จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 930
ลิมชอลโฮคือบุคคลแรกของโลกที่ริเริ่มสร้างเวทีคอนเสิร์ตซึ่งครบครันด้วยเทคโนโลยีดนตรียุคสมัยใหม่ เวทีคอนเสิร์ตใหญ่ที่สุดในโลกถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ ณ ใจกลางกรุงโซล
เหตุใดถึงต้องเป็นเวทีคอนเสิร์ต… ลิมชอลโฮมิได้ระบุเหตุผลที่ชัดเจนไว้ในบทสัมภาษณ์ เขาเพียงกล่าวว่า ตนเป็นบุคคลที่คลั่งไคล้ในเพลงคลาสสิกอย่างมาก
ทว่า…
“ผมคิดต่างออกไป ลิมชอลโฮกำลังเผยให้เห็นความทะเยอทะยานของเขา”
บุรุษสองคนกำลังนั่นสนทนาภายในเวทีคอนเสิร์ต SA สถานที่ซึ่งกำลังบรรเลงหนึ่งในบทเพลงตำนานของโมสาร์ทด้วยเสียงฟลุต
ชายวัยกลางคนมาดสุขุมคือผู้อำนวยการสถานี OGC ลีกุกแร ส่วนสุภาพบุรุษผมขาวคือประธานใหญ่ของ OGC คิมแจชิก
“ตลอดสามร้อยปีที่ผ่านมา บทบรรเลงของโมสาร์ทถูกมนุษย์โลกนำมาขับขานใหม่โดยไม่มีวันหยุดพัก”
มีคนมากมายที่เข้าใจผิดว่าเพลงคลาสสิกเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ล้าสมัย บางคนถึงกับนึกว่าเป็นวัฒนธรรมของชนชั้นสูงเท่านั้น เพลงคลาสสิกมีไว้ให้คนร่ำรวยเติมเต็มความสุนทรีย์ที่ขาดไป ซึ่งนั่นไม่จริงเลยสักนิด หลายคนบนโลกมักฮัมเพลงคลาสสิกออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“กว่าพันบทเพลงของโมสาร์ทถูกบันทึกลงแผ่นเสียง เพลงเหล่านั้นถูกคัดลอกและจำหน่ายไปทั่วโลกรวมแล้วกว่าร้อยล้านแผ่น”
คิมแจชิกมีภูมิความรู้มากมายสมกับเป็นนักธุรกิจวัยหกสิบปี และนี่คือสาเหตุที่เขาได้เป็นหัวเรือใหญ่ของสถานีเกมอันดับหนึ่งของยุคสมัยปัจจุบัน หลังจากอารัมภบทเล็กน้อย คิมแจชิกตัดบทเข้าเรื่อง
“ลิมชอลโฮต้องการให้ซาทิสฟายกลายเป็นเหมือนเพลงคลาสสิกที่มีเหล่าบรรดานักดนตรีวงออเครสต้า (ผู้เล่น) คอยบรรเลงขับขานบทเพลง (เกม) ในทุกยุคทุกสมัยอย่างไม่มีวันจบสิ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เหตุใดวาทยกรอันดับหนึ่ง ณ ปัจจุบันอย่างกริดถึงไม่อยู่บนงานดนตรีระดับโลกเพื่อคอยขับขานบทเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด… ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดเดียว”
ลีกุกแรมองว่า การเปรียบเปรยของคิมแจชิกค่อนข้างเห็นภาพชัด ทุกครั้งที่ลิมชอลโฮปรากฏตัวสู่สาธารณะ เขาไม่เคยระบุว่าซาทิสฟายคือเกม แต่จะกล่าวว่า ซาทิสฟายเปรียบดั่งโลกเสมือนจริงใบใหม่
ชายคนนั้นต้องการให้ซาทิสฟายเป็นเหมือนกับดนตรีคลาสสิกที่คงอยู่กับโลกไปตลอดกาล และในปัจจุบัน วาทยกรอันดับหนึ่งของโลกเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกริด ประธานใหญ่ลิมชอลโฮไม่มีทางปลื้มแน่หากกริดไม่เข้าร่วมงานแสดงดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกซึ่งจัดขึ้นปีละครั้ง
“ต่อให้กริดไม่เข้าร่วมแข่งนานาชาติในฐานะนักกีฬา ผมยังมองว่า ลิมชอลโฮต้องหาทางให้กริดปรากฏตัวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งแน่”
“ใช่แล้ว กริดอาจปฏิเสธไม่ร่วมแข่งในฐานะนักกีฬา ลิมชอลโฮคงขอร้องให้กริดปรากฏตัวบนเวทีพิเศษ โดยมีรางวัลที่ล่อตาล่อใจมากกว่านักกีฬาทั่วไป”
“เวทีพิเศษที่เหนือกว่าผู้เล่นทั่วไป…”
“หน้าที่ของเราคือการค้นหาว่าเวทีดังกล่าวคือสิ่งใด ส่วนตัวผมคิดว่าอาจเป็นการแข่งโค่นวีรบุรุษ”
โค่นวีรบุรุษ—แชมป์ PVP จากปีก่อนหน้าจะถูกคัดลอกค่าสถานะ ทักษะ และไอเท็มสวมใส่ 100% โดยมีปัญญาประดิษฐ์สุดอัจฉริยะคอยขับเคลื่อนตัวละคร ผู้ที่มาท้าทายวีรบุรุษคือเหล่านักกีฬาจากแต่ละชาติที่อัปเกรดตัวเองขึ้นจากเดิมหนึ่งปีเต็ม (สามปีซาทิสฟาย)
ความสนุกตื่นเต้นของการแข่งคือ การได้เห็นพัฒนาการในหนึ่งปีของแรงเกอร์หัวแถวของโลกในอย่างชัดเจนโดยมีตัวเปรียบเทียบเป็น NPCจากปีที่แล้ว สิ่งนี้สามารถกระตุ้นอารมณ์ผู้ชมทางบ้านได้เป็นอย่างดี
“วีรบุรุษปีนี้คือกริด… ถ้าบุคคลที่ควบคุมไม่ใช่ปัญญาประดิษฐ์ แต่เป็นตัวกริดเองล่ะ”
วีรบุรุษในปีก่อนคือครอเกล แต่เรียกว่าครอเกลได้ไม่เต็มปากนัก เพราะจุดเด่นของครอเกลคือปฏิกิริยาตอบสนองระดับพระเจ้า ซึ่งแม้ปัญญาประดิษฐ์จะเลียนแบบฝีมือควบคุมที่ประณีตบรรจงไร้ที่ติ แต่ไม่มีทางเลียนแบบกลยุทธ์จากมันสมองอัจฉริยะได้แน่ ส่งผลให้วีรบุรุษในปีที่แล้วอ่อนแอลงจากผู้เล่นตัวจริงค่อนข้างมาก
กลับกัน วีรบุรุษในปีปัจจุบันคือกริด ซึ่งหลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าจะเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผู้เข้าแข่งทุกคน วีรบุรุษกริดย่อมแตกต่างจากวีรบุรุษครอเกลมาก กริดมิได้ครอบครองฝีมือควบคุมและกลยุทธ์ระดับอัจฉริยะ ในสายตาแรงเกอร์ระดับท็อป ฝีมือควบคุมกริดค่อนข้างดาษดื่นและหาพบได้ง่าย สิ่งนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้ชมทั่วโลกต่างต้องการเห็นกริดที่ถูกควบคุมโดยปัญญาประดิษฐ์
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตัวละครสุดโอเวอร์เกียร์ของกริดถูกขับเคลื่อนได้อย่างไร้ช่องโหว่ กริดจะทรงพลังมากเพียงใดหากเขามีพรสวรรค์ระดับใกล้เคียงกับครอเกล นี่คือคำถามที่ทุกคนเฝ้ารอและคาดหวัง
ทว่า ถ้าเกิดกริดสวมบทเป็นผู้ควบคุมเสียเอง แตกต่างจากที่ทุกคนหวังไว้ ท่าทีของผู้ชมและพิธีกรรอบสนามและรอบโลกจะเป็นเช่นไร
เพียงแค่คิด ลีกุกแรและคิมจางชิกพลันขนลุกซู่
พวกเขาจินตนาการสีหน้าของคนดูออก แม้ในช่วงต้น ผู้ชมอาจสงสัยว่าเหตุใดกริดถึงไม่แข็งแกร่งอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อสัมผัสได้ว่าผู้ควบคุมเป็นกริด แทนที่จะส่งเสียงโห่ คนเหล่านั้นจะส่งเสียงชื่นชมและทึ่งที่กริดสามารถสยบนักกีฬาแต่ละประเทศอย่างราบคาบ
ท่ามกลางความเงียบงัน กริดจะกล่าวต่อหน้าทุกคนว่า…
“ฉันคือกริด…”
แม้จะผ่านมาแล้วหนึ่งปี แต่ก็ไม่มีใครสามารถโค่นเขาได้เช่นเดิม ตัวละคร ‘กริด’ จากหนึ่งปีก่อนยังคงกำราบแรงเกอร์ระดับท็อปจนศิโรราบ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์แม้แต่น้อย
ถ้อยคำที่แฝงด้วยความยั่วยุและโอหังของกริดจะกังวานไปทั่วสนามแข่ง
“และนั่นจะกลายเป็นข่าวด่วนที่ร้อนแรงไปทั่วโลก”
“ใช่ไหมล่ะ กริดคือเครื่องมือสำหรับกระตุ้นฝูงชนชั้นเลิศ ผมจินตนาการถึงงานแข่งนานาชาติที่ปราศจากกริดไม่ออกเลย สิ่งที่พวกเราต้องโฟกัสในงานแข่งปีนี้ไม่ใช่ผู้เล่น แต่เป็นศัตรูของผู้เล่น ต้องคอยจับตามองให้ดี แล้วเราจะได้พบตัวตนกริดก่อนใคร”
นี่คือการเสี่ยงดวง แต่เป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าแก่การลอง ลีกุกแรยังคงจำรายงานที่ถูกส่งมาถึงตนเมื่อวานได้ดี เป็นรายงานเกี่ยวกับอันดับแรงเกอร์ของโลกที่มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย
เล็กน้อยที่ว่าก็คือ—อันดับของกริดที่ตกลงไปเกือบหลักร้อย ยามนี้เริ่มขยับไต่ขึ้นมาทีละนิดอย่างเงียบงัน
‘สาเหตุที่เขาเริ่มเก็บเลเวลอีกครั้งคงเป็นเพราะ กริดต้องการลับฝีมือควบคุมให้เฉียบแหลมยิ่งขึ้นก่อนงานแข่งนานาชาติ… เขาหวังจะทำให้งานแข่งนานาชาติครั้งที่สี่ลุกเป็นไฟ’
เป็นอีกครั้งที่ตัวตนของกริดจะสร้างความฮือฮาแก่โลกนี้ กริดทำตัวสมกับเป็นดาราดังโดยกำเนิด ผู้อำนวยการลีกุกแรมิอาจข่มหัวใจที่กำลังเต้นโครมครามให้สงบลงได้
***
[เลเวลของทีราเม็ทเพิ่มขึ้น]
[เลเวลของแรนดี้เพิ่มขึ้น]
[เลเวลของโนเอะเพิ่มขึ้น]
[เลเวลของโนเอะเพิ่มขึ้น]
[เลเวลของหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองเพิ่มขึ้น]
[เลเวลของหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองเพิ่มขึ้น]
“ช่างแม่งฝีมือควบคุมสิ! เกมนี้มันต้องพลังแห่งสัตว์เลี้ยงเฟ่ย!”
ขณะเก็บเลเวล กริดแบ่งค่าประสบการณ์ให้สัตว์เลี้ยงอย่างเท่าเทียม แต่ชายหนุ่มก็มิได้นึกเสียใจ สาเหตุเพราะสัตว์เลี้ยงช่วยให้เขาเก็บเลเวลได้รวดเร็วและสบายกว่าปรกติมาก วิหารกัลกุนอสที่เคยตึงเครียดเมื่อสี่วันก่อน ยามนี้สุขสบายไม่ต่างจากการเดินเล่นในบ้านตัวเอง
แต่ถึงอย่างนั้น ตัวตนที่น่าหวั่นเกรงอย่าง ‘บอสรอง’ ก็ยังเป็นปัญหา
“…เรายังลงไปชั้นล่างไม่ไหวสินะ”
วิหารกัลกุนอสถือเป็นวงกตที่ซับซ้อน ตลอดทางเดือนภายในดันเจี้ยน กริดได้พบกับ ‘บันไดวน’ เป็นระยะ มันคือบันไดที่จะนำพาลงไปสู่ชั้นล่าง
ว่ากันว่า ‘บอสรอง’ จะปรากฏตัวทุกครั้งที่ผู้บุกรุกเดินเข้าใกล้บันได นั่นคือจุดที่ยากของวงกตแห่งนี้ กริดเดาได้ไม่ยากเลยว่า ความหฤโหดของดันเจี้ยนชั้นล่างคงไม่ต่างจากขุมนรกสักเท่าใด
โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์เริ่มส่งเสียง ‘แกร่ก’ เมื่อเห็นกริดยืนครุ่นคิดด้วยสีหน้าหวาดหวั่น พวกมันกำลังหัวเราะเยาะกริดราวกับเขาเป็นไอ้ขี้ขลาด โนเอะจัดการตบกะโหลกโครงกระดูกด้วยอุ้งเท้าหน้าพลางหันมากล่าวกับกริด
“ในวินาทีที่เจ้านายลงไปด้านล่าง โครงกระดูกบัดซบพวกนี้จะกลายเป็นศัตรูทันที”
“โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์จะกลายเป็นศัตรูกับฉันงั้นหรือ”
“ใช่แล้ว เหมียว… ชั้นล่างมีกลิ่นชวนอาเจียนลอยโชยขึ้นมา เป็นกลิ่นของลิชไม่ผิดแน่ โครงกระดูกไม่สามารถขัดคำสั่งของลิชได้ พวกมันจะกลายเป็นทาสของลิชทันที”
“หืม…”
กริดทราบดีอยู่แล้วว่ากัลกุนอสเป็นลิช แต่ด้วยทักษะหักกระดูกของโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ กริดเชื่อมาตลอดว่าโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์จะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารลิชได้ในสักวัน… ทว่า กลับกลายเป็น เจ้าพวกนี้แพ้ทางลิชหรอกหรือ
“หมายความว่า ฉันไม่สามารถใช้มันสู้กับแอ็กนัสในร่างลิชด้วยสินะ… ฮ…เฮ้ย!”
กริดรีบกระโดดถอยถอยหลังอย่างลนลาน
สาเหตุเพราะ ‘บอสรอง’ ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดฝัน มีดสั้นลึกลับถูกขว้างปักใส่พื้นในจุดที่กริดยืนอยู่เมื่อครู่
‘แถวนี้ก็ไม่ใกล้บันไดนี่นา…’
บอสรองขยายเขตปรากฏตัวงั้นหรือ… กริดเริ่มสัมผัสถึงลางร้าย เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียด ชื่อเหนือศีรษะของบอสรองเขียนไว้ว่า ‘สาวกเทพสงคราม·ผู้หลบหนีจากหลุมศพ’
มันเองก็กำลังจ้องมองมายังกริด สาวกเทพสงครามคืออันเดดที่กริดยังไม่เคยเผชิญหน้ามาก่อน
ความแข็งแกร่งของมันน่าทึ่งมาก มอนสเตอร์ชนิดนี้รวดเร็วเกินกว่าจะเป็นอันเดด สาวกเทพสงครามว่องไวราวกับอัศวินไร้หัว ‘ดุลลาฮาน’ ในตำนาน แตกต่างตรงที่ศีรษะของสาวกเทพสงครามยังคงแนบชิดกับลำคอ
[ท่านได้รับความเสียหาย 8,940 หน่วย]
กริดส่งเสียงครางหลังจากถูกดาบเคลือบสนิมแทงใส่ ทีราเม็ทและแรนดี้พยายามกรูเข้ามาช่วยกีดกันสาวกเทพสงครามให้ออกไปจากกริด
“…ภูเขา… ยุทธภัณฑ์… อยู่ที่ไหน…”
“ใครจะไปรู้ฟะ! ไอ้บ้าเอ้ย!”
กริดกวัดแกว่งดาบอัสนีฯ ในมือสวนกลับ สายฟ้าสีชาดฟาดผ่าใส่ร่างสาวกเทพสงครามอย่างจัง
สาวกเทพสงครามถูกสายฟ้าฟาดจนชะงักเล็กน้อย แต่มันมีค่าต้านทานสูงจนอาการผิดปรกติแทบไม่แสดงผล จากนั้นก็เริ่มแทงใส่ทีราเม็ทและแรนดี้ด้วยดาบเก่าขึ้นสนิม ทีราเม็ทสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ ส่วนแรนดี้โชคดีที่ใช้วังวนสวนกลับทัน
กริดไม่ทางปล่อยผ่านโอกาสทอง ทักษะการควบคุมของเขาอยู่ระดับเดียวกับแรงเกอร์หัวแถว วิชาดาบแพ็กม่าถูกปลดปล่อยใส่สาวกเทพสงครามอย่างแม่นยำ
ทว่า…
“…ภูเขา… ยุทธภัณฑ์… อยู่ที่ไหน…”
ร่างอันเดดของสาวกเทพสงครามย่อมปราศจากความเจ็บปวด มันเอาแต่พูดเรื่องเดิมซ้ำไปมา ไม่มีภาวะหวาดหวั่นจากการถูกโจมตีอย่างรุนแรงเลยสักนิด สาวกเทพสงครามตอบโต้กริดอย่างฉับพลันในพริบตา สิ่งนี้มิใช่ปฏิกิริยาตอบสนอง หากแต่เป็นทักษะที่ติดตัวมันมาตั้งแต่กำเนิด
ทุกครั้งที่ถูกโจมตี สาวกเทพสงครามจะสวนกลับความเสียหายใส่ผู้โจมตีได้ทุกครั้งอย่างไร้เงื่อนไข เป็นความขี้โกงที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีในซาทิสฟาย สำหรับคลาสระยะประชิดทุกคน สาวกเทพสงครามถือเป็นมอนสเตอร์บอสแพ้ทางที่ยากรับมือ
‘สวนกลับในพริบตาที่ถูกโจมตี… แถมยังเป็นบอสที่มีพลังชีวิตหลักล้าน แบบนี้ใครจะไปดวลหนึ่งต่อหนึ่งไหว’
แต่ในปัจจุบัน กริดไม่ได้ดวลแบบหนึ่งต่อเนื่อง เป็นการสู้แบบห้าต่อหนึ่ง ไม่สิ หากระบุให้ชัดคือเจ็ดต่อหนึ่ง
แน่นอนว่ากริดอยู่ฝั่งเจ็ด การโจมตีสวนกลับจากสาวกเทพสงครามถูกใบดาบท้าทายเทพปัดป้องไว้ ส่วนกริดกำลังเริ่มรำดาบในทักษะถัดไป
ขณะเดียวกันก็ตะโกนสั่งภูตแสง
“แสงจ้า!”
เมื่อสิ้นเสียง ภูตแสงทำการส่องสว่างจนสาวกเทพสงครามตกอยู่ในอาการตาบอด 0.3 วินาที แน่นอนว่า นี่คือการขัดจังหวะในช่วงเวลาสมบูรณ์แบบ
“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร”
กริดที่เข้าสู่โหมดร่างมืดพร้อมด้วยโทสะช่างตีเหล็ก เขาทำการปลดปล่อยเทคนิคดาบสุดทรงพลังในระยะประชิด ส่วนสาวกเทพสงครามทำได้เพียงกวัดแกว่งดาบขึ้นสนิมอย่างมั่วซั่วไร้จุดหมาย
เทพธิดาแห่งโชคส่งรอยยิ้มให้กริด
“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร!”
ด้วยบัญชาแห่งเทพ กริดสามารถใช้ทักษะท่าไม้ตายได้สองครั้งซ้อน ส่งให้สาวกเทพสงครามกรีดร้องโหยหวนและกลายเป็นละอองขี้เถ้าในพริบตา
[เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ]
[ท่านได้รับไอเท็ม ‘ชิ้นส่วนยุทธ์ภัณฑ์วิญญาณ’]
[ท่านได้รับไอเท็ม ‘เศษแผนที่สุสานดาบ (6) ’]
ค่าประสบการณ์จำนวนมากคือสิ่งที่กริดคาดหวัง เพราะนี่คือจุดเก็บเลเวลที่ลอเอลใช้เงินและเวลาจำนวนมากค้นหา ทว่า สิ่งที่กริดไม่คาดฝันคือโบนัส
สุสานดาบ—สถานที่ซึ่งแพ็กม่าใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต และยังเป็นจุดที่ว่ากันว่า ร่างของบราฮัมถูกฝังไว้ที่นั่น
“จะใช่ภูเขายุทธภัณฑ์ที่สาวกเทพสงครามหมายถึงรึเปล่า…”
กริดครุ่นคิดพลางลูบไล้ปลายนิ้วลงบทแผนชิ้นส่วนแผนที่ เหตุใดสาวกเทพสงครามถึงถามทางสุสานดาบทั้งที่มันตายไปแล้ว…
ทว่า คำถามเหล่านี้ กริดไม่จำเป็นต้องคิดให้เปลืองสมอง สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวคือ…
“ถ้าเรารวบรวมแผนที่ครบ…”
บราฮัม—นามของบุคคลสำคัญในชีวิตที่กริดไม่มีวันลืมลง
ความปรารถนาจะรวบรวมชิ้นส่วนแผนที่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,323
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ขอให้ได้บราฮัมกับมาอยู่กับกริดอีก อย่าให้วิญญาณแตกสลายเลย
ReplyDeleteถ้าสูญเสียบราฮัมไปอีกกริดคงไม่มีแรงเหลือที่จะเล่นต่อแน่ๆ
Deleteคิดถึงบราฮัม
ReplyDeleteไบ้นิดนึงยังได้สิงเหมือนเดิมแต่อ่อนแรงมากแล้ว
ReplyDelete