จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 708
มิใช่มังกรหรือจอมอสูรที่เป็นภัยคุกคามสูงสุดของจักรวรรดิซาฮารัน
หากแต่เป็นกษัตริย์แห่งลูบาน่า
มาดรา
จักรวรรดิซาฮารันทำศึกใหญ่กับมาดราทั้งหมด 97 ครั้ง
พวกมันได้รับชัยนะ 0 ครั้ง
กองทัพที่สั่งคมค่าประสบการณ์และเลเวลมากมายจากการทำศึกยึดครองทวีป
กุนซือสมองเพชรที่มีกลศึกลึกล้ำซับซ้อนยากคาดเดา
อัศวินสีชาดที่เป็นสิ่งแทนพลังอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของจักรวรรดิ
ทั้งหมดล้วนไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้ามาดรา
พวกมันเป็นได้เพียงทารก
ต่อหน้าความห้าวหาญของมาดรา ทหารจักรวรรดิกลายเป็นเหล่าคนขลาด
ต่อหน้ากลศึกของมาดรา กุนซือจ้าวกุลยุทธ์แห่งจักรวรรดิล้วนไร้สติปัญญา
ต่อหน้าพละกำลังของมาดรา อัศวินสีชาดกลายบุคคลไร้เรี่ยวแรง
ชาวจักรวรรดิส่วนใหญ่ไม่ล่วงรู้ความจริงเหล่านี้ ข้อมูลมากมายถูกบิดเบือนและปกปิด แต่มันได้ถูกจารึกไว้ชัดเจนในบันทึกประวัติศาสตร์ที่สืบทอดเฉพาะราชวงศ์ซาฮารัน
『 หากมาดรามีอายุขัยเพิ่มขึ้นสามปี อาณาจักรอื่นจะยอมตกเป็นเมืองขึ้นลูบาน่าแทนจักรวรรดิ
หากมาดรามีอายุขัยเพิ่มขึ้นห้าปี จักรวรรดิจะเหลือดินแดนให้ปกครองเพียงครึ่งเดียว
หากมาดรามีอายุขัยเพิ่มขึ้นสิบปี จักรวรรดิจะถูกลบออกจากแผนที่โลกโดยสมบูรณ์ 』
ราชาไร้พ่าย
นามอันยิ่งใหญ่ได้สลักความกลัวลงในราชวงศ์ซาฮารันนานหลายร้อยปี
นี่คือสาเหตุที่จักรวรรดิกดขี่ลูบาน่ามากกว่าเมืองขึ้นใดทั้งหมด
พวกมันหวาดกลัวอาณาจักรที่หล่อหลอมให้มาดรากลายเป็นมาดรา
พวกมันไม่ต้องการให้ราชาไร้พ่ายคนที่สองถือกำเนิด จึงข่มเหงอาณาจักรลูบาน่าทุกวิถีทางอย่างออกนอกหน้า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันจะรู้สึกตื่นตระหนกขนาดไหน เมื่อมีชายลึกลับอ้างตนเป็นผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายปรากฏตัวขึ้นในลูบาน่า
แม้กระทั่งฮวนเดอร์ผู้องอาจแลสง่างามตลอดเวลา มันคนนี้ถึงกับตัวสั่นด้วยความเดือดดาลบนบัลลังก์ยักษ์
“บดขยี้ผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายให้สิ้นซาก!!”
องค์จักรพรรดิออกประกาศราชโองการ
กองทัพจักรวรรดิอันเกรียรไกรเคลื่อนพลโดยมีอัศวินสีชาดเป็นแกนนำ
กลุ่มกบฏลูบาน่าถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดไร้ความปราณี
ทว่า...พวกมันกลับมิอาจสนองพระประสงค์ขององค์จักรพรรดิฮวนเดอร์
ด้วยการแทรกแซงจากอาเรส กษัตริย์แห่งวัลฮัลล่า กองอัศวินสีชาดนำโดยเมอร์เซเดสพลาดตัวผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย
ทุกสิ่งนำมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน
กองอัศวินสีชาดต้องรับผิดชอบในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ภารกิจใหม่ของพวกมัน บดขยี้อาณาจักรวัลฮัลล่าที่กล้าเป็นปรปักษ์กับจักรวรรดิ
จากนั้นก็ทำลายผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายให้สิ้นซาก
นี่คือภารกิจใหม่ที่โรเล็กซ์และอัศวินสีชาดที่เหลือได้รับ
โรเล็กซ์ครุ่นคิด
ภารกิจนี้ยากจะทำให้สำเร็จ
การบดขยี้วัลฮัลล่าไม่ใช่เรื่องยากก็จริง แต่พวกมันไม่มั่นใจเลยสักนิด ว่าจะหาตัวผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายพบอย่างที่องค์จักรพรรดิต้องการ
ทว่า…
“ดาบสกัดทัพหนึ่งแสน”
เป้าหมายที่พวกมันกำลังตามหา แท้จริงแล้วอยู่เพียงเบื้องหน้านี้เอง
“ผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย…!”
ดวงตาโรเล็กซ์พลันเบิกโพลงพร้อมกับเหงื่อไคลที่ชุ่มร่าง
ชายลึกลับที่ทำลายกองทัพจักรวรรดิไปมากมาย แถมยังดวลกับมันได้อย่างสูสี
แท้จริงแล้วเป็นผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายเองหรือ?
‘เป็นไปไม่ได้…!’
ไม่นานมานี้ โรเล็กซ์เคยเห็นผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายที่ลูบาน่า
ดูเหมือนผู้ที่แอบอ้างเป็นผู้สืบทอดในลูบาน่าจะเป็นตัวปลอม
แตกต่างจากตำนานไร้พ่ายโดยสิ้นเชิง ชายที่อ้างตัวเป็นผู้สืบทอด มันมีฝีมือแสนธรรมดาและน่าเบื่อหน่าย
แถมไม่เคยใช้วิชาดาบของราชาไร้พ่ายแม้แต่ครั้งเดียว
เช่นนั้นแล้ว ผีตนนี้เป็นใคร?
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์กบฏลูบาน่า บุคคลที่ใช้วิชาดาบราชาไร้พ่ายได้ปรากฏตัวต่อหน้าอัศวินสีชาด
ดาบสกัดทัพหนึ่งแสน
วิชาดาบต้องสาปที่เล่าขานสืบต่อกันมาภายในตรกูลโรเล็กซ์
ตำนานกล่าวไว้ว่า เพียงราชาไร้พ่ายกวัดแกว่งดาบในมือ กองทัพนับแสนของจักรวรรดิล้วนถูกตรึงร่างจนขยับไม่ได้
“เหลวไหลสิ้นดี!”
โรเล็กซ์ตะเบ็งเสียงอย่างเดือดดาล มันไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าตำนานเป็นความจริง
ตำนานไร้พ่ายเป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งเติมให้ดูน่าเกรงขามเท่านั้น ราชวงศ์ซาฮารันไม่ต้องการยอมรับว่าพวกตนไร้ฝีมือ จึงอุปโลกน์ให้ศัตรูเก่งกาจพิสดารเหนือมนุษย์
โรเล็กซ์และตระกูลคิดเช่นนั้นมาตลอด
ต้องเป็นวิชาดาบที่เหลวไหลเกินจริงขนาดไหนกัน? ถึงสามารถผนึกทหารจำนวนหนึ่งแสนคนได้ในการฟาดฟันหนเดียว
แม้แต่ในนิยายเกรดต่ำก็ยังไม่มีวิชาดาบทำลายสมดุลเช่นนี้ปรากฏ
โรเล็กซ์มองทุกสิ่งเกี่ยวกับตำนานไร้พ่ายเป็นเพียงเรื่องแต่งเติม
และชายบนท้องฟ้าคงล้อเลียนตะโกนชื่อท่าให้คล้ายคลึงตำนานเท่านั้นเอง
แต่ว่า...
บึ้มบึ้ม—
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—
หมอกสีม่วงเข้มฟุ้งกระจายไปทั่วสนามรบ ทุกศัตรูที่กริดมองเห็นล้วนถูกปราณต่อสู้ม่วงแดงแผ่พุ่งเข้าห้อมล้อมร่างกาย
ในวินาทีที่ตัวมันและอัศวินทุกคนได้รับผลของทักษะ
โรเล็กซ์ตระหนักได้ทันที…
ตำนานคือเรื่องจริง
[ ท่านถูกผนึก ]
[ ท่านไม่สามารถขยับร่ายกาย ใช้ทักษะ และเวทมนตร์ได้นาน 3 วินาที ]
“บ้าน่า…!”
ตำนานเป็นเรื่องจริงหรือนี่?
โรเล็กซ์พลันหน้าถอดสีเมื่อแข้งขาเริ่มไร้เรี่ยวแรง
อัศวินสีชาดที่เหลือก็ไม่ต่างกัน
ชิ้ง!
ดาบยาวเล่มหนึ่งฟาดฟันจากด้านบน
เป็นคือดาบในมือกริด เล่มเดียวกับที่ใช้ดาบสกัดทัพหนึ่งแสนเมื่อครู่
“แกนะแก…!”
โรเล็กซ์พยายามรับการโจมตีด้วยขวานใหญ่
แต่กริดกำลังมีความเร็วโจมตีเต็มพิกัดด้วยผลบัฟพลิ้วไหวและโทสะช่างตีเหล็ก
โรเล็กซ์มิอาจต้านรับการโจมตีหกครั้งซ้อนในหนึ่งวินาทีได้
บึ้มมมม—
แรงระเบิดสีดำฟุ้งกระจายโดยมีศีรษะของโรเล็กซ์เป็นศูนย์กลาง
บึ้มมมมม—
เพลิงทมิฬสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในระยะสิบเมตร
โรเล็กซ์ที่ตกเป็นเป้าการโจมตี รวมถึงอัศวินสีชาดที่ยืนแข็งทื่อรอบข้าง ทั้งหมดล้วนได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนต้องกระอักเลือด
กองทัพอาเรสที่เฝ้ามองรอบนอกถึงกับสั่นสะท้าน
อัศวินสีชาด
กองอัศวินอันดับหนึ่งของทวีป สัญลักษณ์ทางพลังอำนาจของจักรวรรดิซาฮารันมาช้านาน
กริดได้สลักความหวาดกลัวลงในใจพวกมันด้วยพลังที่น่าทึ่ง
กองทัพที่อาเรสยำเกรง
กองทัพที่อาเรสเคยหวาดหวั่น แต่กริดกลับเป็นฝ่ายมอบความรู้สึกเหล่านั้นคืนกลับพวกมัน...
ด้วยตัวคนเดียว
“บ้าบอสิ้นดี…!”
อาเรสตื่นเต้นจนเผลอหลุดปาก
“เจ๋งเป้ง!! ยอดเยี่ยมมาก!! กริด...นายคือที่หนึ่ง!!”
กริด
ผู้เล่นตำนานคนแรกของโลก
กษัตริย์คนแรก
ราชาวีรบุรุษ
หากชายคนนี้ไม่ถูกเรียกว่าที่หนึ่ง แล้วจะมีใครเหมาะสมกับคำนี้อีก?
อาเรสกล่าวชมกริดจากก้นบึ้งหัวใจ
ไม่มีสมาชิกกองทัพอาเรสคนใดโต้แย้ง
ส่วนทางฝั่งกริด…
‘ที่หนึ่งงั้นหรือ...’
ดวงตาของกริดเริ่มแดงก่ำอย่างตื่นตัน
ตึกตัก!
หัวใจกริดกำลังเต้นโครมครามจากคำชมของอาเรส ขณะเดียวกัน เขาก็ลงมือจ้วงแทงโรเล็กซ์ด้วยความเร็วสูงสุด
‘เราคือที่หนึ่ง...’
เขาไม่ได้หลงตัวเอง
ทุกคนต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกัน
กริดตระหนักได้ทันที
ในวินาทีนี้ ตนคือผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกอย่างไร้ข้อกังขา
ชีวิตในอดีตที่มีแต่คนเรียกว่าไอ้งั่ง
ความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้นเพราะความสมองทึบและไร้พรสวรรค์
ปัจจุบัน กริดได้รับสิทธิ์ครอบครองตำแหน่งอันดับหนึ่ง ตำแหน่งที่ตนเคยเชื่อว่า ต้องเป็นอัจฉริยะเท่านั้นถึงคว้ามาได้
[ ปราณต่อสู้กลายเป็น 60 หน่วย ]
ไม่มีสิ่งใดน่ายินดีไปกว่านี้อีกแล้ว สำหรับกริด ชายผู้ถูกดูแคลนมาทั้งชีวิต
คำกล่าวชมเมื่อครู่มิได้มาจากผู้เล่นธรรมดาทั่วไป
แต่มาจากเทพสงครามอาเรส บุคคลที่มีพลังอำนาจมากมายในมือ ผู้ที่จะกลายเป็นกษัตริย์คนแรกหากกริดไม่มีลอเอล
ดวงตากริดเริ่มพร่ามัวขณะฟาดฟันดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรม
“ตายซะเถอะ…!”
เมื่อหลุดพ้นจากอาการถูกผนึก โรเล็กซ์ควงขวานเหวี่ยงใส่กริดพร้อมกับคำรามกึกก้อง
เป็นท่าโจมตีใหม่ที่มันไม่เคยใช้ใส่กริดมาก่อน
ขวานยักษ์ในมือโรเล็กซ์ซัดโจมตีใส่กริดสามจุดพร้อมกันอย่างน่าฉงน
นี่คืขวานสามแฉก หนึ่งในทักษะสร้างชื่อให้โรเล็กซ์มาช้านาน
“ต่อให้เร็วแค่ไหน แกก็ไม่มีทางหลบขวานนี้ได้แน่!”
มันคำรามอย่างมั่นใจ
กริดพ่นลมหายใจเย้ยหยัน
“ต่อให้เป็นความจริง...แล้วมันยังไง?”
“…!!”
โรเล็กซ์พลันตระหนักถึงความผิดพลาด
ชายที่อยู่เบื้องหน้ามัน...
ผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย
ปัจจุบัน ความเร็วของศัตรูเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน ทำให้โรเล็กซ์คำนวณว่าอีกฝ่ายต้องคิดหลบหลีกแน่
แต่ในการดวลที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่มีเลยสักครั้งที่ผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายพยายามหลบหลีกขวานของมัน…
การหลบไม่จำเป็นเลยสักนิด
ต่อให้ฟาดฟันโดน ก็ใช่ว่าจะถึงแก่ความตายในพริบตาสักหน่อย
เปรี้ยงง!
ในเสี้ยววินาทีที่ขวานโรเล็กซ์กระแทกชุดเกราะกริด
ฉึก!
ฉึกฉึกฉึก—
กริดสวนกลับอย่างแม่นยำดุดัน
รเล็กซ์ยังคงมีดีบัฟถูกโจมตีรุนแรงขึ้นสามเท่า
“อ๊ากกก!”
ฝ่ายที่แลกมวยวัดแล้วบาดเจ็บหนักกว่า หนนี้กลายเป็นโรเล็กซ์ มิใช่กริด
อัศวินสีชาดต่างกรูเข้ามาหาโรเล็กซ์หวังจะช่วยเหลือ
บึ้มมมมม—
ระเบิดเปลวเพลิงสีดำได้ชะงักฝีเท้าพวกมันไว้
“บ้าบอสิ้นดี…!”
เหตุใดศัตรูถึงเสกระเบิดทรงอานุภาพเช่นนี้ได้ต่อเนื่องไม่มีวันหมด?
ชายผู้นี้มีมานาอนันต์รึยังไง?
อัศวินสีชาดที่หวาดกลัวเริ่มพึมพำอย่างสิ้นหวัง
“สมกับเป็น...พลังของราชาไร้พ่าย”
“…!”
ราชาไร้พ่าย
นั่นสินะ ศัตรูตรงหน้าคือผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย
มิอาจนำสามัญสำนึกคนทั่วไปมาเปรียบเทียบได้
ขณะพวกมันกำลังครุ่นคิด
[ ปราณต่อสู้กลายเป็น 70 หน่วย ]
ปราณต่อสู้หมอกม่วงที่รอบกายกริด ปัจจุบันจางลงหลายส่วนหลังจากใช้ดาบสกัดทัพหนึ่งแสน
ขณะนี้ มันเริ่มก่อตัวเข้มข้นขึ้นอีกระลอก
เป็นผลมาจากบัฟพลิ้วไหวและโทสะช่างตีเหล็ก
ยิ่งกริดโจมตีได้รวดเร็วเท่าใด ปราณต่อสู้ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนรวดเร็วมากเท่านั้น
[ ปราณต่อสู้กลายเป็น 71 หน่วย ]
[ ปราณต่อสู้กลายเป็น 72 หน่วย ]
[ ปราณต่อสู้กลาย... ]
เร็วขึ้น…
เร็วขึ้นอีก!
โดยเฉพาะอัศวินสีชาดที่กรูเข้าช่วยเหลือโรเล็กซ์เป็นจำนวนมาก พวกมันคือต้นตอของหายนะฝ่ายตัวเอง
ยิ่งมีผู้คนรายล้อมมาก ภัยพิบัติจากกริดก็ยิ่งรุนแรงทรงพลัง
จนกระทั่ง...
[ ปราณต่อสู้เพิ่มถึงค่าสูงสุด ]
บัฟพลิ้วไหลและโทสะช่างตีเหล็กเหลืออีกเพียงสิบวินาที
ข้อความระบบปรากฏขึ้นที่มุมสายตาระหว่างกริดกำลังยื้อชีวิตให้รอดด้วยแหวนโดรัน แหวนเอลฟิน·สโตน โพชั่น พลังทีราเม็ท และบาเรียคุ้มกายจากสมญานามกษัตริย์คนแรก
“รุมโจมตี!”
โรเล็กซ์และอัศวินสีชาดบุกโจมตีจากทุกทิศทางอย่างฮึกเหิม
มันมั่นใจว่า กริดพยายามยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ และปัจจุบันก็ดำเนินมาถึงขีดจำกัดแล้ว
ได้เวลาจบการต่อสู้ไร้สาระเสียที
กริดเองก็คิดแบบเดียวกัน…
ได้เวลาจบการต่อสู้ไร้สาระเสียที
ปัจจุบัน ด้วยบัฟจากปราณต่อสู้ 100 หน่วย ค่าพละกำลัง ความว่องไว และความอดทนจึงเพิ่มขิ้นจากปรกติ 50%
กริดตัดสินใจใช้ทักษะหนึ่งที่อาจทำให้ตัวตนถูกเปิดเผย ทักษะที่ราชาโอเวอร์เกียร์เคยใช้มาก่อน
“ร่างมืด”
บรึ้มม—
พลังอสูรระเบิดฟุ้งกระจายไปทั่วบรรยากาศ...จากนั้น
“ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน”
“…!!”
ฟุบฟุ่บฟุ่บ—
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—
30 ครั้งในหนึ่งวินาที
วิชาดาบที่รวดเร็วที่สุดถูกปลอดปล่อยด้วยความเร็วที่ตามนุษย์มองไม่ทัน
บรรยากาศสนามรบพลันมืดมนด้วยคลื่นดาบขุมนรกที่อัดแน่นทุกอนู
โรเล็กซ์และอัศวินสีชาดต่างถูกโจมตีอย่างพร้อมหน้า
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 65,900 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 67,800 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 66,670 หน่วย ]
[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ สร้างความเสียหาย 300% ของพลังโจมตีกายภาพไปยังทุกเป้าหมายในรัศมี 10 เมตร ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 32,100 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 29,500 หน่วย ]
[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ ท่านสร้าง... ]
[ ท่านสร้าง... ]
สาเหตุที่กริดชื่นชอบ ‘ร่ายรำ’ เป็นพิเศษ เพราะทักษะดังกล่าวมีจำนวนครั้งโจมตีมาก ส่งผลให้เพลิงทมิฬทำงานถี่
และแน่นอน หลักการเดียวกันได้ถูกนำมาใช้กับดาบพินาศทัพหนึ่งแสน
แต่มิใช่การโจมตีเป้าหมายเดียวเฉกเช่นร่ายรำ ดาบพินาศทัพหนึ่งแสนคือการโจมตี 30 ครั้งเป็นวงกว้างรัศมี 10 เมตร
โอกาสเกิดเพลิงทมิฬเท่ากับจำนวนศัตรูภายในรัศมีสิบเมตรคูณด้วย 30…
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
บึ้มบึ้ม—
“...”
ในปัจจุบัน เวทมนตร์โจมตีอันดับหนึ่งที่ผู้เล่นรู้จักคือ ‘อุกกาบาต’
แล้วเหตุใด สิ่งที่มีความรุนแรงเทียบเท่าเวทอุกกาบาต ถึงถูกใช้ออกมาอย่างไร้สิ้นสุดดังเช่นฉากตรงหน้า?
ท่ามกลางระเบิดเพลิงทมิฬอันบ้าคลั่งหลายระลอก อาเรสและสมาชิกกองทัพต่างทำได้เพียงยืนจ้องมองด้วยใบหน้าขาวซีด
แรงระเบิดได้ป่นสนามรบป่าลิเบรอนให้แหลกเป็นผุยผง
และในวันนี้
[ ท่านสังหารอัศวินสีชาดลำดับ 23 ‘โรฟ’ ]
[ ท่านสังหารอัศวินสีชาดลำดับ 26 ‘เคนท์’ ]
[ ท่านสังหารอัศวินสีชาดลำดับ 29 ‘ออร์โด’ ]
[ ท่านสังหารอัศวินสีชาดลำดับ 12 ‘ธีโอ’ ]
[ ท่านสังหารอัศวินสีชาดลำดับ 14 ‘เฉิน’ ]
[ ท่านสังหารอัศวินสีชาดลำดับ 25 ‘วิโอ’ ]
…
…
อัศวินหลัก 30 และ 20 ล้วนดับอนาถในพริบตา
ถัดมาก็เป็นอัศวินหลักสิบ
จนกระทั่ง…
[ ท่านสังหารอัศวินสีชาดลำดับ 3 ‘โรเล็กซ์’ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม ‘เกราะสีชาด’ ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม ‘เกราะสีชาดของโรเล็กซ์’]
[ ท่านได้รับไอเท็ม ‘ขวานยักษ์โรเล็กซ์’ ]
อัศวินสีชาดลำดับสาม...โรเล็กซ์
มันเองก็จบชีวิตลงในสงครามนี้
“ป—เป็นไปไม่ได้…!”
“ผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายยยย!!”
อัศวินสีชาดที่เหลือรอดต่างรวมตัวกันรอบอัศวินลำดับห้า
พวกมันไม่บาดเจ็บมากนัก คนเหล่านี้มิได้ถูกแรงระเบิดอย่างจัง และมิได้ถูกโจมตีแรงขึ้นสามเท่าเหมือนโรเล็กซ์
ทักษะป้องกันตัวช่วยให้พวกมันเอาชีวิตรอดมาจากสะเก็ดระเบิดเพลิงทมิฬได้
ขณะเดียวกัน กริดกำลังอ่อนล้าสุดขีด
[ พลิ้วไหวหมดเวลา ]
[ โทสะช่างตีเหล็กหมดเวลา ]
“แฮ่ก...แฮ่ก...”
กริดกำลังอยู่ในสภาพไร้ทักษะให้พึ่งพา
ทุกบัฟหมดเกลี้ยง
พลังชีวิตสูงสุดเหลือเพียงครึ่งเดียวจากผลของร่างมืด
‘เราสู้ไม่ไหวแล้ว...’
ไม่ใช่เรื่องดีแน่หากต้องเสียประกันชีวิตอมตะอย่างไร้ค่า
สิ่งนั้นคือที่พึ่งสุดท้ายของสุดท้าย
กริดมองหาช่องทางหลบหนีออกจากสนามรบ ก่อนที่ผลของร่างมืดจะหมดลง
เขาต้องหลีกให้ไกลจากอัศวินสีชาด
แต่น่าเสียดายที่กริดมิอาจขยับตัวได้
เปรี้ยง!
เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!
[ สายฟ้าอันทรงพลังได้ทำให้ร่างกายท่านเป็นอัมพาต ]
[ ท่านมิอาจต้านทาน ]
[ ผลของค่าสถานะ ‘ความเยือกเย็น’ ช่วยให้ท่านหายจากอาการผิดปรกติเร็วขึ้น ]
“เรามิเคยเห็นอัศวินสีชาดพินาศย่อยยับเช่นนี้มาก่อน สมกับเป็นผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย ฝ่าบาทต้องพอพระทัยแน่หากเรานำเจ้ากลับไปได้”
สุ้มเสียงของชายปริศนาดังจากห้วยมิติอันว่างเปล่า
สายฟ้าทรงพลังที่กริดมิอาจต้านทาน
สิ่งที่รุนแรงยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ คือผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง
ชายหนุ่มเริ่มเย็นสันหลังวาบ
‘ใครกัน?’
กริดขมวดคิ้วฉงน
ทันใดนั้น ร่างของชายลึกลับได้ปรากฏตัวเบื้องหน้ากริด
มนุษย์ที่ขาวโพลนไปทั้งตัว
ผิวหนังขาวซีดเหมือนกระดาษ สอดประสานกับเส้นผมสีขาว คิ้วสีขาว หรือแม้กระทั่งนัยน์ตาสีขาว
“สวัสดี...เรามีนามว่าไคล์”
หนึ่งในห้าเสาหลักผู้คำจุนจักรวรรดิซาฮารัน
นี่คือวินาทีที่สุดยอดตัวตนลักลับของทวีป ได้ปรากฏตัวต่อหน้ากริด
“เอาล่ะ...ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว”
เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!
“อึก…!”
[ อาการอัมพาตเหลืออีก 1 วินาที ]
ร่างไคล์กำลังห่อหุ้มด้วยพลังอัสนีมหาศาลรอบตัว
มันเหยียดปลายนิ้วมาทางกริดพร้อมกับปลดปล่อยเวทมนตร์อัสนีทรงพลัง
เปรี้ยะ!
ทว่า...
“ปลุกศพ”
ซู่วว—
ด้านหลังไคล์ อัศวินความตายปริศนาได้ลุกขึ้นจากบริเวณที่โรเล็กซ์เสียชีวิต
ใช่แล้ว อัศวินความตายโรเล็กซ์
“...หืม?”
ไคล์พลันสะดุ้งเมื่อมันถูกโจมตีไม่คาดฝันจากด้านหลัง
[ ท่านหลุดพ้นจากอัมพาต ]
กริดสลัดไฟฟ้าสถิตย์ที่ครอบงำร่างออกสำเร็จ
ขณะที่เขารีบถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างจากไคล์ กริดก็ได้ยินสำเนียงพูดที่ตนคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“คิคิก…! แกคือเหยื่อของฉัน คนที่ฆ่าแกได้มีเพียงฉันเท่านั้น”
“นี่แก...”
กริดถึงกับผงะ
ดวงตาสีทอง รอบดวงตาสีดำสนิท
บุคคลที่ช่วยตนไว้จากความตายมิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นแอ็กนัส
เส้นผมสีเขียวเข้ม
ผิวหนังขาวซีดค่อนไปทางซากศพ
ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลปรากฏกาย
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,152
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
รอ~~~
ReplyDeleteรออีกสองวัน สนุกมากครับ
ReplyDeletemotto hayaku!! เร็วขึ้นอีกก!!
ReplyDelete