จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 703

[ ภารกิจกษัตริย์ ]

ภารกิจแสนยาวนานที่กริดได้รับหลังจากการเป็นกษัตริย์
เฉกเช่นนามของมัน  

ปัจจุบัน  เขาสำเร็จภารกิจกษัตริย์แรกเรียบร้อยแล้ว  ‘หน้าที่กษัตริย์ (1)’
ของรางวัลคือสูตรการสร้าง ‘ดาบกษัตริย์’ ที่ต้องการ

‘ของรางวัลห่วยชะมัด  ไม่เหมาะกับภารกิจสุดพิเศษเลยสักนิด’

กริดยังไม่ได้รับภารกิจ ‘หน้าที่กษัตริย์ (2)’  เพราะเงื่อนไขในการรับภารกิจคือต้องมีเลเวล 350 ขึ้นไป

หลังจากชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็น  เลเวลของกริดก้าวกระโดดไปถึง 357 ในเวลาอันสั้น  
ปัจจุบัน  เขามีสิทธิ์รับภารกิจ ‘หน้าที่กษัตริย์ (2)’ แล้ว

[ หน้าที่กษัตริย์ (2) ]
ในเมื่อท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตและความยากลำบากของประชาชนแล้ว
จงช่วยแก้ไขปัญญาให้ประชาชนของท่าน
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ทำความดีโดยการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจำนวน 5,000 คน
รางวัลภารกิจ : 
- ค่าพลังการเมืองถูกเปิดใช้งาน
- มีสิทธิ์ทำภารกิจกษัตริย์ถัดไป
* จำนวนครั้งของความดีจะนับรวมสมาชิกทุกคนในราชวงศ์

“บ้าน่า...”

ไม่ใช่ร้อยหรือพัน...แต่เป็นห้าพัน!
ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน?
โชคดีที่กริดเคยสัมผัสวิถีชีวิตชาวเมืองมาบ้างผ่านภารกิจ ‘หน้าที่กษัตริย์ (1)’
เขาจึงรู้ถึงความยากลำบากและวิธีในการช่วยเหลือชาวเมืองเหล่านั้น

แต่ให้ช่วยเหลือ 5,000 คนมันออกจะ...

ต้องใช้เวลากี่ปีกัน?

“อะ...ไม่ได้  เราจะสบถคำหยาบไม่ได้เด็ดขาด”

กริดยังคงตะลึงเมื่อโนเอะซึมซับคำด่าของตนเข้าไป  เขาจะไม่ยอมให้สัตว์เลี้ยงก้าวร้าวเด็ดขาด

ไม่มีคำสบถหลุดจากปากกริดแม้กำลังหัวเสียสุดขีด
ช่างน่าเหลือเชื่อ

เขาพอจะเข้าใจความสำคัญของภารกิจนี้อยู่บ้าง
‘หน้าที่กษัตริย์ (2)’ คือภารกิจที่จะช่วยทำให้ประชาชนในอาณาจักรมีชีวิตดีขึ้น  และนี่คือรากฐานสำคัญสำหรับพัฒนาอาณาจักรให้รุ่งเรือง

หรืออีกความหมายหนึ่ง  กริดจำเป็นต้องทำเพื่อให้อาณาจักรก้าวหน้า
หากเขาหมั่นกระทำความดีอย่างต่อเนื่อง  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็จะยิ่งมั่งคั่งในอนาคต  ภาษีมหาศาลก็จะตามมาไม่ขาดสาย

ปัญหาคือเวลา

‘มันนานเกินไป...’

หากช่วยคนได้วันละสิบครั้ง  เร็วสุดคือ 500 วันกว่าภารกิจจะบรรลุ
และเวลาจะยืดออกไปนานกว่านั้นหากกริดมีความจำเป็นต้องเดินทางออกจากอาณาจักร

“เฮ่อ...จะเสร็จในกี่ปีกันนะ...”

กริดถอนหายใจอย่างสิ้นหวังพร้อมกับกดตกลงรับทำภารกิจ
ทันใดนั้น...

[ องค์หญิง ‘รูบี้’ แห่งราชวงศ์โอเวอร์เกียร์กระทำความดีเกินกว่า 5,000 ครั้ง ]
[ ภารกิจ ‘หน้าที่กษัตริย์ (2)’ สำเร็จ! ]

[ รางวัลภารกิจ : ท่านเปิดใช้งานค่าพลังการเมือง ]

[ ท่านสามารถรับภารกิจกษัตริย์ลำดับถัดไปเมื่อมีเลเวลถึง 370 ]

“...”

กริดพลันสับสนหนัก
เครื่องหมายคำถามตัวโตปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ

“เกิดอะไรขึ้น…?”

ภารกิจกษัตริย์เกี่ยวข้องอะไรกับรูบี้?
ทันใดนั้น  สายตาของเขาได้เลื่อนลงไปอ่านเงื่อนไขภารกิจหน้าที่กษัตริย์ (2)
‘จำนวนครั้งของความดีจะนับรวมสมาชิกทุกคนในราชวงศ์’

“บ้าน่า...ความดีจากภารกิจนักบุญหญิงถูกนับรวมด้วยหรือ?”

แน่นอน  ไม่ใช่ความดีทั้งหมดที่รูบี้เคยกระทำ
สิ่งที่ถูกนับรวมมีเพียงความดีที่รูบี้สร้างขึ้น ‘หลังจาก’ ก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ในฐานะพระขนิษฐาแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  หนึ่งในสมาชิกราชวงศ์  ความดีของเธอจึงถูกนับรวมกับภารกิจกษัตริย์

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ  รูบี้ทำความดีกับชาวเมืองเกินกว่า 5,000 คนได้ยังไง...

ชายหนุ่มลองย้อนนึกกลับไป  
หลังจากเสร็จศึกบีเลียล  รูบี้เป็นคนสำคัญที่ช่วยรักษาชาวเมืองจากอาการบาดเจ็บ  แถมยังช่วยให้เหล่าทหารผ่อนคลายจากอาการเหนื่อยล้าขณะซ่อมบำรุงอาคารสถานที่

“น้องสาวของเราเจ๋งที่สุด...ทั้งอ่อนโอนและจิตใจงดงาม  ล็อกเอาต์คราวหน้าจะเข้าไปหอมแก้มให้หายคิดถึง...”

กริดขมวดคิ้ว

“ไม่สิ...ไม่ได้  ถ้าทำแบบนั้นคงโดนชกกลับมาแน่”

น้องสาวของตนยอดเยี่ยมที่สุด
ชายหนุ่มอมยิ้มอย่างมีความสุข

ขณะเดียวกัน  
ณ วัลฮัลล่า

“คนที่ 399 แล้วเฟ่ย…!”

เลเวลของอาเรสสูงกว่ากริดมาก  เขาจึงเริ่มภารกิจ ‘หน้าที่กษัตริย์ (2)’ ได้เร็วกว่ากริดหลายเดือน
อาเรสตระเวณไปรอบเมืองและหา ‘ความดี’ กระทำอย่างสม่ำเสมอ

“เฮ่อ…!  ยากฉิบ”

ระหว่างการทำความดี  อาเรสอยากต่อยคนสักหมัดสองหมัดให้หายหงุดหงิด
งานของเขายุ่งวุ่นวายเกินกว่าต้องมาทำเรื่องเช่นนี้

ถึงกระนั้นก็ยังมองในแง่บวก

การได้เห็นสีหน้ามีความสุขของประชาชน  สิ่งนี้ทำให้อาเรสหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ยิ่งเมื่อคิดถึงกริด  อาเรสก็ยิ่งแสยะยิ้มอย่างมีความสุข
จากตารางอันดับโลก  กริดเพิ่งผ่านเลเวล 350 ได้ไม่นาน  ปัจจุบันคงกำลังเผชิญความโหดร้ายภารกิจไม่ต่างจากตน

‘กริด...ตอนนี้นายคงได้สัก 30 คนแล้วสินะ  พยายามเข้าไอ้หนู  เคี้ยกฮ่าฮ่าฮ่า!!’

อาเรสฉีกยิ้มกว้าง

“พวกเรามาลำบากด้วยกันเถอะ  คุคุ!”

***

[ พลังการเมือง ]
เพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมทางการเมือง
* ยิ่งมีค่ามาก  เอฟเฟคยิ่งแสดงผลมาก

“อา...”

พลังการเมืองคือค่าสถานะพิเศษสำหรับนักการเมือง  คลาสลับบางชนิด  ราชวงศ์  และพ่อค้า
แร็บบิทมีค่านี้สูงมาก

ค่าพลังการเมืองจะส่งผลต่อกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมด

ตัวอย่างเช่น  หากกริดถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารตลาด  ค่าพลังการเมืองจะช่วยให้ตลาดมีพัฒนาการรวดเร็ว

แม้อาจฟังดูคล้าย  แต่ค่าพลังการเมืองกับค่าสติปัญญานั้นไม่เหมือนกัน

สำหรับนักการเมือง  ค่าพลังการเมืองสำคัญกว่าสติปัญญามาก  เหมือนกับโลกความจริงไม่มีผิดเพี้ยน

‘แบบนี้นี่เอง...’

ลอเอล  ผู้บริหารกิลด์และอาณาจักรโอเวอร์เกียร์จากเงามืดมาหลายปี  เขาเพิ่งจะเปิดใช้งานค่าพลังการเมืองเมื่อไม่นานด้วยสมญานาม ‘นายกรัฐมนตรี’

นับเป็นอีกหนึ่งสมญานามที่ผู้เล่นทั่วไปครอบครองได้ยาก

กริดไม่เคยคิดว่าคนเช่นตนจะมีโอกาสครอบครองค่าพลังการเมือง

‘ก็ไม่เลว’

ในซาทิสฟาย  ค่าสถานะคือสิ่งที่ดีเสมอ
สำหรับอนาคต  เขาอาจจัดการปัญหาภายในอาณาจักรได้โดยไม่ต้องมีความรู้หรือสติปัญญา

กริดยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อตนเริ่มเหมาะสมกับตำแหน่งกษัตริย์มากขึ้นทีละนิด 
เขามุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

โรงตีเหล็ก
กริดมีแผนออกแบบผ้าคลุมลันเทียร์รุ่นผลิตจำนวนมาก  รวมถึงออกแบบมงกุฏใหม่สำหรับตัวเอง

นี่คือเป้าหมายถัดไป

***

“เท่านี้คงพอ”

การออกแบบผ้าคลุมลันเทียร์รุ่นผลิตจำนวนมากไม่ใช่เรื่องยากนัก
กริดลอกแบบรูปทรงจากผ้าคลุมลันเทียร์ดั้งเดิม  จากนั้นก็เปลี่ยนวัสดุให้เป็นชนิดที่เข้ากันได้ดีและหาง่าย  

“ข่าน  นำสูตรการผลิตนี้ไปถ่ายทอดให้ช่างตีเหล็กคนอื่นด้วย  ช่างตีเหล็กขั้นสูงน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากใช่ไหม?”

“อา...คิดว่างั้น”

ข่านอ่านแบบร่างที่กริดยื่นมาให้พร้อมกับพยักหน้า

สีหน้าของชายหนุ่มพลันดำมืด
รอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้าข่านเพิ่มจำนวนขึ้นจากหลายเดือนก่อนมาก
เมื่อได้เห็นข่าน  กริดรู้สึกราวกับกาลเวลากำลังกระชั้นชิดเข้ามาทุกที

‘โธ่เว่ย...ไม่มียาที่ทำให้ NPC อายุยืนบ้างรึไง?’

อายุขัยของมนุษย์ผู้เล่นมีขีดจำกัดก็จริง  แต่ของ NPC นั้นสั้นกว่ามาก

กริดไม่อยากจากข่าน
เขาต้องการมีข่านอยู่เคียงข้างตลอดไป

ข่านเห็นสีหน้าเศร้าหมองของกริดจึงใช้กำปั้นทุบหน้าอกตัวเอง
“เห็นกายาเหล็กกล้านี่รึเปล่า?  ตาเฒ่ายังแข็งแรงดีน่า!  ฝ่าบาทไม่ต้องกังวล”

“...”

หลอดพลังชีวิตของข่านลดลงเล็กน้อยจากการทุบหน้าอกตัวเอง...

ความโศกเศร้าในใจกริดทวีจำนวนขึ้นจนยากจะควบคุม
แต่เขาไม่แสดงออก

การทำเช่นนั้นรังแต่จะสร้างภาระทางใจให้ข่านเพิ่มขึ้น

“ผมไม่ได้ห่วงสุขภาพลุงสักหน่อย  ลุงแข็งแรงขนาดไหน  มีหรือผมจะไม่รู้?  เพียงแค่ห่วงว่า  กลิ่นสาปพ่อหม้ายของลุงรุนแรงขึ้นทุกที”

“โฮ่?  กลิ่นสาปพ่อหม้าย?”

กริดแสร้งทำเป็นดมกลิ่นตัวข่านพร้อมกับฝืนยิ้ม

“ลุงไม่อยากแต่งงานใหม่หรือ?  ไม่เหงาบ้างรึไงที่ต้องอยู่คนเดียว?”

ข่านโดดเดี่ยวมานานนับตั้งแต่บุตรชายและภรรยาเสียชีวิตไป
กริดกังวลว่าข่านจะเหงา  ความทรงจำอันโหดร้ายของมาดราได้ตามหลอกหลอนมาถึงปัจจุบัน  
ชายหนุ่มฝืนหลับตาลงเพื่อกลั้นน้ำตา

ราวกับข่านอ่านใจกริดออก

“กระหม่อมอยู่คนเดียวที่ไหน?  ยังมีฝ่าบาทเป็นครอบครัวทั้งคน”

“...”

รอยยิ้มแสนอบอุ่นของข่านได้ทำให้หัวใจกริดบอบช้ำหนักกว่าเก่า

***

‘มีวิธีไหนบ้างที่จะเพิ่มค่าความอดทนลงในไอเท็ม’

จากบรรดาออปชั่นมากมายของสมญานาม ‘กษัตริย์คนแรก’  กริดกำลังสนใจช่องอุปกรณ์สวมศีรษะที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง
เขาสามารถสวมหมวกเหล็กและมงกุฏพร้อมกันได้

ชายหนุ่มยืนหน้าทั่งเล็กพร้อมกับครุ่นคิดถึงวิธีออกแบบมงกุฏให้มอบค่าความอดทน

‘ค่าความอดทนไม่เพียงเพิ่มพลังป้องกันและพลังชีวิต  แต่ยังช่วยเพิ่มความเร็วฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติ  และอาจส่งผลถึงสุขภาพของผู้สวมใส่’

ใช่แล้ว…
กริดหวังจะเพิ่มอายุขัยของข่านด้วยไอเท็ม 
หากได้สวมไอเท็มเพิ่มค่าความอดทน  บางทีข่านอาจมีสุขภาพที่ดีขึ้น
และค่าความอดทนยังเป็นประโยชน์ต่อตัวกริดเองด้วย
พลังป้องกันของกริดสูงมากจากไอเท็ม  ดังนั้น  การเพิ่มพลังชีวิตจะช่วยยกระดับความถึกทนขึ้นหลายเท่า

ยิ่งคู่ต่อสู้มีเลเวลสูง  ระบบส่วนต่างของเลเวลยิ่งลดทอนพลังป้องกันลง  แถมผู้เล่นหลายคนก็มีทักษะมองข้ามพลังป้องกันศัตรู
การเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดคือคำตอบที่ถูกต้องในสถานการณ์ปัจจุบัน

ลงเอยด้วย...

“สติกส์!”

ชายหนุ่มเดินออกจากโรงตีเหล็กและมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนหลวง
เฉกเช่นทุกครั้ง  ภูมิความรู้ของสติกส์คือสิ่งสำคัญ   NPC พิเศษผู้สามารถตอบได้ทุกคำถามที่ตนคาใจ

“โรงแปรธาตุอาจมีคำตอบให้ฝ่าบาท”

“โรงแปรธาตุ...”

กริดขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินชื่อต้องห้าม
ความขุ่นเคืองใจที่มีต่อโรงแปรธาตุไม่เคยจางหาย  กริดไม่มีวันลืมวินาทีที่โรงแปรธาตุเพิ่มออปชั่น ‘ความเท่’ ให้ยารุกต์

“กระผมรู้ดีกว่าฝ่าบาทไม่เชื่อมั่นในโรงแปรธาตุนัก  โรงแปรธาตุขึ้นชื่อในด้านล้มเหลวมากกว่าสำเร็จอยู่แล้ว  แต่เมื่อใดที่มันสำเร็จ  ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะยิ่งใหญ่มหาศาลเสมอ  แทนที่ฝ่าบาทจะมองในแง่ลบอย่างอคติ  ในบางครั้ง  ฝ่าบาทต้องลองฝากโชคชะตาไว้กับโรงแปรธาตุดูบ้าง”

ยิ่งเสี่ยงมาก  ก็ยิ่งได้มาก
นี่คือหลักการของโรงแปรธาตุ

และกริดคือผู้ที่เสี่ยงดวงห่วยแตกเสมอ

‘ทว่า...’

เขาเองก็ตระหนักดี  ตนไม่สามารถหลบเลี่ยงโรงแปรธาตุได้ตลอดชีวิต  
และอันที่จริง  ผู้อนุมัติงบประมาณจำนวนมากเพื่อพัฒนาโรงแปรธาตุในตอนต้น  ก็มิใช่ใครอื่นนอกจากตัวกริดเอง
เขาต้องการเปลี่ยนเรย์ดันให้เป็นทาลิม่าแห่งที่สองมิใช่หรือ?

‘เราเลี่ยงมันไปตลอดไม่ได้...ถึงคราวต้องพึ่งพาแล้วสินะ’

กริดมีสีหน้าเคร่งขรึม  เขาเดินออกจากโรงเรียนหลวงพร้อมกับส่งข้อความหาลอเอล
>>  โรงแปรธาตุเรย์ดันมีเลเวลเท่าไรแล้ว?

>>  ขั้นกลาง Lv.8

>>  ไม่เพิ่มขึ้นเลย?   มันขั้นกลาง Lv.8 มาตั้งแต่หลายเดือนก่อนไม่ใช่รึไง?

ในปัจจุบัน  หน้าที่หลักของโรงแปรธาตุเรย์ดันคือผลิตสุดยอดโพชั่นอย่างต่อเนื่อง
แต่ด้วยปริมาณที่ไม่มากนัก

การมีกิจธรรมอย่างต่อเนื่องควรส่งผลให้โรงแปรธาตุอัพเลเวลขึ้นบ้าง  
กริดคิดเช่นนั้น

มันจึงทำให้เขาทั้งสับสนและผิดหวัง
ลอเอลรีบอธิบาย

>>  หากต้องการเพิ่มเลเวลของโรงแปรธาตุ  พวกเราต้องทุ่มเงินพัฒนามัน  มิใช่ใช้งานเพื่อผลิตสินค้า  แต่การพัฒนาจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล  และสถานการณ์ปัจจุบันบีบบังคับให้มิอาจการะทำเช่นนั้นได้  พวกเรายังต้องส่งบรรณาการให้จักรวรรดิอยู่

>>  ไอ้จักรวรรดิบัดซบ...

จากคำบอกเล่าสติกส์  โรงแปรธาตุต้องมีระดับอย่างน้อยขั้นกลาง Lv.9 เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการเพิ่มออปชั่นค่าสถานะ

จักรวรรดิมักคอยถ่วงแข้งขาเสมอ
กริดเริ่มมีน้ำโห

>>  มีวิธีทำให้พวกจักวรรดิล่มจมบ้างไหม?

>>  มีหนึ่งวิธี...

สมกับเป็นลอเอล
ชายผู้นี้มีแผนรองรับอารมณ์กริดเสมอ

>>  ว่ามา!

>>  ฝ่าบาทต้องเดินทางไปวัลฮัลล่า  จากเหตุการณ์ล่าสุด  จักรพรรดิไม่มีทางยกโทษให้อาเรสแน่  เพราะฝ่ายนั้นเพิ่งชิงตัวผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายมาจากมือกองอัศวินสีชาด  ดังนั้นอีกไม่นาน  จักรวรรดิจะยกทัพบุกวัลฮัลล่าเต็มกำลัง

>>  ให้ฉันไปช่วยอาเรสเนี่ยนะ?  ทางโอเวอร์เกียร์จะไม่แย่กว่าเดิมรึงไง?  

>>  ครั้งนี้ไม่เหมือนกับคราวก่อนที่ร่วมมือในสงครามเบลโต้

>>  ฉันไม่เข้าใจ...ถ้าเราช่วยวัลฮัลล่ารบกับจักรวรรดิ  พวกเราก็จะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของจักรวรรดิไปโดยปริยาย  จักรวรรดิจะลงมือทำอะไรกับโอเวอร์เกียร์บ้างก็ไม่รู้...

>>  ฝ่าบาทจึงต้องไปคนเดียว...แบบปกปิดตัวตน

>> …?

>>  อย่างที่ฝ่าบาทกล่าว  ปัญหาระหว่างเรากับจักรวรรดิจะลุกลามหากนำกองทัพโอเวอร์เกียร์เข้าร่วมวัลฮัลล่า  เป้าหมายถัดจากวัลฮัลล่าคงหนีไม่พ้นโอเวอร์เกียร์แน่  ดังนั้น  พวกเราต้องลอบช่วยเหลือวัลฮัลล่าอย่างเป็นความลับ  ขณะที่ฝ่าบาทไม่อยู่  กระหม่อมจะเตรียมแผนยึดเมืองใต้ดินแวมไพร์ไว้ล่วงหน้า

>>  คุคุคุ...เริ่มคืนมือแล้วสิ

กริดหัวเราะไหล่สั่น
เขามีความสุขที่จะได้เอาคืนจักรวรรดิระยำนี่บ้าง

‘ต้องจัดการพวกมันให้สาแก่ใจ’

ขณะกริดกำลังตื่นเต้น  ลอเอลรีบออกปากเตือน

>>  ฝ่าบาทต้องระวังไว้ให้ดี  ถ้าไม่อยากให้ความแตก  สิ่งที่ต้องปกปิดมิใช่เพียงใบหน้า  แต่รวมถึงวิชาดาบแพ็กม่าด้วย

>>>  …?  จะ...จริงด้วย  แล้วฉันโจมตีธรรมดาได้ไหม?

>>  ...นี่ฝ่าบาทไม่รู้จริงหรือ?  ช่างเถอะ  อย่าให้ความแตกก็พอ   หากประเมินจากความขัดแย้งภายในจักรวรรดิ  วัลฮัลล่ายังไม่ถึงคราวล่มสลาย

ชณะเดียวกัน  
ณ มหานครไททัน

[ ภารกิจลับ ]
ระดับความยาก : SSS
ดยุคแห่งดาบ ‘ลิมิต’ ได้มอบภารกิจลับแก่ท่าน
เพื่อมิให้ ‘ไคล์’ สร้างความดีความชอบสำเร็จ  จงลอบช่วยเหลือวัลฮัลล่าและทำลายไคล์ให้สิ้นชาก
ทางราชวงศ์ยังไม่มีข้อมูลของสมาชิกอัศวินกุหลาบมากนัก  ดังนั้นท่านไม่ต้องกังวลว่าจะถูกกองทัพจักรวรรดิพบเห็น
แต่กรุณางดทำร้ายอัศวินสีชาดให้มากที่สุด  พวกเขาคือฝ่ายเดียวกัน
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ :  ไคล์ตายหรือหนีกลับจักรวรรดิด้วยความล้มเหลว
รางวัลภารกิจ : 
- ไม้เท้าผู้ปกครองความตาย
- ค่าความสัมพันธ์กับดยุคแห่งดาบ ‘ลิมิต’ เพิ่มขึ้น 50 หน่วย

“คิคิคิก!  ภารกิจอะไรกัน?  นี่ฉันต้องช่วยอาเรสสู้กับห้าเสาหลัก  ไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?”

“คุณควรปฏิเสธ...เพราะถึงไคล์จะอ่อนแอที่สุดในห้าเสาหลัก  แต่ว่า...”

“ใครจะปฏิเสธกันเล่า~  ฉันไม่มีทางพลาดภารกิจที่น่าตื่นเต้นขนาดนี้แน่!  คิคิคิก!  คิฮ่าฮ่าฮ่า!”

“...”

ผู้คนมากมายกำลังเดินทางไปรวมกันที่วัลฮัลล่า

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,152
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous