จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 631
'หล่อนเป็นใครกันแน่...'
อัครทูตคือตัวตนที่ต้องเป็นปากเสียงให้อาณาจักร
ความสามารถจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ...ชะตากรรมของอาณาจักรตกอยู่ในมือผู้เจรจา
ใช่แล้ว...กริดเข้าใจได้ ถึงสาเหตุที่อัครทูตของจักรวรรดิต้องเป็น NPC พิเศษ
ไม่แปลกเลยสักนิด...ที่ทูตของจักรวรรดิจะเป็น NPC ระดับสุดยอด ซึ่งมีความสามารถเน้นหนักในทางการทูต
'จักรวรรดิมีผู้คนมากมาย NPC พิเศษแต่ละสาขาคงมีอยู่ดาษดื่น'
แต่ว่า...นี่มันปราณดาบไม่ผิดแน่!
ทักษะติดตัวของเมอร์เซเดสได้ปลดปล่อยแรงคุกคามอันน่าสะพรึงใส่กริด
สิ่งนี้คือทักษะระดับท็อป ที่สามารถทะลวงผ่านค่าต้านทานของตำนานได้ง่ายดาย...
ปราณดาบอันคมกริบเช่นนี้...
ไม่ควรมีผู้ใดถือครองได้...นอกเสียจากอริยดาบครอเกล
'เราจำผิดไปรึเปล่านะ...แต่เคยได้ยินมาว่า ระบบที่ชื่อ <ปราณดาบ> ถือเป็นลักษณะพิเศษ เป็นสิ่งเฉพาะตัวของอริยดาบเท่านั้น'
มันคือพลังที่คอยสนับสนุนความรุนแรงของทักษะดาบทั้งหมด
'การมีปราณดาบเช่นนี้...เมอร์เซเดสต้องบรรลุในศาสตร์แห่งดาบ ไม่ด้อยไปกว่าอริยดาบแน่นอน'
เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ด้วยหรือ...
เหตุใด...ตัวตันที่ยิ่งใหญ่ถึงกำลังยืนอยู่ตรงหน้าตน
กริดจ้องมองเมอร์เซเดสด้วยสายตาระมัดระวังมากขึ้น
ท่ามกลางความเงียบงัน เมอร์เซเดสเป็นฝ่ายเปิดปากพูด
"ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าข่าวลือเสียอีก...ศักยภาพที่แท้จริงของตำนาน คงมากกว่าสิ่งที่ประวัติศาสตร์เคยบันทึกไว้"
เมอร์เซเดสกล่าวยกย่องค่าสถานะของกริดที่เธอมองเห็น
"จักรวรรดิเราเคยดูแคลนทุกตำนานยกเว้นอริยดาบ...แต่ในอนาคตคงต้องมองใหม่"
"..."
กริดพลันขมวดคิ้ว
ท่าทีของเมอร์เซเดส ราวกับคนสูงอายุกำลังกล่าวชมเด็กเล็ก
เธอกำลังดูแคลนกริดชัดเจน
'หากยังทำตัวตามสบายได้อยู่ แม้ว่าจะเห็นค่าสถานะของเราไปแล้ว ย่อมหมายความว่า...เธอแข็งแกร่งกว่าหลายเท่าสินะ'
ไม่ใช่สิ่งที่คาดเดาได้ยากขนาดนั้น
เมอร์เซเดสคือผู้ที่จักรวรรดิเลือกให้เป็นตัวแทน
ไม่มีทางเป็น NPC ชั้นต่ำปลายแถว
"เราขอถาม...เจ้ามีสถานะใดในจักรวรรดิ"
กริดที่นั่งอยู่บนบัลลังก์...เอ่ยปากถามเมอร์เซเดสอย่างซื่อตรง
"สังกัดอัศวินสีชาด มหาจักรพรรดิทรงประทานเลข 1 ให้ด้วยพระองค์เอง ผู้คนมักเรียกขานกันว่า...อัศวินลำดับหนึ่ง"
"...อะไรนะ"
กริดพลันผงะ หัวใจแทบหยุดเต้น
ตัวตนของอัครทูตในหนนี้ แท้จริงแล้วคือ...อัศวินที่เก่งกาจที่สุดของจักรวรรดิ!
ไม่ว่าเป็นใคร...ก็สมควรต้องตกใจทั้งนั้น
ตัวตนของเมอร์เซเดสไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
"น่าแปลกมาก...เหตุใดฝ่าบาทมหาจักรพรรดิถึงต้องส่งตัวตนที่ยอดเยี่ยมเช่นเจ้า มายังอาณาจักรตั้งใหม่แรกเกิดของเรา"
กริดตอบกลับอย่างระมัดระวัง เขาใช้คำเรียกขานจักรพรรดิอย่างเหมาะสม
ชายหนุ่มมิต้องการเป็นศัตรูกับจักรวรรดิในตอนนี้
หากจักรวรรดิไม่พอใจแม้แต่เศษเสี้ยว พวกมันสามารถบดขยี้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ให้แหลกคามือได้ในพริบตา
'เรื่องตั้งตนเป็นศัตรูกับจักรวรรดิ...นั่นคืออนาคตอีกยาวไกล'
แม้ภายนอก...กริดอาจดูยิ้มแย้ม
แต่เขากำลังฝืนพยายามอย่างหนักในฐานะกษัตริย์
บนบ่าของกริดได้แบกรับชะตาชีวิตของประชาชนหลายแสนไว้
เมอร์เซเดสอมยิ้มเล็กน้อย
"สาเหตุที่ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิตัดสินใจส่งอัศวินลำดับหนึ่งมาที่นี่ เพราะพระองค์ทรงให้ความนับถือกษัตริย์กริดเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงชื่นชมในความสามารถอันยอดเยี่ยม...ที่สามารถยึดครองอาณาจักรได้ด้วยพละกำลังของตนเอง ด้วยเหตุนี้...อัตรทูตจึงต้องเป็นอัศวินที่เก่งกาจที่สุดของอาณาจักร"
"ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิทรงกล่าวชมงั้นหรือ..."
"ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิทรงฝากข้อความไว้ด้วยว่า ผู้ปกครองไม่ควรหลงระเริงไปกับคำสรรเสริญ...จิตใจต้องกว้างขวางดุจดังมหาสมุทร"
"เข้าใจแล้ว...ขอขอบพระทัยฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ"
ยิ่งการสนทนาดำเนินผ่านไป ความอึดอัดภายในใจกริดก็ยิ่งทวีจำนวน
ชายหนุ่มตัดสินใจข้ามถ้อยคำไร้สาระ เขาต้องการเข้าประเด็น
"เช่นนั้นแล้ว...ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิต้องการสิ่งใดจากเรา"
ทันใดนั้น...สีหน้าอันยิ้มแย้มของเมอร์เซเดสพลันจางหาย
กลายเป็นสีหน้าเรียบเฉยและเย็นชา
ผิวพรรณผุดผ่องบนใบหน้า ผสานกับนัยน์ตาสีฟ้าเข้ม
ราวกับแววตาของเธอสามารถมองทะลวงผ่านได้ทุกสิ่ง
ชายหนุ่มรู้สึกถูกคุกคามจนแทบหายใจไม่ออก
"ประการแรก...เริ่มด้วยการพิพากษา บาปที่กษัตริย์กริดได้ก่อไว้"
"บาป..."
"บาปที่หนึ่ง...บาที่บังอาจทำลายอาณาจักรอีเทอนัล บริวารผู้จงรักภักดีและคอยส่งบรรณาการให้จักรวรรดิ โดยไม่เคยขาดตกบกพร่อง กษัตริย์กริดกระทำลงไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากจักรวรรดิ"
"..."
"บาปที่สอง...บาปที่บังอาจก่อตั้งอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากจักรวรรดิ ผู้ปกครองสูงสุดของทวีปตะวันตกแห่งนี้"
"..."
"บาปที่สาม...บาปที่บังอาจไม่ไปรายงานตัวและถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าฝ่าบาทมหาจักรพรรดิหลังจากขึ้นครองราชย์"
"..."
"บาปที่สี่...บาปที่บังอาจพรากอาณาจักรโฟลด์ ออกจากการเป็นบริวารของจักรวรรดิ"
"..."
เมอร์เซเดสร่ายยาวบาปของกริดด้วยสีหน้าเย็นชา
เธอคาดว่า กริดคงกำลังเดือดดาลอยู่ภายในใจแน่
แต่ในมุมมองของจักรวรรดิ บาปที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนชอบธรรมแล้ว
ถึงกระนั้น ชายหนุ่มก็มิอาจทำใจยอมรับได้
ทว่า...สีหน้าภายนอกของกริดยังคงสุขุม ราวกับเตรียมใจรอรับการลงโทษแต่โดยดี
กริดพยายามสงบสติอารมณ์ เขารีบส่งข้อความส่วนตัวหาลอเอล
>> ฉันถูกกล่าวโทษด้วยบาปสี่ข้อ...ต้องทำยังไงต่อ
>> กระหม่อมคิดไว้อยู่แล้ว
คำตอบของลอเอลทำให้กริดโล่งใจไปหลายส่วน
อัจฉริยะผู้นี้คาดคิดและเตรียมการล่วงหน้าไว้เสมอ
>> ฝ่าบาทพูดตามกระหม่อมอย่างชัดถ้อยชัดคำ
กริดเริ่มพูดในสิ่งที่ลอเอลกำกับ ให้เมอร์เซเดสรับฟัง
"เราไม่อาจยอมรับบาปทั้งสี่ข้อได้...ทั้งหมดล้วนเกิดจากความเข้าใจผิดและความไม่รู้"
แววตาของชายหนุ่ม หรี่ลงอย่างสุขุมลุ่มลึก
"สำหรับบาปแรก...ไม่ถูกนักที่จะกล่าวว่า อาณาจักรอีเทอนัลเป็นบริวารของจักรวรรดิ แม้อีเทอนัลจะส่งบรรณาการให้จักรวรรดิก็จริง แต่มิใช่ในฐานะบริวาร เป็นที่รู้กันดีว่า...อีเทอนัลอยู่ในสภาพวางตัวเป็นกลาง และจักรวรรดิก็ยอมรับในเรื่องนี้ การส่งบรรณาการจึงมิใช่เพราะตกอยู่ในฐานะเมืองขึ้น"
"..."
"บาปประการที่สอง…มิได้มีกฏหมายระบุไว้ชัดเจนว่า การก่อตั้งอาณาจักรต้องได้รับความเห็นชอบจากจักรวรรดิเสียก่อน แต่หากเราเฉลียวฉลาดกว่านี้ เราคงไม่พลาดที่จะแจ้งให้จักรวรรดิทราบก่อน เป็นเพราะความโง่เขลาและความไม่รู้ของเรา จึงมิได้รายงานให้ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิทราบในตอนก่อตั้งอาณาจักร สิ่งนี้เกิดจากความไม่รู้...มิได้เกิดจากความตั้งใจ ไม่ถูกนักหากจะกล่าวว่ามันคือความผิดบาป ซึ่งตอนนี้เรารู้และสำนึกแล้ว"
"..."
"บาปประการที่สาม...อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังวุ่นวายและไม่สงบ อาณาจักรที่เล็กและกำลังถูกสั่นคลอนอยู่เช่นนี้ ตัวตนอันอ่อนแอเช่นกษัตริย์อย่างเรา คงมิอาจเอื้อมรบกวนเวลาเข้าเฝ้าฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ เราคิดว่านั่นคือการเสียมารยาทและผิดกาลเทศะ จึงเลื่อนการเข้าเฝ้าฝ่าบาทมหาจักรพรรดิออกไปก่อน"
"..."
"บาปประการที่สี่...การทำให้อาณาจักรโฟลด์กลายเป็นบริวารของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ สิ่งนี้เกิดขึ้นระหว่างการปกป้องตนเองจากทูตทั้ง 15 อาณาจักร เราจำเป็นต้องสำแดงพลังให้พวกมันเกรงกลัว ไม่อย่างนั้น...อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะถูกรุมกดขี่อยู่ฝ่ายเดียว แต่ระหว่างการป้องกันตัว อาณาจักรโฟลด์กลับขอเป็นอาณาจักรบริวารด้วยเจตนาของตนเอง สิ่งนี้เป็นความบังเอิญที่เรามิได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น สำหรับอาณาจักรโฟลด์นั้น...เรามีแผนจะคืนให้จักรวรรดิอยู่แล้ว"
ร่างกายกริดสั่นระริกเล็กน้อย...ศักดิ์ศรีของตนและอาณาจักรกำลังถูกขีดข่วนรุนแรง!
เมอร์เซเดสที่ยืนฟังอย่างตั้งใจ บัดนี้เริ่มคลายสีหน้าเย็นชาลง
"ถ้อยคำเหล่านั้นเป็นเพียงข้ออ้างแก้ต่าง...ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด"
เมอร์เซเดสแสยะยิ้ม
"แต่ช่างเถิด...เจตนาของกษัตริย์กริด ทางจักรวรรดิได้รับรู้ทั้งหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้น...คงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า...อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะถวายตัวเป็นบริวารของจักรวรรดิอย่างเป็นทางการ ใช่รึไม่"
เฮือก
กริดเดือดดาลจนมิอาจตอบกลับในทันที
แต่ลอเอลได้กำชับหนักแน่น...ให้รีบพยักหน้าตอบตกลง
ศักดิ์ศรีของกริดป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี
"...ถูกต้อง"
"ดีมาก...ท่าทีของกษัตริย์กริดเป็นดังที่ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิคาดไว้ เช่นนั้นแล้ว...สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือพระประสงค์ของฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ"
สีหน้าของเมอร์เซเดสพลันเย็นยะเยียบอีกครั้ง
"กษัตริย์กริดเอ๋ย จงลงจากบัลลังก์เสีย คุกเข่าต่อหน้าราชโองการ และเตรียมรับฟัง"
"อะไรนะ..."
คุกเข่า...กริดแทบไม่เชื่อหู สายตาของชายหนุ่มจดจ้องเมอร์เซเดสอย่างไม่กระพริบ
"นี่คือราชโองการแห่งมหาจักรพรรดิ ย่อมต้องแสดงความนอบน้อมเป็นธรรมเนียม...จะทำรึไม่"
"....ด--ได้"
แม้จะน่าอับอายเพียงใด...แต่ทุกการกระทำของตนคือสิ่งกำหนดชะตาชีวิตพลเมืองหลายแสน รวมถึงชะตากรรมสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนที่ฝากความหวังไว้กับตน
เหนือสิ่งอื่นใด...เงินจำนวนหลายหมื่นล้านวอนที่ลงทุน
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยังไม่มีพลังอำนาจต่อต้านจักรวรรดิในเวลานี้
กริดจะสูญเสียทุกข์สิ่งโดยปล่อยให้อารมณ์ครอบงำไม่ได้เด็ดขาด
'ใจเย็นไว้...มันไม่ได้น่าอับอายเลยสักนิดเดียว!'
กริดลุกขึ้นจากบัลลังก์
ชายหนุ่มเดินไปยืนตรงหน้าเมอร์เซเดส จากนั้นคุกเข่าลง
ดวงตาอันงดงามของเมอร์เซเดสพลันกระตุกเล็กน้อย
'ไม่รู้สึกอับอายสักนิดเลยรึไง...'
ชายที่ชื่อกริดผู้นี้...เขาคือสัตว์ป่าเลือดเย็นที่ไม่มีวันถูกทำให้เชื่อง
เมอร์เซเดสพึงตระหนักได้ถึงภัยคุกคามจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
เธอรีบนำราชโองการออกมาเปิดอ่าน
"ตัวข้า...ฮวนเดอร์ ผู้ปกครองสูงสุดเหนือฟ้าดิน ขอออกคำสั่งอันศักดิ์สิทธิ์...เราจะยอมยกโทษให้ทุกบาปที่กษัตริย์กริดก่อ ด้วยจิตใจอันกว้างขวาง เราจะยอมรับการมีตัวตนของราชาโอเวอร์เกียร์ เราจะไม่ขออาณาจักรโฟลด์กลับคืน เราขอเพียงแค่...กษัตริย์กริดแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ และอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ จักต้องแสดงความจงรักภักดีต่อจักรวรรดิไปตราบนานเท่านาน หลังจากนี้...ในทุกเดือน อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องส่งบรรณาการเทียบเท่ากับเงิน 72% ของรายได้อาณาจักร และสุดท้าย...เมื่อองค์ชายลอร์ดมีอายุครบ 12 ปี เขาต้องถูกส่งตัวเข้าศึกษาภายในโรงเรียนประจำของจักรวรรดิ"
"..."
ยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าลอร์ดจะอายุครบ 12
กริดคงสะสางปัญหาระหว่างจักรวรรดิได้ก่อนหน้านั้นแน่
แต่ปัญหาสำคัญในปัจจุบันก็คือ...บรรณาการเทียบเท่า 72% ของรายได้อาณาจักรในทุกเดือน
"เราเคยได้ยินว่า อาณาจักรอื่นต้องจ่ายบรรณาการเพียง 36% เท่านั้น"
"พวกเราไม่ขออาณาจักรโฟลด์คืน ดังนั้นจึงต้องนับบรรณาการรวมเป็นสองอาณาจักร...จะยินยอมรึไม่"
เมอร์เซเดสพยายามยั่วยุกริดด้วยถ้อยคำและท่าทาง
เธอมองเห็นพลังที่แท้จริงของกริด และรู้ถึงความใจเย็นราวสัตว์ป่าจากชายคนนี้
เธอยอมรับให้กริดเป็นภัยอันตรายต่ออาณาจักร ไม่เหมือนจักรพรรดิฮวนเดอร์ ที่มองกริดและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เป็นเพียงมดปลวก
ด้วยเหตุนี้...เมอร์เซเดสจึงพยายามยั่วยุกริด เพื่อให้เขาคลุ้มคลั่งและทำร้ายทูต
แต่เธอย่อมไม่รู้ว่า เบื้องหลังกริด...มีลอเอลคอยกุมบังเหียนอยู่
ถ้อยคำของลอเอล คอยสงบสติกริดให้ใจเย็นเฉียบอยู่ตลอดเวลา ลอเอลใช้ชีวิตอยู่กับกริดมานานหลายปี การจะทำให้กริดหายพยศ ไม่มีใครรู้ดียิ่งกว่าลอเอลอีกแล้ว
เหนือสิ่งอื่นใด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สภาพแวดล้อมได้หล่อหลอมให้ความอดทนของกริดอยู่ในระดับเหนือมนุษย์
หากต้องการเอาชนะกริด จะแข่งด้านใดก็แข่งไป
แต่อย่าได้แข่งความอดทนและความเพียรกับชายคนนี้เด็ดขาด
"เรายินยอม...เราจะทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ"
"...ช่างเป็นคนที่น่ากลัว เข้าใจแล้ว...เช่นนั้น ขอลากลับแต่เพียงเท่านี้"
เมอร์เซเดสผงกศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินหายออกจากวังหลวงไป
เมื่อถูกทิ้งไว้ตามลำพัง...ดวงตากริดพลันเปี่ยมด้วยความเดือดดาลสุดขีด
"รอก่อนเถอะ...ครั้งหน้าที่พบกัน ฝ่ายคุกเข่าจะต้องเป็นเธอ!"
พลัง...กริดอยากได้พลังมากกว่านี้
ชายหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะถามลอเอล
"พวกเราจะส่งบรรณาการให้จักรวรรดิได้กี่เดือน"
"สามเดือน...หลังจากสามเดือน ประชาชนและทหารจะเริ่มขาดอาหาร เงินของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะติดลบอีกครั้ง เมื่อจบเดือนที่สี่ พวกเราจะพัฒนาอาณาจักรไม่ได้อีก และอาณาจักรก็จะเข้าสู่สภาวะล่มสลาย"
"จะแก้ปัญหานี้ยังไง"
"ปัจจุบัน...ปิอาโร่กำลังอยู่ที่อาณาจักรโฟลด์ ดูเหมือนเกษตรกรรมของอาณาจักรโฟลด์ จะพัฒนารุดหน้ากว่าที่คาดไว้ถึงสามเท่า ส่วนทางด้านอาณาจักรเรา...จำนวนผู้เล่นที่เข้าร่วมภารกิจพัฒนาอาณาจักร(ภารกิจเซ็ตกริด) จะเพิ่มขึ้นห้าเท่าภายในสองเดือน เมื่อถึงเวลานั้น รายได้จากไซเรนและโฟลด์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ส่งผลให้พวกเราสามารถเร่งผลิตโพชั่นรุ่นพิเศษจากโรงแปรธาตุเรย์ดันได้มากขึ้นเจ็ดเท่า สิ่งนี้จะกลายเป็นรายได้หลัก และหากเสริมเงินจากรายได้ของสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนเข้าไป พวกเราสามารถยื้อได้ราวเก้าเดือน"
"หลังจากนั้นจะทำยังไงต่อ"
"แน่นอนว่า...ต้องใช้กำลัง พวกเราต้องมีพลังที่แข็งแกร่งจนจักรวรรดิไม่กล้ายุ่งเกี่ยว"
กริดย้อนนึกไปถึงแพงเจีย
"ฉันต้องไปทวีปตะวันออก...ฉันจะกลับมาพร้อมสหายที่เคยมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน แล้วอย่าลืมมอบสิ่งนี้ให้ปิอาโร่ด้วย"
"วอลนัทสีทอง..."
"มันมีค่ายิ่งกว่าทองคำ ฉันหวังว่า...ในฐานะชาวนาในตำนาน ปิอาโร่คงคิดหาวิธีปลูกมันสำเร็จ"
ฟาร์มอีกแล้วววว
ReplyDeleteน่าจะฆ่านางทิ้งไป. เหมือนเก่งอิ...
ReplyDeleteจริงๆ นางเก่งมากน่ะครับขนาดอาเรสยังแพ้
Deleteแถมตานางยังสามารถมองเห็นอานาคตได้อีกต่อให้กริดสู้ก็ชนะไม่ได้ครับ
Deleteใจร้าย....จะให้ฆ่าเมียตัวเองได้ไง แค่เจอวิชานิ้ว ก็สยบแล่ว
Deleteเป็นการสปอยที่ไม่เหมือนการสปอยคนข้างบน เห้อ คนข้างบนคงอ่านไปถึงตอนที่นายสปอยละ
Deleteจินตนาการภาพไม่ค่อยออกเลยแต่ขอขอบคุณที่ไม่สปอยกันโต้งๆ
Deleteคาสิโนออนไลน์ UFA007
ReplyDeleteufa007.co บาคาร่า-ทดลองเล่น
รวมเกมพนันทุกชนิด บาคาร่า สล็อต หวย แทงบอล .
ควย
DeleteThis comment has been removed by the author.
DeleteI really appreciate your support on this.
ReplyDeleteLook forward to hearing from you soon.
I’m happy to answer your questions, if you have any.
เครดิตฟรี
คาสิโน
คาสิโนออนไลน์
เล่นบาคาร่า