จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1086
“สำนึกผิด? เหลวไหล!!”
ยูโทเปีย*ไม่มีอยู่จริง
( *ดินแดนในฝัน )
อาจสร้างสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยแก่คนหมู่มากได้ แต่ไม่มีทางสร้างความพึงพอใจให้ทุกฝ่ายสำเร็จแน่นอน
ปัจจุบัน คาซิมคือเครื่องพิสูจน์เรื่องนั้นได้เห็นภาพชัดเจน
กริดและเหล่าสิบวีรชนต่างกำลังคาดหวังอนาคตอันรุ่งโรจน์ในฐานะพันธมิตรอันแนบแน่นของจักรวรรดิ แต่ขณะเดียวกัน ความเดือดดาลของคาซิมก็ปะทุถึงขีดสุดเช่นกัน
แม้กระทั่งเรกัสซึ่งเคยเชื่อว่า ‘อาชุร่า’ น่ากลัวเป็นอันดับหนึ่งของโลก ก็ยังรู้สึกหวาดผวาไปถึงสันหลังเมื่อเห็นคาซิมวินาทีนี้
“…จักรวรรดิของพวกแกฆ่าล้างเผ่านีโรเพียงเพราะผิวหนังพวกเราดำมืด”
“…”
“…ถูกกล่าวหาว่าแอบฟังเสียงของจักรวรรดิเพียงเพราะมีใบหูใหญ่ ถูกกล่าวหาว่าเป็นสัตว์ป่าเพียงเพราะมีท่อนแขนยาว”
“…”
“เหล่าสตรีถูกขืนใจอย่างทารุณ เหล่าชายฉกรรจ์ถูกตัดแขนขาเยี่ยงของเล่น เหล่าเชื้อพระวงศ์ถูกจับใส่กรงขายเป็นเฉลยให้ขุนนาง”
“…”
“ไม่เพียงเพื่อนสนิทหรือครอบครัว แต่เผ่าพันธุ์ทั้งหมดของพวกฉันถูกลบหายไปจากแผ่นดิน!!”
น้ำตาไหลรินอาบสองแก้มคาซิมขณะมันหวนนึกถึง ‘วันกวาดล้าง’ ส่วนฝั่งเกล็นฮาลทำได้เพียงยืนฟังอย่างเงียบงัน
ผู้กรีดมีดลงบนตัวเหยื่อ ไม่มีทางรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเหยื่อ
มันทราบว่าตนไม่มีสิทธิ์ใดในการกล่าวคำปลอบใจบุคคลคับแค้นใจตรงหน้า
แม้แต่ภายในจักรวรรดิยังเกิดแรงต่อต้านจากทุกฝ่าย เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นีโรขององค์ชายดูรันดัล คือบาปเลวร้ายสูงสุดของจักรวรรดิซาฮารันอย่างไรข้อกังขา
ปลายมีดสั้นคาซิมถูกยกจ่อคอเกล็นฮาล
“เชื้อพระวงศ์ของพวกแก”
“…”
“เจ้าชายไร้นามของพวกแก”
“…”
“เศียรของอดีตกษัตริย์นีโรถูกเผ่าทั้งเป็น ขณะมันนั่งกระดกแก้วจิบไวน์อย่างหรรษา”
“…”
“…สำนึกผิด? …สันติภาพ? คนตายคืนชีพกลับมาไม่ได้! เกียรติยศซึ่งเคยสูญสิ้นจนไม่หลงเหลือ สิ่งนี้นำกลับคืนมาไม่ได้อีกแล้ว!!”
“…”
“ขอโทษคนตายแล้วมันได้อะไรขึ้นมา!!”
“…”
ปึด.
โลหิตแดงฉานไหลซึมจากบาดแผลต้นคอเกล็นฮาลซึ่งกำลังปิดปากเงียบ
คมมีดอาบยาพิษของคาซิมเริ่มถูกกดเข้าไปในเนื้อหนังดยุคแห่งจักรวรรดิทีละนิด
“…ต่อให้พวกแกจริงใจ แต่ก็ช่วยเหลือวิญญาณคนตายให้กลับมามีชีวิตไม่ได้แล้ว! …ต่อให้พวกแกสำนึกผิดในบาป แต่คนตายเหล่านั้นก็ไม่มีวันยกโทษให้แน่!!”
ซู่ว—!
ท้องพระโรงของราชาโอเวอร์เกียร์นั้นเทียบไม่ได้กับท้องพระโรงสุดอลังการของมหาจักรพรรดิ อย่างไรก็ตาม ท้องพระโรงคือท้องพระโรงวันยังค่ำ ขนาดท้องพระโรงของกริดใหญ่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยพยอง ด้วยเหตุนี้ ภายในห้องจึงเต็มไปด้วยเงาจำนวนนับไม่ถ้วนเหมาะแก่การให้คาซิมลงมือ
ชิ้ง!
ชิ้งชิ้งชิ้งชิ้งชิ้ง!
ขณะถูกทหารเงาหลายสิบรายล้อม สีหน้าเกล็นฮาลเริ่มเปลี่ยนเป็นม่วงคล้ำเนื่องจากผลของพิษ ในมือทหารเงาทุกตนล้วนถือหอกแหลมเตรียมซัดแทง
คาซิมคำราม
“ฉันคือคาซิม! ผู้เหลือรอดคนสุดท้ายของเผ่านีโร ขอท้าดวลกับแกด้วยชีวิต!!”
หรือจะเป็นเพราะความภักดีต่อลอร์ดในหลายปีหลัง? คาซิมเยือกเย็นผิดวิสัยแม้กำลังอยู่ต่อหน้าหนึ่งในตัวตนยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิ
คาซิมผู้สาบานกับตัวเองว่าต้องแก้แค้นให้สำเร็จ ทุกลมหายใจเข้าออกเปี่ยมด้วยจิตสังหารต่อจักรวรรดิซาฮารัน แต่กลับสุขุมมากพอจะขอท้าดวลบุรุษตรงหน้า
อัครทูตแห่งจักรวรรดิซาฮารัน
ต่อให้เป็นการดวลอย่างชอบธรรม แต่ผลลัพธ์ตามหลังย่อมไม่ใช่เรื่องเล็ก หากทูตของจักรวรรดิได้รับบาดเจ็บหนักหรือถึงแก่ชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างโอเวอร์เกียร์และซาฮารันคงถึงคราวขาดสะบั้น
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ขณะสามดยุคปางตายและถูกนำมารักษาตัว คาซิมไม่คิดลงมือเนื่องจากเหตุผลข้างต้น
มันอาจไม่รู้ตัว แต่หลังจากรับใช้กริดมานานเกือบสิบปี ทุกการกระทำของคาซิมมักคำนึงถึงประโยชน์อาณาจักรก่อนเสมอ
“…คาซิม”
ทัศนคติปัจจุบันของคาซิมยิ่งทำให้หัวใจกริดเจ็บปวดแสนสาหัส
“ตกลง”
เกล็นฮาลยอมรับคำท้าดวล
“การต่อสู้ในวันนี้เกิดจากบาปในอดีต บาปร้ายแรงซึ่งจักรวรรดิเคยก่อไว้แก่ชนเผ่านีโร …ให้คนของฉันเป็นพยาน ผลลัพธ์การต่อสู้จะไม่กระผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างโอเวอร์เกียร์และซาฮารัน”
“ท่านดยุค!!”
ขุนนางฝ่ายเกล็นฮาลเริ่มกระวนกระวาย
มันไม่รู้หรือ? ว่าคาซิม ราชันแห่งเงา คือนักลอบสังหารอันดับหนึ่งของทวีปคนปัจจุบัน
ขุนนางของเกล็นฮาลย่อมไม่ต้องการให้ทั้งสองเผชิญหน้ากัน
“ความคับแค้นของชนเผ่านีโรเป็นบาปขององค์ชายสอง! หาใช่ท่าน!”
เกล็นฮาลพลันหงุดหงิดเมื่อบรรดาขุนนางพยายามตะโกนให้ทบทวนการตัดสินใจใหม่
“หุบปาก! ฉันเองก็ไม่ต่างจากองค์ชาย!”
นโยบายกวาดล้างชนเผ่าไม่ใช่ของใหม่ ขุนนางเก่าแก่อย่างมันย่อมเคยเข้าร่วมภารกิจหลายหน อาจไม่เลวร้ายถึงขนาดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ขั้นต่ำคือการยึดครองดินแดนและจับตัวเป็นเชลย
มันปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เลย
ตัวเกล็นกาลมีมลทินไม่แพ้กัน
…เหตุการณ์ชนเผ่านีโรเป็นเรื่องผิดวิสัยจักรวรรดิ และองค์ชายสอง ดูรันดัล จิตใจชั่วร้ายไม่เหมือนขุนนางและเชื้อพระวงศ์คนอื่น
…นั่นก็แค่ข้ออ้าง
เกล็นฮาลก็เคยก่อบาปไว้กับชนเผ่าอื่น หากต้องเผชิญหน้ากับผู้เคราะร้ายเหมือนคาซิม จะให้มันใช้ข้ออ้างเดิมทุกรอบเลยหรือ?
คงทำแบบนั้นไม่ได้
ถ้ามีบาปติดตัว การจะก้าวไปข้างหน้าให้ได้คือต้องแสดงความรับผิดชอบ
ฝ่าบาทได้ทำเป็นตัวอย่างแล้วไม่ใช่หรือ?
“นามของฉันคือเกล็นฮาล ดยุคแห่งจักรวรรดิซาฮารัน”
เกล็นฮาลใช้มานาขับพิษพร้อมกับถอดชุดเกราะพะรุงพะรังออก
“ฉันจะซึมซับความแค้นของเผ่านีโรผ่านคมมีดของนาย เมื่อตระหนักว่าบาปครั้งนั้นร้ายแรงมากเพียงใด จักรวรรดิจะได้เดินบนเส้นทางสำนึกผิดอย่างรอบคอบและไม่กระทำผิดซ้ำเดิม”
“ดีมาก! หากยังหลงเหลือยางอายอยู่บ้าง ก็จงยอมตายอย่างสงบซะ!”
คาซิมออกคำสั่งให้ทหารเงาหลายสิบตนแทงคมหกใส่พร้อมกัน ทันใดนั้น เกล็นฮาลหมุนตัวหลบการโจมตีได้เกือบทั้งหมด และจงใจปล่อยให้บางส่วนเสียบทะลุร่างจนสร้างความเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม ทั้งสปีดและพละกำลังของมันเพิ่มพูนในพริบตา
ฟุ่บ!
ในเวลาเดียวกัน สึนามิเงาของคาซิมสูงท่วมท้นเพดานท้องพระโรงพลันซัดโถมเข้าใส่
เกล็นฮาลแหกปากกะโตนกึกก้อง
“ความตายของฉันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น! หากฉันตายไป ถ้าคนมาแทนปราศจากความสำนึกผิดก็ไม่เกิดประโยชน์! จักต้องมีผู้คนเคราะร้ายอีกมาก!”
“…!”
“ดังนั้น …ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อชดใช้บาปในอดีตทั้งหมด!”
เคร้ง!
ชิ้งชิ้งชิ้งชิ้งชิ้งชิ้งชิ้งชิ้งชิ้ง!
ท้องพระโรงวังไรนฮาร์ทพลันปั่นป่วนยุ่งเหยิง การดวลระหว่างคาซิมผู้เร้นกายในเงามืด กับเกล็นฮาลผู้เปี่ยมด้วยพละกำลังและความเร็วเมื่อยิ่งร่างกายบาดเจ็บ ได้ก่อความวินาศชนิดน่าหวั่นเกรงว่าอาคารอาจถล่ม
ต็อก. ต็อกต็อก.
นายกเทศมนตรีแร็บบิทกำลังดีดลูกคิด คำนวณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายซึ่งต้องเรียกเก็บจากคาซิมและเกล็นฮาลภายหลัง
“…บัดซบ”
สีหน้าของสิบวีรชนผู้เป็นประจักษ์พยานการต่อสู้พลันดวงตาเบิกโพลง โดยเฉพาะพีคซอร์ดและจิสึกะ พวกมันสบถออกมาพร้อมกัน
ความตกตะลึงมีบ่อเกิดจากการได้เห็นพลังแท้จริงของเกล็นฮาลเต็มสองตา ดยุคแห่งจักรวรรดิกำลังรุกหนักไล่ต้อนคาซิมฝ่ายเดียว ภาพตรงหน้าทำให้ทั้งสิบตระหนักถึงความต่ำต้อยในพลังของพวกตน
…ความเข้าใจทั้งหมด ต้องทบทวนดูใหม่
แต่ไหนแต่ไร พวกมันเอาแต่ตัดพ้อและใช้ข้ออ้างว่า ช่องว่างระหว่างผู้เล่นกับ NPC พิเศษจะมี ‘ขีดจำกัดซึ่งมิอาจก้าวข้าม’ อยู่
‘…แต่กริดแข็งแกร่งเท่าดยุค’
และนั่นคือข้อพิสูจน์ว่า ผู้เล่นไม่ได้ถูกจำกัดความสามารถเอาไว้แต่อย่างใด ช่องว่างตรงนั้นต้องถูกถมให้เต็มด้วยความพยายาม
‘…พวกเราอ่อนแอจนไม่สามารถเป็นพลังให้กริดได้’
‘…แล้วยังมีหน้าไปกดดันกริด เรื่องไม่คิดอัญเชิญอัศวินไปช่วยเหลือ’
‘…น่าละอายชะมัด’
สิบวีรชนพลันตระหนัก พวกมันไม่มีสิทธิ์เป็นห่วงกริด ชายคนนั้นได้พัฒนาจนก้าวข้ามจินตนาการไปแล้ว
…ห่วงตัวเองก่อนเถอะ
ขณะพวกมันมัวกังวลกับความปลอดภัยของกริด อีกฝ่ายก็ทิ้งห่างเพิ่มไปหนึ่งก้าว
หมับ!
ยกเว้นลอเอลผู้ละทิ้งพลังส่วนตัวนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้นอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ สิบวีรชนซึ่งล้วนเป็นผู้เล่นแถวหน้าของโลก ทั้งหมดต่างกำหมัดแน่นด้วยไฟโทสะลุกโชน
…พวกมันปรารถนาพลัง
…
เปรี้ยง!
ผลการดวลถูกตัดสินแล้ว
เกล็นฮาลซึ่งพลังชีวิตลดต่ำกว่า 30% ความเร็วและค่าพละกำลังสูงส่งเหนือพรรณนา เพียงหนึ่งกำปั้นสามารถบดขยี้ฝูงหอกเงาจนราบคาบ
ชิ้นส่วนเงาดำกระจัดกระจายทุกสารทิศ พร้อมกับภาพคาซิมทรุดคุกเข่าลงชนิดปราศจากเรี่ยวแรง
แค่ก.
คาซิมอาเจียนเป็นเลือด มันเค้นเสียงพูด
“ฆ่าฉันซะ”
คิดจะแก้แค้นจักรวรรดิผู้ปกครองทวีป?
…ช่างเพ้อฝันนัก
จิตใจของมันอ่อนแอจนต้องพึงพาอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไว้พักพิง ฝีมือของมันอ่อนแอจนมิอาจเอื้อมถึงจักรวรรดิ
…ลำพังดยุคคนเดียวยังเอาชนะไม่ได้
รีบตายไปยังดีเสียกว่า จะได้ไม่รกโลก
ขณะคาซิมหลับตาลงด้วยหัวใจแตกสลาย
เกล็นฮาลเปล่งเสียง
“ได้โปรดมีชีวิตอยู่ต่อ”
“ไม่ต้องมาสงสารฉัน!”
“มิใช่สงสาร ฉันเพียงต้องการให้นายเฝ้าจับตามอง ว่าจักรวรรดิกำลังเดินอยู่บนเส้นทางเหมาะสมโดยแท้จริง”
“…”
“…แค่ก! …แฮ่ก! เปล่าประโยชน์! ต่อให้พวกแกสำนึกผิดนับพันนับหมื่นปีแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา?”
“ฉันรู้ว่าจักรวรรดิก่อบาปร้ายแรงจนมิอาจให้อภัยได้ อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้มิใช่เพราะหวังกลบเกลื่อนความผิดในอดีต”
“…?”
“แต่เพื่อมิให้กระทำผิดซ้ำสองในอนาคต จะได้ไม่มีนีโรลำดับสองและสามเกิดขึ้น”
“…”
“ได้โปรดมีชีวิตอยู่เพื่อคอยตักเตือนให้จักรวรรดิเดินบนเส้นทางถูกต้อง คอยจับตามองการกระทำของพวกเรา …และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับโศกนาฏกรรมของชนเผ่านีโร …ฉันเองก็เสียใจมาก”
ขอโทษแค่นี้จะพอหรือ?
ทันใดนั้น เกล็นฮาลคุกเข่าลงและก้มศีรษะขอโทษคาซิมจากใจจริง
“ฉ…ฉัน”
นัยน์ตาสีดำของคาซิมเริ่มสั่นเทา
เมื่อเห็นความซื่อตรงของจักรวรรดิยุคใหม่ผ่านทัศนคติเกล็นฮาล ความแค้นสั่งสมนานหลายปีของคาซิมเริ่มซึมออกจากร่างทีละนิด
ตนฝึกฝนวิชาลอบสังหารไปเพื่อสิ่งใด?
…มันยืนไม่ไหว
ทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ ต่างกำลังหนักอึ้งคล้ายถูกถ่วงจมก้นทะเลลึก
ขณะแววตาคาซิมจ้องมองเพดานอย่างเหม่อลอยราวกับสติหลุด
“ท่านอาจารย์!!”
ลอร์ดซึ่งเดินออกไปนอกท้องพระโรงพร้อมกับไอรีนเพื่อรอให้ทูตเข้าเฝ้าเสร็จ มันนึกฉงนเสียงดังโครมครามจึงวกกลับเข้ามา
เด็กหนุ่มรูปลักษณ์สง่างามสวมกอดคาซิมซึ่งมีลักษณะไม่ต่างจากต้นไม้เหี่ยวเฉา
“ท่านอาจารย์ ได้โปรดอยู่กับผมก่อน!!”
“…”
“ผมจะทำให้ท่านอาจารย์มีความสุข!”
…เป็นพรสวรรค์ติดตัวมาแต่กำเนิด หรือเขาสัมผัสได้เพราะใช้ชีวิตร่วมกับคาซิมมานานหลายปี?
กริดเริ่มตระหนัก เสียงร่ำไห้ของลอร์ดช่วยกระตุ้นจิตใจคาซิมซึ่งกำลังดำดิ่งลึกลงไปในหุบเหว ให้ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง
ด้วยนัยต์ตาสีฟ้าครามเหมือนมารตา ลอร์ดกำลังจดจ้องใบหน้าคาซิมอย่างไม่กระพริบ
“ท่านอาจารย์คือผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของเผ่านีโร หากท่านตาย …พวกพ้องนีโรก็จะเลือนหายไปตลอดกาล”
“…”
“มีชีวิตอยู่ไปพร้อมกับผม! ผมจะช่วยให้เผ่านีโรพื้นคืนกลับมาอีกครั้ง!”
“…องค์ชาย”
อุณหภูมิร่างกายของลอร์ดช่วยโอบกอดหัวใจแสนเย็นชาของคาซิมจนอบอุ่น
บุรุษผู้เข้าใจว่าเป้าหมายเดียวในชีวิตคือการแก้แค้น ปัจจุบันเริ่มฉุกคิดได้
ช่วงเวลาตลอดหลายปีหลังของตนมิได้สูญเปล่าหรือไร้ค่า เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง คงไม่ได้มีลูกศิษย์ยอดเยี่ยมเช่นนี้แน่
เมื่อกริดเห็นสภาพปัจจุบันของคาซิม ชายหนุ่มนั่งถอนหายใจโล่งอกบนบัลลังก์
…ยุคสมัยใหม่จะช่วยเยียวยาหัวใจเก่าแก่
😊🙏
ReplyDeleteสงสารคาซิม
ReplyDeleteน้ำตาไหล
ReplyDelete+++
DeleteRabbit บวกเลขมันเลย
ReplyDelete