จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 707



[ เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลาย Lv.1 (93.1%) ]
    สร้างความเสียหายรุนแรง 300% ของพลังโจมตีกายภาพ
มานาที่ใช้ : 350
ระยะหน่วง : 100 วินาที

    ทักษะที่กริดครอบครองเมื่อได้รับสมญานามสาวกแห่งความเที่ยงธรรม
    
    วิชาดาบแพ็กม่า  เวทมนตร์บราฮัม  วิชาดาบมาดรา  และอีกมาก
    หากเที่ยบกับทักษะในตำนานเหล่านี้  ‘เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลาย’ จะกลายเป็นทักษะแสนธรรมดาไปทันที  
    แต่หากพิจารณารายละเอียดทักษะให้ถี่ถ้วน  มันคือทักษะขั้นสูงซึ่งเป็นรองเพียงทักษะระดับตำนานเท่านั้น

    เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลายโจมตเป็นวงกว้าง  สร้างความเสียหาย 3 เท่าของพลังโจมตีกายภาพ  
    สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติที่พบได้ไม่บ่อยนัก

    ในซาทิสฟาย  ทักษะ Lv.1 ที่โจมตีเป็นวงกว้างมักมีความรุนแรงไม่ถึง 100% 
    แต่ไม่ใช่กับเที่ยมธรรมไม่เสื่อมคลาย
    แถมเที่ยมธรรมไม่เสื่อมคลายยังเป็นทักษะที่ไม่ต้องเสียเวลาร่ายให้ซับซ้อน
    
    ผลของทักษะจะพุ่งไปด้านหน้าในพริบตา  โดยไม่ต้องเต้นรำให้เสียจังหวะเหมือนวิชาดาบแพ็กม่า
    
    มันยอดเยี่ยมถึงขนาด  สหายสาวกแห่งความเที่ยมธรรมอย่างฮิวรอย  ใช้งานบ่อยครั้งจนมีเลเวลสิบเต็ม

    แล้วเพราะอะไรกัน?
    เหตุใดกริดถึงไม่แยแสทักษะที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้? 

    สาเหตุเดียวก็คือ...
    การมีตัวตนของวิชาดาบแพ็กม่า

    ดังที่กล่าวไปข้างต้น  มันยังเป็นรองวิชาดาบแพ็กม่าอยู่มาก  ข้อดีเพียงน้อยนิดของมัน  มิอาจทัดเทียมข้อดีมหาศาลของวิชาดาบแพ็กม่า

    แต่ไม่ใช่ว่ากริดหลงลืมทักษะนี้ไปแล้ว
    เขามักใช้งาน ‘เที่ยมธรรมไม่เสื่อมคลาย’  ‘กระหน่ำแทง’  และ ‘ขว้างหอก’ ในสถานการณ์ที่เหมาะสมเสมอ

    โดยเฉพาะ ‘ขว้างหอก’   
    กริดเคยใช้ในการล่าบอสแวมไพร์ทีราเม็ท  รวมถึงใช้ในการดวลกับครอเกลเมื่อครั้งงานแข่งนานาชาติที่ผ่านมา  

    เปรี้ยงง!

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 15,730 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 47,200 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 15,710 หน่วย ]

[ ปราณต่อสู้กลายเป็น 61 หน่วย ]

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 16,050 หน่วย ]    
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 16,090 หน่วย ]

[ เพลิงทมิฬ... ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 48,040 หน่วย ]

    “อั่ก…!”

    เที่ยมธรรมไม่เสื่อมคลายถูกสอดแทรกอย่างลงตัวระหว่างการโจมตีธรรมดา 
    และเมื่อเพลิงทมิฬแสดงผล  โรเล็กซ์จึงได้รับความเสียหายรวม 160,000  หน่วยภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งวินาที

    กริดเริ่มครุ่นคิดหลังจากการตอบโต้ส่งผลดีกว่าที่คาด

    ‘เที่ยมธรรมไม่เสื่อมคลายสามารถชดเชยการโจมตีธรรมดาที่ไม่รุนแรงของเราได้มาก  หากสายฟ้าสีชาดและเพลิงทมิฬแสดงผลพร้อมกัน  ความเสียหายรวมต้องสูงกว่า 200,000 หน่วยแน่’

    สองแสนหน่วยคือความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งวินาทีเท่านั้น
    ในทางทฤษฏี  หากโชคชะตาเป็นใจ  กริดสามารถสร้างความเสียหายหนึ่งล้านหน่วยได้ภายในระยะเวลา 10 วินาที

    โรเล็กซ์มีพลังชีวิตสิบล้านแล้วอย่างไร?  
    การจะล้มมันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

    แต่ปัญญหาคือ  โรเล็กซ์มิใช่หุ่นฝึกที่ยืนให้ทุบฝ่ายเดียว
    โรเล็กซ์โจมตีสวนกลับในทุกหนึ่งวินาทีเช่นกัน  โดยที่พลังชีวิตของกริดมีไม่ถึงหนึ่งแสนหน่วย

    หากแลกหมัดอย่างต่อเนื่อง  ฝ่ายที่ล้มลงก่อนย่อมต้องเป็นกริด

    ‘ถ้าเป็นครอเกลจะทำยังไง...’

    หมอนั่นคงหลบขวานโรเล็กซ์ได้ง่ายดาย
    กริดมั่นใจมาก  ครอเกลต้องรุกหนักโรเล็กซ์อยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ร่ายกายไร้รอยขีดข่วน

    ‘...ไม่สิ’

    กริดส่ายศีรษะพร้อมกับสลัดความคิดไร้สาระ  เขาพยายามนำตัวเองไปเปรียบกับครอเกลมากเกินไป

    ‘เราคือราชาโอเวอร์เกียร์  วิธีต่อสู้ในแบบฉบับพลังไอเท็ม  ย่อมแตกต่างจากวิธีที่อัจฉริยะครอเกลใช้’

    หลบไม่ได้แล้วยังไง? 
    ช่างมันปะไร…
    บาดเจ็บแล้วยังไง?  
    ก็แค่หวดคืนกลับไปให้เท่าเทียม

    กริดละทิ้งดาบในมือ

[ ท่านสวมใส่ ‘พลองมั่วซั่ว’ ]

    “…???”

    โรเล็กซ์พลันอึ้งกับฉากตรงหน้า
    เกินกว่าคำว่าสับสนไปมากแล้ว

    ท่ามกลางการดวลแสนดุเดือด  อีกฝ่ายกลับเก็บสุดยอดศาสตราพิฆาตกลางคัน  และนำพลองประหลาดออกมาสวมแทน?
    คิดจะทำฟาร์มตรงนี้รึไง?

    ‘อา...ลืมไปเลย  หมอนี่เสียสติไปแล้ว’

    โรเล็กซ์พลันขนลุกซู่กับภาพที่เห็น
    มิใช่เพราะมันหวาดกลัว  แต่เพราะพลองไม้ในมือกริดสกปรกบัดซบ!  
    โรเล็กซ์ออกาอการขยะแขยงโดยไม่รู้สึกตัว  มันพยายามรักษาระยะห่างกับกริด
        
    เป็นท่าทีแสนรังเกียจที่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับกริดอีก

    ระหว่างที่โรเล็กซ์กำลังผงะไป
    กริดลองทดสอบเหวี่ยงพลองไปในอากาศสามสี่หน

    ฟุ่บ—
    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—

    ‘ดีล่ะ  ถุงมืออเล็กซ์ยังทำงานอยู่  เราสามารถหวดพลองได้สี่ครั้งในหนึ่งวินาที  หลังจากนี้ก็สวดภาวนาให้โชคเข้าข้าง’

    ในช่วงเวลาแสนสำคัญ  เขาต้องการเสี่ยงดวงหาบัฟที่สามารถพลิกสถานการณ์ตรงหน้าได้
    ส่วนความโชคร้ายที่อาจเกิดขึ้น…
    เรื่องนั้นช่างมันเถอะ
    
[ พลองมั่วซั่ว ]
เกรด : ยูนีค
ความคงทน : 259/259
พลังโจมตี : 143~191
* เกิดเอฟเฟคพิเศษแบบสุ่มขึ้นทุกครั้งที่เป้าหมายถูกโจมตี  
* ความเร็วในการนวดข้าวเพิ่มขึ้น 150%
* เมล็ดข้าวที่ถูกนวดจะเกิดเอฟเฟคแบบสุ่ม

    นี่คือเครื่องมือทำสวนที่กริดสร้างเมื่อนานมาแล้ว

    ไม่สิ...มันคืออาวุธต่างหาก

    ในอดีต  เขาเคยสิ้นหวังและหมดหนทางรับมือกับร่างโคลนตัวเอง  จึงสร้างพลองกาชาแท่งนี้เพื่อหวังพึ่งพาโชคชะตา

    ‘เราไม่ต้องการเอฟเฟคที่ยอดเยี่ยมเหมือนกับเมื่อครั้งดวลกับร่างโคลน  ขอเพียงลดพลังโจมตีของโรเล็กซ์ลงก็พอ  เพื่อให้เราฟื้นฟูพลังชีวิตกลับคืนได้ทัน’

    พลังชีวิตที่เสียไปสามารถชดเชยได้ด้วยโพชั่น  แหวนโดรัน  และอุปกรณ์ดูดเลือดนานับชนิด
    เท่านี้คงเพียงพอ
    
    “แกเสร็จฉันแน่!”

    กริดตะโกนขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้ม
    ชายหนุ่มปรี่เข้าหาโรเล็กซ์ด้วยความเร็วสูงสุด

    “บัดซบ…!”

    โรเล็กซ์ผงะไปเล็กน้อย  มันก้าวถอยหลังเพื่อตั้งหลัก
    ก่อนหน้านี้  มันเคยประมาทชิ้นผ้าปริศนามาแล้วหนหนึ่ง  ส่งผลให้ทักษะไม้ตายถูกสลายไปอย่างสูญเปล่า

    โรเล็กซ์ไม่มีทางเลือก  มันต้องพิจารณาคุณสมบัติของเครื่องมือทำสวนอย่างรอบคอบใจเย็น

    ***

    “เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลาย!”

    “...ไหนบอกว่าเป็นราชาโจมตีธรรมดาไง?”

    อาเรสโพล่งขึ้นในวินาทีที่กริดใช้งานทักษะ  
    ถึงกระนั้น  เหล่ากองทัพอาเรสยังคงชื่นชมในความสุดยอดของกริด
    
    ปีศาจอย่างโรเล็กซ์เริ่มเปลี่ยนสีหน้าเมื่อถูกทักษะใหม่กระแทกใส่อย่างจัง  หลอดพลังชีวิตลดลงทันตาเห็น  
    แม้จะน้อยนิด  แต่ก่อนหน้านี้  พวกตนไม่เคยมีใครทำให้หลอดพลังชีวิตโรเล็กซ์ขยับเขยื้อนสำเร็จมาก่อน  

    ทุกคนได้แต่กลืนน้ำลาย

    ‘พลังโจมตีกริดป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!’

    ‘ที่โกงคือความเร็วนั่นต่างหาก’

    กองทัพอาเรสรุมรับมือกับโรเล็กซ์นานหลายนาที  พวกมันจึงรู้ว่าอีกฝ่ายมีพลังป้องกันสูงเพียงใด
    แม้กระทั่งลัค  ชายที่ชื่อว่าโจมตีได้รุนแรงที่สุดในกองทัพ  ก็ยังทำให้โรเล็กซ์บาดเจ็บได้เพียง 5,000 ถึง 7,000 ด้วยการโจมตีธรรมดา

    แต่การโจมตีธรรมดาของกริดกลับรุนแรงกว่าลัคถึงสองเท่า  แถมยังเร็วว่องไวกว่าเป็นเท่าตัว!
    ทั้งเร็วและแรง

    ‘โอเวอร์เกียร์...นี่คือพลังของไอเท็มงั้นหรือ?’
    
    สายตาของสมาชิกกองทัพอาเรสต่างจ้องมองไปยังถุงมือและดาบใหม่
    กริดไม่เคยใช้งานสองไอเท็มนี้ให้ใครเห็นมาก่อน  อย่างน้อยก็ไม่เคยปรากฏตามหน้าจอ TV

    สก็อตต์พลันสั่นระริก
    
    ‘พลังที่สามารถสร้างไอเท็มใหม่ได้ตลอดเวลา...’  
    
    นี่คือรากฐานความแข็งแกร่งไร้ขีดจำกัดของช่างตีเหล็กในตำนาน
    สมาชิกกองทัพอาเรสเริ่มตระหนักถึงพลังอำนาจไร้สิ้นสุดจากตัวกริด

    ‘ตัวตนที่สามารถทำลายสมดุลของโลก’

    ในซาทิสฟาย  มีอยู่สองวิธีที่ผู้เล่นจะแข็งแกร่งขึ้นจากเดิมได้  
    หนึ่งคือ  การตั้งใจก้มหน้าเก็บเลเวลอย่างมีระเบียบแบบแผน
    ส่วนอีกหนึ่งคือ...
    การที่โชคดีได้พบลาภก้อนโต

    แต่การพบลาภก้อนโตก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง  
    ในการจะมีไอเท็มสวมใส่ที่ยอดเยี่ยม  ผู้เล่นต้องล่าบอสสุดหินซ้ำหลายหนและภาวนาให้สุดยอดไอเท็มดรอป
    ไม่ใช่ทุกครั้งที่บอสจะดรอปไอเท็มตรงกับความต้องการ
    
    นั่นคือสาเหตุที่ผู้เล่นในปัจจุบันเริ่มดำเนินมาถึงถึงทางตัน
    เลเวลของพวกเขาค้างเติ่งอยู่นาน  เพราะไม่มีอุปกรณ์สวมใส่ที่ดีพอจะเปลี่ยนจุดเก็บเลเวลให้สูงขึ้น

    โดยเฉพาะเหล่าแรงเกอร์ระดับสูงที่เพิ่มเลเวลได้แสนยากลำบาก
    ในบางรายที่โชคร้าย  เขาจะไม่พัฒนาตนเองเลยแม้เวลาจะผ่านไปถึงหนึ่งเดือนเต็ม

    แต่กริดล่ะ?
    เมื่อรู้สึกว่าไอเท็มสวมใส่ไม่ดีพอ  กริดเพียงแค่สร้างมันขึ้นใหม่  
    ชายคนนี้ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงดวงกับไอเท็มดรอปเหมือนผู้เล่นคนอื่น

    หากเขาต้องการ  กริดสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ในทุกวัน      
    การคลาดสายตาจากกริดเพียงไม่กี่เดือน  เขาจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับพัฒนาการที่ก้าวกระโดด

    สก็อตต์หวาดหวั่นพลังของกริดมาก

    ‘พวกเราตกที่นั่งลำบากแน่  ถ้าชายคนนี้กลายเป็นศัตรู  อาเรสฉลาดมากที่ตัดสินใจผูกมิตรกับกริดตั้งแต่ต้น...เอ๋?’

    สก็อตต์ที่กำลังชื่นชมกริดในใจ  บัดนี้ดวงตาเหลือกถลนออกจากเบ้า
    
    กริดเก็บดาบสุดโกงเข้าช่องสัมภาระ  จากนั้นก็ควักไอเท็มประหลาดออกมาถือ

    “นั่นคืออะไร?”

    เป็นไอเท็มที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
    สก็อตต์ขมวดคิ้วครุ่นคิดเล็กน้อย  
    ในที่สุดเขาก็นึกออก

    มันคือเครื่องมือทำสวนของชาวนาที่ไว้สำหรับทุบข้าวเปลือก
    
    “พลองตำข้าว…?  กริดกำลังต่อสู้ได้ดีไม่ใช่รึไง?  แล้วทำไมถึงควักพลองตำข้าวออกมากลางคัน?”

    ระหว่างการเผชิญหน้ากับปีศาจสุดโหด
    กริดควักพลองนวดข้าวออกมาในศึกชี้ชะตาความเป็นไปของสงคราม...
    สก็อตต์ไม่เข้าใจกริดเลยสักนิดเดียว

    เขาอยากแหวกกระโหลกกริดออกมาจับตรวจสมอง  
    ด้านในกำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่

    ทุกคนที่มุงดูต่างตกอยู่ในความสับสน
    ทันใดนั้น  อาเรสโพล่งขึ้น

    “เข้าใจแล้ว…!  ฉันรู้แล้วว่ากริ—ราชาโจมตีธรรมดากำลังทำสิ่งใด!”

    “…?!”

    อาเรสกล่าวด้วยสีหน้าสุดมั่นใจ
    ทหารทุกคนรวมถึงเหล่าขุนพลต่างพากันเงี่ยหูฟัง

    “สมกับเป็นอาเรส!  กริ—เอ่อ  ราชาโจมตีธรรมดาคิดจะทำสิ่งใดกัน?”

    พวกเขาเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นและคาดหวัง
    
    อาเรสแสยะยิ้มอย่างภาคภูมิก่อนจะมอบคำตอบแก่ทุกคน
    
    “ยั่วยุยังไงล่ะ!  กริดกำลังยั่วยุมันอยู่!”

    “ยั่วยุ?”

    “ถูกต้อง!  ราชาโจมตีธรรมดากำลังบอกโรเล็กซ์เป็นนัยว่า  ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ด้วยเครื่องมือทำสวน!”

    “...บ้าน่า”

    ในสถานการณ์ปรกติ  เหล่าสมาชิกและขุนพลล้วนเชื่อในคำพูดอาเรสโดยมิเคยเคลือบแคลงเสมอ
    แต่ไม่ใช่กับหนนี้  
    มันเหลวไหลเกินไป
    อาเรสวิเคราะห์ไม่ใกล้หลักความจริงเลยสักนิด

    โรเล็กซ์เป็นใครกัน?
    มันคืออัศวินลำดับสาม
    ทั่วทั้งทวีปตะวันออก  บุคคลที่แข็งแกร่งกว่าโรเล็กซ์มีเพียงหยิบมือเดียว
    
    ไม่ต่างจากบอสใหญ่ของทวีปเลยสักนิด

    แล้วกริดจะเอาชนะปีศาจนั่นด้วยพลองตำข้าวเนี่ยนะ?  
    บ้าบอสิ้นดี  ไม่ว่ากริดจะเก่งกาจขนาดไหนก็ตาม
    
    ขณะทุกคนกำลังคิดเช่นนี้…
    กริดหวดพลองกากในมือ  ตีใส่หน้าโรเล็กซ์อย่างจัง

    “เอาจริงดิ…?”

    ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
    แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ  สีหน้าโรเล็กซ์พลันบิดเบี้ยวสุดขีด 
    โรเล็กซ์กำลังหวาดผวา

    ทันใดนั้น...

    “พลิ้วไหว!  โทสะช่างตีเหล็ก!”

    หลังจากหวดพลองใส่โรเล็กซ์ครู่หนึ่ง  กริดก็เริ่มบัฟเต็มสูบพร้อมสลับอาวุธกลับเป็นดาบยาวสุดโกงเล่มเก่า

    การโจมตีระลอกใหม่เริ่มต้นขึ้น
    ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้มากนัก
    ฟันธรรมดา  ฟันธรรมดา  ฟันธรรมดา

    แต่ทุกครั้งที่โรเล็กซ์ถูกโจมตี  หลอดพลังชีวิตของมันกลับลดฮวบอย่างน่าทึ่ง

    “...”

    อาเรสและกองทัพต่างอาเรสต่างเลิกคิดหาเหตุผล
    พวกเขาเหนื่อยแล้ว

    ***

[ ‘พลองมั่วซั่ว’ ส่งผลให้ศัตรูได้รับความเสียหายรุนแรงขึ้น 3 เท่าเป็นเวลา 1 นาที ]

    “เจ๋งเป้ง…!”

    กริดหวังเพียงให้พลังโจมตีของโรเล็กซ์ลดลง
    นั่นก็เพื่อให้ตนเป็นฝ่ายได้เปรียบในศึกมวยวัดแลกหมัดซึ่งหน้า
    
    แต่ผลที่ได้รับกลับดีกว่าที่คาดไว้มาก  เป็นเอฟเฟคที่ช่วยให้กริดดวลมวยวัดชนะง่ายขึ้นหลายเท่า
    การที่โรเล็กซ์ถูกโจมตีรุนแรงกว่าเดิมสามเท่า  มีค่าเท่ากับพลังโจมตีของกริดเพิ่มขึ้นสามเท่า!
    
    “เจ็บหน่อยนะลุง!”

    ถึงบัฟจะอยู่นานถึงหนึ่งนาที  แต่อีกฝ่ายเป็นถึงอัศวินลำดับสาม
    กริดคาดว่า  โรเล็กซ์น่าจะมีค่าต้านทานอาการผิดปรกติอยู่ไม่น้อย  อาการคงแสดงผลเพียง 30 วินาทีเท่านั้น
    
    เขาเร่งความเร็วด้วยพลิ้วไหว  จากนั้นก็เร่งสปีดการฟาดฟันด้วยโทสะช่างตีเหล็ก

    บึ้มบึ้ม!

    บึ้มบึ้มบึ้ม—

    ปัจจุบัน  ไม่เพียงมีปราณต่อสู้ในค่าสูง   กริดยังโจมตีศัตรูได้ด้วยความเร็วหกครั้งต่อหนึ่งวินาที

    ‘นี่คือขีดจำกัดความเร็วโจมตีของมนุษย์สินะ...’
    
    “เข้าใจแล้ว!  แกคือนักลอบสังหารนี่เอง!”

    ความเร็วโจมตีที่มีเพียงนักลอบสังหารในตำนานเท่านั้นสามารถเข้าถึง!
    โรเล็กซ์ผงะกับความเร็วโจมตีของกริด  ที่เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนหลายเท่า
    เป็นระดับที่ทำให้มันถึงกับขนลุก

    กระนั้น  โรเล็กซ์ก็มิได้สับสนจนเสียการ
    
    เร็วขึ้นแล้วอย่างไร?
    ก็แค่การโจมตีเจ็บแสบเล็กน้อยเท่านั้น
    มันสามารถตอบโต้ด้วยพละกำลังช้างสารที่รุนแรงกว่าหลายเท่า...

    “อ๊ากกก!”

    โรเล็กซ์ร้องเสียงหลงขณะมันกำลังกวัดแกว่งขวานเหวี่ยงใส่
    ในวินาทีที่คมดาบกริดเสียดแทงข้างลำตัว  ความเจ็บปวดที่ได้รับกลับรุนแรงจนยากจะเก็บอาการไหว

    กริดแสยะยิ้มชั่ว

[ ปราณต่อสู้กลายเป็น 70 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 69,100 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 68,930 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 70,800 หน่วย ]

    นี่เป็นเพียงการโจมตีธรรมดาเท่านั้น
    ตัวเลขความเสียหายมหาศาลด้านบนเกิดจากบัฟสามเท่าของพลอง  และโทสะช่างตีเหล็กที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตี 25%

[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ คริติคอล! ]
[ สมญานาม ‘ตายในการโจมตีเดียว’ แสดงผล  ความแรงคริติคอลเพิ่มขึ้น 30% ]
[ ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 489,300 หน่วย ]

    “อ๊ากกกก!”

    ก่อนหน้านี้  ไม่ว่ากริดจะโจมตีได้รุนแรงหนักหน่วงเพียงใด  แต่โรเล็กซ์ไม่เคยกรีดร้องอย่างเสียอาการมาก่อน
    ทว่าปัจจุบัน  มันมิอาจรักษาภาพพจน์สง่างามไว้ได้อีกแล้ว

    ความเจ็บปวดที่ทวีจำนวนขึ้นมากพร้อมกับหลอดพลังชีวิตที่หายไปหลายส่วน
    ต่อให้โจมตีสวนกลับตอนนี้  แต่ค่าพลังชีวิตที่ดูดกลืนก็มิอาจชดเชยหลอดเลือดที่เสียไป

    ‘เหตุใดมันถึงแข็งแกร่งขึ้นกลางคัน?’

     NPC อย่างโรเล็กซ์ไม่มีทางรู้ว่า  หายนะเกิดขึ้นเพราะมันถูกพลองกากซัดเข้าไปก่อนหน้านี้

    โรเล็กซ์ได้แต่หวั่นวิตกอยู่ในใจ
    ร่างกายเย็นยะเยียบไปทั้งตัว

    ‘หรือว่า…!  หมอนี่เก็บซ่อนพลังที่แท้จริงมาตลอด?’

    เมื่อเริ่มเห็นท่าไม่ดี  โรเล็กซ์จึงมีสีหน้าตึงเครียด  
    มันมิอาจปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินเช่นนี้ต่อไปไปได้
    ราชสีห์โรเล็กซ์ผู้อาจหาญ
    อัศวินลำดับสาม

    ปัจจุบัน…
    มันหันไปมองอัศวินสีชาดที่รายล้อมพร้อมกับตะโกนคำราม

    “พวกนายคิดจะยืนดูอีกนานไหม?  รีบช่วยฉันเร็วเข้า!”

    อันที่จริง  โรเล็กซ์มิใช่ตัวตนที่เก่งฉกาจในการดวลหนึ่งต่อหนึ่ง
    ขวานยักษ์ในมือมีไว้สะบั้นกองทัพข้าศึกให้ราบคาบในพริบตา  อาวุธแสนเชื่องช้าเช่นขวานยักษ์มีไว้เพื่อการนั้น
    
    หากต้องรับมือกับศัตรูที่มีพลังรบใกล้เคียงกัน  โรเล็กซ์จะตกอยู่ในสภาพเสียบเปรียบอย่างมาก  

    “ไอ้พวกขี้ขลาด!  ทุกคนรีบเข้าไปช่วยราชาโจมตีธรรมดาเร็วเข้า!”

    “ขอรับ!”

    ในเวลาเดียวกับที่โรเล็กซ์ร้องขอความช่วยเหลือ  อาเรสรีบออกคำสั่งให้กองทัพตนเข้าสนับสนุนกริด

    “อย่าเข้ามา...”

    กริดสั่งหยุดกองทัพอาเรส
    ฝ่ายเดียวกันพลันชะงักงัน
    จากนั้น  ชายหนุ่มกระโจนขึ้นไปในอากาศ  เพื่อให้มองเห็นโรเล็กซ์และอัศวินสีชาดจำนวนมากที่สุด

    “ดาบสกัด—”

    “…?”

    “ทัพหนึ่งแสน!!”

    “…!!”

    บึ้มบึ้ม—

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—

    ปราณต่อสู้สีม่วงเข้มหลายร้อยเส้นได้พุ่งกระจายออกไปยังอัศวินสีชาดทุกนายที่กรูเข้าใส่กริด

    เหตุการณ์นี้ส่งผลให้โรเล็กซ์  อัศวินสีชาด  รวมถึงโอเอซิส…ล้วนดวงตาเบิกโพลงราวกับเห็นภูติผี

    “ราชา...ไร้พ่าย?”

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,152
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. โอ้ มันมาก ขอบคุณครับ สนุกสุดๆ

    ReplyDelete
  2. มันส์...ราชาโจมตีธรรมดา

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าบอกว่า"ราชาไร้พ่าย" น่าจะดีกว่ามั้ง 555+

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00