จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 615



    ในซาทิสฟาย  สมญานาม <กษัตริย์คนแรก> จะมอบให้กับผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้น
    ใช่แล้ว  คนเดียวจากสองพันล้าน
    หากดูจากเงื่อนไขการได้รับสุดแสนยากเย็น  ความพิเศษและความยอดเยี่ยมของมันจึงควรค่าแก่การเป็นที่สุด

    จะยอดเยี่ยมขนาดไหนกันนะ...
    ผู้เล่นจำนวนมากต่างคาดว่า  มันคือสมญานามที่ดีที่สุดของเกม  
    บางคนอิจฉากริดที่ได้ครอบครองสมญานามนี้  มากยิ่งกว่าเรื่องที่กริดมีพลังอำนาจ  ความมั่งคั่ง  และประชาชนนับแสนเสียอีก
    
    ความจริงเป็นอย่างไร… มาชมกัน 

[ กษัตริย์คนแรก ]
    กษัตริย์คนแรกที่ก่อตั้งอาณาจักรของผู้เล่น  เขาคือตำนานที่ยังมีลมหายใจ
* มหากษัตริย์ต้องมีชีวิตรอดปลอดภัยในทุกสถานการณ์ - หากท่านสูญเสียพลังชีวิตเกินกว่า 70%  ระบบจะทำการสร้างบาเรียดูดซับความเสียหาย  ปริมาณเท่ากับความเสียหายที่ท่านได้รับใน 1 นาทีหลังสุด  ท่านสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกสภาพผิว 100%  ความเร็วเคลื่อนที่และพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 10%
* มหากษัตริย์ต้องสวมมงกุฏตลอดเวลา - ท่านสามารถสวมใส่มงกุฏและหมวกเหล็กได้พร้อมกัน  ท่านจะได้รับผลของไอเท็มทั้งคู่  โดยภาพที่ผู้อื่นเห็นจากภายนอก  ท่านสามารถเลือกให้แสดงภาพมงกุฏหรือหมวกเหล็กก็ได้
* มหากษัตริย์ต้องกล้าหาญและอดทน - ระบบจะช่วยปรับอารมณ์ให้ท่านใจเย็นอยู่เสมอ  ค่าต้านทานทุกชนิดเพิ่มขึ้น 50%  ท่านสามารถสะท้อนอาการผิดปรกติกลับสู่ผู้ร่าย   แต่ทักษะนี้จะไม่ทำงานกับศัตรูที่มีค่าชื่อเสียง  ค่าสถานะ  หรือเลเวลสูงกว่าท่านมาก
* มหากษัตริย์ต้องถูกเคารพยกย่อง - ค่าสถานะพิเศษเช่น  ความน่าหลงไหล  ความน่าเกรงขาม  และความเป็นผู้นำ  จะส่งผลต่อ NPC กับมอนสเตอร์มากขึ้น
* มหากษัตริย์ต้องปรีชาสามารถ - ทักษะทุกชนิดจะอัพเลเวลได้รวดเร็วมากขึ้น  และหากเลเวลตัวละครของท่านเพิ่มระดับ  ท่านจะได้รับแต้มสถานะพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 2 แต้ม

    สุดยอดมาก...
    เพียงสมญานามเดียว  แต่กลับมีเอฟเฟคถึงห้าชนิด  แต่ละชนิดล้วนสุดยอดในด้านของมัน
    ตายยากขึ้น
    เพิ่มช่องไอเท็มสวมใส่ประเภทหมวกอีกหนึ่ง
    เพิ่มค่าต้านทานและมีคุณสมบัติสะท้อนอาการผิดปรกติ
    แถมยังอัพเลเวลทักษะได้ไว  แต้มสถานะเพิ่มชึ้นอีก 2 ต่อเลเวล

    แต่ละสิ่งล้วนเป็นออปชั่นที่หายาก  ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า  สมญานามกษัตริย์คนแรกคือสมญานามที่ดีที่สุดของซาทิสฟายในเวลานี้
    โดยเฉพาะแต้มสถานะ 2 แต้มและเพิ่มต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิด 50%  
    สองสิ่งนี้สามารถเรียกว่าโกงได้เต็มปาก  
    ทว่า  ความกระหายของมนุษย์นั้นไร้ขีดจำกัดเสมอ

    กริดค่อนข้างผิดหวังกับสมญานามกษัตริย์คนแรก  
    โดยเฉพาะค่าต้านทาน 50%...  มันมิได้ส่งผลต่อเขาเลยสักนิด  
    หากเปลี่ยนเป็นเอฟเฟคอื่น  นี่คงเป็นสมญานามที่สมบูรณ์แบบสำหรับกริด
    แต่ถ้านำเรื่องนี้ไปบ่นให้ผู้อื่นฟัง  ตนยังจะเหลือสามัญสำนึกพื้นฐานอยู่อีกหรือ

    เมื่อลองครุ่นคิด  กริดก็เริ่มใจเย็นลงและมองหาข้อดี
    โดยเฉพาะการเพิ่มค่าสถานะ 2 แต้ม  สิ่งนี้ทำให้เขาพึงพอใจ  จนยอมมองข้ามเอฟเฟคไร้ประโยชน์ไป  
    สำหรับกริด  การเพิ่มขึ้นอีก 2 แต้มจะทำให้ตนเติบโตอย่างก้าวกระโดด  

    'ได้รับค่าสถานะ 14 แต้มทุกการเลเวลอัพ… ฮุฮุฮุ'

    ผู้เล่นทั่วไปจะได้รับค่าสถานะ 10 แต้มต่อการเลเวลอัพหนึ่งครั้ง
    แต่กริดจะได้รับเพิ่มขึ้น 2 จากคลาสรองมหาจอมเวทย์ในตำนาน  
    และอีก 2 จากสมญานามกษัตริย์คนแรก
    ชายหนุ่มได้รับค่าสถานะมากกว่าผู้เล่นทั่วไปถึง 40%!
    กริดรู้สึกราวกับตนเป็นพระเอกของโลกใบนี้  ความชื่นชอบในซาทิสฟายยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเป็นเท่าทวี  ส่งผลให้เขามุ่งมั่นเล่นเกมอย่างตั้งใจกว่าปรกติ

    เคร้ง! เคร้ง!

    ชายหนุ่มได้ประจักษ์หนึ่งในเอฟเฟคของสมญานามเมื่อเขาต่อสู้(?)กับเนตรมาร
    กริดพึงพอใจกับผลลัพธ์มาก  และนั่นยิ่งทำให้เขามีความสุข
    ขณะกริดกำลังเริ่มลงมือขุดแร่อีกครั้ง  เนตรมารกลุ่มใหม่ก็ปรากฏตัว

    "โฮ่… มีมนุษย์ที่สามารถสังหารเผ่าเนตรมารได้ด้วยหรือ  ข้าต้องขอกล่าวคำยกย่องจากใจจริง  เจ้าคงเป็นปาฏิหาริย์ซึ่งมีอยู่เพียงน้อยนิดในเผ่าพันธ์อันแสนต่ำต้อยอย่างมนุษย์สินะ… คุคุคุ!  ขอชมเชยที่ทำให้ข้าผู้นี้รู้สึกตึงเครียดได้เป็นหนแรกในชีวิต"

    "..."

    ครั้งนี้มีเนตรมารมากถึง 16 ตน
    รูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันล้วนคล้ายคลึงกับตัวละครจิบิ*ที่พบเห็นได้ในเกมและอนิเมะ
    เมื่อกริดจ้องมองเข้าไปในดวงตาเนตรมาร  หัวใจของเขาพลันรู้สึกเจ็บแปลบ
    
    'เหมือนกับมีลอเอล 16 คน...'
    
( จิบิ <chibi> หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Super Deformed Characters  หมายถึงตัวละครมนุษย์ที่มีสัดส่วนไม่สมจริง  เช่นแขนขา  สั้นป้อม  หัวโต  ตาโต  ส่วนใหญ่จะมองแล้วน่ารัก )

    ทั้งประสาทการได้ยินและการมองเห็นล้วนถูกรบกวน  
    ทุกครั้งที่พวกมันอ้าปากพูด  กริดจะรู้สึกกระอักกระอ่วน  มือเท้าเกร็งหงิกงอ
    เป็นความรู้สึกย่ำแย่  ประหนึ่งตกอยู่ในอาการผิดปรกติก็มิปาน

    "แรนดี้  ทำให้พวกมันเงียบซะ"

    "อื้อ!"

    ชายหนุ่มไม่ต้องการเสียเวลาขุดแร่ไปมากกว่านี้  
    เขต 4 ของดันเจี้ยนระวังสุนัขดุมีขนาดใหญ่มาก  พวกเขาต้องรีบเร่งมือขุด
    กริดยังคงขุดต่อไปโดยให้แรนดี้ออกหน้าจัดการแทน
    แรนดี้ก็อบปี้วิญญาณดาบพร้อมกับเริ่มร่ายรำ

    "วิชาดาบแพ็กม่า"

    "สุดยอด..."

    ไมเนอร์พลันตะลึงเมื่อเห็นแรนดี้ใช้ทักษะแบบเดียวกันกริด
    ร่างโคลนทั่วไปมิอาจคัดลอกทักษะเป้าหมายได้  
    หมายความว่าแรนดี้ไม่ใช่ร่างโคลนธรรมดา

    'เป็นร่างโคลนอะไรกันแน่...'

    ไมเนอร์เคยคิดว่าแรนดี้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงสำหรับขุดแร่โดยเฉพาะ  แต่กลับกลายเป็นร่างโคลนอรรถประโยชน์ที่ก็อบปี้เป็นสิ่งใดก็ได้
    ไมเนอร์อยากมีสัตว์เลี้ยงแบบแรนดี้บ้าง

    "คลื่น"

    ซ่าาาา

    การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น  แรนดี้พุ่งตัวเข้าหากลุ่มเนตรมารพร้อมกับลงมือโจมตี
    กลุ่มเนตรมารที่มัวแต่พุ่งความสนใจมายังกริด  จึงถูกแรนดี้ลอบโจมตีทีเผลออย่างจัง
    แม้จะคัดลอกค่าสถานะได้เพียง 30%  แต่ก็รุนแรงพอจะทำให้เนตรมารที่มีพลังชีวิตและพลังป้องกันต่ำได้รับบาดเจ็บหนัก  
    ทว่า  พวกมันมีพลังที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้อยู่

    "จงหลับไหล"

    "อะ… ฮ้าว..."

    ตุ้บ...

    เนตรมารตนหนึ่งเปิดผ้าปิดตาพร้อมกับจ้องมองแรนดี้
    ส่งผลให้แรนดี้ตกอยู่ในภวังค์หลับใหลทันที  แม้จะเป็นช่วงเวลาระหว่างการต่อสู้ก็ตาม
    กริดพลันชะงัก

    'ทะลุผ่านค่าต้านทานอาการผิดปรกติของแรนดี้ได้เชียว...'

    แรนดี้เคยเป็นบอสพิเศษที่มีค่าต้านทานสูงลิบ  
    กริดจำไม่ได้แล้ว  ว่าตนเคยเห็นแรนดี้ติดอาการผิดปรกติครั้งสุดท้ายเมื่อใด  
    แต่เธอกลับถูกเนตรมารทำให้หลับใหลในพริบตา  
    ดูเหมือนพวกมันจะเป็นสิ่งมีชีวิตเก่งกาจกว่าที่คิด  มีแต่ต้องใช้ตัวตนระดับตำนานรับมือเท่านั้น

    'มอนสเตอร์พวกนี้จะมอบค่าประสบการณ์ 5 ล้านหน่วยเมื่อถูกฆ่า… ค่อนข้างมากหากเทียบกับมอนสเตอร์กระจอกทั่วไป'

    แวมไพร์จูเนียร์เองก็มอบค่าประสบการณ์ 5 ล้านหน่วยเช่นกัน
    กริดจึงมองเนตรมารเป็นเพียงมอนสเตอร์กระจอกระดับแวมไพร์จูเนียร์  
    แถมเลเวลของพวกมันก็ไม่ทางถึง 300 แน่นอน

    'แต่มอนสเตอร์เลเวล 200 กว่ากลับมีอาการผิดปรกติที่รุนแรงขนาดนี้'

    หากในเผ่าของพวกมันมีเนตรมารเลเวลสูงอยู่  นั่นจะไม่เป็นมอนสเตอร์บอสสุดโหดเอาหรือ  
    คงมีเพียงกริดเท่านั้นที่ยืนหยัดต่อสู้ไหว

    "พวกแกรู้รึเปล่า… ว่าเหตุใดพวกแกถึงเกิดมามีดวงตาสองข้าง"

    กริดเป็นห่วงความปลอดภัยของแรนดี้  เขาจึงรีบชวนพวกมันคุย
    เนตรมารทุกตนต่างหันมามองกริดอย่างพร้อมเพรียง
    พวกมันแสยะยิ้ม

    "คำถามงี่เง่า"

    "โชคชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้  เป็นสิ่งกำหนดว่าพวกเราต้องมีเนตรสองข้าง  เฉกเช่นพระจันทร์ที่มีสองดวงในยามค่ำคืน"

    "ไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด"

    กริดส่ายศีรษะกับคำตอบที่ได้รับ
    ทางฝั่งเนตรมารพากันเอียงคอฉงน
    พวกมันไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ทั่วไป  แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้
    หมายความว่า  เนตรมารคือมอนสเตอร์ที่เหมาะจะเป็นสัตว์เลี้ยงของนักฝึกสัตว์  
    แต่กริดมิใช่นักฝึกสัตว์  เขาจึงไม่สนใจในด้านนั้น

    "แล้วมันเพราะเหตุใด"

    เนตรมารขมวดคิ้วอย่างฉงน  พวกมันอยากรู้คำตอบ
    ขณะที่เนตรมารทุกตนกำลังครุ่นคิดหาคำตอบ...

    "ก็เพื่อ… ต่อให้ถูกทำลายไปหนึ่งข้างก็ยังมองเห็นยังไงล่ะ"

    "หมายความว่ายังไง..."

    "ฉันจะทำลายดวงตาของพวกแกคนละหนึ่งข้าง"

    ขณะเดียวกัน

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ

    หัตถ์เทวะที่ถือมโยลเนียร์ในมือได้พุ่งเข้าใส่กลุ่มเนตรมาร

    ผัวะ!
    
    บึ้มบึ้มบึ้ม!

    "อั่ก!"

    กลุ่มเนตรมารพลันเปลี่ยนสีหน้า
    พวกมันมิอาจต้านรับการโจมตีจากหัตถ์เทวะได้  
    หัตถ์เทวะทั้งรวดเร็ว  ทรงพลัง  และไม่ถูกอาการผิดปรกติสะกด  หัตถ์เทวะไม่มีดวงตาให้จ้องมอง  พวกมันจึงไม่ถูกสะกดด้วยการจ้องตา
    และปัญหาใหญ่สุดของพวกมันคือชายผมดำที่ยืนด้านหลัง  นอกจากจะไม่ติดคำสาปจากดวงตาแล้ว  ชายปริศนาผู้นี้ยังสะท้อนคำสาปกลับมาหาผู้ร่ายได้อีก 

    'ไม่อยากฆ่าเลยให้ตายสิ...'

    กริดมิได้ลงมือปิดฉากกลุ่มเนตรมารที่กำลังสั่นระริกอย่างหวาดกลัว
    ก่อนหน้านี้  เขาเคยใช้จอบสังหารเนตรมารไปแล้วจำนวนหนึ่งก็จริง
    ถึงจะเป็นมอนสเตอร์  แต่ก็พูดได้เหมือนมนุษย์  
    พวกมันไม่ดรอปไอเท็ม  และทำอันตรายกริดไม่ได้  
    ชายหนุ่มจึงไม่เกิดความรู้สึกอยากฆ่าเลยสักนิด

    "เจ้ามนุษย์… เหตุใดเจ้าถึงยังไม่เอาชีวิตพวกเราไป"

    "อีกตัวตนที่หลับไหลอยู่ภายในกาย  กำลังกระซิบบอกไม่ให้ฆ่าพวกเราสินะ! คุคุคุ!"

    "เจ้าเคยเป็นเนตรมารในชีวิตที่แล้วสินะ!"

    กลุ่มเนตรมารทั้ง 16 ล้มลงด้วยฝีมือหัตถ์เทวะ  
    ถึงกระนั้น  พวกมันก็ยังพูดจาไร้สาระไม่หยุดปาก
    แต่จิตสังหารของเนตรมารเหล่านี้ลดลงไปมากแล้ว  ไฟการต่อสู้ในแววตาไม่มีหลงเหลือ  
    ทันใดนั้น...

    "คุคุคุ… เป็นแค่มนุษย์  แต่กล้าอวดเบ่งถึงเพียงนี้เชียว… ช่างเถอะ!  ชะตากรรมของเจ้ากำลังจะจบลงเมื่อข้าผู้นี้ปรากฏตัว!"

    เนตรมารตนใหม่เดินออกมาจากความมืด 
    เดิมที  เผ่าเนตรมารจะตัวเล็กเหมือนเด็กจิบิที่มีสัดส่วนผิดรูป  
    เนตรมารตนใหม่ที่เพิ่งปรากฏกายก็เป็นเช่นนั้น  
    แต่ที่เพิ่มมาก็คือ  มันมีหนวด
    คงเป็นตัวที่อายุมากขึ้นหน่อยกระมัง...

    "ทำนาย!"

    ฉึบ!

    เนตรมารเปิดผ้าปิดตาพร้อมกับเพ่งสมาธิจ้องมองกริด
    ทันใดนั้นเอง

    'ทำนาย...!'

    ข้อความระบบมิได้แจ้งเตือนว่ากริด <ต้านทานสำเร็จ> 
    สิ่งนี้ย่อมหมายถึง  เนตรมาตรตรงหน้า  ทักษะของมันมิใช่การสร้างอาการผิดปรกติ

    'เป็นจ่าฝูงสินะ...'

    กริดเริ่มมีสีหน้าตึงเครียด

    "..."

    ทว่า… เนตรมารจ่าฝูงเริ่มออกอาการเหงื่อแตก

    "..."

    ทำไมถึงยังไม่โจมตีเข้ามานะ… กริดนึกสงสัย 

    "คุคุ… คุคุคุ!  ช่วยไม่ได้… ในเมื่อสิ่งนี้คือโชคชะตาของข้า  คงมีแต่ต้องอ้าแขนรับไว้อย่างเต็มใจเท่านั้น"

    เนตรมารจ่าฝูงพึมพำกับตัวเองเล็กน้อย  จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนบนพื้น

    "เอาเลย… ฆ่าฉันซะสิ"

    "..."

    ฆ่าตัวตายงั้นหรือ...
    มอนสเตอร์ฝ่าจูงปรากฏตัวในจังหวะเหมาะเจาะ...
    เพียงเพื่อ...  นอนพุงกางรอให้ฆ่าเนี่ยนะ...!

    "แกคิดจะทำอะไรกันแน่"

    เขาห้ามประมาทเด็ดขาด!  กริดย่างกรายเข้าหาเนตรมารอย่างใจเย็น
    ชายหนุ่มระแวดระวังกับดักรอบข้างอย่างเต็มที่… 
    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น
    จะมีมอนสเตอร์ที่ไหนในโลกมาบอกให้ฆ่ากันง่ายๆ เช่นนี้
    ไม่มีทาง!

    'เป็นพวกระเบิดรุนแรงหลังจากตายรึเปล่านะ'

    เนตรมารแสยะยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าตึงเครียดของกริด

    "คำทำนายของข้าได้กล่าวไว้ว่า  ภายในไม่กี่วินาทีข้างหน้า  ศีรษะของข้าจะถูกเจ้าเฉาะด้วยจอบนั่นจนไม่เหลือชิ้นดี!  คุคุคุ…! หากนี่คือลิขิตจากสวรรค์  ข้าก็รับจะมันไว้อย่างเต็มใจ"

    "...บ้าจริง  มอนสเตอร์พวกนี้ยังสติรึเปล่า  แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในดันเจี้ยนได้"

    เนตรมารทั้ง 17 ตนนอนแผ่เรียงรายราวกับศพ
    ขณะกริดกำลังพึมพำกับตนเอง  ว่าจะทำอย่างไรกับพวกมันดี  
    เสียงของหญิงสาวผู้หนึ่งได้ดังขึ้นจากด้านหลัง

    "นะ… นายจัดการกับเนตรมารจำนวนมากขนาดนี้ได้ยังไง!"

    ต้มยำ  สาวไทยที่ตนได้พบก่อนเข้าดันเจี้ยน
    กริดเกาหัวเล็กน้อย

    "ไม่ถูกนักหากจะบอกว่าฉันเป็นคนจัดการพวกมัน...  ช่างเถอะ… แล้วเธอล่ะ  ตามฉันมาถึงนี่  มีจุดประสงค์ใดแอบแฝงกันแน่"

    "ฉันแค่เป็นห่วง..."

    "อะไรนะ"

    เดินตามมาแค่เพราะเป็นห่วง  กริดไม่อาจทำใจเชื่อลง

    "เหลวไหล!"

    เขาไม่ยอมแน่  หากเธอคิดแตะต้องแร่ภายในเหมืองนี้แม้แต่ก้อนเดียว!
    ชายหนุ่มมองต้มยำด้วยแววตาดุดันและมุ่งร้าย  
    แต่ต้มยำกลับเข้าใจผิดไปไกล

    'เขากลัวว่าเราจะได้รับบาดเจ็บ  หากต้องเผชิญหน้าบลัดคาร์นิวัลสินะ...'

    เป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้  ทั้งที่เพิ่งจะพบกันเป็นวันแรกแท้ๆ...

    'เราไม่เคยพบใครที่มีจิตใจงดงามเช่นเขามาก่อน… สมกับเป็นหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์ผู้ยิ่งใหญ่'

    ตัวตนสุดประเสริฐที่แร้งเกอร์ทั่วโลกต่างยอมศิโรราบและขอติดตาม

    'เขาหยิบยื่นความปรารถนาดีให้เราหลายครั้ง… หากปฏิเสธคงเป็นการเสียมารยาท'

    ต้มยำก้าวถอยหลังเล็กน้อยพร้อมกับก้มศีรษะลง

    "ครั้งหน้าที่ได้พบกัน  ฉันจะตอบแทนความหวังดีของนายแน่นอน"

    "เห..."

    หล่อนกำลังเพ้อเจ้ออะไรอยู่!
    ต้มยำหายตัวไปก่อนกริดจะได้เอ่ยปากถาม
    ระหว่างมุ่งหน้ากลับ  เธอกำลังครุ่นคิด

    'ไม่แสดงสีหน้าเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด  แม้ต้องรับมือกับเนตรมารจำนวนมาก… เราคงไม่ต้องเป็นห่วงเขาสินะ'     

    สมกับเป็นชายผู้โค่นท้องฟ้า
    บางที  บลัดคาร์นิวัลคงถึงจุดจบในวันนี้แล้ว

Comments

  1. 55555พลังที่ทำให้ทุกคนหลงผิด

    ReplyDelete
  2. ตัดจบบทเนตรมารผมเสยย

    ReplyDelete
  3. 5555 ตอนนี้ ตลกดี

    ReplyDelete
  4. เรื่องนี้มันจะเน้นเข้าใจผิดอย่างเดียวป่าววะ555

    ReplyDelete
  5. กริดนี่มันเริ่มกลายเป็นคิงในเรื่องวันพันช์แมนละ

    ReplyDelete
  6. มโนได้โลกสวยมาก

    ReplyDelete
  7. เนตรมารทุกตัวนิสัยจะเหมือนลอเอลหมดสินะ

    ReplyDelete
  8. ลอเอลน่าจะอยากเลี้ยงนะ

    ReplyDelete
  9. มีข้อสงสัย แรนดี้ก๊อบปี้ได้แค่30%เองหรอ รู้สึกว่าตอนงานแข่งปีี2จะบอกว่า แรนดี้ก๊อบปี้ได้35% รึเปล่า

    ReplyDelete
    Replies
    1. ตอนที่ 445 มีบอกหรือมีการเปลี่ยนแปลง

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00