จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 706
‘ไม่สั่นกลัวเลยงั้นหรือ?’
โรเล็กซ์เริ่มมีสีหน้าดำมืด
ภายใต้หมวกฟาง โรเล็กซ์เหลือบเห็นรอยยิ้มอย่างพึงพอใจของศัตรู
‘เสียสติไปแล้วรึไง?’
โรเล็กซ์เป็นใครกัน?
อัศวินลำดับสาม
ด้วยฐานะหนึ่งในตัวตนทรงอิทธิพลของทวีปตะวันตก มีผู้คนแสนน้อยนิด เพียงหยิบมือเท่านั้นที่ไม่หวาดกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับโรเล็กซ์
แต่หนึ่งในนั้นกำลังยืนต่อหน้ามัน
โรเล็กซ์ไม่คิดเป็นอื่นนอกจากชายผู้นี้เสียสติเรียบร้อยแล้ว
“นั่นสินะ...มีคนไม่น้อยที่กลายเป็นบ้าเพียงเพราะแรงกดดันมหาศาลจากฉัน”
ความประหลาดใจแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์เดือดดาล
เส้นเลือดบนหน้าผากโรเล็กซ์เริ่มปูดโปน
“นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าเผยรอยยิ้มต่อหน้าฉัน!!”
ฟุ่บ!
ไม่มีสิ่งใดต้องต่อปากต่อคำกันอีก
ชายตรงหน้าคือศัตรูที่สังหารกองทัพจักรวรรดิไปมากมาย
โรเล็กซ์ต้องลบตัวตนมันผู้นั้นออกจากโลกโดยสมบูรณ์
“แค่ตีฝ่าทัพห้าหมื่นสำเร็จก็หยิ่งผยองแล้วหรือ? ฉันก็ทำได้เช่นกัน! จะแสดงให้แกเห็นเองว่านอกกะลามันกว้างใหญ่แค่ไหน!”
ซู่ววว—
เมื่อสิ้นเสียงคำราม ขวานยักษ์ในมือโรเล็กซ์ได้เปล่งแสงที่สามารถสั่นคลอนบรรยากาศโดยรอบทั้งหมด
มันคือแรงกระเพื่อมที่เกิดจากการสั่นไหวของพละกำลังมหาศาล
ขวานยักษ์ฟาดฟันตรงมายังร่างกริด ลมปะทะแหวกอากาศได้ป่นเศษหินจนแหลกละเอียด
อาเรสรีบตะโกนขึ้นด้วยใบหน้าขาวซีด
“อย่ารับเชียวนะ! ไอ้ปีศาจนี่มีค่าพละกำลังไม่ต่ำกว่าห้าพัน! นายไม่มีทางรับไหวแน่!!”
อาเรสตระหนักดี คำแนะนำของตนคือสิ่งไร้ความหมาย
โรเล็กซ์มิใช่ตาเฒ่าบ้ากล้ามสมองทึบ
มันทั้งว่องไวและเฉลียวฉลาด
แม้จะรู้ว่าการโจมตีนี้ทรงพลังมากเพียงใด แต่เป้าหมายก็ไม่มีทางหลบพ้น
ทั้งรวดเร็ว รุนแรง และมีวิถีการฟันเฉียบคม ไม่สามารถหลบหรือปัดป้องได้ทันแน่
และในวินาทีที่ถูกปัดป้อง แรงกระแทกจะสร้างความเสียหายต่อร่ายกายเป้าหมายอย่างมหาศาล อาการผิดปรกติทางร่ายกายมากมายจะตามติดเป็นหางว่าว
อาเรสประเมินอัศวินลำดับสามไว้ว่า ‘แข็งแกร่งกว่าครอเกลในช่วงที่ดีที่สุด’
‘ก็ไม่อยากยอมรับหรอกนะ...แต่มันคือความจริง!’
ยังไม่มีผู้เล่นคนใดที่เลเวลสูงถึง 400
แต่อัศวินหลักเดียวล้วนเป็นคลาสระดับสี่กันถ้วนหน้า มิใช่ตัวตนที่ผู้เล่นปัจจุบันจะเอาชนะได้
นั่นคือสิ่งที่อาเรสคิด
“แล้วฉันจะหลบขวานปีศาจนี่ยังไง?”
งานอดิเรกของกริดคือการทำลายสามัญสำนึกผู้คน
เปรี้ยงงงง—
ขวานยักษ์โรเล็กซ์ถูกจามใส่หน้าอกกริดอย่างจัง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 14,300 หน่วย ]
เป็นความเสียหายรุนแรงหนักข้อหากพิจารณาว่า กริดกำลังสวมไอเท็มป้องกันกายภาพครบทั้งตัว
กระนั้น ชายหนุ่มยังคงปักหลักยืนอยู่ที่เก่าโดยไม่สั่นคลอน
ฉึก!
ฉึกฉึกฉึก!
สี่ครั้งต่อหนึ่งวินาที
กริดกัดฟันโจมตีสวนโรเล็กซ์ในข่องว่างขณะมันดึงขวานกลับ
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 6,900 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 7,630 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 8,400 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 9,390 หน่วย ]
[ เปลวเพลิงขนาดใหญ่แสดงผล สร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 5,000 หน่วย ]
ใช่แล้ว
กริดคือชายผู้ครอบครองพลังไอเท็ม เขาตอบโต้โรเล็กซ์ด้วยความเจ็บปวดระดับเดียวกัน
พลังไอเท็มย่อมมีวิธีสู้แบบพลังไอเท็ม
“อั่ก...?”
นัยน์ตาดำโรเล็กซ์เริ่มสั่นระริกเมื่อถูกศัตรูปริศนาฟาดฟันสี่ครั้งซ้อน
ความกังวลทวีจำนวนขึ้นเมื่ออาการบาดเจ็บที่ได้รับเกินกว่าระดับ ‘ไม่เจ็บไม่คัน’
‘รอดจากขวานเราได้ก็นับว่าน่าทึ่งมากแล้ว...แต่กลับสามารถโจมตีสวนด้วยความรุนแรงเพิ่มขึ้นในทุกดาบ?’
เคร้งงง!
หากวัดเพียงพละกำลัง มีน้อยคนบนทวีปตะวันตกที่สามารถประลองชนะโรเล็กซ์
ถึงจะถูกโจมตีสวนกลับอย่างน่าอับอาย แต่ขวานในมือโรเล็กซ์ก็มิได้อยู่เฉย
กริดฟันกลับมาสี่ที โรเล็กซ์ก็หวดกลับไปหนึ่งครั้ง
คราวนี้เป็นหัวไหล่
[ คริติคอล! ]
เป็นวิถีโจมตีที่แม่นยำเฉียบคม
โรเล็กซ์เชื่อว่า ร่ายของกริดคงถึงคราวถูกฉีกเป็นสองท่อน
มันออกแรงกดขวานที่สับหัวไหลกริดลงโดยหมายจะบดขยี้ชุดเกราะที่ชายหนุ่มสวม
ทว่า...
‘ไม่ขยับ…?’
ชุดเกราะที่สร้างจากเกล็ดหลายชั้น
ความเหนียวของชุดเกราะไม่เข้ากับรูปลักษณ์ที่ระยิบระยับอลังการเลยสักนิด ขวานยักษ์ในมือโรเล็กซ์มิอาจขยับเขยื้อนแม้แต่เซนติเมตรเดียว
แต่ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่ปัญหา
บนโลกนี้มีชุดเกราะยอดเยี่ยมอยู่มากมาย
ขวานโรเล็กซ์โด่งดังในด้านการสับเหล็กกล้าเฉกเช่นหั่นแครอทก็จริง แต่ก็มิได้ฉีกขาดทุกชุดเกราะที่เคยฟาดฟันมา
ทว่า...มันมิได้รู้ตัวเลยสักนิด ปัญหาที่แท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ในวินาทีที่ขวานถูกดึงกลับ
‘เงี่ยงย้อนศร’ บนชุดเกราะเริ่มเกาะติดขวานของโรเล็กซ์และสร้างความเสียหายแก่มัน
หงึกหงึก!
หงึกหงึกหงึก!
“…!!”
โรเล็กซ์ที่ประหลาดใจรีบออกแรงดึงขวานมากยิ่งขึ้น แต่ทุกสิ่งก็สายไปแล้ว
เปรี้ยะ!
แม้จะดึงขวานกลับสำเร็จ แต่ค่าความคงทนก็ลดลงหลายระดับในพริบตา บนคมขวานปรากฏรอยร้าวชัดเจน
นี่คือผลของออปชั่น ‘หักศาสตรา’ จากชุดเกราะสามชั้น
“เชิญโจมตีเข้ามาได้ทุกเมื่อ แล้วคอยดูกันว่า ฉันจะตายก่อนหรือขวานแกจะใช้ไม่ได้ก่อนกัน”
อึกอึกอึก…!
กริดเย้ยหยันโรเล็กซ์พร้อมกับซดโพชั่นระดับสูงของโรงแปรธาตุที่ตนเกลียดชังหนักหนา
จากนั้น เขารัวฟันดาบใส่โรเล็กซ์อย่างไม่หยุดพัก ทั้งหมดล้วนเป็นการโจมตีธรรมดา
ทุกครั้งที่สะสมโจมตีใส่เป้าหมายเดิม ค่าพลังโจมตีของอาวุธจะเพิ่มสูงขึ้น
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 14,300 หน่วย ]
“อั่ก!”
เมื่อครบครั้งที่สิบ สีข้างของโรเล็กซ์เริ่มแสดงอาการบาดเจ็บให้เห็น
นี่คือความเจ็บปวดทางกายภาพที่ยากจะเลี่ยงพ้น
“แกนะแก—!!”
ฟุ่บบบบ!
เคร้งงง!
วูบ! วูบ!
เคร้งง!
โรเล็กซ์กวัดแกว่งขวานด้วยความเร็วที่กริดยากจะรับมือ ชายหนุ่มมิอาจหลบหลีกหรือปัดป้องสำเร็จ
แต่ขณะเดียวกัน กริดก็ฉวยโอกาสที่โรเล็กซ์ดึงขวานกลับเพื่อโจมตีสวน
อาการบาดเจ็บของโรเล็กซ์เริ่มสะสมจนแสดงออกทางสีหน้า
“...”
“...”
ยิ่งการดวลสองสัตว์ประหลาดดำเนินไปนานขึ้น บรรยากาศอันเงียบงันชวนขนหัวลุกก็ยิ่งฝากรากลึก
อาเรไม่อยากเชื่อในความบ้าบิ่งที่ตนกำลังเฝ้ามอง
“นี่มันมวยวัดรึไง…?”
ไม่มีทักษะชั้นเชิงอะไรทั้งสิ้น มนุษย์กล้ามสมองทึบสองคนกำลังแลกหมัดเพื่อวัดพลังทางกายภาพของกันและกัน
ราวกับมวยวัดไม่มีผิด…
หงึก!
หงึก!
ทุกคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงเป็นนัยเห็นด้วยกับอาเรส
ทั้งมิตรและศัตรู
‘แย่ล่ะสิ...แบบนี้ไม่ดีแน่’
สีหน้าของอาเรสดำมืดลงหลายส่วน
กริดและโรเล็กซ์
มีหนึ่งสิ่งที่คนทั้งสองแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ความเป็น NPC และผู้เล่น
พลังชีวิตของผู้เล่นจะถูกกำหนดจากแต้มสถานะ สมญานาม และไอเท็ม
แต่สำหรับ NPC พิเศษจะมีระบบที่ต่างออกไปเล็กน้อย
โดยเฉพาะ NPC พิเศษคลาสนักรบ พลังชีวิตของคนเหล่านี้จะสูงไม่แม้มอนสเตอร์ระดับบอส มากมายกว่าผู้เล่นนับร้อยนับพันเท่า
ขณะที่พลังชีวิตของกริดลดลงหนึ่งส่วนหก หนึ่งส่วนเจ็ด ในทุกครั้งที่ถูกโจมตี
แต่หลอดพลังชีวิตโรเล็กซ์กลับไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย
‘ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ กริดแย่แน่...พวกเราต้องรีบกำจัดอัศวินลำดับห้าและหาโอกาสช่วยกริด...’
ขณะอาเรสกำลังวางแผน
“เอ๋…?”
เสียงชื่นชมของใครบางคนดังขึ้น
ลิเบรอนคือป่าร้อนชื้นที่มีบรรยากาศอบอ้าว ปริมาณไอน้ำในอากาศจึงสูง
แต่ปัจจุบัน ออร่าม่วงแดงรอบกายกริดกลับทวีความเข้มข้นขึ้นจนเด่นสง่าเตะตาทุกคน
มันคือปราณต่อสู้
อันที่จริง รอบกายกริดรายล้อมด้วยปราณต่อสู้มาตั้งแต่ต้น แต่มันถูกไอน้ำในอากาศทำให้เจือจางจนแทบมองไม่เห็น
ทว่าปัจจุบัน มันกำลังเข้มข้นเด่นชัดทะลวงผ่านชั้นไอน้ำหนาปรากฏสู่สายตา
[ ปราณต่อสู้ของท่านกลายเป็น 50 หน่วย ]
เคร้ง!
เคร้งเคร้งเคร้ง!
“อั่ก…!”
โรเล็กซ์ดวงตาเบิกโพลงเมื่อถูกการโจมตีสะสมจากกริดอย่างต่อเนื่อง
มันไม่อยากเชื่อว่าจะมีใครโจมตีได้รุนแรงขนาดนี้
“เข้าใจแล้ว...แกเป็นนักรบคลั่งสินะ!”
โรเล็กซ์เคยมองว่าพลังป้องกันของกริดสูงเกินกว่าจะเป็นนักรบคลั่ง
แต่ปัจจุบัน มันมิอาจคิดเป็นอื่นได้อีก
ชายหนุ่มส่ายศีรษะ
“นักรบคลั่งงั้นหรือ…? เปล่าเลย”
“???”
“ราชาโจมตีธรรมดาต่างหาก”
“บัดซบ…! เอาแต่พล่ามในสิ่งที่ไร้ความหมายอยู่ได้!”
โรเล็กซ์พลันเดือดดาลสุดขีด
ท่าทียียวนของกริดยิ่งทำให้มันทวีความหงุดหงิดขึ้นหลายเท่า
โรเล็กซ์คำรามราวสัตว์ป่าพร้อมกับปลดปล่อยพายุขวานสังหาร
***
[ ท่านได้รับบาดเจ็บ 14,600 หน่วย ]
[ ปราณต่อสู้กลายเป็น 60 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 15,660 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 15,710 หน่วย ]
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 1,885 หน่วยจากแหวนเอลฟิน·สโตน ]
[ ค่าประสบการณ์แหวนเอลฟิน·สโตนเพิ่มขึ้น 0.3% ]
‘ไอ้ระยำนี่มีความถึกทนไม่ต่างจากจอมอสูรเลยสักนิด’
ผ่านไปเพียงสองนาทีหลังจากกริดเริ่มดวลกับโรเล็กซ์
แต่กริดกลับรู้สึกแสนนานประหนึ่งกาลเวลาไหลผ่านหลายชั่วโมง
ในทุกหนึ่งวินาที กริดจะโจมตีได้สี่ครั้งและถูกโจมตีหนึ่งครั้ง โรเล็กซ์คือปีศาจที่สามารถควงขวานยักษ์ด้วยความเร็ววินาทีละหนึ่งครั้งโดยไม่เหน็ดเหนื่อย
แม้ค่าเรี่ยวแรงจะยังเหลืออีกมาก แต่พลังทางใจของกริดกลับถูกเผาผลาญอย่างรวดเร็ว
กริดต้องเพ่งสมาธิเพื่อเก็บรายละเอียดในทุกวินาทีที่เวลาผ่านไป ทำซ้ำเช่นเดิมโดยมิขาดตกบกพร่อง
โจมตีสี่ครั้ง โดนฟันหนึ่งครั้ง
ใช่แล้ว
เขากำลังแบกรับภาระทางจิตใจมหาศาล
ฉึก!
‘หมอนี่มีทักษะดูดเลือดรึไง?’
ชายหนุ่มกระอั่กโลหิตคำโตเมื่อหน้าอกถูกขวานจามใส่อีกหน กริดหันไปสำรวจหลอดพลังชีวิตของโรเล็กซ์และพบว่ามันกระดิกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
‘ไอ้ปีศาจนี่...ถึงว่าทำไมใช้ทักษะโจมตีน้อย ที่แท้เพราะมีทักษะติดตัวจำนวนมากนี่เอง...ยิ่งทำให้เรารับมือยากขึ้นไปอีก’
กริดได้แต่กัดฟันยอมรับว่าโรเล็กซ์แข็งแกร่งกว่าตน
ความเสียหายการโจมตีธรรมดาของโรเล็กซ์รุนแรงกว่าอัศวินความตายมาดรา และค่าประสบการณ์ไอเท็มทุกชิ้น ไม่ว่าจะแหวนหรือเข็มขัด ต่างเพิ่มสูงกว่าเมื่อครั้งดวลกับอัศวินความตายมาดรา
กริดเพ่งสมาธิมากขึ้นยิ่งกว่าเก่าเพื่อหาทางออก
เขาจะทำพลาดไม่ได้เด็ดขาด
จนกระทั่งตกผลึกได้บทสรุป
‘ถ้าปล่อยไว้แบบนี้...เราไม่ชนะแน่’
ในทางทฤษฏี ไม่มีทางเลยที่กริดจะเอาชนะโรเล็กซ์ได้ด้วยการโจมตีธรรมดาเพียงอย่างเดียว
เพราะอีกฝ่ายคือปีศาจที่มีพลังชีวิตไม่ต่ำกว่าสิบล้าน
‘หากเราใช้วิชาดาบแพ็กม่าได้ล่ะก็...’
ความถึกทนระดับปีศาจแล้วอย่างไร?
มันจะสูญเปล่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณสมบัติสุดโกงจากวิชาดาบแพ็กม่า
แต่กริดในปัจจุบันมิอาจสำแดงที่สิ่งเชื่อมโยงกับราชาโอเวอร์เกียร์ได้
เขาจะถูกจักรวรรดิรู้ตัวจริงไม่ได้เด็ดขาด
ยังเหลือทางใดอีก?
ต้องหนีหากจุกก้นเพียงเพราะไม่มีโอกาสชนะงั้นหรือ?
‘ไม่เด็ดขาด!’
การเผชิญหน้ากับโรเล็กซ์ให้ความรู้สึกแตกตากจากเมื่อครั้งเผชิญหน้าเมอร์เซเดสและยังบันการัมมาก
ตัวตนโรเล็กซ์ลีบเล็กกว่าสองคนนั้น
แถมกริดยังประเมินตันเองไว้สูง
นี่มิใช่ความโอหังจองหอง
มหาวีรบุรุษเหนือวีรบุรุษ คิดว่าสิ่งนี้เป็นสมญานามที่ครอบครองได้ง่ายหรือไง?
กริดเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งตัวเอง
‘นึกเข้าสิ...ยองวู นายจะเอาชนะปีศาจตนนี้ด้วยวิธีใดได้บ้าง?’
“คุฮ่าฮ่าฮ่า! แกคงเหนื่อแล้วสินะ!”
‘แย่ล่ะสิ..’
กริดทุ่มสมาธิครุ่นคิดจนลืมโจมตีสวนกลับในช่องว่างที่โรเล็กซ์ชักขวานกลับ
ออร่าน้ำเงินเข้มรอบกายโรเล็กซ์พลันหลั่งไหลควบแน่นที่คมขวาน
เป้าหมายการฟาดฟันคือร่างกริด
แรงกระเพื่อมของพลังงานที่คมขวานยักษ์ราวกับพร้อมระเบิดในทุกวินาที
การโจมตีถัดไปคงเกิดระเบิดเป็นวงกว้างไม่ต่างจากเพลิงทมิฬแน่นอน
‘ขนาดการฟันธรรมดาเรายังหลบไม่พ้น นับประสาอะไรกับท่ารุนแรงเช่นนี้...ชิ! นี่เราต้องใช้พลิ้วไหวแสนมีค่าเพียงเพื่อหลบหลีกการโจมตีรึไง?’
แต่สูญเสียพลิ้วไหวย่อมดีกว่าสูญเสียประกันชีวิตอมตะ
ขณะกริดกำลังจะชักมีดสั้นอุดมคติ
‘เดี๋ยวนะ…? ระเบิด?’
ภาพของวัตถุบางชนิดได้แล่นเข้ามาในหัว
วินาทีที่ขวานโรเล็กซ์กำลังจะสับหน้ากริดและผ่าร่างชายหนุ่มออกเป็นสองซีก
เขากางผืนผ้าปริศนาออกรับขวาน
ผ้าคลุม?
ไม่ใ่ช่...มันคือเศษผ้า
“กริด…! เอ๋?”
อาเรสคาดว่ากริดคงไม่รอดแน่หากรับทักษะของปีศาจโรเล็กซ์เข้าไปอย่างจัง
เขารีบปรี่เข้ามาเพื่อหวังช่วยเหลือ แต่กลับต้องยืนทึ่งตัวแข็งค้าง
อาเรสรู้สึกแปลกประหลาดเมื่อเห็นกริดกางผืนผ้าปริศนาออก
ทันใดนั้น ขวานยักษ์ในมือโรเล็กซ์ได้ฟาดใส่ผ้าพร้อมกับออร่าสีน้ำเงินเข้มที่กำลังสั่นกระเพื่อมจนบิดเบือนกระแสอากาศ
เศษผ้าคงขาดในพริบตาและแบ่งร่างกริดออกเป็นสองซีก...
โรเล็กซ์พ่นลมหายใจเหยียดหยัน
‘หมอนี่ต้องเสียสติไปแล้วแน่!’
มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่คิดใช้เศษผ้ารับ ‘ขวานกัมปนาท’ ที่สามารถสร้างหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่เป็นวงกว้าง
ช่างเถอะ...ก็เข้าใจได้ล่ะนะ
ขวานกัมปนาทคือยอดทักษะที่มิอาจหลบหลีกหรือปัดป้องได้ด้วยวิธีการปรกติ
ไม่แปลกที่ใครสักคนจะทำเรื่องสิ้นคิดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนี้
“…เอ๋?”
ขณะโรเล็กซ์กำลังแสยะยิ้มชั่วเมื่อจินตนาการภาพชายตรงหน้าถูกแรงระเบิดบดขยี้ร่าง
สมองโรเล็กซ์พลันขาวโพลนไปชั่วครู่
ขวานในมือที่ควรระเบิดสร้างภัยพิบัติร้ายแรงเป็นวงกว้าง ปัจจุบันกลับเงียบสงัดไร้ภัยคุกคามเพียงเพราะถูกเศษผ้าห่อหุ้มไว้
‘อะไรกัน...?’
โรเล็กซ์แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
มันไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว ว่าเหตุใดแรงระเบิดมหาศาลถึงหายไป
เมื่อถูกผืนผ้าบดบังการมองเห็น โรเล็กซ์รีบชักขวานกลับพร้อมกับถอยหลังสร้างระยะห่าง
ทันใดนั้น กริดพุ่งตัวตามจ้วงแทงดาบในมืออย่างฉับไว
โจมตีธรรมดาอีกแล้วหรือ?
ถูกต้อง...
แต่หนนี้เป็นการโจมตีธรรมดาที่สอดแทรกด้วยทักษะบางชนิด
“เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลาย!”
เปรี้ยงงงง!!
“…!!”
ใบหน้าโรเล็กซ์พลันขาวซีด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,152
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
มันสุดติ่ง อัพเกรดขึ้นทุกวัน ราชากริดของเรา ขอบคุณครับ🙏😊
ReplyDeleteอาเรสบอก: ไม่ต้องพูด
Deleteลัค กับสก็อตก็บอกอาเรส: ไม่ต้องพูดเหมือนกันเลย 555+