จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1090



“เพิ่มจำนวนสองเท่าทุกสิบวันอย่างไร้เงื่อนไข แบบนี้ไม่โกงไปหน่อยหรือ?”


“ทำไมมอร์เฟียสถึงอนุญาตให้ใช้ออปชันเหลวไหลแบบนี้? หรือจะติดไวรัสเข้าแล้ว?”


“สมดุลของเกมจะถูกทำลาย! พวกเราต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเดี๋ยวนี้!”


ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุป


คณะกรรมการใหญ่มีมติประชุมเป็นการเร่งด่วนในหัวข้อ ‘ผลกระทบจากแร่ใหม่ของกริด’


แม้แต่ยุนซังมินซึ่งชื่นชอบกริดมากกว่าใคร ก็ยังพยายามโน้มน้าวให้ลิมชอลโฮลงมือแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน


“เราควรออกแพทช์ปรับสมดุลทันที”


เพิ่มจำนวนสองเท่าทุกสิบวัน


จากบรรดาออปชันมากมายของ ‘ละโมบ’ ซึ่งถูกสร้างโดยกริด ออปชั่น ‘งอกเงย’ คืออันตรายอย่างยิ่งยวดต่อระบบซาทิสฟาย


หากปล่อยไว้โดยไม่ยุ่งเกี่ยว ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ขนาดของละโมบจะใหญ่เทียบเท่าขอบเขตโลกกึ่งกลางเลยทีเดียว


และแร่ขนาดเท่าโลกก้อนนั้นสามารถเคลื่อนไหวตามเจตจำนงกริด?


หรือก็คือ หากปล่อยให้พัฒนาไปถึงจุดดังกล่าว กริดสามารถทำลายโลกกึ่งกลางทุกเมื่อได้หากเขาต้องการ


“ไม่สมเหตุสมผลกับการปล่อยให้ผู้เล่นเพียงคนเดียว กุมชะตากรรมของโลกกึ่งกลางไว้ในมือ”


“หากข้อมูลของละโมบถูกเผยออกไป หุ้นบริษัทเราคงร่วงกราวไม่เป็นท่า”


“ผมคิดว่ามอร์เฟียสไม่ค่อยปรกติมาพักใหญ่แล้ว พวกเราควรชัตดาวน์ระบบเพื่อซ่อมบำรุงแก้ไข”


คณะกรรมการบริหารต่างพยายามโน้มน้าวลิมชอลโฮอย่างสุดความสามารถ


ทุกคนตัดความชื่นชอบในตัวกริดทิ้งไปชั่วคราว ชะตากรรมและการอยู่รอดของบริษัทสำคัญกว่าผู้เล่นหนึ่งคนมาก ในสายตาพวกมัน ไม่ว่าอย่างไร ละโมบก็ต้องถูกแก้ไขออปชัน ‘งอกเงย’ โดยด่วน


ควรมีขีดจำกัดหรือข้อห้ามบ้างสักนิด


“…หืม”


สีหน้าลิมชอลโฮกำลังอึมครึม


แต่ไหนแต่ไร ปรัชญาหลักของซาทิสฟายซึ่งถูกเชิดชูมาตลอดคือ ‘โลกจากฝีมือผู้เล่น’ ไม่ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด ทาง SA กรุปมีบทบาทเพียงผู้เฝ้ามอง ห้ามยื่นมือแทรกแซงโดยเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดขึ้นสักครั้ง ความน่าเชื่อถือของ SA กรุปก็จะลดลง และอาจมีหนสองสามตามมาไม่รู้จบสิ้น


กระทั่งลิมชอลโฮผู้ยึดมั่นอุดมการณ์ดังกล่าวมาตลอดก็ยังเกิดความลังเล นี่คือหนแรกอย่างแท้จริงนับตั้งแต่มันสร้างซาทิสฟายด้วยความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์หัวกะทิจำนวนมากและมอร์เฟียส


‘ปรัชญา’ กำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนัก


ไม่ใช่เพราะมันไม่ไว้ใจกริด


ชายคนนั้นคือแบบอย่างซึ่งทาง SA กรุปใช้เชิดชูซาทิสฟายมาโดยตลอด ในประเด็นด้าน—มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจนประสบการณ์ความสำเร็จได้ในซาทิสฟาย


กริดไม่ทำลายซาทิสฟายแน่นอน


แต่ปัจจัยอื่นก็มิอาจถูกมองข้าม


ตัวอย่างเช่น หากกริดออกผจญภัยเป็นเวลานานอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือไม่ก็คำนวณระยะเวลางอกเงยพลาด จนนำไปสู่การสร้างไอเท็มได้ช้ากว่าพลังงอกเงยของ ‘ละโมบ’


และนั่นจะเป็นปัญหาใหญ่


แน่นอน ข้อกังขาเดียวในตัวละโมบคือออปชั่นงอกเงยสองเท่าทุกสิบวัน


คณะกรรมการส่วนใหญ่ไม่มีปัญหากับประสิทธิภาพด้านการต่อสู้ เพราะถึงจะอลังการไปสักหน่อย แต่ก็มีเพียงกริดเท่านั้นสามารถใช้งานมัน


กริดมีชะตากรรมต้องแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นผู้นำพาให้เกิดยุคสมัยใหม่ เขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูทรงพลังจำนวนมากในอนาคต หรือกล่าวโดยสั้นคือ กริดต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อความอยู่รอดของโลก


หลากเผ่าพันธุ์


แกรนมาสเตอร์


ยังบัน


เซียน


จอมอสูร


เทวทูต


เทพ


ไม่เพียงเท่านั้น ซาทิสฟายยังมีผู้เล่นแข็งแกร่งอีกเป็นจำนวนมาก บางคนศักยภาพสูงจนอาจก้าวข้ามขีดจำกัดของกริดในอนาคต เช่นผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลและอริยดาบ


“ท่านประธานใหญ่!”


คณะกรรมการต่างพยายามกดดันลิมชอลโฮอย่างหนักหน่วง ออปชันงอกเงยสมควรถูกแก้ไขเป็นการเร่งด่วน


ไม่มีความเห็นของใครไม่สมเหตุสมผล


อย่างไรก็ตาม ลิมชอลโฮยังคงแสดงอาการลังเลเป็นเวลานาน


หลังจากไตร่ตรองอย่างเงียบงันสักพัก ประธานใหญ่แห่ง SA กรุปเป็นฝ่ายตั้งคำถาม


“ออปชั่นงอกเงยมีมานานแล้ว มันถูกส่งต่อมาจากเหล็กมังกรคลั่งซึ่งกริดได้ครอบครองเมื่อหลายปีก่อน จนถึงปัจจุบัน เหล็กมังกรคลั่งเคยก่อปัญหาสักครั้งแล้วหรือยัง?”


“…”


ทีมพัฒนาและทีมจัดการไม่สามารถเฝ้าจับตามองการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในซาทิสฟายได้ เหตุการณ์ในแต่ละวันผ่านไปพร้อมกับรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมหาศาล


จากบรรดากิจกรรมมากมายของผู้เล่นกว่าสองพันล้าน ทีมพัฒนาและทีมจัดการจะให้ความสนใจเฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกรายงานมาจากมอร์เฟียส


ฉะนั้นหาก ‘งอกเงย’ จากเหล็กมังกรคลั่งเคยก่ออันตรายจริง มอร์เฟียสก็ต้องแจ้งเตือนให้ทุกคนทราบ


แต่มอร์เฟียสก็ไม่เคยเตือนเลยสักครั้ง


“นั่นหมายความว่าออปชัน ‘งอกเงย’ มิได้เป็นปัญหาต่อระบบ”


หลังจากลิมชอลโฮกล่าวเช่นนั้น ผู้อำนวยการ ‘เจน’ รีบโต้แย้ง


“กราบเรียนท่านประธานใหญ่ ละโมบกับเหล็กมังกรคลั่งมีบริบทต่างกันมาก อย่างหลังมีช่างเหล็กขั้นสูงคอยจัดการลดจำนวนตลอดเวลา แถมสามารถระงับการงอกเงยได้ด้วยค้อนมังกรคลั่ง แต่ในกรณีของละโมบ มีเพียงกริดเท่านั้นสามารถถลุงได้ เขาอาจไม่ว่างคอยจัดการตลอดเวลา ไม่สามารถควบคุมปริมาณในระยะยาวได้แน่นอน”


“เห็นด้วย …หากวันใดกริดเกิดปัญหาส่วนตัวหรืออุบัติเหตุซึ่งทำให้ไม่สามารถล็อกอินซาทิสฟายเป็นเวลานาน ผมไม่อยากจินตนาการภาพตาม”


“เพราะเป็นรุ่นผลิตจำนวนมากจึงไม่มีปัญหางั้นหรือ? ผมคิดว่าไม่เกี่ยว มีไอเท็มหลายชิ้นถูกสร้างด้วยเหล็กมังกรคลั่งภายนอกอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ แต่พวกมันก็ไม่เคยก่อปัญหาใดสักครั้ง ผมคิดว่าคำพูดของท่านประธานมีเหตุผล ออปชันงอกเงยจะไม่ส่งผลเสียกับระบบ”


“ทำไมกัน? เพราะมีขีดจำกัดขยายตัว?”


“ผมก็ไม่ทราบสาเหตุ เพียงแต่ได้ยินได้เห็นมาเช่นนั้น และหากศึกษาพาเฟรเนียมให้ดี มันคือสมบัติประจำตัวกริด พาเฟรเนียมจะหายไปจากซาทิสฟายเมื่อกริดล็อกเอาต์ ฉะนั้นหากกริดออฟไลน์ ละโมบก็จะไม่เพิ่มขนาดจากเดิมในลักษณะเดียวกัน หรือพวกคุณเคยเห็นพาเนียมในเกมขณะกริดออฟไลน์?”


ว่ากันตามตรง โต้เถียงไปก็เปล่าประโยชน์


ถามมอร์เฟียสก็สิ้นเรื่องแล้ว


ระหว่างคณะบริหารกำลังแบ่งความเห็นออกเป็นสองฝ่าย ลิมชอลโฮยกข้อมือขึ้นพร้อมกับตั้งคำถาม


“มอร์เฟียส แร่ชนิดใหม่ของกริดมีโอกาสเป็นอันตรายต่อโลกกึ่งกลางกี่เปอร์เซ็นต์”


ตัวตนซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของซาทิสฟายอย่างแท้จริง


คำตอบจากมอร์เฟียสดังขึ้นในไม่กี่อึดใจ


[ศูนย์]


“…!”


“…!”


ไม่เพียงคณะบริหาร แม้กระทั่งลิมชอลโฮก็ยังดวงตาเบิกโพลงอย่างตกตะลึง


สาเหตุเพราะ นับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัวนานกว่าห้าปี มอร์เฟียสเคยมอบคำตอบเป็น 0% แค่ไม่กี่ครั้ง


หรือก็คือ ไม่มีอันตรายจากละโมบเลยหรือ?


มีเหตุผลใดมารองรับ?


“มีขีดจำกัดการงอกเงยหรือ?”


[ไม่มี แต่หากเกิดการงอกเงยถึงปริมาณหนึ่ง ปริมาณพลังเวทมนตร์ของ Z-003 จะสูงถึงค่ากำหนด จนส่งผลให้วัตถุรหัส Z ทั้งหมดยกเว้น Z-003 ปรากฏตัวเพื่อสะกดข่มหรือทำลายแร่ชนิดดังกล่าว]


[ฉะนั้น หากวัตถุรหัส Z ยังไม่สูญพันธุ์ไปจากซาทิสฟาย ออปชัน ‘งอกเงย’ จะมีโอกาสสร้างอันตรายให้กับโลกซาทิสฟาย 0%]


[โอกาสในการสูญพันธุ์ของวัตถุรหัส Z มีค่าใกล้เคียง 0% เช่นกัน]


“…วัตถุรหัส Z? มังกร?”


เหล่าผู้บริหารต่างพากันฮือฮา ขณะบางคนยังนั่งฉงน เกือบทั้งหมดของคณะกรรมการต่างเข้าใจความหมายของมอร์เฟียสอย่างดี


รวมถึงลิมชอลโฮ


“นั่นสินะ ในเมื่อออปชัน ‘งอกเงย’ เกิดจากพลังเวทมนตร์ของมังกรคลั่งเนอวาร์ธาน ไม่แปลกหากมังกรตัวอื่นซึ่งเป็นศัตรูของเนอวาร์ธานจะตื่นตัว”


“หมายความว่า ถ้าละโมบเติบโตจนถึงขนาดหนึ่ง มังกรสักตนจะปรากฏออกมาโจมตีกริดและใช้เวทมนตร์สะกดข่มละโมบไว้”


“ในเมื่อความคงทนเป็นอนันต์ คงมีแต่ต้องสะกดข่มเท่านั้น”


“…เดี๋ยวก่อน หมายความว่า หากไม่มีการควบคุมขนาดของแร่มังกรคลั่งและปล่อยไว้จนถึงจุดหนึ่ง มังกรจะปรากฏตัวออกมาโจมตีมนุษย์ใช่ไหม แบบนั้นไม่เท่ากับเป็นหายนะของซาทิสฟายหรือไง?”


[‘หอแห่งปัญญา’ จะเริ่มเคลื่อนไหวก่อนมังกรปรากฏตัว ไม่เพียงเท่านั้น ระบบซาทิสฟายยังถูกออกแบบให้แจ้งเตือนเจ้าของแร่ชนิดดังกล่าวก่อนหอแห่งปัญญาลงมือ]


[แต่ถ้าเป็นแร่มังกรคลั่งปราศจากเจ้าของ หอแห่งปัญญาจะทำลายทิ้งหรือสะกดพลังไว้]


ปัจจุบัน เกือบทั้งหมดของเหล็กมังกรคลั่งซึ่งรั่วไหลโดยปราศจากการสะกดข่มจะอยู่ในจักรวรรดิซาฮารัน


พวกมันคือโคมเทียนระย้าซึ่งกริดเคยให้พ่อค้ามุโต้นำไปขายแมรี่ ทุกวันนี้ถูกทิ้งร้างนอกกำแพงกรุงไททันโดยปราศจากเจ้าของ


“…ธรรมชาติจะรักษาสมดุลกันเอง”


คณะบริหารทุกคนต่างพากันโล่งใจ พวกมันได้ทราบว่า ปัญหาใหญ่จะถูกขจัดด้วยสภาพแวดล้อมหากลุกลามจนใกล้เป็นภัย


แต่นี่จะไม่เป็นโชคร้ายของกริดหรอกหรือ?


ชายคนนั้นคงหวังขยายขนาดของละโมบอย่างไรขีดจำกัด แต่ปัจจุบันกลับทำไม่ได้แล้ว


อย่างไรก็ตาม ระหว่างคณะกรรมการหันกลับไปมองจอฉายภาพ พวกมันพลันตระหนักว่าตนประเมินกริดไว้ต่ำเกินไป


ตรงข้ามกับความกังวล กริดปล่อยให้แร่ ‘ละโมบ’ ขยายขนาดเพียงไม่มาก จากนั้นจะแบ่งสร้างเป็นไอเท็มชนิดใหม่เมื่อแร่เกิดการงอกเงยครั้งถัดไป ส่งผลให้ละโมบมีขนาดเท่าเดิมตลอดเวลา


ประธานลิมชอลโฮอมยิ้ม


“กริดคงทราบดีกว่าใคร”


ว่าพลังงอกเงยมาพร้อมอันตรายยิ่งใหญ่แค่ไหน ชายคนนั้นไม่มีทางทำให้โลกใบสำคัญของตนอย่างซาทิสฟาย เกิดอันตรายแน่นอน


***


“คุรุรุก! ขอบใจมาก มนุษย์เอ๋ย เจ้าคือผู้มีพระคุณของเผ่าเรา! เจ้าสมควรกลายเป็นหนึ่งสมาชิกเผ่าเรา! คุรุรุก!!”


[ภารกิจลับ? สนับสนุนออร์คสนธยา? เสร็จสิ้น!]


[ค่าความสัมพันธ์กับชาวเผ่าออร์คสนธยาเพิ่มขึ้น 20 หน่วย]


[เลเวลเพิ่มขึ้น 1 ระดับจากรางวัลภารกิจ]


[ท่านสามารถเปลี่ยนเผ่าพันธุ์จาก ‘มนุษย์’ เป็น ‘ออร์คสนธยา’ ได้]


[เมื่อเปลี่ยนเผ่าพันธุ์เป็นออร์คสนธยา ท่านสามารถสื่อสารกับออร์คได้ทุกตน และสามารถควบคุมออร์คได้บางส่วน]


[เผ่าออร์คสนธยาจะเพิ่มพลังโจมตีและพลังชีวิตจากเดิม 1.8 เท่า เพิ่มค่าพละกำลังและค่าความอดทน 2 เท่า แต่จะลดค่าสติปัญญาและมานาสูงสุดลงครึ่งหนึ่ง]


[อย่างไรก็ตาม หากท่านมีค่าสติปัญญาสูงถึงระดับหนึ่ง เส้นทาง ‘ชาแมน’ จะเปิดออก]


[ท่านมีสิทธิ์เลือกอาชีพใหม่]


[ท่านต้องการเปลี่ยนเผ่าพันธุ์หรือไม่?]


โดยทั่วไป ออร์คคือมอนสเตอร์ซึ่งถูกพบได้ทั่วไปบนทวีปตะวันตก พวกมันมีหลากหลายเผ่าแยกย่อย แต่เกือบทั้งหมดคือมอนสเตอร์อ่อนแอ จึงไม่แปลกหากจะถูกผู้เล่นมองว่าเป็นมอนสเตอร์ระดับต่ำของเกม


อย่างไรก็ตาม ออร์คสามารถพูดได้ มีค่าพละกำลังทางกายภาพสูงมาก แถมยังมีสติปัญญาสูงพอจะสร้างเครื่องมืออย่างหยาบ


สำหรับมอนสเตอร์ ออร์คถือเป็นสายพันธุ์ทรงปัญญาชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติภาพรวมสูงกว่ามอนสเตอร์อีกหลายเผ่า


โดยเฉพาะออร์คระดับสูง พวกมันทรงพลังจนน่าตกใจ


หากยังจำกันได้ หนึ่งในอัศวินความตายสุดแกร่งของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล เป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ออร์ค


“พลังโจมตีและพลังชีวิต …1.8 เท่า?”


จากบรรดาทุกเผ่า ออร์คสนธยาทั้งแข็งแกร่งและมีเกียรติ ด้านสติปัญญาและเทคโนโลยีก็นับว่าสูงมาก เข้าใจภาษามนุษย์ แถมยังมีวิทยาการตีเหล็ก ยังไม่รวมถึงด้านพละกำลังซึ่งมนุษย์ธรรมดาเทียบไม่ติด


ข้อเสียคืออ่อนแอทางด้านเวทมนตร์


เมื่อถูกลดทอนค่าสติปัญญาและมานาลงครึ่งหนึ่ง คงเป็นการยากหากจะให้เอาดีด้านเวทมนตร์ แถมยังใช้ทักษะได้น้อยลง


แต่ผู้เล่นในซาทิสฟายมีหลายประเภท


จำนวนไม่น้อยชื่นชอบการโจมตีธรรมดามากกว่าทักษะ และมีอีกหลายคนเป็นแฟนตัวยงของ ‘ชาแมน’


ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ชายส่วนใหญ่มักเกิดความหลงใหลในรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งดุดันของออร์ค


แต่บางคนก็แค่


อยากแตกต่างจากผู้อื่น


“ฉันจะเป็นออร์ค”


“ฉันจะเป็นออร์คเหมือนกัน!”


“คุรุรุก! ตัดสินใจได้ฉลาดมาก!”


ออร์คสนธยา


พวกมันเคยเป็นปัญหาใหญ่ของจักรวรรดิซาฮารันมาก่อน จนถึงขั้นต้องสร้างกำแพงขวางกั้นมิให้เผ่าพันธุ์เจ้าเล่ห์และแข็งแกร่งเช่นนี้เพ่นพ่านทั่วทวีปตะวันตก การนำกองทัพเข้ารบพุ่งรังแต่จะทำให้จักรวรรดิอ่อนแอลง


จนกระทั่งบาซาร่าครองบัลลังก์ เธอทำลายกำแพงชาติพันธุ์ทิ้งไป มอบสิทธิ์การเพ่นพ่านบนทวีปกลับคืนให้กับเผ่าพันธุ์ดุร้าย ซึ่งเคยส่งอัศวินและทหารของจักรวรรดิไปสู่ปรภพจำนวนนับไม่ถ้วน


โดยไม่รีรอ เป้าหมายแรกของพวกมันคือการดึงดูดผู้เล่นและขยายฐานกำลังรบ


กล่าวโดยสั้นคือ ออร์คสนธยาหวังก่อตั้งอาณาจักรเป็นของตัวเอง


และเพื่อการนั้น


จำเป็นต้องมีผู้รับเคราะห์


“คุรุรุก! เคลื่อนทัพ! บุกโจมตี! ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ใต้แสงอาทิตย์เช่นนี้ มนุษย์ไม่มีสิทธิ์ครอบครองแต่เพียงผู้เดียว! ต้องสั่งสอนให้พวกมันรู้สำนึก!! คุรุรุรุก!!”


หนึ่งในดินแดนของอาณาจักรไวโอเล็ตเริ่มถูกสิ่งมีชีวิตสีเขียวคุกคาม


***


“ปรองดอง? คึคึก เพื่ออะไรกัน?”


“…”


ปัจจุบัน มีหลายสาเหตุให้อัศวินสีชาดหลักเดียวต้องเดินทางออกจากแผ่นดินแม่ หนึ่งในนั้นคือการไปพบเผ่าดราโกเนียน


เผ่าพันธุ์นักล่าสุดยาหาก


ความแข็งแกร่งของเผ่าดราโกเนียนอยู่ในระดับน่าทึ่ง พวกมันตระเวนออกล่ามอนสเตอร์และมนุษย์ทั่วหุบเขากว้างใหญ่โดยแทบไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมมิใช่การกระทำเพื่อความอยู่รอด แต่เพื่อความสนุกสนาน


จำนวนประชากรอาจมีเพียงไม่กี่ร้อย แต่ในช่วงร้อยปีหลัง จักรวรรดิตัดสินใจเลิกส่งทหารปราบปรามดราโกเนียนชั่วคราว


สาเหตุมาจาก การทำศึกกับดราโกเนียนหนึ่งตน จำเป็นต้องใช้กำลังทหารเทียบเท่าต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตเผ่าอื่นราว 100 ตัว


แต่บาซาร่าจำเป็นต้องผูกมิตร


หลังจากครองบัลลังก์ หนึ่งในภารกิจหลักคือการส่งทูตไปสานไมตรีกับดราโกเนียน


เธอส่งขุนนางระดับมาร์ควิสไปพยายามโน้มน้าวให้ปรองดอง แถมยังสัญญาว่าจะมอบอนาคตอันสดใสให้ แม้ในอดีตจะเคยถูกเผ่าพันธุ์ชนิดนี้ทำลายของทัพไปมากก็ตาม


ทว่า ดราโกเนียนตอบกลับอย่างเย้ยหยัน


“เราสู้กับเจ้าเพื่อความสนุก แล้วไฉนต้องคืนดีด้วย? เราไม่ได้โง่สักหน่อย ไม่มีทางยอมทิ้งหนึ่งในกิจกรรมสร้างความบันเทิงแน่”


“…สามหาวนัก!”


มาร์ควิสบอร์เรล


มันคือหนึ่งในสิบมหาจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปตะวันตก เป็นขุมกำลังรบหลักของจักรวรรดิซาฮารันในทุกศึก แถมวันนี้ยังมาพร้อมกับอัศวินระดับมหาจอมดาบอีกห้าคน


ในฐานะขุนนางผู้เย่อหยิ่งแห่งจักรวรรดิ มันโกรธเคืองความไร้มารยาทของชนเผ่าดราโกเนียนอย่างมาก


เพลิงมหึมาพลันลุกโชนท่วมฝ่ามือ หมายกุดหัวดราโกเนียนหนุ่มตรงหน้าให้สาแก่ใจ


แต่บอร์เรลก็ตัดสินใจอดกลั้น


เมื่อทราบถึงเจตนาของมหาจักรพรรดินีองค์ใหม่ มันพยายามข่มโทสะและสยบคลื่นมานามหาศาลให้ไหลเวียนกลับเข้าร่างกาย


จนกลายเป็นช่องโหว่


ฉัวะ—!


“ท่านมาร์ควิส!!”


การควบคุมมานาต้องใช้สมาธิอย่างมาก


ดราโกเนียนหนุ่มฉวยโอกาสโจมตีใส่ศีรษะบอร์เรลโดยปราศจากความลังเล


“ไอ้เผ่าพันธุ์ป่าเถื่อน!!”


“กล้าดียังไงทำกับท่านมาร์ควิส!!”


เหล่าอัศวินต่างชักดาบด้วยดวงตาแดงก่ำ


แต่กลับไม่มีใครกล้ากวัดแกว่งออกไป


เนื่องจากเริ่มตระหนักว่า พวกตนกำลังถูกรายล้อมด้วยดราโกเนียนอีกหลายสิบตน


หากสู้ มีเพียงความตายเยี่ยงสุนัขรออยู่


ทันใดนั้น ศีรษะของมาร์ควิสบอร์เรลพลันกระเด็นไปยังปลายเท้าของบรรดาอัศวินซึ่งกำลังยืนแข้งขาสั่นเทา


“จงกลับไปบอกหัวหน้าของพวกเจ้า ช่วยอยู่เล่นกับเราไปนานๆ ก่อน คึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!”


“…”


ความปรารถนาของจักรวรรดิยุคใหม่มิใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการฝืนกลมกลืนกับเผ่าพันธุ์ดุร้ายป่าเถื่อน ปัญหามากมายกำลังถาโถมจากทุกทิศทาง


คงเป็นกรรมตามสนองกระมัง


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,479
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เดี๋ยว​ได้เจอก็อด​กริด​👍

    ReplyDelete
  2. ล่อแม่งดิไอพวกมังกรเก๊ขยะ

    ReplyDelete
  3. อยากได้คิชินคับ อยากเป็นเบนิมารุ 5555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00