จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 629
( อันดับแร้งกิ้งของกริดเพิ่มขึ้น 7 ระดับภายในวันเดียว...! )
( เลเวลของกริดเริ่มชะงักไปตั้งแต่พิธีก่อตั้งอาณาจักร แต่วันนี้ เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับการอัพ 4 เลเวลภายในหนึ่งวัน! )
( กษัตริย์กริดแห่งโอเวอร์เกียร์ มีข่าวลือว่า เขาเพิ่งสำเร็จภารกิจเกรด SSS ไปเมื่อคืน! )
( ภารกิจเกรด SSS คือสิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มีวันจับต้องได้...เลเวลของกริดเพิ่มขึ้นถึง 4 ระดับภายในคืนเดียวได้อย่างไร )
เป็นอีกครั้งที่กริดสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก
เพียงชั่วข้ามคืน เลเวลของกริดเพิ่มขึ้นถึงสี่ระดับ
แต่เจ้าตัวกลับไม่พอใจเลยสักนิด
'เราต้องรีบบรรลุภารกิจประจำคลาสทั้งหมด เพื่อให้ได้พลังที่แท้จริงมาครอบครอง...'
ปัญหาคือ กริดมองไม่เห็นปลายทางของภารกิจประจำคลาสเลย
มันจะไปสุดลงที่ใดก็ไม่ทราบได้
แม้กระทั่งภารกิจปัจจุบัน ชายหนุ่มก็ยังไม่เห็นหนทางสำเร็จ
ทักษะตัดเย็บขั้นสูงเลเวล 10 งั้นหรือ...บ้าบอสิ้นดี
'แค่ภารกิจตรงหน้าก็ใช้เวลานานเป็นปี...แล้วเมื่อไรจะบรรลุภารกิจประจำคลาสทั้งหมด'
บ้าจริง...! ทำไมช่างตีเหล็กต้องเรียนรู้ทักษะตัดเย็บด้วย!
'เรารู้ดีว่า การมีทักษะที่หลากหลายจะส่งผลดีกับอนาคต'
ตั้งแต่ตนกลายเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า นานหลายปีแล้ว กลับยังไม่เห็นวี่แววการบรรลุภารกิจประจำคลาสสักที
กริดมิอาจครอบครองพลังทั้งหมดของคลาสได้ดั่งใจ
สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดมาก
"เฮ่อ…ช่างเถอะ หากเราสร้างกางเกงในให้ทหารและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ไปเรื่อยๆ ระดับทักษะตัดเย็บคงค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด"
ก็ไม่เลวนัก ที่จะมีไอเท็มประเภทใหม่อย่างกางเกงในเสริมเข้ามา
ในเมื่อคิดพึงพาพลังไอเท็ม ก็ทำให้มันสุดทางไปเลย
"พี่...เหนื่อยรึเปล่า"
กริดล็อกเอาต์จากซาทิสฟาย
สิ่งแรกที่ชินยองวูได้พบ คือใบหน้าของน้องสาวสุดสวย ชินเซฮี
เมื่อพยุงตัวขึ้นจากแคปซูลรุ่นเพชรของโคเม็ทกรุ๊ป เซฮีรีบยื่นน้ำเย็นๆ ให้ยองวูดื่ม
"ขอบใจ"
น้องสาวของตนยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
กริดสามารถสงบจิตใจได้เสมอ เมื่ออยู่เคียงข้างเซฮีผู้งดงามและจิตใจดี
ชายหนุ่มอมยิ้มอย่างมีความสุข
"อึก...อึก...พรวดด--!!"
ยองวูกระดกขวดน้ำอย่างหิวกระหาย แต่เพียงไม่นานก็ต้องบ้วนทิ้งทางปากและจมูก
ชายหนุ่มหลงคิดว่านั่นคือขวดน้ำเปล่า
แต่ความจริง มันคือขวดน้ำโซดา*
(Carbonate Water - น้ำผสมโซดา)
"แค่ก...! ไม่อร่อยเลยสักนิด!"
ชินยองวูแสดงสีหน้าเจ็บปวดทรมาน
ส่วนชินเซฮีกำลังแสยะยิ้มชั่วร้าย
"พี่คิดจะดื่มน้ำอัดลมอยู่แล้วไม่ใช่หรือ...ของมีโทษต่อสุขภาพแบบนั้น ก็เลยต้องให้ดื่มน้ำโซดาเข้าไปก่อนไง"
"ชิ..."
เด็กห้าขวบสมัยนี้ เริ่มชื่นชอบน้ำโซดาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว
มนุษย์ทั่วโลกเองก็เช่นกัน
แต่ยองวูกลับใช้ชีวิตแบบย้อนกลับ เขาจมอยู่ในโลกของตน อยู่ในกาลเวลาของตน
ชายหนุ่มยังทำใจดื่มน้ำโซดาเข้าไปเพียวๆ ไม่ได้
กรรรร!
เซฮีพูดขึ้นขณะยองวูกำลังรีบวิ่งไปห้องน้ำเพื่อกลั้วปาก
"เฮ่ากำลังรอพี่อยู่ที่คาเฟ่ชั้นล่าง"
"อื้อ...พี่นัดเฮ่าไว้ในช่วงที่แคปซูลจำกัดเวลาเล่นพอดี เขาบอกว่ามีบางอย่างจะปรึกษา"
"เรื่องนั้น...พี่ก็ไม่ได้สนิทกับเฮ่าไม่ใช่หรือ พบกันในชีวิตจริงแบบนี้ดีแล้วรึไง"
เซฮีเป็นกังวล เมื่อพี่ชายของตน นัดพบใครสักคนที่สามารถทำอันตรายกับเขาได้
แต่ทางยองวูกลับเป็นห่วงเซฮีมากกว่า
"ถ้าใครมาเห็นเข้า คงนึกว่าเธอเป็นแม่พี่...เรื่องน้ำโซดาก็ทีนึงแล้ว เธอเป็นแม่รึไง"
"..."
"แม้เธอจะยังเด็กอยู่ แต่พี่จะบอกให้รู้ไว้ก็แล้วกัน ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงจู้จี้ขี้บ่น! ถ้าเธออยากแต่งงานล่ะก็ เลิกเป็นห่วงพี่ได้แล้ว"
"หนูไม่ฟังคำสอนจากหนุ่มซิง...ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ความรัก"
"พี่แต่งงานแล้ว!"
"ก็แค่ในเกม! ในชีวิตจริง พี่ไม่เคยจับมือผู้หญิงด้วยซ้ำ!"
"ใครบอก...! พี่เคยจับมือกับยูร่าและจิสึกะตอนเมาเมื่อหลายปีก่อน! เรื่องถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาว พี่ถนัดอย่าบอกใครเชียว!"
"อ--อะไรกัน! ไร้ยางอายที่สุด!!"
ยองวูเถียงเป็นจริงเป็นจัง เถียงจะเอาชนะของสาวสุดสวยที่อายุอ่อนกว่าถึง 9 ปี
ลงเอยด้วย...
ชายหนุ่มผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของซาทิสฟาย
กษัตริย์กริดที่ผู้คนหลายแสนเคารพยกย่อง
ถูกน้องสาวตนเองทุบตีจนบอบช้ำ...
***
"อึก...เซฮีเป็นกอริล่ารึไง ขอแสดงความเสียใจล่วงหน้ากับสามีในอนาคต"
ชินยองวูโดยสารลิฟต์ส่วนตัวของตระกูลลงมาด้านล่าง
ระหว่างรอให้ถึงชั้นหนึ่ง ชายหนุ่มพยายามเอื้อมมือสัมผัสอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลังอย่างระมัดระวัง
แม้จะเจ็บตัว แต่เขาก็ภูมิใจ
"แข็งแรงย่อมดีกว่าอ่อนแออยู่แล้ว...ดีใจจังที่เซฮีไม่ขี้โรคเหมือนฉัน ว่าไหม...เธอคือน้องสาวสุดแกร่งที่ดูแลตัวเองได้"
"ง--งั้นหรือ..."
มนุษย์สัตว์ป่า ทูน
อดีตมาเฟียอิตาลีที่ผันตัวมาเป็นบอร์ดี้การ์ดให้กริด
แร้งเกอร์ผู้นี้อาศัยอยู่ในอาคารเดียวกับยองวู และจะคอยร่วมทางยองวูเวลาออกไปด้านนอกทุกครั้ง
ทูนเป็นกังวลเสมอเมื่อกริดนัดพบใครสักคน
เฉกเช่นเซฮี ทูนกังวลเกี่ยวกับเฮ่า
เฮ่าขึ้นชื่อในความเก่งกาจด้านศิลปป้องกันตัว ทูนจำเป็นต้องร่วมทางไปด้วย
"ไบรันเป็นยังไงบ้าง"
ทูนได้รับมอบหมายให้ปกครองไบรัน งานของเขาจึงยุ่งวุ่นวายไม่แพ้กัน
กริดและทูนแทบไม่ได้พบหน้าในเกมเลย ชายหนุ่มจึงฉวยโอกาสนี้ฟังรายงานความคืบหน้า
"หลังจากสมิทย้ายไปประจำการที่ไรน์ฮาร์ท รายได้ของไบรันลดลงเล็กน้อย แต่สิ่งนี้คือผลกระทบเพียงชั่วคราว...นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาใหญ่ ความเสียหายจากสงครามถูกฟื้นฟูกลับสู่ปรกติแล้ว กลุ่มผู้เล่นเพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะการมีตัวตนของผู้พิทักษ์พงไพร"
"การฝึกทหารล่ะ"
ทหารที่ประจำการในไบรัน ไม่มีใครเลยที่มาจากเรย์ดัน
ทหารของไบรันถูกเกณฑ์และฝึกใหม่ทั้งหมด
เมืองแห่งนี้ค่อนข้างปลอดภัยในเชิงยุทธศาสตร์ จึงไม่จำเป็นต้องมีกำลังทหารระดับแนวหน้าคอยประจำการ
"เลเวลเฉลียสูงเกินกว่า 100 แล้ว"
"หืม...เร็วมากเลยนี่"
"ต้องขอบคุณหนึ่งในภารกิจมอบเซ็ตกริด ที่ลูกพี่กำหนดให้มีเนื้อหาอยู่รอบเมืองไบรัน...ผู้เล่นจำนวนมากจึงเดินทางมาไบรัน และขอความช่วยเหลือจากทหาร ส่งผลให้เลเวลทหารเพิ่มสูงขึ้นมาก"
"มีเซ็ตกริดถูกแจกจ่ายไปแล้วทั้งหมดกี่ชิ้น"
"อาวุธ 23...ถุงมือ 5"
เซ็ตกริดจะได้รับจากภารกิจต่อเนื่องของอาณาจักรเท่านั้น
ภารกิจลำดับ 3 จะมอบอาวุธ
ภารกิจลำดับ 6 จะมอบถุงมือ
หมายความว่า มีผู้เล่นเพียงห้าคนที่ไปไกลกว่าภารกิจลำดับ 6
"น้อยมาก...ระดับความยากสูงไปรึเปล่า"
"ไม่เลย...มันเหมาะสมแล้ว เซ็ตกริดมิใช่สิ่งที่ควรครอบครองได้ง่าย ตรงกันข้าม ยิ่งท้าทายก็ยิ่งสร้างแรงกระตุ้นให้อยากครอบครองครบทุกชิ้น ภารกิจต่อเนื่องของอาณาจักรที่ลูกพี่กับลอเอลช่วยกันออกแบบ สิ่งนี้สร้างผลประโยชน์ด้านบวกให้แก่อาณาจักรและตัวผู้เล่นเอง"
"อืม..."
ลิฟต์เคลื่อนลงมาถึงชั้นล่างสุด
ก่อนประตูจะเปิดออก ทูนตบบ่ากริดอย่างนุ่มนวล
"ลูกพี่ทำได้ดีมาก...ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน"
"...นายอยากลองใส่กางเกงในที่ฉันผลิตไหม"
"..."
ลูกพี่ไม่ค่อยสบายหรือ...
ทูนไม่เข้าใจคำพูดกริดนัก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับเดินตามเข้าไปในคาเฟ่
***
"สุดยอด...หมอนั่นเป็นพวกคลั่งลาเต้มันม่วงรึไง"
เมื่อพวกเขาผลักประตูเข้าไป ยองวูและทูนได้รับเสียงฮือฮาจากพนักงานร้านทันที
ทันใดนั้น ดวงตายองวูพลันเบิกโพลง เมื่อเหลือบไปเห็นเฮ่าที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง
เบื้องหน้าเฮ่า มีแก้วลาเต้มันม่วงเรียงรายอยู่มากถึงสาม
สองในสามถูกดื่มหมดแล้ว
"รสนิยมไม่เลวนี่"
การมีสิ่งที่ชอบร่วมกัน ถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำหรับสร้างความสัมพันธ์อันดี
ยองวูรู้สึกชื่นชอบเฮ่าตั้งแต่แรกพบ
กลับกัน เฮ่าหันมามองยองวูด้วยสีหน้าเหม่อลอย ราวกับเพิ่งเห็นผีมาไม่นาน
'หมอนั่น...กินของหวานๆ แบบนี้ทุกเช้าได้ยังไง'
เฮ่ามาจากเสฉวน มณทลแห่งรสเผ็ดและเปรี้ยว
ของหวานจึงเป็นราวกับยาพิษสำหรับเฮ่า
มันทรมานไม่น้อยกับการต้องฝืนกินลาเต้มันม่วงเพื่อตามรอยยองวู
เฮ่าลั่นวาจาในใจ ตนจะไม่ขอกินลาเต้มันม่วงอีกเป็นอันขาด
แต่ความคิดนั้นกำลังจะถูกเปลี่ยน
"ลาเต้มันม่วงสองที่ได้แล้วค่ะ"
"..."
เครื่องดื่มถูกยกมาเสริฟด้านหน้ายองวูและทูน
จิตใจเฮ่าเริ่มถูกสั่นคลอน
'นอกจากกริด...ทูนก็ดื่มลาเต้มันม่วงด้วยรึไง! เดี๋ยวก่อน...บางทีเครื่องดื่มชนิดนี้อาจสำคัญกว่าที่เราคิด แม้จะต้องทรมาน...แต่นั่นคงช่วยไม่ได้ เราต้องดื่มลาเต้มันม่วงให้บ่อยขึ้นในอนาคต'
เฮ่าหลับตาลง พร้อมกับฝืนจิบลาเต้มันม่วงแก้วสุดท้ายของตนลงไป
เขาเกิดอาการวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย เนื่องจากได้รับน้ำตาลปริมาณมากเกินปรกติ
แต่ความเจ็บปวดนี้ต้องข้ามผ่านไปให้ได้!
กริดทำได้ ตนก็ต้องทำได้!
ทันใดนั้น ยองวูได้ยื่นแก้วลาเต้มันม่วงขอตนให้เฮ่า
"นายคงชอบมากใช่ไหม...เอาไปอีกสิ เดี๋ยวฉันสั่งเพิ่มอีกแก้ว"
"....ม--ไม่เป็นไร"
เฮ่าหน้าซีด
ในการจะสนทนากับชาวต่างชาติ เฮ่าตัดสินใจสวมเครื่องแปลงภาษา มากกว่าจะพึ่งพาภาษาเกาหลีตะกุกตะกักของตน
ทางยองวูและทูนก็เช่นเดียวกัน พวกเรากำลังสวมเครื่องแปลงภาษารุ่นเพชรของโคเม็ทกรุ๊ป คนทั้งสองทดลองใช้งานฟรีในฐานะพรีเซนเตอร์
ประสิทธิภาพของมันยอดเยี่ยมมากทีเดียว
"ก่อนอื่นเลย ยินดีต้อนรับสู่บ้านของฉัน...คงเหนื่อแย่กับการเดินทางมาไกล"
ยองวูเริ่มบทสนาอย่างสุภาพ
"ขอบคุณเช่นกัน ที่ยอมสละเวลาอันมีค่าลงมาหาฉัน"
"นายเคยลองกินอาหารเกาหลีรึยัง"
"ยังนะ"
"ไปร้านอาหารจีนไหม จังปง*ที่นั่นอร่อยมาก เป็นหนึ่งในเมนูสุดโปรดของฉัน"
( *จังปง <jjampong> - บะหมี่ซุบเผ็ด เครื่องซีฟู้ด เป็นอาหารเกาหลีที่ชาวจีนพัฒนาขึ้น นิยมในร้านอาหารของทั้งจีนและเกาหลีใต้ )
"..."
อีกฝ่ายกำลังชักชวนตน ให้ลองทานอาหารเกาหลี ที่ร้านอาหารจีน...
ไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม...บทสนทนาดำเนินมายังทิศทางที่ผิดแผกเช่นนี้ได้อย่างไร
เฮ่าเริ่มตั้งข้อสงสัยในประสิทธิภาพเครื่องแปลงภาษา
ขณะเดียกัน ทูนหันมากระซิบกับกริด
"ลูกพี่...ออกนอกเรื่องไปไกลแล้ว"
"อ๊ะ...ขอโทษด้วย พอดีหิวไปหน่อย"
"..."
"แล้วนายมาหาฉันด้วยเรื่องใด"
เฮ่าโล่งใจ อย่างน้อยเครื่องแปลงภาษาก็ไม่ได้เสีย
เขารีบอธิบาย
"อยากให้นายช่วยโน้มน้าว...ไม่ให้ครอเกลย้ายไปอยู่สหรัฐ"
"...อะไรนะ! ครอเกลจะย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกางั้นหรือ"
"ถูกต้อง"
ยองวูผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้
"นั่นสินะ...คงแปลกมากกว่า หากหมอนั่นยังอยู่ที่รัสเซียต่อไป ประเทศที่มีรัฐบาลชั่วช้า...ใช้แม่ของเขาเป็นตัวประกันต่อรอง ครอเกลต้องย้ายประเทศในสักวันอยู่แล้ว"
"แต่นั่นจะไม่เป็นปัญหาเอาหรือ...ถ้าหากย้าย ก็ควรย้ายมาอยู่เกาหลีใต้หรือไม่ก็จีนสิ"
เฮ่าพยายามโน้มน้าว
แต่ยองวูไม่เห็นด้วย
"ทำไมถึงต้องเป็นจีนหรือเกาหลีด้วย"
ยองวูขมวดคิ้วฉงน
เฮ่าพยายามอธิบาย
"ครอเกลมีเชื้อสายเกาหลีนะ...เขาควรย้ายมาอยู่ประเทศเอเชีย เช่นจีนหรือเกาหลีใต้...ไม่ใช่ไปอยู่ตะวันตก"
"หืม...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เชื้อสายเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้งั้นหรือ ฉันคิดว่า...ถ้าที่ไหนครอเกลอยู่แล้วมีความสุข มันก็ไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหาตรงไหน"
"..."
เฮ่าหมดคำพูด
ท่าทีของยองวูแตกต่างจากที่เฮ่าคาดไว้โดยสิ้นเชิง
แม้อาจไม่แสดงออกภายนอก แต่เฮ่ามีความชาตินิยมสูงมาก เขาจึงไม่เข้าใจท่าทีของยองวู
ทูนเป็นฝ่ายอธิบายแทน
"ลูกพี่ไม่ค่อยยึดติดกับประเทศชาติสักเท่าไร"
ยองวูไม่ได้มองว่า 'เกาหลีใต้ต้องถูกเสมอ'...เพียงเพราะตนเกิดมาบนแผ่นดินเกาหลีใต้
เป็นมุมมองที่แตกต่างจากพีคซอร์ดโดยสิ้นเชิง
ถามว่ายองวูรักชาติหรือไม่ เขากล้าตอบเต็มปากว่ารัก
ชีวิตสองปีในรั้วทหาร ชายหนุ่มได้รับประสบการณ์ล้ำค่ามากมาย
แต่ความรักชาติต้องแยกแยะ เก็บไว้ในใจก็เพียงพอ มิใช่บีบบังคับผู้อื่นให้คิดเหมือน
"เฮ่า...เรื่องนี้เป็นปัญหาของครอเกล พวกเรามาคุยกันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา"
เฮ่าลุกยืนขึ้น
"ลองคิดดูให้ดีสิ...หากครอเกลย้ายไปเป็นพลเมืองสหรัฐ จ้าวเหรียญทองในงานแข่งนานาชาติ จะถูกผูกขาดไว้กับประเทศเดียวแน่!"
มหาอำนาจผู้ทรงอิทธิพลของโลกมานานหลายร้อยปี
สหรัฐอเมริกาคือกำแพงที่คอยขวางกั้นจีนไว้เสมอ
เฮ่าเกลียงชังและอคติกับสหรัฐตั้งแต่แรกเกิด เขาถูกปลูกฝังมาเช่นนั้น
และบัดนี้ สหรัฐกำลังจะกลายเป็นมหาอำนาจในซาทิสฟาย ซึ่งเฮ่ายอมไม่ได้เด็ดขาด
"ถ้าอย่างนั้น นายจะบอกว่า ให้จีนหรือเกาหลีใต้ผูกขาดจ้าวเหรียญทอง...แบบนี้จะดีกว่ารึไง"
"จีนคือบ้านเกิด ส่วนเกาหลีใต้คือประเทศที่ฉันยอมรับ...อย่างน้อยก็ยังดีกว่าสหรัฐ! ไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าทำไมครอเกลถึงคิดย้ายไปอยู่ที่นั่น---"
เฮ่าชะงักคำพูด
เขาหวนคิดถึงคำพูดของยองวูเมื่อก่อนหน้า
'ถ้าครอเกลมีความสุข ฉันก็ไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหาตรงไหน'
'ความเห็นแก่ตัวของเรา...กำลังจะทำให้ครอเกลไม่มีความสุขรึเปล่า'
ความคลั่งชาติที่ล้ำเส้นคือพิษร้าย เฮ่ารู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร
เขานั่งลงพร้อมกับสงบสติอารมณ์
"ฉันไม่ควรเสียเวลาเดินทางมาเกาหลีใต้ตั้งแต่แรก..."
เฮ่าพึมพำด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
ยองวูใช้หลอดดูดลาเต้มันม่วงจนหมด ก่อนจะเปิดปากพูด
"หืม...แต่ฉันกลับดีใจที่นายมา นายเป็นคนดีกว่าที่คิด"
"..."
"ไปร้านอาหารจีนกันเถอะ"
"...เดี๋ยวสิ ทำไมฉันต้องไปร้านอาหารจีนในเกาหลีใต้ด้วย ฉันกินอาหารจีนจนเบื่อแล้ว วางแผนไว้ว่าจะกินซุปกิมจิกับซัมกยอบซาล*"
(ซัมกยอบซาล <Samgyeopsal> - หมูสามชั้นย่างบนเตา ที่ใช้กรรไกรตัดนั่นแหละ)
"...ของแบบนั้นก็มีให้กินที่จีนเหมือนกันแหละน่า! ไปร้านอาหารจีนกันเถอะ!"
"..."
หมอนี่เป็นคนยังไงกันนะ...
เฮ่าคิดว่ามันบ้ามาก แต่เขากลับอมยิ้มอย่างมีความสุข
ขณะเดียวกัน ทูนได้ส่งข้อความทางมือถือไปหาพีคซอร์ด
>> เป็นอย่างที่ทุกคนคิด ดูเหมือนเฮ่าจะชอบกริด เป็นเรื่องดีที่จะรักษาความสัมพันธ์กับเฮ่าไว้ แต่ฉันชักเริ่มอยากกินซุปกิมจิกับซัมกยอบซาลบ้างแล้ว คืนนี้นายพาไปเลี้ยงหน่อยสิ
ข้อความตอบกลับมาทันใด
>> ดูยู๊โหนวกิมจิ!
(*ผมเพิ่งรู้ว่า ตาพีคซอร์ดเนี่ย แกพูดด้วยเสียง ดู-ยู-โนว แบบทับศัพท์เลย
แต่จะเป็นสำเนียงเพี้ยนๆ ทำนองว่า "ดูยู๊โหนว"
두 유 노우 <du yu nou>)
ตลกไอพีคซอร์ดมัน
ReplyDeleteโฆษณาหรอครับเนี้ย!?
ReplyDelete