จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1079



ปราณสีชาดคือพลังธรรมชาติประเภทหนึ่ง


เฉกเช่นความบริสุทธิ์ของเลือดแวมไพร์และระดับดวงตาของเผ่าเนตรมาร ทั้งหมดสืบทอดทางสายเลือด ยากจะฝึกฝนหรือพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้น เป็นพรสวรรค์ติดตัวแต่กำเนิด


และเป็นสาเหตุให้ จักรวรรดิมักคัดสรรบุคคลผู้มีปราณสีชาดทรงพลัง ขึ้นครองราชย์ในฐานะจักรพรรดิองค์ใหม่สืบบัลลังก์อย่างต่อเนื่อง


ใครเกิดมาพร้อมปราณสีชาดรุนแรงกว่า ย่อมหมายถึงมีพรสวรรค์มากกว่า และมีโอกาสสูงจะได้ครองบัลลังก์จักรพรรดิ


จักรวรรดิในอดีตได้ปกครองประชาชนอย่างร่มเย็นด้วยหัวใจบริสุทธิ์เสมอมา


แต่ปัจจุบันล่ะ?


ยิ่งกาลเวลาผ่านไป การแก่งแย่งภายในตระกูลยิ่งเข้มข้น ส่งผลให้ผู้กลายเป็นจักรพรรดิ อาจไม่ใช่ผู้ครองปราณสีชาดอันดับหนึ่งเสมอไป แต่เป็นผู้กุมพลังอำนาจทางการเมืองไว้สูงสุด


เมื่อเป็นเช่นนี้พรสวรรค์ทางพลังของจักรพรรดิแต่ละรุ่นเริ่มถดถอย การสืบบัลลังก์ไม่ได้เลือกจากคนโชคดีเกิดมาพร้อมปราณสีชาดรุนแรง แต่วัดกันตรง ใครมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมากกว่ากัน


พวกมันเริ่มเกียจคร้าน ละทิ้งเจตจำนงของบรรพบุรุษซึ่งต้องการแผ่ขยายอำนาจไปยังทวีปตะวันออก เอาแต่เสพสุข ปล่อยวันเวลาล่วงผ่านอย่างไรความหมาย


คำสัญญาซึ่งตระกูลซาฮารันเคยรับปากแกรนมาสเตอร์จึงเริ่มเลือนรางนับแต่นั้น


คุกนรก… ส่วนลึกสุดของโลก


จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด


มันคือดินแดนแสนสำคัญสำหรับเติมเต็มความฝันของแกรนมาสเตอร์และผู้ก่อตั้งซาฮารัน กล่าวกันว่า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกกึ่งกลางและขุมนรก


อย่างไรก็ตาม แกรนมาสเตอร์รู้สึกหัวเสียอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบัน ดินแดนดังกล่าวถูกปฏิบัติไม่ต่างจากคุกทั่วไปสำหรับขังนักโทษ


“บุตรชายของเจ้าเฉลียวฉลาด เพียงพาเที่ยวชมคุกนรกหนเดียว ก็ตระหนักถึงความต้องการของเราได้ทันที และยินดีเต็มใจรักษาสัญญา ช่างเหมือนกับซาฮารันกลับชาติมาเกิดไม่มีผิด ตัวเรารู้สึกปลาบปลื้มมาก”


“ท่านต้องการสิ่งใดจากคุกนรกกันแน่…”


ถ้อยคำแฝงเลศนัยจากปากแกรนมาสเตอร์ ทำให้ฮวนเดอร์ต้องขมวดคิ้วฉงน


มันทราบเพียงว่า คุกนรกเป็นจุดสิ้นสุดของโลกกึ่งกลาง


ยิ่งย่างกรายเข้าไปลึกมากเท่าใด กาลเวลาก็ยิ่งหยุดนิ่งและเลือนหาย ปลายทางไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกจากขุมนรกแท้จริง


“หรือเป้าหมายของท่านคือ ทำลายกำแพงระหว่างขุมนรกและโลก เพื่อสร้างความโกลาหลวุ่นวายใช่ไหม?”


“เป็นการคาดคะเนแสนโง่เขลา ช่างน่าสมเพช… ข้านึกสงสารตัวเอง เหตุใดต้องทำงานร่วมกับบุคคลโง่เขลาเช่นนี้มานานหลายปี”


“…!”


ฉึบ.


เพียงแกรนมาสเตอร์ตวัดปลายนิ้วแผ่วเบา ‘ดาบปฐมจักรพรรดิซาฮารัน’ ได้หลุดจากสองมืออีธานซึ่งกำลังบีบไว้แน่น


ปราณสีชาดปริมาณมหาศาลพวยพุ่งออกจากดาบรอบทิศ ย้อมให้ทุกสรรพสิ่งกลายเป็นสีแดงฉานเข้มข้นชั่วขณะ


เป็นสีแดงซึ่งน่าขยะแขยงและชวนขนหัวลุกเหนือคำบรรยาย


เมื่อแสงจ้าเริ่มจางลง ดาบดำสนิทลอยกลับสู่มืออีธานอีกครั้ง


ขณะพลังอันยิ่งใหญ่กำลังเอ่อล้นร่างกาย อดีตองค์ชายพยายามข่มสัญชาตญาณฆ่าฟันอย่างเต็มกลืน ปากตะโกนเปล่งเสียงห้าวหาญ


“จักรพรรดิ! สละบัลลังก์เดี๋ยวนี้! แล้วจะไม่มีใครต้องเสียชีวิต!”


“ไม่มีทาง! ไม่เคยมีจักรพรรดิองค์ใดถูกบุตรชายของตนแย่งชิงบัลลังก์มาก่อน!”


ถูกต้อง ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของตระกูลซาฮารัน ไม่เคยมีใครถูกบุตรชายแย่งชิงบัลลังก์สำเร็จ


และตัวมันต้องไม่ใช่คนแรก


“มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังมัวห่วงศักดิ์ศรีจอมปลอมนั่นอยู่อีกหรือ… ตายซะ!”


บึ้มมมมม!!


ปราณสีชาดของซาฮารันและฮวนเดอร์ปะทะกันกลางอากาศ


กรอด.


มหาจักรพรรดิขบกรามแน่นจนเกิดเสียง


ทั้งแกรนมาสเตอร์และอีธาน ต่างกล่าวหาว่าฮวนเดอร์ไร้ความสามารถและเห็นแก่ตัว แต่ในความเป็นจริง มันคือผู้ได้รับสิทธิ์ครองราชย์อย่างชอบธรรม


แม้จะเพิกเฉยต่อแกรนมาสเตอร์ ผู้พิทักษ์ประจำตระกูลมาตั้งแต่รุ่นปู่และพ่ออย่างไม่ตั้งใจ แถมยังละเลยความรู้สึกคนใกล้ตัวอีกมากมาย


อย่างไรก็ตาม ฮวนเดอร์นั้นปรีชาสามารถด้านเศรษฐกิจ แถมยังกระจายกองทัพปราบปรามกลุ่มชนเผ่าตามชายแดนจนแทบหมดสิ้น


จากมุมมองคนนอก ความสำเร็จด้านเศรษฐกิจของฮวนเดอร์ควรค่าแก่การยกย่อง และสงครามกับชนเผ่าไม่เคยเป็นเรื่องง่าย


แต่ปัจจุบัน…


แกรนมาสเตอร์ผู้ไม่เคยแยแสจักรวรรดิเลยสักครั้ง รวมถึงบุตรชายงี่เง่าผู้เอาแต่ก่อเรื่องไม่หยุดหย่อน กลับรวมหัวกล่าวโทษว่าทุกสิ่งเป็นความผิดของตน


ฮวนเดอร์กำลังโกรธแค้น


โทสะเดือดดาลพลันปะทุ เป้าหมายคืออีธานและแกรนมาสเตอร์เบื้องหน้า


บึ้มมมมมม—!!


แน่นอน ปราณสีชาดฮวนเดอร์นั้นไม่ธรรมดา


แต่ปราณสีชาดของซาฮารันก็ไม่สั่นคลอน


ความสูสีคงสมดุลได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น


ท่ามกลางคลื่นกระเพื่อมเกรี้ยวกร้าวดุจดังห้วงสมุทร เจิดจรัสร้อนแรงดุจดังแสงตะวัน


ปราณสีชาดของซาฮารันเหนือกว่าฮวนเดอร์อย่างชัดเจน


ปราณซาฮารันเริ่มดูดกลืนปราณฮวนเดอร์เข้าไปเป็นของตัวเอง จากนั้นก็ควบแน่นเป็นก้อนพลังกลับสู่คมดาบ ส่งเสริมให้ปราณสีชาดอีธานเพิ่มพูนปริมาณเป็นเท่าทวี


ทุกสิ่งเกิดขึ้นในพริบตา


“อะไรกัน…!”


พลังถูกดูดกลืน…?


“มันเป็นกฎแห่งธรรมชาติ… ไม่มีพลังชนิดใดสามารถขัดขืนต้นกำเนิดได้”


เสียงพึมพำไร้อารมณ์ของแกรนมาสเตอร์ได้ไขข้อข้องใจของทุกคนจนกระจ่าง


“คึก…! ซิกเฟรคเตอร์!!”


ดวงตาแดงก่ำของฮวนเดอร์พลันจ้องมองแกรนมาสเตอร์อย่างอาฆาตแค้น


เมื่อลองนึกดูให้ดี…


บุคคลผู้นี้ล่วงรู้ทุกสิ่งมาตั้งแต่ต้น


เรื่องจักรพรรดินีแมรี่เป็นตัวการสังหารอาเรียและป้ายความผิดปิอาโร่ให้เป็นกบฏ


หากมันบอกใบ้เพียงเล็กน้อย ตนคงไม่ต้องสูญเสียอาเรียและปิอาโร่ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน


แต่มันกลับไม่ทำสิ่งใดเลย…


ไม่เตือนด้วยซ้ำว่าตนติดค้างสัญญาของบรรพบุรุษ และไม่เคยอธิบายว่าสัญญาดังกล่าวหมายถึงสิ่งใด


“ท…! ท่านทำให้เราต้องเป็นแบบนี้!!”


ดาบในมือฮวนเดอร์ซึ่งฉาบด้วยปราณสีชาดปริมาณเข้มข้น พุ่งแหวกอากาศโดยมีปลายทางเป็นหัวใจแกรนมาสเตอร์


เพียงชำเลืองครู่เดียวก็ทราบทันทีว่า ฝีมือปัจจุบันของฮวนเดอร์ทรงพลังกว่าสามดยุคหลายขุม ซีบาลซึ่งจ้องมองเหตุการณ์จากด้านนอกพลันเย็นสันหลังวาบ


‘เลเวลของจักรพรรดิสูงกว่า 500 อีกหรือ?’


โดยทั่วไป ยิ่ง NPC มีตำแหน่งและฐานะสูงส่ง เลเวลและแต้มสถานะก็ยิ่งมากเป็นเงาตามตัว


ผู้เล่นและนักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่างพากันคาดเดาว่า มหาจักรพรรดิอาจเป็น NPC ซึ่งมีเลเวลมากเป็นอันดับหนึ่งบนทวีปตะวันตก


ซีบาลไม่เคลือบแคลงเลย แกรนมาสเตอร์มีชะตากรรมต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอน


แต่ความเป็นจริง…


ซิกเฟรคเตอร์หาได้ขยับเขยื้อน มันยังคงยืนนิ่งในจุดเดิมด้วยสีหน้าเรียบเฉย


ทันใดนั้น แร้งโน้มถ่วงมหาศาลได้กดทับฮวนเดอร์ให้ชะงักงันจนมิอาจขยับตัวคืบหน้า


สายตาแกรนมาสเตอร์จ้องมองเข้าไปในดวงตาของมหาจักรพรรดิโดยไม่กล่าวสิ่งใด


“…”


มันเงียบงันเป็นเวลานาน


ไม่มีใครคาดเดาการกระทำต่อไปได้


แต่ไหนแต่ไร ทุกคนล้วนทราบดี แกรนมาสเตอร์ชื่นชอบความเงียบสงบเหนือสิ่งอื่น


“…!”


ขณะร่างกายถูกกดทับด้วยมวลแรงโน้มถ่วงมหาศาล คล้ายกับฉุกคิดบางสิ่งได้ ฮวนเดอร์รีบก้าวถอยหลังอย่างลนลาน


เพียงเสี้ยวพริบตา ดาบปฐมจักรพรรดิซาฮารันในมืออีธานพุงแทงใส่จุดยืนเก่าของฮวนเดอร์ แม้จะหลบหลีกไม่พ้นทั้งหมด แต่ก็โชคดีเบี่ยงรอดจากจุดตายมาได้


“ฝ่าบาท!”


สองดยุคทำได้เพียงเฝ้ามองเหตุการณ์อย่างสิ้นหวัง แม้เจ้านายกำลังเจ็บปวดเจียนตายตรงหน้าก็ตาม ฮวนเดอร์ถูกดาบอาบปราณสีชาดเสียบถากหัวไหล่จนเกิดแผลลึก


พวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้ามอง


ปราณสีชาดของซาฮารัน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดปราณสีชาดทั้งหมด ได้สะกดข่มสายเลือดดยุคอย่างรุนแรงหนักหน่วง


พวกมันเกิดมาเพื่อรับใช้จักรวรรดิ สายเลือดจึงถูกสาปให้หวาดกลัวต่อปราณสีชาดมาหลายชั่วอายุคน


สองดยุคไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้ปลายนิ้ว ร่างกายถูกข่มให้คุกเข่าลงกับพื้น จิตใจท่วมท้นด้วยความรู้สึกหวาดผวา


มหาจักรพรรดิซึ่งพวกมันถวายตัวรับใช้นับตั้งแต่ลืมตาดูโลก กำลังเผชิญอันตรายถึงชีวิต


ตำแหน่งจักรพรรดิองค์ใหม่กำลังจะถูกส่งมอบให้บุรุษเสียสติและบ้าคลั่ง


‘จบสิ้นแล้ว…’


สองดยุคเหลือบมองกลุ่มคนจำนวนมากด้านหน้าท้องพระโรงด้วยสายตาแดงก่ำ


อัศวินสีชาดหลายสิบ


กลุ่มนักขับจักรกลเวทมนตร์


จักรวรรดิคงถึงคราวสิ้นสุด…


ต่อให้กองทัพเจ็ดดยุคล้อมวังแห่งนี้ไว้ แต่คงใช้เวลาอีกมากโข กว่าจะฝ่าด่านกลุ่มบริวารทรงพลังของอีธานเข้ามาได้


ขณะสองดยุคกำลังหมดหวัง


เคร้ง!! เคร้ง!


“พวกนายคิดจะเหม่อไปถึงไหน! รีบออกไปตามคนมาช่วยเร็วเข้า!”


เบอินปัดป้องดาบอีธานพลางตะเบ็งเสียง


นี่น่ะหรือเงาแห่งจักรพรรดิ…


เจตจำนงซึ่งต้องการปกป้ององค์จักรพรรดิของเบอิน ทั้งน่ายกย่องและชวนให้สิ้นหวังในเวลาเดียวกัน


“เข้าใจแล้ว…! ช่วยยืดเวลาไว้ก่อน—”


ขณะสองดยุคฝืนรวบรวมสมาธิเพื่อหลุดจากพลังสะกดข่มปราณสีชาดต้นกำเนิด


“พวกเจ้ายังไปไหนไม่ได้ การขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิองค์ใหม่จำเป็นต้องมีพยานรู้เห็น”


แกรนมาสเตอร์ดีดนิ้วเพื่อแปรเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงรอบตัวสองดยุค จากนั้นก็ตวัดนิ้วเพื่อบังคับให้พวกมันหลังกลับ ประหนึ่งลูกไก่เชื่องในกำมือ


“บ…บัดซบ!”


สุดยอดเวทมนตร์ซึ่งทรงพลังยิ่งกว่าจอมอสูรเฟย์ริส เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่มีทางเอื้อมถึงขอบเขตนี้อย่างแน่นอน


เกล็นฮาลตัดสินใจเข้าสู่ภาวะนักรบคลั่ง ส่วนมอริสจำแลงกายเป็นสัตว์ป่า ด้วยร่างนี้ของทั้งสอง พวกมันขยับเข้าใกล้ขีดจำกัดเหนือมนุษย์จนห่างเพียงเส้นกั้นบาง


“น่ารำคาญ…”


แกรนมาสเตอร์พึมพำเหนื่อยหน่ายเมื่อเห็นสองดยุคใกล้หลุดพ้นแรงโน้มถ่วง มันทำการปลดปล่อยบอลสีใสล่องลอยรอบตัวเอง 2 ลูก


ลูกแก้ว… ไอเท็มเพิ่มประสิทธิภาพเวทมนตร์


สองดยุคเพิ่งตระหนักเป็นหนแรก ว่าแกรนมาสเตอร์มีฝีมือด้านเวทมนตร์ทรงพลังยิ่งกว่าโกลด์ฮิตหลายเท่า


สะกดข่มได้ชะงักงัน


“อ๊ากกกก…!”


เกล็นฮาลและมอริสถูกสยบโดยสมบูรณ์ แม้จะเป็นร่างกึ่งเหนือมนุษย์ก็ตาม


ระดับแตกต่างเกินไป สองดยุคแห่งจักรวรรดิซาฮารันในสภาพเอาจริง กลับไม่สามารถทำให้แกรนมาสเตอร์ตื่นเต้นได้เลย


“หลีกทาง!!”


เสียงเอะอะโวยวายดังจากโถงทางเดิน


บึ้ม!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


อึกทึกครึกโครมคล้ายฝูงปืนใหญ่ระดมยิง


ร่างอัศวินสีชาดหลายสิบกระเด็นลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ


แขนขาฉีกขาดออกจากลำตัวในสภาพชวนขนหัวลุก โลหิตแดงฉานและชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์กระจัดกระจาย เปรอะเปื้อนผนังเพดานโถงทางเดินจนเกิดภาพสยดสยอง


สายตาเกล็นฮาลและมอริสพลันเหลือบมอง


“เซอร์ชานสเลอร์…!”


เกราะอสูร ชานสเลอร์


บุรุษผู้จงรักภักดีอันดับหนึ่งในห้าเสาหลัก


การมาถึงของชานสเลอร์ได้พลิกผันสถานการณ์ปัจจุบันเล็กน้อย


นอกเหนือจากอัศวินหลักเดียว อัศวินสีชาดทั้งหมดกลายเป็นเศษเดนซากศพเพียงพริบตา


ด้านอัศวินหลักเดียวก็ไม่สู้ดีนัก ร่างพวกมันถูกส่งกระเด็นนอนแผ่สองข้างทางอย่างหมดสภาพ


“ฝ่าบาท!!”


ชานสเลอร์ร้องคำรามเมื่อเห็นสภาพการต่อสู้ด้านในท้องพระโรง ด้านหลังมันมีอัศวินหลวงวิ่งตามมาจำนวนมาก


“บัดซบ!”


ซีบาลและกลุ่มนักขับต่างคิดไวทำไว พวกมันรีบตั้งท่าอัญเชิญจักรกลเวทมนตร์ออกมาแก้ไขสถานการณ์


“ใจเย็นก่อน… ยิ่งวุ่นวายก็ยิ่งสนุก”


แกรนมาสเตอร์รีบพุ่งตัวออกมายับยั้งหน่วยนักขับจักรกลเวทมนตร์ไว้


ขณะบอลสีใสสองลูกยังคงลอยโคจรรอบตัว ซิกเฟรคเตอร์ชักดาบยาวออกมาถือทะมัดทะแมง


จอมดาบเวท?


ซีบาลและเหล่านักขับหุ่นต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจ แต่สำหรับบุคคลซึ่งตระหนักถึงพลังของแกรนมาสเตอร์มาตั้งแต่แรก สีหน้าพวกมันยิ่งทวีความดำมืด


สมญานาม ‘แกรนมาสเตอร์’ จะมอบให้กับบุคคลเชี่ยวชาญศาสตร์ทุกแขนงเท่านั้น


ชานสเลอร์ผู้ใช้หอกฮาลเบิร์ต (ง้าวยุโรป) รีบขยับถอยห่างแกรนมาสเตอร์เพื่อสร้างระยะต่อสู้ได้เปรียบ


…แต่ไม่สำเร็จ


ครืนนน!! บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


แกรนมาสเตอร์ปลดปล่อยเวทมนตร์ ‘พสุธากัมปนาท’ ในชั่วพริบตา เพื่อบีบให้ชานสเลอร์ต้องกระโจนหนีกลางอากาศ


แล้วก็เป็นเช่นนั้น เพราะมันไม่มีทางเลือกอื่น


ซิกเฟรคเตอร์ฉวยโอกาสดังกล่าวกระโดดไล่ตามติด คมดาบแทงกะซวกใส่ช่องท้องโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายทิ้งระยะห่าง


“ชิ…!”


หากไม่เพราะเกราะอสูร มันคงได้รับบาดแผลฉกรรจ์เจียนตายไปแล้ว


ชานสเลอร์เย็นวาบไปถึงสันหลัง แต่มันกัดฟันตอบโต้โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า


ณ กึ่งกลางอากาศ สองเสาหลักแห่งจักรวรรดิกำลังรัวเพลงศาสตราห้ำหั่นไม่หยุดพักหายใจ


จนกระทั่ง ชานสเลอร์สบโอกาสตวัดวาดง้าวในมือเป็นวงโค้งวิถีพลิกแพลงจนแกรนมาสเตอร์เสียหลัก


ด้วยช่องว่างตรงนี้ บรรดาองครักษ์หลวงรีบวิ่งกรูเข้าไปในท้องพระโรง


…แต่กลับถูกอัศวินสีชาดหลักเดียวยืนขวาง


หัวหน้าอัศวินหลวงตะโกน


“เหตุใดอัศวินของฝ่าบาทถึงเลือกอยู่ฝั่งคนทรยศ!”


“นับตั้งแต่ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของท่านซิกเฟรคเตอร์ ฉันก็กระจ่างทันทีว่าต้องจงรักภักดีต่อใคร”


ซูซานกล่าวตอบโต้หัวหน้าอัศวินด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน


พลังสายเลือดไม่ใช่สิ่งจอมปลอม ฝีมือซูซานซึ่งมีระดับทัดเทียมเมอร์เซเดส หัวหน้าอัศวินหลวงย่อมรับมือได้ไม่ง่าย


เคร้ง! เคร้ง!!


อ๊ากกกกกก!!


เลือดเนื้อสีแดงฉานกระจัดกระจายเกลื่อนโถงทางเดิน เสียงกรีดร้องดังระงมถ้วนทั่ววังหลวง


ขณะเดียวกัน สถานการณ์ภายในท้องพระโรงยิ่งเลวร้าย แปรเปลี่ยนไปเหมือนก่อนหน้าอีกครั้ง


เบอินพ่ายแพ้อีธาน


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ในมืออีธานคือดาบแห่งซาฮารัน ปฐมจักรพรรดิผู้ก่อตั้ง ไม่มีใครในทวีปสามารถทัดเทียมได้


อีธานกล่าวขณะใช้ดาบจ่อลำคอฮวนเดอร์


“ในหลายปีหลัง จักรวรรดิไม่มีการพัฒนาแม้แต่น้อย ซึ่งมันจะต่างออกไปในยุคของข้า!


“อยากรู้นัก… เหตุใดบรรพบุรุษจึงมุ่งมั่นกับการข้ามทวีปนัก? ไม่ต้องห่วง ข้าคนนี้จะนำพาจักรวรรดิข้ามทวีปให้สำเร็จเป็นคนแรกเอง”


“แล้วเจ้าต้องเสียใจภายหลัง แกรนมาสเตอร์จะทำแบบเดียวกันแน่นอน…”


“อาจเป็นเช่นนั้น… แต่ก็ยังดีกว่าต้องตายเยี่ยงสุนัขไร้ค่าเป็นร้อยเท่าไม่ใช่หรือ อย่างน้อยข้าก็พอมีเวลาได้ทำอะไรบ้าง”


“…”


“ขอบัลลังก์ของท่านก็แล้วกัน… พระบิดา”


อีธานไม่ลังเลอีกต่อไป


มันกดคมดาบลงลำคอฮวนเดอร์ด้วยพละกำลังทั้งหมดในร่างกาย


ทันใดนั้น


“อัญเชิญอัศวิน!”


“…?”


เสียงตะโกนของชายแปลกหน้าดังจากโถงทางเดินยาวสีแดงฉาน ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากขุมนรก


“ปิอาโร่!!”


“…!?”


ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้ยินชื่อนี้


ฮวนเดอร์กำลังนอนรอความตายด้วยสายตาสิ้นหวัง สองดยุคผู้ถูกแรงโน้มถ่วงมหาศาลกดทับจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด เบอินผู้นอนหมดสภาพหลังถูกจัดการสิ้นท่า รวมถึงอีธานผู้กำลังจะได้ครองบัลลังก์


สายตาทุกคนหันไปมองด้านนอกท้องพระโรงพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย


ณ จุดดังกล่าว


“…”


อดีตเสาหลักผู้คอยค้ำจุนจักรวรรดิมานานหลายสิบปี อดีตวีรบุรุษรีบกวาดสายตามองรอบตัวด้วยดวงตาสงบนิ่งไร้สั่นคลอน


สายตาของทั้งอัศวินหลวงและอัศวินสีชาดโดยรอบต่างหันมองเป็นจุดเดียว


เป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ


ไม่มีใครในนี้ไม่ยกย่องปิอาโร่


“ปิอาโร่… ขอโทษสำหรับคำสั่งเอาแต่ใจ ได้โปรดช่วยชีวิตมหาจักรพรรดิด้วย”


เสียงใครบางคนดังจากด้านหลังปิอาโร่จนก้องทางเดินเงียบสงัด ทุกสายตาจ้องมองบุรุษคนดังกล่าวไม่กะพริบ


ราชาโอเวอร์เกียร์


เป็นภาพสุดน่าทึ่ง


ปิอาโร่ผู้ได้รับความเคารพจากทุกคน หลังจากเหลือบเห็นสภาพมหาจักรพรรดิด้านในสุดท้องพระโรง อดีตเสาหลักแห่งซาฮารันยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย


“ขอรับ ฝ่าบาท”


ปิอาโร่ผู้ไร้เทียมทาน


หนึ่งในวีรบุรุษสุดเกรียงไกรตามบันทึกประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิซาฮารัน ขานรับคำสั่งของราชาโอเวอร์เกียร์อย่างนอบน้อม


“คนทรยศมาทำอะไรที่นี่!”


ซูซานรู้สึกตัวไวกว่าใคร เนื่องจากหล่อนอายุยังน้อย และรู้จักปิอาโร่ไม่มากเท่าคนอื่น


อัศวินสีชาดหญิงกระโจนขวางทางปิอาโร่ไว้อย่างอาจหาญ


ในอดีต สมญานามสูงสุดของปิอาโร่คือมหาจอมดาบ และปัจจุบัน ซูซานเองก็เป็นมหาจอมดาบเช่นกัน


แม้แต่แกรนมาสเตอร์ยังยอมถ่ายทอดศาสตร์แห่งเวทมนตร์ให้เธอ ซูซานมั่นใจในพรสวรรค์ของตนมาก ถึงปิอาโร่จะถูกเมอร์เซเดสสรรเสริญเทิดทูน แต่ก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของหล่อนเลย


“กระแสผู้พิทักษ์!”


ร่างซูซานอาบด้วยเสาลำแสงไร้สี นี่คือหนึ่งในสุดยอดเวทบัฟของแกรนมาสเตอร์ ช่วยยกระดับแต้มสถานะทุกชนิดได้มหาศาล


ขณะเธอกำลังตวัดดาบฟันใส่ปิอาโร่ตรงหน้า


“ข้าพเจ้าไม่ต้องการเห็นท่านได้ดิบได้ดี”


ราชาโอเวอร์เกียร์พึมพำ


ทันใดนั้น แสงรอบตัวซูซานถูกลบเลือนโดยสมบูรณ์ ราวกับเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องโกหก


“อะ…?”


ฉึก.


หน้าผากซูซานถูกจอบสั้นสัมผัสนุ่มนวล


บุคคลทรงพลังของอัศวินสีชาดล้มหงายประหนึ่งภาพตัดกลางอากาศ


ไม่มีใครขัดขวางการย่างกรายเข้าไปในท้องพระโรงของปิอาโร่ได้อีก


อุปกรณ์ทำฟาร์มในมือ ได้เปลี่ยนให้อัศวินทุกคนในบริเวณนั้นให้กลายเป็นรูปปั้นหินไปโดยปริยาย



▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,468
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. รู้จักก็อดปิอาโร่ไหม

    ReplyDelete
  2. ดีบัพโคตรโหด

    ReplyDelete
  3. ต้องมีเกมส์พลิกอีกรอบแล้วครับรอลุ้น

    ReplyDelete
  4. ค้างงง แต่กลัวเสียปิอาโร่ไปจากการดวลนี้แหละ อย่านะ แค่ข่านก็พอแล้ววว

    ReplyDelete
  5. ค้างจัด ปิอาโร่ ห้ามตายนะ

    ReplyDelete
  6. รอเมอซิเดส กะ บาซาร่ามาเติมทีม

    ReplyDelete
    Replies
    1. อัลโมเฟล กับNo.3 ด้วย ที่รอการแก้แค้น

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00