จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 711
“ตามศัตรูไป! อย่าให้มีชีวิตรอดกลับไปแม้แต่คนเดียว! ห้ามปราณีเด็ดขาด! จงประทับความหวาดกลัวลงในใจทหารกองทัพจักรวรรดิซะ!”
หลังจากบราฮัมและมูมัดแปรเปลี่ยนส่วนหนึ่งของป่าลิเบรอนให้กลายเป็นซากกองขี้เถ้า
กลุ่มอัศวินสีชาดและทัพจักรวรรดิต่างรีบถอนทัพโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง
ให้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อสร้างความเสียหายแก่วัลฮัลล่าให้มากที่สุดงั้นหรือ?
ลืมไปได้เลย...
ตราบใดที่ยังมีผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายคอยเป็นอุปสวรรค์ขัดขวาง สิ่งนั้นไม่มีวันสำเร็จแน่นอน
หลังจากอัศวินลำดับสามจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ ไม่มีบุคคลใดสามารถรับมือกับผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายได้อีก
ปีศาจที่ขับไล่ได้แม้กระทั่งหนึ่งในห้าเสาหลักอย่างไคล์
“อ๊ากกก!”
“อั่ก!”
กองทัพจักรวรรดิต่างต้องการหนีให้พ้นจากขุมนรกตรงหน้าโดยเร็ว
แต่น่าเสียดาย ความเร็วในการล่าถอยของพวกมันอยู่ในระดับเชื่องช้า
ด้วยภูมิประเทศที่ซับซ้อนและสภาพอาการร้อนอบอ้าว กองทัพจักรวรรดิไม่มีทางถอยทัพได้ในสปีดที่พวกมันต้องการ
แต่กลับกัน ทัพของวัลฮัลล่าที่ใช้ป่าแห่งนี้เป็นสนามฝึกรบมาตลอด พวกเขาล้วนคล่องแคล่วชำนาญเป็นพิเศษ
ฉึก!
ฉัวะ! ฉึก! ฉึก!
ฉากตรงหน้าสุดแสนสลดหดหู่
ทหารวัลฮัลล่าไล่ตามสังหารอย่างโหดเหี้ยมป่าเถื่อน
แม้จะร้องขอชีวิต แต่ก็ไม่มีใครได้รับการละเว้น อาเรสปฏิเสธการยกธงขาวยอมแพ้ทุกรูปแบบ
นี่คือคำเตือนที่ฝากไปถึงองค์จักรพรรดิ
อย่าได้ริอ่านแตะต้องวัลฮัลล่าเป็นหนที่สอง
“ไอ้พวกระยำ!”
อัศวินลำดับห้า ‘ดิอา’
มันขบกรามแน่นเมื่อได้เห็นทหารจักรวรรดิสิ้นชีพคนแล้วคนเล่า
มันจงเกลียดจงชังวัลฮัลล่าเข้ากระดูกดำ เป็นแค่อาณาจักรเล็ก แต่กลับบังอาจต่อด้านจักรวรรดิผู้ยิ่งใหญ่
กระนั้น ดิอาก็มิได้ขยับตัวเข้าไปช่วยเหล่าทหารเลวแต่อย่างใด
ปัจจุบัน มันคอยเฝ้าระวังความปลอดภัยของอัศวินสีชาดที่มีความสำคัญสูงกว่า มิใช่ทหารเลวที่สามารถจัดหาทดแทนได้ทุกเมื่อ
‘การศึกที่ปราศจากเมอร์เซเดส อัศวินสีชาดพินาศย่อยยับได้ขนาดนี้เชียวหรือ...เราคงไม่มีหน้ากลับไปพบเธอแน่ หากต้องสูญเสียอัศวินสีชาดทั้งหมดไปในคราวเดียว’
เปรี้ยง!
“อ๊ากกกก”
ดิอาเหวี่ยงดาบใส่กทหารของอาเรสที่พยายามเข้าใกล้ขบวนม้าอัศวินสีชาด
อย่างน้อย
ก็ยังมีหนึ่งสิ่งที่ทำให้มันรู้สึกดี
เป็นเรื่องเกี่ยวกับองค์จักรพรรดิ
‘แม้แต่ไคล์คนโปรดขององค์จักรพรรดิก็มิอาจรับมือผู้สืบทอดราชาไรพ่ายไหว ไม่แปลกที่อัศวินสีชาดอย่างพวกเราจะล้มเหลว หากพวกเราต้องโทษ...ไคล์เองก็ต้องโดนโทษสถานหนักเช่นกัน’
ดิอาขมวดคิ้ว
‘แต่ผิดคาดไม่น้อย...’
มันย้อนนึกถึงฉากต่อสู้ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ไคล์กลายเป็นตัวตนน่าสมเพชท่ามกลางศึกดวลเวทมนตร์ระหว่างผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายและลิชปริศนา
‘ไคล์อ่อนแอกว่าข่าวลือมาก...ถึงจะได้ชื่อว่าด้อยที่สุดในห้าเสาหลัก แต่สภาพเช่นนี้ น่าจะอ่อนแอยิ่งกว่าโรเล็กซ์เสียอีก’
ไคล์มิอาจเอาชนะผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายที่อ่อนแรงลงหลังจากสังหารโรเล็กซ์…
สิ่งนี้ย่อมแปลว่า ไคล์อ่อนแอกว่าโรเล็กซ์หลายส่วน
นั่นสินะ...ห้าเสาหลักคงถูกยกยอเกินความจริงไปมาก
‘ถ้าเทียบกับเมอร์เซเดสและลูคัส...’
อัศวินลำดับหนึ่งแหละสอง
ชื่อเสียงของพวกเขา แม้จะค่อนข้างสูงจากสายตาบุคคลภายนอก ความจริงแล้วยังต่ำต้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะภายในจักรวรรดิ
ทั้งหมดเป็นเพราะองค์จักรพรรดิมิเคยใยดีต่ออัศวินสีชาดเลยสักครั้ง
‘เมอร์เซเดสอาจแข็งแกร่งกว่าห้าเสาหลักทุกคนเสียอีก...’
ดิอากำลังถอนทัพโดยรั้งท้ายอยู่ด้านหลังสุด มันทำหน้าที่เป็นโล่ให้อัศวินสีชาดหนุ่มสาวทุกคนที่ยังมีชีวิตเหลือรอด
ผู้ใดที่ไล่ตามติดจะถูกดาบในมือดิอาสะบั้นคอให้แยกจากร่าง
“นี่ใครกันน้า~ อัศวินสีชาดกำลังควบม้าหนีหางจุกก้นอย่างขี้ขลาด! วะฮ่าฮ่าฮ่า!”
ลัคแห่งกองทัพอาเรส
ลัคแห่งวัลฮัลล่า
เขากำลังควบม้าไล่ตามติดทัพอัศวินสีชาดไม่ห่าง มือข้างหนึ่งควงง้าวอย่างชำนาญ
ลัคไล่กวนจนตามดิอาทัน
เปรี้ยงง!
ง้าวฟาดฟันใส่ดิอาเป็นแนวโค้ง
ดิอาใช้ดาบรับไว้ แต่ร่างกายของมันพลันสั่นระริกไปทุกส่วน
“…!”
ดิอาประหลาดใจสุดขีด
มันเคยประมือกับลัคหลายหน แต่ทุกครั้งล้วนเป็นการดวลดาบบนพื้นดิน
และทุกคราว ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะขาดลอยคือฝั่งดิอา
แต่ปัจจุบัน ลัคบนหลังที่มาพร้อมกับง้าวในมือ ชายคนนี้มีค่าพลังโจมตีสูงกว่ายามปรกติราวสองเท่าเห็นจะได้
ดิอาเริ่มตื่นตัว
ลัคแสยะยิ้ม
“ไม่เคยบอกสินะ...ว่าฉันขี่ม้าเก่งมาก แล้วจะบอกอะไรให้...ดาบมิใช่อาวุธสำหรับสู้บนหลังม้า!”
เปรี้ยงง!
ง้าวในมือลัคฟาดฟันด้วยความเฉียบคมแม่นยำ แถมยังเปี่ยมด้วยพละกำลังมหาศาล
ดิอาเสียการทรงตัวเล็กน้อยเมื่อใช้ดาบรับไว้อีกหน
“เซอร์ดิอา!”
เมื่อได้เห็นพรรคพวกส่งเสียงจากด้านหลัง ดิอารีบหันไปมองทางกลุ่มขบวนม้าอัศวินสีชาดที่ยังหลงเหลือ
ทุกคนตัดสินใจหยุดม้าและควบกลับมาช่วยดิอา
ดิอาตะเบ็งสุดเสียง
“เจ้าพวกโง่!! ห้ามหยุดทัพเด็ดขาด! ต้องมีคนกลับไปรายงานเหตุการณ์นี้ให้เมอร์เซเดสรับรู้!!”
“ต—แต่ว่า...”
เหล่าอัศวินสีชาดต่างตระหนักถึงความเลวร้ายของสถานการณ์เป็นอย่างดี
ระหว่างที่โรเล็กซ์ดวลกับผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย ดิอาคือผู้ที่คอยรับมือกองทัพนับพันของวัลลฮัลล่า
ปัจจุบัน ดิอาย้อมต่องเหนื่อยล้าสุดขีด
แต่เขากลับคิดเผชิญหน้าศัตรูที่กำลังฮึกเหิมตามลำพัง...
อัศวินสีชาดล้วนแสดงสีหน้าวิตกกังวล
ดิอาโพล่งขึ้น
“ฉันคืออัศวินลำดับห้า!! หน้าที่สุดท้ายคือการปกป้องพวกนายทุกคนให้กลับไปหาเมอร์เซเดสอย่างปลอดภัย!!”
สุ้มเสียงของดิอาช่างแหบพร่าและไร้เรี่ยวแรง
ดิอาจำฝังใจอยู่เสมอ
หัวหน้ามีหน้าที่ต้องปกป้องลูกน้อง
เฉกเช่นที่เมอร์เซเดสกระทำมาตลอด
“ไม่ต้องห่วงฉัน!! รีบหนีกลับไททันให้เร็วที่สุด!!”
เคร้งเคร้ง!
เคร้งเคร้งเคร้ง! เปรี้ยงงง!
ขณะดวลกับลัคบนหลังม้า ดิอาส่งเสียงครวญครางด้วยสีหน้าเจ็บปวดเป็นระยะ
มันละทิ้งชีวิตของตัวเองโดยสมบูรณ์
ดิอาตัดสินใจหยุดม้าและหันกลับไปประจัญบานกับลัคอย่างห้าวหาญ
ทัพอาเรสมิได้มีเพียงลัค แต่ยังมีสก็อตต์ที่ตามมาสมทบด้านหลัง และยังมีทัพม้าอาเรสอีกหลายร้อย
แต่ดิอากลับมิได้หวาดกลัว
“กองอัศวินสีชาดไม่มีวันตาย!!”
ปิอาโร่...นามต้องห้ามแห่งจักรวรรดิ
ชื่อของคนบาปผู้ทรยศ
ประวัติศาสตรจารึกไว้เช่นนั้น
เมื่อครั้งยังเป็นอัศวินหนุ่ม สมัยดิอาสังกัดกองอัศวินทมิฬ ชายที่มันชื่นชมจากก้นบึ้งหัวใจมิใช่ใครอื่น
หากแต่เป็นปิอาโร่
ดิอามีความฝัน สักวันตนจะเข้าสังกัดกองอัศวินสีชาดและคอยเข่นฆ่าศัตรูไปพร้อมกับปกป้องมิตรสหาย
‘แต่ท้ายที่สุด...เรากลับทำตามความฝันไม่ไม่สำเร็จ...’
เคร้ง! เคร้ง!
ฉัวะ!
ดิอาบิดข้อมือเพื่อเปลี่ยนวิถีดาบให้ฟันเฉือนใส่แผ่นอกลัค
“แค่ก!”
ลัคกระอักโลหิตคำโต
“ฉันไม่เสียใจในเส้นทางที่เลือก!!”
ดิอาคำรามกึกก้อง
สก็อตต์กระโจนจากด้านหลังลัคพร้อมกับแทงใส่แผ่นอกดิอาอย่างแม่นยำ แตุถึงกระนั้น ดาบในมือดิอายังไม่หยุดเคลื่อนไหว
มันกวัดแกว่งศาสตราด้วยจิตวิญญาณอันแน่วแน่ ดิอาหมายจะสกัดทัพอาเรสให้นานที่สุด
ไม่ว่าบาดแผลจะถูกสลักลงบนร่างกายมากเพียงใด แต่ดิอากลับไม่ยอมจำนวนจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ลงเอยด้วย...
“...สุดยอดนักรบ”
ด้วยจิตวิญญาณนักรบของดิอาในวาระสุดท้าย ทัพอาเรสจึงต้องหยุดการไล่ตามอัศวินสีชาดไว้เพียงเท่านี้
ฉากเบื้องหน้า ทัพม้าอัศวินสีชาดหายไปแล้ว
ลำพังดิอาคนเดียวสามารถจัดการพลม้าของอาเรสได้หลายสิบนาย
สมกับเป็นอัศวินหลักเดียวอย่างแท้จริง
“มีอะไรจะสั่งเสียไหม?”
อาเรสเองก็เป็นนักรบ เขาออกปากชมความเสียสละและฝีมือสุดน่าทึ่งของดิอา
นี่คือเกียรติที่นักรบทุกคนพึงได้รับ
“ผม...”
ดวงตาดิอาเริ่มพร่ามัว
การมองเห็นเลือนลางลงทุกขณะ
ตุ้บ...
เรี่ยวแรงของอัศวินลำดับห้าได้ดำเนินมาถึงเฮือกสุดท้าย แข้งขาดิอาอ่อนแรงจนมิอาจลุกยืนได้อีก
แต่ดาบในมือยังคงกำแน่นถนัด
“ผม...เชื่อคุณ...ปิอาโร่ ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนบาปตามที่ถูกป้ายสี ผมไม่เคยเสื่อมศรัทธาในตัวคุณแม้แต่วินาทีเดียว...”
ต้องมีสักวัน...
“ต้องมีสักวันที่โลกรับรู้ว่าคุณบริสุทธิ์...”
ซู่ว—
มันกำลังกล่าวถึงใครกัน?
ดิอากระอักเลือดพร้อมกับจบชีวิตลงในท่าคุกเข่า มือยังคงกำดาบแน่นในวาระสุดท้าย ร่างของมันกลายเป็นแสงละอองสีเทาลอยปลิวในอากาศ
อาเรสเฝ้ามองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเงียบงัน
***
ไคล์หลบหนี ส่วนแอ็กนัสฆ่าตัวตาย
กริดหาจุดปลอดภัยเพื่อพักฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรงกลับคืน
เขาเฝ้ามองทัพวัลฮัลล่าใช้ความน่าเกรงขามไล่กวาดต้อนทัพจักรวรรดิที่หลงเหลือ
ทันใดนั้น สุ้มเสียงที่เปี่ยมด้วยความตึงเครียดของบราฮัมได้ดังจากด้านใน
>> กริด...
“หืม? ก็ยังสบายดีนี่...”
กริดไต่ถามเชิงประชดประชัน
จากนั้นก็บ่นอุบอิบ
“นายหมดสติไปทันทีในการฝืนผสานวิญญาณครั้งก่อน แล้วทำไมครั้งนี้ถึงยังมีสติอยู่ได้ล่ะ? ยอดเยี่ยมไปเลยให้ตายสิ!!”
บราฮัมไม่เคยเป็นประโยชน์ในสถานการณ์สำคัญเลยสักครั้ง...
แม้คราวนี้จะลงเอยด้วยผลลัพธ์ด้านบวกก็ตาม แต่กริดก็มิได้พึงพอใจนัก
ขณะชายหนุ่มกำลังหัวเสีย บราฮัมกล่าวต่อไปอย่างซื่อตรงไม่อ้อมค้อม
>> ฉันขอโทษ...
“…?”
คนที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในสามโลกอย่างบราฮัม เมื่อครู่กลับกล่าวคำขอโทษกับมนุษย์อย่างตนงั้นหรือ?
“ด—เดี๋ยว! นายกินยาลืมเขย่าขวดรึเปล่า?”
บราฮัมยังคงกล่าวต่อไป
>> แรกเริ่มเดิมที หลังจากได้รับภาชนะบรรจุดวงวิญญาณ ฉันกลับล้มเหลวในการคืนร่างเนื้อ จึงต้องนำดวงวิญญาณมาขออาศัยในร่างนายที่หมู่เกาะเบเฮ็น...นายยังจำได้หรือไม่ ว่าตอนนั้นฉันพูดสิ่งใดไว้บ้าง?
“…?”
ไม่เหมือนกับทุกครั้ง น้ำเสียงของบราฮัมอ่อนโยนผิดปรกติ
ถึงขั้นอบอุ่นเลยก็ว่าได้
‘ทำไมเขาถึงถามแบบนี้?’
บราฮัมแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด
ขณะกริดกำลังสับสน ชายหนุ่มก็พยายามเค้นสมองตอบคำถามให้บราฮัม
[ มหาจอมเวทในตำนาน ]
★ภารกิจลับ:★
บราฮัมล้มเหลวในการกลับคืนร่างเนื้อ เขาต้องการหลบในสถานที่ปลอดภัยจนกว่าพลังเวทจะฟื้นฟูกลับมา โดยสถานที่แห่งนั้นคือร่างเนื้อของท่าน
หากท่านยอมรับดวงวิญญาณของบราฮัม ท่านจะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ไว้ในครอบครอง
ของรางวัลเมื่อรับภารกิจ :
- ค่าความสัมพันธ์กับบราฮัมเพิ่มขึ้น 50%
- คลาสรองเกรดเลเจนดารี <มหาจอมเวทในตำนาน>
เป็นภารกิจที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
ชายหนุ่มได้รับคลาสรองจากผลของภารกิจ และนับแต่นั้น กริดก็ใช้ชีวิตร่วมกับบราฮัมมาตลอด
เขาเริ่มตะหนักได้
‘นั่นสินะ...บราฮัมบอกว่าจะยืมร่างเราตั้งแต่หนึ่งถึงสี่ปี’
หากนับจากเวลาในซาทิสฟาย ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วสามปีแล้วที่กริดและบราฮัมอาศัยร่างเดียวกัน
“...เวทมนตร์นายฟื้นฟูแล้วรึไง?”
กริดถามเสียงสั่น
ในวินาทีที่เริ่มตระหนักว่าตนมิอาจอยู่กับบราฮัมได้ตลอดกาล ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าใจอย่างน่าประหลาด
ตลอดเวลาที่ผ่านมา กริดรู้สึกผูกพันธ์กับบราฮัมอย่างมาก
เขาชื่นชอบบราฮัม
แม้บราฮัมจะชอบแกล้ง แต่หากพิจารณาจากสิ่งที่บราฮัมเคยมอบให้…
คงทั้งสองมีช่วงเวลาล้ำค่าร่วมกันมากมาย
บราฮัมคือที่ปรึกษาชั้นเลิศ แถมยังเป็นเพื่อนคนสำคัญ
บราฮัมย่อมสัมผัสความรู้สึกกริดได้
เขากล่าวต่อไป
>> ถูกต้อง พลังของฉันฟื้นฟูกลับมาเต็มที่แล้ว มันคือข่าวที่น่ายินดีสำหรับเราสองคน แต่ดูท่าทีของนายเข้าสิ...เป็นอะไรไป? เกิดคิดถึงฉันขึ้นมารึไง?
“...”
กริดไม่ปฏิเสธ
บราฮัมคือเพื่อนคนสำคัญที่กริดยืดอกยอมรับว่าชื่นชอบ เขาไม่สนว่าอีกฝ่ายจะล้อเลียนตนหรือไม่
>> ...
บราฮัมนิ่งเงียบ
ส่วนกริดก็มิได้กล่าวสิ่งใดต่อ
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่ท่าทีปรกติของบราฮัม
หลังจากถูกขับไล่จากโลกแวมไพร์ บราฮัมใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์อย่างยาวนาน จนท้ายที่สุด เขาเริ่มมีความรู้สึกเฉกเช่นมนุษย์ปรกติ
บราฮัมมองแพ็กม่าเป็นมิตรสหายล้ำค่า
บราฮัมรู้สึกอิจฉาพรสวรรค์ของมูมัด
และปัจจุบัน บราฮัมชื่นชอบกริด
ท่ามกลางบรรยกาศเงียบงัน บราฮัมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง
>> นายควรดีใจถึงจะถูก พวกเราเป็นอิสระต่อกันแล้ว นายไม่ต้องคอยกังวลว่าฉันอาจแกล้งนายอีก ฉันจะไม่ทำให้นายเจ็บปวดอีกแล้ว
เจ็บปวด...
คำนี้ทำให้หน้าอกกริดรู้สึกเจ็บแปลบ
กริดเริ่มเอะใจ
บราฮัมจะโทษตัวเองอย่างหนักทุกครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้าลิชมูมัด
กริดรีบปฏิเสธ
“ไม่ใช่สักหน่อย! นายไม่เคยทำให้ฉันเจ็บปวดเลยสักครั้ง! ลองคิดดูให้ดีสิ ฉันมาได้ไกลขนาดนี้ได้เพราะนายไม่ใช่หรือ? ฉันรู้สึกมีความสุขมาก...ฉันดีใจที่มีนายเป็นเพื่อนเสมอ”
>> ...ขอบคุณมาก
บราฮัมฝืนเปล่งเสียงอย่างยากลำบาก
ถ้อยคำของเขากำลังสั่นเครือ
ทางกริดก็เช่นกัน
ซู่ว—
แก่นพลังเวทมหาศาลที่ฝังอยู่ในร่างกริดอย่างยาวนาน บัดนี้ ดวงวิญญาณบราฮัมเริ่มเกิดการสั่นไหววูบวาบ
เขากำลังจะจากไป
กริดรีบร้องตะโกน
“ทำไมกัน...ทำไมนายถึงต้องรีบนัก!? อยู่ต่ออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ? อยู่กับฉันให้นานกว่านี้...”
>> หึหึ...ฉันรอเวลานี้มานานถึงสามปี ฉันอยากไปจากนายใจแทบขาดแล้ว ทุกคนต่างต้องการคืนร่างเนื้อตัวเองทั้งนั้น
‘แต่มันเร็วเกินไป! พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี...นายคิดแบบนั้นจริงหรือ? ช่วยพูดความจริงออกมาได้ไหม...’
กริดตะเบ็งเสียงด้วยดวงตาที่พร่ามัว
น้ำตากำลังไหลรินอาบชุ่มสองแก้มจนเปียกปอน
กริดไม่ต้องการจากลาอย่างกระทันหัน
ซู่วว—
ดวงวิญญาณบราฮัมเริ่มสั่นไหวหนักยิ่งกว่าเก่า บราฮัมซาบซึ้งมากที่ใครสักคนเห็นคุณค่าของเขามากขนาดนี้
>> ...ฉันมีของขวัญจะมอบให้ ฉันจะสลักสูตรเวทมนตร์ไว้ในร่างกายของนาย หลังจากนี้ นายสามารถเรียนเวทมนตร์ชนิดใหม่ได้หากค่าสติปัญญาเพิ่มสูงมากพอ นายจะรู้สึกเหมือนฉันยังอยู่ด้วยตลอดเวลา
“บราฮัม!!”
>> หึหึ...ไม่เอาน่า อย่างร้องไห้ฟูมฟายเหมือนผู้หญิงแบบนั้น ฉันบอกนายไปแล้ว ฉันแค่กลับคืนร่างเดิม พวกเรายังอยู่ในยุคสมัยเดียวกัน สักวันคงได้พบกันแน่
ซู่วววว—
ในที่สุด ดวงวิญญาณบราฮัมได้ล้นทะลักออกจากแผ่นอกกริดจนเห็นเป็นแสงสีน้ำเงินชัดเจน
เสียงของบราฮัมหายไปโดยสมบูรณ์
“บราฮัมมมม!!!!”
ชายหนุ่มตะเบ็งสุดเสียงด้วยถ้อยคำแสนแหบพร่า
เขาลุกขึ้นยืนและพยายามใช้มือคว้าแสงดวงวิญญาณที่กำลังล่องลอยไปบนท้องฟ้า...
‘ขอให้โชคดี...’
ดวงวิญญาณบราฮัมพุ่งขึ้นไปด้านบนพร้อมกับหายไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง
เกิดเป็นเส้นแสงสีน้ำเงินพาดผ่านเส้นขอบฟ้าท้องฟ้าประหนึ่งดาวตก
แกร่ก แกร่ก...!
แกร่ก แกร่ก แกร่ก!
ดวงวิญญาณสีน้ำเงินของบราฮัมเริ่มเกิดรอยแตกร้าวเมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอก
มันเริ่มหลุดร่อนไม่จับเป็นกลุ่มก้อน
‘ด้วยสภาพเช่นนี้ ฉันไม่มีโอกาสเอาเอาชนะลิชมูมัดได้เลย ตัวตนของฉันรังแต่จะนำพาหายนะมาสู่นาย...’
บราฮัมทราบมาตั้งแต่ต้น
ตัวตนของเขาจะนำพาภัยอันตรายมากมายนับไม่ถ้วนมาสู่กริด แต่ในช่วงแรก บราฮัมมิได้แยแสเลยสักนิด กริดจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับตน
กริดเป็นแค่ภาชนะสำหรับฟื้นฟูดวงวิญญาณเท่านั้น
แต่ยิ่งเวลาเลือนผ่าน ความรู้สึกของบราฮัมก็ยิ่งผันเปลี่ยน
จนมาถึงจุดที่บราฮัมเป็นห่วงกริดมากกว่าตัวเอง...
‘ไม่ต้องห่วง ฉันจะหาทางชดใช้คืนให้นาย แม้ว่าจะต้องตายและดวงวิญญาณถูกจองจำในขุมนรกก็ตาม สุดท้ายนี้...ขอให้นายโชคดี จงใช้ชีวิตอย่างอิสระโดยไม่คิดเสียใจในภายหลัง’
แกร่ก แกร่ก...
รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นทั่วดวงวิญญาณสีน้ำเงินของบราฮัม
แต่เขามิได้แยแส
บราฮัมใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตเพื่อกล่าวคำอำลากริดในใจ
กริด...ผู้เป็นเพื่อนคนสุดท้ายของเขา
‘ตำนานรุ่นใหม่เอ๋ย...ฉันขอยกย่องนายจากใจจริง นายคือคนพิเศษ ฉันไม่เคยพบเห็นใครมีความอดทนเทียบเท่านายมาก่อน นายจะกลายเป็นตำนานที่ยอดเยี่ยมกว่าตำนานคนใดทั้งหมด...และสุดท้ายนี้’
แกร่ก แกร่ก…!
‘ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง...สหายสุดที่รัก’
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,154
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
บราฮัมจากปริดไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ 😢😢
ReplyDeleteไม่นะบราฮัมนายจะจากุไปแบบนี้ไม่ได้
ReplyDeleteจากไปแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก จะอีกกี่ปีกี่ตอน😭😭
ReplyDeleteร้องไห้แล้ว
ReplyDeleteอีกยาวๆเลยจ้าา กว่ากริดจะไปเจอเศษวิญญานบราฮัม กว่าจะกลับร่างเนื้อ แต่พอได้ร่างเนื้อก็คือ ตำนานก็คือตำนาน แกร่งกว่าปิอาโร่แบบเทียบไม่ติด
ReplyDelete