จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1064



“หือ…”


“อะไรกัน…”


“บ้าน่า…”


หลังจากร่วมปาร์ตี้กริดได้สองชั่วโมง ยิ่งการสำรวจคุกนรกผ่านไป เลซี่ก็ยิ่งตะลึงและทวีความฉงน


ซู่ว—


ฉึกฉึกฉึกฉึก!


ผู้เล่นทุกคนล้วนมีขีดจำกัด


ไม่ว่าแต้มสถานะจะสูงเพียงใด หรือถูกเสริมพลังกายด้วยบัฟมากแค่ไหน แต่ระบบเกมซาทิสฟายได้ตีกรอบขีดจำกัดด้านสมรรถภาพร่างกายผู้เล่นเอาไว้


ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนคือความเร็วโจมตีและความเร็วเคลื่อนที่


ไม่ว่าจะมีค่าความว่องไวมากแค่ไหน แต่ความเร็วโจมตีสูงสุดคือ 6 ครั้งต่อวินาที และความเร็วเคลื่อนที่สูงสุดคือ 18 เมตรต่อวินาที ไม่มีทางมากไปกว่านี้ได้


เมื่อตระหนักถึงขีดจำกัด เลซี่พลันรู้สึกหงุดหงิดและท้อแท้ มันเคยคิดว่าความสามารถร่างกายสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องไร้ขีดจำกัด แต่เมื่อทราบว่าต้องถึงทางตันเข้าสักวัน ก็อดไม่ได้หากจะรู้สึกหมดกำลังใจ


ในฐานะผู้เล่น ตนจะไม่มีวันก้าวข้าม NPC พิเศษได้เลยหรือ? ไม่มีวันแข็งแกร่งทัดเทียมอัศวินอาวุโสใช่ไหม?


เลซี่นึกตัดพ้อใจในมาตลอด


จนกระทั่งวินาทีนี้…


ฉึกฉึก!


โฮกกกกก!


กริดกำลังพิสูจน์ให้เห็น


ขีดกำจัด…?


ผิดแล้ว


ดาบในมือกริดถูกตวัดกวัดแกว่งด้วยความเร็วเก้าครั้งต่อวินาที ในช่วงแรก เลซี่คิดว่าเป็นการใช้ทักษะ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งเคลือบแคลง


ต่อให้เป็นทักษะปราศจากระยะหน่วงหลังใช้ แต่ไม่มีทางเลยที่ผู้เล่นจะหลีกหนีจากพันธนาการชื่อว่า ‘ทรัพยากร’ พ้น


แม้จะเป็น ‘ท้องฟ้า’ ก็ตาม


“เหนือมนุษย์…”


ฉากกริดกระทำในสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถ กำลังกรีดเฉือนเถาวัลย์แห่งความท้อแท้ภายในใจเลซี่จนขาดสะบั้น


มันเกิดความหวังใหม่


ขีดจำกัดของผู้เล่นที่เคยเข้าใจมาตลอด ราชาโอเวอร์เกียร์ได้เปิดโลกใบใหม่ให้มันรับชม ความกังวลของเลซี่ตลอดหลายปีต้องกลายเป็นหมัน


ตนสามารถแข็งแกร่งได้เหมือนอัศวินอาวุโส


ไม่ต้องท้อแท้กับขีดจำกัดผู้เล่นที่คอยหลอกหลอนอีกแล้ว


“ฮะ…ฮะฮะฮะ! ฮะฮ่าฮ่า!”


คล้ายกับหมอกหนาซึ่งเคยบดบังสายตามาแสนนานได้อันตรธานหายไป


เลซี่หัวเราอย่างมีความสุข มันใช้ดาบในมือแทงใส่มอนสเตอร์ผู้คุมด้วยรอยยิ้ม


เสียงหัวเราะของเลซี่ทำให้กริดพลันขมวดคิ้ว


‘หมอนั่นได้ไอเท็มดรอปราคาแพงรึไง?’


เป็นไปไม่ได้… นี่เราลืมตั้งค่าลูตของให้หัวหน้าปาร์ตี้ได้รับเพียงคนเดียวหรือ?


กริดลนลานรีบเปิดหน้าต่างปาร์ตี้


ชื่อปาร์ตี้ : สำรวจคุกนรก


หัวหน้าปาร์ตี้ : กริด


สมาชิกปาร์ตี้ : โค้ก, เลซี่


วิธีแบ่งไอเท็ม : หัวหน้าปาร์ตี้


‘ฟู่ว!’


การแบ่งไอเท็มเป็นไปอย่าง ‘ปรกติ’


เลซี่ไม่มีทางได้รับไอเท็มดรอปราคาแพงโดยที่ไม่ผ่านตนก่อน


แล้วหมอนั่นหัวเราะทำไม?


หลังจากจัดการผู้คุมตรงหน้าเสร็จ โค้กเดินเข้าไปใกล้กริดและกระซิบเสียงค่อย


“เลเวลทักษะอัปล่ะมั้ง…?”


“…อ้อ!”


มอนสเตอร์ในคุกนรกไม่จัดว่าแข็งแกร่ง


เลเวลราว 380 เห็นจะได้ สำหรับกริดผู้มีเลเวล 399 ค่าประสบการณ์ทักษะจะเพิ่มในปริมาณไม่มาก


แต่กับโค้กและเลซี่นั้นไม่ใช่


สำหรับบุคคลเลเวล 360 หากจุดเก็บเลเวลมีมอนสเตอร์เลเวล 380 ชุกชุม ดินแดนแห่งนั้นไม่ต่างจากสวรรค์


ถึงหัวหน้าปาร์ตี้จะเลเวล 399 ซึ่งห่างเกินกว่าจะได้รับค่าประสบการณ์ตัวละครจากมอนสเตอร์เลเวล 380 แต่ค่าประสบการณ์ทักษะยังอัปได้ปรกติจากการใช้ใส่เป้าหมาย


“ดีใจด้วยนะ”


นี่น่ะหรือ… ความอิ่มเอมใจจากการได้ทำบุญ?


อาสาสมัครการกุศลรู้สึกแบบนี้เองสินะ…


กริดภาคภูมิใจเมื่อตนได้เป็นประโยชน์ให้ผู้อื่นไม่มากก็น้อย มันเริ่มตระหนักว่า เหตุใดผู้คนถึงชื่นชอบการทำบุญ และเริ่มมองว่าสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว


‘หลังจากล็อกเอาต์ครั้งหน้า เราจะบริจาคเงินให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม…’


นับเป็นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดครั้งใหญ่อีกหน สำหรับตัวกริดซึ่งอาศัยบนโลกแก่งแย่งชิงดีและเห็นแก่ได้มาตลอด


จุดเปลี่ยนครั้งแรกคือการได้พูดคุยกับพนักงานสาวสวยร้านกาแฟใต้ตึก กริดไม่รู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำ แต่เธอช่วยให้ตนได้ทราบว่า ยังมีคนมากมายในประเทศเกาหลีใต้คอยเป็นห่วงและสนับสนุน มีหลายครอบครัวเกิดความสุขได้เพราะสิ่งที่ตนกระทำ


นั่นคือความรู้สึกทางใจที่มีค่ามาก


กริดหวังตอบแทนพวกเขา


การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้จะส่งผลดีในระยะยาวต่อตัวมันแน่นอน


วาบ! วาบ!


ภูตแสงรอบตัวกริดซึ่งเคยส่องแสงขาวนวลให้ความสว่าง ยิ่งเดินลึกเข้าไปในคุก มันก็ยิ่งเพิ่มระดับความเข้มข้นแสงให้สูงขึ้น


อีกนัยหนึ่งคือ มวลความมืดภายในคุกนรกทวีความรุนแรงทุกขณะ


“แคบชะมัด”


ขณะมองหาสามดยุคซึ่งอาจถูกจองจำที่ใดสักแห่ง กริดและปาร์ตี้พลันชะงักฝีเท้าพร้อมเพรียง


ทางเดินข้างหน้ามีลักษณะคล้ายถ้ำปากแคบ เดินผ่านได้เพียงทีละคน และยังเป็นเส้นทางเดียวให้ตรงไปต่อ ไม่มีซ้ายขวาให้เลือก


“แคบขนาดนี้ คงแกว่งได้แค่หมัด แม้แต่มีดยังไม่มีสิทธิ์”


ทุกคนเริ่มตื่นตัวและหวาดระแวงอันตราย


หากต้องปะทะกับมอนสเตอร์ดุร้ายภายในถ้ำ ดาบของพวกมันจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า


ทันใดนั้น เมื่อเลซี่สัมผัสได้ว่าการสำรวจกำลังจะยากขึ้นอีกระดับ มันรีบเดินนำหน้าสุด


“ผมนำให้เอง ถ้ากางโล่กำบังและรีบเดินให้ผ่านพ้นถ้ำ พวกเราอาจรอดชีวิตจากการโจมตีของมอนสเตอร์ด้านใน”


“รู้หรือว่าถ้ำยาวแค่ไหน? ถ้าต้องเดินเท้าเกินหนึ่งนาที รับรองได้เลยว่านายไม่รอดแน่”


“ผมพกโพชั่นติดตัวมามาก คงยื้อเวลาจากผู้คุมได้นานพอสมควร”


“แล้วถ้ามีมอนสเตอร์แข็งแกร่งกว่าผู้คุมปรากฏตัวออกมา?”


“…ผมจะพยายามยื้อเวลาให้นานที่สุด พวกเราไม่มีทางอื่นอีกแล้ว”


“ใครบอก มีเป็นร้อย”


ฉึบ—


เมื่อสิ้นเสียง กริดเหยียดแขนออกไปด้านหน้าพร้อมกับการปรากฏตัวของ ‘ไม้เท้า’


มองผิวเหมือนไม่ต่างอะไรกับไม้เท้าประจำคลาสจอมเวท


ขณะเดียวกัน ราชาโอเวอร์เกียร์กดปุ่มดีดใบดาบท้าทายเทพออกจากด้ามจับ ปล่อยให้มันลอยโคจรรอบตัวโดยไม่เกะกะ


“ไปกันเถอะ”


กริดไม่แยแสเลซี่ผู้กำลังยืนมึนงง มันเดินนำหน้าทุกคนเข้าถ้ำแคบเป็นคนแรก


ผ่านไปราวห้านาที ยิ่งเดินลึก ทางก็ยิ่งแคบลง หัวไหล่แต่ละคนเบียดเสียดผนังกำแพงหินสองฝั่งซ้ายขวา


แล้วแบบนี้จะต่อสู้ยังไง?


ถ้ำลึกแค่ไหน?


ขณะความอดทนของสมาชิกปาร์ตี้เริ่มใกล้ถึงขีดจำกัด


“หยุดก่อน”


กริดชะงักฝีเท้าพลางส่งเสียงบอกโค้กและเลซี่


“อึ๋ย…!”


เลซี่มองข้ามไหล่กริดด้วยสีหน้าใครรู้ ก่อนจะส่งเสียงอุทานด้วยน้ำเสียงหวาดผวา


ภาพตรงหน้าคือมอนสเตอร์ชนิดใหม่


<ผู้คุมหลังค่อมที่แปดเปื้อน>


หลังของมันค่อมสมชื่อ ร่างกายท่อนบนโน้มเอนมาด้านหน้าจนรูปทรงคล้ายอักษร ‘ㄱ’


ผู้คุมชนิดใหม่มีลำตัวผอมบาง ไม่บึกบึนเท่าประเภทแรก แขนสองข้างสวมอาวุธประเภทกรงเล็บกะทัดรัด


ค่าพละกำลังที่ลดลงไม่ใช่อุปสรรค แต่กลายเป็นจุดเด่นภายในถ้ำแคบแห่งนี้


มันสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อิสระกว่าใครทั้งหมด!


‘แถมยังเป็นมอนสเตอร์พิเศษ’


เลซี่เริ่มตระหนักถึงภัยอันตราย สำหรับมันแล้ว ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ บุคคลโชคร้ายที่สุดคงหนีไม่พ้นตัวกริด


แต่ราชาโอเวอร์เกียร์ยังคงเงียบขรึม เพียงยกไม้เท้าเล็งยิงเวทมนตร์ใส่


“ศรเวท”


ฟุ่บ—


‘อ๊า! จบสิ้นแล้ว…’


เลซี่พลันหดหู่


ศรเวทคือมนตร์โจมตีระดับต่ำ และภาพตรงหน้าก็ไม่ผิดจากที่คาดมากนัก หลอดพลังชีวิตผู้คุมหลังค่อมลดลงในปริมาณน้อยนิด


ไม่มีทาง… หากจะหวังให้ศรเวทคร่าชีวิตมอนสเตอร์พิเศษซึ่งมีระดับพลังชีวิตค่อนข้างสูง


“ศรเวท. ศรเวท. ศรเวท. ศรเวท. ศรเวท.”


“…??”


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—


กริดอาศัยระยะหน่วงแสนสั้นของเวทมนตร์ระดับพื้นฐาน โดยเฉพาะเวทมนตร์ที่ถูกปรับจูนโดยบราฮัม เล่นงานพลังชีวิตศัตรูอย่างต่อเนื่อง


ขณะเดียวกันก็หาโอกาสผูกศรเวทไว้กับเวทตั้งเวลาเมื่อระยะหน่วงมาถึง


โฮกกกกก!!


ผู้คุ้มหลังค่อมถูกกระหน่ำโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว


จนกระทั่งมันกัดฟันคลุ้มคลั่ง ไม่แยแสความเสียหายจากศรเวทอีก ใจหวังเหวี่ยงกรงเล็บสังหารอีกฝ่ายให้ตายไปพร้อมกัน


แสยะ


กริดเผยรอยยิ้มสุดชั่วร้ายขณะผู้คุมกระโจนเข้าหาด้วยความเร็วสูง


ทันใดนั้น


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม


ศรเวทจำนวนหนึ่งกระหน่ำยิงลงจากเพดานใส่ผู้คุ้มหลังค่อม เหยื่อเคราะห์ร้ายกรีดร้องเสียงหลงจากการโจมตีไม่คาดฝัน


มอนสเตอร์ร่างเล็กฝืนตัวพุ่งมาถึงด้านหน้ากริดก่อนที่มันจะเสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้น


ราชาโอเวอร์เกียร์ใช้ฝ่าเท้าเหยียบศีรษะผู้คุมหลังค่อมด้วยสายตาเย็นชา สภาพของมันร่อแร่ใกล้ตาย ร่างกายสั่นหงึกหงัก หายใจรวยริน


“ไม่เห็นเก่งตรงไหน”


ไม่รู้สึกถึงอันตรายเลยสักนิด


โค้กและเลซี่ต่างกลืนน้ำลายพร้อมกันเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว


ฉึก—!


ใบดาบท้าทายเทพทำหน้าที่ปิดฉาก


หลังจากมอนสเตอร์กลายเป็นแสงเทา ข้อมูลเกมได้ระบุว่ามันมีเลเวล 392 เมื่อนำปัจจัยดังกล่าวไปรวมกับผลการสำรวจแม็ปคุกนรกซึ่งคืบหน้าเพียง 3% ภารกิจของเลซี่จะนับว่ายากพอสมควรสำหรับผู้เล่นทั่วไป


มอนสเตอร์ภายในคุกเริ่มจาก 380 และเพิ่มระดับกลายเป็น 392 ทันที ถ้าพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศด้วยแล้ว คุกนรกจะมีระดับความยากไม่ต่างจากโบราณสถานเทพสงครามเลยสักนิด


ด้วยผู้เล่นเพียงสามคน จะสักกี่ปาร์ตี้ผ่านได้?


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


ท้ายที่สุด ชายหนุ่มทั้งสามเดินมาจนถึงทางออกอีกฝั่งของถ้ำคับแคบ โดยระหว่างทาง กริดสังหารผู้คุมหลังค่อมไปทั้งหมดสี่ตัวด้วยใบดาบท้าทายเทพ


หากมานาลดระดับ มันจะอัญเชิญโอเวอร์เกียร์คอร์นออกมาเลียฟื้นฟู


ทันใดนั้น


“สุดยอด…”


ณ ปากถ้ำอีกฝั่ง คณะปาร์ตี้ได้พบกับเวิ้งวงกลมขนาดใหญ่ตรงหน้า ลักษณะคล้ายกับสถาปัตยกรรมภายในหอคอยโบราณ คือมีเพียงผนังกำแพงสองด้านรายล้อม กึ่งกลางห้องว่างเปล่าปราศจากพื้นดินให้เหยียบเดิน


เมื่อจ้องมองลงไปจะพบกับความมืดมิดไร้ก้นบึ้งซึ่งปราศจากจุดสิ้นสุด


ประตูห้องคุมขังนับพันเรียงรายบนผนังกำแพงหินรอบตัวซึ่งโค้งเป็นวงกลม แต่ละห้องปรากฏเค้าลางนักโทษให้เห็นอย่างคลุมเครือ


“นักโทษเยอะขนาดนี้เชียวหรือ? ผมเคยได้ยินว่าที่นี่ไม่ถูกเปิดใช้งานมานานกว่าสิบปีแล้ว”


“นักโทษเก่าจะยังมีชีวิตอยู่ไหม?”


เมื่อพวกมันเริ่มพูดคุย เสียงสะท้อนจะดังกังวานจากหุบเหวไร้ก้นด้านล่าง


ฟุ่บ—!


กริดก้มหยิบหินโยนลงไปเพื่อทดสอบ แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมา


“ที่นี่กว้างใหญ่ขนาดไหนกัน…?”


“ตลอดการเดินเท้าสองชั่วโมง แผนที่คืบหน้าไปเพียง 3% แต่กลับคืบหน้ารวดเดียว 16% หลังจากพวกเรามาถึงจุดนี้”


“รายชื่อนักโทษคงซ่อนอยู่ที่ใดสักแห่งแน่”


เงื่อนไขสำเร็จภารกิจของเลซี่ต้องบรรลุสองปัจจัย หนึ่งคือสำรวจแผนที่ให้เกิน 15% และสองคือยืนยันรายชื่อนักโทษ


ภารกิจของเลซี่คงจบลงที่นี่แน่นอน


แต่สำหรับกริด จุดประสงค์หลักของมันคือการช่วยเหลือสามดยุคออกมาจากห้องขัง


แม้เวิ้งคุกจะกว้างใหญ่หลายหมื่นตารางเมตร แต่กลับมีเพียงเส้นทางเดียวที่มนุษย์ปรกติสามารถใช้เท้าเหยียบย่างต่อไปได้


…แผ่นหินซึ่งยื่นยาวออกจากผนังกำแพงโค้ง


กว้างแค่หนึ่งเมตร ก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวอาจทำให้ตัวละครตกลงไปถึงตาย


“คนเป็นโรคกลัวความสูงคงก้าวขาไม่ออก”


โค้กกล่าวด้วยใบหน้าขาวซีด


กริดกำลังเพ่งสมาธิ สายตากวาดมองห้องขังใกล้ตัวด้วยทัศนวิสัยเหนือมนุษย์ โดยหวังว่าจะได้พบสามดยุคภายในสักห้อง


จนกระทั่ง


“พวกเจ้า…! พวกเจ้าน่ะ!!”


เสียงตะโกนดังมาจากห้องขังใกล้กริด


เมื่อหันไปมอง ทั้งสามคนได้เห็นชายชราเนื้อตัวมอมแมม หนวดเครารกรุงรังปกปิดไว้กว่าครึ่งใบหน้า


แขนขาสั้นคล้ายเผ่าคนแคระ เรื่องน่าเหลือเชื่อคือกล้ามเนื้ออันบึกบึนบนร่างกายแม้จะถูกขังนานเกินกว่าสิบปีแล้ว


หลังจากประสานสายตากับกริด มันรีบตะโกนด้วยเสียงแหบพร่าราวกับกลัวอีกฝ่ายจากไป


“ข้าคือเฒ่าเคย์! ถึงจะไม่รู้ว่าพวกเจ้าเป็นใคร แต่ได้โปรดช่วยข้าออกไปด้วย! จะตอบแทนบุญคุณให้แน่นอน!”


‘เฒ่า’ คือสรรพนามนำหน้าชายสูงอายุ


กริดเล่นซาทิสฟายมาหลายปี มันไม่เคยได้ยิน NPC คนไหนแนะนำตัวว่า ‘เฒ่า’ มาก่อน นับเป็นกรณีแปลกใหม่อย่างแท้จริง


“คนแคระไม่มีวันลืมบุญคุณ! ขอสาบานต่อเหล่าเทพทุกองค์ ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของเจ้า!”


“…!!”


คนแคระ?


หมอนั่นเรียกตัวเองว่าคนแคระ?


ขณะกริดกำลังยืนอึ้ง


“โฮ่? มีผู้บุกรุก…?”


เสียงใครบางคนดังมาจากคุกอีกห้องหนึ่ง


แคร้ง—!


ประตูห้องขังดังกล่าวถูกผลักเปิดจากด้านใน


เด็กหนุ่มผู้หนึ่งเดินออกมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย บริเวณเอวมีกุญแจกว่าพันดอกห้อยแขวนอยู่


“กล้ามาที่นี่มือเปล่าโดยไม่มีของเซ่นไหว้เชียวหรือ? ชักน่าสนุก… ตัวข้าเองก็ไม่เคยพบผู้บุกรุกมาก่อนสักครั้ง”


บีฟรองเซ่


นั่นคือชื่อของเด็กหนุ่ม


ไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ผู้คุมก่อนหน้า ผิวหนังของมันไม่ละลายเป็นเมือก แถมภาษามนุษย์ก็ยังคล่องแคล่วชำนาญ


แต่แน่นอน… มันไม่ใช่มนุษย์


ผิวหนังขาวซีด ฟันกรามยื่นยาว นัยน์ตาดำสนิทปราศจากสีขาว


หากไม่นับฟัน บีฟรองเซ่มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกริดขณะใช้ร่างมืดอยู่หลายส่วน


แต่จุดแตกต่างชัดเจนที่สุดคือหูยาวแหลมราวกับเอลฟ์และหางซึ่งยื่นออกจากก้น


ย้อนกลับไปสมัยอดีต กริดเคยเผชิญหน้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มาแล้วหนหนึ่ง


ที่หมู่บ้านในขุมนรก…


“เผ่าอสูร?”


นัยน์ตาราชาโอเวอร์เกียร์เริ่มสั่นระริก


“ถูกต้อง”


บีฟรองเซ่สยายปีกออกจากแผ่นหลังหนึ่งคู่


ลักษณะคล้ายปีกค้างคาว เมื่อเริ่มกระพือพึบพับ ร่างกายบีฟรองเซ่ค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้น


“ข้าเกิดภายใน ‘เวิ้งคุก’ แห่งนี้ ไม่เคยพบพานเผ่าอสูรตนอื่นมาก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอสูรแท้หรือไม่ และนี่คือครั้งแรกที่มีโอกาสได้ต่อสู้กับผู้บุกรุก… จะทำได้ดีรึเปล่าน้า~”


ขณะพล่ามเหลวไหล บีฟรองเซ่กำหมัดแน่นและเล็งไปทางกริด


ทันใดนั้น


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—!


ณ พื้นหินในบริเวณที่กริดและปาร์ตี้ยืนอยู่ รวมถึงทางเดินระหว่างจุดดังกล่าวไปถึงปากถ้ำ ทั้งหมดถูกทำลายราบคาบในพริบตา เศษหินสีขาวเทากระเด็นตกลงยังห้วงความมืดมิดด้านล่างซึ่งมองไม่เห็นก้น


โค้กและเลซี่สูญเสียจุดหยั่งเท้าฉับพลัน ทั้งสองเริ่มโซเซเตรียมร่วงหล่นลงด้านล่าง


เมื่อหมดปัญญาช่วยเหลือตัวเอง พวกมันทำได้เพียงหลับตาปี๋พลางสวดภาวนา


กริดรีบตะโกน


“ตั้งสติไว้!!”


“…!”


เมื่อได้ยินเสียงตวาดจากกริด โค้กและเลซี่รีบลืมตาและเงยหน้าขึ้นมองหัวหน้าพวกตน


ทันใดนั้นพลันเห็นภาพที่น่าตกตะลึง


ท่ามกลางแรงระเบิดจากเวทมนตร์ไม่ขาดสาย รอบตัวกริดเกิด ‘วงแหวนโลหะ’ ล้อมรอบ สิ่งนี้คือผลจากทักษะ ‘แปรสภาพอัตโนมัติ’ ซึ่งจะสร้างบาเรียคุ้มกายโลหะ ดูดซับความเสียหายชั่วคราวตามจำนวนการโจมตีแบบโพรเจกไทล์ที่เล็งใส่


กริดเปิดพลังเฟย์ริสในเสี้ยววินาทีก่อนเวทมนตร์ของบีฟรองเซ่ทำงาน


ปัจจุบัน ชายหนุ่มกำลังเสียหลักร่วงหล่นลงไปพร้อมโค้กและเลซี่


“จับไว้ให้แน่น!”


กริดตะโกน


เมื่อได้ยิน โค้กกับเลซี่รีบตะเกียกตะกายเกาะวงแหวนโลหะรอบตัวราชาโอเวอร์เกียร์ทันที


พรึบ—!


ถึงคราวกริดสยายปีกบ้าง


ลักษณะปีกคล้ายมังกร แต่ลดขนาดลงให้เหมาะสมกับตัวละครเผ่ามนุษย์ แตกต่างจากปีกค้างคาวของบีฟรองเซ่โดยสิ้นเชิง ทั้งรูปลักษณ์และบรรยากาศความน่าเกรงขาม


“อึ๋ย! ม…มังกร!!”


คนแคระเคย์แหกปากตะโกนอย่างหวาดผวาพร้อมกับฉี่รดกางเกง จากนั้นก็ส่งเสียงเชียร์บีฟรองเซ่อย่างออกนอกหน้า


“ท…ท่านผู้คุม! ม…มัวทำอะไรอยู่ครับ! รีบจัดการผู้บุกรุกชั่วช้าเร็วเข้า!”


“…”


เป็นตัวละครประเภทน่ารำคาญสินะ…


ขณะกริดเหลือบมองเคย์ซึ่งกำลังแสดงสีหน้าลนลาน ชายหนุ่มกดปุ่มในมือเพื่อดึงใบดาบท้าทายเทพประกอบกลับด้ามจับ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,453
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เฒ่าเคย์ เดี๋ยวจะโดนเคาะด้วยด้ามดาบ

    ReplyDelete
  2. เป็นเกมที่เนื้อเรื่อง​ยาวมาก
    เล่นมากี่ปีแล้วเนี่ย
    ในชีวิตจริง​ไม่เกินเดือน​ มีเวลตันละ🤭
    สนุก​มาก​ขอบคุณ​ครับ​

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้ากะเวลาคร่าวๆ น่าจะประมาณ 6 ปี(ในโลกความจริง) นับจากแข่งนานาชาติครั้งแรกคือครบสองปี ระยะเว้นจัดแข่งคือประมาณปีนึงแต่มีบางครั้งหนึ่งปีสามเดือน ตอนนี้นานาชาติผ่านครั้งที่สี่ไปแล้วสักพัก เพราะงั้นระยะเวลาเกมเปิดน่าจะประมาณ 6 ปีแล้ว ถ้านับในเกมที่เวลาเร็วกว่าสามเท่าก็เกือบยี่สิบปีแล้ว

      Delete
    2. เท่าที่ดูจากเนื้อเรื่องที่เปิดเผย คงเป็นเกมแบบที่เนื้อเรื่องจะงอกขึ้นเรื่อยๆอย่างอิสระผนวกกับเนื้อเรื่องที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก ไหนจะที่อวยว่า"ลิมซอลโฮ"คืออัจฉริยะที่สร้าง"มอเฟียส"ปัญญาประดิตที่ฉลาดล้ำที่สุดในเรื่องแล้วก็คงวางระบบให้สร้างเนื้อเรื่องแล้วก็แนวทางดำเนินไม่รู้อยู่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้เล่นได้กระทำ

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00