จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 614
'บ้าจริง!'
นักสร้างดันเจี้ยนย่อมแตกต่างจากนักฝึกสัตว์
มันมิอาจบงการมอนสเตอร์ได้ดั่งใจนึก
เช่นนั้นแล้ว นักสร้างดันเจี้ยนใช้วิธีใดนำมอนสเตอร์มาไว้ในดันเจี้ยน
วิธีการเบื้องต้นคือ <การทำสัญญา>
นักสร้างดันเจี้ยนอย่างดาร์ค ต้องการจ้างมอนสเตอร์มาเป็นผู้พิทักษ์ภายในดันเจี้ยน มิใช่เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากแต่เป็นสัญญาที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน
ทว่า วิธีนี้จะใช้ได้กับมอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาสูงเท่านั้น เฉกเช่นเผ่าเนตรมารหรือแวมไพร์
ดาร์คมิอาจทำสัญญากับมอนสเตอร์สติปัญญาต่ำได้
เช่นนั้นแล้ว มอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาต่ำปรากฏตัวในดันเจี้ยนได้อย่างไร
คำตอบนั้นง่ายมาก ระหว่างสั่งสมประสบการณ์เป็นนักสร้างดันเจี้ยนมาหลายปี ดาร์คได้ตระหนักถึงความจริงข้อหนึ่ง
มอนสเตอร์สติปัญญาต่ำจะซื่อสัตย์ต่อสัญชาตญาณอย่างมาก ขอเพียงจับมาขังและให้อาหารที่ชอบ พวกมันก็จะอยู่ที่นั่นโดยไม่หนีไปไหน กลายเป็นมอนสเตอร์ประจำดันเจี้ยนโดยปริยาย
ตัวอย่างเช่น หากดาร์คต้องการให้กริฟฟินอยู่ที่มุมหนึ่งของดันเจี้ยน
เขาเพียงจับกริฟฟินมาปล่อยไว้ จากนั้นวางเนื้อออร์คอันหอมหวลที่กริฟฟินชอบไว้ในจุดที่ต้องการ
เพียงไม่นาน กริฟฟินก็จะกลายเป็นมอนสเตอร์ประจำดันเจี้ยน
แน่นอนว่า วิธีการนี้มีผลเสียใหญ่หลวงอยู่หนึ่งข้อ
มอนสเตอร์ที่ถูกหลอกล่อด้วยอาหาร พวกมันจะไม่แบ่งแยกมิตรหรือศัตรู แม้กระทั่งดาร์คที่เป็นเจ้าของดันเจี้ยน แต่หากถูกพบตัวเข้า พวกมันก็จะโจมตีโดยไม่รีรอ
ส่งผลให้ดาร์คยังคงติดอยู่ในเขต 5 มิอาจกลับมาถึงเขต 3 ได้รวดเร็วอย่างที่ตั้งใจ
ดาร์คใช้งานทักษะ <โหมดผู้ชม> ไปแล้วเมื่อครั้งเฝ้ามองกลุ่มพันธมิตรต่อต้านบลัดคาร์นิวัลถูกบดขยี้ ตอนนี้จึงยังอยู่ในระยะหน่วง
เมื่อมอนสเตอร์ทุกตัวในดันเจี้ยนลืมตาตื่น ดาร์คจะถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้ช้าลง ไม่อย่างนั้นอาจปะทะกับมอนสเตอร์ดุร้ายเข้าจนเสียชีวิต
ผลส่งให้ดาร์คเคลื่อนที่ได้ช้าลงกว่าปรกติมาก
และในสุด สิ่งที่หวาดกลัวก็บังเกิด
[ เขต 3 ของดันเจี้ยน <ระวังสุนัขดุ> ถูกทำลายจำมิอาจซ่อมแซมได้อีก ]
"ม--ไม่นะ!"
สามเขตแรกถูกทำลายโดยสมบูรณ์
นับเป็นความเสียหายใหญ่หลวง ต้องใช้เวลาซ่อมแซมนานหลายเดือน รวมถึงเงินอีกจำนวนมหาศาล
"ไอ้ระยำนั่น...!"
ดาร์คโกรธจัดจนน้ำตาคลอเบ้า เส้นเลือดฝอยในดวงตาขยายใหญ่จนแดงก่ำ
หงึกหงึก!
ดาร์คสั่นระริกอย่างเจ็บแค้นใจ
ขณะเดียวกัน ข้อความระบบใหม่แสดงขึ้นตรงหน้า
[ ผู้บุกรุกเข้าสู่เขต 4 ของดันเจี้ยน <ระวังสุนัขดุ> ]
ทันใดนั้นเอง
"...หึหึ จงลิ้มรสชาติของนรกซะเถอะ!"
ความโกรธของดาร์คพลันจางลง
มันกำลังอมยิ้ม...
"พวกแกผ่านมาถึงเขต 3 ได้เพราะไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้น... แต่ต่อไปคือของจริง! ฉันไม่รู้ว่าพวกแกเป็นใคร แต่ไม่มีทางรอดพ้นจากเงื้อมมือเผ่าเนตรมารไปได้แน่! จงชดใช้บาปที่บังอาจทำลายดันเจี้ยนของฉันซะ!"
เผ่าเนตรมาร หนึ่งในเผ่าอสูรสุดแกร่ง
พวกมันล้วนเกิดมาเพื่อเป็นนักล่า พลังในการต่อสู้มีสูงลิบจนน่าทึ่ง
'แถมเผ่าเนตรมารยังมีพลังที่แตกต่างนับสิบชนิด!'
ด้วยพลังที่หลากหลาย แถมยังมีจ่าฝูงที่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวล่วงหน้าหลายวินาที มนุษย์จึงไม่มีทางต่อกรกับเผ่าเนตรมารหลายสิบตัวพร้อมกันได้เลย
แล้วเหตุใด เผ่าเนตรมารสุดเก่งเหล่านั้นถึงปรากฏตัวในดันเจี้ยนของดาร์คได้
คำตอบนั้นง่ายมาก... เป็นเรื่องของโชคอย่างแท้จริง
จุดประสงค์ของดาร์คในการสร้างดันเจี้ยนคือปกป้อง <สิ่งนั้น>
ซึ่งเผ่าเนตรมารก็ต้องการ <ฟักไข่> สิ่งนั้นเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ดาร์คและเผ่าเนตรมารจึงทำสัญญาโดยมีจุดประสงค์ร่วมกัน
***
"ร--เร็วมาก...!"
หัตถ์เทวะและแรนดี้เริ่มขยับแขนได้แคล่วคล่อง ส่งผลให้ความเร็วในการเจาะทำลายผนังสูงขึ้น แม้แต่ไมเนอร์ยังชื่นชม
"แต่ก็ไม่เร็วเท่ากระผมหรอกนะ ฮุฮุ!"
'หมอนี่ไม่ได้เก่งแต่ฝาก... ฝีมือขุดแร่เป็นของจริง'
ความเร็วขุดแร่ของไมเนอร์แซงหน้าทุกคนอย่างเห็นได้ชัด จนกริดต้องยอมรับ
ขนาดที่ว่า หัตถ์เทวะทั้งสี่รวมกันยังมีความเร็วไม่เท่าไมเนอร์เพียงคนเดียว
พรสวรรค์ด้านขุดแร่ของไมเนอร์โดดเด่นจนน่าทึ่ง
ทว่า ถึงกริดจะยอมรับ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ไมเนอร์กลายเป็นคนขุดแร่เต็มตัว
'ไม่ว่านายจะขุดแร่ได้เจ๋งขนาดไหน แต่นายยังเป็นเครื่องตรวจจับแร่วันยังค่ำ'
โลกนี้อาจมีนักขุดแร่ที่ยอดเยี่ยมอยู่หลายคน
แต่โลกนี้มีนักตรวจจับแร่ที่ยอดเยี่ยมเพียงคนเดียวเท่านั้น...
ไมเนอร์
"ฝ่าบาท ถึงประตูเขตถัดไปแล้ว พวกเราลุยต่อไหม"
"แน่นอน"
เป้าหมายของกริดคือผูกขาดแร่ทุกก้อนในเหมืองแห่งนี้ จึงเป็นเรื่องปรกติที่ต้องฝ่าทุกด่านในดันเจี้ยน
'น่าเสียดายที่สามเขตแรกมีเพียงเหล็กมังกรคลั่งชนิดเดียว แต่ด้วยความที่เป็นเขตปลอดภัย ผลตอบแทนนับว่าคุ้มค่าแล้ว'
มังกรคลั่งเนอร์วาธานเคยอาศัยอยู่ที่นี่ กริดจึงตระหนักดีว่า สถานที่แห่งนี้อาจไม่ใช่เหมืองแร่ธรรมดา
แต่ตลอดสามเขตที่ผ่านมา ชายหนุ่มกลับไม่พบอุปสรรคแม้แต่อย่างเดียว ทำให้เขาเริ่มคลายความกังวล
ทว่า… ทันทีที่เข้าเขต 4 กริดรับรู้ถึงความไม่ธรรมดาได้ทันที
[ ท่านเข้าสู่เขต 4 ของดันเจี้ยน <ระวังสุนัขดุ> ]
[ กับดักทำงาน ]
ครืนนนน!
"...!!"
ทันทีที่ย่างกรายเข้าสู่เขต 4 ดวงตาของกริดและไมเนอร์พลันเบิกโพลง
บนทางเดินแสนคับแคบ สุดปลายทางมีหินก้อนใหญ่กำลังกลิ้งเข้าหาหมายจะบดทับ
'หลบพ้นรึเปล่านะ...'
ทางเดินแคบเกินไป แถมประตูที่ส่งเข้ามาก็ดันปิดสนิท
"ต--ตายแน่..."
ไมเนอร์ตัดพ้ออย่างสิ้นหวัง เขาหลับตาลงพร้อมกับใช้ท่อนแขนปกป้องศีรษะ
เด็กหนุ่มกำลังจิตนาการภาพตนถูกหินยักษ์บดขยี้ร่าง
ขณะเดียวกัน กริดพูดขึ้น
"จงลืมตาให้กว้าง พิจารณาทุกสิ่งรอบตัวอย่างละเอียด รักษาความสุขุมลุ่มลึกและความมั่นใจไว้ตลอดเวลา"
"ฝ่าบาท..."
เหตุใดชายคนนี้ถึงใจเย็นอยู่ได้ ทั้งที่ตรงหน้าคือกับดักซึ่งกำลังจะส่งทั้งคู่ไปสู่ความตายในอีกไม่ช้า
ไมเนอร์รีบเงยหน้าขึ้นมองกริด
"วิชาดาบแพ็กม่า"
ชายหนุ่มชักดาบใหญ่สีน้ำเงินออกจากผ้าคลุมลันเทียร์ เขาเริ่มรำดาบ
จากนั้น ชายหนุ่มแทงดาบใส่หินยักษ์อย่างแม่นยำ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่สั่นคลอน
"สังหาร"
เปรี้ยงงง!
"แฮ่ก..."
แรงเฉื่อยที่ส่งมาพร้อมวัตถุน้ำหนักมหาศาล สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ถึงกระนั้น ซาทิสฟายก็มีพื้นฐานเป็นเกม
กับแค่ก้อนหินกลิ้ง... เมื่ออยู่ต่อหน้าทักษะระดับตำนานและดาบใหญ่ที่สร้างจากโอริชาลคั่มสีน้ำเงินทั้งเล่ม มีหรือจะต้านทานไหว
"ฝ--ฝ่าบาท… เจ๋งเป้ง!"
กริดแทงใส่กึ่งกลางหินยักษ์อย่างแม่นยำ ส่งผลให้หินแตกออกเป็นสองซีก
ซีกหนึ่งแตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย พุ่งกระเด็นใส่ไมเนอร์จนเด็กหนุ่มเกิดบาดแผลขีดข่วน
อีกซีกหนึ่งแตกกระจายใส่กริด แต่เขาใช้ผ้าคลุมลันเทียร์กำบังร่ายกายไว้
"นายไปเรียนคำพูดนั้นมาจากไหน"
"ก็ฝ่าบาทชอบพูดบ่อยครั้ง..."
ไมเนอร์อยากเป็นอย่างกริด
ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า เขาจึงเฝ้ามองกริดเสมอและซึมซับพฤติกรรมเล็กน้อยทั้งหมด
กริดอมยิ้มอย่างอบอุ่น
'เหมืองแห่งนี้ไม่ธรรมดา เหมือนอย่างที่คิดไว้ตอนแรก'
ใช่แล้ว ตนต้องไม่ลืมว่าที่นี่เคยเป็นรังมังกร
ไม่แปลกที่จะมีกับดักติดตั้งไว้เป็นระยะ
และบางทีอาจมีมอนสเตอร์สุดแกร่งหลับไหลด้านในสุดของดันเจี้ยน
ถึงจะรู้เช่นนี้ แต่กริดก็มีได้แสดงท่าทางหวาดกลัว
ตรงกันข้าม เขากำลังสนุกไปกับมัน
'น่าสนใจดีนี่'
การเดินทางครั้งนี้ ตนจะได้ทั้งแร่ เลเวล และไอเท็มดรอป!
แถมยัง...
'หากมีกับดัก ย่อมหมายความว่า มีสิ่งสำคัญด้านในที่ต้องปกป้อง'
มีโอกาสสูงที่จะเป็นสมบัติ... สมบัติระดับมังกร! กริดเร่งฝีเท้าทันที
ระหว่างทางมีกับดักรออยู่มากมาย แต่ทั้งหมดมิอาจทำอันตรายกริดได้เลย โดยเฉพาะกับดักจำพวกสิ่งมีคมและเปลวเพลิง
กลับกัน ไมเนอร์เกือบตายอยู่หลายหน ยังดีว่ามีแรนดี้และโนเอะคอยช่วยปกป้อง แถมโพชั่นของโรงแปรธาตุเรย์ดันก็มีบทบาทสำคัญมาก
"เขตนี้น่าสนใจมาก..."
หลังจากผ่านทางเดินคับแคบ กริดและไมเนอร์เดินมาถึงจุดที่โล่งกว้างกว่าเดิม
ชายหนุ่มไม่รีรอ เขานำจอบสองหัวออกมาถืออีกครั้ง
เขต 4 มีขนาดใหญ่กว่าสามเขตแรกมาก ส่งผลให้ไมเนอร์กำลังตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตอลังการ
ส่วนกริดนั้นไม่เลย เขามองเป็นเพียงเหมืองที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น
สำหรับเหมือง... ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี!
เคร้ง! เคร้ง!
กริด ไมเนอร์ หัตถ์เทวะ โนเอะ และแรนดี้ ทั้งหมดนำจอบสองหัวมาถือและเริ่มลงมือทำลายกำแพง
"ช่างเป็นเสียงที่ไม่ไพเราะเอาเสียเลย..."
ใครบางคนพูดขึ้นจากด้านหลัง
'มนุษย์งั้นหรือ...!'
กริดคาดว่าจะได้พบกับมอนสเตอร์สุดแกร่ง แต่กลับกลายเป็นมนุษย์ไปเสียได้
ชายหนุ่มรีบหันกลับไปมอง แล้วต้องประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม
"...เด็ก"
ใช่แล้ว เจ้าของเสียงหงุดหงิดคือเด็กผู้ชายตัวเล็ก
ใบหน้ากลมกลึงน่ารึก ดวงตาใหญ่โตพิสดาร แต่เข้ากันกับใบหน้าเป็นอย่างดี
เด็กคนนี้กำลังสวมผ้าปิดตาสีดำหนึ่งข้าง ชวนให้นึกถึงลอเอลขึ้นมาจับใจ
"ทำไมถึงมีเด็กอยู่ที่นี่… อ๊ะ--"
กริดเอ่ยปากถามตามสัญชาตญาณ แต่ต้องชะงักไปเมื่อตระหนักว่ามันเป็นคำถามที่โง่เขลาเพียงใด
เหนือศีรษะของเด็กคนนี้ ชื่อถูกเขียนไว้ด้วยอักษรสีแดงว่า <เนตรมาร>
'มอนสเตอร์'
มอนสเตอร์กึ่งมนุษย์
มีโอกาสมากที่จะเป็นมอนสเตอร์ระดับสูง กริดไม่ควรถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอกน่าเอ็นดู
ชายหนุ่มรีบคว้าตัวไมเนอร์มาหลบหลัง
"คุคุคุ… เป็นเพียงมนุษย์แสนต่ำต้อย แต่กลับกล้ารุกรานดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเนตรมารเชียวรึ เท่าที่ข้าจำได้... ทั้งในชีวิตก่อนหน้าและชีวิตปัจจุบัน ดูเหมือนจะไม่เคยมีเรื่องเหลวไหลเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน"
"..."
คำพูดคำจาช่างละม้ายคล้ายลอเอลเหลือเกิน
เนตรมารเริ่มถอดผ้าปิดตาออก เผยให้เห็นนัยต์ตาสีฟ้าครามอันงดงาม
ทว่า… มีสิ่งหนึ่งน่าประหลาด
ภายในดวงตาเพียงข้างเดียว กลับมีรูม่านตามากถึงสามจุด!
กริดมองมันด้วยความรู้สึกหลงไหล มากกว่าขยะแขยง
"ตัวข้า… สามัญชนแห่งเผ่าเนตรมาร ขอบงการให้เจ้ามนุษย์ไร้อารยะตรงหน้า จ้องมองเข้ามาในดวงตา <น้ำแข็ง> ของข้าและถูกกักขังไปชั่วกัปชั่วกัลป์!"
ซู่ววววว!
เปรี้ยะ! แกร่ก แกร่ก แกร่ก
พื้นดินในจุดที่กริดยืนพลันเกิดน้ำแข็งจับตัวเป็นวงกว้าง
ไอน้ำแข็งอันทรงพลังพยายามตรึงขาสองข้างของกริดไว้
ทว่า...
[ ท่านสบตากับ <เนตรมาร> ]
[ ท่านตกอยู่ในอาการ <ถูกแช่แข็ง> ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ ผลของสมญาณานาม <กษัตริย์คนแรก> ทำงาน ]
[ ทักษะติดตัว <บารมีมหากษัตริย์> แสดงผล ]
[ ท่านสะท้อนอาการผิดปรกติกลับสู่ผู้ร่าย ]
ซู่ววววว!
เปรี้ยะ! แกร่ก แกร่ก แกร่ก
"อ--อะไรกัน...! มนุษย์แสนต่ำต้อยบังอาจทำร้ายข้าผู้นี้...!
สีหน้าของเนตรมารตัวน้อยพลันขาวซีด
คำสาปน้ำแข็งที่มันเป็นฝ่ายใช้โจมตี บัดนี้กลับสะท้อนเข้าหาตัว
ส่งผลให้เนตรมารกำลังหวาดกลัวสุดขีด
ขณะขาของมันกลายเป็นน้ำแข็ง กริดได้ใช้จอบสองหัวกระหน่ำเฉาะหัวจนถึงแก่ความตาย
หากดูจากชื่อ เผ่าเนตรมารคงเป็นมอนสเตอร์ชนิดเวทมนตร์ที่มีร่างกายอ่อนแอ
กริดจึงคิดว่า แค่จอบสองหัวคงเพียงพอจะฆ่าได้
ถูกต้อง กริดไม่ต้องการเสียเวลาขุดแร่อันมีค่าเพื่อสลับอาวุธเปลี่ยกลับไปมา
"เงียบได้ซักที"
กริดหันกลับมาขุดแร่อีกครั้งเมื่อเนตรมารตัวแรกตายไป
"..."
ไมเนอร์ตะลึงจนอ้าปากค้างเหมือนปลาคาร์ป
เนตรมาร จากบันทึกในประวัติศาสตร์ที่ไมเนอร์รับรู้จากการท่องทั่วทวีป สิ่งมีชีวิตชนิดนี้คือเผ่าอสูรที่มีเวทมนตร์ทรงพลังมาก
หากมนุษย์สบตาเข้า จะไม่อาจรอดชีวิตจากพวกมันได้เลย
แต่กริดกลับฆ่ามอนสเตอร์ในตำนานด้วยจอบสองหัว… แถมยังกลับมาขุดแร่ต่อทันทีโดยไม่แยแส!
"หืม… สมกับเป็นพวกมดปลวกสุดกระจอก แม้แต่ไอเท็มสักชิ้นก็ไม่ดรอป"
กริดตัดพ้ออย่างผิดหวัง แต่ไมเนอร์รีบโพล่งขึ้น
"เนตรมารไม่ใช่มอนสเตอร์กระจอก!"
เนตรมารมีโอกาสเล็กน้อยที่จะดรอปแผ่นหนัง ซึ่งว่ากันวาหาได้ยากและมีมูลค่ามหาศาล
ด้วยความที่มนุษย์มิอาจล่าเนตรมารได้ จึงไม่เคยมีใครครอบครองมาก่อน
ตัวตนเนตรมารยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น แต่ก่อนที่ไมเนอร์จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กริดฟัง
"โฮ่… น่าสนใจดีนี่ มนุษย์แสนต่ำต้อยกล้าสังคนของเผ่าหารเนตรมารเชียวหรือ... เจ้าเป็นแค่มนุษย์ แต่สามารถข้ามขีดกำจัดสุดแสนอ่อนแอนั่นได้สินะ"
"ฮุฮุฮุ… ท่ามกลางเหล่ามนุษย์ นานครั้งจะมีวีรบุรุษถือกำเนิดขึ้นเสมอ สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมิอาจดูแคลนได้ก็จริง แต่ก็ยังเป็นเพียงมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเรา"
เนตรมารกลุ่มใหม่ปรากฏตัว พวกคือสามเด็กชายที่มาพร้อมกับผ้าปิดตา
ทุกตัวกำลังตื่นเต้น แม้ว่าพวกพ้องเพิ่งจะถูกฆ่าตายไปก็ตาม
เมื่อเห็นกริดเป็นเหยื่อ พวกมันเริ่มลงมือโดยการถอดผ้าปิดตาออก
"จงลุกไหม้!"
"จงตาบอด!"
"จงเป็นใบ้!"
[ ท่านต้านทาน ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ ผลของสมญาณานาม <กษัตริย์คนแรก> ทำงาน ]
[ ทักษะติดตัว <บารมีมหากษัตริย์> แสดงผล ]
[ ท่านสะท้อนอาการผิดปรกติกลับสู่ผู้ร่าย ]
"อ--อั่ก...! ร่างกายของข้ากำลังร้อนรุ่ม! แปลว่าข้าเป็นคนอบอุ่นสินะ!"
"โลกทั้งใบกลับมืดมิดอย่างฉับพลัน…! ตัวตนที่ยอดเยี่ยมของข้า กำลังทำให้ทุกสิ่งมืดมนลงยกเว้นตัวข้าเองสินะ! คุคุคุ..."
"อุฟ! อุฟ!"
"ฟู่ว… เงียบได้สักที"
กริดกำลังสู้กับมอนสเตอร์หรือกำลังขุดแร่กันแน่...
จอบสองหัวในมือกริดกวัดแกว่งเฉาะหัวพวกมันอย่างไม่หยุดพัก
ไมเนอร์ตกใจบ่อยครั้งจนเริ่มเหนื่อยและไร้อารมณ์
😂😂 เพราะสมญานามช่วยไว้แท้ ๆ ไม่งั้น คงได้สู้กันจนยืดเยื้ออีกนาน
ReplyDeleteกาวจริงๆ
ReplyDeleteไอ้สมยานามนี่มันโกงไปเปล่าวะ ต้านทานสถานะ100%ยังไม่พอยังสท้อนกลับไปอีกโกงชิบหายเลยแบบนี้
ReplyDeleteมันเป็นผลจาก2 สมญานาม ผู้สืบทอดความเป็นตำนาน กับ กษัตริย์คนแรก
Deleteถ้าอยู่กับลอเอลจะป่วนขนาดไหนกัน คำพูดคำจา จูนิเบียว ทั้งนั้น
ReplyDelete