จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 618



    "ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก"

    สวาปามจกบัลรสเผ็ดถอนหายใจหลังจากหนีรอดปลอดภัย  
    มันเปิดหน้าต่างข้อความระบบขึ้นตรวจสอบ
    กริดสังหารมอนสเตอร์และทำลายกับดักทุกอันในดันเจี้ยน  ส่งผลให้สวาปามจกบัลรสเผ็ดได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก  
    
    'เราได้เพิ่มมาสองเลเวล  และเหนือสิ่งอื่นใด  เรามีโอกาสวัดพลังกับกริดโดยตรง'    
    โอกาสในการดวลกับผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่างกริดหรือครอเกลมีมูลค่าเทียบเท่าเงินจำนวนล้านดอลล่าส์  
    สวาปามจกบัลรสเผ็ดหวังจะนำข้อมูลการดวลครั้งนี้ไปปรับปรุงพัฒนาตนเอง  
    ใช่แล้ว  มันมิได้สิ้นหวัง  แม้ต้องสูญเสียไข่มังกรที่คอยเฝ้าดูแลมานานหนึ่งปีเต็ม
    พลังใจของมันแข็งแกร่งเกินกว่าจะล้มลงจากความผิดพลาดเพียงหนเดียว  

    หากหยิบยืมคำพูดของพีคซอร์ด
    นี่คือจิตใจของชาวเกาหลีใต้ที่แข็งแกร่งหลังจากถูกต่างชาติรุกรานในอดีตหลายหน
    ความแข็งแกร่งทางพลังใจของชาวเกาหลี  ส่งผลให้พวกเขาได้ครองบัลลังก์วงการเกมทั่วโลกอยู่นานหลายสิบปี  และสิ่งนี้ได้ตกทอดต่อมายังซาทิสฟาย

    'แม้จะน่าเสียดายอยู่บ้าง  ที่ต้องละทิ้งความฝันในการเป็นผู้เลี้ยงมังกรคนแรกไป'
    
    แต่ความเป็นจริงแล้ว  หากฟังจากสิ่งที่เผ่าเนตรมารพูด  ฝันของสวาปามจกบัลรสเผ็ดแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ต้น  
    โอกาสที่มังกรจะยอมติดตามรับใช้มนุษย์เกือบเป็นศูนย์

    'สำหรับกริดก็ไม่ต่างกัน'

    หากพิจารณาจากเนื้อเรื่องหลักของซาทิสฟาย  ไข่มังกรคลั่งคือตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่สามารถกดดันจอมอสูรในขุมนรกได้  ไม่มีทางจะรับมือโดยผู้เล่นเพียงคนเดียวไหวแน่
    สวาปามจกบัลรสเผ็ดพยายามสงบสติอารมณ์  จากนั้นตัดสินใจส่งข้อความส่วนตัวไปหามิตรสหายเก่า
    พวกมันคือ  สามผู้ก่อตั้งบลัดคาร์นิวัลในตอนต้น

    >>  กริดพบตัวฉันแล้ว

    >>  ได้ยังไง  เขาใช้วิธีไหน...!

    >>  ฉันเองไม่รู้...  รู้แต่ว่า  เครือข่ายข้อมูลของกริดในฐานะกษัตริย์มีมากกว่าที่พวกเราประเมินไว้  กริดรู้ว่าฉันคือหัวหน้าใหญ่บลัดคาร์นิวัล  เขารู้กระทั่งเรื่องของไข่มังกรคลั่ง

    >>  ปีศาจชัดๆ... 

    >>  เขาไม่ได้เป็นกษัตริย์คนแรกเพราะโชคช่วย  พวกเรามิอาจวัดพลังชายคนนี้ได้...  ฉันคิดว่า  เราสี่คนไม่ควรเอาตัวไปเสี่ยงมากกว่านี้  ฉันจะยุบบลัดคาร์นิวัลทิ้ง  พวกเราจะเก็บตัวเงียบกันสักพัก

    ***

[ ไข่มังกรคลั่ง ]
    
    ไข่ทรงรีที่วางอยู่กลางแท่นบูชา  ขนาดของมันใหญ่กว่าร่างกายกริดถึงสองเท่า
    ทั้งที่กริดคือชายหนุ่มกำยำสูงกว่า 181 เซนติเมตร

    "ถ้านำไปทำบิบิมบับ*ล่ะก็   คงอิ่มท้องได้เป็นร้อยคน… มังกรน้อยแรกคลอดมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ตั้งแต่เกิดเลยหรือ"

(* บิบิมบับ - ข้าวยำเกาหลี  มีไข่โปะตรงกลาง)

    "มันฟักจากไข่  ไม่ได้คลอด"    

    "อ่า...จริงด้วยสินะ"

    ไมเนอร์  ผู้แอบซุ่มอยู่นานระหว่างต่อสู้  บัดนี้เดินมาหากริดพร้อมเผ่าเนตรมาร
    เหตุใดเผ่าเนตรมารถึงไม่ช่วยกริดสู้สวาปามจกบัลเผ็ด...
    เป็นเพราะสัญญาที่ได้ทำไว้กับเจ้าของดันเจี้ยน  เผ่าอสูรจึงมิอาจทำอันตรายกับผู้ทำสัญญาได้  
    แต่อันที่จริง  หากเป็นเผ่าอสูรชั่วร้ายสักหน่อย  พวกมันสามารถหักหลังผู้ทำสัญญาได้  แต่สิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับเผ่าเนตรมารแน่นอน
    เผ่าเนตรมารมีคุณธรรมและความจงรักภักดีสูงส่ง  ส่งผลให้พวกมันไม่คิดโจมตีใส่สวาปามจกบัลรสเผ็ด

    "แล้วไข่จะฟักตอนไหน"

    ชายหนุ่มพยายามใช้ทักษะตรวจสอบ  แต่รายละเอียดที่ได้รับก็ไม่ระบุวันเวลาฟักไว้
    ดังนั้น  การถามเนตรมารจ่าฝูงที่มีทักษะทำนายน่าจะได้รับคำตอบน่าพึงพอใจกว่า

    "เมื่อสองจันทร์ปรากฏยามค่ำคืนครบเก้าหน  และเพลงกลอนถูกขับขานกังวาล… คงเป็นเช่นนั้นกระมั้ง…  คุคุคุคุ!"

    "ปรากฏการณ์สองจันทร์จะเกิดทุกสี่เดือน... เก้าครั้ง… ก็สามปีสินะ"

    ต้องถอดความซ้ำอีกหนจึงจะเข้าใจภาษาพูดของเนตรมาร 
    กริดเริ่มเข้าใจแล้วว่า  เหตุใดจอมอสูรจึงทนไม่ไหวและขับไล่ออกจากขุมนรก
    ทันใดนั้น  ข้อความระบบแสดงขึ้น

[ ท่านบรรลุภารกิจ! ]
[ รางวัลภารกิจ : เนตรมารทั้ง 17 ตนกลายเป็นบริวารของท่าน ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับเผ่าเนตรมารเพิ่มขึ้น  ท่านมีสิทธิ์ติดต่อเจรจากับเผ่าเนตรมาร ]

    "เจ้านำไข่มังกรคลั่งออกมาได้สำเร็จ  พวกเราจะยอมเป็นบริวารของเจ้าก็ได้  จงยืดอกภูมิใจได้เลยที่มีพวกเราคอยรับใช้  คุคุคุ"

    "เชิญออกคำสั่งมาได้ทุกเมื่อ  ไม่ว่าต้องการสิ่งใด  พวกเราจะมอบให้เจ้าได้มากกว่านั้นเสมอ   ฮุฮุฮุ!"

    "..."
    
    ถึงปากบอกว่ายอมเป็นบริวาร  แต่ถ้อยคำกลับยังไม่เคารพเช่นเดิม
    ทว่า  กริดก็สัมผัสได้ถึงความจงรักภักดี  
    ซึ่งเขาไม่ได้เกลียดเนตรมารเลยสักนิด  เพราะเจ้าพวกนี้เหมือนกับลอเอลไม่ผิดเพี้ยน

    "ฉันคงเสียสติแน่ถ้าต้องคอยบงการพวกนายด้วยตัวเอง  นายจะได้อยู่ในความดูแลของลอเอล  ชายคนนั้นคงรู้วิธีใช้พวกนายให้เกิดประโยชน์สูงสุด"

    "ลอเอล...  เจ้านั่นเป็นใครกัน"

    "พวกเราเคยบอกไปแล้วมิใช่หรือ  ว่าจะรับใช้เจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น!  ไม่มีมนุษย์หน้าไหนควรค่าแค่การรับใช้ไปมากกว่าเจ้าอีกแล้ว!  พวกเราจะไม่ยอมรับมนุษย์อื่นเด็ดขาด!"

    "ไม่เลย… เชื่อฉันสิ  ชายคนนั้นจะทำให้พวกนายรู้สึกดีแน่นอน  ตั้งแต่แรกพบเลยล่ะ...  ลอเอลคือสหายร่วมเป็นร่วมตายในชีวิตที่แล้วของพวกนาย"

    "สหายจากชีวิตก่อนงั้นหรือ… โฮ่..!  ต้องไปได้สวยแน่!"

    "ว่าแต่… พวกนายจะทำยังไงกับไข่มังกรคลั่ง"

    ต่อให้มังกรคลั่งฟักออกมา  มันจะยอมเชื่อฟังเนตรมารงั้นหรือ...
    กริดเพียงแค่คิด  มิได้ถามออกไป
    นับแต่เริ่มเล่นซาทิสฟายมาจนถึงปัจจุบัน  ความเข้าใจในตัวเกมมีเพิ่มขึ้นมาก
    ใช่แล้ว  จากพื้นฐานของเนื้อหาภารกิจ  มังกรคลั่งที่กำลังจะฟักจากไข่  คือสิ่งมีชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่ตนไม่มีสิทธิ์ครอบครองแน่นอน

    "ไม่ใช่เรื่องถูกต้องแต่แรกแล้ว  ที่มังกรจะเป็นสมบัติของผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง"

    ซาทิสฟายจะพบกับปัญหาใหญ่แน่  ใหญ่ระดับบั๊กทำลายเกม  ไม่ใช่เรื่องความสมดุลเล็กน้อยอีกต่อไป
    กริดมั่นใจมาก  เขาจึงสลัดความคิดครอบครองไข่มังกรไป
    จากนั้น  เนตรมารได้หันมาอธิบาย

    "ประการแรก  พวกเราจะนำกลับไปยังหมู่บ้าน  และปกป้องมันจนกว่าจะฟัก"

    "มังกรคือสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา  มันจะรับรู้เรื่องราวของโลกได้ทันทีเมื่อฟักออกจากไข่  มันจะรู้ว่าศัตรูของบิดาคือใคร  และรู้ว่าควรร่วมมือกับเผ่าเนตรมารเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย"

    "หลังจากนี้อีกหนึ่งพันปี  ทายาทของมังกรคลั่งจะโตเต็มวัยและเริ่มออกอาละวาด  ฮุฮุฮุ!"

    "พันปี...!"
    
    บ้าไปแล้ว...
    กว่ามังกรจะโตเต็มวัยต้องใช้เวลานานถึงพันปีเลยรึไง

    'เผ่าเนตรมารคงแก่ตายกันหมดแล้ว  โดยที่จอมอสูรยังสบายดี'

    ดูเหมือนไข่มังกรคลั่งจะไม่มีผลต่อเนื้องเรื่องหลักของผู้เล่นโดยตรง
    เป็นเพียงภารกิจปลีกย่อยเสริมให้ดูน่าตื่นเต้น

    'แต่แบบนี้ย่อมดีกว่า  เพราะหากถึงบทมังกรออกโรง  ผู้เล่นคงไม่เป็นอันทำสิ่งใดแน่'

    ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยสักนิด...
    กริดพึงพอใจแล้วที่ได้เนตรมาร17 ตนเป็นบริวาร

    "เจ้ามนุษย์  ช่วยมาที่หมู่บ้านของพวกเราก่อนสิ"

    "ราชาของพวกเราต้องมอบรางวัลใหญ่ให้เจ้าแน่"

    'รางวัลสินะ  หรือก็คือ… สิ่งที่มอบให้ผู้ที่มีฐานะต่ำกว่า'

    กริดเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ  ถึงกระนั้นก็ยังพยักหน้าตอบรับ
    ในอนาคต  เขาไม่รู้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตประเภทใดรุกรานอาณาจักรโอเวอร์เกียร์บ้าง 
    คงเป็นการดีกว่าหากผูกมิตรกับสายพันธ์ที่แข็งแกร่งไว้

    'เราต้องระวังเรื่องคำพูด  ต้องทำให้เผ่าเนตรมารกลายเป็นพันธมิตรให้ได้'
    
    กริดตัดสินใจหนักแน่น

    "ฉันจะไปหมู่บ้านของพวกนาย"

    แต่ก่อนอื่น

    "ขุดแร่ที่นี่ให้หมด"

    ก่อนจะกลับ  กริดไม่ลืมที่จะขุดแร่ในเขต 8 ให้เรียบร้อยเสียก่อน
    เขารีดเร้นค่าเรี่ยวแรงของเนตรมารจนหยดสุดท้าย

    ***

    "ท่านขุนนางผู้มีพลังทำนายเอ๋ย  ตัวข้ามีคำถามทรงปัญญาที่ต้องการคำตอบ"

    "หืม… เจ้าคือสามัญชนผู้มีดวงตาอัคคีพิโรธสินะ  คุคุ!  ว่ามาเลย  ขอสาบานด้วยเกียรติของขุนนาง  ว่าจะตอบคำถามทรงปัญญาของเจ้าอย่างตรงไปตรงมา"

    "พวกเราลั่นสัตย์สาบานว่าจะตามรับใช้มนุษย์ที่ชื่อกริด  ชายคนนั้นเหมาะจะเป็นเจ้านายของพวกเรา  แต่ข้ายังนึกสงสัยว่า  มันดีแล้วหรือที่จะนำทางกริดไปยังหมู่บ้านของพวกเรา  การกระทำเช่นนี้จะเข้าข่ายผู้ทรยศหรือไม่"

    ภายในหมู่บ้านเนตรมาร  จะมีเนตรมารอาศัยอยู่ราวหนึ่งพันตน
    แม้จำนวนอาจน้อย  แต่ทุกตนล้วนเปี่ยมด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่
    โดยเฉพาะเนตรมารราชาซึ่งมีดวงตาสำหรับสยบทุกสิ่ง
    หากกริดล่วงเกินเข้า  สถานการณ์อาจเลวร้ายสุดขีด

    "หากถูกดวงตาข้างนั้นจ้องมอง  กริดจะตกเป็นทาสของเผ่าเนตรมารไปชั่วชีวิต  ซึ่งนั่นไม่ต่างจากการที่พวกเราล่อลวงกริดให้ไปติดกับ  ศักดิ์ศรีและความจงรักภักดีของข้าคงไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่"    

    "ไม่ต้องเป็นห่วง  กริดคือมนุษย์ที่ช่วยเรานำไข่มังกรคลั่งกลับไป  ท่านราชาผู้ยึดถือความถูกต้องเป็นที่ตั้ง  ย่อมไม่มีทางทำอันตรายกริดแน่"

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    ระหว่างขุดทำลายเขต 8 ของดันเจี้ยนระวังสุนัขดุ  เนตรมารได้เรียนรู้ทักษะการขุดแร่เบื้องต้น  
    พวกมันกำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับกริด  
    เนตรมารคือเผ่าอสูรที่ขึ้นชื่อด้านความจงรักภักดี  แต่แน่นอนว่าไม่ใช่กับทุกตน
    เฉกเช่นมนุษย์ที่มีบุคคลหลากหลายรูปแบบ  เผ่าเนตรมารก็ด้วย

    เนตรมารทั้ง 17 ตนยึดมั่นในคำสาบานและพร้อมรับใช้กริดก็จริง  
    แต่ไม่ได้หมายความว่าเนตรมารในหมู่บ้านจะเห็นพ้องต้องกัน
    กริดมิได้ตระหนักถึงความจริงข้อนี้มาก่อน  เขาคิดเพียงจะติดต่อกับสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ใหม่เท่านั้น

    ลัลล้า~

    ชายหนุ่มฮัมเพลงอย่างมีความสุขเมื่อช่องสัมภาระอัดแน่นด้วยแร่มังกรคลั่งหลายชนิด

    ***

[ <บลัดคาร์นิวัล> ถูกยุบ ]

    "อะไรกัน...!"

    บนโลกใบนี้  มีคนจิตใจต่ำทรามและชั่วร้ายแผงอยู่นับไม่ถ้วน
    และขณะเดียวกัน  ก็มีกลุ่มคนที่ต้องการใช้งานพวกมันไม่น้อย
    ด้วยเหตุนี้  ธุรกิจของบลัดคาร์นิวัลจึงรุ่งเรืองแม้จะก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ปี
    ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 400 คนเข้าร่วมสังกัด  
    ทว่า  กองกำลังอันยิ่งใหญ่กลับถูกยุบในชั่วข้ามคืน  
    แถมยังไม่มีการประกาศแจ้งสาเหตุให้สมาชิกรับรู้

    "เจ้าดาร์คนั่น...!"
    
    "ฉันไม่เคยเห็นหน้าของมันมาก่อน  แม้จะทำงานที่นี่มานานหลายปี  พวกเราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด  แต่มันกลับยุบองค์กรโดยไม่พูดอะไรสักคำเนี่ยนะ"

    "ใครจะอยากพูดกับอาชญากรอย่างเราล่ะ...  ว่าแต่  มันไม่โง่ไปหน่อยรึไงที่ตัดสินใจยุบองค์กรกำไรมหาศาลไปง่ายๆ แบบนี้"

    "หืม..."

    สมาชิกบลัดคาร์นิวัลต่างพากันสับสน
    ไม่ว่าจะครุ่นคิดมากเพียงใด  ก็มิอาจหาสาเหตุที่ดาร์คตัดสินใจยุบบลัดคาร์นิวัลได้
    ทุกคนต่างสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น
    จนกระทั่ง  หลังจากนั้นอีกสองสามวัน

    "พันธมิตรต่อต้านบลัดคาร์นิวัลบุกฐานทัพลับพวกเรา!"

    "พวกมันมีมากกว่า 300 คน  แถมยังมีแร้งเกอร์ระดับสูงรวมอยู่ถึง 20 คน"

    "เรื่องใหญ่ขนาดนี้ดันเกิดขึ้นในตอนที่ไม่มีใครอยู่เนี่ยนะ"

    "ดาร์คถูกฆ่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้น  ก็เลยตัดสินใจยุบบลัดคาร์นิวัลงั้นหรือ"

    "ไม่ใช่แบบนั้น… ถึงจะเชื่อได้ยาก  แต่กลุ่มพันธมิตรถูกจัดการอย่างราบคาบ"

    "อะไรนะ..."

    ดาร์คเอาชนะผู้เล่น 300 คนตามลำพังได้ยังไง...!
    แถมยังเป็นกลุ่มที่มีแร้งเกอร์ระดับสูงมากขึ้น 20 คน

    "ดาร์คแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่...  เก่งกว่าฝาแฝดแบล็คไวท์รึเปล่า"

    "ทุกครั้งที่ได้พบก็เอาแต่ซ่อนตัวอยู่หลังฉาก  หมอนั่นเก็บซ่อนพลังที่แท้จริงไว้ตลอดสินะ"

    "ถ้าอย่างนั้น  แล้วทำไมดาร์คถึงยุบบลัดคาร์นิวัล..."
    
    "เรื่องนั้น..."

    <โน้ป> แร้งเกอร์นักสำรวจระดับสูง  ด้วยเครือข่ายข้อมูลมหาศาล  มันจึงรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงในการยุบบลัดคาร์วัล
    โน้ปกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะเปิดปากเล่า

    "ว่ากันว่า  กริดปรากฏตัวทันทีหลังจากกลุ่มพันธมิตร 300 คนถูกดาร์คทำลาย"

    "อะไรนะ...!"

    "กริด!!"

    บลัดคาร์นิวัลที่ได้ฟังต่างพากันขนลุกซู่

    "กริดอยู่เบื้องหลังพันธมิตรต่อต้านบลัดคาร์นิวัลนี่เอง"

    "ฉันมั่นใจมาก  ว่ากริดอาศัยพลังของกลุ่มพันธมิตรช่วยค้นหาฐานทัพลับบลัดคาร์นิวัล  จากนั้นก็ลงมือจัดการกับดาร์คเอง"

    "ไม่เพียงเท่านั้น  กริดยังยื่นคำขาด… เขากล่าวว่า  หากบลัดคาร์นิวัลยังไม่ถูกยุบ  ตนจะใช้พลังอำนาจของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถล่มให้ราบคาบ!"

    "...นี่เป็นการแก้แค้นเรื่องเกาะคอร์กรึเปล่า"

    "น่ากลัวฉิบ..."

    "พวกเรายุ่งผิดคนแล้วสิ  ไม่ควรไปข้องเกี่ยวกับกริดตั้งแต่แรก!"

    "ท--ทาร์ม่า… พวกเราจะทำยังไงกันดี  จะถูกกริดตามล่ารึเปล่า"

    "..."

    ทาร์ม่าและเหล่าลูกน้องที่สมรู้ร่วมคิดทำลายเกาะคอร์ก  บัดนี้กำลังสั่นระริกอย่างหวาดกลัว
    ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องขนลุก...  
    องค์กรผู้เล่นชั่วร้ายอันดับหนึ่งของโลก  เพียงวันเดียวหลังจากกริดค้นพบฐานทัพลับ  ชายคนนั้นได้ทำลายทุกสิ่งจนบลัดคาร์นิวัลต้องยุบตัวลง
    
    กริดไม่มีวันรู้เลยว่า  ความต้องการแร่ของตนจะส่งผลทางอ้อมมากมายเพียงนี้  
    เป็นความจริงที่ห้ามมิให้ใครรับรู้เป็นอันขาด

    "ช่วยไม่ได้… พวกเราคงต้องหลบซ่อนตัวไปสักสองสามเดือน...  ถ้าอยากรอดพ้นจากการถูกกิลด์โอเวอร์เกียร์ตามไล่ฆ่าอย่างไม่จบสิ้นล่ะนะ"    

    "แต่ถ้าพวกเราเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก...  นั่นจะไม่แย่เอาหรือ"    

    "ก็ยังดีกว่าถูกตามฆ่าเรื่อยๆ จากไอ้ปีศาจนั่นไม่ใช่รึไง"

    "อึก..."

    หลังจากนี้อีกพักใหญ่  ความสงบสุขได้กลับสู่โลกซาทิสฟายอย่างน่าประหลาด
    วีรบุรุษผู้ทำลายกลุ่มนักเล่นเกมสุดชั่วและสร้างสันติสุขให้โลก  แม้กระทั่งตอนนี้  เขาก็ยังไม่ตระหนักถึงคุณงามความดีที่ตนได้กระทำลงไป

    "ทำไมพักนี้ถึงคันหูบ่อยนักนะ..."'

    ระหว่างการเดินทางไปยังหมู่บ้านเนตรมาร  
    กริด  วีรบุรุษผู้กวาดล้างบลัดคาร์นิวัล  
    เขามัวแต่ครุ่นคิดหาสาเหตุของอาการคันหู

Comments

  1. 555 ตลก กับความเข้าใจผิด

    ReplyDelete
  2. พลังแห่งการหลงผิด

    ReplyDelete
  3. ถัดจาดกาว นาซาริก ก็กาว โอเวอร์เกียร์ เนียแหละ 5555

    ReplyDelete
    Replies
    1. ยังมีกาวทมิฬอีกนะ อันนี้ทริปเบิ้ลกาว กาวอย่างดี

      Delete
  4. เค้าเรียกว่า "พลังแห่งความน่าเกรงขาม" 555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00