จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 618
"ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก"
สวาปามจกบัลรสเผ็ดถอนหายใจหลังจากหนีรอดปลอดภัย
มันเปิดหน้าต่างข้อความระบบขึ้นตรวจสอบ
กริดสังหารมอนสเตอร์และทำลายกับดักทุกอันในดันเจี้ยน ส่งผลให้สวาปามจกบัลรสเผ็ดได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก
'เราได้เพิ่มมาสองเลเวล และเหนือสิ่งอื่นใด เรามีโอกาสวัดพลังกับกริดโดยตรง'
โอกาสในการดวลกับผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่างกริดหรือครอเกลมีมูลค่าเทียบเท่าเงินจำนวนล้านดอลล่าส์
สวาปามจกบัลรสเผ็ดหวังจะนำข้อมูลการดวลครั้งนี้ไปปรับปรุงพัฒนาตนเอง
ใช่แล้ว มันมิได้สิ้นหวัง แม้ต้องสูญเสียไข่มังกรที่คอยเฝ้าดูแลมานานหนึ่งปีเต็ม
พลังใจของมันแข็งแกร่งเกินกว่าจะล้มลงจากความผิดพลาดเพียงหนเดียว
หากหยิบยืมคำพูดของพีคซอร์ด
นี่คือจิตใจของชาวเกาหลีใต้ที่แข็งแกร่งหลังจากถูกต่างชาติรุกรานในอดีตหลายหน
ความแข็งแกร่งทางพลังใจของชาวเกาหลี ส่งผลให้พวกเขาได้ครองบัลลังก์วงการเกมทั่วโลกอยู่นานหลายสิบปี และสิ่งนี้ได้ตกทอดต่อมายังซาทิสฟาย
'แม้จะน่าเสียดายอยู่บ้าง ที่ต้องละทิ้งความฝันในการเป็นผู้เลี้ยงมังกรคนแรกไป'
แต่ความเป็นจริงแล้ว หากฟังจากสิ่งที่เผ่าเนตรมารพูด ฝันของสวาปามจกบัลรสเผ็ดแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ต้น
โอกาสที่มังกรจะยอมติดตามรับใช้มนุษย์เกือบเป็นศูนย์
'สำหรับกริดก็ไม่ต่างกัน'
หากพิจารณาจากเนื้อเรื่องหลักของซาทิสฟาย ไข่มังกรคลั่งคือตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่สามารถกดดันจอมอสูรในขุมนรกได้ ไม่มีทางจะรับมือโดยผู้เล่นเพียงคนเดียวไหวแน่
สวาปามจกบัลรสเผ็ดพยายามสงบสติอารมณ์ จากนั้นตัดสินใจส่งข้อความส่วนตัวไปหามิตรสหายเก่า
พวกมันคือ สามผู้ก่อตั้งบลัดคาร์นิวัลในตอนต้น
>> กริดพบตัวฉันแล้ว
>> ได้ยังไง เขาใช้วิธีไหน...!
>> ฉันเองไม่รู้... รู้แต่ว่า เครือข่ายข้อมูลของกริดในฐานะกษัตริย์มีมากกว่าที่พวกเราประเมินไว้ กริดรู้ว่าฉันคือหัวหน้าใหญ่บลัดคาร์นิวัล เขารู้กระทั่งเรื่องของไข่มังกรคลั่ง
>> ปีศาจชัดๆ...
>> เขาไม่ได้เป็นกษัตริย์คนแรกเพราะโชคช่วย พวกเรามิอาจวัดพลังชายคนนี้ได้... ฉันคิดว่า เราสี่คนไม่ควรเอาตัวไปเสี่ยงมากกว่านี้ ฉันจะยุบบลัดคาร์นิวัลทิ้ง พวกเราจะเก็บตัวเงียบกันสักพัก
***
[ ไข่มังกรคลั่ง ]
ไข่ทรงรีที่วางอยู่กลางแท่นบูชา ขนาดของมันใหญ่กว่าร่างกายกริดถึงสองเท่า
ทั้งที่กริดคือชายหนุ่มกำยำสูงกว่า 181 เซนติเมตร
"ถ้านำไปทำบิบิมบับ*ล่ะก็ คงอิ่มท้องได้เป็นร้อยคน… มังกรน้อยแรกคลอดมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ตั้งแต่เกิดเลยหรือ"
(* บิบิมบับ - ข้าวยำเกาหลี มีไข่โปะตรงกลาง)
"มันฟักจากไข่ ไม่ได้คลอด"
"อ่า...จริงด้วยสินะ"
ไมเนอร์ ผู้แอบซุ่มอยู่นานระหว่างต่อสู้ บัดนี้เดินมาหากริดพร้อมเผ่าเนตรมาร
เหตุใดเผ่าเนตรมารถึงไม่ช่วยกริดสู้สวาปามจกบัลเผ็ด...
เป็นเพราะสัญญาที่ได้ทำไว้กับเจ้าของดันเจี้ยน เผ่าอสูรจึงมิอาจทำอันตรายกับผู้ทำสัญญาได้
แต่อันที่จริง หากเป็นเผ่าอสูรชั่วร้ายสักหน่อย พวกมันสามารถหักหลังผู้ทำสัญญาได้ แต่สิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับเผ่าเนตรมารแน่นอน
เผ่าเนตรมารมีคุณธรรมและความจงรักภักดีสูงส่ง ส่งผลให้พวกมันไม่คิดโจมตีใส่สวาปามจกบัลรสเผ็ด
"แล้วไข่จะฟักตอนไหน"
ชายหนุ่มพยายามใช้ทักษะตรวจสอบ แต่รายละเอียดที่ได้รับก็ไม่ระบุวันเวลาฟักไว้
ดังนั้น การถามเนตรมารจ่าฝูงที่มีทักษะทำนายน่าจะได้รับคำตอบน่าพึงพอใจกว่า
"เมื่อสองจันทร์ปรากฏยามค่ำคืนครบเก้าหน และเพลงกลอนถูกขับขานกังวาล… คงเป็นเช่นนั้นกระมั้ง… คุคุคุคุ!"
"ปรากฏการณ์สองจันทร์จะเกิดทุกสี่เดือน... เก้าครั้ง… ก็สามปีสินะ"
ต้องถอดความซ้ำอีกหนจึงจะเข้าใจภาษาพูดของเนตรมาร
กริดเริ่มเข้าใจแล้วว่า เหตุใดจอมอสูรจึงทนไม่ไหวและขับไล่ออกจากขุมนรก
ทันใดนั้น ข้อความระบบแสดงขึ้น
[ ท่านบรรลุภารกิจ! ]
[ รางวัลภารกิจ : เนตรมารทั้ง 17 ตนกลายเป็นบริวารของท่าน ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับเผ่าเนตรมารเพิ่มขึ้น ท่านมีสิทธิ์ติดต่อเจรจากับเผ่าเนตรมาร ]
"เจ้านำไข่มังกรคลั่งออกมาได้สำเร็จ พวกเราจะยอมเป็นบริวารของเจ้าก็ได้ จงยืดอกภูมิใจได้เลยที่มีพวกเราคอยรับใช้ คุคุคุ"
"เชิญออกคำสั่งมาได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าต้องการสิ่งใด พวกเราจะมอบให้เจ้าได้มากกว่านั้นเสมอ ฮุฮุฮุ!"
"..."
ถึงปากบอกว่ายอมเป็นบริวาร แต่ถ้อยคำกลับยังไม่เคารพเช่นเดิม
ทว่า กริดก็สัมผัสได้ถึงความจงรักภักดี
ซึ่งเขาไม่ได้เกลียดเนตรมารเลยสักนิด เพราะเจ้าพวกนี้เหมือนกับลอเอลไม่ผิดเพี้ยน
"ฉันคงเสียสติแน่ถ้าต้องคอยบงการพวกนายด้วยตัวเอง นายจะได้อยู่ในความดูแลของลอเอล ชายคนนั้นคงรู้วิธีใช้พวกนายให้เกิดประโยชน์สูงสุด"
"ลอเอล... เจ้านั่นเป็นใครกัน"
"พวกเราเคยบอกไปแล้วมิใช่หรือ ว่าจะรับใช้เจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น! ไม่มีมนุษย์หน้าไหนควรค่าแค่การรับใช้ไปมากกว่าเจ้าอีกแล้ว! พวกเราจะไม่ยอมรับมนุษย์อื่นเด็ดขาด!"
"ไม่เลย… เชื่อฉันสิ ชายคนนั้นจะทำให้พวกนายรู้สึกดีแน่นอน ตั้งแต่แรกพบเลยล่ะ... ลอเอลคือสหายร่วมเป็นร่วมตายในชีวิตที่แล้วของพวกนาย"
"สหายจากชีวิตก่อนงั้นหรือ… โฮ่..! ต้องไปได้สวยแน่!"
"ว่าแต่… พวกนายจะทำยังไงกับไข่มังกรคลั่ง"
ต่อให้มังกรคลั่งฟักออกมา มันจะยอมเชื่อฟังเนตรมารงั้นหรือ...
กริดเพียงแค่คิด มิได้ถามออกไป
นับแต่เริ่มเล่นซาทิสฟายมาจนถึงปัจจุบัน ความเข้าใจในตัวเกมมีเพิ่มขึ้นมาก
ใช่แล้ว จากพื้นฐานของเนื้อหาภารกิจ มังกรคลั่งที่กำลังจะฟักจากไข่ คือสิ่งมีชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่ตนไม่มีสิทธิ์ครอบครองแน่นอน
"ไม่ใช่เรื่องถูกต้องแต่แรกแล้ว ที่มังกรจะเป็นสมบัติของผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง"
ซาทิสฟายจะพบกับปัญหาใหญ่แน่ ใหญ่ระดับบั๊กทำลายเกม ไม่ใช่เรื่องความสมดุลเล็กน้อยอีกต่อไป
กริดมั่นใจมาก เขาจึงสลัดความคิดครอบครองไข่มังกรไป
จากนั้น เนตรมารได้หันมาอธิบาย
"ประการแรก พวกเราจะนำกลับไปยังหมู่บ้าน และปกป้องมันจนกว่าจะฟัก"
"มังกรคือสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา มันจะรับรู้เรื่องราวของโลกได้ทันทีเมื่อฟักออกจากไข่ มันจะรู้ว่าศัตรูของบิดาคือใคร และรู้ว่าควรร่วมมือกับเผ่าเนตรมารเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย"
"หลังจากนี้อีกหนึ่งพันปี ทายาทของมังกรคลั่งจะโตเต็มวัยและเริ่มออกอาละวาด ฮุฮุฮุ!"
"พันปี...!"
บ้าไปแล้ว...
กว่ามังกรจะโตเต็มวัยต้องใช้เวลานานถึงพันปีเลยรึไง
'เผ่าเนตรมารคงแก่ตายกันหมดแล้ว โดยที่จอมอสูรยังสบายดี'
ดูเหมือนไข่มังกรคลั่งจะไม่มีผลต่อเนื้องเรื่องหลักของผู้เล่นโดยตรง
เป็นเพียงภารกิจปลีกย่อยเสริมให้ดูน่าตื่นเต้น
'แต่แบบนี้ย่อมดีกว่า เพราะหากถึงบทมังกรออกโรง ผู้เล่นคงไม่เป็นอันทำสิ่งใดแน่'
ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยสักนิด...
กริดพึงพอใจแล้วที่ได้เนตรมาร17 ตนเป็นบริวาร
"เจ้ามนุษย์ ช่วยมาที่หมู่บ้านของพวกเราก่อนสิ"
"ราชาของพวกเราต้องมอบรางวัลใหญ่ให้เจ้าแน่"
'รางวัลสินะ หรือก็คือ… สิ่งที่มอบให้ผู้ที่มีฐานะต่ำกว่า'
กริดเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ถึงกระนั้นก็ยังพยักหน้าตอบรับ
ในอนาคต เขาไม่รู้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตประเภทใดรุกรานอาณาจักรโอเวอร์เกียร์บ้าง
คงเป็นการดีกว่าหากผูกมิตรกับสายพันธ์ที่แข็งแกร่งไว้
'เราต้องระวังเรื่องคำพูด ต้องทำให้เผ่าเนตรมารกลายเป็นพันธมิตรให้ได้'
กริดตัดสินใจหนักแน่น
"ฉันจะไปหมู่บ้านของพวกนาย"
แต่ก่อนอื่น
"ขุดแร่ที่นี่ให้หมด"
ก่อนจะกลับ กริดไม่ลืมที่จะขุดแร่ในเขต 8 ให้เรียบร้อยเสียก่อน
เขารีดเร้นค่าเรี่ยวแรงของเนตรมารจนหยดสุดท้าย
***
"ท่านขุนนางผู้มีพลังทำนายเอ๋ย ตัวข้ามีคำถามทรงปัญญาที่ต้องการคำตอบ"
"หืม… เจ้าคือสามัญชนผู้มีดวงตาอัคคีพิโรธสินะ คุคุ! ว่ามาเลย ขอสาบานด้วยเกียรติของขุนนาง ว่าจะตอบคำถามทรงปัญญาของเจ้าอย่างตรงไปตรงมา"
"พวกเราลั่นสัตย์สาบานว่าจะตามรับใช้มนุษย์ที่ชื่อกริด ชายคนนั้นเหมาะจะเป็นเจ้านายของพวกเรา แต่ข้ายังนึกสงสัยว่า มันดีแล้วหรือที่จะนำทางกริดไปยังหมู่บ้านของพวกเรา การกระทำเช่นนี้จะเข้าข่ายผู้ทรยศหรือไม่"
ภายในหมู่บ้านเนตรมาร จะมีเนตรมารอาศัยอยู่ราวหนึ่งพันตน
แม้จำนวนอาจน้อย แต่ทุกตนล้วนเปี่ยมด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่
โดยเฉพาะเนตรมารราชาซึ่งมีดวงตาสำหรับสยบทุกสิ่ง
หากกริดล่วงเกินเข้า สถานการณ์อาจเลวร้ายสุดขีด
"หากถูกดวงตาข้างนั้นจ้องมอง กริดจะตกเป็นทาสของเผ่าเนตรมารไปชั่วชีวิต ซึ่งนั่นไม่ต่างจากการที่พวกเราล่อลวงกริดให้ไปติดกับ ศักดิ์ศรีและความจงรักภักดีของข้าคงไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่"
"ไม่ต้องเป็นห่วง กริดคือมนุษย์ที่ช่วยเรานำไข่มังกรคลั่งกลับไป ท่านราชาผู้ยึดถือความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ย่อมไม่มีทางทำอันตรายกริดแน่"
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ระหว่างขุดทำลายเขต 8 ของดันเจี้ยนระวังสุนัขดุ เนตรมารได้เรียนรู้ทักษะการขุดแร่เบื้องต้น
พวกมันกำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับกริด
เนตรมารคือเผ่าอสูรที่ขึ้นชื่อด้านความจงรักภักดี แต่แน่นอนว่าไม่ใช่กับทุกตน
เฉกเช่นมนุษย์ที่มีบุคคลหลากหลายรูปแบบ เผ่าเนตรมารก็ด้วย
เนตรมารทั้ง 17 ตนยึดมั่นในคำสาบานและพร้อมรับใช้กริดก็จริง
แต่ไม่ได้หมายความว่าเนตรมารในหมู่บ้านจะเห็นพ้องต้องกัน
กริดมิได้ตระหนักถึงความจริงข้อนี้มาก่อน เขาคิดเพียงจะติดต่อกับสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ใหม่เท่านั้น
ลัลล้า~
ชายหนุ่มฮัมเพลงอย่างมีความสุขเมื่อช่องสัมภาระอัดแน่นด้วยแร่มังกรคลั่งหลายชนิด
***
[ <บลัดคาร์นิวัล> ถูกยุบ ]
"อะไรกัน...!"
บนโลกใบนี้ มีคนจิตใจต่ำทรามและชั่วร้ายแผงอยู่นับไม่ถ้วน
และขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มคนที่ต้องการใช้งานพวกมันไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจของบลัดคาร์นิวัลจึงรุ่งเรืองแม้จะก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ปี
ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 400 คนเข้าร่วมสังกัด
ทว่า กองกำลังอันยิ่งใหญ่กลับถูกยุบในชั่วข้ามคืน
แถมยังไม่มีการประกาศแจ้งสาเหตุให้สมาชิกรับรู้
"เจ้าดาร์คนั่น...!"
"ฉันไม่เคยเห็นหน้าของมันมาก่อน แม้จะทำงานที่นี่มานานหลายปี พวกเราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด แต่มันกลับยุบองค์กรโดยไม่พูดอะไรสักคำเนี่ยนะ"
"ใครจะอยากพูดกับอาชญากรอย่างเราล่ะ... ว่าแต่ มันไม่โง่ไปหน่อยรึไงที่ตัดสินใจยุบองค์กรกำไรมหาศาลไปง่ายๆ แบบนี้"
"หืม..."
สมาชิกบลัดคาร์นิวัลต่างพากันสับสน
ไม่ว่าจะครุ่นคิดมากเพียงใด ก็มิอาจหาสาเหตุที่ดาร์คตัดสินใจยุบบลัดคาร์นิวัลได้
ทุกคนต่างสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น
จนกระทั่ง หลังจากนั้นอีกสองสามวัน
"พันธมิตรต่อต้านบลัดคาร์นิวัลบุกฐานทัพลับพวกเรา!"
"พวกมันมีมากกว่า 300 คน แถมยังมีแร้งเกอร์ระดับสูงรวมอยู่ถึง 20 คน"
"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ดันเกิดขึ้นในตอนที่ไม่มีใครอยู่เนี่ยนะ"
"ดาร์คถูกฆ่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็เลยตัดสินใจยุบบลัดคาร์นิวัลงั้นหรือ"
"ไม่ใช่แบบนั้น… ถึงจะเชื่อได้ยาก แต่กลุ่มพันธมิตรถูกจัดการอย่างราบคาบ"
"อะไรนะ..."
ดาร์คเอาชนะผู้เล่น 300 คนตามลำพังได้ยังไง...!
แถมยังเป็นกลุ่มที่มีแร้งเกอร์ระดับสูงมากขึ้น 20 คน
"ดาร์คแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่... เก่งกว่าฝาแฝดแบล็คไวท์รึเปล่า"
"ทุกครั้งที่ได้พบก็เอาแต่ซ่อนตัวอยู่หลังฉาก หมอนั่นเก็บซ่อนพลังที่แท้จริงไว้ตลอดสินะ"
"ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไมดาร์คถึงยุบบลัดคาร์นิวัล..."
"เรื่องนั้น..."
<โน้ป> แร้งเกอร์นักสำรวจระดับสูง ด้วยเครือข่ายข้อมูลมหาศาล มันจึงรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงในการยุบบลัดคาร์วัล
โน้ปกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะเปิดปากเล่า
"ว่ากันว่า กริดปรากฏตัวทันทีหลังจากกลุ่มพันธมิตร 300 คนถูกดาร์คทำลาย"
"อะไรนะ...!"
"กริด!!"
บลัดคาร์นิวัลที่ได้ฟังต่างพากันขนลุกซู่
"กริดอยู่เบื้องหลังพันธมิตรต่อต้านบลัดคาร์นิวัลนี่เอง"
"ฉันมั่นใจมาก ว่ากริดอาศัยพลังของกลุ่มพันธมิตรช่วยค้นหาฐานทัพลับบลัดคาร์นิวัล จากนั้นก็ลงมือจัดการกับดาร์คเอง"
"ไม่เพียงเท่านั้น กริดยังยื่นคำขาด… เขากล่าวว่า หากบลัดคาร์นิวัลยังไม่ถูกยุบ ตนจะใช้พลังอำนาจของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถล่มให้ราบคาบ!"
"...นี่เป็นการแก้แค้นเรื่องเกาะคอร์กรึเปล่า"
"น่ากลัวฉิบ..."
"พวกเรายุ่งผิดคนแล้วสิ ไม่ควรไปข้องเกี่ยวกับกริดตั้งแต่แรก!"
"ท--ทาร์ม่า… พวกเราจะทำยังไงกันดี จะถูกกริดตามล่ารึเปล่า"
"..."
ทาร์ม่าและเหล่าลูกน้องที่สมรู้ร่วมคิดทำลายเกาะคอร์ก บัดนี้กำลังสั่นระริกอย่างหวาดกลัว
ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องขนลุก...
องค์กรผู้เล่นชั่วร้ายอันดับหนึ่งของโลก เพียงวันเดียวหลังจากกริดค้นพบฐานทัพลับ ชายคนนั้นได้ทำลายทุกสิ่งจนบลัดคาร์นิวัลต้องยุบตัวลง
กริดไม่มีวันรู้เลยว่า ความต้องการแร่ของตนจะส่งผลทางอ้อมมากมายเพียงนี้
เป็นความจริงที่ห้ามมิให้ใครรับรู้เป็นอันขาด
"ช่วยไม่ได้… พวกเราคงต้องหลบซ่อนตัวไปสักสองสามเดือน... ถ้าอยากรอดพ้นจากการถูกกิลด์โอเวอร์เกียร์ตามไล่ฆ่าอย่างไม่จบสิ้นล่ะนะ"
"แต่ถ้าพวกเราเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก... นั่นจะไม่แย่เอาหรือ"
"ก็ยังดีกว่าถูกตามฆ่าเรื่อยๆ จากไอ้ปีศาจนั่นไม่ใช่รึไง"
"อึก..."
หลังจากนี้อีกพักใหญ่ ความสงบสุขได้กลับสู่โลกซาทิสฟายอย่างน่าประหลาด
วีรบุรุษผู้ทำลายกลุ่มนักเล่นเกมสุดชั่วและสร้างสันติสุขให้โลก แม้กระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังไม่ตระหนักถึงคุณงามความดีที่ตนได้กระทำลงไป
"ทำไมพักนี้ถึงคันหูบ่อยนักนะ..."'
ระหว่างการเดินทางไปยังหมู่บ้านเนตรมาร
กริด วีรบุรุษผู้กวาดล้างบลัดคาร์นิวัล
เขามัวแต่ครุ่นคิดหาสาเหตุของอาการคันหู
555 ตลก กับความเข้าใจผิด
ReplyDeleteพลังแห่งการหลงผิด
ReplyDeleteถัดจาดกาว นาซาริก ก็กาว โอเวอร์เกียร์ เนียแหละ 5555
ReplyDeleteยังมีกาวทมิฬอีกนะ อันนี้ทริปเบิ้ลกาว กาวอย่างดี
Deleteเห้อ~
ReplyDeleteเค้าเรียกว่า "พลังแห่งความน่าเกรงขาม" 555+
ReplyDelete