จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 704



[ จักวรรดิซาฮารันประกาศสงครามกับอาณาจักรวัลฮัลล่า!! ]

[ ความสัมพันธ์ของอาณาจักรวัลฮัลล่าและจักรวรรดิซาฮารันกลายเป็น ‘ปรปักษ์’]

[ พลเมืองทั้งสองอาณาจักรจะถูกกำจัดกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกัน ]

    นี่คือข้อความระบบที่ประกาศบนหน้าจอผู้เล่นทั้งสองอาณาจักร
    มีเพียงน้อยคนที่สับสนหรือตกใจ

    ในวินาทีที่กองทัพอาเรสชิงตัวผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย  หรือเมื่อครั้งอาเรสปฏิเสธส่งบรรณาการแก่จักรวรรดิ  พลเมืองวัลฮัลล่าต่างรู้เต็มอก  ไม่ช้าก็เร็ว  สงครามต้องอุบัติขึ้นแน่นอน

    “ตัวเรามิได้ต้องการสงคราม!!”

    ขณะผู้คนกำลังส่งเสียงเอะอะ
    ถ้อยคำตะโกนของอาเรสดังกังวาลไปทั่วจัตุรัสเมืองหลวง
    
    บุคลิกภายนอกที่แข็งแกร่งประหนึ่งพญาราชสีห์ของอาเรสได้สร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้เสมอ

    “แต่มันเป็นสงครามเราที่เลี่ยงไม่ได้!  พวกเราและจักรวรรดิมีชะตากรรมต้องแตกหัก!  มันจะไม่ถูกสะสางจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหายไปจากแผนที่!”

    อาเรสคือเทพสงคราม
    สนามรบคือเวทีพิสูจน์การมีตัวตน
    การศึกคือหนทางเดียวที่จะช่วยพัฒนากองทัพ  ตนเอง  และอาณาจักร
    
    ทันใดนั้น  ว่าที่ผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย  ‘โอเอซิส’ พลันเกิดคำถามในใจ

    ‘เขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?’

    หลังจากเข้าร่วมกับวัลฮัลล่า  โอเอซิสต้องทึ่งเมื่อตระหนักถึงขุมกำลังรบวัลฮัลล่า

    เมื่อรวมเข้ากับประชากรเบลโต้เดิม  พลเมืองของอาเรสมีทั้งสิ้นเจ็ดแสนคน
    แต่กองทัพกลับมีเพียงห้าหมื่นนายเท่านั้น

    ช่างตรงกันข้ามกับจักรวรรดิที่มีทหารกล้ามากถึงสิบล้านเสียเหลือเกิน...

    ในการศึกกับจักรวรรดิ  วัลฮัลล่าไร้หนทางชนะโดยสิ้นเชิง
    สงครามจะกินเวลาเพียงไม่กี่วันและจบลงด้วยความพ่ายแพ้ยับเยินจากฝ่ายวัลฮัลล่า

    อาเรสเดินลงมาจากเวทีพร้อมกับอธิบายโอเอซิสที่กำลังมีสีหน้าฉงน

    “ทหารของฉันทุกนายจะได้รับค่าประสบการณ์จากสงครามสูงกว่าปรกติ 200%  ฉันยังมีทักษะปล้นสะดมที่สามารถขโมยอาหาร  ทรัพสิน  และกำลังทหารจากกองทัพหรือดินแดนศัตรูได้  หากบริหารใช้งานอย่างถูกต้อง  วัลฮัลล่าจะเอาตัวรอดจากกองทัพจักรวรรดิได้ไม่ยาก”

    ตัวตนของอาเรสจะโดดเด่นเป็นพิเศษในยามศึกสงคราม
    กองทัพอาเรสไม่เพียงแข็งแกร่ง  แต่ยังมีทักษะพิเศษเฉพาะการศึก

    “พวกเราต้องเป็นศัตรูกับจักรวรรดิในสักวันอยู่แล้ว   อันที่จริง  มันคงดีกว่าหากไล่ทำสงครามกับอาณาจักรเล็กไปก่อนเพื่อสั่งสมประสบการณ์  รอให้พร้อมกว่านี้ค่อยเปิดศึกกับจักรวรรดิเต็มรูปแบบ”

    แต่น่าเสียดายที่นั่งคงเป็นไปไม่ได้
    
    อาณาจักรเกือบทั้งหมดบนทวึปล้วนส่งบรรณาการให้จักรวรรดิ  
    หากมีผู้ใดแตะต้องสิ่งที่เป็นของจักรวรรดิ  มันผู้นั้นก็จะถูกจักรวรรดิประกาศสงคราม 

    ด้วยเหตุนี้  เป้าหมายแรกของอาเรสจึงเคยเป็นอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
    แต่ท้ายที่สุด  อาเรสเลือกจับมือเป็นพันธมิตรกับกริด  แทนที่จะเป็นศัตรู
    
    โอเอซิสหันกลับไปถาม
    
    “ผมเข้าใจพลังของคุณ  แต่คู่ต่อสู้เป็นถึงจักรวรรดิเชียวนะ  หากพวกเขายกทัพสิบล้านมาบดขยี้วัลฮัลล่า  พวกคุณไม่มีทางต่อต้านขัดขืนได้แน่  พลังของคุณจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าทันที”

    อาเรสหัวเราะ
    เป็นเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข

    “ทุกก้าวเดินถูกคำนวณไว้ล่วงหน้าเสมอ  เหตุผลที่เลือกเปิดศึกในช่วงเวลานี้  เพราะปัจจุบัน  จักรวรรดิกำลังเผชิญกับปัญหาแก่งแย่งชิงดีภายใน  เมื่อกำลังรบกระจัดกระจายเป็นหลายก๊ก  พวกมันไม่มีทางรวมรวบทหารจำนวนมากในเวลาอันสั้นได้แน่”

    “แต่ยังมีอัศวินสีชาด...”

    โอเอซิสเคยลิ้มรสหายนะที่ชื่อว่าอัศวินสีชาดมาแล้ว
    
    เหล่าอัศวินหลักเดียว
    ในบรรดาพวกมัน  ลำดับห้าขึ้นไปล้วนเป็นปีศาจที่อยู่คนละมิติ
    
    อาเรสย่อมทราบดี

    “อัศวินสีชาดในปัจจุบันมิได้น่ากลัวอย่างทิคิด”
    อาเรสกล่าวพร้อมอมยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “หน่วยข่าวกรองรายงานว่า  อัศวินลำดับหนึ่งและสองถูกลงโทษกักบริเวณ  ส่วนอัศวินลำดับสี่คือสารวัตรทหารที่คอยตรวจสอบพฤติกรรมภายในกองทัพ  มันจะไม่ปรากฏตัวในสงครามหากมิใช่สถานการณ์ร้ายแรง  จึงเหลือเพียงลำดับสามกับห้า  แค่สองคนไม่มีทางหยุดกองทัพฉันได้แน่”

    ยังมีอีกเหตุผลที่ทำให้อาเรสมั่นใจเป็นพิเศษ
    
    ป่าลิเบรอน 
    การจะยกทัพจากจักรวรรดิมายังวัลฮัลล่า  มีแต่ต้องกรีฑาผ่านป่าผืนนี้เท่านั้น
    
    เป็นป่าที่มีมอนสเตอร์ร่างโคลนอันตรายอาศัยอยู่มากมาย  แถมยังมีภูมิประเทศลาดชันซับซ้อน  
    แต่อาเรสชำนาญการรบในป่าแห่งนี้มาก

    “ทัพจักรวรรดิจะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของทหารฉัน  เคี๊ยกฮ่าฮ่าฮ่า!”

    ***

    “ป่าลิเบรอนอยู่เบื้องหน้าแล้ว”

    ฉากการเคลื่อนพลของทัพจักรวรรดิจำนวนห้าหมื่นนายช่างยิ่งใหญ่อลังการ
    สิ่งที่น่าเกรงขามที่สุด  คงหนีไม่พ้นกองอัศวินสีชาดที่เป็นทัพหน้า

    กองอัศวินสีชาด
    กองอัศวินอันดับหนึ่งแห่งทวีปตะวันออก  เป็นสัญลักษณ์ทางพลังอำนาจของจักรวรรดิซาฮารันมาช้านาน  อัศวินฝีมือฉกาจกำลังเรียงรายด้านหน้าสุดของทัพหลวงขนาดห้าหมื่น

    “หืม...ใหญ่กว่าที่คิดรึเปล่านะ?”

    ชายชราผมขาวผู้หนึ่งกำลังจ้องมองเข้าไปในผืนป่าเบื้องหน้า
    นามของมันคือ ‘โรเล็กซ์’
    อายุอานามน่าจะเกินกว่า 40 ปีแล้ว
    ข้างกายโรเล็กซ์คือหนึ่งในห้าเสาหลักแห่งจักรวรรดิ  ไคล์
    
    ไคล์ขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
    เส้นผม  ขนคิ้ว  ผิวพรรณ  แม้กระทั่งดวงตาและริมฝีปาก  ทั้งหมดล้วนขาวบริสุทธิ์
    
    เป็นรูปลักษณ์ที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก

    “ป่าแห่งนี้เหมาะแก่การซุ่มโจมตีและวางกับดักอย่างมาก...”

    ไคล์เริ่มสำรวจรายละเอียดป่าลิเบรอน

    คิดเป็นอื่นไม่ได้อีก  ผืนป่าเบื้องหน้ามีพุ่มหญ้าหนาทึบ  แถมยังไม่มีเสียงร้องของสัตว์แม้แต่ตัวเดียว

    โรเล็กซ์อมยิ้ม
    มันปราศจากท่าทีเคารพโดยสิ้นเชิง

    “ป่าลีเบรอนแตกต่างจากป่าทั่วไป  สถานที่แห่งนี้ชุกชุมด้วยมอนสเตอร์ร่างโคลนอันตราย  การดักซุ่มและวางกำดับไม่มีทางทำได้แน่”

    “แต่ป่าลิเบรอนเป็นดินแดนของศัตรูมิใช่หรือ?  พวกมันอาจค้นพบวิธีวางกับดักที่ง่ายกว่าปรกติ”

    “ไม่มีทางเด็ดขาด  เมื่อเข้าไปด้านในก็จะรู้เอง  ป่าลิเบรอนทั้งชื้นและอบอ้าว  ในทางทฤษฏี  ไม่มีทางที่มนุษย์จะแอบซุ่มหรือวางกับดักด้านในได้  โดยเฉพาะทหารที่สวมเกราะหนักรุ่มร่าม”

    นี่คือสาเหตุที่โรเล็กซ์ตัดสินใจเคลื่อนทัพผ่านผืนป่าโดยไม่เกรงกลัว  
    ด้วยความเร็วปรกติ  ต้องใช้เวลานานถึงสี่ชั่วโมงครึ่งเพื่อจะเดินให้พ้นจากป่าลิเบรอน
    โรเล็กซ์จึงพิจารณาแล้วว่า  การพักผ่อนฟื้นฟูเรี่ยวแรงกองทัพก่อนลุยป่าคือสิ่งสำคัญ
    
    แปะ แปะ!

    ไคล์พยักหน้าพร้อมกับปรบมือให้
    เขาอมยิ้มและกล่าวชม

    “เซอร์โรเล็กซ์เฉียบแหลมมาก  อันที่จริง  ผมเคยได้ยินวีรกรรมคุณไม่น้อย  สมแล้วกับตำแหน่งอัศวินลำดับสาม  คุณอ่านเกมศัตรูได้อย่างทะลุปรุโปร่ง  ผมขอชื่นชมจากใจจริง”

    “หืม...ชมกันเกินไปแล้ว...”

    โรเล็กซ์เกาท้ายทอยด้วยสีหน้าเคอะเขิน

    ไคล์เป็นใคร?
    มันคือหนึ่งในห้าเสาหลักแห่งจักรวรรดิทั้งที่ไม่เคยมีคุณงามความดีใดมาก่อน  แต่จักรพรรดิกลับชื่นชอบมันจนออกนอกหน้า
    
    ห้าเสาหลักคือตัวตนที่มีอิทธิพลยิ่งกว่าอัศวินสีชาด  ทั้งที่เหล่าอัศวินสีชาดสู้รบทั้งคืนวันโดยไม่หยุดพัก  จึงไม่แปลกที่โรเล็กซ์จะไม่ชอบหน้าไคล์

    ก็แค่เด็กเส้นที่มีจักรพรรดิคอยหนุนหลัง
    
    โรเล็กซ์ไม่ชอบใจเลยสักนิดที่ไคล์รับหน้าที่แม่ทัพใหญ่แทนเมอร์เซเดส
    
    แต่เมื่อเวลาผ่านไป  สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง…
    ไคล์ถ่อมตนกว่าที่คิด  เขารู้จักเคารพผู้อาวุโสและให้เกียรติกองอัศวินสีชาดทุกคน
    แม้จะถูกแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่  แต่ไคล์กลับมอบสิทธิ์ในการคุมทัพให้โรเล็กซ์ทั้งหมด  แถมยังปฏิบัติตัวต่ออัศวินสีชาดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน

    ‘นั่นสินะ...ห้าเสาหลักคงไม่มีประสบการณ์สู้รบมากเท่าที่ควร  พวกมันล้วนมีอิทธิพลเพราะองค์จักรพรรดิคอยหนุนหลัง’

    คงเป็นเจตนาของจักรพรรดิที่หวังให้ไคล์เก็บเกี่ยวประสบการณ์  จึงพักงานเมอร์เซเดสและให้ไคล์คุมทัพแทน

    ‘ลิมิตบอกให้ห้ามประมาท  เราจะไม่ประมาทก็ได้  แต่คงเกลียดเจ้าหนุ่มนี่ไม่ลง’    

    อะแฮ่ม!  

    โรเล็กซ์กระแอมก่อนหันไปออกคำสั่งกองทัพ

    “หมดเวลาพัก!  เตรียมเข้าป่า!”    

    ***

    “พวกมันกำลังมา”

    ด้านในป่าลิเบรอน
    สถานที่แห่งนี้เคยเป็นป่ารกร้างสมัยอยู่ใต้การปกครองของราชวงศ์เบลโต้
    แต่ปัจจุบัน  อาเรสได้วางแผนสู้รบกับจักรวรรดิมาตั้งแต่ต้น  เขาจึงเล็งเห็นว่าป่าลิเบรอนคือยุทธศาสตร์สำคัญในการรับมือ

    นั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไม  ทหารกองทัพวัลฮัลล่าทุกคนถึงล้วนมีทักษะติดตัวที่ชื่อ ‘ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ’ 

    ใช่แล้ว
    บรรยากาศร้อนอบอ้าวภายในผืนป่าลิเบรอนจะไม่ส่งผลใดกับทหารของอาเรส
    พวกเขาล้วนใช้ที่นี่เป็นสถานที่ฝึกรบบ่อยครั้งจนคุ้นชินภูมิประเทศ  
    
    “ทักษะ ‘ตรวจจับตัวตน’ ของอัศวินสีชาดอยู่ในระดับยอดเยี่ยมมาก  อย่าเข้าไปใกล้พวกมันเด็ดขาด  ปล่อยให้เดินเข้าป่าจนเหนื่อย  จากนั้นค่อยเริ่มลงมือ”

    อาเรสออกคำสั่งกับเหล่าทหาร
    พวกเขาพยักหน้ารับอย่างเงียบงัน
    ทุกคนกระจายตัวไปยังจุดที่ได้รับมอบหมายทั่วผืนป่า    
    ไม่มีใครส่งเสียงให้ศัตรูภายนอกได้ยิน

    จนกระทั่ง...

    “จังหวะนี้แหละ!”

    “เฮ—!!”

    บริเวณส่วนท้ายของป่าลิเบรอน
    ทัพจักรวรรดิห้าหมื่นเริ่มออกอาการเหนื่อยล้าหลังจากเดินผ่านผืนป่านานกว่าสามชั่วโมงเต็ม
    
    ทัพอาเรสเปิดฉากซุ่มโจมตีด้วยการพุ่งชาร์จออกจากพุ่มไม้  เสริมด้วยฝนธนูห่าใหญ่ยิงสนับสนุน
    ทัพจักรวรรดิย่อมมิอาจต้านทาน
    
    “อ—อะไรกัน?”

    “ศ—ศัตรู!  อ็ากกก!”

    “ซุ่มโจมตี…!”

    ท่ามกลางบรรยากาสสุดอบอ้าว  ทัพจักรวรรดิที่เดินทางติดต่อกันนานสามชั่วโมงย่อมเหนื่อยล้า
    พวกมันไม่เอะใจเลยสักนิดว่าจะมีการดักซุ่ม  ส่งผลให้มิอาจต้านรับการลอบโจมตีทีเผลอจากทัพวัลฮัลล่า

    บรรดาทหารจักรวรรดิกลายเป็นแสงสีเทาคนแล้วคนเล่า  ส่วนทหารวัลฮัลล่ากลับรายล้อมด้วยเสาสำแสงสีขาวโพลน
    
    นี่คือลักษณะพิเศษของทหารอาเรส  เมื่อเลเวลอัพ  ทรัพยากรทุกชนิดจะถูกรีเซ็ตกลับไปเต็มหลอดอีกครั้ง  
    
    รวมถึงค่าเรี่ยวแรง
    
    กระแสสงครามตกอยู่ในมือฝ่ายวัลฮัลล่าเพียงฝั่งดียว  ทหารของอาเรสเริ่มแข็งแกร่งดุดันมากขึ้นเมื่อสงครามดำเนินไป

    “รักษาความฮึกเหิมไว้!”

    ทุกครั้งที่อาเรสฟาดฟันโจมตี  ขวัญกำลังใจทัพวัลฮัลล่าก็ยิ่งเพิ่มพูน
    
    ฝ่ายศัตรู  ยิ่งสู้ยิ่งเก่งขึ้น  
    ทหารทัพจักรวรรดิย่อมต้องอกสั่นขวัญแขวน

    “อ—อึ๋ย…!”
    
    “ว๊ากกกก!”

    นอกจากจะซุ่มโจมตีแล้ว  ศัตรูยังแข็งแกร่งขึ้นและไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย?
    พวกพ้องล้มตายระเนระนาด  
    สีหน้าของทหารจักรวรรดิยิ่งเปี่ยมด้วยความหวาดผวา

    ทันใดนั้น...

    “อาเรสสสส!!”

    อัศวินลำดับสาม ‘โรเล็กซ์’ พุ่งชาร์จใส่อาเรสด้วยความเร็วสูง
    มันเคยรบกับอาเรสมาแล้วหนหนึ่ง  
    และได้รับชัยชนะขาดลอย

    ครั้งนี้  มันคิดว่าจะสยบอาเรสด้วยการโจมตีเพียงห้ากระบวนเฉกเช่นอดีต

    “ฉันจะเด็ดหัวแกให้ได้!”

    ความประมาทที่ปล่อยให้มีการซุ่มโจมตี  โรเล็กซ์คิดจะชดเชยด้วยศีรษะของอาเรส
    มันกำลังเดือดดาลสุดขีดเมื่อเห็นทหารจักรวรรดิล้มตายคนแล้วคนเล่า

    โรเล็กซ์กระโจนใส่อาเรสพร้อมกับฟาดขวานยักษ์จนเกิดแสงภาพติดตารูปจันทร์โค้ง

    ในอดีต  ขณะอาเรสบัญชาทัพหนึ่งหมื่นของเบลโต้  เขาถูกการโจมตีนี้เข้าอย่างจังจนบาดเจ็บสาหัส  
    แต่ปัจจุบัน...อาเรสบัญชาทัพห้าหมื่น
    
    ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 25%
    แถมยังมีโบนัสพลังโจมตีและป้องกันอีกเล็กน้อย
    
    “ไม่ง่ายเหมือนคราวก่อนหรอกนะ!!”

    เปรี้ยงงงง—

    “อะไรกัน...?”

    ขวานของโรเล็กซ์ถูกหยุดไว้ได้?
    ผู้ที่ตื่นตระหนกมากที่สุดย่อมมิใช่ใครอื่นนอกจากตัวโรเล็กซ์เอง

    ชายแสนอ่อนแอที่หมดสภาพด้วยการโจมตีเดียวในคราวก่อน  โรเล็กซ์ไม่เชื่อว่าบุคคลเดียวกันจะปลดปล่อยพลังมหาศาลได้เช่นนี้ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
    
    มันรัวกวัดแกว่งฟาดฟันขวานยักษ์ใส่อาเรสอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

    “แกจะหยุดนี่ได้รึเปล่า?”

    “โฮ่...แกมันขี้โกงเหมือนเคย”

    อันที่จริง  แขนขวาของอาเรสเกิดอาการชาตั้งแต่ขวานแรกแล้ว
    อาเรสไม่คิดจะรับมือกับปีศาจตนนี้ตามลำพังตั้งแต่ต้น

    หลังจากหลบหลีกพายุขวานจากโรเล็กซ์  อาเรสปล่อยให้สก็อตต์และลัคร่วมแจมศึก

    “ตรึงไอ้ปีศาจนี่ไว้!”

    “ปล่อยเป็นหน้าที่พวกเราเอง!”

    เปรี้ยงง!

    ลัคขานรับอย่างตื่นเต้นพร้อมกับใช้โล่เล็กบริเวณข้อมือกระแทกใส่ท้ายทอยโรเล็กซ์อย่างจัง  นั่นก็เพื่อให้โรเล็กซ์เปลี่ยนเป้าจากอาเรสมาหาตน
    
    จากนั้นเป็นดาบของสก็อตต์
    ทั้งคู่ต่างประเคนทักษะระดับสูงเข้าใส่
    
    “แกเป็นปีศาจรึไง!”

    แต่หลอดพลังชีวิตของโรเล็กซ์กลับมิได้ขยับเขยื้อนแม้แต่เศษหนึ่งส่วนร้อย

    อัศวินลำดับสาม  โรเล็กซ์
    จากบรรดาปีศาจอัศวินสีชาดทั้งหมด  มันเป็นรองเพียงเมอร์เซเดสและลูคัสเท่านั้น

    เคร้งง!

    เคร้งเคร้ง—

    พายุขวานของโรเล็กซ์เหวี่ยงสะบัดทั้งสก็อตต์และลัคกระเด็นลอยพร้อมกัน
    กระนั้น  กองทัพอาเรสก็มิได้สั่นคลอน
    ฝีมือของโรเล็กซ์  พวกมันล้วนเคยเห็นกับตามาแล้วก่อนหน้า

    “รุมหยุดมันไว้!!”

    แรงเกอร์ระดับขุนพลของทัพอาเรสต่างปรี่เข้าไปช่วยสก็อตต์และลัค
    การเคลื่อนไหวของโรเล็กซ์ถูกตรึงเมื่อแรงเกอร์คลาสระดับสามจำนวนมากรุมล้อมทุกทิศทาง
    
    “พวกหมาหมู่!  รีบไปช่วยเซอร์โรเล็กซ์เร็วเข้า!”

    อัศวินลำดับห้าและที่เหลือ  พวกมันกำลังวุ่นวายอยู่กับกองทัพอาเรส  บัดนี้ต้องเบนความสนใจไปช่วยโรเล็กซ์

    เมื่ออาเรสเห็นเหตุการณ์  เขารีบตะโกนขึ้นสุดเสียง

    “จังหวะนี้แหละ!  กับดักทำงาน!!”

    “…!!”

    ดวงตาเหล่าอัศวินสีชาดพลันเบิกโพลง
    พื้นดินใต้ฝ่าเท้าพวกมันเกิดยุบตัวลงอย่างไร้มูลเหตุ  ส่งผลให้อัศวินหลายคนเสียหลักตกลงไป
    
    อาเรสยืนข้ำท้องแข็งจากด้านบน

    “เคี๊ยกฮ่าฮ่า!  เจ้าพวกโง่!  ฉันไม่มีวันสู้กับพวกแกโดยไม่เตรียมแผนรับมือ— เฮ้ย?”

    อาเรสร้องอุทานเสียงหลง

    หลุมลึกกว้างกว่า 20 เมตรที่ทหารของตนใช้เวลาขุดนานถึงสองสับดาห์
    อัศวินลำดับห้ากลับกระโดดขึ้นด้านบนในพริบตาราวกับมันลึกเพียงตาตุ่ม

    เป็นพลังทางกายที่บ้าบอสิ้นดี
        
    “พวกแกจะไม่โกงไปหน่อยรึไง...!?”

    แย่ล่ะสิ...
    อาเรสมีแผนจะตรึงอัศวินสีชาดไว้  จากนั้นก็ฉวยโอกาสทองสังหารกองทัพจักรวรรดิให้มากที่สุด  แต่กลับกลายเป็น  การตรึงโรเล็กซ์ต้องใช้แรงเกอร์หลายสิบคน  ส่วนอัศวินลำดับห้าก็ไม่ถูกกับดักเล่นงานตามแผน

    ขณะที่อาเรสเริ่มสัมผัสถึงภัยอันตราย

    บึ้ม!

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—

    เสียงระเบิดกึกก้องดังมาจากฝั่งกองทัพจักรวรรดิ
    สายตาของอัศวินสีชาด  อาเรส  และทุกคนในสนามรบ  ต่างจ้องมองไปยังทิศทางดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง

    “เกิดอะไรขึ้น…?”

    สายฟ้าสีชาดฟาดผ่าจากด้านบน
    ทะลวงผ่านเกราะหนักและคร่าชีวิตทหารทัพจักรวรรดิอย่างง่ายดาย

    “ราชาอสูรปรากฏตัวรึไง…?”

    ท่ามกลางผืนป่าเขียวขวี  เพลิงทมิฬระเบิดเป็นวงกว้างกลืนกินดวงวิญญาณทหารจักรวรรดิไปหลายสิบในคราเดียว

    เหตุการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่พักใหญ่  ยิ่งดำเนินผ่านไป  ชีวิตนับร้อยของทหารฝ่ายจักรวรรดิก็ยิ่งถูกบดขยี้
    
    พลังทำลายสุดน่าทึ่ง…

    “ต—ตัวอะไรกัน?  เป็นมอนสเตอร์ชนิดมานาไร้ขีดกำจัดรึไง?”

    สิ่งมีชีวิตแบบใดกันที่สามารถทำลายกองทัพอันเกรียงไกรของจักรวรรดิได้ด้วยเวทมนตร์เปลวเพลิงอนันต์เช่นนี้?

    อาเรสได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่
    เขาไม่เคยคิดว่าป่าลิเบรอนแห่งนี้จะมีบอสลับซ่อนอยู่

    “อาเรส!  จะปล่อยให้กองทัพเราโดนปีศาจนั่นกลืนกินไม่ได้!  รีบถอยเร็วเข้า!”

    ท่ามกลางความวุ่นวาย  สก็อตต์รีบถอนตัวจากโรเล็กซ์เพื่อกลับมาหาอาเรส
    
    ปีศาจลึกลับตนนี้อาจกำลังทำลายของทัพจักรวรรดิอยู่ก็จริง  แต่หากกองทัพจักรวรรดิเสียชีวิตจนหมดสิ้น  เป้าหมายต่อไปจะไม่พวกตนหรอกหรือ?
    
    อาเรสคิดไม่ต่างกัน
    แม้จะมองเห็นตัวปีศาจไม่ชัด  เพราะถูกทหารฝ่ายจักวรรดิบังไว้หมด  แต่อาเรสก็มั่นใจหลายส่วนว่า  ปีศาจตนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
    อาจเป็นบอสระดับมังกร…

    “ถอนทัพ!  ถอยทัพเต็มกำลัง!!”

    ปัจจุบัน  โรเล็กซ์เลิกสนใจอาเรสและเหล่าขุนพล  มันรีบกลับไปยังจุดที่กองทัพฝ่ายจักรวรรดิถูกปีศาจทำลาย

    นี่คือโอกาสทองให้อาเรสรีบหนี

    ขณะอาเรสออกคำสัญถอนทัพโดยไม่ลังเลพร้อมกับกระโจนขึ้นม้า
    
    “ฉันคือราชาโจมตีธรรมดา...”

    ปีศาจลึกลับที่ตะลุยฝ่ากองทัพจักรวรรดินับหมื่น  มันผู้นั้นได้ป่าวประกาศแนะนำตัวเองด้วยนามสุดเห่ยว่า…
    ‘ราชาโจมตีธรรมดา’

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,152
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ได้ยินแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วนะว่าใคร .....อาเรส

    ReplyDelete
  2. 555ไม่มีทางเป็นใครไปได้อีก ชื่อที่แสดงถึงความเห่ยสุดบรรยายของการตั่งชื่อ

    ReplyDelete
  3. จะประกาศชื่อทำเพื่อ 555+ บางครั้งการเงียบปากก็ดีกว่านะ 555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00