จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 705
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 705
บนฉากหน้า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คืออาณาจักรวางตัวเป็นกลาง
เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาเพิ่งเลิกส่งบรรณาการให้จักรวรรดิ แถมยังมีเมืองขึ้นอีกสองแห่งคอยส่งบรรณาการให้
คนภายนอกต่างมองว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ล้วนเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ
แต่ความจริงคือสิ่งใด?
รอบตัวอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ล้วนมีศัตรูเต็มไปหมด
ไม่มีคำพูดใดสามารถอธิบายเหตุการณ์ปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมไปมากกว่า :
จักรวรรดิซาฮารันคือราชสีห์เพศผู้ ส่วนอาณาจักรโอเวอร์เกียร์คือกว้างน้อยที่มีสิงโตตัวเมียรายล้อมมากมาย
ในสายตาจักรวรรดิ โอเวอร์เกียร์เป็นเพียงอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่พร้อมเสริฟทุกเมื่อ
กริดตระหนักถึงความจริงอันน่าคับแค้นใจนี้เป็นอย่างดี
อาณาจักรที่ตนและพวกพ้องร่วมสร้างด้วยหยาดเหงื่อ ปัจจุบันกลับเป็นเพียงปราสาททรายแสนเปราะบาง
เฮ่อ…
‘อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น...’
กริดไม่พลาดโอกาสมอบความฉิบหายให้จักรวรรดิไม่ว่าจะทางตรงหรืออ้อม
การฆ่าทหารจักรวรรดิหนึ่งนายจะหมายถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของชาวเมืองโอเวอร์เกียร์
ไม่สนว่าการปรากฏกายครั้งนี้จะมีเกียรติหรือไม่
***
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 17,870 หน่วย ]
[ เปลวเพลิงขนาดใหญ่แสดงผล สร้างความเสียหาย 5,000 หน่วยแก่เป้าหมาย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 20,100 หน่วย ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ พลังอสูรเพิ่มขึ้น1 หน่วย ]
นี่คือผลจากการผสานระหว่างค่าพละกำลัง 3,000 แต้มและดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรม
ทหารทัพจักรวรรดิถูกกริดฟันธรรมดาเพียงสองครั้งและกลายเป็นแสงสีเทา
เลเวล 230 และชุดเกราะคุณภาพสูงกลางเป็นสิ่งไร้ค่าทันที
ดาบอัสนนีแห่งการบรรลุสัจธรรมเพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 20% โบนัสการโจมตีธาตุไฟ 30% โบนัสการโมตีธาตุมืด 30% และธาตุสายฟ้า 15%
นอกเหนือจากออปชั่นเหล่านี้ กริดยังมีทักษะติดตัวสุดโหดมากมาย
ทักษะ ‘ความชำนาญอาวุธทุกชนิด’ ที่ได้รับจากหมู่เกาะเบเฮ็น ปัจจุบันอยู่ที่ขั้นกลาง Lv.5 ผลของมันช่วยเพิ่มพลังโจมตี 17%
ถัดมาคือวิชาดาบแพ็กม่า Lv.4 ในโหมดปรกติ มันช่วยเพิ่มพลังโจมตี 34%
ถัดมาเป็นพลังอวยพรจากเทพโดมิเนี่ยน พาเฟรเนี่ยมหัตถ์เทวะจึงเพิ่มพลังโจมตีแก่ผู้เป็นนาย 15%
บัฟ บัฟ บัฟ แล้วก็บัฟ…
ทุกสิ่งส่งเสริมให้การโจมตีธรรมดาของกริดกลายเป็นการฟาดฟันจากปีศาจ
หมดหรือยัง?
[ ท่านอัญเชิญสายฟ้าสีชาด ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 44,900 หน่วย ]
[ เป้าหมายตกอยู่ในอาการ ‘ชะงัก’ 1.2 วินาที ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ กระจายความเสียหาย 300% ของพลังโจมตีกายภาพใส่ทุกเป้าหมายในระยะ 10 เมตร ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เป้าหมายเสีย... ]
…
...
[ พลังอสูรเพิ่มขึ้น 232 หน่วย ]
บรรดาออปชั่นนานับชนิดเรียงคิวแสดงผลหลังจากกริดกวัดแกว่งดาบด้วยการโจมตีธรรมดา
นี่คือความสุดยอดของทักษะทิ่ติดมากับไอเท็มเกรดมิธ…
พวกมันไม่มีระยะหน่วงและไม่สิ้นเปลืองมานา
กริดเป็นราวกับปีศาจสงคราม
“ว๊ากกก!”
เกิดความวุ่นวายโกลาหลเป็นวงกว้าง
การโจมตีธรรมดาของกริดที่ส่งผลร้ายแรงยิ่งกว่าการใช้ทักษะของผู้เล่นบางคน ได้ทำลายกองทหารจักรวรรดิจนราบคาบชนิดยากจะฟื้นฟู
“ศัตรู! มีศัตรูอยู่ด้านหลังทัพ!”
“ทหารกว่าร้อยนายจบชีวิตลงภายในแรงระเบิดครั้งเดียว…! ต้องเป็นมหาจอมเวทแน่!”
“วัลฮัลล่ามีมหาจอมเวทได้ยังไง? เตรียมรับมือเวทมนตร์ขนาดใหญ่เร็วเข้า!”
ทัพจักรวรรดิคือกองทหารที่แข็งแกร่งและมีระดับวินัยอันดับหนึ่งของทวีปตะวันตก
พวกมันสามารถสยบความวุ่นวายแม้จะถูกอาเรสซุ่มโจมตีและถูกกริดปั่นป่วนด้านหลัง
ศัตรูที่ปรากฏหลังกองทัพเป็นฝ่ายใด?
มีจำนวนเท่าไร?
ต้องรับมืออย่างไร?
และอีกมากมาย
ด้วยระบบสั่งการที่มีประสิทธิภาพ พวกมันเคลื่อนที่และจัดการปัญหาด้วยความรวดเร็ว
เมื่อได้เห็นสายฟ้าสีแดงและระเบิดเพลิงสีดำ จึงเริ่มเกิดการวิเคราะห์ว่าอีกฝ่ายคือมหาจอมเวท
เหล่าทหารต่างนำโล่ต่านทานเวทมนต์ออกมาถือ ขณะที่กลุ่มนักดนตรีได้ขับขานบทเพลงลดทอนความเร็วร่ายเวทมนตร์
งี่เง่าสิ้นดี...
“…? พวกแกขุดหลุมฝังศพตัวเองทำไมกัน?”
ท่ามกลางมหาสมุทรทหารทัพจักรวรรดิ กริดแสยะยิ้มชั่วพร้อมกับบุกตะลุยฝ่าเข้าไปอย่างง่ายดาย
สงครามง่ายขึ้นสำหรับกริดเมื่ออีกฝ่ายลดพลังป้องกันกายภาพและเพิ่มพลังป้องกันเวทมนตร์
เขาได้แต่นึกสงสัย
มีสายสืบของตนคอยแอบช่วยเหลือจากด้านในรึเปล่า?
“ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ขอบใจพวกแกมาก!”
ฉึก!
ฉึกฉึกฉึก!
สี่ครั้งต่อหนึ่งวินาที
การฟาดฟันดาบยาวโดยสวมถุงมือว่องไวอเล็กซ์ ราวกับทำให้ท่อนแขนกริดบางเบาเหมือนขนนก
ทหารทุกคนที่ตกเป็นเป้าจะมีอายุขัยไม่ถึงหนึ่งวินาที และเมื่อเพลิงสีดำระเบิดออก ทหารนับร้อยนายจะสิ้นชีพในพริบตา
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
บึ้มบึ้ม—
ผืนป่าลิเบรอนบางส่วนถูกแปรเปลี่ยนเป็นหลุมอุกกาบาต
แรงระเบิดจากเพลิงทมิฬเป็นราวกับภัยพิบัติที่ทัพจักรวรรดิต่างหวาดหวา
ทุกครั้งที่เพลิงทมิฬทำงาน ฉากสุดสลดหดหู่จะปรากฏเบื้องหน้าพวกมันทุกคน
หากยังรักษาความเร็วเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าทัพห้าหมื่นอาจไม่เหลือซากภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
นายกอง ‘บีท’ แห่งจักรวรรดิได้แต่จ้องมองด้วยความทึ่ง
“ป—ปีศาจ! นั่นมันตัวอะไร!!”
เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงห้านาทีหลังจากเกิดระเบิดระลอกแรก
บีทแหวกกลุ่มทหารมาถึงจุดเกิดเหตุด้วยความเร็วสูงสุด แต่แล้วมันต้องทึ่งกับภาพตรงหน้า
อีกฝ่ายมิใช่มหาจอมเวทดังที่ทุกคนคาดคิด
ในมือกำอาวุธประเภทดาบ
แถมยังมีเพียงคนเดียว
ทุกครั้งที่ดาบกวัดแกว่ง…
“อ๊ากกก!”
จักต้องมีผู้หลั่งเลือดเสมอ
ครืนนนน!
เปรี้ยงงง—
มีทั้งสายฟ้าสีชาดและเพลิงทมิฬ
ค่ายกลทัพจักรวรรดิที่เป็นระเบียบแบบแผนต่างไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าชายผู้นี้
“วัลฮัลล่ามีปีศาจได้ยังไง...?”
ความเร็วของดาบในมือศัตรูไม่ใช่สิ่งที่จะมองทันด้วยตาเปล่า
ต้องมีมานาไร้ขีดจำกัดขนาดไหนกัน ถึงสามารถร่ายเปลวเพลิง สายฟ้าสีแดง และระเบิดพลังอสูรได้ต่อเนื่องยาวนานเช่นนี้?
บีทกำลังจ้องมองชายสวมหมวกฟางด้วยสีหน้าหวาดหวั่น มันประเมินให้อีกฝ่ายเก่งกาจไม่ด้อยไปกว่าอัศวินหลักเดียว
อย่างน้อยก็ลำดับห้า...
“ซ—เซอร์โรเล็กซ์! รีบขอกำลังสนับสนุนจากเซอร์โรเล็กซ์!!”
นักดาบปริศนากำลังตีฝ่าทัพจักรวรรดิเข้ามาใกล้มันทุกขณะ
ยิ่งเวลาผ่านไป ชีวิตของทหารหลายร้อยได้จบสิ้นลงในพริบตาราวกับเป็นเรื่องโกหก
บึทสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายร้ายแรงที่กำลังมาเยือน
ทัพหลังจะแตกกระเจิงหากปล่อยให้ปีศาจตนนี้รุกคืบเข้ามาใกล้
มีเพียงพลังอัศวินสีชาดเท่านั้นที่สามารถหยุดยั้งหายนะเบื้องหน้า
ทันใดนั้น เสียงตะโกนของทหารหน่วยประสานงานได้ดังขึ้น
“อัศวินสีชาดติดกับศัตรู!”
“เซอร์โรเล็กซ์กำลังปะทะกับแม่ทัพศัตรู!”
มีแต่รายงานที่ฟังแล้วหดหู่สิ้นหวัง
“ทุกคนถอย! ฉันจะหยุดมันเอง!”
ลงเอยด้วย บีทต้องออกโรงด้วยตัวเอง
มันคือหนึ่งในนายกองผู้ยิ่งใหญ่แห่งกองทัพจักรวรรดิ
อาจไม่เทียบเท่าอัศวินสีชาด แต่ฝีมือตนมิได้อ่อนหัด บีทมั่นใจมาก ตนจะตรึงปีศาจเบื้องหน้าไว้ได้นานหลายนาที
‘ลิซซี่...ฉันขอโทษ คงกลับไปหาเธอไม่ได้แล้ว’
บีทจุมพิตจี้ห้อยคอก่อนจะพุ่งเผชิญหน้าปีศาจลึกลับตามลำพัง
นั่นคือคำอำลาที่มีต่อภรรยาสุดที่รัก
“แด่องค์จักรพรรดิ!!”
“ย๊ากกกกก!!”
นายกองบีทหมายจะดึงขวัญกำลังใจทัพจักรวรรดิกลับคืนมาอีกครั้ง
ต่อหน้าปีศาจที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันตามลำพัง บีทเผชิญหน้าโดยปราศจากความหวาดกลัว
ฉึก!
ฉึกฉึกฉึก—
“อั่ก!”
...เราคงเหนื่อยที่จะมีชีวิตแล้วสินะ
บีทควบม้าอย่างสง่างามเข้าใส่ชายหมวกฟางปริศนา…
ทุกสิ่งจบลงในชั่วอึดใจ
มันคือการโจมตีรวดเดียวแปดครั้งซ้อนอาจมากกว่าทหารเลวถึงสองเท่า แต่ชีวิตของบีทก็ดับสูญด้วยเวลาเพียงสองวินาที
“น—นายกองบีทถูกฆ่าในพริบตา...”
“อ—อึ๋ย! หนีเร็ว!”
การกระทำของบีทคือยาพิษ แทนที่จะปลุกขวัญกำลังใจ เขาได้สลักความหวาดผวาลงในทหารจักรวรรดิทุกคน
บีทคือนักรบหาญกล้าที่เป็นความใ่ฝ่ฝันของเหล่าทหารเสมอ
ขวัญกำลังใจกองทัพลดฮวบ เข้าสู่จุดวุ่นวายโกลาหลอย่างแท้จริง
“ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่…! ไม่เพียงจะมีพลังต่อสู้ระดับปีศาจ แต่ยังรู้สถานการณ์ภายในกองทัพจักรวรรดิเป็นอย่างดี!”
นายกองคนอื่นต่างตะลึงเมื่อได้เห็นบีทเสียชีวิตคาหลังม้า
พวกมันล้วนคิดแบบเดียวกัน ศัตรูปริศนาผู้นี้เล็งเด็ดหัวนายกองเพื่อทำลายขวัญกำลังใจทหาร
ศัตรูรู้ถึงขนาดว่า บีทเป็นคนสำคัญที่หากตายไป กองทัพจักรวรรดิจะปั่นป่วนโกลาหล
“ปีศาจ…! บัดซบ! ห้ามเผชิญหน้ากับมันเด็ดขาด! รีบถอยทัพไปหาอัศวินสีชาด!”
ระดับที่ต่างชั้นเกินไปจะไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยจำนวน
นายกองจักรวรรดิต่างตระหนักถึงความเลวร้ายของสถานการณ์ พวกมันเคยเห็นพลังที่แท้จริงของปีศาจอย่างอัศวินสีชาดหลักเดียวมานับไม่ถ้วน
ด้วยเหตุนี้ คำสั่งถอยที่ออกจากปากจึงปราศจากความลังเล
ในสายตากริด สถานการณ์เช่นนี้ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตนมากขึ้น
ชายหนุ่มบุกตะลุยฝ่าทัพจักรวรรดิจนมาถึงทัพหน้า ระหว่างทางได้ดับลมหายใจทหารจักรวรรดิไปเฉียดหมื่น
เหตุใดกริดถึงดีใจที่ได้พบกับอัศวินสีชาดเร็วขึ้นกว่าเดิม?
แน่นอน เขาหวังบดขยี้พวกมันให้สิ้นซาก นั่นคือจุดประสงค์ตั้งแต่ต้น
“ฉันคือราชาโจมตีธรรมดา”
กริดฝ่ามาถึงจุดที่อาเรสและอัศวินสีชาดกำลังสู้รบอย่างดุเดือด
ชายหนุ่มประกาศนามของตนอย่างมิได้เคอะเขิน
“เหล่าอัศวินสีชาดแห่งจักรวรรดิเอ๋ย เพราะการมีตัวตนของพวกแก จักรวรรดิถึงคอยรุกรานรังแกอาณาจักรอ่อนแอเสมอ ดันนั้น ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกแกมีชีวิตรอดกลับไปแม้แต่คนเดียว!”
“...”
บรรยากาศถูกความเงียบงันครอบงำในพริบตา
ความเงียบเกิดจากสองสาเหตุ
หนึ่งคือ กองอัศวินสีชาดทึ่งในคำประกาศกร้าวสุดเหลวไหลของกริด
ส่วนอีกหนึ่งคือ...กองทัพอาเรสกำลังมีสีหน้าบิดเบี้ยวสุดขีด
“กริด…?”
“...”
จูนิเบียวผู้มีรสนิยมตั้งชื่อห่วยแตก เมื่อนำสองสิ่งนี้มารวมกัน เกรงว่าในซาทิสฟายอาจเหลือเพียงคนเดียว
นอกจากกริดคงไม่มีใครอีกแล้ว
ทัพอาเรสย่อมเคยเห็นวิดีโอกริดตะโกนหน้าต้นไม้ด้วยเสียงดังกึกก้อง ‘ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน’
พวกเขาไม่เคลือบแคลงเลย ชายปริศนาคนนี้ต้องเป็นกริดแน่นอน
กริดรีบปฏิเสธ
“กริดคือราชาโอเวอร์เกียร์ ส่วนฉันคือราชาโจมตีธรรมดา”
“...ข—เข้าใจแล้ว!”
อาเรสรีบพยักหน้า
เขาพลันตระหนักได้ คงไม่ใช่เรื่องดีต่อทั้งสองฝ่ายหากกริดปรากฏตัวที่สนามรบแห่งนี้
อาเรสติดสินใจตามน้ำไปพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนตื่นเต้น
‘หมอนี่แข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่...?’
อาเรสยอมรับเสมอว่ามีผู้เล่นอีกหลายคนเก่งกาจกว่าตน
คนเหล่านั้นคือครอเกล กริด แอ็กนัส และแม้กระทั่งลัคกับสก็อตต์
อาเรสมิได้ริษยา กลับกัน เขาชื่นชมผู้ที่พยายามอย่างหนักเสมอ
แต่ในบรรดาคนเหล่านั้น อาเรสจัดลำดับให้ครอเกลอยู่ในตำแหน่งพิเศษมาตลอด
จนกระทั่งเมื่อครู่...
‘ชายคนเดียวที่โค่นท้องฟ้า...’
ฉากการดวลระหว่างกริดและครอเกลในงานแข่งนานาชาติปีที่สองกำลังเล่นซ้ำในหัวอาเรส
ในปัจจุบัน กริดคือผู้เล่นคนเดียวในโลกที่สามารถสังหารครอเกลลงอย่างเป็นทางการ แม้ตัวเขาจะเสียชีวิตไปก่อนก็ตาม แต่ความตายของครอเกลคือสิ่งที่ทุกคนบนโลกมิอาจปฏิเสธ
ทว่า กริดในปัจจุบัน...
‘หรือท้องฟ้าจะไม่ใช่คู่มือกริดอีกแล้ว?’
ซู่วว—
อาเรสกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเหลือบไปเห็นดาบสีแดงในมือกริดที่กำลังระอุออร่าพลังธรรมชาตินานาชนิด
ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมจนก่อเกิดภวังปรารถนาอันแรงกล้า
นี่คือชื่อเต็มของมัน
ดาบที่ดีที่สุดของโลกถูกกริดนำกวัดแกว่งใส่อัศวินลำดับสาม ‘โรเล็กซ์’
“มาดวลกัน!”
“เข้ามาเลยไอ้หนู!”
โรเล็กซ์คำราม
มันไม่มีวันให้อภัยแก่ศัตรูที่คร่าชีวิตทหารจักรวรรดิไปมากมาย
ศัตรูมีพลังมหาศาลจนปริมาณระดับกองทัพกลายเป็นสิ่งไร้ค่า โรเล็กซ์ตระหนักดี นี่คือภาระที่มันต้องเป็นผู้สะสางด้วยตนเอง
“ต่อหน้าอัศวินสีชาด แกก็เป็นได้เพียงคางคกในกะลาเท่านั้น! ฉันผู้นี้จะประทับความสิ้นหวังไว้บนใบหน้าหลังหมวกฟางนั่นเอง!!”
ซู่วว—
เกราะสีชาดที่โรเล็กซ์สวมพลันเปล่งแสงสีแดงเจิดจ้า
นี่คือพลังพิเศษของเกราะสีชาดที่มอบให้อัศวินหลักเดียว มันสามารถเพิ่มพลังทางกายภาพของผู้สวมได้เป็นเท่าทวี
เป็นสัญลักษณ์ว่า โรเล็กซ์ยอมรับในฝีมือกริด
ทันใดนั้น
[ ตรวจพบออร่าของผู้แข็งแกร่ง ]
[ ปราณต่อสู้ของท่านมีปฏิกริยาต่อเป้าหมาย มันกำลังระอุอย่างเดือนพล่าน ]
[ นับแต่นี้ไป ปราณต่อสู้ของท่านจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ 1 หน่วยในทุก 10 วินาที ]
กริดฉีกยิ้มกว่าเมื่อได้สัมผัสคุณค่าที่แท้จริงของปราณต่อสู้
“มาตัดสินกัน!”
อัศวินระดับท็อปจากกองอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีป
ปะทะกับราชาวีรบุรุษเหนืออดีตวีรบุรุษทั้งปวง
ใครจะแข็งแกร่งกว่าใคร?
บนฉากหน้า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คืออาณาจักรวางตัวเป็นกลาง
เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาเพิ่งเลิกส่งบรรณาการให้จักรวรรดิ แถมยังมีเมืองขึ้นอีกสองแห่งคอยส่งบรรณาการให้
คนภายนอกต่างมองว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ล้วนเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ
แต่ความจริงคือสิ่งใด?
รอบตัวอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ล้วนมีศัตรูเต็มไปหมด
ไม่มีคำพูดใดสามารถอธิบายเหตุการณ์ปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมไปมากกว่า :
จักรวรรดิซาฮารันคือราชสีห์เพศผู้ ส่วนอาณาจักรโอเวอร์เกียร์คือกว้างน้อยที่มีสิงโตตัวเมียรายล้อมมากมาย
ในสายตาจักรวรรดิ โอเวอร์เกียร์เป็นเพียงอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่พร้อมเสริฟทุกเมื่อ
กริดตระหนักถึงความจริงอันน่าคับแค้นใจนี้เป็นอย่างดี
อาณาจักรที่ตนและพวกพ้องร่วมสร้างด้วยหยาดเหงื่อ ปัจจุบันกลับเป็นเพียงปราสาททรายแสนเปราะบาง
เฮ่อ…
‘อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น...’
กริดไม่พลาดโอกาสมอบความฉิบหายให้จักรวรรดิไม่ว่าจะทางตรงหรืออ้อม
การฆ่าทหารจักรวรรดิหนึ่งนายจะหมายถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของชาวเมืองโอเวอร์เกียร์
ไม่สนว่าการปรากฏกายครั้งนี้จะมีเกียรติหรือไม่
***
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 17,870 หน่วย ]
[ เปลวเพลิงขนาดใหญ่แสดงผล สร้างความเสียหาย 5,000 หน่วยแก่เป้าหมาย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 20,100 หน่วย ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ พลังอสูรเพิ่มขึ้น1 หน่วย ]
นี่คือผลจากการผสานระหว่างค่าพละกำลัง 3,000 แต้มและดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรม
ทหารทัพจักรวรรดิถูกกริดฟันธรรมดาเพียงสองครั้งและกลายเป็นแสงสีเทา
เลเวล 230 และชุดเกราะคุณภาพสูงกลางเป็นสิ่งไร้ค่าทันที
ดาบอัสนนีแห่งการบรรลุสัจธรรมเพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 20% โบนัสการโจมตีธาตุไฟ 30% โบนัสการโมตีธาตุมืด 30% และธาตุสายฟ้า 15%
นอกเหนือจากออปชั่นเหล่านี้ กริดยังมีทักษะติดตัวสุดโหดมากมาย
ทักษะ ‘ความชำนาญอาวุธทุกชนิด’ ที่ได้รับจากหมู่เกาะเบเฮ็น ปัจจุบันอยู่ที่ขั้นกลาง Lv.5 ผลของมันช่วยเพิ่มพลังโจมตี 17%
ถัดมาคือวิชาดาบแพ็กม่า Lv.4 ในโหมดปรกติ มันช่วยเพิ่มพลังโจมตี 34%
ถัดมาเป็นพลังอวยพรจากเทพโดมิเนี่ยน พาเฟรเนี่ยมหัตถ์เทวะจึงเพิ่มพลังโจมตีแก่ผู้เป็นนาย 15%
บัฟ บัฟ บัฟ แล้วก็บัฟ…
ทุกสิ่งส่งเสริมให้การโจมตีธรรมดาของกริดกลายเป็นการฟาดฟันจากปีศาจ
หมดหรือยัง?
[ ท่านอัญเชิญสายฟ้าสีชาด ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 44,900 หน่วย ]
[ เป้าหมายตกอยู่ในอาการ ‘ชะงัก’ 1.2 วินาที ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ กระจายความเสียหาย 300% ของพลังโจมตีกายภาพใส่ทุกเป้าหมายในระยะ 10 เมตร ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต ]
[ เป้าหมายเสีย... ]
…
...
[ พลังอสูรเพิ่มขึ้น 232 หน่วย ]
บรรดาออปชั่นนานับชนิดเรียงคิวแสดงผลหลังจากกริดกวัดแกว่งดาบด้วยการโจมตีธรรมดา
นี่คือความสุดยอดของทักษะทิ่ติดมากับไอเท็มเกรดมิธ…
พวกมันไม่มีระยะหน่วงและไม่สิ้นเปลืองมานา
กริดเป็นราวกับปีศาจสงคราม
“ว๊ากกก!”
เกิดความวุ่นวายโกลาหลเป็นวงกว้าง
การโจมตีธรรมดาของกริดที่ส่งผลร้ายแรงยิ่งกว่าการใช้ทักษะของผู้เล่นบางคน ได้ทำลายกองทหารจักรวรรดิจนราบคาบชนิดยากจะฟื้นฟู
“ศัตรู! มีศัตรูอยู่ด้านหลังทัพ!”
“ทหารกว่าร้อยนายจบชีวิตลงภายในแรงระเบิดครั้งเดียว…! ต้องเป็นมหาจอมเวทแน่!”
“วัลฮัลล่ามีมหาจอมเวทได้ยังไง? เตรียมรับมือเวทมนตร์ขนาดใหญ่เร็วเข้า!”
ทัพจักรวรรดิคือกองทหารที่แข็งแกร่งและมีระดับวินัยอันดับหนึ่งของทวีปตะวันตก
พวกมันสามารถสยบความวุ่นวายแม้จะถูกอาเรสซุ่มโจมตีและถูกกริดปั่นป่วนด้านหลัง
ศัตรูที่ปรากฏหลังกองทัพเป็นฝ่ายใด?
มีจำนวนเท่าไร?
ต้องรับมืออย่างไร?
และอีกมากมาย
ด้วยระบบสั่งการที่มีประสิทธิภาพ พวกมันเคลื่อนที่และจัดการปัญหาด้วยความรวดเร็ว
เมื่อได้เห็นสายฟ้าสีแดงและระเบิดเพลิงสีดำ จึงเริ่มเกิดการวิเคราะห์ว่าอีกฝ่ายคือมหาจอมเวท
เหล่าทหารต่างนำโล่ต่านทานเวทมนต์ออกมาถือ ขณะที่กลุ่มนักดนตรีได้ขับขานบทเพลงลดทอนความเร็วร่ายเวทมนตร์
งี่เง่าสิ้นดี...
“…? พวกแกขุดหลุมฝังศพตัวเองทำไมกัน?”
ท่ามกลางมหาสมุทรทหารทัพจักรวรรดิ กริดแสยะยิ้มชั่วพร้อมกับบุกตะลุยฝ่าเข้าไปอย่างง่ายดาย
สงครามง่ายขึ้นสำหรับกริดเมื่ออีกฝ่ายลดพลังป้องกันกายภาพและเพิ่มพลังป้องกันเวทมนตร์
เขาได้แต่นึกสงสัย
มีสายสืบของตนคอยแอบช่วยเหลือจากด้านในรึเปล่า?
“ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ขอบใจพวกแกมาก!”
ฉึก!
ฉึกฉึกฉึก!
สี่ครั้งต่อหนึ่งวินาที
การฟาดฟันดาบยาวโดยสวมถุงมือว่องไวอเล็กซ์ ราวกับทำให้ท่อนแขนกริดบางเบาเหมือนขนนก
ทหารทุกคนที่ตกเป็นเป้าจะมีอายุขัยไม่ถึงหนึ่งวินาที และเมื่อเพลิงสีดำระเบิดออก ทหารนับร้อยนายจะสิ้นชีพในพริบตา
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
บึ้มบึ้ม—
ผืนป่าลิเบรอนบางส่วนถูกแปรเปลี่ยนเป็นหลุมอุกกาบาต
แรงระเบิดจากเพลิงทมิฬเป็นราวกับภัยพิบัติที่ทัพจักรวรรดิต่างหวาดหวา
ทุกครั้งที่เพลิงทมิฬทำงาน ฉากสุดสลดหดหู่จะปรากฏเบื้องหน้าพวกมันทุกคน
หากยังรักษาความเร็วเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าทัพห้าหมื่นอาจไม่เหลือซากภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
นายกอง ‘บีท’ แห่งจักรวรรดิได้แต่จ้องมองด้วยความทึ่ง
“ป—ปีศาจ! นั่นมันตัวอะไร!!”
เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงห้านาทีหลังจากเกิดระเบิดระลอกแรก
บีทแหวกกลุ่มทหารมาถึงจุดเกิดเหตุด้วยความเร็วสูงสุด แต่แล้วมันต้องทึ่งกับภาพตรงหน้า
อีกฝ่ายมิใช่มหาจอมเวทดังที่ทุกคนคาดคิด
ในมือกำอาวุธประเภทดาบ
แถมยังมีเพียงคนเดียว
ทุกครั้งที่ดาบกวัดแกว่ง…
“อ๊ากกก!”
จักต้องมีผู้หลั่งเลือดเสมอ
ครืนนนน!
เปรี้ยงงง—
มีทั้งสายฟ้าสีชาดและเพลิงทมิฬ
ค่ายกลทัพจักรวรรดิที่เป็นระเบียบแบบแผนต่างไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าชายผู้นี้
“วัลฮัลล่ามีปีศาจได้ยังไง...?”
ความเร็วของดาบในมือศัตรูไม่ใช่สิ่งที่จะมองทันด้วยตาเปล่า
ต้องมีมานาไร้ขีดจำกัดขนาดไหนกัน ถึงสามารถร่ายเปลวเพลิง สายฟ้าสีแดง และระเบิดพลังอสูรได้ต่อเนื่องยาวนานเช่นนี้?
บีทกำลังจ้องมองชายสวมหมวกฟางด้วยสีหน้าหวาดหวั่น มันประเมินให้อีกฝ่ายเก่งกาจไม่ด้อยไปกว่าอัศวินหลักเดียว
อย่างน้อยก็ลำดับห้า...
“ซ—เซอร์โรเล็กซ์! รีบขอกำลังสนับสนุนจากเซอร์โรเล็กซ์!!”
นักดาบปริศนากำลังตีฝ่าทัพจักรวรรดิเข้ามาใกล้มันทุกขณะ
ยิ่งเวลาผ่านไป ชีวิตของทหารหลายร้อยได้จบสิ้นลงในพริบตาราวกับเป็นเรื่องโกหก
บึทสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายร้ายแรงที่กำลังมาเยือน
ทัพหลังจะแตกกระเจิงหากปล่อยให้ปีศาจตนนี้รุกคืบเข้ามาใกล้
มีเพียงพลังอัศวินสีชาดเท่านั้นที่สามารถหยุดยั้งหายนะเบื้องหน้า
ทันใดนั้น เสียงตะโกนของทหารหน่วยประสานงานได้ดังขึ้น
“อัศวินสีชาดติดกับศัตรู!”
“เซอร์โรเล็กซ์กำลังปะทะกับแม่ทัพศัตรู!”
มีแต่รายงานที่ฟังแล้วหดหู่สิ้นหวัง
“ทุกคนถอย! ฉันจะหยุดมันเอง!”
ลงเอยด้วย บีทต้องออกโรงด้วยตัวเอง
มันคือหนึ่งในนายกองผู้ยิ่งใหญ่แห่งกองทัพจักรวรรดิ
อาจไม่เทียบเท่าอัศวินสีชาด แต่ฝีมือตนมิได้อ่อนหัด บีทมั่นใจมาก ตนจะตรึงปีศาจเบื้องหน้าไว้ได้นานหลายนาที
‘ลิซซี่...ฉันขอโทษ คงกลับไปหาเธอไม่ได้แล้ว’
บีทจุมพิตจี้ห้อยคอก่อนจะพุ่งเผชิญหน้าปีศาจลึกลับตามลำพัง
นั่นคือคำอำลาที่มีต่อภรรยาสุดที่รัก
“แด่องค์จักรพรรดิ!!”
“ย๊ากกกกก!!”
นายกองบีทหมายจะดึงขวัญกำลังใจทัพจักรวรรดิกลับคืนมาอีกครั้ง
ต่อหน้าปีศาจที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันตามลำพัง บีทเผชิญหน้าโดยปราศจากความหวาดกลัว
ฉึก!
ฉึกฉึกฉึก—
“อั่ก!”
...เราคงเหนื่อยที่จะมีชีวิตแล้วสินะ
บีทควบม้าอย่างสง่างามเข้าใส่ชายหมวกฟางปริศนา…
ทุกสิ่งจบลงในชั่วอึดใจ
มันคือการโจมตีรวดเดียวแปดครั้งซ้อนอาจมากกว่าทหารเลวถึงสองเท่า แต่ชีวิตของบีทก็ดับสูญด้วยเวลาเพียงสองวินาที
“น—นายกองบีทถูกฆ่าในพริบตา...”
“อ—อึ๋ย! หนีเร็ว!”
การกระทำของบีทคือยาพิษ แทนที่จะปลุกขวัญกำลังใจ เขาได้สลักความหวาดผวาลงในทหารจักรวรรดิทุกคน
บีทคือนักรบหาญกล้าที่เป็นความใ่ฝ่ฝันของเหล่าทหารเสมอ
ขวัญกำลังใจกองทัพลดฮวบ เข้าสู่จุดวุ่นวายโกลาหลอย่างแท้จริง
“ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่…! ไม่เพียงจะมีพลังต่อสู้ระดับปีศาจ แต่ยังรู้สถานการณ์ภายในกองทัพจักรวรรดิเป็นอย่างดี!”
นายกองคนอื่นต่างตะลึงเมื่อได้เห็นบีทเสียชีวิตคาหลังม้า
พวกมันล้วนคิดแบบเดียวกัน ศัตรูปริศนาผู้นี้เล็งเด็ดหัวนายกองเพื่อทำลายขวัญกำลังใจทหาร
ศัตรูรู้ถึงขนาดว่า บีทเป็นคนสำคัญที่หากตายไป กองทัพจักรวรรดิจะปั่นป่วนโกลาหล
“ปีศาจ…! บัดซบ! ห้ามเผชิญหน้ากับมันเด็ดขาด! รีบถอยทัพไปหาอัศวินสีชาด!”
ระดับที่ต่างชั้นเกินไปจะไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยจำนวน
นายกองจักรวรรดิต่างตระหนักถึงความเลวร้ายของสถานการณ์ พวกมันเคยเห็นพลังที่แท้จริงของปีศาจอย่างอัศวินสีชาดหลักเดียวมานับไม่ถ้วน
ด้วยเหตุนี้ คำสั่งถอยที่ออกจากปากจึงปราศจากความลังเล
ในสายตากริด สถานการณ์เช่นนี้ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตนมากขึ้น
ชายหนุ่มบุกตะลุยฝ่าทัพจักรวรรดิจนมาถึงทัพหน้า ระหว่างทางได้ดับลมหายใจทหารจักรวรรดิไปเฉียดหมื่น
เหตุใดกริดถึงดีใจที่ได้พบกับอัศวินสีชาดเร็วขึ้นกว่าเดิม?
แน่นอน เขาหวังบดขยี้พวกมันให้สิ้นซาก นั่นคือจุดประสงค์ตั้งแต่ต้น
“ฉันคือราชาโจมตีธรรมดา”
กริดฝ่ามาถึงจุดที่อาเรสและอัศวินสีชาดกำลังสู้รบอย่างดุเดือด
ชายหนุ่มประกาศนามของตนอย่างมิได้เคอะเขิน
“เหล่าอัศวินสีชาดแห่งจักรวรรดิเอ๋ย เพราะการมีตัวตนของพวกแก จักรวรรดิถึงคอยรุกรานรังแกอาณาจักรอ่อนแอเสมอ ดันนั้น ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกแกมีชีวิตรอดกลับไปแม้แต่คนเดียว!”
“...”
บรรยากาศถูกความเงียบงันครอบงำในพริบตา
ความเงียบเกิดจากสองสาเหตุ
หนึ่งคือ กองอัศวินสีชาดทึ่งในคำประกาศกร้าวสุดเหลวไหลของกริด
ส่วนอีกหนึ่งคือ...กองทัพอาเรสกำลังมีสีหน้าบิดเบี้ยวสุดขีด
“กริด…?”
“...”
จูนิเบียวผู้มีรสนิยมตั้งชื่อห่วยแตก เมื่อนำสองสิ่งนี้มารวมกัน เกรงว่าในซาทิสฟายอาจเหลือเพียงคนเดียว
นอกจากกริดคงไม่มีใครอีกแล้ว
ทัพอาเรสย่อมเคยเห็นวิดีโอกริดตะโกนหน้าต้นไม้ด้วยเสียงดังกึกก้อง ‘ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน’
พวกเขาไม่เคลือบแคลงเลย ชายปริศนาคนนี้ต้องเป็นกริดแน่นอน
กริดรีบปฏิเสธ
“กริดคือราชาโอเวอร์เกียร์ ส่วนฉันคือราชาโจมตีธรรมดา”
“...ข—เข้าใจแล้ว!”
อาเรสรีบพยักหน้า
เขาพลันตระหนักได้ คงไม่ใช่เรื่องดีต่อทั้งสองฝ่ายหากกริดปรากฏตัวที่สนามรบแห่งนี้
อาเรสติดสินใจตามน้ำไปพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนตื่นเต้น
‘หมอนี่แข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่...?’
อาเรสยอมรับเสมอว่ามีผู้เล่นอีกหลายคนเก่งกาจกว่าตน
คนเหล่านั้นคือครอเกล กริด แอ็กนัส และแม้กระทั่งลัคกับสก็อตต์
อาเรสมิได้ริษยา กลับกัน เขาชื่นชมผู้ที่พยายามอย่างหนักเสมอ
แต่ในบรรดาคนเหล่านั้น อาเรสจัดลำดับให้ครอเกลอยู่ในตำแหน่งพิเศษมาตลอด
จนกระทั่งเมื่อครู่...
‘ชายคนเดียวที่โค่นท้องฟ้า...’
ฉากการดวลระหว่างกริดและครอเกลในงานแข่งนานาชาติปีที่สองกำลังเล่นซ้ำในหัวอาเรส
ในปัจจุบัน กริดคือผู้เล่นคนเดียวในโลกที่สามารถสังหารครอเกลลงอย่างเป็นทางการ แม้ตัวเขาจะเสียชีวิตไปก่อนก็ตาม แต่ความตายของครอเกลคือสิ่งที่ทุกคนบนโลกมิอาจปฏิเสธ
ทว่า กริดในปัจจุบัน...
‘หรือท้องฟ้าจะไม่ใช่คู่มือกริดอีกแล้ว?’
ซู่วว—
อาเรสกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเหลือบไปเห็นดาบสีแดงในมือกริดที่กำลังระอุออร่าพลังธรรมชาตินานาชนิด
ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมจนก่อเกิดภวังปรารถนาอันแรงกล้า
นี่คือชื่อเต็มของมัน
ดาบที่ดีที่สุดของโลกถูกกริดนำกวัดแกว่งใส่อัศวินลำดับสาม ‘โรเล็กซ์’
“มาดวลกัน!”
“เข้ามาเลยไอ้หนู!”
โรเล็กซ์คำราม
มันไม่มีวันให้อภัยแก่ศัตรูที่คร่าชีวิตทหารจักรวรรดิไปมากมาย
ศัตรูมีพลังมหาศาลจนปริมาณระดับกองทัพกลายเป็นสิ่งไร้ค่า โรเล็กซ์ตระหนักดี นี่คือภาระที่มันต้องเป็นผู้สะสางด้วยตนเอง
“ต่อหน้าอัศวินสีชาด แกก็เป็นได้เพียงคางคกในกะลาเท่านั้น! ฉันผู้นี้จะประทับความสิ้นหวังไว้บนใบหน้าหลังหมวกฟางนั่นเอง!!”
ซู่วว—
เกราะสีชาดที่โรเล็กซ์สวมพลันเปล่งแสงสีแดงเจิดจ้า
นี่คือพลังพิเศษของเกราะสีชาดที่มอบให้อัศวินหลักเดียว มันสามารถเพิ่มพลังทางกายภาพของผู้สวมได้เป็นเท่าทวี
เป็นสัญลักษณ์ว่า โรเล็กซ์ยอมรับในฝีมือกริด
ทันใดนั้น
[ ตรวจพบออร่าของผู้แข็งแกร่ง ]
[ ปราณต่อสู้ของท่านมีปฏิกริยาต่อเป้าหมาย มันกำลังระอุอย่างเดือนพล่าน ]
[ นับแต่นี้ไป ปราณต่อสู้ของท่านจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ 1 หน่วยในทุก 10 วินาที ]
กริดฉีกยิ้มกว่าเมื่อได้สัมผัสคุณค่าที่แท้จริงของปราณต่อสู้
“มาตัดสินกัน!”
อัศวินระดับท็อปจากกองอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีป
ปะทะกับราชาวีรบุรุษเหนืออดีตวีรบุรุษทั้งปวง
ใครจะแข็งแกร่งกว่าใคร?
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,152
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
โอ้ มันมาก และรอลุ้นต่อไป ขอบคุณครับที่แปลและฟรี
ReplyDelete706มาตอนไหน
ReplyDeleteโอ้ได้เวลาฟาร์มออร่า
ReplyDeleteอาเรสบอก : มึงไม่ต้องพูด 555+
ReplyDelete