จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 621
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์และเผ่าเนตรมารต้องเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ทำอันตรายซึ่งกันและกัน
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์และเผ่าเนตรมารต้องมีปฏิสัมพันธ์กันอยู่เสมอ
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะส่งกำลังทหารและไอเท็มสนับสนุนเผ่าเนตรมาร ส่วนเผ่าเนตรมารต้องคอยสนับสนุนในด้านต่อสู้
ราชาโอเวอร์เกียร์และราชาเนตรมารต้องพบปะกันเป็นครั้งคราว เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดี
นี่คือสนธิสัญญาที่กริดร่างขึ้นระหว่างอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเนตรมาร
"เรามีความสุขมาก"
สองวันที่ผ่านมา
ราชาเนตรมารสามารถสนทนากับใครสักคนโดยเห็นใบหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิต
อาจมิใช่ประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ต้องปิดผนึกดวงตามาตั้งแต่เกิด สิ่งนี้ได้มอบความรู้สึกล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้
ราชาเนตรนับถือกริดเป็นตัวตนแสนพิเศษ
หากมีกริดล่ะก็ ตนไม่ต้องปิดตาไปตลอดชีวิตอีกแล้ว
ตนสามารถคุยกับสหายได้โดยเห็นใบหน้า ได้เห็นความสุขของกันและกัน
...ไม่ต้องตาบอดไปจนวันตาย
กริดรู้สึกเห็นอกเห็นใจราชาเนตรมาร เขามอบคำมั่นสัญญา
"เราจะสร้างของวิเศษขึ้นเพื่อผนึกพลังเนตรมารสามคำสาปไว้ ก่อนตาย เราอยากให้ท่านได้เห็นใบหน้าครอบครัวสักครั้งในชีวิต"
"ขอบคุณสำหรับความหวังดี... แต่เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ยาก"
ยิ่งหวังมาก ตอนผิดหวังก็ยิ่งเจ็บช้ำรุนแรง
ราชาเนตรมารไม่เก็บคำมั่นของกริดไปคิดเป็นสำคัญ เขาไม่หวังว่ามันจะเกิดขึ้น
กลับกัน ฝ่ายกริดมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะสร้างสิ่งนี้ให้จงได้
ชายหนุ่มมิได้คิดทำด้วยใจบริสุทธิ์นัก ระหว่างการสนทนาตลอดสองวันที่ผ่านมา กริดได้ทราบว่า ราชาเนตรมารมีพลังปลูกถ่ายคำสาปเนตรมารลงในดวงตาผู้อื่นได้
เป้าหมายกริดคือการเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับราชาเนตรมารให้ถึงระดับสูงสุด
จากนั้นจะร้องขอเนตรมารหนึ่งข้างเป็นของตน
'แต่เหนือสิ่งอื่นใด...'
กริดหวังให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย สิ่งนี้คือที่ตั้ง
ชายหนุ่มลั่นวาจาพร้อมกับกล่าวคำอำลา
"ถึงเวลาต้องกลับแล้ว... เราจะส่งผ้าคลุม 50 ผืนให้ทุกเดือนตามที่สัญญาไว้"
"เข้าใจแล้ว... ขอให้โชคดี"
เผ่าเนตรมารมั่นใจแยะงทรนงในพลังต่อสู้ของตน
แค่การมีอยู่ ก็ถือเป็นเป็นอาวุธอานุภาพร้ายแรง
ยุทธภัณฑ์สงครามมิใช่สิ่งที่เผ่าเนตรมารแสวงหา
ทว่า พวกมันเป็นจูนิเบียว จึงย่อมต้องการผ้าคลุมเท่ๆ สักผืนไว้สวม
กริดมองว่า หากเป็นผ้าคลุมที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันได้คงดี
ชายหนุ่มมีแผนจะสร้างผ้าคลุมลันเทียร์รุ่นผลิตจำนวนมากในอนาคต
'ยิ่งมีไอเท็มรุ่นผลิตจำนวนมากหลากหลายชนิด นั่นก็ยิ่งเป็นผลดีกับเรา'
แล้วสักวัน กองทัพของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ทุกคนจะสวมใส่เซ็ตกริดและผ้าคลุมลันเทียร์รุ่นผลิตจำนวนมาก… ไม่ใช่แค่กองทัพ แต่ยังรวมถึงราษฎรทั่วไป
สิ่งนี้มิใช่เรื่องเพ้อฟัน มันจะเกิดขึ้นจริงหลังจากนี้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี
ปัจจุบัน ช่องสัมภาระของกริดกำลังอัดแน่นด้วยแร่มังกรคลั่ง
อีกไม่นาน เขาจะต้องตะลึงกับศักยภาพอันสูงส่ง
***
"พวกนายได้ยินข่าวลือรึยัง"
"ข่าวลืออะไร"
"ว่ากันว่า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงรางวัลภารกิจครั้งใหญ่"
"ภารกิจของอาณาจักรนี้ก็ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ฉันชอบนะ ไล่ทำทุกวันโดยไม่ขาดตกบกพร่อง"
"แต่รางวัลใหม่คราวนี้... ภารกิจของอาณาจักรใดก็เทียบไม่ติดทั้งนั้น ตั้งแต่ภารกิจเลเวล 180 ขึ้นไป อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะมอบไอเท็มที่กริดสร้างหนึ่งชิ้นเป็นรางวัล"
"อะไรนะ... ไอเท็มที่กริดสร้าง!"
"ถูกต้อง แถมยังเป็นไอเท็มเซ็ต พวกนายจะได้รับหนึ่งชิ้นหลังจากบรรลุทุกสามภารกิจ"
"สุดยอด... เซ็ตไอเท็มของกริด"
ช่างตีเหล็กในตำนาน กริด
ผู้เล่นทั่วโลกต่างต้องการสัมผัสไอเท็มที่กริดสร้างสักครั้ง
แต่สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก กริดจะไม่สร้างไอเท็มให้กับบุคคลภายนอกโอเวอร์เกียร์เด็ดขาด
กล้าเรียกได้เต็มปากว่า ไอเท็มที่กริดสร้าง มีเงินเพียงอย่างเดียวซื้อไม่ได้แน่
ส่งผลให้ เมื่อข่าวลือเรื่องไอเท็มของกริดแพร่สะพัด ผู้เล่นจากทั่วโลกเริ่มเกิดความโกลาหล
สิ่งนี้คือเป็นแผนของลอเอล
ลอเอลทุ่มเงินว่าจ้างให้ผู้เล่นในแต่ละอาณาจักรเริ่มกระจายข่าวลือ
เพียงพริบตาเดียว สิ่งนี้ก็เป็นที่รู้กันทั่วโลก
การตลาดของลอเอลประสบความสำเร็จมาก
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ก่อเป็นคลื่นลูกใหญ่ในซาทิสฟาย
"ยังมีเหตุผลใดอีก ที่พวกเราจะไม่ย้ายไปอยู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์"
"ภาษีเดือนแรกลดเหลือครึ่งเดียว แถมยังมีโอกาสได้รับไอเท็มล้ำค่า"
"ฉันไม่ยอมพลาดไอเท็มจากกริดแน่"
ผู้เล่นจากอาณาจักรโดยรอบต่างตัดสินใจอย่างพร้อมเพรียง พวกเขามีแผนจะย้ายไปยังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ แม้อาจต้องเผชิญหน้ากับภารกิจที่หนักหนาสาหัส
ราชวงศ์ของแต่ละอาณาจักรต่างตื่นตัวทันที
"พวกแกต้องจงรักภักดีต่ออาณาจักร! การย้ายอาณาจักรถือเป็นสิ่งผิดกฏหมาย!"
"พวกแกไม่สามารถย้ายอาณาจักรได้จนกว่าจะสร้างคุณงามความดีให้อาณาจักรนี้เสียก่อน!"
อาณาจักรทั้ง 14 แห่งต่างกำหนดภารกิจเพื่อขัดขวางการย้ายอาณาจักรอย่างสุดความสามารถ
ระดับภารกิจนั้นสูงมาก หากเลเวล อุปกรณ์สวมใส่ หรือฝีมือไม่ถึง จะไม่มีทางบรรลุภารกิจดังกล่าวได้เลย
สิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้เล่น เกิดเป็นแรงต่อต้านจากทุกทิศ
ไม่เว้นแม้แต่ในโลกจริง
=== มันถูกต้องแล้วหรือที่ NPC คอยกีดกันอิสรภาพของผู้เล่นเช่นนี้
=== ไหนว่าซาทิสฟายขึ้นชื่อด้านอิสระ ผู้เล่นไม่ใช่หุ่นเชิด NPC สักหน่อย!
ผู้เล่นจำนวนมากต้องการให้ S.A กรุ๊ปหยุดยั้งการกระทำของ NPC
ทว่า สิ่งนี้ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นกับ S.A กรุ๊ปแน่
พวกเขามอง NPC ทุกคนเป็น 'พลเมืองของโลกอีกใบ' และปฏิบัติอย่างเท่าเทียมมนุษย์มาโดยตลอด
S.A กรุ๊ปไม่มีนโยบายแทรกแซงเนื้อหาและระบบของเกม
พวกเขาต้องการให้ซาทิสฟายดำเนินไปตามครรลองธรรมชาติ
ขณะที่ผู้เล่นหมู่มากโกรธเคือง S.A กรุ๊ป ผู้เล่นบางส่วนกลับมองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
ท่าทีเฉยเมยของ S.A กรุ๊กทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
'ความน่าเชื่อถือจะลดลงมาก หาก S.A กรุ๊ปคอยแทรกแซงระบบทุกครั้งที่เกิดปัญหา'
S.A กรุ๊ปต้องให้ให้ผู้เล่นมองซาทิสฟายเป็นโลกอีกใบหนึ่ง
แน่นอนว่าโลกทุกใบย่อมโหดร้าย ไม่มีสิ่งใดได้ดังใจนึกตลอดรอดฝั่ง
ไม่ว่าผู้เล่นจะทักท้วงและโวยวายมากเพียงใด แต่ทาง S.A กรุ๊ปก็นิ่งเงียบและเพิกเฉย
ส่งผลให้ผู้เล่นบางส่วนไม่ทนรอ พวกเขาเริ่มกัดฟันทำภารกิจให้ลุล่วงและรีบย้ายไปยังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
แต่เนื่องด้วยเนื้อหาภารกิจโหดหินเกินไป ทำให้ผู้เล่นส่วนมากที่ต้องติดแหง่กอยู่กับอาณาจักรเดิมต่อไป
ถึงอยากได้เซ็ตกริดใจแทบขาด แต่ก็ต้องตัดใจยอมหันหลังให้กับภารกิจสุดหินที่อาจใช้เวลานานเกินสองสัปดาห์
แน่นอนว่าบทลงโทษภารกิจล้มเหลวย่อมร้ายแรง
หลายคนไม่ต้องการเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
ทว่า... สิ่งนี้กลับเกิดเป็นประโยชน์มหาศาลต่อกิลด์โอเวอร์เกียร์
ภารกิจเพื่อกีดกันการย้ายเมืองของทั้ง 14 อาณาจักร กลายเป็นเครื่องคัดกรองผู้เล่นคุณภาพสูงเข้าสู่โอเวอร์เกียร์ไปโดยปริยาย
ไม่ว่าจะเป็นด้านไอเท็ม เลเวล หรือฝีมือ
มีเพียงผู้เล่นระดับเหนือทั่วไปเท่านั้น ที่สามารถย้ายเข้าสู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ได้
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คือผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดของเหตุการณ์นี้
***
"สุดยอด..."
เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ตนไม่อยู่...
หลังจากกลับถึงไรน์ฮาร์ท กริดตกตะลึงกับจำนวนประชากรผู้เล่นที่เพิ่มจำนวนจากห้าหมื่นเป็นเกือบแสน
ลอเอลใช้มือปิดครึ่งหน้าพร้อมกับหัวเราะไหล่สั่น
"คุคุคุ! สิ่งนี้เกิดจากเทคนิคแสร้งปล่อยข่าวลือที่กระหม่อมคิดค้นขึ้นเพื่อสร้างชื่อเสียงให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ หึหึ...! ด้วยปัญญาอันเฉียบแหลมของกระหม่อม เมื่อผสานเข้ากับพลังอันไร้ที่สิ้นสุดของฝ่าบาท ก่อเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สามารถสั่นคลอนโลกได้ทั้งใบ... คุคุคุ...! คุฮ่าฮ่าฮ่า!"
"ทำได้ดีมาก ลมกับเป็นลอเอลที่ฉันไว้ใจ นายคงเหนื่อยแย่สินะ ได้พักผ่อนบ้างไหม"
"..."
ลอเอลพลันชะงัก
มิใช่ว่า กริดควรแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเหมือนเช่นทุกครั้งหรอกหรือ
หลังจากนั้นก็มักขอร้องให้ตนเลิกพูดจาไร้สาระ...
แต่วันนี้กลับมาแปลก... ไม่ได้พบกันนานเพียงสองสัปดาห์ แต่กริดกลับไม่กระอักกระอ่วนเมื่อได้ยินคำพูดของลอเอล แถมยังตอบกลับอย่างเฉยเมยราวกับทำใจยอมรับได้แล้ว
ส่งผลให้ลอเอลเข้าใจผิดมหันต์
'ฝ่าบาททรงตระหนักได้แล้วสินะ!'
ในที่สุดก็เห็นถึงความเท่และความสง่างามของตนสักที...!
"ฮุฮุฮุ..."
ลอเอลดีใจที่กริดยอมรับตัวตนนี้ได้
ขณะเขากำลังอมยิ้ม สิ่งมีชีวิตประหลาดได้เดินเข้ามาใกล้
ทุกตนล้วนมีสัดส่วนร่างกายประหลาด หัวโตตัวเล็ก เหมือนกับตัวละครจิบิในอนิเมะ
แขนขาสั้นป้อม แก้มตุ้ยนุ้ย ดวงตากลมโต แต่ดุดันคมกริบ
'คงเป็นเนตรมารที่กริดพูดถึงสินะ...'
เนตรมารทั้ง 17 กล่าวทักทายลอเอล
"คุคุคุ... เป็นเจ้าจริงด้วย"
"เจ้ามนุษย์ผู้ใช้ชีวิตในชาติภพก่อนร่วมกับพวกเรา"
"เจ้าช่างน่าสงสารนัก... ดันโชคร้ายไปเกิดเป็นมนุษย์ตามลำพัง... คงโดดเดี่ยวแย่สินะ"
"แต่เจ้ามิต้องกังวลอีกแล้ว พวกเราเนตรมารจะเป็นสหายที่ยอดเยี่ยมให้เจ้าเอง!"
"คุคุคุคุ! หลังจากผ่านไปหลายชาติภพ ในที่สุดพวกเราก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง... นี่คือโชคชะตาที่สวรรค์ลิขิตไว้แล้ว... ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!"
"ดวงดารายามค่ำคืนกำลังส่องแสงสุกใสกว่าทุกหน... พวกเราไปหาสถานที่นั่งดื่มริมทะเลสาปอันเงียบสงบดีไหม เพื่อเฉลิมฉลองแก่การกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง"
"...ป--เป็นไปไม่ได้"
ลอเอลทึ่งในถ้อยคำของเผ่าเนตรมาร
เขารีบเลื่อนมือขึ้นกุมหน้าอก
ตึกตัก! ตึกตัก!
หัวใจเต้นระรัวยิ่งกว่าทุกครั้ง
'ชาติภพในอดีตของเราเป็นเรื่องจริง...!'
เกี่ยวกับเรื่องการระลึกชาติภพก่อน
ลอเอลเคยเป็นกังวลมาก ว่าตนอาจเป็นผู้ป่วยอาการทางจิต
แต่ความจริงได้ปรากฏแล้ววันนี้ ตนมิได้คิดไปเอง... ไม่ได้ป่วยไข้!
ชีวิตก่อนหน้าล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งหมด!
บ้างเป็นวีรบุรุษ บ้างเป็นเทพ บ้างเป็นผู้ร้าย
แต่ทั้งหมดคือเรื่องจริง
"โชคชะตา..."
"...นำพาให้พวกเราได้พบกัน"
ก่อเกิดเป็นสายสัมพันธ์อันแนบแน่นอย่างน่าประหลาด
เมื่อสายตาของลอเอลและเนตรมารประสานซึ่งกันและกัน
***
"เรียกช่างตีเหล็กขั้นสูงทุกคนมารวมตัวที่วังหลวง"
โองการกษัตริย์ถูกถ่ายทอดไปยังเจ้าเมืองทุกแห่งหนในอาณาจักร
เจ้าเมืองต่างรีบตรวจสอบช่างตีเหล็กภายในเมืองตน
ส่งผลให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ค้นพบช่างตีเหล็กขั้นสูงเพิ่มขึ้นอีก 8 คน
ยังไม่รับรวม 12 คนจากเรย์ดันที่ข่านและกริดปลุกปั้นกับมือ
กริดสั่นระริกอย่างดีอกดีใจ
'อาณาจักรเรามีช่างตีเหล็กขั้นสูงมากมายเพียงนี้เชียว...'
ช่างตีเหล็กขั้นสูงคือสุดยอดพรสวรรค์ที่หาตัวจับยาก ทุกอาณาจักรล้วนต้องการ
เทคนิคแต่ละคนแพรวพราว มิอาจถูกทนแทนได้ด้วยสิ่งอื่น
สาเหตุที่ <เรย์ดัน> มีช่างตีเหล็กขั้นสูงจำนวนมาก เป็นเพราะข่านและกริดทุ่มเทกายใจอย่างเต็มที่
เพราะโดยปรกติแล้ว ช่างตีเหล็กขั้นสูงจะหาได้ยากยิ่งตามหัวเมืองทั่วไป
หากไม่นับจักรวรรดิซาฮารัน
อาณาจักรแต่ละแห่งจะมีช่างตีเหล็กขั้นสูงไม่เกินสิบ
แต่กับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ นอกจากไรน์ฮาร์ทแล้ว เมื่อนับรวมกับ 12 จากเรย์ดัน และ 8 จากหัวเมือง
ตอนนี้จึงมีช่างตีเหล็กขั้นสูงทั้งหมด 25 คนภายในอาณาจักร
***
ณ ท้องพระโรง วังหลวงไรน์ฮาร์ท อาณาจักรโอเวอร์เกียร์
"อึก..."
ช่างตีเหล็กขั้นสูงทุกคนที่ถูกเรียกพบ พวกเขาต่างพากันกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อได้เห็นกริดเต็มสองตา
สำหรับคนเหล่านี้ กริดเป็นทั้งกษัตริย์และช่างตีเหล็กในตำนาน
เป็นตัวตนที่ทุกคนมอบความเคารพทั้งในฐานะพลเมืองและในฐานะช่างตีเหล็ก
'นอกจากเด็กๆ ที่ข่านกับเราดูแล ยังมีช่างตีเหล็กขั้นสูงในอาณาจักรมากถึง 13 คนเชียว... อีเทอนัลเคยเป็นอาณาจักรที่เน้นหนักด้านการตีเหล็กรึไง'
กริดตั้งคำถามกับตัวเอง
ขณะเขากำลังครุ่นคิด ช่างตีเหล็กหนุ่มผู้หนึ่งทำการโค้งคำนับ
ชื่อของเขาคือ... <เร็คเตอร์>
"ว่ามา"
"ฝ่าบาท... กระหม่อมขอทูลถามสักข้อ มิทราบว่าฝ่าบาทยังจดจำหมู่บ้านที่ชื่อโรลลิ่งได้รึไม่"
"โรลลิ่ง..."
กริดเคยเดินทางมาไม่น้อย มิใช่เพียงหนึ่งหรือสองหมู่บ้าน
หากไม่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ชายหนุ่มจะไม่มีทางจดจำชื่อหมู่บ้านได้เลย
เร็คเตอร์เห็นดังนั้นจึงอธิบายต่อ
"เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ก่อนถึงวาติกัน"
"อ้อ... จริงด้วย"
กริดเริ่มจำได้เลือนลาน
หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีรูปปั้นเทพธิดารีเบคก้าตั้งเรียงรายมากมาย
เป็นสถานที่ซึ่งกริดได้พบกับนักต้มตุ๋น <ตงเพา> ที่ถูกกริดหลอกใช้เป็นตู้ฮีลส่วนตัว
และยังเป็นการพบพานครั้งแรกกับแวมไพร์เคาเตสแมรี่-โรส
"กระหม่อมคือช่างตีเหล็กจากโรลลิ่ง สาเหตุที่กลายเป็นช่างตีเหล็กขั้นสูงได้ในวันนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะได้ฝ่าบาทสอนสั่ง ชี้แนะแนวทางในวันนั้น"
"จากเรา..."
"ขอรับ ตอนนั้นกระหม่อมยังเป็นเพียงช่างตีเหล็กต่ำต้อย เปิดร้านต่อจากบิดาที่ล่วงลับ ไม่มีแก่นสารการหรือหลักการดำเนินชีวิตที่มั่นคง จนกระทั่งฝ่าบาทได้มาเยือนหมู่บ้าน ในครั้งนั้น ฝ่าบาทยังเป็นเพียงนักผจญภัยไร้นาม แต่การกระทำของฝ่าบาทได้มอบความรู้อันยิ่งใหญ่ให้กระหม่อม"
"...เห"
ตอนไหนกันฟะ...
"ทุกสิ่งที่ฝ่าบาททรงกระทำ ยอดเยี่ยมจนสลักอยู่ในดวงวิญญาณของกระหม่อมจวบจนทุกวันนี้ กระหม่อมฝึกฝนในสิ่งที่ได้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดำเนินตามรอยฝ่าบาทอย่างแน่วแน่ไม่สั่นคลอน... จนกลายเป็นช่างตีเหล็กขั้นสูงอย่างในปัจจุบัน กระหม่อมใฝ่ฝันจะกล่าวขอบคุณฝ่าบาทมาแสนนาน และบัดนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว... ขอบพระทัยฝ่าบาท สำหรับการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งชีวิตใกล้จะดับมอด..."
"..."
"สามคนนี้คือลูกศิษย์ของกระหม่อม พวกเขาล้วนศึกษา <เทคนิคของกริด> ที่กระหม่อมสอนสั่งจนกลายเป็นช่างตีเหล็กขั้นสูงในที่สุด"
"..."
กริดอึ้งจนกล่าวสิ่งใดไม่ออก
ชายหนุ่มพยายามเค้นความทรงจำสมัยอดีตที่หลงลืมไปนานมาก
'เราแวะพักที่โรงตีเหล็กโรลลิ่ง เพียงเพราะต้องการซ่อมแซมไอเท็ม...'
เขาจำได้ว่า เจ้าของร้านคือช่างตีเหล็กต่ำต้อยที่ไม่เห็นถึงคุณค่าช่างตีเหล็กในตำนาน
'ชายคนนั้นกลายเป็นช่างตีเหล็กขั้นสูงได้เร็วขนาดนี้เชียว...'
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์
สาเหตุที่อาณาจักรแห่งนี้มีช่างตีเหล็กขั้นสูงมากกว่าปรกติ... แท้จริงแล้วมาจากตัวเขาเองหรือ
กริดอมยิ้มอย่างมีความสุข
สิ่งที่เคยทำเริ่มกลับคืนมาแล้ว
ReplyDeleteการกระทำและความแน่วแน่ในอดีตของกริดที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตากับส่งผลดีและเป็นแรงผลักดันให้คนรอบข้างที่ท้อแท้และท้อถอย กับมีแรงผลักดันให้พวกเขาสู้ และก้าวข้ามขีดจำกัด จนส่งผลดีย้อนกลับมาหาตัวกริดเอง ถึงแม้กริดจะไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรไปก็ตาม
ReplyDeleteตลกลอเอลมัน
ReplyDeleteตัวละครตัวนี้พอจำได้ลางๆ ที่จำได้เพราะทิ้งท้ายตอนผู้เขียนบอกประมาณว่าเค้าจะมาเป็นช่างฝีมือดีให้ในอนาคต
ReplyDelete5555555555ขำลอเอลอ่ะ 5555555
ReplyDeleteลอเอลนายมีเพื่อนที่เข้าใจในความเป็นจูนิเบียวแล้วสินะ
ReplyDeleteก็คิดอยู่ว่ากริดอาจจะได้เนตรมารมาข้างนึง (เป็นไปตามนั้น)
ReplyDelete