จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1067



จักรวรรดิซาฮารันคือประเทศที่ครองอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดบนทวีปตะวันตกมาช้านาน


ด้วยประชากรจำนวนมาก บุคคลพรสวรรค์จึงปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนให้บ้านเมืองไปข้างหน้าก้าวกระโดด


ข้อความข้างตนคือประโยคเกริ่นนำขณะผู้เล่นสร้างตัวละครใหม่ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้เล่นส่วนมากเลือกเมืองเกิดเริ่มต้นเป็นจักรวรรดิ


จากขนาดประชากรและอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล ซาฮารันไม่เคยขาดแคลนอัจฉริยะ


แต่คล้ายกับถูกคำสาป จักรวรรดิไม่เคยให้กำเนิดสุดยอดนักดาบแห่งยุคสมัยแม้แต่คนเดียว อริยดาบรุ่นแล้วรุ่นเล่าล้วนปรากฏตัวภายนอกซาฮารันเสมอ


จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใด ปิอาโร่ในยุคสมัยมหาจอมดาบจึงถูกคาดหวังจากผู้คนรอบข้างไว้สูงลิบ


“นานแค่ไหนแล้วนะ…คงสี่ปีกระมัง”


ดยุคแห่งดาบ ลิมิต


มันร่อนลงจากเพดานด้วยมาดแสนองอาจ


ดวงตาคมเข้ม คิ้วหนา ร่างกายกำยำ เส้นผมถูกหวีจัดระเบียบเรียบร้อย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแสดงถึงบุคลิกพิถีพิถัน และเป็นพวกไม่แสดงออกทางอารมณ์มากนัก


“…”


การปรากฏตัวของลิมิตทำให้กริดใจเย็นลง


สติที่เคยขาดผึ่งหลังจากประจักษ์สภาพสุดสลดหดหู่ของดยุคทั้งสาม พลันเชื่อมติดกลับอีกครั้งแนบแน่นเมื่อศัตรูแข็งแกร่งปรากฏตัว


ดยุคแห่งดาบยิ่งใหญ่เกินกว่าตนจะหุนหันพลันแล่นเข้าเผชิญหน้า แบบนั้นไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย


อาจเคยถูกบดบังรัศมีในยุคทองของปิอาโร่และอัสโมเฟล แต่ไม่ใช่กับปัจจุบันแน่


ตลอดระยะเวลาสิบสองปีที่สองเสาหลักแห่งซาฮารันหายใจทิ้งไปวันๆ อย่างสูญเปล่า ลิมิตลับคมดาบของตนโดยเคยไม่ละเลย ชีวิตของมันเกิดมาเพื่อเป็นดาบให้กับองค์จักรพรรดิแต่เพียงผู้เดียว


ปัจจุบัน ลิมิตพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในบุคคลสุดแกร่งของจักรวรรดิ


กริดกำลังสัมผัสถึงความน่าสะพรึงเต็มสองตา


[ปราณต่อสู้ของท่านเพิ่มขึ้น]


[ปราณต่อสู้ของท่านเพิ่มขึ้น]



พลังราชาวีรบุรุษแสดงปฏิกิริยาตอบสนองในระดับน่าทึ่ง


ด้วยความสัตย์จริง ปราณต่อสุดสู้เข้มข้นรอบตัวกริดไม่เคยเพิ่มอัตโนมัติด้วยความเร็วระดับนี้มาก่อน


ลิมิตลอยตัวลงมาเหนือศีรษะกริดเล็กน้อย แต่ยังรักษาระยะห่างออกไปหลายเมตร ดยุคแห่งดาบก้มมองชายหนุ่มด้วยมาดสุดสุขุมโอหัง


“กริดแห่งโอเวอร์เกียร์ ข้าได้ยินกิตติศัพท์ของเจ้ามากมายในพักหลัง…


“ขอถามสักข้อ เจ้าที่เป็นถึงผู้นำอาณาจักรคิดทำสิ่งใดภายในเมืองหลวงแห่งจักรวรรดิอย่างนั้นหรือ? ถึงพวกเราจะเป็นคู่สงคราม แต่การลอบแทรกซึมเข้ามาภายในกรุงไททัน ไม่คิดว่าเป็นพฤติกรรมที่โอหังไปหน่อยหรือไง?”


แต่ไหนแต่ไร ขุนนางจักรวรรดิมักเรียกขานอาณาจักรอื่นโดยรอบว่า ‘อาณาจักรเล็ก’


ทว่าผิดกับลิมิต มักเรียกโอเวอร์เกียร์ว่าอาณาจักร โดยมิได้แต่งเติมวลีดูแคลนลงไป


นี่ไม่ใช่เรื่องดีกับกริดสักเท่าไร…


เพราะนั่นหมายความว่า ลิมิตจับตามองโอเวอร์เกียร์เยี่ยงศัตรูเท่าเทียมมาตลอด คอยระวังตัวอย่างรอบคอบ ผิดกับขุนนางหน้าโง่คนอื่นที่ต่อสู้ด้วยทัศนคติประมาท


เหงื่อไคลเริ่มผุดระหว่างร่องนิ้วกริด ชายหนุ่มกำลังตึงเครียดไม่เหมือนทุกครั้ง


‘เรายอมโดนดูถูกด้วยท่าทีประมาทมากกว่า’


ขณะดื่มโพชั่นเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตกลับคืน หัวใจกริดกำลังบีบระรัวดุจดังจังหวะกลองรบ


เพียงดาบเดียวของลิมิตสร้างความเสียหายต่อชายหนุ่มได้มากถึง 32,000 หน่วย


นับตั้งแต่เรียกตัวเองว่าราชาโอเวอร์เกียร์ มีบุคคลจำนวนเพียงหยิบมือที่สามารถประเคนความเสียหายระดับนี้กับตนได้ในการโจมตีเดียว


‘หมอนี่ของจริง’


จากบรรดาเหล่าดยุค มอริสร่างสัตว์ป่าจะทรงพลังกว่ากริดสภาพบัฟเต็มพิกัดเล็กน้อย ส่วนอริยหอกเรเชลจะแข็งแกร่งเป็นอย่างต่ำเทียบเท่าร่างสัตว์ป่าของมอริส


และลิมิตแข็งแกร่งอย่างน้อยระดับเรเชล…


จากบรรดาห้าเสาหลัก เมื่อเทียบกับไคล์ซึ่งอ่อนแอที่สุด ลิมิตจะแข็งแกร่งกว่านั้นเล็กน้อย


‘และถ้าหากมันไม่ประมาท…’


อาจอยู่ระดับเดียวกับยังบันการัม?


ยังบันการัมคือศัตรูทรงพลังอย่างไร้ข้อกังขา จุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวในอดีตคือการที่มันประมาทกริดจนเผยช่องว่าง ชายหนุ่มจึงฉวยโอกาสหนีรอดมาได้


ลิมิตเล็งดาบในมือมาทางกริดผู้กำลังรอคอยให้ระยะหน่วงของโพชั่นวนมาถึงอีกรอบ


แม้สภาพแวดล้อมภายในคุกนรกจะมืดมิด แต่ดาบประกายน้ำเงินของมันกลับยังส่องประกายแวววาวอย่างไร้เหตุผล


เพียงมองผิวเผินโดนไม่ต้องใช้พลังเนตรก็พอจะประเมินได้ว่า ดาบเล่มดังกล่าวมีระดับไม่ต่ำกว่าเลเจนดารีและเต็มไปด้วยออปชันทรงประสิทธิภาพ


กริดนึกเจ็บใจ


‘ทำไมเนตรแพ็กม่าถึงใช้ไม่ได้ในเวลาแบบนี้!’


เนตรแพ็กม่าวิวัฒนาการมาจากเนตรช่างเหล็กในตำนาน


เนตรช่างเหล็กสามารถมองเห็นรายละเอียดไอเท็มได้ผิวเผิน แต่เนตรแพ็กม่าจะมองเห็นทุกซอกมุมรวมถึงสามารถคัดลอกไอเท็มดังกล่าวนานหนึ่งวันเต็ม


นับเป็นการพัฒนาชนิดก้าวกระโดด


อย่างไรก็ตาม ทักษะสุดโกงและมาด้วยระยะหน่วงที่มากถึงหนึ่งชั่วโมง ในช่วงเวลาดังกล่าว กริดไม่สามารถมองเห็นคุณสมบัติไอเท็มเป้าหมายได้เลย


‘บ้าจริง… ดันมาติดระยะหน่วงจังหวะสำคัญ’


ในการดวล ปัจจัยชี้เป็นชี้ตายผลแพ้ชนะคือข้อมูลของอีกฝ่าย


สอดส่องไอเท็มสวมใส่เป้าหมาย จ้องเล่นงานจุดอ่อนศัตรูให้ชะงักงัน วิธีนี้ไม่ถูกจำกัดเฉพาะผู้เล่นเท่านั้น ยังรวมถึง NPC พิเศษด้วย


‘ในอดีต เราเคยละเลยความสำคัญของข้อมูลอุปกรณ์สวมใส่…’


เป็นเหตุการณ์ก่อนกริดจะเริ่มเข้าใจโลกซาทิสฟายอย่างถ่องแท้ แต่ปัจจุบัน ชายหนุ่มเข้าใจความสำคัญของข้อมูลและไม่คิดมองข้าม


และนั่นยิ่งทำให้มันนึกเสียดาย


ทันใดนั้น ขณะระยะหน่วงโพชั่นเหลืออีกหนึ่งวินาที กริดพลันฉุกคิดบางสิ่งได้ มันไม่รีรอที่จะเริ่มบทสนทนากับดยุคแห่งดาบ


“ฉันไม่มีความคิดจะสร้างความเสียหายแก่จักรวรรดิ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ ฉันต้องการให้สงครามจบลงโดยเร็ว! แต่หลังจากได้ยินข่าวลือว่าสามดยุคถูกจับกุมและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงรีบเดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือ”


“อยากจบสงคราม แต่กลับสังหารรีกัล ราชาท้องฟ้า สังหารดีวอส ดยุคแห่งสุรา และฆ่าทหารจักรวรรดิไปอีกหลายหมื่นนายงั้นหรือ?”


“นั่นเป็นการป้องกันตัวอย่างไม่มีทางเลือก! ในเมื่อมีคนบุกรุกอาณาจักร จะให้นิ่งดูดายมองดูประชาชนถูกเข่นฆ่าได้อย่างไร?”


“ทั้งสามดยุคถูกคุมขังเพื่อลงโทษในคดีกบฏบ้านเมือง ต้นตอก็ไม่ใช่เรื่องอื่นไกล มาจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างพวกมันกับเจ้าซึ่งเป็นกษัตริย์อาณาจักรศัตรู ความผิดของดยุคทั้งสามคือสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยง ช่างน่าขัน ยิ่งเจ้าเข้ามาแทรกแซงออกนอกหน้าเช่นนี้ สถานการณ์ของพวกมันก็ยิ่งย่ำแย่ลง”


“ฉันสานสัมพันธ์กับพวกเขาเพราะต้องการยุติสงครามกับจักรวรรดิ! ไม่มีเจตนาทำร้ายซาฮารันแม้แต่น้อย…!”


“แค่ลมปากใครจะเชื่อ? ตัวบทกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว กล่าวถึงบทลงโทษหากมีการลอบติดต่อกับกษัตริย์อาณาจักรศัตรูโดยไม่แจ้งให้ฝ่าบาทรับทราบล่วงหน้า”


ด้วยความสัตย์จริง คำแก้ต่างของลิมิตฟังขึ้น


แต่นั่นก็ต่อเมื่อไม่นับรวมความลับมากมายที่พวกมันซุกซ่อนไว้ตลอดหลายปี


“ไอ้หัวค*ย!”


ความอดทนของกริดหมดลงอย่างรวดเร็ว


เมื่อตระหนักได้ว่าการเจรจาไม่คืบหน้า ชายหนุ่มส่งเสียงตะโกนด่าทอหัวเสีย


“แกมันระยำไม่ต่างจากนังผู้หญิงชั่ว! เป็นเพราะสามดยุคได้พบปิอาโร่และทราบความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับคดีสิบสองปีก่อนต่างหาก! พวกแกจึงกลัวว่าความจริงจะถูกกราบทูลให้องค์จักรพรรดิรับทราบ!”


“…”


“แกใช่ไหม? เป็นแกกับองค์ชายสี่ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพนี้สินะ!”


แม้สติของกริดจะขาดผึ่งจนโพล่งด่าทอด้วยถ้อยคำแสนหยาบคาย แต่ลิมิตยังคงจ้องมองโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า


ถึงจะเป็นครั้งแรกที่มันเคยได้ยินอะไรแบบนี้ แต่ความองอาจของขุนนางใหญ่ยังช่วยให้มันสุขุมสงบนิ่ง


“ต่ำช้า… ไม่รู้อย่างนั้นหรือ ยิ่งมีตำแหน่งสูงเท่าไรก็ต้องยิ่งระวังวาจามากเท่านั้น แต่เจ้ากลับไม่หลงเหลือแม้แต่เกียรติแห่งขุนนาง อย่าว่าแต่กษัตริย์เลย เป็นแค่อัจฉริยะไร้หัวนอนปลายเท้า”


“ช่างหัวศักดิ์ศรีแม่มสิ! แกจำเป็นต้องทำกับพวกเขาขนาดนี้เลยรึไง!?”


“แกไม่มีสิทธิ์รู้”


“ชิ…!”


ตนน่าจะพาฮิวรอยมาด้วย…


ขณะกริดกำลังนึกเสียดายยิ่งกว่าการใช้เนตรแพ็กม่าไม่ได้ ชายหนุ่มพลันฉุกคิดถึงทักษะอัญเชิญอัศวิน


‘จะได้ผลรึเปล่า?’


ในสถานการณ์แสนสิ้นหวัง การฝืนเอาชนะตามลำพังไม่ใช่เรื่องฉลาดสักเท่าไร ลองเสี่ยงใช้ประโยชน์จากพลังของราชาคงไม่เสียหาย


“อัญเชิญอัศวิน!”


กริดตะโกนปลดปล่อยทักษะ


ทว่า


[สถานที่ปัจจุบันจำกัดจำนวนบุคคลในภารกิจ]


[อัญเชิญอัศวินล้มเหลว]


ระบบปฏิเสธ… กะแล้วเชียว


‘หมายความว่าไอเชี่ยลิมิตมันอยู่ในขอบเขตภารกิจด้วยรึไง?’


“หืม… คิดเรียกปิอาโร่อย่างนั้นหรือ? เชิญลงมือได้เลย จะได้ฆ่าทิ้งไปพร้อมกันให้จบเรื่อง”


ลิมิตเอียงคอรอผลลัพธ์การอัญเชิญ


ก่อนมันจะตัดพ้อด้วยสีหน้าเรียบเฉย


“เป็นเพราะมีข่าวลือว่าสามดยุคกำลังรวมตัวภายในเมืองหลวงอย่างน่าสงสัย จึงเกิดคำถามขึ้นมากมายเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกมัน ด้วยเหตุนี้ ฉันพลอยถูกเรียกตัวกลับทั้งที่มีงานล้นมือด้านนอก วุ่นวายชะมัด”


หรือก็คือ มันไม่ได้มีเจตนากลับมาแต่แรก


“รีบทำให้มันจบกันดีกว่า”


วิ้ง—!


กลุ่มก้อนพลังงานลึกลับเริ่มรวมตัวรอบดาบในมือลิมิต


“ด้วยอำนาจแห่งดยุคจักรวรรดิ ข้าขอลงโทษเจ้าในความผิดข้อหาสังหารขุนนางระดับสูงและทหารซาฮารันไปเป็นจำนวนมาก”


ฉึบ—!


กริดและลิมิตอยู่ห่างกันราวห้าเมตร


อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายมิได้พุ่งปรี่โจมตีประชิดตัวกริด แต่เลือกตวัดดาบสร้างคลื่นพลังสีขาวเข้าปะทะ


‘นั่นทักษะใช่ไหม?’


ลิมิตแทบไม่ขยับตัว กระนั้นกลับสามารถสร้างคลื่นดาบซึ่งอัดแน่นด้วยปราณดาบปริมาณมหาศาลขนาดนี้ได้เชียวหรือ?


ไม่มีทางเป็นการโจมตีธรรมดาแน่…


ทักษะอาจไม่มีเอฟเฟคอื่นแฝง แต่ลำพังพลังทำลายก็มากพอจะสร้างความตึงเครียด


“โนเอะ ถ้าสบโอกาส แกต้องเปิดช่องว่างให้ฉันทันที เข้าใจไหม?”


กริดคิดไวทำไว เลือกเคลื่อนตัวหลบหลีกการโจมตีจากลิมิต


ขณะร่างกายกำลังขยับไปด้านข้าง ชายหนุ่มพลันสัมผัสถึงกลิ่นอายลิมิตได้จากด้านหลัง


ฟุ่บ—!


“…!”


ในวินาทีที่เสียงลมลอดผ่านหู กริดรีบหันหลังกลับไปมองด้วยแววตาตื่นตระหนก


ลิมิตเล็งกำลังโจมตีใส่ศีรษะ


“บาปที่บังอาจสังหารขุนนางแห่งจักรวรรดิ”


ผัวะ!!


ดยุคแห่งดาบใช้รองเท้าเหล็กเตะใส่ศีรษะกริดเต็มแรงประหนึ่งลูกบอล


นับเป็นการโจมตีแสนทรงพลังชนิดที่ชายหนุ่มได้แต่นึกสงสัยว่า สมองตนจะระเบิดกระจัดกระจายหรือไม่หากมิได้สวมหมวกเหล็กพร้อมมงกุฎปกป้องไว้?


[ท่านได้รับความเสียหาย 6,750]


“บาปที่บังอาจบุกรุกจักรวรรดิ”


ฉึก! ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!


อาการผิดปรกติทางกายภาพ


คลื่นแสงขาวพุ่งสะบั้นร่างกายกริดขณะมันยืนมึนงงจากภาวะสมองกระทบกระเทือน


การโจมตีของลิมิตหาได้รวดเร็วนัก เพียงหกดาบต่อวินาที แต่กลับรับมือได้ยากเย็นเพราะแต่ละดาบแฝงด้วยอำนาจสะกดข่มรวมถึงวิถีอันซับซ้อน


“บาปที่บังอาจเอ่ยถึงคนทรยศปิอาโร่”


ฉึก!!


หลังจากฉวัดเฉวียนไปทั่วร่างอย่างสนุกสนาน ในที่สุดดาบลิมิตได้เสียบค้างเข้าหัวใจชายหนุ่ม


“บทลงโทษของเจ้าคือความตาย”


ฉูด…!


แผ่นอกกริดพลันเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน


ลำธารโลหิตสาดกระเซ็นพรั่งพรูจากร่องช่องว่างชุดเกราะวัลฮัลล่าประหนึ่งเขื่อนแตก


ร่างกริดทิ้งตัวล้มลงไปด้านหน้าไร้แรงต้าน


ลิมิตฉากหลบไปด้านข้างเล็กน้อยราวกับรังเกียจความเปรอะเปื้อนของอีกฝ่าย


“คิดว่าแค่นี้ฆ่าจะฉันได้รึไง?”


ชายหนุ่มรีบกลิ้งตัวพร้อมกับกระโจนใส่ดยุคแห่งดาบเพื่อรัวฟันด้วยความเร็วสูง แสงทองจากคมดาบท้าทายเทพตวัดกลางอากาศจนเกิดภาพติดตาจำนวนมาก


ทว่า


เคร้ง!


ความต่างชั้นเกินไปของเทคนิคดาบได้กลบความเร็วโจมตีไร้ประโยชน์จนมิดชิด


ท่ามกลางร่างกายชุ่มเลือดคล้ายซากศพของราชาโอเวอร์เกียร์ ชั้นบาเรียสีส้มจากสมญานามกษัตริย์คนแรกกำลังส่องสว่างปกคลุมลำตัว


“แกว่งดาบมั่วซั่วแบบนั้นจะฆ่าใครได้? เป็นเด็กหัดฟันดาบหรืออย่างไร คิดทำสิ่งใดกันแน่?”


“…”


ด้วยค่าวิสัยทัศน์มหาศาล ลิมิตชำเลืองมองแหวนวงใหม่ที่เพิ่งถูกสวมบนนิ้วมือกริด มันกำลังส่องแสงสีแดงเข้มข้นและเปี่ยมด้วยพลังอำนาจลึกลับ


เคร้ง—!


ขณะดาบของทั้งคู่ฟันปะทะกัน กริดฉวยโอกาสสืบเท้าขวาไปด้านหน้าหนึ่งก้าว


ปึก!


ชายหนุ่มอาศัยเท้าขวาเป็นฐานส่งแรงผลักกระแทกดาบลิมิตให้ร่นถอยไปด้านหลัง จากนั้นก็ขยับเท้าตัวเองตามเข้าไป


ลิมิตดึงดาบกลับพร้อมกับสร้างคลื่นแสงสีขาวรอบใบดาบเตรียมตวัดใส่


ซู่ว—


กริดพุ่งตัวแทง ‘สังหาร’ ตามน้ำหลังจากฉวยโอกาสรำดาบติดต่อกันสองก้าว


“สังหาร!”


“สะบั้นดารา”


บึ้มมมมมมม!!


ขณะคลื่นดาบสองเล่มเริ่มปะทะกันกลางอากาศ สีหน้าฝั่งลิมิตค่อนข้างสุขุม


มันเชื่อว่าคลื่นดาบของตนมีอำนาจเหนือกว่า และจะไม่ถูกสลายไปด้วยการโจมตีของกริดแน่


นี่มิใช่ความโอหังหรือทระนงตนเกินเหตุ


แต่เป็นผลสรุปจากประสบการณ์ต่อสู้โชกโชนและค่าวิสัยทัศน์อันสูงส่ง


อย่างไรก็ตาม ลิมิตมองข้ามไปหนึ่งปัจจัย


“…!?”


วิชาดาบกริด มิใช่เทคนิคดาบที่ถูกสร้างด้วยพลังของกริดเพียงคนเดียว แต่เป็นการตกผลึกองค์ความรู้และประสบการณ์ของสองตำนานเข้าด้วยกัน


บึ้ม—!


แรงปะทะมหาศาลส่งผลให้ทั้งกริดและลิมิตต่างกระเด็นไปคนละทิศทาง


ชายหนุ่มกระแทกรั้วเหล็กห้องขังด้านหลังจนเกิดเสียงโครม ส่วนดยุคแห่งดาบลอยเคว้งไปทางใจกลางช่องว่างหลุมดำอันเวิ้งว้าง


หงึกหงึก…


ขณะเลือดไหลซึมจากมุมปาก นัยน์ตาลิมิตกำลังหดลีบและสั่นระริก ความสุขุมตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเมื่อครู่ไม่หลงเหลืออีกต่อไป


แทนที่ด้วยสีหน้าเจ็บแค้นและฉุนเฉียว


“ก็ไม่เท่าไรนี่นา… เชิญเข้ามาได้เลย”


ปึด!


ลิมิตนำพาร่างแหวกอากาศเข้าหากริดด้วยความเร็วสูง ในวินาทีใกล้ประชิดตัวอีกฝ่าย ดยุคแห่งดาบตวัดศาสตราด้วยจิตสังหารเหลือล้นหมายปลิดชีพ


โค้กและเลซี่ที่รอโอกาสซุ่มโจมตีได้ลงมือพร้อมกันจากด้านหลังลิมิต ขณะเดียวกัน กริดรำเทคนิคดาบใหม่เสร็จเรียบร้อยเตรียมปลดปล่อย


บึ้มบึ้มบึ้ม!


บึ้มบึ้ม—!!


การต่อสู้แสนดุเดือดของคนทั้งสี่ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนหนักหน่วงแก่ช่องว่างคุกนรก


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,456
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. จะรอดไปยังไงเนี่ย

    ReplyDelete
  2. รอดเพราะความเข้าใจผิด ก็นี่ก็อดกริดยังไงล่ะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00