จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1063



“เป็นแม็ปที่ซับซ้อนมาก…!”


นั่นคือความรู้สึกแรกของเลซี่


กริดและโค้กก็คิดแบบเดียวกัน


โลกซาทิสฟายถูกออกแบบให้คล้ายคลึงโลกมนุษย์ โดยส่วนมากมักนำมาแต่ข้อดี และแต่งแต้มเสริมความน่าอยู่เข้าไปเล็กน้อย


แต่กับคุกนรกแล้วไม่ใช่


ตามปรกติแล้ว แผนที่ทั่วไปของซาทิสฟายจะเสมือนโลกจริงราว 99.9% อีก 0.1% มีไว้สำหรับปรุงแต่งความแฟนตาซีลงไป


ทว่าสำหรับคุกนรก มันเสมือนจริง 100%


รูปร่าง กลิ่น สีสัน พื้นผิว และหลักฟิสิกส์ ทุกสิ่งผสมกลมกลืนจนเกิดเป็นบรรยากาศคล้ายโลกความจริงจนน่าขนลุก เหมือนจนผู้เล่นทั้งสามไม่สามารถแยกแยะว่า ภาพตรงหน้าคือเกมออนไลน์หรือความเป็นจริงกันแน่


อีกหนึ่งจุดซึ่งแตกต่างจากแม็ปทั่วไปโดยสิ้นเชิงก็คือ… เสียงประกอบฉากหลัง


ที่นี่ไม่มี!


‘อดสงสัยไม่ได้ทุกที ที่จริงแล้ว ประธานลิมชอลโฮคือมนุษย์ต่างดาวที่ปลอมตัวเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือเปล่า…?’


ตึ๋ง… ตึ๋ง…!


หยดน้ำไหลซึมจากร่องหินและกระทบกับพื้นจนเกิดเสียงก้องทั่วทางเดินคุก


การเคลื่อนตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะก้อนหินด้านหน้ามีรูปทรงแปลกประหลาดไม่เหมือนเดิมเลยสักครั้ง ยิ่งเดินก็ยิ่งพิสดารยากคาดเดา ต้องคอยระมัดระวังทุกฝีก้าว


ทางเดินคุกนรกไม่ใช่ทางตรงยาวเรียบง่ายเหมือนท่อระบายน้ำ หากแต่เป็นกำแพงหินซับซับซ้อนคล้ายกับวงกต… วงกตยากบัดซบ


ยิ่งเดินลึกเข้าไป แสงสว่างยิ่งน้อยลงทุกขณะจนแทบมองอะไรไม่เห็น


“ชักประหม่าแล้วสิ”


เมื่อระยะการมองเห็นเหลือเพียงหนึ่งเมตร โค้กกล่าวกับพวกพ้องด้วยเสียงสั่นเครือ


ไม่มีการเสแสร้งในน้ำเสียงโค้ก รู้สึกหวาดกลัวระดับใดก็แสดงออกบอกกล่าวเช่นนั้น


กริดตำหนิ


“นายไม่เคยฝึกทหารงั้นหรือ? เมื่อก่อนฉันเป็นแนวหน้า เผชิญบรรยากาศอึดอัดแบบนี้จนชาชินแล้ว”


“แนวหน้าเชียวหรือครับ? กริดช่างยอดเยี่ยมแม้แต่ภายในกองทัพของจริง…”


“ฉันพูดเล่น”


สามคนนี้กำลังนำประสบการณ์ฝึกทหารสุดโหดบนโลกจริงมาคุยเล่นฆ่าเวลาในคุกนรกหรือ?


บทสนทนาค่อนข้างประหลาด แต่ก็พอจะเข้าใจได้หากประเมินว่าพวกมันล้วนเป็นชาวเกาหลี


สำหรับผู้เล่นชายจากชาติอื่น ไม่ใช่เรื่องปรกติถ้าจะนำข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกทหารออกมาพูดภายในเกม ไม่มีใครจู่ๆ ก็พูดกับคนแปลกหน้าว่า ‘นายไม่เคยอยู่ในสภาพอึดอัดแบบนี้มาก่อนหรือ? แต่ฉันเคยนะ ในตอนฝึกทหาร’ ไม่มีแน่นอน


ดังนั้น ปัจจัยซึ่งทำให้สถานการณ์ผิดเพี้ยนจากปรกติคือเรื่องที่ทั้งสามล้วนเป็นชาวเกาหลี


เลซี่หลอมรวมกลมกลืนเข้ากับกริดและโค้กได้อย่างเป็นธรรมชาติผ่าบทสนทนาซึ่งทุกคนเข้าใจร่วมกัน


“ทหารแนวหน้ามิได้มีเกียรติเสมอไป ผมเองก็เคยสังกัดทัพหน้าในหน่วย XX แต่พอเอาเข้าจริง พวกเราฝึกน้อยกว่าทัพหลังเสียอีก เนื่องจากเวลาทั้งหมดสิ้นเปลืองไปกับการเข้าเวร”


“ต้องมีเกียรติอยู่แล้ว ทหารทัพหน้าคอยเสี่ยงชีวิตแทนผู้อื่นอยู่เสมอ ขอเพียงจิตใจเข้มแข็งก็น่ายกย่อง ไม่จำเป็นต้องเก่งฉกาจ”


“ทุกตำแหน่งในกองทัพต่างมีข้อดีที่น่าภาคภูมิใจแตกต่างกันไปเสมอ”


ให้ตายสิ… ที่นี่ไม่ใช่โลกจริงสักหน่อย


ขณะบทสนทนาหัวข้อการฝึกทหารกำลังดำเนินไปอย่างออกรส


หงึกหงึก…!


หัวไหล่กริดพลันสั่นระริก


ในมุมมองคนทั่วไป หากบรรยากาศรอบข้างมืดมิด สิ่งแรกซึ่งต้องหวาดกลัวคือการลอบจู่โจมจากศัตรู มิใช่ภูตผี


แต่กับกริดนั้นตรงกันข้าม


หากเป็นมนุษย์บัดซบไม่ว่าหน้าไหน มันสามารถบดขยี้ให้ราบคาบด้วยพลังมหาศาล แต่กับภูตผีแล้วทำเช่นนั้นไม่ได้


ในอดีต กริดเคยมีประวัติฉี่ราดต่อหน้าบรรพบุรุษข่านมาก่อน จนถึงปัจจุบัน โรคกลัวผีก็ยังรักษาไม่หายขาดเสียที


เนื่องด้วยภาพลักษณ์ กริดไม่สามารถแสดงความรู้สึกแท้จริงออกไปได้ ภายในใจมันกำลังกระวนกระวายสุดขีด คุกนรกแห่งนี้ไม่ต่างอะไรกับขุมนรกของจริงเลยสักนิด


ผีสามารถปรากฏตัวได้ทุกเมื่อ!


แน่นอน โค้กและเลซี่ย่อมไม่ทราบว่ากริดกลัวจนเยี่ยวแทบราดแทบเล็ด ภาพจำราชาโอเวอร์เกียร์ในหัวทั้งสองคือ… บุรุษอันดับหนึ่งของโลก


กษัตริย์แสนสง่าผ่าเผย ตำนานผู้มาพร้อมอำนาจบารมี คงยากจะให้จินตนาการว่าเคยกลัวผีจนฉี่ราด


“หลอดไฟของพวกเราทำหน้าที่ได้ไม่เลว”


กริดพยายามระงับความรู้สึกประหม่าโดยลูบศีรษะ ‘ภูตแสง’ อย่างอ่อนโยนเพื่อสงบจิตใจ


หากปราศจากภูตแสง อย่าว่าแต่หนึ่งเมตรเลย ลำพังฝ่ามือตัวเองก็เกรงว่าจะมองไม่เห็น


เลซี่จ้องมองภูตแสงพลางซักถาม


“สาเหตุที่สมาชิกโอเวอร์เกียร์ส่วนใหญ่ครอบครองภูตธาตุ มาจากความช่วยเหลือของท่านจอมปราชญ์สติกส์หรือครับ?”


“หืม ไม่ใช่หรอก ถึงสติกส์จะเป็นมหาจอมปราชญ์สุดทรงปัญญา แต่เขามีพลังไม่มากพอจะมอบภูตธาตุให้มนุษย์”


“หมายความว่า… พวกคุณทุกคนล้วนถูกต้นไม้โลกอวยพร?”


“ถูกต้อง… รู้จักพรต้นไม้โลกด้วยหรือ?”


สำหรับท็อปแรงเกอร์ การรู้จักตัวตนของจอมปราชญ์สติกส์ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ สติกส์คือตัวละครซึ่งมีอิทธิพลและบทบาทมากพอสมควรในโลกซาทิสฟาย


แต่จะมีแรงเกอร์สักกี่คนทราบเรื่องพรจากต้นไม้โลก?


กริดค่อนข้างทึ่ง เลซี่มีข้อมูลของพรต้นไม้โลกได้อย่างไร? ทั้งที่ตัวมันไม่เคยไปเยือนป่าเอลฟ์เลยสักครั้ง


เลซี่ถ่อมตน


“ก็พอจะมีข้อมูลอยู่บ้างครับ ทำงานภายในวังหลวงจักรวรรดิ ข่าวลือข่าวจริงเล็ดลอดผ่านหูทุกวัน เคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม้โลกมาบ้าง”


“อา…”


กริดพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่กล่าวสิ่งใดต่อ


แต่ด้านโค้กนั้นไม่ใช่ สำหรับมัน นี่คือโอกาสแสนล้ำค่าในการล้วงข้อมูลลับจากเลซี่!


“องค์ชายดูรันดัลเป็นคนยังไงหรือ?”


“เห็นแก่ตัวพอสมควร และมีความอดทนค่อนข้างต่ำ แต่ขณะเดียวกันก็ดูแลประชาชนในการปกครองได้ไม่เลว”


“เลเวลล่ะ? สูงไหม?”


“ก็… ประมาณเจ็ดดยุค”


“สุดยอด… ต้องแข็งแกร่งเอาเรื่องแน่เลย”


“ตอบยากเหมือนกัน เลเวลไม่ได้บ่งบอกถึงทักษะหรือพลังพิเศษ และอันที่จริง ผมไม่เคยเห็นองค์ชายสองต่อสู้เลยสักครั้ง อย่างไรก็ตาม เป็นที่กล่าวขานกันว่า องค์ชายหนึ่ง โรแลนด์ และองค์ชายสี่ อีธาน ล้วนครอบครองสุดยอดพลังซึ่งยากจะหาใครในจักรวรรดิทัดเทียม”


“…!”


โค้กพลันตะลึง


เก่งกาจถึงขนาดเจ็ดดยุคไม่ใช่คู่ต่อสู้?


บรรดาองค์ชายเนี่ยนะ?


เด็กเอาแต่ใจซึ่งเติบโตในตระกูลใหญ่มั่งคั่งและสุขสบาย เกิดมาพร้อมพลังอำนาจตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่กลับแข็งแกร่งกว่าดยุคเหล่านั้น…


เลซี่ฉีกยิ้ม


“ลูกสิงห์ยังคงเป็นลูกสิงห์วันยังค่ำ มีชะตาต้องเติบใหญ่กลายเป็นราชสีห์ปกครองทุ่งกว้าง…


“แต่สถานการณ์ขององค์ชายสองไม่สู้ดีนัก ด้วยพลังที่ด้อยกว่าพอสมควร การสืบบัลลังก์จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย ไม่มีใครทราบว่าอนาคตองค์ชายสองจะเป็นเช่นไร”


“ไม่เห็นน่าประหลาดตรงไหน ยิ่ง NPC มีตำแหน่งพิเศษมากเพียงใด พลังแฝงติดตัวย่อมมหาศาลตามไปด้วย ความแข็งแกร่งของตัวละครจะแปรผันตามพลังแฝง บางที สัตว์ประหลาดอันดับหนึ่งของทวีปคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากองค์จักรพรรดิ”


หลังจากได้ยินคำพูดกริด โค้กเริ่มคล้อยตามและมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกขนาดนั้น บางทีอาจแปลกกว่าหากเจ็ดดยุคเกิดแข็งแกร่งกว่าองค์ชายซึ่งต้องสืบบัลลังก์ในภายหลัง…


คงได้เกิดกบฏแน่


โค้กยังคงชวนเลซี่คุยเรื่อยเปื่อย


“องค์ชายดูรันดัล รวมถึงราชวงศ์คนอื่น พวกเขาคิดอย่างไรกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์?”


นี่เป็นประเด็นสำคัญ


โค้กแสดงแววตาเป็นประกายอย่างคาดหวัง


ทันใดนั้น


“ผมคงพูดไม่ได้”


เลซี่ตัดบท


“ผมดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกคุณสองคน และขอสารภาพตามตรงว่า ในฐานะชาวเกาหลีคนหนึ่ง ผมติดตามและชื่นชมกริดมานานแล้ว…


“แต่ผมเป็นอัศวินรับใช้เจ้านาย ไม่สามารถกล่าวในสิ่งที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงบ้านเมือง ได้โปรดช่วยเข้าใจด้วย”


“อ๊ะ…! ต้องเข้าใจอยู่แล้ว! ขอโทษที บังเอิญตื่นเต้นไปหน่อย ซักถามเรื่อยเปื่อยจนลืมตัว”


“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ”


โค้กซึ่งกำลังก้มศีรษะพลันอมยิ้ม เลซี่ก็เช่นกัน


หลังจากยืนมองบรรยากาศระหว่างคนทั้งสอง


กริดเพิ่งตระหนักได้ว่า…


‘จนถึงเมื่อครู่ โค้กพยายามล้วงข้อมูลฝ่ายจักรวรรดิอยู่หรือ?’


ฆ่าเหยื่อให้ตายและกินศพ จากนั้นจะได้รับพลังบางส่วนจากศพที่กินเข้าไป


นั่นคือลักษณะพิเศษของโค้ก


เหล่าสิบวีรชนฯ เองก็เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาโค้กให้แข็งแกร่งก้าวกระโดด


พลังต่อสู้ของโค้กถือเป็นแนวหน้าของโลกในยุคปัจจุบัน ความสามารถกินซากศพนั้นหายาก ไม่แปลกหากมันจะได้ฉายาว่า ‘สัตว์กินเนื้อ’


แต่ปัจจุบัน กริดได้เห็นมุมฉลาดของเด็กหนุ่ม


อัศวินผู้เป็นองครักษ์บุตรชายตน


‘หมอนี่คือผลผลิตจากพรสวรรค์และความมุมานะงั้นหรือ? ขี้โกงฉิบ! ทำไมพระเจ้าถึงลำเอียงนัก’


ถึงจะทำทีบ่น แต่กริดรู้สึกอิ่มเอมใจ


คล้ายกับตนสุ่มกาชาเกมมือถือแล้วได้ครอบครองตัวละคร SSS สุดหายาก


ในที่สุดก็มีโอกาสทราบกับเขาเสียที ว่าคนดวงดีนั้นรู้สึกเช่นไร


‘อ๊ะ!’


อาการสั่นหายไปแล้ว…


กริดไม่หวาดกลัวว่าภายในคุกนรกจะมีผีกระโจนใส่หน้าอีกต่อไป คงเพราะได้อยู่ร่วมกับพวกพ้องที่เชื่อใจกระมัง…


แปะ!


กริดเดินไปตบบ่าโค้ก ซึ่งกำลังยืนก้มหัวขอโทษเลซี่ด้วยท่าทางสำนึกผิด


“เจ้าหนู! ของจริงกำลังจะเริ่มหลังจากนี้ เตรียมใจเอาไว้ให้ดี”


“ครับผม!”


ไม่ผิดแน่ ยิ่งเดินลึกเข้าไปมากเท่าไร ภาพสองข้างทางก็ยิ่งประหลาดมากเท่านั้น


ร่องรอยซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ


เบื้องหน้ากริดเป็นลูกกรงเหล็กหนา ล้อมรอบด้วยโพรงถ้ำเชื่อมติดกับผนังหินยาว ด้านในคงเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘คุกนรกแท้จริง’


“คุกนรกของจริงกำลังจะเริ่มแล้ว!”


หลังจากชำเลืองอ่านข้อความระบบมากมายตรงมุมสายตา ชายหนุ่มรีบชักดาบท้าทายเทพออกมาถือและกำแน่น


ดาบอัสนีฯ ไม่ถูกหยิบออกมาใช้เพราะสนามต่อสู้มีลักษณะค่อนข้างคับแคบ หากเพลิงทมิฬอุบัติขึ้นจนผนังถล่มใส่ พวกมันคงไม่แคล้วถูกหินทับตายหรือก็ไม่ถูกฝังตลอดกาล


ครืดด ครืดด!


เสียงบางสิ่งกำลังขยับ คล้ายโซ่ลากห้อยไปกับพื้นดิน ช่างไม่รื่นหูเลยสักนิดเดียว ต้นเสียงดังมาจากจุดห่างไกล ไกลจนความสว่างของภูตแสงส่องไม่ถึง


ทันใดนั้น เสียงคล้ายโซ่ขนาดหนาและใหญ่ลากพื้นเริ่มดังจากจุดใกล้เข้ามาทุกขณะ


“มาแล้ว”


เมื่อได้ยินคำเตือนจากกริด โค้กรีบชักดาบและโล่ด้วยสีหน้าตึงเครียด


นับตั้งแต่ตนกลายเป็นอัศวินประจำตัวของลอร์ด กริดได้สร้างอาวุธและชุดเกราะคุณภาพสูงมอบให้กับมือ


น่าเสียดายว่าดาบมีเกรดเพียงยูนีค แต่โล่บังเอิญโชคดีออกมาเป็นเลเจนดารี


แต่เกรดของไอเท็มสำคัญด้วยหรือ?


ด้วยฝีมือและจิตวิญญาณของช่างเหล็กในตำนานเช่นกริด ไอเท็มทุกเกรดล้วนออกมามีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมน่าชื่นชม


โดยเฉพาะระดับเสริมแกร่งซึ่งสูงถึง +8


โค้กใช้ดวงทั้งชีวิตหมดไปกับการตีบวกเรียบร้อยแล้ว มันหวังใช้ไอเท็มชุดนี้ไปอีกหลายปี


‘นี่น่ะหรือ… กิลด์โอเวอร์เกียร์’


เลซี่เหลือบมองไอเท็มสวมใส่ รวมถึงอาวุธและโล่ซึ่งโค้กเพิ่งนำออกมา มันเริ่มตระหนักถึงน้ำหนักของคำว่าโอเวอร์เกียร์ทันที


ภายในอาณาจักร กิลด์โอเวอร์เกียร์จะส่งคนไปผูกขาดมอนสเตอร์บอสสำคัญและจุดเก็บเลเวลยอดนิยมไว้เสมอ


จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของช่างเหล็กในตำนานนามว่ากริด คอยรังสรรค์บันดาลให้วัสดุกลายเป็นไอเท็มระดับสูงจนเกินเอื้อมคนธรรมดา


กริดไม่เคยผลิตไอเท็มกระจอก


สถานการณ์ของแรงเกอร์ชาวโอเวอร์เกียร์นับเป็นความใฝ่ฝันของผู้เล่นทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ตัวเลซี่เอง


‘อย่างไรก็ตาม’


ถึงกริดจะแข็งแกร่งกว่าตน แต่เขาเป็นเพียงผู้ช่วยในภารกิจเท่านั้น


กึก!


ตนคือแกนนำหลัก! หน้าที่คือการแบกรับความเสี่ยงแทนผู้ช่วย เลซี่คิด


“ผมจะเข้าไปทดสอบให้เอง!”


เมื่อสิ้นเสียงคำรามของเลซี่


ครืด!


เสียงคล้ายกับโซ่ลากพื้นดังขึ้นใกล้เข้ามาทุกขณะ พร้อมสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์สองคนปรากฏตัวสุด


อีกฝ่ายเป็นทหารหลวง ชื่อเหนือศีรษะเขียนไว้ว่า ‘ผู้คุมที่แปดเปื้อน’ ไม่สิ หากเพ่งมองให้ดี พวกมันคือมอนสเตอร์มากกว่า NPC มนุษย์


ถึงจะใช้อาวุธและชุดเกราะเหมือนกับคน แต่เป็นเรื่องยากเหลือเกินหากต้องฝึกเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ว่ามนุษย์


ผิวหนังกำลังละลายคล้ายเมือก ปากพ่นของเหลวมีพิษตลอดเวลา


เสียงดังห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่ความจริงแล้วนั่นไม่ใช่เสียงของโซ่ลากพื้น แต่เป็นเสียงเสียดสีระหว่างช่วงว่างลำคอของผู้คุมที่แปดเปื้อนซึ่งมีรูโหว่ขนาดใหญ่


ยิ่งเข้าใกล้ เสียงเสียดสีก็ยิ่งฟังดูน่ากลัว


เปรี้ยง—!!


ฉึก!


การต่อสู้แสนดุเดือดเริ่มต้นขึ้น เลซี่ใช้โล่รับสองดาบไว้ได้ไม่ยากเย็น ก่อนจะใช้ดาบตนเองแทงทะลวงใส่ช่องท้องของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งผ่านช่องว่างโล่


เป็นเทคนิคชั้นสูงที่กริดค่อนข้างทึ่ง เลซี่รวบรัดกระบวนท่าป้องกันและสวนกลับให้เหลือเพียงหนึ่งจังหวะได้อย่างชำนาญ


“ทักษะ?”


“ไม่ครับ นั่นคือการควบคุมธรรมดา”


โค้กอธิบาย


“หากพลังโจมตีอีกฝ่ายไม่สูงไปกว่าค่าดูดซับของโล่ ถือเป็นท่าไม้ตายหากินของผู้ใช้โล่เลยทีเดียวครับ”


“แต่ฉันไม่เคยเห็นแวนเนอร์ทำ…”


“เอ่อ… เทคนิคเมื่อครู่ค่อนข้างซับซ้อน และยิ่งศัตรูมีทักษะรุนแรง โอกาสทำสำเร็จก็ยิ่งมีต่ำ”


“จริงด้วยสินะ”


สำหรับกริด หากต้องปาร์ตี้ร่วมกับแวนเนอร์ ส่วนใหญ่จะหมายถึงการล่าบอสพิเศษหรือไม่ก็ศัตรูแข็งแกร่ง


อีกนัยหนึ่ง ศัตรูมักเป็นตัวตนทรงพลังกว่าแวนเนอร์เสมอ โดยเฉพาะมอนสเตอร์บอส


และท่าโจมตีมอนสเตอร์บอสโดยส่วนมากจะมีความรุนแรงสูงเกินกว่าค่าดูดซับโล่ ส่งผลให้แวนเนอร์ทำได้เพียงตั้งรับด้วยทักษะพิเศษ โอกาสโจมตีสวนกลับแบบเลซี่แทบเป็นศูนย์


“สำหรับตัวผม อัตราการสวนกลับต่อมอนสเตอร์ในเลเวลเดียวกันจะอยู่ราว 40% เท่านั้น”


“…หา?”


ขนาดเลเวลเท่ากันยังแค่ 40% เองหรือ?


แล้วทำไมเลซี่ถึงทำได้บ่อยครั้งนัก?


กริดหมดคำพูดชั่วขณะ


จากสถานการณ์ต่อสู้ปัจจุบัน คำนวณอย่างหยาบด้วยตาเปล่า เลซี่สามารถบล็อกและแทงสวนกลับในจังหวะเดียวด้วยอัตรา 70%


แถมยังทำกับมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่า…


“ฝีมือของเขาไม่ธรรมดา ขนาดผมค่อนข้างมั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่หลังจากได้เห็นแบบนี้ ทำเอาไม่กล้าแสดงนามบัตรต่อหน้าเลย”


“…”


โค้กมีพรสวรรค์สูงและฝีมือควบคุมตัวละครระดับโดดเด่น แม้กระทั่งในหมู่หัวกะทิของโอเวอร์เกียร์ อาจไม่ถึงระดับเฟคเกอร์ แต่ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยไปมาก


กระนั้น โค้กกลับบอกว่า หากอยู่ต่อหน้าเลซี่ แม้แต่ตนก็ไม่กล้าแสดงนามบัตร อีกฝ่ายต้องเป็นสัตว์ประหลาดระดับไหนกัน?


“เก่งเท่าเฟคเกอร์เลยหรือ?”


“ต่ำกว่าอาจารย์เฟคเกอร์หนึ่งระดับ ประมาณมิสเตอร์เฮ่าครับ”


“เฮ่าเชียว…?”


บนโลกนี้มีพวกไม่ปรกติมากเกินไปแล้ว


ขณะกริดนึกชื่นชม


เคร้ง!!


“อั่ก…!”


ผู้คุมที่แปดเปื้อนทั้งสองตนโหมกระหน่ำอย่างไม่หยุดพักจนเลซี่เริ่มเสียสมาธิ ท้ายที่สุด มันตั้งรับพลาดจนร่างกายเสียสมดุลทรงตัว


ร่างกายโงนเงน โล่เหล็กหักเหผิดมุมและไม่สามารถดึงกลับ ทรวงอกเปิดว่าง ผู้คุมที่แปดเปื้อนตนหนึ่งจ้วงแทงดาบเข้าใส่โดยไม่รีรอ


“หัวใจเหล็กกล้า!”


เลซี่เริ่มใช้ทักษะเป็นหนแรก บัฟเมื่อครู่จะช่วยเพิ่มพลังป้องกันพร้อมกับลดความเสียหายทางกายภาพที่ได้รับ ขณะเดียวกันยังทำให้การโจมตีครั้งถัดไปรุนแรงขึ้น


เคร้ง!


โฮกกกก!


หนึ่งในผู้คุมพลันร้องครวญครางพลางเซถอยหลังเมื่อถูกดาบยาวแทงใส่หนักหน่วง เลซี่ไม่พลาดโอกาสทอง มันชาร์จตามเข้าไปด้วยโล่ ผลของทักษะพุ่งชนช่วยให้หลบหลีกการโจมตีจากผู้คุมตัวด้านข้างสำเร็จ


เปรี้ยง—!


โล่กระแทกใบหน้าผู้คุม ศัตรูเกิดอาการมึนงง


เลซี่ใช้มือซ้ายข้างถือโล่บีบศีรษะผู้คุมแน่นถนัด พร้อมกับกระหน่ำแทงธรรมดาด้วยดาบ


หลังจากการต่อสู้ดุเดือดเลือดพล่านจบลง หนึ่งในผู้คุมกลายเป็นแสงสีเทา โดยเลซี่สูญเสียพลังชีวิต 10% และมานา 15%


ขณะเดียวกัน ผู้คุมที่แปดเปื้อนอีกหนึ่งตัวได้พ่นน้ำลายพิษจากปากพร้อมกับแทงด้วยดาบซ้ำ เลซี่ใช้โล่ปัดป้องพิษและใช้ในมืออีกข้างปัดป้องทันควัน


“ต้องขอบคุณเลซี่ พวกเราจึงทราบจุดอ่อนจุดแข็งของมอนสเตอร์”


ถึงเวลาโค้กลงมือ


มันไม่สามารถสวนกลับพร้อมตั้งโล่ได้บ่อยครั้งเหมือนกับเลซี่ อัตราความสำเร็จค่อนข้างต่ำ


แต่โค้กขยับร่างกายได้เร็วกว่าสองเท่า


ยิ่งการต่อสู้กับมอนสเตอร์ผ่านไป ความแตกต่างเริ่มเผยให้เห็นอย่างชัดเจน


ทุกครั้งที่โค้กแทงใส่ผู้คุม หลอดพลังชีวิตอีกฝ่ายจะลดฮวบ และเมื่อถูกโจมตี ขีดเลือดของโค้กแทบไม่กระดิก


ไม่ใช่ความโอเวอร์เกียร์เพียงปัจจัยเดียว แต่มีผลมาจากทักษะของมอนสเตอร์ในอดีตซึ่งโค้กเคยกินศพและเปลี่ยนเป็นพลัง มันเลือกเฟ้นชนิดมอนสเตอร์เป็นอย่างดีเพื่อส่งเสริมรูปแบบการต่อสู้ที่ตัวเองถนัด


เลเวลของโค้กกับเลซี่ต่างกันเพียง 4 ระดับ แต่ส่วนต่างจากทักษะกินศพและไอเท็มได้สร้างช่องว่างกลายเป็น 10, 20 หรือ 30 ระดับเลยทีเดียว


เฉกเช่นกริดผู้เป็นสัตว์ประหลาดด้านแต้มสถานะ โค้กคือ ‘กริด2’ ผู้เร่งปั๊มแต้มสถานะด้วยการกินศพอย่างหิวกระหาย


“…”


เลซี่จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเหม่อลอย


มันตระหนักว่าตนมีเลเวลต่ำกว่าโค้ก รวมถึงสวมใส่ไอเท็มด้อยกว่า แต่มันก็ไม่คิดว่าช่องว่างระหว่างทั้งสองจะต่างกันราวท้องฟ้าหุบเหวถึงเพียงนี้


โค้กตะโกนบอกกับเลซี่ซึ่งกำลังแสดงสีหน้าห่อเหี่ยวและเจ็บใจ


“เตรียมใจไว้ให้ดี! ผมรู้ว่ามันยากจะยอมรับ”


“…?”


หมอนี่หมายถึงอะไร?


เลซี่ไม่เข้าใจเลยสักนิด


ทันใดนั้น เสียงผู้คุมดังแว่วจากความมืดมิดเพิ่มอีกสองตัว


โผละ!


ภายในไม่ถึงวินาที กริดฆ่าเรียบ…


ราชาโอเวอร์เกียร์เช็ดคราบเลือดออกจากดาบด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางหันมาพูดกับทั้งสอง


“มอนสเตอร์มีเลเวลแค่ 380 บริเวณนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น พวกนายระวังตัวไว้ให้ดี”


“อ…อะ…”


นี่สินะ สาเหตุที่โค้กบอกให้เตรียมใจ…


เลซี่บรรจงเช็ดคราบพิษออกจากโล่ด้วยสีหน้าเศร้าซึม มันละอายแก่ใจ ที่ตนเคยหยิ่งผยองการต่อสู้แสนยอดเยี่ยมของตัวเองในยกแรก


กริดและโค้กต่างมองชายคนนี้ด้วยสีหน้าชื่นชมเอ็นดู


‘ถ้าหมอนี่กลายเป็นเบ๊เรา…’


‘ต้องหาโอกาสดวลเพื่อขัดเกลาฝีมือควบคุม!’


‘…ฉันอยากกลับบ้าน’


ปาร์ตี้สามคนสามอารมณ์กำลังเดินถลำลึกเข้าไปในคุกนรกแสนมืดมิดและไม่ทราบว่ามีสิ่งใดกำลังรออยู่


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,452
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สงสารเลซี่เลย เจอกริด1กริด2 เข้าไป

    ReplyDelete
    Replies
    1. แล้วเลซี่คือ เฮา2 ที่แพ้กริดตลอด 555+ แพ้จนเปนเพื่อนที่เชื่อใจกัน

      Delete
  2. ให้เป็น​เบ๊....
    ใจร้าย😆

    ReplyDelete
  3. กริดเดียวก็แย่แล้วนี่เจอดับเบิ้ลกริด 555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00