จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 936



แรงเกอร์ส่วนใหญ่ไม่คิดว่าตัวเองด้อยกว่าผู้ที่มีอันดับสูงกว่า พวกเขามั่นใจในฝีมือและพรสวรรค์ ช่องว่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะแต่ละคนมีโชคชะตานำพาแตกต่างกัน ระยะห่างของแรงเกอร์แต่ละอันดับ เรียกได้ว่าบางเฉียบยิ่งกว่าแผ่นกระดาษ ขอเพียงการฝึกฝนและโชคอีกเล็กน้อย พวกเขาจะไล่ตามคนอันดับด้านบนทันได้ไม่ยาก


ความเชื่อเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะแต่ละคนมีความทระนงในฝีมืออย่างแรงกล้า


จนกระทั่งปีที่แล้ว แรงเกอร์ทั่วโลกถูกสั่นคลอนความเชื่อจากการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาด พวกเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงความต่างชั้นของตัวเองกับ ‘อัจฉริยะที่แท้จริง’


ฟ้าเหนือฟ้า—ครอเกล แสดงฝีมือควบคุมที่มนุษย์ไม่น่าจะป้อนคำสั่งลงในเกมได้ แถมยังแสดงทักษะดาบที่สามารถผ่าโลกออกเป็นสองซีก


ราชาโอเวอร์เกียร์—กริด บุคคลที่เคยถูกปรามาสว่าเป็นแค่ไอ้งั่งดวงดี แต่กลับมีพัฒนาการสูงกว่าใครทั้งหมด


แรงเกอร์ส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนความคิดใหม่ พวกเขาไม่กล้าเอาตัวเองไปเทียบชั้นสัตว์ประหลาดอีกแล้ว


“ฉันเคยคิดจะไม่ลงแข่ง PVP อีกแล้ว”


เจ้าของถ้อยคำคือบุรุษที่ครอบครองฉายา ‘ยัคผู้มาพร้อมชัยชนะ’


บูบัตลงแข่ง PVP นานาชาติทุกปี และพ่ายแพ้อย่างหมดท่าในทุกปีเช่นกัน เขาแพ้ทุกรายการที่ลงแข่งพบกริด และในปีนี้ บูบัตได้เป็นนักกีฬาตัวแทนทีมชาติตุรกีอีกครั้ง เขาประกาศกับทุกคนว่าจะลงแข่ง PVP เช่นเดิม


“ในเมื่อไม่มีกริดแล้ว… ก็ไม่มีเหตุผลให้ฉันต้องถอนตัวอีก เหรียญทองต้องตกเป็นของฉันคนนี้แน่นอน”


สมาชิกกิลด์ยัครีบขัดคอ


“ทำไมนายถึงยึดติดกับ PVP นัก”


“นั่นสิ เดี๋ยวก็ได้ตกรอบ 16 คนสุดท้ายอีกหรอก”


“รอบ 16 คนเลยหรือ ถ้าต้องสู้กับครอเกลรอบคัดตัว ก็คงได้ตกรอบคัดตัวอยู่ดี คิคิ!”


หากไม่มีกริด บูบัตจะเป็นอันดับหนึ่งของ PVP ได้เชียวหรือ ช่างน่าขัน สมาชิกกิลด์ยัคทราบถึงความแข็งแกร่งของบูบัตก็จริง เพียงแต่เวที PVP ไม่ใช่สถานที่ง่ายดายขนาดนั้น มันคือศึกแห่งศักดิ์ศรีของแรงเกอร์เปิดเผยตัวตนทั่วโลก มีทั้งครอเกล ซิวรอน เรกัส และสัตว์ประหลาดอีกมากมายที่ถนัดในการดวล


สมาชิกกิลด์ยัคต่างไม่เห็นด้วยกับบูบัต ที่กล่าวว่า การแข่ง PVP จะง่ายขึ้นเมื่อกริดไม่ลงแข่ง


“ปีที่แล้วคุณยังแพ้จางเฉินอยู่เลย… ผมไม่เถียงเรื่องที่คุณแข็งแกร่งมากในประเภททีม แต่การแข่ง PVP เป็นรายการเดี่ยว กัปตันคงเสียเปรียบไปสักหน่อย…”


คลาสจอมบดขยี้ของบูบัตโดดเด่นในด้านพลังป้องกันและการสร้าง CC โดยเฉพาะสองทักษะใหม่ที่ได้รับหลังจากเลเวล 360 พวกมันมีเอฟเฟค ‘มองข้ามค่าต้านทาน’ ซึ่งนับเป็นทักษะที่หวังผลพึ่งพาได้ 100% แต่การมี CC ที่มากมายแล้วอย่างไร หากปราศจากพลังโจมตีไปก็เท่านั้น บูบัตไม่สามารถปิดบัญชีคู่ต่อสู้ได้


เวที PVP คือสิ่งที่ยากสำหรับบูบัตเสมอ แต่เขากลับฮึกเหิมอย่างน่าประหลาด สาเหตุเป็นเพราะแฟนชาวตุรกีตัวยงคนหนึ่ง เขามอบไอเท็มแสนล้ำค่าให้บูบัตสวมใส่ลงแข่ง


[ถุงมือสยบฟ้าดินของอาร์ทีน่า]


สิ่งนี้คือไอเท็มเกรดเลเจนดารี เป็นสุดยอดไอเท็มที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้แก่ผู้สวมจำนวนหนึ่ง โดยพลังโจมตีจะถูกเพิ่มแปรผันตามค่าพลังป้องกัน แฟนตัวยงคนนี้หวังให้บูบัตนำพาชื่อเสียงและความสำเร็จแก่ประเทศตุรกี


“ฮุฮุ พวกนายรอชมได้เลย ปีนี้จะต้องต่างออกไปแน่”


ครอเกลไม่ใช่ตัวตนเกินเอื้อมอีกแล้ว กริดได้พิสูจน์ให้เห็นในปีก่อน บูบัตมั่นใจกับกลยุทธ์ที่เตรียมมาเพื่อรับมือครอเกลโดยเฉพาะ แม้โอกาสชนะอาจต่ำมาก แต่ครอเกลก็ไม่ใช่ตัวตนไร้พ่ายที่โอกาสแพ้เป็น 0% อีกต่อไป


ไม่เฉพาะบูบัตเท่านั้น แต่แรงเกอร์ที่เคยสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ลงแข่ง PVP เพราะกริด พวกเขาเริ่มมองเห็นโอกาสและความหวังครั้งใหม่ ทันทีที่กริดประกาศถอนตัวจากการแข่ง แรงเกอร์เหล่านั้นได้ตัดสินใจกลับมาลงแข่ง PVP ตามเดิม


เป็นดังคาด มีคำประกาศอย่างเป็นทางการจากแรงเกอร์หลายคนทั่วโลก ว่าพวกเขาตัดสินใจลงแข่งรายการ PVP ในปีนี้ ราวกับประกาศให้ครอเกลได้รับรู้ว่า ‘ฉันไม่กลัวนายเลยสักนิด’


แน่นอนว่า สื่อทั่วโลกรีบตามหาตัวครอเกลเพื่อขอสัมภาษณ์โต้ตอบ


“คุณครอเกลคะ มีแรงเกอร์จำนวนมากที่ประกาศว่าจะเอาชนะคุณ คิดกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ”


“พวกเขาจะมีสิทธิ์คิดแบบนั้นได้… ก็ต่อเมื่ออยู่ระดับเดียวกับกริดเท่านั้น”


แสงแฟลชจากกล้องหลายสิบตัวกำลังรัวยิงไม่หยุด บรรดานักข่าวต่างพากันทึ่งหลังจากได้ยินคำตอบจากครอเกล


ถ้าไม่เก่งเท่ากริด… อย่าได้มั่นใจตัวเองเกินไปนัก


—ฉันจะไม่แพ้ใครนอกจากกริด—


ถ้อยคำครอเกลแฝงความหมายเหล่านี้ไว้ เป็นคำตอบที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจและการยั่วยุเสียเต็มประดา


นักข่าวเริ่มตั้งคำถามใหม่ เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกต่างกำลังให้ความสนใจ


“มีข่าวลือมาว่า สาเหตุที่กริดถอนตัวจากการแข่งนานาชาติในปีนี้ เป็นเพราะเขาปอดแหกและไม่กล้าลงแข่ง… เกี่ยวกับการหายไปของกริด คุณมีความเห็นอย่างไรบ้าง”


กริดปอดแหกและถอนตัว เพราะไม่ต้องการสูญเสียฉายาอันดับหนึ่งของโลกไป สิ่งเหล่านี้คือถ้อยคำที่ใครหลายคนใช้ตราหน้ากริดตลอดหลายวันที่ผ่านมา


ครอเกลจะคิดเช่นไรบ้าง… เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยพลางหันไปตอบนักข่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ


“ไม่ใช่ปอดแหก… แต่เป็นความเมตตา”


“เมตตา…!”


นักข่าวบางส่วนไม่เข้าใจ พวกเขาทำได้เพียงเอียงคอสงสัย แต่ก็มีนักข่าวไหวพริบดีบางคนที่กระจ่างแจ้ง พวกเขารีบก้มหน้าจดคำสัมภาษณ์สำหรับเขียนบทความ


ครอเกลยืนมองความสับสนและวุ่นวายอย่างเงียบงันโดยไม่ปริปากเพิ่ม มีหนึ่งคำถามที่กำลังค้างคาในใจเขามาสักพักแล้ว


‘กริด…’


ครอเกลเป็นเพียงไม่กี่คนบนโลกที่ทราบว่า กริดกำลังต้องการเพชรอีเธอร์ และในยุคสมัยปัจจุบัน การครอบครองเพชรอีเธอร์มีเพียงหนทางเดียว คือการลงแข่งซาทิสฟายนานาชาติและได้รับเหรียญทอง ครอเกลเริ่มเอะใจว่า ข่าวที่กริดประกาศถอนตัวไม่ลงแข่งนานาชาติ อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็เป็นได้


‘นายคือราชาอสูรใช่ไหม…’


***


‘ยากกว่าที่คิดแฮะ’


มีเจ็ดสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาในงานแข่งนานาชาติครั้งที่สี่ หนึ่งในนั้นคือการแข่งตะลุมบอนราชาอสูร หลังจากอ่านรายละเอียดและกฎของตะลุมบอนราชาอสูรจบ กริดเกิดความรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย


ปราสาทราชาอสูรจะมีประตูสี่ทิศ เหนือ ใต้ ออก และตก แต่ละทิศถูกปกป้องโดยสี่ราชันสวรรค์


ผู้เล่นกว่าสี่ร้อยต้องแยกกันเป็นกลุ่มละ 120 คนเพื่อพังประตูในแต่ละทิศ ระหว่างนี้ ราชาอสูรจะนั่ง ‘รอ’ ในภายในปราสาท ทุกสิบนาทีที่ผ่านไปในช่วง ‘รอ’ ราชาอสูรจะได้รับโบนัสค่าพลังชีวิตสูงสุด 200,000 หน่วย ช่วง ‘รอ’ จะจบลงเมื่อประตูทั้งสี่ทิศถูกทำลาย


สิ่งที่กริดมองว่าแปลก คือการที่ตนจะได้รับพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 200,000 หน่วยในทุกสิบนาที


เขาจะได้รับพลังชีวิตเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยงั้นหรือ…


‘สองแสน… ไม่มากไปหน่อยรึไง’


พลังป้องกันและค่าต้านทานเวทของกริด สองสิ่งนี้อยู่เหนือระดับ ‘ผู้เล่น’ ไปไกลมากแล้ว กริดจะไม่ได้รับความเสียหายรุนแรงนอกจากจะเป็นการโจมตีประเภทแปรผันตามพลังชีวิตหรือพลังป้องกัน เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ทาง SA กรุปยังเพิ่มพลังชีวิตให้ตนสองแสนหน่วยในทุกสิบนาทีอีกหรือ…


‘ประตูสี่ทิศที่มีราชันสวรรค์คอยเฝ้าปกป้อง พวกมันคงฟังลงไม่ง่ายแน่’


ในงานแข่งตะลุมบอนราชาอสูรที่กำลังจะมาถึง กริดอาจได้รับโบนัสพลังชีวิตมากถึงหลักล้านหน่วย และนั่นก็เป็นสาเหตุที่เขากำลังกังวลใจ ทาง SA กรุปใส่ระบบนี้เข้ามาทั้งที่ทราบระดับความแข็งแกร่งของตนอยู่ก่อนแล้ว


‘หรือค่าเฉลี่ยของนักกีฬาเข้าแข่ง จะสูงกว่าที่เราคิดไว้มาก…’


กริดเตรียมใจเผชิญหน้าการต่อสู้ที่ยากลำบากไว้แล้ว แต่มันอาจยากกว่าที่คำนวณไปอีกขั้น


กระนั้น กริดก็ยังรู้สึกโล่งใจบางส่วน เพราะน้องสาวของตน ชินเซฮี ไม่ได้เข้าร่วมแข่งนานาชาติในปีนี้ ชายหนุ่มพยายามสลัดความคิดสุดสยองออกจากหัว ความคิดที่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีกฟากฝั่งกำแพงมีนักบุญหญิงเซฮีคอยเป็นศัตรูกับตน


แต่มีหนึ่งสิ่งที่กริดไม่มีวันทราบ…


เดิมที ทาง SA กรุปมีแผนจะเพิ่มพลังชีวิตราชาอสูร 500,000 หน่วยต่อสิบนาที แต่กริดแข็งแกร่งขนาดที่ทางทีมงานต้องลดเหลือเพียง 200,000 หน่วย


สาเหตุที่ต้องลดปริมาณพลังชีวิตของราชาอสูรลงมากเกินกว่าครึ่ง… คงมีเพียงทาง SA กรุปเท่านั้นที่ทราบ


“ว่าแต่ เรามาเดินถูกถนนรึเปล่า”


กริดหยุดเดินพลางกางแผนที่ออก มันคือแผนที่สุสานดาบ


“ไม่น่าจะผิดนะ…”


แม้กริดจะเป็นไอ้งั่ง แต่เขาไม่ใช่นักหลงทางมืออาชีพ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เขามีสัญชาตญาณด้านทิศทางที่ดีมาก ไม่อย่างนั้น คงไม่มีวันหาถ้ำสุดเขตแดนเหนือพบและได้ครอบครองหนังสือหายากของแพ็กม่า


กริดไม่ได้อ่านแผนที่พลาด เขากำลังเดินบนถนนเส้นที่ถูกต้อง เพียงแต่ถนนเส้นนี้กลับมีบางสิ่งประหลาด ทางเดินขาดหายไปกลางคันอย่างน่าฉงน


“หมายความว่ายังไง…”


กริดหยุดเดินเมื่อด้านหน้าเป็นผาที่ลึกและชันมาก ผาแห่งนี้ไม่ถูกเครื่องหมายกำกับไว้บนแผนที่ เบื้องหน้ากริดควรจะมีเพียงถนนตามปรกติ


‘หรือแผนที่จะเป็นของเก๊…’


การดิ้นรนในวิหารกัลกุนอสอย่างยากลำบากของตนกลายเป็นสิ่งสูญเปล่างั้นหรือ


ขณะชายหนุ่มกำลังเย็นสันหลังวาบ…


ผาชันเบื้องหน้ากริดพลันสั่นครืนพร้อมกับแยกตัวออกจากกัน รอยร้าวเริ่มขยายขนาดขึ้นทุกขณะ จนท้ายที่สุด ผาหินได้แยกตัวเป็นสองซีกอย่างเรียบเนียน ราวกับนี่คือรูปทรงที่แท้จริงของมันตั้งแต่ต้น


จุดกึ่งกลางรอยแยกถือกำเนิดเป็นทางเดินใหม่ กริดรีบเดินลงไปด้านล่างโดยไม่รีรอ เพราะภาพที่เขากำลังเห็น มันตรงกับลักษณะภูมิประเทศของแผนที่ในมือทุกประการ


***


“อ๊ะ…!”


“บ้าจริง!”


เสียงตัดพ้อและเสียงสบถดังระงมไปทั่วบริเวณ เหตุเกิดจากขณะสกังค์พยายามหาคำตอบของดาบเล่มที่ 594 เขาหมุนไปทางซ้ายสามครั้งและทางขวาสี่ครั้ง ส่งผลให้เนินเขายุบตัวลงกลายเป็นทุ่งโล่งอีกครั้ง


ดาบเล่มที่ 594 คือปัญหาสำหรับคณะสำรวจอย่างแท้จริง ปริศนาที่แฝงในดาบเล่มนี้ยากกว่าที่คาดไว้ มันสามารถหมุนไปทางซ้ายและขวาได้ทั้งหมด 27 ครั้ง สกังค์มีหน้าที่ต้องค้นหาว่า รูปแบบใดของดาบคือ ‘กุญแจ’ ที่ถูกต้อง


“เราล้มเหลว 28 ครั้งแล้ว หากต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น คงใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะกลับมาถึงจุดเดิม”


“ขวัญกำลังใจทุกคนกำลังย่ำแย่ ฉันว่าวันนี้พอก่อนเถอะ”


ลูกน้องคนหนึ่งหันมากล่าวกับสกังค์ที่กำลังขมวดคิ้ว


สกังค์ตอบกลับเสียงห้วน


“พวกเราเหลือดาบอีกแค่ห้าเล่ม ประตูทางเข้าสุสานดาบอยู่แค่เอื้อมแล้ว”


“ฉันเข้าใจความรู้สึกนาย แต่เราต้องรีบร้อนขนาดนั้นเชียวหรือ… พวกเราอยู่ที่นี่มาหลายเดือน อยู่ต่ออีกสองสามวันจะเป็นไรไป ทุกอย่างอาจพังลงได้ถ้านายรีบร้อนเกินเหตุ”


ด็อก·วูเม่นพยายามสงบสติสกังค์


สกังค์ฝืนสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกับพยักหน้า


“นั่นสินะ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน…”


คณะสำรวจของสกังค์อาศัยอยู่ที่นี่นานกว่าห้าเดือนแล้ว ไม่มีผู้เล่นแม้แต่คนเดียวปรากฏตัว และหากคำนึงว่าทีมของสกังค์ใช้เวลานานเกือบปีในการค้นหาสุสานดาบให้พบ คงไม่มีคนแปลกหน้าหลงเข้ามาและเปิดประตูทางเข้าสุสานได้ทันทีแน่


การรอต่อไปอีกสักนิดไม่ใช่เรื่องเสียหาย


สกังค์พยายามข่มความใครรู้ เขาหันไปกล่าวกับลูกน้องทุกคน


“คงเหนื่อยกันแล้วสินะ วันนี้พอก่อนก็แล้วกัน หลับฝันดีทุกคน ไว้เจอกันพรุ่งนี้”


“ขอบคุณสำหรับวันนี้”


"ขอบคุณสำหรับวันนี้"


ฟู่ว… จบไปอีกหนึ่งวัน หลังจากได้ยินคำสั่งของสกังค์ เหล่านักสำรวจต่างแสดงสีหน้าโล่งใจพร้อมกับเปิดหน้าต่างตัวละครเตรียมล็อกเอาต์ พวกเขากำลังจะออกไปพักผ่อนร่างกายและจิตใจ


แต่กลับมีบางสิ่งที่ขัดขวางการพักไว้


“…!!”


ท่ามกลางท้องฟ้าเหนือสุสานดาบ ดาวดวงหนึ่งที่ไม่เคยขยับเขยื้อนมาก่อน บัดนี้กลับกำลังส่องแสงสีฟ้าครามอย่างงดงาม


“ทำไมดวงดาวถึง…”


แน่นอน ทุกคนทราบว่านี่ไม่ใช่ดวงดาว เพราะจุดแสงสีฟ้าลอยใกล้เกินกว่าจะเป็นดาว แถมมันยังส่องแสงตอนกลางวันแสกอย่างผิดธรรมชาติ แต่ด้วยความที่มันงดงามเหมือนดวงดาวยามค่ำคืน และอยู่ในระยะที่มิอาจคว้าได้ด้วยมือ จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะเรียกมันว่าดวงดาว


“ทุกคนประจำที่!”


สกังค์ออกคำสั่งกับลูกน้อง คนเหล่านี้กำลังเหม่อลอย ปรากฏการณ์เบื้องหน้าไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้งตลอดห้าเดือนที่ผ่านมา


สัญชาตญาณนักสำรวจกำลังร้องเตือนบางสิ่งแก่สกังค์ ในวินาทีนี้ สุสานดาบกำลังจะเข้าสู่ความท้าทายรูปแบบใหม่


‘เกิดอะไรขึ้น… บ…บ้าน่า!’


สกังค์พลันกลืนน้ำลายอึกใหญ่


“เฮ่อ… ถึงสักที”


แขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัว


เมื่อเห็นใบหน้าผู้มาเยือนเต็มสองตา สกังค์และลูกน้องต่างพากันหน้าถอดสี


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,329

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/



Comments

  1. พระเอกมาเปิดงานแล้ว😂😂

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไม่แน่ อาจจะเป็นแอ็กนัสก็ได้เพราะเขาหาสุสารดาบมาตั้งแต่ก่ินที่กริดจะเป็นราชาอีก

      Delete
    2. น่าจะไม่ใช้แอ็กนัส เพราะดูจากประโยคที่อ่าน ..."เฮ่อ ถึงสักที" ถ้าเป็นแอ็กนัสจริงคำนี้จะแต่ต่างออกไป

      Delete
    3. แอ๊กนัสมันเคยมาแล้ว จะมาพูดคำนั้นทำไม ?

      Delete
    4. ถ้าเป็นแอ็กนัสมันต้องพูดว่า"ฮิฮิก เจอจนได้"

      Delete
  2. แต่แอ็กนัสตาเป็นสีทอง

    ReplyDelete
  3. ทีมสกังค์จะเป็นอย่างไร
    เวลาที่เสียไปละ
    กริดจะ​ OP ขึ้นอีกแล้วใช่ใหม
    ค้างงง

    ReplyDelete
    Replies
    1. ฉากดราม่าคับ ระหว่างกริดกับบราฮัม

      Delete
    2. ผมนี้รออ่านเลย😁

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00