จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 938



ในวันแรกที่ได้พบกริด บราฮัมมีสภาพค่อนข้างย่ำแย่ ห่างไกลคำว่าสมบูรณ์แบบมาก เขาสูญเสียชีวิตและต้องแยกจากกับร่างเนื้อ เหลือเพียงดวงวิญญาณที่ต้องร่อนเร่พเนจร


บราฮัมจงเกลียดจงชังเทพที่สาปแช่งมารดาตน จงเกลียดจงชังเพื่อนสนิทที่ทรยศตน ในช่วงแรกที่พบกริด ดวงวิญญาณบราฮัมกำลังอัดแน่นด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะ


แต่กระนั้น ถึงจะเหลือเพียงดวงวิญญาณ แต่บราฮัมมิใช่ตัวตนที่อ่อนแอ เปลวเพลิงของชายคนนี้ไม่มีวันดับมอด ถึงจะเหลือเพียงเศษเสี้ยวดวงวิญญาณ แต่กลับอัดแน่นไปด้วยพลังเวทอันมหาศาล


และเมื่อรวมกับร่างเนื้อกริด บราฮัมสามารถปรากฏกายบนโลกได้อีกครั้ง ถึงจะไม่ใช่ร่างสมบูรณ์ แต่ก็มากพอสำหรับสร้างภัยพิบัติแก่ทุกสรรพสิ่งรอบข้าง


ทั้งหมดคือคำนิยามของชายที่ชื่อบราฮัม มหาจอมเวทในตำนาน


ผ่านไปหลายปีหลังออกจากร่างกริด การพบกันใหม่อีกครั้งได้มอบอารมณ์ที่หลากหลายแก่ชายหนุ่ม กริดสัมผัสถึงบราฮัมที่ต่างออกไป ดวงวิญญาณในปัจจุบันกำลังเหือดแห้งและใกล้ดับมอด ประหนึ่งเปลวเพลิงสุดท้ายของเทียนไข


บราฮัมมิได้เจิดจรัสเฉกเช่นอดีต ดวงวิญญาณของเขาเป็นราวกับแสงไฟสุดท้ายจากกองซากขี้เถ้าที่ดับมอด


ชายคนนี้เคยฝืนสิงร่างกริด พากริดบินตระเวนไปทั่วโลก เขาทำการครอบครองธรรมชาติเหนือทะเลแดงได้ด้วยเวทมนตร์เพียงหนึ่งชนิด


ทว่า มหาจอมเวทในตำนานคนนั้นที่กริดเคยรู้จัก ความองอาจและน่าเกรงขามไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว…


ทำไมกัน…


“…นายออกจากร่างฉันทำไม”


รอยยิ้มบนใบหน้ากริดเริ่มจางลง เหลือทิ้งไว้เพียงความสะอื้นและเจ็บแปลบ รวมถึงโทสะที่กำลังระอุตลอดเวลา


“นายอ่อนแอเกินไปแล้ว”


ดวงวิญญาณของบราฮัมลีบเล็กราวกับกำลังจะหายไป


“ถ้านายต้องพเนจรในสภาพน่าสมเพชแบบนี้…”


อย่างน้อยก็ควรได้ร่างเนื้อกลับคืนมาไม่ใช่หรือ


“ตอบฉันที… นายไปจากฉันทำไม”


กริดทวนคำถามซ้ำ เขาพยายามข่มความโกรธที่กำลังแล่นวูบวาบ กริดไม่มีวันลืมช่วงเวลาแสนเศร้า ในวันที่บราฮัมตัดสินใจจากตนไป


—ฉันรวบรวมพลังเวทได้มากพอแล้ว ถึงเวลาต้องกลับสู่ร่างเนื้อตัวเอง—


—นายเป็นได้แค่ภาชนะ สำหรับรองรับดวงวิญญาณของฉันขณะยังไม่พร้อม—


—ฉันไม่คิดถึงนายเลยสักนิด พวกเราไม่ได้ผูกพันกันขนาดนั้น—


บราฮัมจากไปพร้อมกับถ้อยคำเหล่านี้


“เป็นเรื่องโกหกสินะ ที่นายบอกว่ารวบรวมพลังมากพอแล้ว”


บราฮัมอ่อนแอลงจากเดิมหลายเท่า


“ภาชนะบ้าบออะไรกัน!”


บราฮัมจากไปอย่างจำเป็น ด้วยเหตุผลบางประการ


“ทำไมถึงไม่บอกความจริงกับฉัน!”


พวกได้เขากลับมาพบกันอีกครั้ง ข้อความระบบระบุชัดเจนว่า บราฮัมยังคงคิดถึงและเป็นห่วงตน แม้จะจากกันนานหลายปีก็ตาม


กริดมิอาจเก็บงำอารมณ์ได้อีก ชายหนุ่มแผดเสียงตะโกนอย่างสั่นเครือ


“ทำไมนายต้องโกหกและออกจากร่างฉัน! ทำไมต้องเจ็บปวดตามลำพัง! ตอบมา! ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้!!”


[แสงปริศนาแสดงท่าทีฉงน]


>> นายเป็นอะไรไป ทำไมถึงต้องมีอารมณ์รุนแรงเช่นนี้


“มีแค่นี้ใช่ไหม… ที่จะพูดกับฉัน”


กริดเป็นราวกับไอ้งั่งที่กำลังแหกปากร้องไห้ตามลำพัง เขาหัวเสียมากที่บราฮัมตั้งคำถามกลับ แทนที่จะตอบคำถามของตนอย่างตรงไปตรงมา


แต่ช่างน่าขัน หลังจากบราฮัมเอ่ยปากถามจบ กริดเริ่มกลับได้สติและความเยือนเย็นกลับคืน


บราฮัมกล่าวต่อไป


>> ไม่มีเหตุผลอะไรมาก เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่ฉันคิดไว้ ก็เท่านั้น


เป็นการโกหกคำโต บราฮัมทราบแต่แรกแล้วว่า การออกจากร่างกริดจะทำให้ทุกสิ่งแย่ลง พลังเวทที่สั่งสมยังมีไม่มากพอสำหรับการคืนชีพ บราฮัมรู้อยู่แก่ใจว่า ดวงวิญญาณของตนจะเริ่มแตกสลายในวินาทีที่ออกจากร่างกริด


แม้จะรู้เช่นนี้ แต่เขาก็เลือกจะจากไป บราฮัมคำนวณแล้วว่า หากตนยังอยู่กับกริด ชายคนนั้นจะได้รับความเดือดร้อนมหาศาลจากภารกิจมูมัด


บราฮัมไม่ยอมพูดความจริงจนถึงที่สุด เขาไม่ต้องการนำหินก้อนใหญ่ไปวางไว้เป็นภาระในใจกริด


บราฮัมตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา


>> ว่าแต่ พวกเราจากกันมาสามปีแล้ว ทำไมนายถึงไม่เก่งขึ้นเลยสักนิด ยังอ่อนแอและกระจอกเหมือนเคย ช่างน่าสมเพช


หลังจากแยกกับบราฮัม กริดมีการก้าวกระโดดที่น่าทึ่งมากกว่าใคร เขาซึมซับพลังแวมไพร์ทายาทหลายตน ได้รับพลังของจอมอสูรอัสทารอธ ได้ครอบครองภูตแสง ดวลกับเทพตีเหล็กและเอาชนะได้ ครอบครองพรเทพธิดาสองข้อ นำไปยกระดับวิชาดาบกับทักษะตีเหล็ก หลังจากเอาชนะร่างโคลน เขาได้ครอบครองเนตรแพ็กม่า


กริดมั่นใจว่าตัวเองเติบโตในสปีดที่ไม่มีผู้เล่นคนใดตามทัน


แต่บราฮัมกลับยังดูแคลนกริด


เขามีมุมมองเป็นของตัวเอง นอกจากแมรี่·โรสกับท่านแม่ แวมไพร์ทายาทตนที่เหลือไม่เคยอยู่ในสายตาบราฮัม ส่วนอัสทารอธ จอมอสูรตนนี้ก็มิได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ร่างเนื้อถูกมุลเลอร์ทำลายไปนานแล้ว ถัดมาเป็นภูตแสง สำหรับบราฮัม ภูตระดับสูงยังไม่ใช่ภูตขั้นสูงสุด และหากไม่นับเกรดของภูต อายุของภูตธาตุตนนี้ก็ยังเยาว์วัยมาก เป็นเด็กแรกเกิดที่ขาดประสบการณ์ มิอาจประเมินศักยภาพที่แท้จริงได้


>> สูตรเวทมนตร์ที่ฉันมอบให้ ทุกชนิดยังคงถูกผนึกอยู่ ตลอดสามปีที่ผ่านมา นายต้องโง่ขนาดไหนกัน ถึงไม่สามารถปลดได้แม้แต่สูตรเดียว


“บราฮัม…”


กริดกล่าวขัดจังหวะบราฮัม ที่กำลังพรั่งพรูถ้อยคำเหยียดหยัน


ชายหนุ่มเริ่มใจเย็นลงหลังจากเฝ้ามองดวงวิญญาณของบราฮัมพล่ามอยู่พักใหญ่


บราฮัมกำลังแสร้งทำตัวเย็นชา


“นายพูดถูก ฉันยังอ่อนแอ”


นี่คือความรู้สึกจากใจจริง กริดอาจทระนงในความแข็งแกร่งของตัวเองอยู่บ้าง แต่นั่นเฉพาะกับผู้เล่นด้วยกัน


‘โลก’ ใบที่กริดได้เห็น เป็นโลกคนละใบกับที่ผู้เล่นทั่วไปได้เผชิญ


และนั่นคือเหตุผลสำคัญ…


“เพราะว่าอ่อนแอ ฉันจึงต้องการนาย กลับมาอยู่กับฉันได้ไหม…”


กริดอ้อนวอนจากก้นบึ้งหัวใจ เป็นความปรารถนาอันแรงกล้า


[แสงปริศนายังคงเงียบงัน]


“กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ฉันมีหลายสิ่งต้องเรียนรู้จากนาย”


[แสงปริศนายังคงเงียบงัน]


“ไม่อยากสอนงั้นหรือ… เข้าใจแล้ว ไม่ต้องสอนก็ได้ ไม่ต้องทำอะไรเลย ขอแค่กลับมาอยู่กับฉันก็พอ…”


กริดไม่มีเจตนาใดแอบแฝง เขาไม่ต้องการเวทมนตร์ทรงพลัง เขาไม่ต้องการภารกิจคลาสรอง


กริดเพียงไม่ต้องการให้เกิดข่านคนที่สองขึ้น เขาไม่อยากให้บราฮัมหายไปจากโลกอย่างโดดเดี่ยวทรมาน บราฮัมที่กำลังอ่อนแอ กริดต้องการโอบกอดและช่วยเหลือ


“ได้โปรดใช้ฉันเป็นภาชนะเหมือนอย่างเคย ฉันจะให้นายยืมร่างจนกว่าพลังจะกลับมา หากถึงเวลาที่รวบรวมพลังเวทได้มากพอ นายสามารถจากฉันได้ทุกเมื่อ”


>> …


[แสงปริศนากำลังสั่นระริก]


[แสงปริศนาพยายามหยุดสั่น]


[แสงปริศนาไม่ต้องการถูกอารมณ์ของท่านครอบงำ]


[แสงปริศนาสั่นระริกอย่างรุนแรง]


[แสงปริศนามิอาจเก็บงำความรู้สึกได้อีก]


>> …ฉันจะเป็นภาระแก่นาย


>> ลิชมูมัดแข็งแกร่งเกินไป ในวินาทีที่หมอนั่นเผชิญหน้ากับนายจนภารกิจกำเริบ พลังของมูมัดที่ถูกพันธนาการไว้จะคลายออก


>> เจ้านายของมูมัดได้รับการปกป้องจากจอมอสูรบาเอล ปัจจุบัน มันอาจยังไม่แกร่งกล้าเท่าที่ควร แต่เจ้านั่นจะกลายเป็นศูนย์กลางของโลกในสักวันแน่


>> หากยังมีฉันในร่าง นายจะเผชิญความเดือดร้อนไม่รู้จบสิ้น และสักวันจะพ่ายแพ้ต่อหายนะ


ถ้อยคำเหล่านี้ คือสิ่งที่บราฮัมเคยคิดจะบอกกริดก่อนที่เขาตัดสินใจออกจากร่าง


แต่บราฮัมเลือกเก็บงำมาตลอด จนกระทั่งพรั่งพรูออกมาในวินาทีเมื่อครู่


ถึงกระนั้น กริดมิได้สั่นคลอน


“ฉันจะแข็งแกร่งกว่ามัน…”


นัยน์ตาของเขาสงบนิ่ง


“ฉันจะแข็งแกร่งจนไม่มีสิ่งใดทำอันตรายนายได้”


ชายหนุ่มไม่คิดเก็บงำความรู้สึก


“หายนะที่ฉันต้องพ่ายแพ้… สิ่งนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน”


มีเพียงเหตุผลเดียว ที่ทำให้กริดพยายามฝึกฝนพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด และเป็นเหตุผลเดียว ที่ทำให้เขาไม่ปล่อยตัวเองออกจากระเบียบวินัย


“ฉันต้องการปกป้องพวกพ้องและครอบครัวทุกคน”


ความปรารถนาในปัจจุบันของกริด คือการปกป้องคนสำคัญรอบตัวให้รอดพ้นจากอันตราย


กริดที่เคยเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เห็นแก่ความมั่งคั่งและชื่อเสียง หลังจากผ่านเหตุการณ์มากมายที่คอยเตือนสติ เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ครั้งแล้ว ครั้งเล่า หนแล้ว หนเล่า ความร่ำรวยไม่ทำให้กริดสบายใจ ความเป็นดาราดัง ความเป็นวีรบุรุษ ไม่เคยทำให้กริดอุ่นใจเท่ากับความปลอดภัยของคนสำคัญ


นี่คือสิ่งที่ผลักดันและขับเคลื่อนเขาตลอดมา


กริดสามารถกล่าวมันอย่างหนักแน่นจากก้นบึ้งหัวใจ


“ฉันมีชีวิตที่ดีมานานแล้ว นับตั้งแต่หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์สมัยอดีต สมัยที่ยังอ่อนแอ เห็นแก่ตัว และมองโลกในด้านลบ ฉันเริ่มมีความสุขนับตั้งแต่ได้กินอาหารที่อยากกิน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเงินพอหรือไม่… แต่หลังจากฉันมีพวกพ้องที่เชื่อใจซึ่งกันและกัน ฉันกลับได้รับความสุขอีกแบบหนึ่ง…”


ความสุขในรูปแบบนี้…


“ฉันต้องการร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับพวกพ้องคนสำคัญ”


กริดยืนจ้องมองดวงดาวที่เริ่มส่องแสงริบหรี่ ขนาดของมันเหลือเพียงไข่มุกเม็ดเล็ก


“นายคือหนึ่งในคนเหล่านั้น”


ชายหนุ่มทราบเรื่องราวของบราฮัมเป็นอย่างดี บราฮัมเคยถูกคำสาปเกียจคร้านเล่นงาน เขาเลือกหันหลังให้พี่น้องเพื่อเอาชนะคำสาปนั้น


บราฮัมน้อยใจมูมัดที่มีพรสวรรค์มากกว่าตน จึงขโมยผลงานเกือบทั้งหมดของมูมัด ป่าวประกาศให้โลกเข้าใจว่าเป็นผลงานของตัวเอง


แต่ขณะบราฮัมเริ่มรู้สึกผิดกับอดีต เริ่มรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยก่อ และต้องการชดใช้มัน เขากลับถูกเพื่อนคนสนิทหักหลังและฆ่าอย่างเลือดเย็น


กริดรับรู้ทั้งหมด เขาจึงต้องการมอบชีวิตใหม่ให้บราฮัม เป็นชีวิตที่มีแต่ความสุข เขาอยากชดเชยในสิ่งที่บราฮัมเคยมอบให้


ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า พลังและความรู้ของบราฮัมได้ทำให้กริดมีทุกวันนี้


“บราฮัม ได้โปรดเชื่อใจฉัน และกลับมาอยู่กับฉันอีกครั้ง”


กริดยื่นแขนออกไปหา


[แสงปริศนายังคงเงียบงัน]


[แสงปริศนาบอกกล่าวความรู้สึกที่แท้จริง]


บราฮัมลังเลเล็กน้อย


>> ฉันอ่อนแอ


>> ฉันเป็นพลังให้นายไม่ได้อีกแล้ว


>> ฉันเป็นได้เพียงภาระและพิษร้ายกับนาย


[ถึงกระนั้น แสงปริศนายังคงต้องการอยู่กับท่าน]


>> …มันดีแล้วหรือ ที่นายจะรับฉันไปอยู่ด้วย


กริดฉีกยิ้มกว้าง


“แน่นอนอยู่แล้ว!”


ทันใดนั้น แสงสว่างสีฟ้าครามเริ่มลอยเข้าไปในตัวกริด ด้ายแห่งโชคชะตาระหว่างกริดและบราฮัมเหนียวแน่นเกินกว่าจะขาดออก


ข้อความระบบจำนวนมากที่กริดรอคอยได้แสดงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


[ท่านได้รับ ‘ดวงวิญญาณมหาจอมเวทผู้เสื่อมพลัง’]


[คลาสรอง ‘มหาจอมเวทในตำนาน’ ถูกเปลี่ยนเป็น ‘ดยุคแห่งปัญญา’]


[ท่านคือผู้เล่นคนแรก ที่ได้ครอบครองคลาสรองเกรดเลเจนดารีถึงสองครั้ง]


[แต้มสถานะพิเศษต่อหนึ่งเลเวล เพิ่มจาก 2 เป็น 4 แต้ม]


[ทุกครั้งที่เลเวลอัป แต้มค่าสถานะครึ่งหนึ่งจะถูกนำไปเพิ่มค่าสติปัญญา]


[ดวงวิญญาณมหาจอมเวทผู้เสื่อมพลัง ปัจจุบันกำลังอยู่ในสถานะ ‘ไร้พลัง’]


[ท่านไม่สามารถเรียนทักษะใหม่ขณะดวงวิญญาณอยู่ในสถานะ ‘ไร้พลัง’]


[ท่านไม่สามารถ ‘ผสานวิญญาณ’ ในสถานะ ‘ไร้พลัง’]


[ดวงวิญญาณมหาจอมเวทผู้เสื่อมพลังจะฟื้นฟูตัวเองในทุกหนึ่งปี หรือไม่ก็ เมื่อท่านมีค่าสติปัญญาเพิ่มครบ 1,000 แต้ม]


[ดวงวิญญาณมหาจอมเวทผู้เสื่อมพลังจะถูกแบ่งออกเป็นห้าสถานะ ประกอบด้วย ‘ไร้พลัง’ , ‘อ่อนแอ’ , ‘ทรงตัว’ , ‘แข็งแรง’ และ ‘สมบูรณ์’]


[จะมีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นเมื่อดวงวิญญาณกลายเป็นสถานะ ‘แข็งแรง’ และ ‘สมบูรณ์’]


[ท่านได้รับทักษะ ‘ถอดรหัสเวทมนตร์’]


<ถอดรหัสเวทมนตร์ Lv.1>

ประเภท : ทักษะติดตัว

องค์ความรู้ของดยุคแห่งปัญญา สามารถมองทะลวงลึกไปถึงแก่นแท้ของเวทมนตร์ทุกชนิด

* ถอดรหัสเวทมนตร์ศัตรู

(มีโอกาส 50% ในการสลายเวทมนตร์นั้น และมีโอกาส 4% ที่จะเลียนแบบเวทมนตร์ดังกล่าวพร้อมกับสวนกลับไปห้าเจ้าของ)

* ถอดรหัสเวทมนตร์พวกพ้อง

(มีโอกาส 30% ที่จะเสริมประสิทธิ์เวทมนตร์ที่พวกพ้องใช้งาน)

* ใช้ได้กับเวทมนตร์ทุกธาตุ

* ไม่สามารถถอดรหัสเวทมนตร์หลายชนิดได้พร้อมกัน

มานาที่ใช้ : ไม่ปรากฏ

ระยะหน่วงหลังใช้ : 3 วินาที


“อา…”


นี่ไม่ใช่สิ่งที่กริดต้องการ ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด กริดไม่อยากได้รับพลังจากบราฮัม เขาเพียงต้องการสนับสนุนบราฮัม


ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มย่อมดีใจเมื่อได้รับพลังใหม่ และเกิดเป็นความชื่นชมในเวลาเดียวกัน


‘ในช่วงที่เขาสมบูรณ์แบบ… บราฮัมแข็งแกร่งขนาดไหนกัน’


ทันใดนั้น เสียงของบราฮัมดังก้องในหัวกริดที่กำลังอ้าปากค้าง เป็นสัญญาณการเริ่มต้นภารกิจใหม่


>> แพ็กม่าหวาดระแวงฉันจนถึงวินาทีสุดท้าย


[ภารกิจลับถูกสร้างขึ้น]


>> เจ้านั่นแช่ศพของฉันไว้ในน้ำแข็ง และซ่อนไว้สักแห่งภายในสุสานดาบ ฉันไม่สามารถเข้าถึงได้โดยปราศจากรหัสผ่าน ในฐานะที่ต้องกลับเข้าร่างเนื้อในอนาคต ฉันต้องการเห็นกับตาว่า ศพของตัวเองยังคงปลอดภัยดี


<คำขอร้องของบราฮัม>

★ ภารกิจลับ ★

บราฮัมหงุดหงิดใจมากที่แพ็กม่าทรมานตนแม้จะตายไปแล้ว

บราฮัมมีเป้าหมายในการคืนชีพ เขาต้องการมั่นใจว่าศพยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ค้นหาร่างเนื้อบราฮัม

รางวัลสำเร็จภารกิจ : ค่าความสัมพันธ์กับบราฮัม +30


[ท่านมีค่าความสัมพันธ์กับบราฮัมเกิดกว่าระดับสูงสุด]


[รางวัลภารกิจเปลี่ยนแปลง]


รางวัลภารกิจใหม่ :


- สติปัญญา +50 แต้ม


- ภารกิจลับต่อเนื่อง


กริดควรพูดออกไปรึเปล่า… เขาควรรีบบอกบราฮัมดีไหม ถึงเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกของแพ็กม่า


หลังจากครุ่นคิดและชั่งน้ำหนักอยู่นาน ชายหนุ่มตัดสินใจเปิดปาก


“บราฮัม แพ็กม่าเสียใจที่ทรยศนาย”


>> อะไรนะ


“หลังจากสืบทราบว่า เทพคือผู้บงการจอมอสูรให้บุกทำลายโลกมนุษย์ แพ็กม่าก็เข้าใจทันที ว่าความดีและความชั่วที่เขาเข้าใจมาตลอดเป็นสิ่งผิด เขาเสียใจในสิ่งที่เคยทำกับนาย ถึงขั้นหลั่งน้ำตาร่ำไห้จากก้นบึ้งหัวใจสาเหตุที่เขาแช่ศพนายในน้ำแข็ง ไม่ใช่เพราะหวาดระแวงหรือต้องการทรมาน ตรงกันข้าม แพ็กม่าทำไปเพื่อปกป้องร่างเนื้อนาย…”


>> หุบปาก! ฉันไม่ได้กลับเข้าร่างนายเพื่อฟังเรื่องเหลวไหลแบบนี้!


เสียงของบราฮัมกำลังสั่นคลอน ชายหนุ่มสัมผัสถึงความสับสนที่แฝงมากับถ้อยคำเมื่อครู่


กริดรู้สึกได้ หากตนคลายความขัดแย้งในใจระหว่างสองตำนานสำเร็จ เรื่องราวอันยิ่งใหญ่บทใหม่จะเริ่มขึ้นแน่นอน


และบนโลกใบนี้ มีเพียงบุคคลเดียวที่สามารถคลายปมดังกล่าว บุคคลที่เป็นผู้สืบทอดแพ็กม่า และบุคคลที่เป็นเพื่อนรักของบราฮัม


บุคคลนั้นคือตัวเขาเอง


“เนตรแพ็กม่า”


กริดเริ่มพิจารณาสุสานดาบอย่างใจเย็น นัยน์ตาของเขาปรากฏวงแหวนสีฟ้าครามส่องสว่าง ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบสุสานดาบเพื่อหาคำบอกใบ้


ดาบทั้ง 4,179 เล่มถูกแสงจากดวงตาส่องกระทบอย่างครบถ้วน ทันใดนั้น…


>> แพ็กม่า… ไม่สิ เป็นคนอื่นหรอกหรือ


ท่ามกลางดาบที่ปักดิน 4,179 เล่ม มีเพียงเล่มเดียวที่ส่งเสียงขานตอบกริด


ดาบเล่มดังกล่าวมีรูปทรงคล้ายคลึงกับ ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์’ อย่างมาก


ทำไมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นสมบัติของโบสถ์รีเบคก้าถึงอยู่ที่สุสานดาบ…


กริดพลันขนลุกไปร่าง


อีโก้ดวงวิญญาณที่ถูกผนึกในดาบศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเป็นวิญญาณของตัวตนระดับนักบุญเท่านั้น… และจากบรรดาพวกพ้องที่แพ็กม่าเคยสนิทสนมด้วย


…มีหนึ่งคนที่เป็นสันตะปาปา


มาถึงจุดนี้… กริดเริ่มเกิดความหวาดกลัวแพ็กม่าขึ้นมาจับใจ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,331

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ขอบคุณ​มาก​ครับ​😍

    ReplyDelete
  2. ว้าวๆ เนื้อเรื่องกำลังจะเริ่มต้นบทใหม่อีกแล้ว คงจะสนุกมากกว่านี้แน่ถ้ากริดแก้ปริศนาทุกอย่างได้ และได้รับพลังใหม่ๆ จนแกร่งขึ้นกว่าเดิม สนุกมากครับ ขอบคุณครับแอด

    ReplyDelete
  3. ฮือดีใจที่บราฮัมกลับมาTT

    ReplyDelete
  4. เหมือนกำลังง้อแฟนที่กำลังเก็บกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน"ಥ‿ಥ" (ꏿ﹏ꏿ;)

    ReplyDelete
    Replies
    1. มันออกไปแล้ว แบบนี้เรียกว่า "ไปเจอแฟนเก่าที่บ้านเกิดแฟนเก่า" มากกว่า

      Delete
  5. มุ ฮึก! 🥲 ในที่สุดก็กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วว 😭

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00