จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1074



“มีรายงานว่า องค์ชายอีธานทำการจับกุมตัวดยุคเกล็นฮาล มอริส และบาซาร่าเข้าคุกนรกด้วยข้อหาก่อกบฏ ขอรับ


“ในเวลาต่อมา นายทหารและขุนนางคนสนิทของสามดยุคต่างพยายามรุกล้ำเข้ามาในเขตวังหลวงอย่างอุกอาจ โดยไม่ยอมฟังคำตักเตือนของทางการ แต่หลังจากล่วงล้ำเข้าไปได้ไม่นาน ทุกคนกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย


“ขณะเดียวกัน หอแห่งนิรันดร์ได้แจ้งเข้ามาว่า มีการตรวจพบคลื่นพลังลึกลับคล้ายกับเวทเคลื่อนย้ายมิติระดับสูง ภายในช่วงเวลาดังกล่าว”


ณ วังหลวงไททัน


เมื่อกลับถึงบรมมหาราชวัง ฮวนเดอร์ได้รับแจ้งข่าวสุดเหลวไหลทันที


มันพอจะเดาสถานการณ์อย่างคร่าวได้ คำสั่งถูกเปล่งจากปากหนักแน่น


“รีบปล่อยตัวสามดยุคให้เป็นอิสระ และนำกองทัพหลวงเข้าจับกุมกบฏ อีธานทันที!”


ไม่ต้องมีคำอธิบายให้ซับซ้อน เมื่อถูกประกาศให้อยู่ในสถานะกบฏ พลังอำนาจทั้งหมดขององค์ชายอีธานจะถูกปลดเปลื้อง รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวจำนวนมหาศาล


ไม่ใช่องค์ชายอีกต่อไป


กองทัพหลวงในไททันพลันเคลื่อนพลอย่างพร้อมเพรียง ทหารหัวกะทิหลายพันโอบล้อมวังส่วนตัวองค์ชาย เข้ายึดครองทรัพย์สินของอีธานโดยไม่มีข้อยกเว้น


บรรดาศักดิ์ถูกถอดถอนในพริบตา ทั้งทหารในสังกัด รวมถึงหน่วยจักรกลเวทมนตร์ ทุกสิ่งถูกโยกย้ายกลายเป็นทรัพย์สินของมหาจักรพรรดิ


ทว่า จักรกลเวทมนตร์อันตรธานหายไปทั้งหมดสี่เครื่อง


“พวกอัศวินต่ำช้า! ไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร!


“ฉันคือพระมารดาของมหาจักรพรรดิองค์ถัดไปเชียวนะ! พวกแกเป็นเพียงขี้ข้า กล้าขวางทางฉันคนนี้เชียวหรือ!”


วังหลังของแมรี่ถูกอัศวินและทหารกล้าหลายพันนายปิดล้อมทางออกทั้งหมด


หลังจากหล่อนทราบข่าวเรื่องบุตรชายของตนถูกตัดสินให้เป็นกบฏ แมรี่รีบเดินทางออกจากวังหลัง หมายเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิโดยเร็ว แต่กลับถูกกองอัศวินหลวงขวางทางไว้เสียก่อน


“คิดว่าเจ้ากบฏนั่นจะครองบัลลังก์ได้จริงหรือ ฝันไปเถอะ กบฏย่อมเป็นกบฏ วังยังค่ำ ช่วยระวังคำพูดด้วย ไม่อย่างนั้นตัวคุณจะไม่ปลอดภัย”


“สามหาว! แกมันก็แค่อัศวินต่ำต้อย!”


“ข้างนอกฝนตกหนัก รีบพาตัวหล่อนเข้าไปด้านในเร็วเข้า!”


“ขอรับ!”


“ปล่อยฉัน! พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้!!”


ไม่ว่าจักรพรรดินีจะแหกปากอย่างไร แต่เหล่าอัศวินหัวกะทิหาได้สั่นกลัว


หรือพวกมันจะทราบแล้ว ว่าแมรี่อยู่เบื้องหลังการตายของอดีตจักรพรรดินีอาเรีย?


ไม่เลย ยังไม่ทราบ ฮวนเดอร์มิได้ประกาศความจริงใดออกไปเป็นวงกว้าง


อัศวินเหล่านี้เย็นชาต่อแมรี่เพราะ พวกมันทั้งหมดล้วนสังกัดหน่วยอัศวินหลวง รับคำสั่งโดยตรงจากมหาจักรพรรดิฮวนเดอร์เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องยำเกรง หากผู้ใดคิดขวางการปฏิบัติภารกิจ


“มาร์ควิสไอเรนงั้นหรือ”


“ขอรับ นับตั้งแต่ถูกประกาศให้เป็นกบฏ อดีตองค์ชายอีธานรีบหลบหนีออกจากวังส่วนตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีมาร์ควิสไอเรนคอยตั้งทัพสกัดถ่วงเวลากลางทาง


“ทางเรากำลังส่งทหารจำนวนห้าพันเข้าโจมตีมาร์ควิสไอเรนขอรับ!”


“แค่ห้าพันไม่พอแน่ รีบส่งทหารสมทบเพิ่มไปอีกหนึ่งหมื่นนาย!”


“ขอรับ!”


เกราะอสูร ชานสเลอร์


อัศวินเพียงคนเดียวจากบรรดาห้าเสาหลัก มันรีบปฏิบัติภารกิจอย่างกระฉับกระเฉงหลังจากได้รับมอบหมายจากองค์จักรพรรดิ


ฮวนเดอร์มอบสิทธิ์ให้ชานสเลอร์จัดการกวาดล้างกบฏ ได้เต็มกำลัง และงานแรกคือการนำกองทัพอัศวินปิดล้อมวังหลังของแมรี่


หล่อนเป็นผู้ถือครองอำนาจใหญ่ แถมยังคอยหนุนหลังอีธานมาตลอด มีขุนพลซุกซ่อนในปกครองเป็นจำนวนมาก การสยบเธอเท่ากับสยบพลังอำนาจอีธานไว้หลายส่วน


แน่นอน อัศวินสีชาดภายใต้การปกครองของแมรี่ย่อมมีชะตากรรมไม่ต่าง ส่วนลิมิตก็ถูกปลดอำนาจไปพร้อมกันในคราวเดียว


ดยุคแห่งดาบไม่ใช่บุคคลสำคัญอีกแล้ว


“ลิมิตกับอัศวินสีชาดไปไหน”


“ยังไม่พบเบาะแสของดยุคแห่งดาบ แต่ได้รับรายงานว่า อัศวินสีชาดใหม่กำลังรวมตัวภายในค่ายทหาร ทางเราได้ส่งจดหมายตักเตือนไปแล้วหนึ่งฉบับ หากพวกมันคิดแข็งข้อจะถูกปราบปรามด้วยบทลงโทษสูงสุดทันที


“ถ้ามีความคืบหน้า คนของเราจะรายงานเพิ่มเติมเข้ามาขอรับ”


“ดีมาก”


เดิมที อัศวินสีชาดจะสังกัดหน่วยอัศวินหลวง มีภารกิจคอยคุ้มกันราชวงศ์และองค์จักรพรรดิ


แต่ปัญหาคือ แม่ทัพคนปัจจุบันของอัศวินสีชาด ดยุคแห่งดาบลิมิต ถูกคาดโทษให้เป็นหนึ่งในกบฏ แผ่นดินพร้อมอีธาน


ตลอดหลายปีหลัง ลิมิตอาจปลูกฝังความคิดอันตรายลงในหมู่อัศวินสีชาด ไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว ดังนั้นจะมองข้ามปัจจัยเล็กน้อยไม่ได้เด็ดขาด


ผู้คนอาจคิดว่าอัศวินสีชาดรุ่นก่อนแข็งแกร่งมากแล้ว แต่เทียบไม่ได้เลยกับอัศวินสีชาดรุ่นปัจจุบัน พวกมันทุกคนล้วนทรงพลัง เนื่องจากแกรนมาสเตอร์เป็นผู้ปลุกปั้นด้วยตัวเอง


“ดยุคแห่งดาบหนีไปพร้อมอีธานสินะ”


อัศวินสีชาดรุ่นใหม่ รวมถึงหน่วยอื่น กลุ่มคนเหล่านี้เป็นเพียงตัวเบี้ยรอง ตัวการสำคัญก่อกบฏ มีเพียงแมรี่ อีธาน และลิมิต


รวมถึง ต้องไม่ลืมตามจักรกลเวทมนตร์อีกสี่เครื่องกลับคืนมาด้วย


“เร่งมือเร็วเข้า”


ชานสเตอร์ออกคำสั่งทหารอย่างฮึกเหิม


***


“น่าสนใจดีนี่”


เบอิน เงาแห่งจักรพรรดิ และยังเป็นหนึ่งในห้าเสาหลัก มันลงมายังคุกนรกหมายปล่อยดยุคทั้งสามให้เป็นอิสระ


แต่กลับไม่พบดยุคแม้แต่คนเดียว


ปรากฏเพียงประกายระยิบระยับลอยท่ามกลางความมืดมิด แสงเหล่านี้คือเศษเสี้ยวปราณดาบปริมาณมหาศาล เบอินคุ้นเคยเป็นอย่างดี


ปราณดาบของลิมิต


“ลิมิตตายแล้วหรือ”


“ถูกต้อง เขาถูกฆ่าตายขณะพบเห็นผู้บุกรุกกำลังพยายามช่วยสามดยุคออกไป”


เป็นคำตอบจากบีฟรองเซ่


เบอินไม่ทราบต้นกำเนิดของเผ่าอสูรลึกลับตรงหน้า แม้จะเป็นถึงห้าเสาหลักก็ตาม


ทั่วทั้งซาฮารัน หากจะถามว่าใครทราบต้นกำเนิดของบีฟรองเซ่บ้าง คำตอบคือสองคน


จักรพรรดิฮวนเดอร์ และแกรนมาสเตอร์ซิกเฟรคเตอร์


แม้แต่บีฟรองเซ่ยังไม่รู้ต้นกำเนิดตัวเอง


อย่างไรก็ตาม เบอินหาได้สนใจ


“ผู้บุกรุกเป็นใคร”


บุกรุกคุกนรกอย่างอุกอาจ


ฆ่าลิมิต


และชิงตัวสามดยุคกลับไป


นับเฉพาะภายในจักรวรรดิ ถ้าไม่ใช่ห้าเสาหลักอย่างพวกตน คงไม่มีใครแข็งแกร่งพอจะทำสำเร็จได้แน่


และผู้ลงมือก็ไม่ใช่หนึ่งในห้าเสาหลักแน่นอน


ไคล์กับชานสเลอร์ สองคนนี้เป็นสุนัขรับใช้ซื่อสัตย์ขององค์จักรพรรดิ พวกมันจะไม่ทำนอกเหนือคำสั่งเด็ดขาด


ในเมื่อองค์จักรพรรดิยังไม่ทราบเรื่อง จึงไม่มีเหตุผลให้ไคล์หรือชานสเลอร์เคลื่อนไหวล่วงหน้า


ด้านราชาจอมเวท โกลด์ฮิต หล่อนเอาแต่หมกตัวอยู่ในหอแห่งนิรันดร์มาตลอด แถมยังเป็นผู้ตรวจพบเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติขนาดมหึมาใจกลางเขตวังหลวง ตัดออกไปได้เลย


ส่วนแกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์ ชายคนนั้นไม่เคยแยแสเรื่องเล็กน้อยมาก่อน เหตุการณ์คราวนี้ก็คงไม่ต่างกัน


“ต้องเป็นคนนอกแน่”


เบอินสรุปได้ไม่ยาก มันตระหนักถึงอุปนิสัยของสี่เสาหลักคนอื่นได้ดีกว่าใคร นั่นคืองานหลักในฐานะหัวหน้าองครักษ์หลวง และองครักษ์ส่วนพระองค์


“หอกเอกของทวีป


“ผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย


“ผู้สันโดษแห่งเกรเนียร์


“วิญญาณเร่ร่อนแห่งสุสานร้าง


“เมอร์เซเดส…”


เบอินเอ่ยชื่อตัวตนแข็งแกร่งภายนอกจักรวรรดิให้บีฟรองเซ่ฟังคนแล้วคนเล่า


ภายในใจเบอินมีทั้งหมด 13 คน


และในบรรดารายชื่อเหล่านั้น


“ราชาโอเวอร์เกียร์”


กริดไม่ถูกตัดออก เพราะหากเป็นยุคสมัยปัจจุบัน ตัวตนราชาโอเวอร์เกียร์คือหนึ่งในบุคคลทรงพลังระดับทวีปอย่างไร้ข้อกังขา


บีฟรองเซ่ทำเพียงยักไหล่


“ข้าไม่มีความจำเป็นต้องแนะนำตัวกับผู้บุกรุก อีกฝ่ายก็เช่นกัน ดังนั้น ข้าจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของมันได้อย่างไร


“พวกเราสู้กัน และข้าพ่ายแพ้


“เมื่อสติของข้ากลับคืนมา ลิมิตได้ตายไปแล้ว ส่วนผู้บุกรุกก็โยนกุญแจคืนให้ข้าและจากไปพร้อมสามดยุค”


“โกหกสินะ ปรกติเจ้าจะไม่พูดยืดยาวเช่นนี้


“แต่ช่างเถอะ ถึงไม่ยอมพูด แต่ก็มีใครบางคนรู้เห็นเหตุการณ์อยู่ดี”


เบอินกวาดสายตาเข้าไปในความมืดมิดรอบตัว มันตรวจพบคลื่นพลังไม่ปรกติ 14 จุด


จุดเหล่านั้นคือบรรดาเสาเวทมนตร์สอดส่องของแกรนมาสเตอร์


เบอินพ่นลมหายใจหงุดหงิด


‘ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์’


เบอินสัมผัสได้ตั้งแต่วันแรก ถึงความไม่ปรกติของบุรุษนามแกรนมาสเตอร์


แต่ตัวมันมีบรรดาศักดิ์เท่าเทียมอีกฝ่าย ไม่สามารถลงมือตามใจชอบได้


อย่างไรก็ตาม เบอินหาได้แยแส แกรนมาสเตอร์อยากจะทำสิ่งใดก็เชิญ ขอเพียงไม่ก่อความเดือดร้อนให้องค์จักรพรรดิก็เพียงพอ


มันจะคอยปกป้ององค์จักรพรรดิไปเรื่อยๆ จนกว่าความปรารถนาของตนจะเป็นจริง


เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้แกรนมาสเตอร์เปิดเผยเนื้อแท้และเป็นภัยคุกคามต่อฮวนเดอร์ ก็ไม่ใช่กงการของมันต้องคอยปกป้องอีกแล้ว


ฟุ่บ—!


เพียงก้าวกระโจนหนเดียว เบอินหายไปจากมองเห็นของบีฟรองเซ่และพ้นจากเขตเวิ้งคุกนรก


“ม…มองตามไม่ทัน ทำไมมนุษย์ถึงมีแต่คนน่ากลัวเต็มไปหมด”


ขณะเดียวกัน ด้านนอกช่องว่างเวิ้งคุก


“รีบตามหาร่องรอยของเหล่าดยุคให้พบ”


เบอินออกคำสั่งกับอากาศว่างเปล่ารอบตัว


กลุ่ม ‘อุปราคา’ เริ่มเคลื่อนไหวในเงามืด


***


หลังจากเบอินกลับวังหลวงและรายงานความคืบหน้าต่อองค์จักรพรรดิได้ไม่นาน


“ขอบคุณสวรรค์ พวกเจ้ายังปลอดภัยดี…”


สองดยุคปรากฏตัวภายในวังหลวงและขอเข้าเฝ้าองค์ฝ่าบาททันที


เกล็นฮาลและมอริส สภาพร่างกายพวกมันค่อนข้างแข็งแรง


ขณะฮวนเดอร์เดินลงจากบัลลังก์เพื่อหวังทักทายอย่างใกล้ชิด มันพลันเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด


แผลเป็นบนลำตัวเกล็นฮาลหายไป…


มีใครแอบปลอมตัวเป็นเกล็นฮาลเพื่อหวังปองร้ายตนอย่างนั้นหรือ


ไม่ใช่ บุรุษตรงหน้าคือเกล็นฮาลไม่ผิดแน่


ไม่มีสิ่งใดบิดเบือนปราณสีชาดขององค์มหาจักรพรรดิได้


“คงเกิดเรื่องราวขึ้นมากมายสินะ”


แผลเป็นบนลำตัวเกล็นฮาลไม่ใช่แผลธรรมดา แต่พวกมันคือเหรียญกล้าหาญและสัญลักษณ์ของการอุทิศตัวให้บ้านเมือง


ถูกลบด้วยวิธีใดไม่สำคัญ


สำคัญคือ… ถูกลบออกด้วยเหตุผลใด


หรือจะหมายถึง ความจงรักภักดีของเกล็นฮาลเริ่มเกิดการสั่นคลอนเป็นหนแรก


“ใครเป็นคนช่วยเหล่าดยุคออกจากคุก”


“ราชาโอเวอร์เกียร์ขอรับ”


“…?”


“ก่อนจะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรากับราชาโอเวอร์เกียร์ กระหม่อมมีบางสิ่งต้องรีบกราบทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ”


“เรื่องแมรี่ใช่ไหม เราทราบแล้ว หล่อนร่วมมือกับวิหารยาธานเพื่อสังหารอาเรียและก่อความวุ่นวายในวังหลวง”


“…!”


“เบนัวต์เพิ่งบอกเรา… เมื่อไม่นานนี้”


“ฝ่าบาท…”


“เราละอายใจเหลือเกิน ดวงตามืดบอดจนมองไม่เห็นความชั่วร้ายใกล้ตัว ปล่อยให้หล่อนทำลายบ้านเมืองจนเกือบล่มสลาย”


ฮวนเดอร์ไม่ถือสาเอาความ เรื่องคนสนิทของสามดยุครุกล้ำเขตวังหลวงหลังจากเกิดเหตุ


แน่นอน มันไม่ต้องการสูญเสียขุนนางซื่อสัตย์ซึ่งเหลือน้อยเต็มที โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญอย่างตระกูลดยุค


ในสถานการณ์ปัจจุบัน ขั้วอำนาจกำลังแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย การเมืองในจักรวรรดิปั่นป่วนโกลาหล ขุนนางระดับดยุคคือศูนย์รวมจิตใจสำหรับซึ่งจะขาดไปไม่ได้


เกล็นฮาลและมอริสต่างทราบเรื่องดังกล่าวดี


‘พระเกศาของฝ่าบาท ขาวโพลนหมดแล้ว’


พวกมันไม่ได้พบฮวนเดอร์เพียงไม่กี่เดือน แต่เส้นผมของอีกฝ่ายกลับขาวโพลนจนหมดหัว


หากถามว่าบุคคลใด มีสายเลือดซาฮารันเข้มข้นเป็นลำดับหนึ่งในจักรวรรดิ คำตอบคงหนีไม่พ้นมหาจักรพรรดิฮวนเดอร์


แต่บุรุษผู้เกิดมาพร้อมสถานะเหนือมนุษย์ กลับมิอาจเอาชนะความแก่ชรา มิอาจเอาชนะโซ่ตรวนพันธนาการด้านสังขารได้


เกล็นฮาลทราบดี หากเหนือมนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงขนาดนี้ หมายความว่าต้องเป็นผลจากการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง


จิตใจเกล็นฮาลพลันหนักอึ้งเมื่อได้ทราบ


‘เราต้องคอยช่วยเหลือข้างกายฝ่าบาท ตระกูลเรารับใช้ราชวงศ์มาหลายรุ่น ติดหนี้บุญคุณบ้านเมืองไว้มากมาย เสพสุขได้อย่างทุกวันนี้เพราะมีราชวงศ์ซาฮารันคอยค้ำจุนเสมอมา’


กล่าวกันตามตรง เกล็นฮาลเกิดความลังเลมาสักพักแล้ว เกี่ยวกับเรื่อง ตนควรแยกตัวออกจากซาฮารันดีหรือไม่


ต้นตอความรู้สึกดังกล่าวมาจากกริด


ราชาโอเวอร์เกียร์ได้มอบความอบอุ่นและห่วงใยเป็นล้นพ้น มันไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน


แต่ในวินาทีปัจจุบัน เกล็นฮาลไม่ลังเลอีกแล้ว


สภาพสังคมอันโหดร้ายภายในจักรวรรดิ ส่งผลให้จิตใจเกล็นฮาลกลับมามั่นคงและหนักแน่น


“ฝ่าบาท กระหม่อมขอแนะนำให้ประกาศความชั่วช้าของแมรี่และอีธานให้ประชาชนทั่วทั้งไปได้รับทราบ จากนั้นก็ทำการลงโทษสถานหนักให้เป็นเยี่ยงอย่าง ราชวงศ์คนอื่นรวมถึงเหล่าขุนนางจะได้มั่นคงเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง”


โทษสถานหนักของจักรวรรดิหาใช่ประหารชีวิตเจ็ดชั่วโคตร


ตามกฎมณเฑียรบาล โทษสูงสุดคือการจองจำในคุกนรกตลอดกาล ปล่อยให้ความสิ้นหวังกัดกินจิตใจอย่างอำมหิตโหดเหี้ยม


นับตั้งแต่ฮวนเดอร์ครองบัลลังก์ มันไม่เคยจองจำใครใส่คุกนรกสักครั้ง


แม้จะโกรธแค้นสหายรักอย่างปิอาโร่ในคดีก่อกบฏ เมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ฮวนเดอร์ก็มิได้ตัดสินโทษสูงสุด เพียงฆ่าล้างบางตระกูลให้สิ้นซาก


หมายความว่า หากไม่เลวร้ายและต่ำทรามเยี่ยงเดรัจฉาน ฮวนเดอร์จะไม่จองจำใครด้วยคุกนรกเด็ดขาด


และนั่นเป็นสาเหตุให้ฮวนเดอร์รีบประกาศว่าอีธานก่อกบฏ โดยไม่ลังเล หลังจากทราบว่าบุตรชายบัดซบของตน ก่อเรื่องต่ำช้าด้วยการจองจำสามดยุคภายในคุกนรก


องค์มหาจักรพรรดิตัดความสัมพันธ์ฉันพ่อลูกโดยไม่มัวคิดให้มากความ


เพราะหากตนสองมาตรฐาน แสดงความเอนเอียงเพราะเป็นสายเลือด บรรดาขุนนางอาจเกิดข้อครหาและความไม่พอใจ ในกรณีเลวร้ายจะถึงขั้นอำนาจบารมีของจักรพรรดิเสื่อมลง


จนกระทั่งปัจจุบัน ฮวนเดอร์ยังคงหนักแน่น


ถึงเวลาเชือดไก่ให้ลิงดู


อดีตคนรัก


มารดาของบุตรชาย


และบุตรชาย


“ดยุคกล่าวได้ถูกต้องแล้ว บาปของสองแม่ลูกร้ายแรงจนมิอาจเพิกเฉยได้ เราขอประกาศลงโทษขั้นสูงสุด คุมขังทั้งสองในเรือจำคุกนรกตลอดกาล”


ในฐานะบิดา


ในฐานะจักรพรรดิ


ฮวนเดอร์ประกาศหนักแน่น ว่าจะส่งสมาชิกครอบครัวตัวเองลงไปยังขุมนรกบนดิน เพื่อมิให้ผู้ใดปฏิบัติตามเป็นเยี่ยงอย่าง


ด้วยผลลัพธ์เช่นนี้ เหล่าดยุคและขุนนางทั้งหมดจะยังคงเคารพนับถือฮวนเดอร์ รวมถึงจิตใจอันแตกร้าวของบรรดาราชวงศ์ก็จะถูกเยียวยากลับคืนมาบางส่วน


ขณะฮวนเดอร์กำลังกล้ำกลืนความเจ็บปวด


“ฝ่าบาท! รายงานด่วนขอรับ! ทัพหลวงจำนวนมากถูกซุ่มโจมตีก่อนเคลื่อนพลไปถึงป้อมปราการของมาร์ควิสไอเรนขอครับ!”


เสนาธิการเฟอร์มงต์รีบวิ่งเข้ามากราบทูลรายงานด่วนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก


“…!”


“…!”


ดวงตาทุกคนในท้องพระโรงพลันเบิกโพลง


นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ กองทัพหลวงของจักรวรรดิถูกเคลื่อนพลอย่างรวดเร็วและกระฉับกระเฉง ไม่เกินจริงเลยหากจะกล่าวว่า เมื่อองค์จักรพรรดิกลับถึงเมืองหลวง ทหารหลวงส่วนใหญ่ถูกออกคำสั่งให้บุกโจมตีใส่ป้อมปราการของมาร์ควิสไอเรนทันที


ในเมื่อไม่มีใครทราบความเคลื่อนไหวของกองทัพหลวง แล้วเหตุไฉน เหล่าทหารหัวกะทิแสนคล่องแคล่ว ถึงถูกซุ่มโจมตีจนแตกพ่ายไม่เป็นท่าระหว่างทาง


ขณะฮวนเดอร์และเหล่าดยุคกำลังมึนงงกับสถานการณ์ เฟอร์มงต์ได้เปิดเผยข้อมูลสุดน่าทึ่ง


“มีความเป็นไปได้ว่า… จะเกิดจากฝีมือของกองทัพวัลฮัลล่าขอรับ”


“อะไรนะ…”


ใช่แล้ว ความวุ่นวายภายในจักรวรรดิซาฮารันคือโอกาสแสนล้ำค่า ให้กุนซือแส้สุมาจากทวีปตะวันออกฉกฉวยชิงความได้เปรียบ


เสนาธิการกองทัพวัลฮัลล่าผู้นี้ เก่งฉกาจถึงขั้นแกรนมาสเตอร์ออกปากชื่นชม สติปัญญาของมันย่อมไม่ธรรมดา


สุมาเต็กโซหวังก่อความวุ่นวายจนจักรวรรดิแบ่งแยกออกเป็นเมืองเล็กเมืองน้อย จากนั้นก็นำทัพวัลฮัลล่าเปิดศึกทำสงครามแย่งชิงดินแดนมาครอบครองทีละนิดไปเรื่อยๆ


แล้วไหนว่า วัลฮัลล่าทำสนธิสัญญากับจักรวรรดิซาฮารัน?


เปล่าเลย พวกมันทำสนธิสัญญากับแกรนมาสเตอร์ต่างหาก หาใช่ราชวงศ์


ย้อนกลับไปสมัยอดีต ภายในวังสวรรค์


เมื่อการประชุมระหว่างอาเรส แกรนมาสเตอร์ และสุมาเต็กโชจบลง


ซิกเฟรคเตอร์ได้กล่าวปิดท้ายไว้ว่า :


‘หวังว่าพวกเราจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในอนาคต’


***


[ท่านตรวจพบพลังเทพมารกำลังกัดกินดวงวิญญาณของเป้าหมาย!]


[พลังของท่านสามารถปฏิเสธตัวตนเทพ!]


[ดวงวิญญาณเป้าหมายถูกฟื้นฟู!]


[ท่านช่วยชีวิตผู้สืบสายเลือดอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิซาฮารันไว้ได้!]


[ในอนาคต หากเป้าหมายการรักษา ‘บาซาร่า’ เกิดมีชื่อเสียงโด่งดัง คุณงามความดีของท่านก็จะยิ่งแผ่ขยายขจรไกล]


[ท่านสร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นต่อราชวงศ์ซาฮารันแห่งจักรวรรดิซาฮารัน สมาชิกราชวงศ์บางคนจะเกลียดชังท่าน แต่สมาชิกราชวงศ์คนอื่นจะชื่นชอบในตัวท่านมาก]


[ค่าความสัมพันธ์กับดยุคบาซาร่าเพิ่มขึ้นถึงค่าสูงสุด]


ณ วังหลวงไรน์ฮาร์ท


อาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ดยุคบาซาร่าลืมตาขึ้น


เป็นความสำเร็จหลังจากนักบุญหญิงรูบี้ต้องเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งวัน


“ไอ้ยำนั่น… เลวยิ่งกว่าเดรัจฉาน”


กริดได้ฟังรายละเอียดจากปากรูบี้ ว่าบาซาร่าเฉียดใกล้ความตายเพราะถูกพลังเทพยาธานกัดกินดวงวิญญาณรุนแรง


ชายหนุ่มโกรธแค้นจนตัวสั่น


ในอดีต มีผู้คนมากมายต้องฉิบหายเพราะแก่นยาธานมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็นปิอาโร่หรืออัสโมเฟล


อีธานรู้ผลลัพธ์ของแก่นยาธานอยู่แต่ใจ แต่มันกลับยังนำมาใช้หนแล้วหนเล่าโดยไม่คำนึงถึงความเสียหาย


‘มัวรีรอไม่ได้แล้ว’


ก่อนหน้านี้ กริดเป็นกังวลกับอาการป่วยของสามดยุคจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด แต่ปัจจุบัน ผู้เคราะห์ร้ายคนสุดท้ายอย่างบาซาร่าได้หายเป็นปลิดทิ้งแล้ว


ถึงเวลาตัวมันเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว


‘สร้างแร่’


พาเฟรเนี่ยม


โลหะชนิดพิเศษ สัญลักษณ์ของคลาสผู้สืบทอดแพ็กม่ามาช้านาน


แต่ปัจจุบัน กริดต้องการสร้างโลหะเฉพาะตัวสำหรับมันเท่านั้น


สัญลักษณ์แทนความเป็นกริด


มีเพียงกริดใช้ได้แค่คนเดียว


“ฟู่ว”


ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด ไอเท็มมากมายถูกหยิบวางเรียงรายบนโต๊ะทำงาน


หากถามว่า มีโลหะชนิดใดบ้าง เหมาะสมสำหรับหลอมรวมกับพาเฟรเนี่ยมและเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ชนิดใหม่


แม้แต่กริดก็ยังระบุได้ไม่ชัดเจน ต้องคอยระมัดระวังอย่างมากเพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด


‘แต่เหนือสิ่งอื่นใด… จะขาดเหล็กมังกรคลั่งไม่ได้เด็ดขาด’


ต่อให้พลิกแผ่นดินหาทั่วทวีป แต่เหล็กมังกรคลั่งจะพบได้เฉพาะรังของมังกรคลั่งเนอวาร์ธานเท่านั้น คุณสมบัติพื้นฐานคือการขยายจำนวนเป็นสองเท่าในทุกสิบวัน ทั้งปริมาตรและน้ำหนัก


ปัจจุบัน กริดมีปริมาณพาเฟรเนี่ยมเทียบเท่าสำหรับสร้างดาบหนึ่งเล่ม


แต่หากมีเหล็กมังกรคลั่งเป็นส่วนผสม ตนอาจเพิ่มปริมาณพาเฟรเนี่ยมได้ไม่รู้จบ!


สำหรับคลาสลับประเภทอื่น ไอเท็มประจำคลาสอย่างมากคือหนึ่งชนิด แต่หากกริดครอบครองโลหะในจินตนาการของตนได้เมื่อไร ไอเท็มประจำคลาสจะมีมากได้ตามใจต้องการ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,463
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณครับ

    เรื่องเรื่องเดินต่อซะที

    ReplyDelete
  2. ได้เวลาปั้มแร่ 5555

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณ​มาก​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณครับกำลังสนุก

    ReplyDelete
  5. ดูทรงอาเรสจะแตกก่อนจักรวรรดิอีก ไปเชื่อกุนซื่อซะหมด สุดท้ายอาจจะโดนหลอกก็ได้มันอาจจะตั้งใจมาตะวันตกเพราะพวก ยังบัล สั่งมาอีก

    ReplyDelete
    Replies
    1. เป็นทฤษฎีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00