จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1092



‘แล้วนายจะพูดถึงมันทำไมฟะ?’


รองเท้ามังกรครามโอหังสยบฟ้าดิน


ความประทับใจแรกของกริดต่อรองเท้าคู่นี้คือ ‘สมบูรณ์แบบ’ ชายหนุ่มดีใจมากเมื่อตนสร้างสุดยอดไอเท็มโดยปราศจากข้อบกพร่องสำเร็จ


จากบรรดาไอเท็มมากมายของซาทิสฟายซึ่งผู้เล่นถือครอง เคยมีไอเท็มสักชิ้นมาพร้อมออปชัน ‘คืนรูป’ หรือไม่?


ศัตรูจะทำหน้าอย่างไรเมื่อทราบว่า รองเท้าของตนมีความคงทนอนันต์และคืนสภาพด้วยตัวเองหากเกิดการผิดรูป


กล่าวกันตามตรง สำหรับไอเท็มค่าคงทนไม่มีหมดเช่นนี้ ออปชันซ่อมแซมตัวเองดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ออปชันซ่อมแซมมาจากวัสดุ ‘กีบเท้าเฟย์ริส’ ส่วนออปชันคืนรูปมาจากบทกวี ‘ตัวเอกสองยุค’


ตราบใดยังสร้างไอเท็มด้วยแร่ละโมบ การปรากฏของออปชันสองชนิดนี้ย่อมมิอาจเลี่ยง


ถึงจะรกหูรกตา แต่มิได้ก่อความเสียหาย ชายหนุ่มจึงไม่ถือสาสักเท่าไร


ทว่า


> ข้อเสียเดียวของรองเท้าคู่นี้คือ นายอาจถูกฆ่าตายในร่างสายฟ้า แต่ฉันไม่กังวลสักเท่าไร โอกาสแสดงผลของเทพสายฟ้าต่ำมาก คนโชคร้ายอย่างนายไม่มีทางแสดงผลแน่ คึคึก!


คำพูดจากลอเอลเปรียบดังฟ้าผ่า


เทพสายฟ้า


ทักษะติดตัวแสดงผลแบบมีเงื่อนไข ในร่างสายฟ้าจะเป็นอมตะจากการโจมตีกายภาพ แต่จะเกิดความฉิบหายถ้าถูกเวทมนตร์ซัดใส่


หากศัตรูเป็นจอมเวททรงพลัง แล้วดันสุ่มติดทักษะบัดซบนี่เข้า ตนอาจไปสวรรค์ได้ในการโจมตีเดียว


แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ขนาดนั้น เนื่องจากโอกาสแสดงผลต่ำมาก แถมทักษะเทพสายฟ้าก็ยังมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย โอกาสตายในร่างสายฟ้าจึงแทบไม่เกิดขึ้น


ทว่า


“…แย่ล่ะสิ”


กริดมักโชคร้าย หรือในบางครั้ง ความโชคดีคือบ่อเกิดของความโชคร้ายในเวลาถัดมา


ในอดีต มันเคยโชคดีในเรื่องไม่เข้าท่า หลังจากสะสมโชคร้ายซ้อนทับกันหลายชั้น


‘สักวัน เราคงได้ตายในร่างเทพสายฟ้า’


ชายหนุ่มกังวลหนัก


คำเตือนของลอเอลเป็นเหมือนคำสาปแช่ง กริดเริ่มรู้สึกประหม่าและตื่นกลัว


แต่ขณะเดียวกัน ภายในก้นบึ้งจิตใจ


‘คงไม่ซวยซ้ำซากหรอกมั้ง’


ในอดีต กริดเคยดวงซวยมาแล้วหลายหน ตัวอย่างเช่น เรื่องราวอันโด่งดังของบราฮัม


รอบชิงชนะเลิศการแข่งซาทิสฟายนานาชาติปี 2 ระหว่างกริดและครอเกล ชายหนุ่มตัดสินใจยืมพลังของมหาจอมเวทในตอนท้าย แต่กลับถูกหมอนั่น ‘โทรลล์’ จนมีอันต้องพ่ายแพ้


กริดไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ในเมื่อเป็นไปแล้ว ก็คงยากจะให้เกิดซ้ำสอง


นอกเสียจาก เทพแห่งโชคชะตาจะเป็นพวกนักแต่งนิยายเกรดสาม ชอบใช้พล็อตเดิมหากินซ้ำไปมาอย่างขาดชั้นเชิง


‘แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น’


โอกาสเกิดความซวยมีไม่มาก เงื่อนไขซับซ้อน ตนต้องเผชิญหน้าศัตรูสายเวท และต้องเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด สองสิ่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันไม่บ่อยนัก


แต่ถึงจะซวยจนเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยร่างเทพสายฟ้าก็มีออปชันเผาผลาญมานาอีกฝ่าย นี่คือการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส


‘เรารับมือได้แน่’


แต่ไหนแต่ไร ชายหนุ่มเผชิญดวงซวยบัดซบมานับไม่ถ้วน มันมีสติมากพอสำหรับรับมือและพลิกผันสถานการณ์ รวมถึงสติในการฉวยโอกาสใช้ความโชคดีให้เกิดประโยชน์สูงสุด


ขณะพยายามระงับความกระวนกระวาย กริดทำการสวมใส่รองเท้าคู่ใหม่เอี่ยม


รองเท้าโลหะสูงถึงเข่า ปกปิดแข้งในลักษณะกระชับน่อง รวมถึงมีส่วนหนาคอยป้องกันการโจมตี งดงามกว่ารองเท้าทุกคู่ของกริดนับตั้งแต่อดีต


ชายหนุ่มส่องกระจกเต็มใบพร้อมกับยืนยิ้มอย่างมีความสุข


‘สร้างบูทยาวก็ดีเหมือนกัน’


แน่นอน มันสิ้นเปลืองวัสดุมากกว่ารองเท้าปรกติมาก แต่กริดมิได้นึกเสียใจ เพราะขนาดรองเท้าใหญ่ขึ้นหมายถึงจะช่วยให้พลังป้องกันเพิ่มขึ้น แถมพื้นผิวป้องกันก็ยังเพิ่มขึ้นด้วย


เดิมที บูทยาวคือไอเท็มสร้างได้ยาก เนื่องจากโลหะปรกติจะมีความแข็งเกินไป ไม่เหมาะสำหรับสร้างปกปิดจุดยืดหยุ่นเช่นบริเวณข้อเท้า จำเป็นต้องใช้วัสดุอย่างหนังหรือผ้าเพื่อให้เกิดความคล่องตัว ดังนั้น บูทยาวแบบโลหะล้วนจึงไม่ค่อยได้รับความนิยม นอกจากสายแทงค์เต็มพิกัดเท่านั้น


แต่ความพิเศษของละโมบคือ สามารถปรับเปลี่ยนความเหนียวและแข็งได้ตามใจชอบ ส่งผลให้ทนทานกว่ารองเท้าผ้าและหนัง แต่คล่องตัวได้ในประสิทธิภาพเท่ากัน


“พลิ้วไหว. ร่างมืด.”


กริดนำดาบอุดมคติออกมาบัฟเพื่อทดสอบสมรรถนะความเร็วสูงสุด


เดิมที ความเร็วขีดจำกัดผู้เล่นคือ 100 เมตรใน 5 วินาที แต่กริดสามารถทำได้ใน 4วินาทีเทียบเท่าโนเอะและละโมบ


ฟุ่บ—!


บรึม.


บึ้ม. บึ้ม.


ระหว่างชายหนุ่มกำลังบินทดสอบรอบลานฝึกทหารไรน์ฮาร์ท เสียงระเบิดของกำแพงอากาศดังขึ้นเป็นระยะ


ร้อยเมตรใน 4 วินาที


ฝุ่นควันคละคลุ้งฟุ้งกระจาย เวทบินได้สร้างภาพติดตาตามหลังชายหนุ่มเป็นระยะ


“น…นั่น!”


แม้แต่ฝูงนกซึ่งปรกติจะร้องเพลงในตอนเช้าก็ยังรีบบินหนีหายไป


แท้แต่ทหารซึ่งกำลังฝึกซ้อมด้วยชุดเกราะเต็มสูบหนักอึ้งก็ยังต้องแหงนมอง


“ตัวอะไร?”


ระหว่างเหล่าอัศวินกำลังแอบหาวเพื่อกลบสีหน้าง่วงนอน สายตาพวกมันชำเลืองไปทางวัตถุปริศนาบนท้องฟ้า


ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากราชาโอเวอร์เกียร์


แม้อัศวินเหล่านี้จะสาบานตนปกป้องสถาบันกษัตริย์และแผ่นดินเกิด แต่พวกมันก็เป็นมนุษย์ธรรมดา การฝึกหนักจนดึกดื่นทุกคืนส่งผลให้ไร้พลังงานในช่วงเช้า


ในไรน์ฮาร์ท ไม่มีใครไม่ทราบว่า ตลอดเดือนผ่านมา หนึ่งในบุคคลซึ่งทำงานหนักกว่าใครคือกษัตริย์กริด ชายคนนั้นมักหมกตัวอยู่ในโรงเหล็กทั้งวันทั้งคืน พยายามทำประโยชน์ให้แก่อาณาจักรโดยไม่เหน็ดเหนื่อย


‘ฝ่าบาทคงอ่อนล้ายิ่งกว่าใคร’


‘แต่กลับตัดสินใจออกกำลังกายในตอนเช้าเพื่อเป็นแบบอย่างอันดีให้ทหาร’


[ขวัญกำลังใจทหารเพิ่มขึ้นอย่างมาก!]


“บ้าน่า?”


โซลเยอร์


ผู้เล่นอดีตทหารเรืออาณาจักรอีเทอร์นัล แผนการของมันล้มเหลวและถูกพีคซอร์ดจับตัวได้ในสงครามเกาะคอร์ก นับแต่นั้นมา โซลเยอร์ได้เข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์และกลายเป็นสมาชิกคนสำคัญ


เรียกว่าเป็นสมาชิกยุคบุกเบิกก็ไม่ผิด ในภายหลังได้กลายเป็นหัวหน้าค่ายทหารแทนอัสโมเฟลซึ่งออกไปตามหาอดีตอัศวินสีชาด โซลเยอร์และพวกพ้องหมั่นทำงานอย่างหนักทุกวันแทนการขาดหายไปของอัสโมเฟล


แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


แน่นอน การหาบุคลากรเปี่ยมด้วยบารมีของผู้นำและความสามารถเป็นเรื่องยาก


ไม่ว่าโซลเยอร์และทีมงานจะขยันขันแข็งมากเพียงใด แต่การคุมกองทหารหลักหมื่นถือเป็นงานโหดหินสำหรับกลุ่มผู้เล่น โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้เป็นคลาสพิเศษอย่างอาเรส


สถานการณ์กองทัพหลวงไม่ค่อยสู้ดีนัก อาจไม่แย่ลง แต่ก็ไม่พัฒนาขึ้นจากสมัยอัสโมเฟลสักเท่าไร


แค่นี้ก็เต็มกลืนแล้วสำหรับโซลเยอร์


อย่างไรก็ตาม ในวินาทีนี้


“เตรียมวิ่งรอบสนาม!”


“ทั้งหมด! หน้าวิ่ง!”


“เฮ—!!”


“…”


ทหารไรนฮาร์ทซึ่งขวัญกำลังใจถดถอยในระยะหลัง บัดนี้กลับมาฮึมเหิมพร้อมรับการฝึกหนักอีกครั้ง ทั้งหมดเป็นผลจากการแวะเยี่ยมเยียนลานฝึกเพียงหนเดียวของกริด


‘พิเศษชะมัด’


โซลเยอร์จ้องมองแผ่นหลังของทหารและอัศวินซึ่งกำลังวิ่งแหกปากไปรอบสนาม มันอมยิ้มอย่างมีความสุขสุดขีด


อาณาจักรโอเวอร์เกียร์


แทบไม่น่าเชื่อว่า อาณาจักรน้องใหม่ไฟแรงซึ่งกำลังแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วทวีป จะถูกปกครองด้วยผู้เล่นเพียงหนึ่งคน ไม่มีคำนิยามอื่นอีกแล้วนอกจาก ‘มหัศจรรย์’


ขณะกำลังชื่นชม


“โซลเยอร์”


“ครับ!”


เมื่อได้ยินเสียงเรียกขานจากกริด โซลเยอร์แหกปากขานรับหนักแน่นด้วยความเต็มใจ เพราะในชีวิตจริง มันคลั่งไคล้ในอาชีพทหารอย่างมาก


ราชาโอเวอร์เกียร์ยืนตะโกนจากใจกลางลานฝึก


“มาดวลกัน”


“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ!”


โซลเยอร์ไม่ลังเล


ตามปรกติแล้ว โอกาสได้สู้กับท้องฟ้าแห่งซาทิสฟายมีไม่มาก ต่อให้ไม่มีโอกาสชนะเลย แต่ก็จะกลายเป็นประสบการณ์อันเยี่ยมยอด


“ย่าห์!!”


โซลเยอร์รีบพุ่งตัวไปยังใจกลางลานฝึกด้วยความเร็วสูงเพื่อลดระยะห่างจากกริด


อาจไม่ใช่แรงเกอร์อันดับแถวหน้าของโลก แต่มันก็มีศักดิ์ศรีของท็อป 5,000 ค้ำคออยู่


การโจมตีแรกเริ่มขึ้น


เคร้ง!


กริดปัดป้องโดยไม่ชักอาวุธ เพียงใช้ฝ่าเท้ารับไว้ง่ายดาย


“…!?”


ขณะโซลเยอร์เกิดความอับอายเล็กน้อย อาวุธในมือถูกพลังปริศนาผลักกระเด็นกลับ


หากเป็นศึกชี้เป็นชี้ชาย มันควรต่อสู้ด้วยความสุขุมและพิจารณาว่า แรงผลักลึกลับมีต้นตอจากสิ่งใด


แต่นี่เป็นเพียงการดวล มันไม่มัวคิดให้มากความ ในเมื่อบูทยาวของอีกฝ่ายเป็นปัญหา แค่เล็งโจมตีส่วนบนก็สิ้นเรื่อง


อย่างไรก็ตาม เรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น


ฟุ่บ!


“…!?”


เพียงพริบตา กริดลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับมีประกายสายฟ้าล้อมรอบ


สิ่งนี้มิใช่การกระโดด


แต่เป็นพลังการบินสมบูรณ์แบบ


โดยไม่ได้สวมรองเท้าบราฮัม


‘หรือเขาจะใช้น้ำตากษัตริย์เผ่าวารีสร้างรองเท้าบรรจุเวทมนตร์คู่ใหม่?’


ระหว่างผุดความคิดดังกล่าว


“อสนีบาต”


เปรี้ยง—!


สายฟ้า


สายฟ้าของจริง!


ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วจนเลยขอบเขตปฏิกิริยาตอบสนองของมนุษย์ โซลเยอร์ต้องรับการโจมตีไม่คาดฝันเข้าไปอย่างจัง


[ท่านได้รับความเสียหาย 30,000 หน่วย]


[ท่านได้รับอาการ ‘ช็อกไฟฟ้า’]


“…!?”


ตกอยู่ในสภาพไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง


ผ่านไปหนึ่งอึดใจ กริดพุ่งตัวลงมาอยู่ด้านหลังของโซลเยอร์เรียบร้อย


“ขอบคุณสำหรับการทดสอบ”


“…หามิได้ครับ”


ตั้งแต่ต้นจนจบการดวล กริดไม่ได้ชักอาวุธออกมาแม้แต่ครั้งเดียว ชายหนุ่มสยบแรงเกอร์อันดับท็อป 5,000 ด้วยรองเท้าเพียงหนึ่งคู่


หากมีพยานรู้เห็น พวกมันคงอ้าปากค้างและเอาแต่ตะโกนว่า ‘กริดใช้บั๊ก!’


อย่างไรก็ตาม ทั้งกริดและโซลเยอร์ต่างมิได้กล่าวสิ่งใดไปมากกว่านั้น


ทั้งคู่ต่างทราบดี


พลังของรองเท้าไม่ได้มีแค่นี้


โซลเยอร์มั่นใจมาก บูทยาวคู่ใหม่ของกริดสามารถสยบแรงเกอร์หลักพันจำนวนหลายสิบคนได้พร้อมกันแน่นอน


อรรถประโยชน์ของรองเท้ามังกรครามโอหังสยบฟ้าดิน มีมากเหนือคำบรรยาย


สามารถสร้างระยะห่างด้วยการบินขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็ปลดปล่อยสายฟ้าเพื่อสร้าง CC ควบคุมศัตรู และร่อนลงมาโจมตีด้านหลังอย่างไร้หนทางป้องกัน


‘ชักตื่นเต้นแล้ว’


จนแล้วจนรอด พลังแห่งไอเท็มก็ยังเป็นทุกสิ่งในโลกซาทิสฟายไม่แปรเปลี่ยน


กริดรู้สึกมีความสุข มันอมยิ้มพร้อมกับหัวเราะอย่างผ่อนคลาย


ขณะเดียวกัน โซลเยอร์กำลังชื่นชมตัวเองภายในใจ การเลือกเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์ในวันนั้น คือก้าวเดินถูกต้องโดยแท้จริง


***


ไม่มีอาณาจักรใดตอบรับคำขอไวโอเล็ต


ไม่มีพันธมิตรเกิดขึ้น


อาณาจักรไวโอเล็ตไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้ออร์คสนธยาแย่งชิงส่วนหนึ่งของดินแดนไปต่อหน้าต่อตา


เมื่อได้ประจักษ์พลังของออร์คสนธยาผ่านสื่อหลายช่องทาง ผู้เล่นจำนวนไม่น้อยตัดสินใจเปลี่ยนเผ่าพันธุ์เข้าร่วม ส่งผลให้กองทัพรุกรานอาณาจักรไวโอเล็ตทวีความแข็งแกร่งชั่วข้ามคืน


หลังจากเข้าตาจน ไวโอเล็ตไม่มีทางเลือกนอกจากร้องขอ ‘กำลังเสริม’ จากทุกอาณาจักรบนทวีปตะวันตก


จดหมายเชิญถูกส่งมอบถึงอาณาจักรโอเวอร์เกียร์โดยเนื้อความระบุว่า พวกตนจะจ่ายค่าตอบแทนให้อย่างเหมาะสม กรุณาส่งทหารเข้ามาช่วยเหลือด้วย


แน่นอน กริดปฏิเสธ


เฉกเช่นอาณาจักรเก๊าส์และข้างเคียง ทั้งหมดตอบสนองไปในทิศทางเดียวกัน


สาเหตุหลักมาจาก ถ้าพวกมันลดจำนวนทหารลง นั่นจะเป็นช่องโหว่ให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ใช้รุกราน


ในเวลาเดียวกัน อาณาจักรห่างไกลโอเวอร์เกียร์เลือกส่งกำลังทหารไปช่วยไวโอเล็ต


จากมุมมองประเทศกระหายการพัฒนา เงินทองจำนวนมหาศาลจากไวโอเล็ตคือสิ่งจำเป็นยิ่งยวด ไม่มีใครต้องการพลาดโอกาสสำคัญตรงหน้า


อาณาจักรโฟลด์ก็เช่นกัน


พวกมันคืออาณาจักรยากจน ดินแดนรกร้างและเต็มไปด้วยผีสาง แต่กระนั้น กองทัพโฟลด์มีทหารกล้าประจำการมากถึงสามแสนนาย ทุกคนฝึกฝนด้วยการเก็บเลเวลกับกลุ่มมอนสเตอร์แข็งแกร่งโดยรอบ


นี่คือโอกาสทองสำหรับกอบโกยความมั่งคั่งเข้าสู่ประเทศ


ทว่า


“พวกเราก็ไม่ส่งเช่นกันขอรับ”


อาณาจักรโฟลด์ปฏิเสธคำขอของไวโอเล็ต


ผ่านมาแล้วหลายปี นับตั้งแต่พวกมันเริ่มอยู่ใต้อาณัติของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ฉะนั้น การตัดสินใจของโอเวอร์เกียร์ย่อมหมายถึงการตัดสินใจของโฟลด์เช่นกัน


“มาเพื่อพูดเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ?”


องค์ชาย ‘ไชน์นิ่ง’ แห่งโฟลด์


หลังจากอีกฝ่ายรีบเดินทางมายังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เพื่อรายงานการตัดสินใจให้ทราบ กริดส่งเสียงตำหนิเล็กน้อย


แต่สีหน้ากลับยังเปี่ยมสุข


นับตั้งแต่วันแรก กริดยังชื่นชอบองค์ชายไชน์นิ่งไม่เคยเปลี่ยน อีกฝ่ายทั้งสุภาพ อ่อนโยน และเฉลียวฉลาด


เหนือสิ่งอื่นใด ไชน์นิ่งพยายามเสี่ยงชีวิตปกป้องไอรีนและลอร์ดในเหตุการณ์วิหารยาธานบุกถล่มวาติกัน


“การรายงานเป็นเพียงข้ออ้าง ผมเพียงต้องการเฝ้าเข้าฝ่าบาท แค่ได้เห็นฝ่าบาทมีพลานามัยแข็งแรงก็สุขใจแล้ว”


องค์ชายไชน์นิ่งกล่าวเยินยอเหมือนทุกที


อีกฝ่ายเป็นถึงผู้เปลี่ยนแปลงจักรวรรดิ


สำหรับไชน์นิ่ง กริดคือต้นแบบของกษัตริย์ในฝัน มันจึงพยายามเจริญรอยตามอย่างสุดความสามารถ


ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง


“พูดได้ดี ในเมื่อมาถึงแล้ว ไปพบราชินีกับองค์ชายสักหน่อยไหม พวกเขาต้องดีใจแน่”


“เป็นเกียรติอย่างยิ่งขอรับ”


“เดี๋ยวก่อน”


กริดส่งเสียงเรียกหลังจากไชน์นิ่งโค้งคำนับและเริ่มหันหลัง


สำหรับอาณาจักรโฟลด์ แม้พวกมันจะยากจนเป็นอันดับหนึ่ง แต่กำลังทหารก็มิได้อ่อนแอตามไปด้วย


ในฐานะองค์ชายรัชทายาท ไชน์นิ่งย่อมต้องเป็น NPC พิเศษสุด


หรือก็คือ ไม่มีขีดจำกัดของแต้มสถานะ


“เรามีของขวัญจะมอบให้”


“…!!”


อาณาจักรซึ่งไม่มีชายแดนติดทะเล


พวกมันย่อมไม่เคยเห็นฉลาม ดังนั้น ดาบซึ่งสร้างด้วยรูปลักษณ์คล้ายคลึงฉลามจึงถือเป็นสิ่งแปลกตา


ขณะไชน์นิ่งกำลังยืนตกตะลึง กริดทำการยื่น ‘ความผิดพลาด’ มอบให้เป็นของขวัญ


“เราใช้ดาบเล่มนี้มานานกว่าสิบปีแล้ว”


เนื่องจากเงื่อนไขสวมใส่สุดโหดหิน นอกจากคริสก็ไม่มีใครถือดาบเล่มนี้ได้อีก แถมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยังมีโอริชาลคัมสีน้ำเงินในปริมาณเหลือเฟือ สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ทุกเวลา


ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าตนลงมือสร้าง ‘ความผิดพลาด’ ด้วยฝีมือปัจจุบัน ต่อให้เป็นสูตรผลิตแบบเดิม แต่ประสิทธิภาพจะสูงส่งจนเล่มเก่าเทียบไม่ติด


‘ไม่ต้องอธิบายให้มากความ’


กริดเล่ารายละเอียดดาบความผิดพลาดเพียงน้อยนิด ไม่ลงลึกถึงจุดด้อยและข้อเสีย เพื่อให้เป็นสิ่งล้ำค่าในสายตาองค์ชายไชน์นิ่ง


“ตอนนี้เจ้าคงยังใช้ไม่ถนัด แต่ถ้าหมั่นฝึกฝนอย่างหนัก ต้องใช้งานจนคล่องแคล่วได้ในสักวันแน่นอน หวังว่ามันจะเป็นกำลังสำคัญให้เจ้าในอนาคต”


“ฝ…ฝ่าบาท”


“เราตอบแทนความจงรักภักดี ตอบแทนวีรกรรมกล้าหาญซึ่งเคยเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือราชินีและองค์ชาย”


“ผมเพียงทำในสิ่งเหมาะสม หาได้ปรารถนารางวัลตอบแทน—”


“อย่าปฏิเสธเรา”


“…”


อาณาจักรลูกคือทาสผู้ซื่อสัตย์และถูกเอารัดเอาเปรียบจากอาณาจักรแม่


นั่นคือความเชื่อจากสมัยอดีต


แต่อาณาจักรโฟลด์และโอเวอร์เกียร์มีความสัมพันธ์เป็นเช่นไร?


ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โอเวอร์เกียร์รับบทบาทเป็นผู้ให้อยู่ฝ่ายเดียว


เป็นเพราะโอเวอร์เกียร์ ราชวงศ์โฟลด์จึงปลอดภัยจากการกดขี่ของจักรวรรดิ ประชาชนได้อิ่มท้องและลืมตาอ้าปาก แถมยังช่วยฝึกฝนกองทัพหัวกะทิทรงพลัง


เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวง


และปัจจุบัน มันยังได้รับของขวัญชิ้นใหม่


สุดยอดศาสตร์ซึ่งสามารถใช้เป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลได้อย่างไร้ข้อกังขา


หนึ่งในสัญลักษณ์ของราชาโอเวอร์เกียร์ถูกส่งต่อไปยังองค์ชายไชน์นิ่ง


“…พระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นของฝ่าบาท ผมจะไม่ลืมเลือนไปตลอดชีวิต!”


องค์ชายไชน์นิ่งยืนตกตะลึงเช่นนั้นเป็นเวลานาน ก่อนอมยิ้มอย่างมีความสุขราวกับได้รับพรจากสวรรค์


จากมุมมองของกริด แค่ยอมสละบางสิ่งเพื่อสร้างบุญคุณให้อีกฝ่าย ตนก็จะได้รับพันธมิตรอันยืนยงยาวนานตอบแทน



▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,481
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณมากครับ🥰🥰

    ReplyDelete
  2. เย้ ไม่ค้างโว้ยยย555

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณ​มาก​มาก​ครับ​

    ReplyDelete
  4. คือ​เสียสละเพียงนิด​ แต่ในภายภาคหน้า​จะได้สิ่งที่ตอบแทนมากกว่านี้​ ว่านพื้นต้องหวังผล​ ก็อดกริดได้กล่าวเอาไว้ 😅

    ReplyDelete
  5. อ่านตามตอนฟรีทันแล้วว!!! ชอบเรื่องนี้มากกก

    ReplyDelete
  6. ขอบคุณคับลุ้นเลยว่าพระเอกจะออกโรงเป็นราชาของหลายเผ่าพันธ์ออกไหม

    ReplyDelete
  7. ตอนฟรีอีกสองตอนหายไปไหนอ่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช้​ มันหายไปสองตอน​ เรานี้กดเข้ากดออก​วันหนึ่งหลายรอบเลย​ นึกว่าจะอัพ​ จนวันจันทร์​แล้วยังไม่อัพเลย​ 😅😅รอติดตาม​อยู่​นะครับแอด

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00