จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1078



เหตุการณ์สำคัญของซาทิสฟายมักมีพยานรู้เห็นเสมอ


หมายถึงทีมดูแลเกมใช่ไหม?


ผิดแล้ว… ผู้เล่นต่างหาก


ด้วยประชากรกว่าสองพันล้านซึ่งกระจายตัวอยู่ทุกมุมโลกซาทิสฟาย พฤติกรรมของพวกมันจะส่งผลต่อเรื่องราวไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม


และครั้งนี้ก็ไม่ต่าง


ณ วังหลวงของมหาจักรพรรดิ สิ่งก่อสร้างซึ่งกล่าวกันว่า เป็นสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของทวีปตะวันตก


จากบรรดาหลายพันชีวิตภายในวังหวัง ไม่แปลกหากจะมีผู้เล่นปะปนอยู่บ้าง


ผู้เล่นส่วนน้อยสามารถตบตาองครักษ์หลวงและลอบแทรกซึมเข้าวังหลวงในระยะใกล้ และบางส่วนทำได้เพียง ยืนเขย่งจ้องมองจากด้านนอกโถงทางเดิน ภาพเหล่านี้คือเหตุการณ์ปรกติเมื่อมีเชื้อพระวงศ์หรือบุคคลใหญ่โตปรากฏ


และปัจจุบัน พวกมันกำลังได้เห็น…


การปรากฏตัวของอีธาน


คนทรยศ ต้นตอความสับสนอลหม่านของวังหลวง ได้ทะลวงผ่านมาถึงท้องพระโรงใหญ่โดยสังหารองครักษ์หลวงไปมากมาย บนพรมทางเดินเปี่ยมด้วยคราบโลหิตชุ่มโชกเจิ่งนองพื้น


อีธานผลักบานประตูหยกขนาดยักษ์เข้าไปอย่างไม่รีบร้อน


ตามต่อด้วยความวุ่นวายโกลาหล


ผู้เล่นใกล้เคียงย่อมมิอาจระงับความสอดรู้สอดเห็นของตัวเองได้ พวกมันพยายามขยับตัวเฉียดใกล้ท้องพระโรงเพื่อให้เห็นภาพและได้ยินเสียงชัดเจน


กฎหมายเข้มงวดมิอาจอยู่เหนือความตื่นเต้นขณะได้สัมผัส ‘เหตุการณ์ใหญ่’ ตรงหน้า


ผู้เล่นกว่า 99.9% ล้วนทราบว่า พวกมันสามารถถูกเชือดทิ้งหรือขับไล่ออกวังหลวง ซึ่งถือเป็นโทษสถานหนัก


แต่กระนั้น ไม่มีใครยอมหยุด


หากได้ทำงานในวังหลวง หมายความว่าต้องเป็นผู้เล่นระดับท็อปของแต่ละสาขา


กลุ่มแรงเกอร์เหล่านี้ย่อมทราบถึงความสำคัญของ ‘ข้อมูล’ จุดมุ่งหมายของทุกคนจึงเหมือนกันคือ ยืนฟังสนทนาระหว่างจักรพรรดิและองค์ชายสี่ให้ได้นาน แม้ต้องสละชีวิตก็นับว่าคุ้มค่า


‘ผู้สังหารอดีตจักรพรรดินีอาเรีย… แท้จริงแล้วคือจักรพรรดินีแมรี่?’


‘สามดยุคถูกจับขังคุกนรกเพราะหวังกราบทูลความจริงข้อนี้ต่อฝ่าบาท…’


‘ตระกูลสุนัข…’


ถือเป็นข้อมูลน่าสนใจมาก


สามารถขายให้กับสื่อรายใหญ่ของโลกเพื่อปั่นกระแสปูมหลังเบื้องลึกซาทิสฟาย แถมยังอาจใช้เป็นข้อมูลสำหรับตีสนิทบรรดาอัศวินจักรวรรดิ ซึ่งยังไม่ตระหนักถึงความจริงเกี่ยวกับราชวงศ์… ไม่ว่าจะทางไหนก็คุ้มค่า ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต


ฉับ. ฉับ.


หนึ่งคนเนียนตัดแต่งกล้วยไม้


พรืด. พรืด.


อีกหนึ่งคนทำความสะอาดฝุ่นกรอบหน้าต่าง


ทันใดนั้น… เสียงฝีเท้าใครบางคนดังลอดเข้าโสตประสาทบรรดาผู้เล่นรอบโถงทางเดิน


สวบ. สวบ. สวบ.


ฟังแล้วเย็นสันหลังวาบ ชวนให้อึดอัด


ไม่น่าเชื่อ… บนทางเดินแดงฉานคละคลุ้งกลิ่นคาวเลือดเช่นนี้ มีใครสามารถย่างกรายอย่างใจเย็นได้ด้วยหรือ?


แม้เยื้องย่างใกล้ท้องพระโรงก็ยังไม่เปลี่ยน


เมื่อผู้เล่นหลายคนสัมผัสถึงความไม่ปรกติ พวกมันเริ่มตื่นตัวหวาดระแวง


หลังจากตระหนักว่าเจ้าของฝีเท้าไม่ใช่บุคคลธรรมดา กลุ่มผู้เล่นต่างรีบทำตัวให้ใกล้เคียงกับอากาศธาตุ พยายามจืดจางให้มากเข้าไว้


แต่ทุกการกระทำล้วนไร้ประโยชน์


แกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์


ใครบางคนเคยเห็นกับตามาแล้ว แต่หลายคนเคยได้ยินมาจากข่าวลือเท่านั้น


ในวินาทีซึ่งสุดยอด NPC ลึกลับไร้อดีตปูมหลังปรากฏตัว ผู้เล่นทุกคนถูกสยบในพริบตา


[ท่านไม่สามารถหลอกลวงประสาทสัมผัสของเป้าหมาย]


[ทักษะ ‘พรางตัว’ ถูกยกเลิก]


[เป้าหมายตระหนักถึงเจตนาแท้จริงของท่าน]


[ทักษะ ‘ทำตัวเนียน’ ถูกยกเลิก]


[เป้าหมายตรวจจับเวทมนตร์จากตัวท่าน]


[เวทมนตร์ ‘คาเมเลี่ยน*’ ถูกยกเลิก]


(*กิ้งก่าเปลี่ยนสี)


และอีกมากมาย


สุดยอดเวทมนตร์และทักษะกลมกลืนสิ่งรอบข้างของผู้เล่น ถูกยกเลิกอย่างง่ายดายเพียงเพราะแกรนมาสเตอร์ปรากฏตัว


“อ…เอ่อ อ…อะ”


การถูกเผยตัวตนทำให้สีหน้าของพวกมันทุกคนขาวซีดคล้ายไก่ต้ม เมื่อต้องเผชิญหน้าแกรนมาสเตอร์ในระยะประชิด ความสิ้นหวังพลันอัดแน่นท่วมท้นหัวใจ ตระหนักว่าตัวเองเป็นเพียงมดปลวกริมทางแสนต่ำต้อยด้อยค่า


จากนั้น


สวบ.


แกรนมาสเตอร์มิได้แยแส…


มันไม่สนใจใคร เพียงเดินผ่านเข้าไปในท้องพระโรงด้วยสีหน้าเฉื่อยชา


“เมื่อครู่มันอะไรกัน… หมอนั่นเป็นจอมอสูรหรือไง”


“…”


ทุกคนยังมีชีวิตอยู่


หัวใจบรรดาผู้เล่นพลันหล่นไปอยู่ตาตุ่ม


แกรนมาสเตอร์คิดแทรกแซงปัญหาครอบครัวของตระกูลซาฮารันด้วยวิธีใด…?


ขณะความอยากรู้อยากเห็นของผู้เล่นเริ่มทวีเป็นเท่าตัว


“พวกนายรีบหนีไป!”


เสียงตะโกนอย่างลนลานของใครบางคนดังจากโถงทางเดินยาว


ผู้เล่นทุกคนต่างพากันประหลาดใจ พวกมันรีบหันไปมองตามต้นเสียง และได้พบใบหน้าอันคุ้นเคย


ซีบาล


หนึ่งในผู้เล่นทรงพลังของโลก และยังเป็นบริวารรับใช้อีธานภายใต้หน่วยจักรกลเวทมนตร์


ด้านหลังเป็นอัศวินสวมเกราะสีแดงหลายสิบ


“อัศวินสีชาด…!”


กลุ่มผู้เล่นต่างตื่นตระหนก ทักษะสำหรับหลบหนีจำนวนมากถูกเปิดใช้งาน


แต่ก็สายเกินไป


การปรากฏตัวของอัศวินหลักเดียวได้กีดขวางเส้นทางหลบหนีโดยสมบูรณ์ สีหน้าของบรรดาท็อปแรงเกอร์พลันซีดเซียว


“บัดซบ!”


ซีบาลสบถหัวเสียพร้อมกับชักดาบยาว มัน ‘พยายาม’ เข่นฆ่าผู้เล่นตรงหน้าโดยปราศจากความลังเล ส่งผลให้อีกฝ่ายประหลาดใจไม่น้อย


เคร้ง!


ทันใดนั้น สตรีผู้หนึ่งชักดาบตน ออกมาปัดป้องดาบซีบาลทันท่วงที


เธอคือซูซาน


ญาติไม่ห่างของอัศวินในตำนาน เมอร์เซเดส และยังเป็นสมาชิกกลุ่มอัศวินสีชาดใหม่ ขึ้นตรงต่อองค์จักรพรรดิ ไม่ผ่านลิมิตและแมรี่ ถูกปลุกปั้นโดยแกรนมาสเตอร์


“อย่าฆ่าพวกมัน จับไปขังคุกดีกว่า คนพวกนี้ตายไปก็คืนชีพใหม่ เราไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์ภายในวังหลวงถูกแพร่งพราย”


กล่าวกันว่า ความงามของซูซานไม่ด้อยไปกว่าเมอร์เซเดสเลยสักนิด แต่สีหน้าและอุปนิสัยกลับเย็นชาดุจดังน้ำแข็ง


ดวงตาระยิบระยับของเธอจดจ้องซีบาลเขม็ง


“เซอร์ซีบาล คุณไม่ได้ตั้งใจฆ่าพวกมันเพื่อหวังให้คืนชีพใช่ไหม?”


‘สายตาอะไรกัน…’


ความรู้สึกเหมือนกับถูกเทถังน้ำแข็งใส่


หากจ้องมองนานกว่านี้คงได้แข็งตายแน่


อึก.


ซีบาลกลืนน้ำลายพลางยิ้มแห้ง


“ไม่มีทาง… ก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ”


มุมสายตาซีบาลเหลือบมองกลุ่มผู้เล่น


พวกมันกำลังถูกกุมตัวให้คุกเข่า บางส่วนถูกกดให้นอนราบไปกับพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบ ชะตาของคนเหล่านี้ไม่แคล้วถูกจองจำไปอีกพักใหญ่


เสียเวลาเก็บเลเวล ทำภารกิจ และถูกผู้เล่นอื่นแซงหน้า ใครบางคนอาจต้องสูญเสียสัญลักษณ์แสดงตนซึ่งชื่อว่า ‘แรงเกอร์’


‘บ้าจริง!’


…ตัวมันเริ่มกังวลเกี่ยวกับผู้อื่นตั้งแต่เมื่อไร?


ซีบาลเป็นกังวลกับชะตากรรมของคนเหล่านี้จากก้นบึ้ง มันกำลังโกรธแค้นสตรีตรงหน้า


‘นังตัวแสบ!’


อีธานถูกประกาศให้เป็นกบฏแผ่นดิน หมายความว่า อาจต้องสูญสิ้นทุกสิ่งไป ไม่ว่าจะเป็นบารมีหรืออำนาจ


ซีบาลมีโอกาสมากมาย หากต้องการทิ้งอีธานและไปเกาะเจ้านายคนใหม่


แต่มันก็ไม่ทำ


ซีบาลเลือกคลุกคลีอยู่กับกลุ่มกบฏ และนำพาตัวเองให้ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก


เพราะเหตุใด?


เพราะมันคาดหวังว่า หากตัวเองพัฒนาความสัมพันธ์กับอีธานถึงค่าสูงสุด สิทธิ์การเป็นเจ้าของไรเดอร์สอาจถูกโอนถ่ายในสักวัน


แต่ความจริงแล้ว ประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งภายในใจคือ ‘คุณธรรม’ ต่างหาก


ตลอดหลายปีหลัง ซีบาลคอยรับใช้อีธานมานาน และมันก็เป็นฝ่ายได้รับความช่วยเหลือไม่ต่างกัน


สำหรับอีธาน ซีบาลได้พัฒนาจากนักขับทั่วไป กลายมาเป็นนักขับโบราณ จึงถือเป็นตัวตนพิเศษสำหรับแผนการใหญ่ในอนาคต


เมื่อครั้งซีบาลขับไรเดอร์สออกไปช่วยอาณาจักรฮาเค่น ขณะกลับถึงจักรวรรดิเพื่อเตรียมตัวรับโทษ อีธานกลับพูดว่า


“ขอบคุณสำหรับการแสดงศักยภาพแท้จริงของจักรกลเวทมนตร์ให้เห็น”


เพียงเท่านี้ มิได้คาดโทษแต่อย่างใด


ซีบาลฝึกหนักกับหน่วยจักรกลเวทมนตร์มานานหลายปีจนรู้สึกผูกพัน


แล้วจะให้ตนทิ้งทุกคนไปงั้นหรือ


สำหรับซีบาล นั่นเป็นไปไม่ได้เลย


นับตั้งแต่สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง มันเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของคนใกล้ตัวและเพื่อนร่วมงาน


‘ชิ! ขอให้สถานการณ์ผ่านไปราบรื่น…’


ซีบาลเหลือบมองอีธาน อีกฝ่ายกำลังยืนหลังบานประตูหยกซึ่งเปิดค้างครึ่งหนึ่ง หัวใจอดีตผู้เล่นอันดับสองของโลกกำลังกระวนกระวาย


แม้พวกตนจะได้รับการช่วยเหลือจากแกรนมาสเตอร์ แต่ขณะเดียวกัน ต้นตอของปัญหาก็มาจากแกรนมาสเตอร์เช่นกัน


แกรนมาสเตอร์คือบุคคลซึ่งไม่ควรมอบความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยประการทั้งปวง


ไม่อยากจะเชื่อว่ามันกล้าหักหลังจักรพรรดิ


‘มันจะได้สิ่งใดตอบแทน หากแต่งตั้งให้อีธานเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่…’


ความสัมพันธ์ระหว่างอีธานและแกรนมาสเตอร์มิได้แน่นแฟ้นยาวนาน แต่เกิดขึ้นในระยะหลังเนื่องจากมีผลประโยชน์ร่วมกัน


อีธานต้องการเป็นจักรพรรดิ และแกรนมาสเตอร์ต้องการบางสิ่งแลกเปลี่ยนจากพลังอำนาจเมื่ออีธานได้เป็นจักรพรรดิ


หรือก็คือ เมื่อมันได้รับสิ่งนั้นไปแล้ว ไม่มีใครตอบได้ว่า มันจะยังอยู่เคียงข้างอีธานหรือไม่


กล่าวตามตรง… ซีบาลพอจะเดาได้


จุดจบเดียวของอีธานในอนาคต


มันจะไม่ใช่ความสุข… อย่างแน่นอน


อีธานไม่มีอนาคตมานานแล้ว


ในอดีต มันอาจเคยปรารถนาเป็นจักรพรรดิเพราะมารดาคอยสนับสนุน แต่อีธานในปัจจุบันคือตัวตนแสนบิดเบี้ยว ด่าทอมารดาตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมาย และหันคมดาบใส่บิดาตัวเอง


มันก่อบาปมากมายเหลือเกิน ชนิดไม่มีทางได้รับการอภัยจากสวรรค์


‘เฮ่อ… อย่างน้อย ขอให้เกิดเรื่องดีๆ ในอนาคตอันใกล้บ้างก็พอ’


ในฐานะคนเคยมีบุญคุณ ซีบาลหวังให้อีธานได้รับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานก็ตาม


ถัดจากนั้นจะเป็นการชดใช้กรรมยาวๆ …


แล้วก็… อย่าได้ลืมโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของจักรกลเวทมนตร์มาทางนี้


ตำแหน่งดยุคด้วยยิ่งดี


***


ขณะด้านนอกท้องพระโรงเกิดความวุ่นวาย


“ด้วยอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของดาบแห่งปฐมจักรพรรดิซาฮารัน เราขอแต่งตั้งให้องค์ชายลำดับสี่ อีธาน ดำรงตำแหน่งมหาจักรพรรดิองค์ใหม่อย่างเป็นทางการ มีผลนับแต่นี้เป็นต้นไป”


“…”


ท้องพระโรงพลันเงียบสงัดราวป่าช้า


ทุกคนพลันทึ่งกับคำประกาศสุดเหลวไหลจากปากแกรนมาสเตอร์


ดยุคเกล็นฮาลได้สติกลับมาเป็นคนแรก มันแผดตะโกนด้วยใบหน้าแดงก่ำ


“ซิกเฟรคเตอร์! การประกาศจักรพรรดิองค์ใหม่ต้องมาจากดุลพินิจของฝ่าบาทเท่านั้น! นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? จักรพรรดิงั้นหรือ?”


“เจ้ายังไม่เข้าใจ ต่อหน้าดาบปฐมจักรพรรดิซาฮารัน สิ่งนี้มีอำนาจเพียงพอสำหรับแต่งตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรับฟังเสียงของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันแม้แต่น้อย ฐานะของพวกเราแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”


ท่าทีแกรนมาสเตอร์ยังคงราบเรียบไร้อารมณ์


เสียงเอื่อยเฉื่อยของมัน ใครได้ฟังเป็นต้องอ้าปากหาว


มอริสพลันฉุนเฉียว


“แล้วพวกเราจะเชื่อได้อย่างไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าดาบปฐมจักรพรรดิมีอำนาจมากมายถึงเพียงนั้น! แถมยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นดาบปฐมจักรพรรดิจริงด้วยซ้ำ!”


“เจ้าไม่รู้… แต่มีผู้หนึ่งรู้”


สายตาแกรนมาสเตอร์ยังคงจดจ้องจักรพรรดิฮวนเดอร์ไม่กะพริบ


“เจ้าคงเคยได้ยินความสำคัญของดาบปฐมจักรพรรดิซาฮารัน จากปากจักรพรรดิองค์ก่อนบ้างแล้วใช่ไหม”


“…”


“ฝ่าบาท…!”


เมื่อเห็นองค์จักรพรรดิเงียบงัน สีหน้าดยุคทั้งสองพลันเปลี่ยนเป็นม่วงคล้ำ


การไม่ปฏิเสธหมายถึง…


ยอมรับ


“หากลูกหลานของเราไม่รักษาสัญญา ท่านสามารถแย่งยิงบัลลังก์กลับคืนได้ทุกเมื่อ”


“…?”


“นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนซาฮารันจะสิ้นลมหายใจ และยังเป็นคำพูดสืบทอดระหว่างองค์จักรพรรดิจากรุ่นสู่รุ่น”


“ม…ไม่จริง”


สองดยุคและเบอินต่างตกตะลึงสุดขีด


พวกมันกำลังสับสน


เหตุใดปฐมจักรพรรดิถึงกล่าวเช่นนั้น?


สัญญาหมายถึงเรื่องใด…


และแกรนมาสเตอร์มีอายุเท่าไรกันแน่…


โดยไม่สนใจความฉงนของสามขุนนางใหญ่ แกรนมาสเตอร์สนทนากับฮวนเดอร์ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ


“ฮวนเดอร์ เจ้าหลงลืมงานของตัวเอง”


“…”


“เพิกเฉยต่อคำเตือนของเราสามหน แถมยังไม่ยอมใส่ใจคุกนรก”


ทันใดนั้น


“ร…เราขอโทษ”


หลังจากเงียบงันอยู่พักใหญ่ ฮวนเดอร์ถึงคราวเปล่งเสียงตอบสนอง


“ท่านไม่เคยอธิบายเรื่องคุกนรกเลยสักครั้ง และไม่เคยออกปากเตือนอย่างเป็นทางการ เพียงสั่งให้เราสำรวจคุกนรกอย่างไร้จุดหมายสองสามหน แต่เราก็ทำตามความของการของท่านทุกครั้งไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงไม่ออกปากเตือนให้เป็นกิจจะลักษณะ?


“เราไม่เคยทราบเลยว่า บรรพบุรุษได้ทำสัญญาใดไว้กับท่าน โดยเฉพาะสัญญาเกี่ยวกับคุกนรก ผ่านมาแล้วหลายปี บางสิ่งอาจตกหล่นเลือนหายไปตามกาลเวลา!”


“สมกับเป็นคนไม่เอาไหน”


แววตาแกรนมาสเตอร์แปรเปลี่ยนเป็นหนแรก


เป็นสายตาสมเพช คล้ายกำลังจ้องมองสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแสนอ่อนแอ


“หลังจากรับตำแหน่งจักรพรรดิ เจ้าก็เอาแต่ละเลยการงานและภาระรับผิดชอบ”


กึก.


แกรนมาสเตอร์ขยับตัวหนึ่งก้าว


“เจ้าไม่พยายามค้นหาเลยสักครั้งว่า สัญญาระหว่างเราและบรรพบุรุษหมายถึงสิ่งใด”


กึก.


สองก้าว


“เจ้าไม่เคยโทษตัวเอง เอาแต่เพิกเฉยเสียงจากเรา ผลักภาระความผิดให้ผู้อื่นตลอดเวลา”


กึก.


สามก้าว


เพียงแกรนมาสเตอร์ก้าวครบสาม มันส่งตัวเองมายืนตรงหน้าฮวนเดอร์แม้จะเคยอยู่ห่างถึงสามสิบเมตร


คล้ายกับห้วงมิติถูกหักเห…


เบอินสัมผัสได้เช่นนั้น


“เจ้าไร้ความสามารถและเห็นแก่ตัวกว่าจักรพรรดิทุกองค์ในอดีต การสูญเสียสตรีรักยิ่งเป็นเพียงข้ออ้างซึ่งเจ้าใช้เพื่อกลบเกลื่อนความไร้ฝีมือของตัวเองมาตลอด… แต่ในทางกลับกัน”


หลังจากวิจารณ์ฮวนเดอร์อย่างรุนแรงชนิดไม่ไว้หน้า แกรนมาสเตอร์ชำเลืองมองอีธาน


“บุตรชายของเจ้าเฉลียวฉลาด เพียงพาไปเที่ยวชมคุกนรกครั้งเดียว ก็ตระหนักถึงความต้องการของเราได้ทันที และยินดีเต็มใจรักษาสัญญา ช่างเหมือนกับซาฮารันกลับชาติมาเกิดไม่มีผิด ตัวเรารู้สึกปลาบปลื้มมาก”


ฉึบ.


เพียงแกรนมาสเตอร์ตวัดปลายนิ้วแผ่วเบา ‘ดาบปฐมจักรพรรดิซาฮารัน’ ได้หลุดจากสองมืออีธานซึ่งกำลังบีบไว้แน่น


ทันใดนั้น


วาบ—!


ปราณสีชาดปริมาณมหาศาลพวยพุ่งออกจากดาบรอบทิศ ย้อมให้ทุกสรรพสิ่งกลายเป็นสีแดงฉานเข้มข้นชั่วขณะ


สว่างถึงขนาดว่า กริดและพรรคพวกซึ่งถูกส่งลงมายังเขตรอบนอกวังหลวง สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,467
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มาแล้วครับ

    ReplyDelete
  2. มันจะจบแบบนี้ไม่ได้​ ค้าาาางงงงงงมากกกกกกก😱😱

    ReplyDelete
  3. ฮวนเดอร์มันก็ไม่ดีจริง ตอนแรกนึกว่าเจ้าชายลำดับ1 หรือ บาซาร่า จะได้ซะอีก

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00