้าง? 99% คงหนีไม่พ้นการอำเพื่อความสนุก หรือไม่ก็มีกับดักรออยู่”
“เลซี่การ์ดอยู่ในแวดวงอินเทอร์เน็ตมานานกว่าสิบห้าปีแล้วนะครับ เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้อัศวินยุคกลาง และเป็นคนสำคัญในคอมมิวนิตี้เกียรติแห่งอัศวิน”
“โค้ก โลกอินเทอร์เน็ตอันตรายกว่าที่นายรู้จักมาก แล้วคอมมิวนิตี้เกียรติแห่งอัศวินอะไรนั่นโด่งดังนักหรือ? เวลาสิบห้าปีไม่ได้นานพอจะมอบความน่าเชื่อถือได้หรอกนะ”
“ดังพอสมควรครับ อาจเป็นชุมนุมใหญ่ที่สุดในวงการอัศวินยุคกลาง”
“เป็นสถานที่ซึ่งบุคคลน่ารังเกียจมารวมตัวกันสิไม่ว่า นายรู้อะไรไหม อัศวินยุคกลางคือวายร้ายตัวจริงของประวัติศาสตร์โลก พวกมันใช้ดาบฆ่าฟันมนุษย์ด้วยกันเองโดยอ้างทำไปเพราะความถูกต้อง ทุกถ้อยคำที่พ่นจากปากล้วนเป็นวลีสุดโอหังและยกหางตัวเอง”
“ท่านลอเอลพูดเกินไปแล้ว!”
“ฉันไม่ได้หมายถึงผู้เล่นอัศวินในซาทิสฟายอย่างนาย แต่หมายถึงอัศวินยุคกลาง นายลองศึกษาประวัติศาสตร์โลกให้ดีก่อนมาเถียงฉัน”
“แล้วคุณหมายถึงจู๊ดกับเซอร์เมอร์เซเดสด้วยหรือ? พวกเขาเป็นอัศวินที่มีเกียรติ!!”
“พอได้แล้ว หยุดทั้งสองคน”
กริดซึ่งฟังมาสักพัก มันปรามบรรยากาศ
“ลอเอล ฉันเข้าใจว่านายเป็นห่วงพวกเรา แต่ข้อสงสัยของนายอาจไม่จริงเสมอไป…
“มีใครหน้าไหนโง่พอจะชักชวนคนไม่รู้จักทำภารกิจลับแสนสำคัญบ้าง… ใช่ไหม? ขอตอบว่ามีแน่นอน โดยเฉพาะคนไร้เพื่อน”
“…”
นายคงไม่เข้าใจความรู้สึกนั้น…
กริดเคยไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว มันจึงเข้าใจความรู้สึกลึกๆ ของเลซี่การ์ด
“ถ้าไม่มีเพื่อนเลยสักคน แต่ภารกิจยอมให้ผู้เล่นอื่นช่วยได้สองคน เป็นนายจะทำอย่างไร? …คงต้องพึ่งพาเพื่อนในอินเทอร์เน็ตใช่ไหม?”
“…งั้นมั้ง”
“รีบติดต่อไปก็สิ้นเรื่อง พวกเราจะได้ทราบกันสักทีว่าภารกิจเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
“แต่ก็มีโอกาสเป็นกับดัก… ระวังตัวด้วย”
“ฉันจะยกเลิกทันทีหากพบความน่าสงสัยแม้เพียงนิดเดียว”
“ตกลง… ก่อนส่งคำขอเพิ่มเพื่อน พวกนายเปิดแสดงเลเวลและกิลด์ไว้ก่อน เป็นนัยบอกให้อีกฝ่ายแสดงตัวตนออกมาเช่นกัน”
เป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ดีว่าทางนั้นจะมอบความจริงใจกลับคืนมาหรือไม่
กริดพยักหน้าพร้อมกับส่งคำขอเพิ่มเพื่อนไปยังผู้เล่นไอดี ‘เลซี่#3’
#3 หมายถึงการสร้างตัวละครชื่อ ‘เลซี่’ เป็นคนที่สามของโลก
จากผู้เล่นกว่าสองพันล้าน ย่อมมีเลซี่นับพันนับหมื่นตัวละคร หมายความว่าลำดับสามต้องเริ่มเล่นนับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว
ทันใดนั้น
ชื่อ : เลซี่
เลเวล : 363
กิลด์ : ไม่มี
“ไฮแรงค์เลซี่…!”
หลังจากเห็นรายละเอียดตัวละคร โค้กอุทานด้วยสีหน้าตกใจ ฝั่งลอเอลก็แสดงอาการประหลาดใจพอสมควร
มีเพียงกริดกำลังงุนงง
“ใครกัน? ไม่เห็นรู้จัก”
“เป็นแรงเกอร์ที่ติดท็อป 1,000 มาตลอดห้าปีเต็ม ไม่เคยเปิดเผยตัวตนหรือใบหน้า ไม่เคยปรากฏตัวกับสาธารณะ ไม่เคยมีข่าวร่วมกิลด์ใด ไม่เคยร่วมในเหตุการณ์สำคัญของเกม…
“แต่รักษาอันดับได้อย่างเหนียวแน่น”
“ห้าปี…?”
บนโลกซึ่งมีตัวละครกว่าสองพันล้านแก่งแย่งชิงดี อันดับท็อป 1,000 ยากจะรั้งรักษาไว้มั่นคง
รายชื่อมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ คลื่นลูกใหม่แทรกแทนคลื่นลูกเก่าซึ่งหมดไฟ คนรวยเอาชนะคนขยันด้วยความมั่งคั่งจากโลกภายนอก
หากไม่ใช่อัจฉริยะโดดเด่นอย่างครอเกล หรือกลุ่มแรงเกอร์รากฐานมั่นคงและมีอาณาจักรสนับสนุนอย่างโอเวอร์เกียร์ ถ้าสมาธิไม่มั่นคงมากพอ การร่วงหล่นของอันดับคือเหตุการณ์ปรกติ
การปราศจากกิลด์แต่ยังรักษาอันดับท็อปหนึ่งพันไว้ได้ตลอดห้าปี มีแค่ฝีมือยอดเยี่ยมคงไม่พอ
“และที่สำคัญ… เลซี่เป็นชาวเกาหลี”
โค้กเล่าอย่างตื่นเต้น คล้ายกับมันชื่นชมเลซี่มานานแล้ว
“คราวหน้าคราวหลังต้องแจ้งให้ฉันทราบก่อน ถึงอีกฝ่ายจะเคยเป็นคนดี แต่พวกเราไม่มีทางทราบว่าเป็นกับดักหรือไม่”
***
จักรวรรดิซาฮารัน กรุงไททัน
หลังจากกริดและโค้กลอบพบเลซี่ในจุดนัดหมาย ทั้งสองรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย
พวกมันไม่คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึงอัศวินประจำตัวขององค์ชายสอง ดูรันดัล!
การจะเป็นอัศวินหลวงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องสั่งสมความสำเร็จมานับไม่ถ้วน โดยเฉพาะอัศวินประจำตัวของเชื้อพระวงศ์จักรวรรดิ
“ตอนแรกผมลังเล… แต่เพิ่งนึกได้ว่าคุณกริดมีความสัมพันธ์อันดีกับท่านดยุค”
เลซี่พูดในสิ่งที่คิดอย่างซื่อตรง
ภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงจักรวรรดิ มันลังเลว่าตนควรพึ่งพาความช่วยเหลือจากอาณาจักรคู่สงครามหรือไม่
แต่ความกังวลคงอยู่ไม่นาน
ย้อนกลับไปขณะสงครามเฟย์ริสถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลก กริดปรากฏตัวพร้อมสามดยุคและช่วยกันทำศึกเอาชนะจอมอสูรมาได้
“นี่มัน… เรื่องใหญ่…”
หลังจากอ่านรายละเอียดภารกิจที่เลซี่แชร์มาให้อย่างถี่ถ้วน สีหน้าของกริดพลันดำมืด
สามดยุค บุคคลซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างซาฮารันและโอเวอร์เกียร์ กลับตกอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วงโดยไม่ทราบความเป็นความตาย
ในกรณีเลวร้าย จักรพรรดิอาจไม่ต้องการสานสัมพันธ์ต่อโอเวอร์เกียร์ จึงมองว่าดยุคทั้งสามมีเจตนาเป็นกบฏบ้านเมือง
เลซี่เริ่มผ่อนคลาย
“ก่อนดยุคจะกลับถึงกรุงไททันไม่กี่วัน องค์จักรพรรดิเสด็จออกไปประพาสนอกเมืองหลวงเสียก่อน จนบัดนี้ยังไม่ถึงเวลากลับ ดังนั้นผู้อยู่เบื้องหลังไม่ใช่พระองค์แน่ บุคคลน่าสงสัยเพียงหนึ่งเดียวคือองค์ชายสี่ อีธาน”
“หืม…”
อีธาน
บุตรแห่งแมรี่ จักรพรรดินีโฉดผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก่อกบฏของปิอาโร่และอัสโมเฟลโดยใช้แก่นยาธานล้างสมอง
กริดจงเกลียดจงชังหล่อนมาก
‘ทั้งสามประสบเคราะห์ร้ายเพราะเราสินะ’
การปรากฏตัวของปิอาโร่ไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะฝั่งแมรี่ที่คิดว่าชายคนนั้นตายไปแล้ว
อีธานคงสัมผัสถึงอันตราย จึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลมในจังหวะองค์จักรพรรดิเสด็จประพาส
‘และถ้ามีแก่นยาธานระยำนั่นมาเกี่ยวข้องอีก เหตุการณ์จะยิ่งยุ่งเหยิงไปกันใหญ่’
สำหรับกริดแล้ว…
‘ไอเท็มหัวค*ยที่สุดของซาทิสฟายคือแก่นยาธานไม่ผิดแน่ ความฉิบหายในอดีตเกือบทั้งหมดล้วนมีแก่นเหี้*นี่มาเอี่ยวเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอัสโมเฟลหรือเผ่าเอลฟ์’
ในเมื่อแมรี่มีสายสัมพันธ์กับวิหารยาธาน ไม่แปลกหากอีธานจะมีแก่นยาธานในครอบครอง
ต้องเร่งมือแล้ว
ยิ่งปล่อยไว้นาน แก่นยาธานก็ยิ่งกัดกร่อนจิตใจสามดยุคเหมือนกับอัสโมเฟลสมัยอดีต
“เริ่มลุยคุกนรกกันเถอะ”
ตอนนี้รางวัลภารกิจไม่อยู่ในหัวกริดอีกแล้ว
ด้วยภาระหน้าที่ของกษัตริย์แห่งโอเวอร์เกียร์ ตัวมันจำเป็นต้องรักษาชีวิตดยุคทั้งสามเพื่ออนาคตอันสดใสของอาณาจักร
โอกาสสร้างความสัมพันธ์ระดับนี้มีไม่บ่อยนัก และกริดไม่ต้องการให้ความเหนื่อยยากของตนกลายเป็นหมัน
“ฉันต้องช่วยดยุคทั้งสามก่อนสายเกินแก้”
“แต่ภารกิจของพวกเราไม่ใช่การช่วยนักโทษนะครับ… มีเพียงสำรวจดันเจี้ยนบางส่วนและยืนยันรายชื่อนักโทษเท่านั้น”
“การช่วยเหลือนักโทษก็ถือเป็นการยืนยันรายชื่อนักโทษได้เช่นกัน… ฉันพูดถูกไหม?”
“…”
เลซี่เริ่มหรี่ตาลง
บนโลกอินเทอร์เน็ตมีบทความมากมายเขียนถึงกริดว่า เบื้องหลังความสำเร็จของชายคนนี้ไม่ได้มาจากไอเท็มหรือคลาส หากแต่เป็น ‘พลังดึงดูด NPC’ อันน่าทึ่งและไม่มีใครเหมือน
เลซี่เคยคิดมาตลอดว่า ถ้อยคำสรรเสริญคงเกินจริงไปมาก สื่อมักเยินยอดาราดังเกินจำเป็นเสมอ ไม่ว่าจะวงการใด และกรณีของกริดคงไม่ต่างกัน
แต่นั่นกลับไม่จริงเลย
กริดยอมเสี่ยงอันตรายเพียงเพราะมิตรภาพกับ NPC ซึ่งไม่มีตัวตนในโลกปรกติ
ดยุคทั้งสามคนเป็นขุนนางของทัพศัตรู ในมุมมองคนทั่วไป ต่อให้สนิทสนมกัน แต่ความตายของสามดยุคนั้นมีประโยชน์ต่อกริดในทางอ้อม
อย่างไรก็ตาม กริดไม่ได้หวังเช่นนั้น เขามองมิตรภาพระหว่างพวกพ้องเป็นสิ่งสวยงาม เหมือนกับพระเอกในภาพยนตร์หรือนิเมเรื่องดัง
‘เพราะแบบนี้สินะ… อัจฉริยะของโลกมากมายจึงรุมล้อมถวายตัวรับใช้เขา’
เลซี่ชำเลืองมองโค้ก เด็กหนุ่มอัจฉริยะรุ่นใหม่ซึ่งกลายเป็นดาราดังของโลกในงานแข่งซาทิสฟายปีล่าสุด
“ไม่มีปัญหาครับ หากเราช่วยเหลือท่านดยุคออกมาได้ เจ้านายของผมคงดีใจเช่นกัน”
***
คุกใต้ดินซึ่งกล่าวกันว่าเลวร้ายที่สุดของจักรวรรดิซาฮารัน ‘คุกนรก’ ดินแดนเบื้องล่างใต้เมืองหลวงแห่งนี้มีอาณาบริเวณกว้างขวางและซับซ้อนมาก
ใหญ่ถึงขนาด หากมีอุกกาบาตตกใส่คุกนรก แผ่นดินทวีปตะวันตกจะถูกแบ่งออกเป็นสองซีกเลยทีเดียว
และด้วยความไร้ก้นบึ้งของมัน นักโทษต้องเผชิญกับความเงียบงันสัมบูรณ์ ไม่ปรากฏเสียงอื่นใดนอกจากจังหวะบีบเต้นของหัวใจตัวเอง
“ทางเข้าออกไม่จำเป็นต้องมีทหารเฝ้ายามด้านนอก เพราะหากไม่ทราบเส้นทาง ไม่เคยมีผู้ใดได้กลับออกมาแม้แต่คนเดียว”
“ดินแดนกว้างใหญ่ที่มิดมืดจนมองไม่เห็นแม้แต่คนใกล้ตัว แค่คิดก็แข้งขาสั่นแล้ว”
โค้กเริ่มสั่นเทา
นั่นไม่ใช่มุกตลกคือคำเปรียบเปรย แต่ร่างกายมันกำลังระริกอย่างหยุดไม่อยู่
กริดตบหลังเสียงดัง
“ใจสู้หน่อย ฉันไม่อยากพาตัวถ่วงเข้าไปหรอกนะ”
อันที่จริง สัญชาตญาณของ ‘เหนือมนุษย์’ ในตัวกริดได้ส่งเสียงเตือนนานแล้ว
[ท่านสัมผัสถึงอันตราย]
[ทุกการกระทำต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวด]
เรียกพวกพ้องมาสมทบดีไหม?
ข้อความระบบอาจทำให้คนทั่วไปเริ่มตื่นตระหนก แต่สำหรับกริด มันครุ่นคิดอย่างเยือกเย็นและไม่ลงมือผลีผลาม
ภารกิจสามคน
การเพิ่มจำนวนทีมสำรวจอาจขัดต่อความต้องการของระบบจนเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น
“มีข่าวลือว่าคุกนรกคือสะดือของโลก เป็นสถานที่เชื่อมต่อกับขุมนรกแท้จริง ผู้คุมด้านในไม่ใช่มนุษย์ การต่อสู้หลังจากนี้คงตึงมือมาก แต่พวกคุณไม่ต้องห่วง ผมจะเป็นคนนำทางให้เอง”
เลซี่ไม่รีรอ
มันยังไม่ลืมว่าตนคือเจ้าของภารกิจนี้ อัศวินประจำตัวองค์ชายเดินนำทางทุกคนลงไปในคุกนรกซึ่งลือชื่อด้านความโหดเหี้ยม
เพียงไม่นาน ความมืดมิดบดบังการมองเห็นของสมาชิกปาร์ตี้ทุกทิศทาง
***
ยามค่ำคืน ณ วังสวรรค์
สร้างจากหินและไม้ปริศนาส่องแสง ผนังแลเพดานของวังกำลังเจิดจรัสจนแยกแยะไม่ออกว่ากลางวันหรือกลางคืนกันแน่ ราวกับเป็นแดนสวรรค์ซึ่งตัดขาดจากโลกมนุษย์โดยสิ้นเชิง
แกรนมาสเตอร์ผู้เหยียดหยันดูแคลนทุกสรรพสิ่งบนทวีปตะวันตก มันกำลังนั่งผ่อนคลายภายในสิ่งก่อสร้างซึ่งไม่สมควรมีอยู่บนโลกมนุษย์
“โอกาสพบคำตอบมาถึงแล้ว…”
แกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์ มันเพ่งมองบอลคริสตัลด้วยสายตาใคร่รู้
ทุกอิริยาบถของราชาโอเวอร์เกียร์กริดภายในคุกนรกกำลังปรากฏบนบอลแก้วสีใส คล้ายกับจอฉายภาพยนตร์ความละเอียดสูงก็มิปาน
เอ้า
ReplyDeleteให้ตายสิ
ReplyDeleteไอ้ลูกหมา แกรนมาสเตอร์
ReplyDeleteหวังว่าแกรนมาสเตอร์จะอยู่ข้างกริดในอนาคต รอลุ้น สู้ๆ นะกริด สานสัมพันธ์กับ NPC ต่อไป เดียวก็ได้ใจแกรนมาสเตอร์ไปเองแหล่ะ เราเชื่อนายย ก็อดกริด
ReplyDeleteในอนาคตไม่ได้อยู่ข้าง แต่ก็ไม่ได้ร้ายใส่ แค่เกี่ยวข้องกัน
Deleteอ๊ากกกกกกกก
ReplyDeleteสปอย แกรนด์มาสเตอร์ คือใคร
ReplyDeleteเลื่อนลงข้างล่างสุดเพื่ออ่าน
แกรนด์มาสเตอร์ คือ1ใน7บาป
บาปแห่งความเกียดคร้าน (ขี้เกียด)