จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1081



“เจ้าไม่ต้องการเป็นจักรพรรดิบ้างหรือ?”


แมวยังเป็นเสือได้หากผ่านรั้วฝึกทหารนานกว่าสามปี คนธรรมดาก็สามารถเป็นยอดพ่อครัวได้หากคอยเฝ้ามองการทำงานอย่างใกล้ชิด


หมายความว่า การมีลอเอลข้างกายนานหลายปีช่วยให้กริดสั่งสมประสบการณ์ความรู้นับไม่ถ้วน ฉากตรงหน้า เห็นเพียงปราดเดียวก็ทราบถึงความเป็นมาทันที


“แกรนมาสเตอร์ นายทรยศจักรพรรดิและเลือกข้างอีธานสินะ”


“คำว่าทรยศคงไม่เหมาะสักเท่าไร เราแค่ใช้สิทธิ์อันชอบธรรมของตัวเอง”


“สิทธิ์อันชอบธรรม…?”


แกรนมาสเตอร์ใจดีกับกริดมาก มันยอมอธิบายเรื่องราวยืดยาวโดยไม่แสดงท่าทีรังเกียจ


“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว… บุรุษผู้หนึ่งเคยมาคุกเข่าขอร้องกับเราว่า ได้โปรดทำให้เขากลายเป็นมหาจักรพรรดิด้วย เขารับปากว่าจะช่วยบรรลุความต้องการของเราหลังจากนั้น”


“ชายคนนั้นคือ…”


“ถูกต้อง เขาคือซาฮารัน แต่ช่างน่าเศร้า ซาฮารันไม่สามารถรักษาสัญญากับเราได้ โดยก่อนตายได้ให้สัตย์สาบานว่า ลูกหลานของตนจะช่วยสานต่อความตั้งใจจนกว่าจะบรรลุผล


“แต่กาลเวลาล่วงเลย ทายาทแต่ละรุ่นเสื่อมพลังลงแถมยังไร้ความสามารถ ไร้ความรับผิดชอบ จนกระทั่งรุ่นปัจจุบันถึงขั้นหลงลืมสัญญาโดยสิ้นเชิง”


แกรนมาสเตอร์ชำเลืองหางตาเข้าไปด้านในท้องพระโรง


ผลพวงจากทักษะทำฟาร์มอิสระของปิอาโร่ เขตต่อสู้ส่วนใหญ่จึงถูกเปลี่ยนเป็นแปลงเกษตร


ภาพด้านในท้องพระโรงคือฉากอีธานและปิอาโร่กำลังปะทะฝีมือดุเดือด


แกรนมาสเตอร์ชี้ไปยังดาบดำในมืออีธาน


“ดาบเล่มนั้นคือสัญลักษณ์แทนคำมั่นสัญญา ซาฮารันได้บรรจุปราณสีชาดทั้งหมดของตัวเองเข้าไปจนถึงแก่ความตาย ก่อนเสียชีวิต เขากล่าวว่าหากลูกหลานคนใดบังอาจไม่รักษาสัญญา เราสามารถใช้ดาบเล่มนี้ยึดอำนาจปกครองกลับคืนและบริหารจักรวรรดิได้ตามใจชอบจนกว่าความปรารถนาจะบรรลุผล”


กริดพลันตกตะลึง ดวงตาเบิกโพลงคล้ายกับถูกค้อนทุบใส่ท้ายทอย


“นายเป็นใครกันแน่…?”


ทันใดนั้น


“…!”


หางตาทุกคนพลันกระตุกพร้อมกัน


ว่ากันตามตรง สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องเล่าเมื่อครู่คงหนีไม่พ้น ‘ความปรารถนา’ แท้จริงของแกรนมาสเตอร์ เพราะหากได้ทราบความปรารถนาดังกล่าว ตัวตนของแกรนมาสเตอร์ก็ไม่ใช่เรื่องยากจะคาดเดา


อย่างไรก็ตาม กริดกลับเลือกถามเรื่องไม่จำเป็นอย่าง ‘ตัวตน’ แท้จริง


ทำไมถึงไม่หลอกถามเรื่องความปรารถนาแทน…? เพราะหลังจากนั้น ตัวตนแกรนมาสเตอร์ก็จะเผยออกมาพร้อมคำตอบอยู่ดี


ทุกคนล้วนคิดเช่นนี้ในหัว


คำถามกริดซื่อตรงเกินไป


และแน่นอน แกรนมาสเตอร์ยังคงนิ่งเงียบ


หลายคนเริ่มมั่นใจว่าคำถามของกริดคงถูกเพิกเฉยและปล่อยผ่าน


“…”


แกรนมาสเตอร์เผยสีหน้ากระอักกระอ่วน


ตัวมันเองก็คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะไต่ถามถึงความปรารถนา มิได้คิดว่ากริดจะโผงผางซักถามตัวตนแท้จริง


ราชาโอเวอร์เกียร์ยักไหล่


“นายต้องการให้ฉันเป็นจักรพรรดิไม่ใช่หรือ? คงทำสัญญากับคนแปลกหน้าไม่ได้หรอกนะ”


“ฮะฮะ…”


แกรนมาสเตอร์ระเบิดเสียงหัวเราะ เป็นฉากซึ่งพบเห็นได้ยาก แม้แต่บุคคลเคยทำงานในวังหลวงมานานหลายสิบปี


ไม่เกินจริงไปนักหากจะบอกว่าเมื่อครู่คือเสียงหัวเราะหนแรกจากปากแกรนมาสเตอร์


“…คนบาปแท้จริงเพียงหนึ่งเดียวจากทั้งเจ็ด”


ดวงตาซึ่งเคยเหนื่อยหน่ายเบื่อโลกเริ่มถูกความเศร้าโศกเจือปน


นัยน์ตากระจ่างแวววาวของแกรนมาสเตอร์จ้องมองกริดอย่างไม่กะพริบ


“ร่างจุติของคนทรยศเพียงหนึ่งเดียว ผู้หันหลังละทิ้งพวกพ้องซึ่งกำลังถูกแสงสว่างเจิดจ้าปกคลุมดวงตาจนมองไม่เห็นความมืดมิดแม้เพียงหนึ่งจุด… นั่นคือตัวเรา”


“…?!”


ราวกับกริดถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ


ชายหนุ่มตระหนักได้ทันทีว่าใครคือกลุ่มซึ่งถูกทำให้ ‘ดวงตามืดบอดด้วยแสงสว่างเจิดจ้าจนมองไม่เห็นความมืดแม้เพียงหนึ่งจุด’


‘เจ็ดภัยพิบัติ…!’


เป็นไปไม่ได้…


แกรนมาสเตอร์คือร่างจุติของหนึ่งในเจ็ดภัยพิบัติ?


เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้ไกลตัวกริดนัก ภารกิจสุดท้ายเกี่ยวกับเจ็ดภัยพิบัติยังผ่านมาไม่นาน มันยังไม่ลืมว่าชะตากรรมสุดท้ายของเหล่านักบุญคือการถูกกักขังไว้ในช่องว่างขุมนรกและโลกกึ่งกลาง


ขณะกริดกำลังทึ่งจนหมดคำพูด ผู้คนเริ่มมายืนมุงรอบตัวมากขึ้น


กวาดสายตามองไปรอบตัว ยากจะหาใครตระหนักถึงเรื่องราวของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติได้ลึกซึ้งเท่ากริด


แน่นอน แทบไม่มีใครเข้าใจบทสนทนาระหว่างกริดและแกรนมาสเตอร์


ท่ามกลางการเสียงอื้ออึงจากฝูงชน แกรนมาสเตอร์เอ่ยปากสุขุม


“เราพยายามอย่างหนักเพื่อขจัดความรู้สึกผิดออกจากจิตใจ มันยาก. เพราะเรารู้สึกเบื่อหน่ายทุกสิ่งรอบตัว แต่หลังจากผ่านไปสักพัก เราก็ทำให้ร่างกายใหม่นี้กลายเป็นเหนือมนุษย์ได้สำเร็จ เราพยายามเร่งมือศึกษาหาวิธีจุติให้กับพวกพ้องซึ่ง ‘สูญเสียชีวิตยืนยาว’ เนื่องจากอาจหาญเผชิญหน้ากับเทพ


“เราตระเวนไปทั่วทวีปเพื่อจับเผ่าพันธุ์อื่นมาทดลองเป็นจำนวนมาก พยายามรวบรวมวัตถุดิบจากจอมอสูร พยายามจับตัวราชาเนตรมา แต่ไม่ว่าจะใช้เวลามากเพียงใด แผนจุติของพวกพ้องก็ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งเพราะตัวเราประสบอารมณ์เบื่อหน่ายง่ายเกินไป มักล้มเลิกความตั้งใจในตอนสำคัญเสมอ


“อย่างไรก็ตาม เราได้ตระหนักแล้วว่า สาเหตุสำคัญในความล้มเหลวของพวกพ้องคือ ไม่มีใครยอมพึ่งพาพลังของ ‘เทพตกสวรรค์’ ”


“…?”


เทพตกสวรรค์?


กริดทวีความสับสนขึ้นอีกหลายเท่า


ขณะเดียวกัน ฝูงชนรอบตัวเริ่มเพิ่มจำนวนจากตอนแรกมาก


แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยมีใครเชื่อมโยงแกรนมาสเตอร์กับเจ็ดนักบุญภัยพิบัติมาก่อน แต่เกือบทุกคนตระหนักอยู่แล้วว่ามัน ‘ไม่ใช่มนุษย์’


เมื่อแกรนมาสเตอร์เห็นสถานการณ์รอบตัวเริ่มบานปลาย มันทำการขยับปากพูดโดยไม่เปล่งเสียงออกมา


แต่ภายในหัวกริดกลับเกิดเสียงก้องกังวาน และไม่ใช่เสียงธรรมดา แต่มาแฝงพร้อมความระคายเคืองรุนแรง


คล้ายกับเสียงสะกดจิต… กริดเกิดความรู้สึกฉุนเฉียว ขณะเดียวกันก็ถูกความปรารถนาอย่างแรงกล้าครอบงำจิตใจ อารมณ์รุนแรงสุดโต่งทุกด้าน


“เมื่อทราบว่าเจ้ามีพลังของทาเร็น เราจึงเกิดความหวังขึ้นมาทันที”


“…”


“คำตอบทั้งหมดอยู่ในคุกนรก… จงกลายเป็นจักรพรรดิและสำรวจคุกนรกเพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับเทพตกสวรรค์ สงครามเจ็ดบาปคำรบสองจะช่วยให้โลกพ้นภัยจากเหล่าเทพเสื่อมทราม”


[* ภารกิจลับ ‘ข้อเสนอของบาปลำดับหก’]


<ข้อเสนอของบาปลำดับหก>

*ภารกิจลับ?

บาปลำดับหก ‘ซิก’ ผู้ถือครองบาปแห่งความเกียจคร้าน เสนอแนะให้ท่านดำรงตำแหน่งมหาจักรพรรดิ

หากยอมรับ ท่านจะกลายเป็นผู้ปกครองคนใหม่ของจักรวรรดิซาฮารันทันที

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ยอมรับข้อเสนอของซิก

รางวัลภารกิจ : ครอบครองจักรวรรดิซาฮารัน


[ท่านยอมรับภารกิจหรือไม่]


แต่ไหนแต่ไร กริดเคยเห็นภารกิจลับมาแล้วมากมาย อย่างไรก็ตาม มันเพิ่งเคยพบภารกิจลับซึ่งมอบรางวัลตอบแทนมหาศาลเป็นหนแรก แถมเงื่อนไขก็บรรลุก็แสนง่ายดาย


เพียงตอบตกลง… จักรวรรดิอันเกรียงไกรก็จะตกเป็นของตนในชั่วข้ามคืน…?


แน่นอนว่ากริด…


“ฉันขอปฏิเสธ”


ปฏิเสธโดยไม่ลังเล


“…?”


แกรนมาสเตอร์ประหลาดใจมาก


มันไม่คิดว่ากริดจะกล้าปฏิเสธหลังจากได้ยินคำอธิบายอย่างตรงไปตรงมา


ชายหนุ่มอธิบาย


“หากฉันรับตำแหน่งจักรพรรดิ การจลาจลจะเกิดขึ้นทุกหัวระแหงจนยากรับมือ ตัวฉันในปัจจุบันไม่มีศักยภาพและกำลังพลมากพอจะบริหารดินแดนขนาดใหญ่… นายต้องเสียสติไปแล้วแน่ถ้ากล้าส่งมอบให้ฉัน”


หากตัวกริด ผู้ซึ่งมิได้สืบสายเลือดซาฮารันโดยตรง ทำการครองบัลลังก์จักรพรรดิ มั่นใจได้เลยว่าขุนนางใหญ่จำนวนมากจะก่อกบฏ และเริ่มจุดชนวนมหาสงครามแห่งทวีป


กริดและพวกพ้องจะต้องเผชิญสงครามหนักหน่วงทุกคืนวัน ดินแดนจักรวรรดิจะแบ่งแยกเป็นหลายสิบแห่ง แม้แต่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็อาจรักษาไว้ไม่ได้


ความสำเร็จอันยาวนานซึ่งถูกสั่งสมตลอดหลายปีจะพังครืนไม่เป็นท่า


แกรนมาสเตอร์ส่ายศีรษะ


“เป้าหมายของเจ้าคือการสำรวจคุกนรกต่างหาก หาใช่บริหารบ้านเมือง เราไม่เคยสนว่าจักรวรรดิจะเป็นตายร้ายดีเช่นไร”


“ในเมื่อนายไม่เคยใส่ใจเรื่องของผู้อื่น แล้วทำไมฉันต้องใส่ใจเรื่องของนาย?”


ด้วยความสัตย์จริง กริดชื่นชมวีรกรรมของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ กลุ่มคนเหล่านี้อาจหาญลุกขึ้นต่อต้านเทพเสื่อมทรามเพื่อมวลมนุษย์


อย่างไรก็ตาม ต้องแยกแยะระหว่างการชื่นชมและการนำพาตัวเองไปสู่ความฉิบหาย


กริดไม่ต้องการเอาตัวเองและอาณาจักรผูกติดกับปัจจัยอันตราย


หากตนเลือกเข้าฝ่ายเจ็ดนักบุญ เกรงว่าเหล่าทวยเทพบนแอสการ์ดอาจโกรธกริ้วจนถึงขั้นเสกสายฟ้าถล่มอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เข้าสักวัน


ชายหนุ่มต้องการรักษาความสัมพันธ์เป็นกลางให้ยาวนาน ต้องมีข้อมูลในมือให้มากกว่านี้ และต้องไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจเข้าฝ่ายใด


การทำภารกิจของเทพเฮ็กเซเทียช่วยถ่วงดุลกับการถือครองพลังหนึ่งในเจ็ดภัยพิบัติอย่างบัญชาแห่งเทพ


“มหาจักรพรรดิ! ผมจะอยู่ฝั่งคุณ!”


กริดหันไปตะโกนลั่น


“…แม้จะทราบความจริงทั้งหมดแล้ว แต่ยังกล้าปฏิเสธเราอีกหรือ”


สีหน้าแกรนมาสเตอร์เริ่มแฝงโทสะ


มันเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและน่าหวาดหวั่นคล้ายกับปีศาจตัวจริง กริดเห็นเข้าถึงกับแทบหยุดหายใจ


“ด…เดี๋ยวก่อน! ฉันไม่ได้คิดเป็นศัตรูกับนาย! เพียงต้องการยับยั้งมิให้อีธานก่อกบฏ สำเร็จ!”


“ช่างย้อนแย้ง… อีธานยังเป็นตัวแทนของเราจนกว่าเจ้าจะตอบตกลงร่วมมือ การต่อต้านเขาไม่ถือเป็นการต่อต้านเราหรือไง?”


“ฉิบ…”


ช่างน่าละอายนัก ตนมองข้ามเรื่องพื้นฐานเช่นนี้ไปได้อย่างไร


การสานสัมพันธ์กับจักรวรรดินับว่าสำคัญก็จริง แต่การเป็นศัตรูกับร่างจุติของเจ็ดมารใช่เรื่องถูกต้องแน่หรือ?


ถึงจะเป็นเพียงร่างจุติ แต่เจ็ดมารคือเจ็ดมารวันยังค่ำ พลังต่อสู้ของแกรนมาสเตอร์ต้องอยู่เหนือจินตนาการแน่นอน


ไม่อยากนึกภาพตามว่าจะเกิดความบรรลัยมากเพียงใดหากชายคนนี้โมโหสุดขีดและอาละวาดใส่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ขณะกริดกำลังกระสับกระส่าย ไม่รู้ว่าตนต้องเลือกเดินทางใดกันแน่


“หุบปาก! ซิกเฟรคเตอร์!”


อีธานซึ่งเอาชนะปิอาโร่ได้ไม่ยากเย็น พลันตะโกนแหกปากเสียงดัง มันจ้องมองแกรนมาสเตอร์ด้วยดวงตาแดงก่ำ


“แกคิดทอดทิ้งฉันโดยไม่ลังเลเมื่อเห็นพบคนเหมาะสมกว่า! คิดว่าฉันคนนี้เป็นใครกัน? เห็นเป็นไอ้งั่งรึไง!!”


“…!”


ฟ้าววว—


คล้ายกับตอบสนองโทสะเดือดดาลของอีธาน ดาบซาฮารันในมือเปล่งแสงเข้มข้นยิ่งกว่าในตอนแรก


ความสุดยอดของดาบซาฮารันสามารถดูดกลืนได้แม้กระทั่งผิวโลหะอุปกรณ์ทำฟาร์มปิอาโร่ซึ่งถูกสร้างจากวัสดุบีเลียล


เกิดรอยแตกร้าวขนาดเล็กบนจอบสั้น คราด และเคียวเกี่ยวข้าวหลายจุด


นี่คือฤทธิ์เดชหลังจากทำการแผ่แสงสว่างดูดกลืนพลัง ‘สสาร’ ไปทั่วเขตวังหลวงไททันก่อนหน้านี้


อำนาจของศาสตรากึ่งเทพสามารถล้มได้แม้กระทั่งปิอาโร่ผู้เข้าสู่ภาวะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ


ในวินาทีปัจจุบัน อีธานเข้าสู่ภาวะ ‘โอเวอร์เกียร์’ ชนิดสามารถต่อกรได้แม้กระทั่งตัวแกรนมาสเตอร์เอง


“ซิกเฟรคเตอร์! ฉันจะฆ่าแกก่อนใคร!”


“…เอ๋!?”


การพลิกผันของสงครามซึ่งไม่มีใครคาดคิด


กริดกำลังยืนมองอีธานพุ่งเข้าหาแกรนมาสเตอร์ด้วยความเร็วสูง ชายหนุ่มทำได้เพียงขมวดคิ้วฉงน


เคร้ง!


ดาบในมืออีธานปะทะเข้ากับแกรนมาสเตอร์จนสร้างแรงกระเพื่อมออกไปทั่วเขตวังหลวง


รุนแรงชนิดสามารถพัดพาหน่วยอัศวินองครักษ์และอัศวินสีชาดให้เสียการทรงตัว


“อั่ก!”


เป็นความซวยของแท้


กริดถูกเศษหินใหญ่จากเพดานหน้าท้องพระโรงตกกระแทกใส่ศีรษะ มันถึงกับร้องเสียงหลง


“ส่งมือมา!”


ชานสเลอร์ซึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้าไปช่วยมหาจักรพรรดิได้ตะโกนเรียกกริดพร้อมกับยื่นแขนออกไปหา


ในวินาทีปลายนิ้วชายหนุ่มสัมผัส


ภายใต้สถานการณ์ความเป็นความตายเช่นนี้ มันไม่มีเวลามัวควบคุมพลัง ‘มือมาร’ มิให้ออกอาละวาด


“ฮื้อ~”


ชานสเลอร์ครางในลำคอ


แต่ใบหน้าหาได้แสดงความปีติเหมือนกับเหยื่อรายอื่น คล้ายกับมีค่าต้านทานความสุขสมในปริมาณสูงลิบ


“มนุษย์ทุกคนล้วนมีรสนิยมไม่เหมือนกัน… ผมเคารพในความแตกต่าง…”


“…?”


เชี่ยไรอีกเนี่ย…


กริดไม่ค่อยเข้าใจคำพูดประหลาดของชานสเลอร์สักเท่าไร หมอนี่คงกำลังเข้าใจผิดสักอย่างสองอย่าง แต่ปัจจุบันกำลังหน้าสิ่วหน้าขวานเกินกว่าจะมัวคิดเล็กคิดน้อย


ชายหนุ่มเข้าถึงด้านในสุดของท้องพระโรงพร้อมชานสเลอร์ พวกมันช่วยพยุงร่างปิอาโร่และฮวนเดอร์ขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ย


…โดยไม่สนว่าตนอยู่ในฐานะใด อดีตจักรพรรดิทำการก้มศีรษะให้กริดอย่างไม่ลังเล


“ขอบคุณท่านมาก…”


“ฝ…ฝ่าบาท!”


มหาจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิซาฮารัน


ท้องฟ้าผืนเดียวในทวีปตะวันตก กำลังคุกเข่าให้กับราชาอาณาจักรเล็กอย่างนั้นหรือ?


ไม่เพียงชานสเลอร์ แม้แต่สองดยุคซึ่งนับถือกริดอย่างมากก็ยังแสดงท่าทีประหลาดใจ


แน่นอน แม้แต่ตัวกริดเองก็ด้วย


สายตาของฮวนเดอร์ชำเลืองมองปิอาโร่ซึ่งเพิ่งถูกชายหนุ่มพยุงร่างขึ้น


“ราชาโอเวอร์เกียร์ ท่านอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เราต้องการขอบคุณท่านมานานแล้ว ยิ่งเมื่อสงครามระหว่างอาณาจักรดำเนินยืดเยื้อ เราก็ยิ่งรู้สึกผิดจากก้นบึ้งจิตใจ”


“…”


แผนการจับมือเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป…


หัวใจกริดกำลังลุกโชนด้วยไฟแห่งความหวัง


ขณะเดียวกัน เกล็นฮาลตะโกนหน้าเครียด


“กระหม่อมไม่ทราบว่าอีธานจะรับมือแกรนมาสเตอร์ได้อีกนานแค่ไหน แต่ฝ่าบาทต้องรีบหนีไปให้ไกล!”


ไม่มีโอกาสใดเหมาะไปกว่าการอาละวาดอย่างบ้าคลั่งของอีธานอีกแล้ว


เมื่อเกล็นฮาลกล่าวจบ ฮวนเดอร์แสดงสีหน้าลังเลทันที


“เจ้าหมายถึงให้เราสละบัลลังก์หนีและถูกผู้คนทั่วทวีปหัวเราะเยาะเอาน่ะหรือ?”


แต่ถ้านายตายไปตอนนี้ มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเหมือนกัน… กริดพลันห่อเหี่ยวเมื่อได้ยินทัศนคติหัวรั้นของมหาจักรพรรดิ


ชานสเลอร์ช่วยโน้มน้าว


“อีธานถ่วงเวลาแกรนมาสเตอร์ได้ไม่นานแน่ อีกไม่ช้าคงหมดสภาพ พวกเราต้องเร่งมือสร้างระยะห่างจากแกรนมาสเตอร์ให้ไกลเข้าไว้ มันจะได้ไม่มีเวลาฟื้นฟูพลังชีวิตนานนัก”


“แต่ว่า…”


“ฝ่าบาท ท่านไม่ควรปล่อยให้แผนกวาดล้างกบฏ ในคราวเดียวหลุดมือ”


“…เข้าใจแล้ว”


ฮวนเดอร์ตัดสินใจคลายความดื้อรั้น


มหาจักรพรรดิและสองดยุค เบอินและชานสเลอร์ รวมถึงกริดและปิอาโร่ ทั้งหมดทยอยเข้าไปในทางเดินลับซึ่งถูกบอกต่อเฉพาะผู้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิแต่ละรุ่นเท่านั้น


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,470
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มันส์​~~~~~
    😁👍
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00