จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 934



[ราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน]


เมื่อพลังชีวิตลดต่ำลงเกินกว่า 50% ระบบทำการสร้างร่างแยกในทุกพลังชีวิต 10% ที่เสียไป


ค่าพลังชีวิต พลังป้องกัน และความว่องไวของร่างแยกจะเท่ากับร่างหลักในขณะนั้น แต่พลังโจมตีจะถูกกำหนดตายตัวที่ 10% จากร่างหลัก แถมยังใช้ได้เพียงทักษะพื้นฐาน


ทุกครั้งที่สร้างร่างแยก ร่างจริงจะเกิดการสั่นวูบวาบก่อนแยกออกเป็นสอง ไม่มีใครบอกได้ว่าร่างใดคือร่างจริง และร่างใดคือร่างแยก


ศัตรูที่ทำการโจมตีใส่ ‘ร่างแยก’ จะได้รับผล ‘สะท้อนความเสียหาย30%’ แต่ความเสียหายชนิดนี้จะไม่ส่งผลจนถึงแก่ความตาย


พลังชนิดที่สามของบีเลียลนับว่าใกล้เคียงกับเวทลวงตาสมบูรณ์แบบ มันจะสร้างร่างแยกทุกครั้งที่ผู้ใช้สูญเสียพลังชีวิตถึงจุดที่กำหนด ทุกบุคคลในบริเวณจะมิอาจระบุได้ว่าร่างใดเป็นร่างจริง หากโจมตีผิดพลาดไปถูกร่างแยก ผู้โจมตีจะถูกสะท้อนความเสียหายกลับไปปริมาณมาก แถมร่างแยกยังคัดลอกค่าสถานะเกือบทั้งหมดไปจากร่างหลัก


เอฟเฟคของมันยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยาย สามารถเป็นทักษะอันดับหนึ่งในโลกซาทิสฟายได้ไม่ยากหากถูกใช้งานอย่างช่ำชอง กริดคงเป็นไอ้งั่งตัวพ่อหากมิอาจเอาชนะการดวลด้วยทักษะสุดโกงเช่นนี้


…แต่กริดไม่เคยใช้พลังลวงตาของบีเลียลเลยสักครั้งในการต่อสู้ศึกใหญ่


เพราะเขาเป็นไอ้งั่งตัวพ่องั้นหรือ… คำตอบคือไม่ เหตุผลเดียวที่กริดไม่ใช้งานมันเพราะทักษะนี้มีระดับความยากที่สูงเกินกำลัง


ข้อเสียของทักษะสุดโกงที่สามารถพลิกแพลงใช้งานได้หลากหลาย… เป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้นอกการบังคับตัวละครได้ยากบัดซบ


[ท่านได้รับความเสียหาย 8,190 หน่วย]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 12,200 หน่วย]


[ท่านถูกสวนกลับโดยเทคนิคประหลาด]


[ท่านได้รับความเสียหาย 12,200 หน่วย]


[ร่างแยกถูกสร้างขึ้นจากผลของราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน]


กริดที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสาวกเทพสงครามสวนกลับ บัดนี้ ร่างจริงของเขาเริ่มแยกออกเป็นสองคน


“…!”


สาวกเทพสงครามพลันชะงัก มันสูญเสียเป้าหมายหลังจากมีกริดอีกคนปรากฏตัว สาวกเทพสงครามมิอาจบอกได้ว่าร่างใดคือตัวจริง


สถานการณ์กำลังไปได้สวย กริดเป็นเหมือนกับพระเอกในการ์ตูนนินจาที่เตรียมผสานพลังกับร่างแยกเพื่อปิดบัญชีศัตรู…


ทว่า ราชาโอเวอร์เกียร์กลับทำเพียงยืนนิ่งชะงักงัน ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น คงยากไปสักหน่อยที่จะให้กริดสมองทึบบังคับตัวละครในขณะที่ ‘ภาพการมองเห็น’ ของเขาถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างเท่าเทียม


‘…ให้ตายสิ’


นี่คือสาเหตุที่กริดไม่เคยใช้พลังลวงตาในการต่อสู้จริงมาก่อน ทุกครั้งที่ร่างแยกถูกสร้างขึ้น กริดจะได้รับ ‘การมองเห็น’ ของร่างแยกมารวมกับการมองเห็นของตัวเอง โชคดีเท่าไรแล้วที่เกมบัดซับไม่ใจร้ายขนาดบังคับให้กริดต้อง ‘ควบคุมร่างแยกทั้งหมดด้วยตัวเอง’


สิ่งที่ร่างแยกมองเห็นคือสิ่งที่กริดมองเห็น ระบบนี้มีไว้เพื่อให้กริดใช้คอมโบผสานกับร่างแยกได้อย่างถูกต้องตรงจังหวะ แต่นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่ในเวลาเดียวกัน


“อึก…!”


ร่างแยกถูกซัดจนปลิวกระเด็น ภาพการมองเห็นครึ่งหนึ่งของกริดกำลังหมุนเคว้งลอยไปในอากาศ ส่วนการมองเห็นอีกซีกคือสาวกเทพสงครามที่กำลังโจมตีขึ้นฟ้า


เขากำลังวิงเวียนศีรษะสุดขีด ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ได้ด้วยการหลับตาข้างเดียว เพราะถึงจะหลับตา กริดก็ยังเห็นเป็นสองซีกเช่นเดิม เพียงแต่ขนาดของภาพจะเล็กลง


สาวกเทพสงครามมัวแต่กำลังปัดป้องการโจมตีจากร่างแยกที่เริ่มเปิดฉากรุกหนัก ปัจจุบัน ร่างแยกกำลังดึงความสนใจไว้แทนกริด เพราะกริดตัวจริงเอาแต่ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ไม่แปลกที่สาวกเทพสงครามจะมองว่าไอ้งั่งที่ยืนเฉยเป็นแค่ร่างปลอม


ยิ่งร่างแยกแลกดาบกับสาวกเทพสงครามมากเพียงใด กริดตัวจริงก็ยิ่งปวดเศียรเวียนเกล้ามากเท่านั้น ภาพการมองเห็นฝ่ายร่างแยกทั้งสั่นและหมุนจนเขาอยากอาเจียน



กระนั้น กริดยังคงพยายามเรียกสติกลับยืน ชายหนุ่มเพ่งสมาธิเฝ้ามองภาพจากจอร่างแยกเพื่อรอโอกาสที่สาวกเทพสงครามจะเปิดช่องว่าง นั่นคือช่วงเวลาที่ร่างหลักต้องกลับเข้าร่วมการต่อสู้


‘ใจเย็นหน่อยกริด ใจเย็นหน่อยโว้ย! แกต้องอัดมันให้ได้มากที่สุดก่อนผลของบัฟจะหมดลง!’


เขาเริ่มสงบนิ่งมากขึ้น


ร่างแยกจัดการปลดปล่อยร่ายรำ รัศมีดาบหลายสิบเส้นเฉือนปะทะกับร่างสาวกเทพสงคราม แน่นอนว่าศัตรูมิอาจปัดป้องได้ครบถ้วน ‘ร่ายรำ’ จากร่างแยกสร้างบาดแผลได้เจ็ดดาบ


นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีสำหรับกริด เพราะร่างโคลนมีพลังโจมตีแค่ 10% จากร่างหลัก เพียงเจ็ดดาบของร่ายรำมิอาจสร้างบาดแผลฉกรรจ์แก่มันได้แน่


และผลที่เกิดขึ้น…


ร่างแยกถูกสาวกเทพสงครามสวนกลับพร้อมกับฟันธรรมดาซ้ำ ร่างเสมือนของกริดที่ชุ่มเลือดพลันกลายเป็นแสงสีเทาในพริบตา ด้านสาวกเทพสงครามถูกความเสียหายสะท้อนกลับไปราวหมื่นหน่วย


ทันใดนั้น…


“แสงจ้า!”


กริดฉวยโอกาสใช้ภูตแสงพร้อมกับพุ่งเข้าประชิดตัวสาวกเทพสงคราม แสงจ้าจากภูตส่งผลให้ศัตรูของกริดตาบอดเป็นระยะเวลา 0.3 วินาทีโดยพลัน


“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร”


ชายหนุ่มปลดปล่อยท่าไม้ตายในระยะหายใจรดต้นคอ รัศมีดาบจำนวนมากพวยพุ่งกระแทกร่างอย่างสาวกเทพสงครามอย่างจัง


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 490,580 หน่วย]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 511,900 หน่วย]


“โฮกกกกก!”


สาวกเทพสงครามที่ตาบอดย่อมได้รับความเสียหายเข้าไปปริมาณมหาศาล ร่างกายของมันโซซัดโซเซตามแรงกระแทก


ผลของคลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหารยังไม่จบ คลื่นดาบพุ่งปะทะร่างสาวกเทพสงครามจากทุกทิศ จากนั่นก็พุ่งขึ้นไปรวมตัวกันกลางอากาศ


“…ภูเขายุทธภัณฑ์…”


สาวกเทพสงครามไม่ได้ทราบเลยว่ามีพลังงานจำนวนมากกำลังถูกรวบรวมเหนือศีรษะ มันทำได้เพียงส่งเสียงคำรามอย่างแหบพร่าหลังจากหลุดพ้นจากอาการตาบอด


“…อยู่ที่ไหน!!”


รัศมีดาบใหญ่ยักษ์ของ ‘ทำลายล้าง’ ฟาดลงจากด้านบนประหนึ่งสายฟ้า


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 3,040,580 หน่วย]


รัศมีดาบปะทะใส่กะโหลกอย่างจังจนสาวกเทพสงครามเสียหลักโงนเงน ด้วยสภาพเช่นนี้ น่าเหลือเชื่อมากที่มันยังไม่ยอมปล่อยมือจากดาบ


ทันใดนั้น กฎของฟิสิกส์พลันถูกฝ่าฝืนอย่างน่าเกลียด สาวกเทพสงครามแสดงเอฟเฟค ‘สวนกลับ’ โดยไม่สนใจจัดระเบียบร่างกายให้เรียบร้อย ดาบในมือพุ่งจ้วงแทงใส่กริดด้วยความเสียหายเทียบเท่าคลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร


กริดไม่รีรอที่จะดำเนินการขั้นถัดไป


“วังวน”


เขาใช้มันทันในจังหวะสุดท้ายอย่างฉิวเฉียด สิ่งนี้เกิดจากประสบการณ์ของกริดที่เคยปราบสาวกเทพสงครามมานับแล้วไม่ถ้วน


การใช้วังวนเกิดขึ้นอย่างไร้ที่ติ


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 3,040,580 หน่วย]


สาวกเทพสงครามบาดเจ็บยิ่งกว่าเดิมโดยไม่จำเป็น ความเสียหายถูกทบเป็นสองเท่าเนื่องจากกริดอาศัยธรรมชาติสวนกลับไร้เงื่อนไขให้เกิดประโยชน์สูงสุด ร่างกายของสาวกเทพสงครามกำลังโงนเงนประหนึ่งเมาหมัด หากเป็นสาวกเทพสงครามรุ่นก่อนคงเสียชีวิตไปนานแล้ว


‘เป็นสัตว์ประหลาดอย่างที่คิด’


ปัจจุบัน กริดกำลังเผชิญหน้ากับสาวกเทพสงคราม·ผู้ครอบครองเทคนิคลับสองชนิด บอสรองของดันเจี้ยนแห่งนี้มีพลังชีวิตราวสองเท่าของสาวกเทพสงครามรุ่นก่อน เหมือนกับกริดเดาไว้ในตอนต้น แม้ชายหนุ่มจะซัดท่าไม้ตายใส่ในระยะประชิดแถมยังสะท้อนกลับด้วยวังวนซ้ำ แต่อีกฝ่ายกลับยังหลงเหลือพลังชีวิตมากเกินกว่าครึ่ง


สาวกเทพสงครามเริ่มแผดเสียงคำรามด้วยโทสะ


“ภูเขายุทธภัณฑ์…! พาฉันไปที่นั่น!!”


ตัวมันที่สวนกลับการโจมตีของผู้อื่นมาทั้งชีวิต ย่อมเกิดความรู้สึกแปลกใหม่เมื่อถูกสวนกลับเสียเอง เทพสงครามเริ่มสัมผัสถึงภัยคุกคามร้ายแรงจากกริด มันทำการปลดปล่อยทักษะชนิดที่สองโดยไม่รีรอ


“…!!”


หลังจากกริดใช้คลื่นทำลายล้างสังหารและวังวนจบ เขาก็รีบถอยหลังเพื่อตั้งหลักและพักหายใจหายคอ แต่นั่นคือความผิดพลาด กริดพลันดวงตาเบิกโพลงอย่างตกตะลึงสุดขีด สาเหตุเพราะดาบในมือของไอ้สาวกเทพสงครามบัดซบกำลังยืดออกจากเดิมจนกลายสามเมตร เพียงหนึ่งก้าวที่มันกระโจนเขากริด ระยะสังหารของดาบได้เหยียดยาวถึงลำตัวกริดอย่างง่ายดาย


กำลังเล่นมายากลรึไง…


ขณะกำลังตกตะลึง ร่างกายกริดไม่สามารถขยับหลบหลีกได้ทัน… ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เขาเลือกทิ้งระยะห่างที่ปลอดภัยจนเกิดความตายใจ ไม่มีทางจะรับมือวิถีดาบที่ยืดผิดแผกปรกติได้ทันท่วงที


[ท่านได้รับความเสียหาย 19,250 หน่วย]


“อั่ก!”


กริดส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดพลางผงะถอยหลัง ดาบที่ยาวออกสามเท่าหมายถึงความเสียหายที่เพิ่มขึ้นสามเท่าจากปรกติ สาวกเทพสงครามสืบเท้าเข้าหากริดพร้อมกับกวัดแกว่งดาบ


[ร่างแยกถูกสร้างจากเอฟเฟคของราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน]


ร่างกายกริดเกิดภาพหลอนพร้อมกับสั่นไหววูบวาบ จากนั่นก็แยกออกเป็นสองซ้ายหนึ่งขวาหนึ่งในพริบตา เป็นอีกครั้งที่สาวกเทพสงครามสูญเสียเป้าหมายโจมตี ดาบยาวในมือของมันฟันผ่ากลางระหว่างกริดและร่างแยก พื้นหินที่ถูกฟาดใส่พลันแหลกละเอียดเป็นผุยผงและเกิดหลุม


ชายหนุ่มเพ่งสมาธิพิจารณาดาบในมือสาวกเทพสงครามอย่างถี่ถ้วนก่อนจะได้ข้อสรุป


‘ออร่า…’


ดาบไม่ได้ยืดยาวออกมา สิ่งที่ก่อตัวจากปลายดาบคือออร่า ส่งผลให้มันยืดยาวและหดกลับได้ดั่งใจ เป็นเทคนิคที่ทำให้ศัตรูคาดคะเนระยะดาบผิดพลาด แถมยังช่วยเพิ่มพลังโจมตีมากถึงสามเท่า ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางรับมือสาวกเทพสงครามที่ครอบครองเทคนิคลับสองชนิดได้แน่


แต่ไม่ใช่กับกริด เขาคุ้นเคยกับออร่าเป็นอย่างดี เพราะปิอาโร่ได้อธิบายเรื่องราวกับทั้งหมดเกี่ยวกับออร่าและความสำคัญของฮูเร็นให้ฟัง ปิอาโร่อธิบายโดยละเอียดเพื่อให้กริดเข้าใจเกี่ยวกับออร่าอย่างถ่องแท้


ส่งผลให้กริดมิได้ตื่นตระหนักกับดาบรูปทรงประหลาดที่กำลังปักดินมากนัก


ทันใดนั้น ดาบออร่าในมือสาวกเทพสงครามพลันยืดยาวกลายเป็นแส้หนาม แต่กริดสามารถกระโดดหลบได้ง่ายดายราวกับคาดเดาไว้ล่วงหน้า หากสาวกเทพสงครามยังมีชีวิตอยู่ มันคงตื่นตระหนกไม่น้อยที่เทคนิคลับกลับถูกมนุษย์คนเดิมหลบหลีกสองครั้งซ้อน


แต่นั่นเป็นกรณีที่อีกฝ่ายยังมีชีวิต สาวกเทพสงครามคืออันเดดไร้จิตใจและมิได้แสดงท่าทีตื่นตะลึง มันกวัดแกว่งอาวุธในมือใส่กริดอย่างต่อเนื่องไม่ลดละ ออร่าปลายดาบแปรเปลี่ยนเป็นรูปทรงนานับชนิด ทั้งคมดาบ หอกแหลม หรือแส้


ยิ่งเวลาผ่านไป ร่างกายกริดก็ยิ่งชุ่มด้วยเลือด


[ร่างแยกถูกสร้างจากเอฟเฟคของราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน]


[ร่างแยกถูกสร้างจากเอฟเฟคของราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน]


[ร่างแยกถูกสร้างจากเอฟเฟคของราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน]


การมองเห็นของกริดกำลังถูกแบ่งเป็นห้าส่วน หมายความว่าเขาแยกออกมาทั้งหมดสี่ร่าง สาวกเทพสงครามลงมือโจมตีใส่ร่างแยกหลายหนและถูกความเสียหายสะท้อนกลับ


“แฮ่ก…แฮ่ก…”


กริดกำลังปวดหัวสุดขีด จิตใจของเขาเริ่มอ่อนล้าจากภาพหลายหน้าจอที่กำลังหมุนเคว้ง


‘ต่อให้ปู่ของครอเกลมาเล่นเองก็ไม่มีทางปรับตัวได้แน่…’


เขาคิดเช่นนี้จริงจัง


“ร่ายรำ”


“สังหาร”


“คลื่น”


“ทำลายล้าง”


ร่างแยกรอบตัวสาวกเทพสงครามเริ่มรำดาบอย่างพร้อมเพรียง การมองเห็นทั้งหมดย่อมถูกส่งมายังตัวกริด ซึ่งชายหนุ่มทำได้เพียงกลืนน้ำลายอย่างนึกเสียดาย


ร่ายรำ สังหาร คลื่น และทำลายล้าง โชคชะตาของร่างแยกเหล่านี้จบลงนับตั้งแต่เริ่มใช้ทักษะ พวกมันจะถูกสวนกลับและกลายเป็นแสงสีเทาหลังสาวกเทพสงครามถูกโจมตี


ด้วยพลังโจมตีเพียง 10% ของร่างต้นร่างแยกสี่ทักษะคงไม่ทำเกิดความเสียหายที่รุนแรงนัก


ในสายตาสาวกเทพสงคราม ร่างแยกเหล่านี้ไม่ต่างจากแมลงเม่าสักเท่าไร


แต่ถ้าหากพวกมันไม่ใช่แมลงเม่าล่ะ… หากร่างแยกสามารถสร้างความเสียหายได้เกินกว่าที่สาวกเทพสงครามคาดคิด ความตายของพวกมันต้องไม่สูญเปล่าแน่


‘เฮ่อ… แฮ่ก… นายทำได้แน่… กริด’


บนจอการมองเห็นของกริด ภาพของ ‘ร่างหลัก’ จะอยู่กึ่งกลางเสมอ กริดชำเลืองสายตามองไปยังจอของร่างแยกตัวแรกที่เริ่มใช้ ‘ร่ายรำ’ ใส่สาวกเทพสงคราม


ชายหนุ่มตะโกนชื่อทักษะ


“บิดเบือน”


ภาพการมองเห็นของร่างแยกที่ปลดปล่อย ‘ร่ายรำ’ พลันถูกสลับมาอยู่จอใหญ่กึ่งกลาง


[ราชินีบิดเบือน]


ทำการสลับไปควบคุมร่างแยกที่กำหนด แต่ละร่างแยกสามารถถูกควบคุมได้เพียงหนึ่งครั้ง


ระยะหน่วงหลังใช้ : ไม่ปรากฏ


มานาที่ใช้ : 2,300


“ย๊ากกก!”


กริดได้สิทธิ์ควบคุมร่างแยกที่ตัวที่ใช้ ‘ร่ายรำ’ สายตาของเขาจดจ้องกึ่งกลางหน้าจอเพื่อเล็งฟันรัศมีดาบหลายสิบเส้นใส่สาวกเทพสงครามให้โดน


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 23,500 หน่วย]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 21,430 หน่วย]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 22,990 หน่วย]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 22,800 หน่วย]


เป็นร่ายรำที่อัดแน่นด้วยพลังโจมตีของกริด 100% เต็ม สาวกเทพสงครามรับความเสียหายหนักจนมันสะดุ้งเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็แทงดาบเคลือบออร่าสวนกลับใส่กริด


ทันใดนั้น ชายหนุ่มฝืนกลืนอ้วกลงคอพลางเค้นเสียงเอ่ยชื่อทักษะ


“อุ…บิดเบือน!”


คราวนี้เป็นร่างแยกที่กำลังแทง ‘สังหาร’ ใส่สาวกเทพสงครามจากอีกมุม


[คริติคอล!]


[ท่านสร้างความเสียหาย 1,010,590 หน่วย]


ร่างแยกที่ใช้ ‘ร่ายรำ’ เมื่อครู่ถูกสาวกเทพสงครามแทงจนลอยกระเด็นและกลายเป็นแสงสีเทา ภาพการมองเห็นของกริดลดจากห้าเหลือเพียงสี่


หลังจากกริดสลับการควบคุมมายังร่างแยกที่ใช้ ‘สังหาร’ เขาแทงดาบใส่สาวกเทพสงครามอย่างจังจนเกิดเป็นคริติคอล ชายหนุ่มไม่รีรอ เขาเตรียมสลับไปยังร่างแยกที่ใช้ ‘คลื่น’ ต่อทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับร่างที่ใช้ ‘สังหาร’ ถูกสาวกเทพสงครามแทงสวนจนเสียชีวิต


แต่น่าเสียดายที่กริดย้ายไม่ทัน ร่างแยกซึ่งใช้คลื่นกับทำลายล้างต่างปลดปล่อยทักษะไปก่อนแล้วและถูกสวนกลับจนตายไปทั้งคู่


บทสรุปคือ กริดควบคุมร่างแยกโจมตีสำเร็จเพียงสองจากสี่ร่าง


การมองเห็นของกริดกลับกลายเป็นหนึ่งอีกครั้ง ชายหนุ่มจ้องมองสาวกเทพสงครามด้วยร่างจริงที่ยืนห่างออกไป


เมื่อครู่ยังมีกริดมากถึงห้าคน แต่บัดนี้เหลือเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น


“โฮกกกก…!”


สาวกเทพสงครามส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนราวกับของเล่นใกล้พัง เกิดความเสียหายค่อนข้างมากขณะชายหนุ่มสลับควบคุมร่างปลอมเมื่อครู่ แถมมันยังถูกผลสะท้อน 30% ของความเสียหายเข้าไป


“แฮ่ก… แฮ่ก”


กริดมิอาจขยับเขยื้อนร่างกาย จิตใจของเขาสิ้นเปลืองพลังงานอย่างหนักชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กริดต้องใช้การมองเห็นร่วมกับร่างแยกอีกสี่ รวมถึงใช้บิดเบือนเพื่อควบคุมพวกมันอีกสามครั้ง ชายหนุ่มรู้สึกราวกับหัวสมองกำลังจะระเบิด


‘ถ้าเรามีปฏิกิริยาไวกว่านี้ อาจควบคุมร่างหลักให้ช่วยโจมตีผสานกับร่างแยกได้’


…ขณะแข้งขากริดกำลังอ่อนแรงสุดขีด


“พวกเราจัดการเอง”


ผู้เล่นแรงค์หนึ่งของโลก คริส อัศวินหอกพิสุทธิ์ ป็อน และอาชูร่า เรกัส สามวีรชนฯ แห่งโอเวอร์เกียร์กำลังยืนขนาบซ้ายขวาคอยพยุงกริด


คริสเปิดฉากด้วยดาบพันชั่งเพื่อให้สาวกเทพสงครามตกอยู่ในอาการชะงัก ตามติดด้วยหอกคลื่นเสียงที่แทงทะลวงหัวใจอย่างแม่นยำ และปิดท้ายด้วยลูกเตะความเร็วแสงอัดเข้าที่ขมับ


บทสรุปของการรุมกระทืบก็คือ…


[สาวกเทพสงคราม·ผู้ครอบครองสองเทคนิคลับ ถูกสังหาร]


[ค่าประสบการณ์ 129,990,250 หน่วยถูกหารอย่างเท่าเทียม]


[เลเวลของหมายเลขหนึ่งเพิ่มขึ้น]


[เลเวลของหมายเลขสองเพิ่มขึ้น]


[หัวหน้าปาร์ตี้ กริด ได้รับไอเท็ม ‘เทคนิคลับของสาวกเทพสงครามที่ไหม้เกรียมจนอ่านไม่ออก’]


[หัวหน้าปาร์ตี้ กริด ได้รับไอเท็ม ‘ชิ้นส่วนแผนที่สุสานดาบ (7) ’]


[หัวหน้าปาร์ตี้ กริด ได้รับไอเท็ม ‘ชิ้นส่วนแผนที่สุสานดาบ (3) ’]


[หัวหน้าปาร์ตี้ กริด ได้รับไอเท็ม ‘ชิ้นส่วนแผนที่สุสานดาบ (1) ’]


[ท่านรวบรวมแผนที่สุสานดาบเสร็จสมบูรณ์]


กริดสำเร็จความท้าทายใหม่ที่เขากล้าลองเสี่ยง

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,327

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ไปสุสานดาบต่อเลยกริด อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ที่นั้น ในนั้นต้องมีอะไรที่เป็นประโยคต่อกริดแน่นอน

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณ​มาก​ครับ​

    ReplyDelete
  3. Replies
    1. สปอยปะเนี่ย!?

      Delete
    2. ถ้าอ่านไปใช้สมองวิเคราะห์ไป ก็น่าจะเดาได้แหละ

      Delete
  4. ไหม้เกรียมแล้วมันจะอ่านยังไงฟ่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เดี๋ยวก็หาทางอ่านได้ละมั้งของดรอปทั้งทีบอสรองก็โหด

      Delete
  5. ความสามารถของทักษะแบบนี้นึกถึงพี่น้องไวท์แบล็ค แบล็คน่าจะควบคุมได้สบาย ถ้าเป็นครอเกลน่าจะใช่ทุกท่าได้ครบหมด

    ReplyDelete
  6. จะได้เจอบราฮัมแล้ววววว

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00