จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 614



    'บ้าจริง!'

    นักสร้างดันเจี้ยนย่อมแตกต่างจากนักฝึกสัตว์  
    มันมิอาจบงการมอนสเตอร์ได้ดั่งใจนึก  
    เช่นนั้นแล้ว  นักสร้างดันเจี้ยนใช้วิธีใดนำมอนสเตอร์มาไว้ในดันเจี้ยน

    วิธีการเบื้องต้นคือ <การทำสัญญา>

    นักสร้างดันเจี้ยนอย่างดาร์ค  ต้องการจ้างมอนสเตอร์มาเป็นผู้พิทักษ์ภายในดันเจี้ยน   มิใช่เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  หากแต่เป็นสัญญาที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน
    ทว่า  วิธีนี้จะใช้ได้กับมอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาสูงเท่านั้น  เฉกเช่นเผ่าเนตรมารหรือแวมไพร์
    ดาร์คมิอาจทำสัญญากับมอนสเตอร์สติปัญญาต่ำได้

    เช่นนั้นแล้ว  มอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาต่ำปรากฏตัวในดันเจี้ยนได้อย่างไร
    คำตอบนั้นง่ายมาก  ระหว่างสั่งสมประสบการณ์เป็นนักสร้างดันเจี้ยนมาหลายปี  ดาร์คได้ตระหนักถึงความจริงข้อหนึ่ง
    มอนสเตอร์สติปัญญาต่ำจะซื่อสัตย์ต่อสัญชาตญาณอย่างมาก  ขอเพียงจับมาขังและให้อาหารที่ชอบ  พวกมันก็จะอยู่ที่นั่นโดยไม่หนีไปไหน  กลายเป็นมอนสเตอร์ประจำดันเจี้ยนโดยปริยาย
    ตัวอย่างเช่น  หากดาร์คต้องการให้กริฟฟินอยู่ที่มุมหนึ่งของดันเจี้ยน  
    เขาเพียงจับกริฟฟินมาปล่อยไว้  จากนั้นวางเนื้อออร์คอันหอมหวลที่กริฟฟินชอบไว้ในจุดที่ต้องการ  
    เพียงไม่นาน  กริฟฟินก็จะกลายเป็นมอนสเตอร์ประจำดันเจี้ยน
    
    แน่นอนว่า  วิธีการนี้มีผลเสียใหญ่หลวงอยู่หนึ่งข้อ  
    มอนสเตอร์ที่ถูกหลอกล่อด้วยอาหาร  พวกมันจะไม่แบ่งแยกมิตรหรือศัตรู  แม้กระทั่งดาร์คที่เป็นเจ้าของดันเจี้ยน  แต่หากถูกพบตัวเข้า  พวกมันก็จะโจมตีโดยไม่รีรอ  
    ส่งผลให้ดาร์คยังคงติดอยู่ในเขต 5  มิอาจกลับมาถึงเขต 3 ได้รวดเร็วอย่างที่ตั้งใจ
    ดาร์คใช้งานทักษะ <โหมดผู้ชม> ไปแล้วเมื่อครั้งเฝ้ามองกลุ่มพันธมิตรต่อต้านบลัดคาร์นิวัลถูกบดขยี้  ตอนนี้จึงยังอยู่ในระยะหน่วง

    เมื่อมอนสเตอร์ทุกตัวในดันเจี้ยนลืมตาตื่น  ดาร์คจะถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้ช้าลง  ไม่อย่างนั้นอาจปะทะกับมอนสเตอร์ดุร้ายเข้าจนเสียชีวิต  
    ผลส่งให้ดาร์คเคลื่อนที่ได้ช้าลงกว่าปรกติมาก
    และในสุด  สิ่งที่หวาดกลัวก็บังเกิด

[ เขต 3 ของดันเจี้ยน <ระวังสุนัขดุ> ถูกทำลายจำมิอาจซ่อมแซมได้อีก ]

    "ม--ไม่นะ!"

    สามเขตแรกถูกทำลายโดยสมบูรณ์  
    นับเป็นความเสียหายใหญ่หลวง  ต้องใช้เวลาซ่อมแซมนานหลายเดือน  รวมถึงเงินอีกจำนวนมหาศาล

    "ไอ้ระยำนั่น...!"    

    ดาร์คโกรธจัดจนน้ำตาคลอเบ้า  เส้นเลือดฝอยในดวงตาขยายใหญ่จนแดงก่ำ

    หงึกหงึก!  

    ดาร์คสั่นระริกอย่างเจ็บแค้นใจ
    ขณะเดียวกัน  ข้อความระบบใหม่แสดงขึ้นตรงหน้า

[ ผู้บุกรุกเข้าสู่เขต 4 ของดันเจี้ยน <ระวังสุนัขดุ> ]

    ทันใดนั้นเอง

    "...หึหึ  จงลิ้มรสชาติของนรกซะเถอะ!"

    ความโกรธของดาร์คพลันจางลง
    มันกำลังอมยิ้ม...

    "พวกแกผ่านมาถึงเขต 3 ได้เพราะไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้น... แต่ต่อไปคือของจริง!  ฉันไม่รู้ว่าพวกแกเป็นใคร  แต่ไม่มีทางรอดพ้นจากเงื้อมมือเผ่าเนตรมารไปได้แน่!  จงชดใช้บาปที่บังอาจทำลายดันเจี้ยนของฉันซะ!"

    เผ่าเนตรมาร  หนึ่งในเผ่าอสูรสุดแกร่ง
    พวกมันล้วนเกิดมาเพื่อเป็นนักล่า  พลังในการต่อสู้มีสูงลิบจนน่าทึ่ง

    'แถมเผ่าเนตรมารยังมีพลังที่แตกต่างนับสิบชนิด!'

    ด้วยพลังที่หลากหลาย  แถมยังมีจ่าฝูงที่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวล่วงหน้าหลายวินาที  มนุษย์จึงไม่มีทางต่อกรกับเผ่าเนตรมารหลายสิบตัวพร้อมกันได้เลย
    แล้วเหตุใด  เผ่าเนตรมารสุดเก่งเหล่านั้นถึงปรากฏตัวในดันเจี้ยนของดาร์คได้

    คำตอบนั้นง่ายมาก... เป็นเรื่องของโชคอย่างแท้จริง  
    จุดประสงค์ของดาร์คในการสร้างดันเจี้ยนคือปกป้อง <สิ่งนั้น> 
    ซึ่งเผ่าเนตรมารก็ต้องการ <ฟักไข่> สิ่งนั้นเช่นกัน
    ด้วยเหตุนี้  ดาร์คและเผ่าเนตรมารจึงทำสัญญาโดยมีจุดประสงค์ร่วมกัน
    
    ***

    "ร--เร็วมาก...!"

    หัตถ์เทวะและแรนดี้เริ่มขยับแขนได้แคล่วคล่อง  ส่งผลให้ความเร็วในการเจาะทำลายผนังสูงขึ้น  แม้แต่ไมเนอร์ยังชื่นชม

    "แต่ก็ไม่เร็วเท่ากระผมหรอกนะ  ฮุฮุ!"

    'หมอนี่ไม่ได้เก่งแต่ฝาก...  ฝีมือขุดแร่เป็นของจริง'
    
    ความเร็วขุดแร่ของไมเนอร์แซงหน้าทุกคนอย่างเห็นได้ชัด  จนกริดต้องยอมรับ
    ขนาดที่ว่า  หัตถ์เทวะทั้งสี่รวมกันยังมีความเร็วไม่เท่าไมเนอร์เพียงคนเดียว  
    พรสวรรค์ด้านขุดแร่ของไมเนอร์โดดเด่นจนน่าทึ่ง
    ทว่า  ถึงกริดจะยอมรับ  แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ไมเนอร์กลายเป็นคนขุดแร่เต็มตัว

    'ไม่ว่านายจะขุดแร่ได้เจ๋งขนาดไหน  แต่นายยังเป็นเครื่องตรวจจับแร่วันยังค่ำ'

    โลกนี้อาจมีนักขุดแร่ที่ยอดเยี่ยมอยู่หลายคน
    แต่โลกนี้มีนักตรวจจับแร่ที่ยอดเยี่ยมเพียงคนเดียวเท่านั้น...
    ไมเนอร์

    "ฝ่าบาท  ถึงประตูเขตถัดไปแล้ว  พวกเราลุยต่อไหม"

    "แน่นอน"

    เป้าหมายของกริดคือผูกขาดแร่ทุกก้อนในเหมืองแห่งนี้  จึงเป็นเรื่องปรกติที่ต้องฝ่าทุกด่านในดันเจี้ยน

    'น่าเสียดายที่สามเขตแรกมีเพียงเหล็กมังกรคลั่งชนิดเดียว  แต่ด้วยความที่เป็นเขตปลอดภัย  ผลตอบแทนนับว่าคุ้มค่าแล้ว'

    มังกรคลั่งเนอร์วาธานเคยอาศัยอยู่ที่นี่  กริดจึงตระหนักดีว่า  สถานที่แห่งนี้อาจไม่ใช่เหมืองแร่ธรรมดา
    แต่ตลอดสามเขตที่ผ่านมา  ชายหนุ่มกลับไม่พบอุปสรรคแม้แต่อย่างเดียว  ทำให้เขาเริ่มคลายความกังวล
    
    ทว่า… ทันทีที่เข้าเขต 4  กริดรับรู้ถึงความไม่ธรรมดาได้ทันที

[ ท่านเข้าสู่เขต 4 ของดันเจี้ยน <ระวังสุนัขดุ> ]
[ กับดักทำงาน ]

    ครืนนนน!

    "...!!"

    ทันทีที่ย่างกรายเข้าสู่เขต 4  ดวงตาของกริดและไมเนอร์พลันเบิกโพลง
    บนทางเดินแสนคับแคบ  สุดปลายทางมีหินก้อนใหญ่กำลังกลิ้งเข้าหาหมายจะบดทับ

    'หลบพ้นรึเปล่านะ...'

    ทางเดินแคบเกินไป  แถมประตูที่ส่งเข้ามาก็ดันปิดสนิท    

    "ต--ตายแน่..."

    ไมเนอร์ตัดพ้ออย่างสิ้นหวัง  เขาหลับตาลงพร้อมกับใช้ท่อนแขนปกป้องศีรษะ
    เด็กหนุ่มกำลังจิตนาการภาพตนถูกหินยักษ์บดขยี้ร่าง
    ขณะเดียวกัน  กริดพูดขึ้น

    "จงลืมตาให้กว้าง  พิจารณาทุกสิ่งรอบตัวอย่างละเอียด  รักษาความสุขุมลุ่มลึกและความมั่นใจไว้ตลอดเวลา"

    "ฝ่าบาท..."
    
    เหตุใดชายคนนี้ถึงใจเย็นอยู่ได้  ทั้งที่ตรงหน้าคือกับดักซึ่งกำลังจะส่งทั้งคู่ไปสู่ความตายในอีกไม่ช้า
    ไมเนอร์รีบเงยหน้าขึ้นมองกริด

    "วิชาดาบแพ็กม่า"

    ชายหนุ่มชักดาบใหญ่สีน้ำเงินออกจากผ้าคลุมลันเทียร์  เขาเริ่มรำดาบ  
    จากนั้น  ชายหนุ่มแทงดาบใส่หินยักษ์อย่างแม่นยำ  ด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่สั่นคลอน
    
    "สังหาร"
    
    เปรี้ยงงง!

    "แฮ่ก..."

    แรงเฉื่อยที่ส่งมาพร้อมวัตถุน้ำหนักมหาศาล  สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
    ถึงกระนั้น  ซาทิสฟายก็มีพื้นฐานเป็นเกม  
    กับแค่ก้อนหินกลิ้ง...  เมื่ออยู่ต่อหน้าทักษะระดับตำนานและดาบใหญ่ที่สร้างจากโอริชาลคั่มสีน้ำเงินทั้งเล่ม  มีหรือจะต้านทานไหว

    "ฝ--ฝ่าบาท… เจ๋งเป้ง!"

    กริดแทงใส่กึ่งกลางหินยักษ์อย่างแม่นยำ  ส่งผลให้หินแตกออกเป็นสองซีก
    ซีกหนึ่งแตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย  พุ่งกระเด็นใส่ไมเนอร์จนเด็กหนุ่มเกิดบาดแผลขีดข่วน  
    อีกซีกหนึ่งแตกกระจายใส่กริด  แต่เขาใช้ผ้าคลุมลันเทียร์กำบังร่ายกายไว้  
    
    "นายไปเรียนคำพูดนั้นมาจากไหน"

    "ก็ฝ่าบาทชอบพูดบ่อยครั้ง..."

    ไมเนอร์อยากเป็นอย่างกริด  
    ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า  เขาจึงเฝ้ามองกริดเสมอและซึมซับพฤติกรรมเล็กน้อยทั้งหมด
    กริดอมยิ้มอย่างอบอุ่น

    'เหมืองแห่งนี้ไม่ธรรมดา  เหมือนอย่างที่คิดไว้ตอนแรก'

    ใช่แล้ว  ตนต้องไม่ลืมว่าที่นี่เคยเป็นรังมังกร
    ไม่แปลกที่จะมีกับดักติดตั้งไว้เป็นระยะ  
    และบางทีอาจมีมอนสเตอร์สุดแกร่งหลับไหลด้านในสุดของดันเจี้ยน  
    ถึงจะรู้เช่นนี้  แต่กริดก็มีได้แสดงท่าทางหวาดกลัว  
    ตรงกันข้าม  เขากำลังสนุกไปกับมัน

    'น่าสนใจดีนี่'

    การเดินทางครั้งนี้  ตนจะได้ทั้งแร่  เลเวล  และไอเท็มดรอป!
    แถมยัง...

    'หากมีกับดัก  ย่อมหมายความว่า  มีสิ่งสำคัญด้านในที่ต้องปกป้อง'

    มีโอกาสสูงที่จะเป็นสมบัติ...  สมบัติระดับมังกร!  กริดเร่งฝีเท้าทันที
    ระหว่างทางมีกับดักรออยู่มากมาย  แต่ทั้งหมดมิอาจทำอันตรายกริดได้เลย  โดยเฉพาะกับดักจำพวกสิ่งมีคมและเปลวเพลิง  
    กลับกัน  ไมเนอร์เกือบตายอยู่หลายหน  ยังดีว่ามีแรนดี้และโนเอะคอยช่วยปกป้อง  แถมโพชั่นของโรงแปรธาตุเรย์ดันก็มีบทบาทสำคัญมาก

    "เขตนี้น่าสนใจมาก..."

    หลังจากผ่านทางเดินคับแคบ  กริดและไมเนอร์เดินมาถึงจุดที่โล่งกว้างกว่าเดิม
    ชายหนุ่มไม่รีรอ  เขานำจอบสองหัวออกมาถืออีกครั้ง
    เขต 4 มีขนาดใหญ่กว่าสามเขตแรกมาก  ส่งผลให้ไมเนอร์กำลังตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตอลังการ
    ส่วนกริดนั้นไม่เลย  เขามองเป็นเพียงเหมืองที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น
    สำหรับเหมือง...  ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี!

    เคร้ง! เคร้ง!

    กริด  ไมเนอร์  หัตถ์เทวะ  โนเอะ  และแรนดี้  ทั้งหมดนำจอบสองหัวมาถือและเริ่มลงมือทำลายกำแพง

    "ช่างเป็นเสียงที่ไม่ไพเราะเอาเสียเลย..."
    
    ใครบางคนพูดขึ้นจากด้านหลัง

    'มนุษย์งั้นหรือ...!'

    กริดคาดว่าจะได้พบกับมอนสเตอร์สุดแกร่ง  แต่กลับกลายเป็นมนุษย์ไปเสียได้
    ชายหนุ่มรีบหันกลับไปมอง  แล้วต้องประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม

    "...เด็ก"

    ใช่แล้ว  เจ้าของเสียงหงุดหงิดคือเด็กผู้ชายตัวเล็ก  
    ใบหน้ากลมกลึงน่ารึก  ดวงตาใหญ่โตพิสดาร  แต่เข้ากันกับใบหน้าเป็นอย่างดี  
    เด็กคนนี้กำลังสวมผ้าปิดตาสีดำหนึ่งข้าง  ชวนให้นึกถึงลอเอลขึ้นมาจับใจ

    "ทำไมถึงมีเด็กอยู่ที่นี่… อ๊ะ--"

    กริดเอ่ยปากถามตามสัญชาตญาณ  แต่ต้องชะงักไปเมื่อตระหนักว่ามันเป็นคำถามที่โง่เขลาเพียงใด
    เหนือศีรษะของเด็กคนนี้  ชื่อถูกเขียนไว้ด้วยอักษรสีแดงว่า <เนตรมาร>

    'มอนสเตอร์'    

    มอนสเตอร์กึ่งมนุษย์
    มีโอกาสมากที่จะเป็นมอนสเตอร์ระดับสูง  กริดไม่ควรถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอกน่าเอ็นดู  
    ชายหนุ่มรีบคว้าตัวไมเนอร์มาหลบหลัง

    "คุคุคุ… เป็นเพียงมนุษย์แสนต่ำต้อย  แต่กลับกล้ารุกรานดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเนตรมารเชียวรึ  เท่าที่ข้าจำได้...  ทั้งในชีวิตก่อนหน้าและชีวิตปัจจุบัน  ดูเหมือนจะไม่เคยมีเรื่องเหลวไหลเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน"

    "..."

    คำพูดคำจาช่างละม้ายคล้ายลอเอลเหลือเกิน  
    เนตรมารเริ่มถอดผ้าปิดตาออก  เผยให้เห็นนัยต์ตาสีฟ้าครามอันงดงาม
    ทว่า… มีสิ่งหนึ่งน่าประหลาด  
    ภายในดวงตาเพียงข้างเดียว  กลับมีรูม่านตามากถึงสามจุด!
    กริดมองมันด้วยความรู้สึกหลงไหล  มากกว่าขยะแขยง
       
    "ตัวข้า… สามัญชนแห่งเผ่าเนตรมาร  ขอบงการให้เจ้ามนุษย์ไร้อารยะตรงหน้า  จ้องมองเข้ามาในดวงตา <น้ำแข็ง> ของข้าและถูกกักขังไปชั่วกัปชั่วกัลป์!"

    ซู่ววววว!

    เปรี้ยะ!  แกร่ก  แกร่ก  แกร่ก

    พื้นดินในจุดที่กริดยืนพลันเกิดน้ำแข็งจับตัวเป็นวงกว้าง
    ไอน้ำแข็งอันทรงพลังพยายามตรึงขาสองข้างของกริดไว้
    ทว่า...

[ ท่านสบตากับ <เนตรมาร> ]
[ ท่านตกอยู่ในอาการ <ถูกแช่แข็ง> ]
[ ท่านต้านทาน ]

[ ผลของสมญาณานาม <กษัตริย์คนแรก> ทำงาน ]
[ ทักษะติดตัว <บารมีมหากษัตริย์> แสดงผล ]
[ ท่านสะท้อนอาการผิดปรกติกลับสู่ผู้ร่าย ]

    ซู่ววววว!

    เปรี้ยะ!  แกร่ก  แกร่ก  แกร่ก

    "อ--อะไรกัน...!  มนุษย์แสนต่ำต้อยบังอาจทำร้ายข้าผู้นี้...!

    สีหน้าของเนตรมารตัวน้อยพลันขาวซีด
    คำสาปน้ำแข็งที่มันเป็นฝ่ายใช้โจมตี  บัดนี้กลับสะท้อนเข้าหาตัว
    ส่งผลให้เนตรมารกำลังหวาดกลัวสุดขีด  
    ขณะขาของมันกลายเป็นน้ำแข็ง  กริดได้ใช้จอบสองหัวกระหน่ำเฉาะหัวจนถึงแก่ความตาย  
    หากดูจากชื่อ  เผ่าเนตรมารคงเป็นมอนสเตอร์ชนิดเวทมนตร์ที่มีร่างกายอ่อนแอ  
    กริดจึงคิดว่า  แค่จอบสองหัวคงเพียงพอจะฆ่าได้

    ถูกต้อง  กริดไม่ต้องการเสียเวลาขุดแร่อันมีค่าเพื่อสลับอาวุธเปลี่ยกลับไปมา

    "เงียบได้ซักที"

    กริดหันกลับมาขุดแร่อีกครั้งเมื่อเนตรมารตัวแรกตายไป

    "..."

    ไมเนอร์ตะลึงจนอ้าปากค้างเหมือนปลาคาร์ป  
    เนตรมาร  จากบันทึกในประวัติศาสตร์ที่ไมเนอร์รับรู้จากการท่องทั่วทวีป  สิ่งมีชีวิตชนิดนี้คือเผ่าอสูรที่มีเวทมนตร์ทรงพลังมาก  
    หากมนุษย์สบตาเข้า  จะไม่อาจรอดชีวิตจากพวกมันได้เลย

    แต่กริดกลับฆ่ามอนสเตอร์ในตำนานด้วยจอบสองหัว… แถมยังกลับมาขุดแร่ต่อทันทีโดยไม่แยแส! 

    "หืม… สมกับเป็นพวกมดปลวกสุดกระจอก  แม้แต่ไอเท็มสักชิ้นก็ไม่ดรอป"

    กริดตัดพ้ออย่างผิดหวัง  แต่ไมเนอร์รีบโพล่งขึ้น

    "เนตรมารไม่ใช่มอนสเตอร์กระจอก!"

    เนตรมารมีโอกาสเล็กน้อยที่จะดรอปแผ่นหนัง  ซึ่งว่ากันวาหาได้ยากและมีมูลค่ามหาศาล
    ด้วยความที่มนุษย์มิอาจล่าเนตรมารได้  จึงไม่เคยมีใครครอบครองมาก่อน
    ตัวตนเนตรมารยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น  แต่ก่อนที่ไมเนอร์จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กริดฟัง

    "โฮ่… น่าสนใจดีนี่  มนุษย์แสนต่ำต้อยกล้าสังคนของเผ่าหารเนตรมารเชียวหรือ... เจ้าเป็นแค่มนุษย์  แต่สามารถข้ามขีดกำจัดสุดแสนอ่อนแอนั่นได้สินะ"

    "ฮุฮุฮุ… ท่ามกลางเหล่ามนุษย์  นานครั้งจะมีวีรบุรุษถือกำเนิดขึ้นเสมอ  สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมิอาจดูแคลนได้ก็จริง  แต่ก็ยังเป็นเพียงมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเรา"

    เนตรมารกลุ่มใหม่ปรากฏตัว  พวกคือสามเด็กชายที่มาพร้อมกับผ้าปิดตา
    ทุกตัวกำลังตื่นเต้น  แม้ว่าพวกพ้องเพิ่งจะถูกฆ่าตายไปก็ตาม
    เมื่อเห็นกริดเป็นเหยื่อ  พวกมันเริ่มลงมือโดยการถอดผ้าปิดตาออก

    "จงลุกไหม้!"

    "จงตาบอด!"

    "จงเป็นใบ้!"

[ ท่านต้านทาน ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ ท่านต้านทาน ]

[ ผลของสมญาณานาม <กษัตริย์คนแรก> ทำงาน ]
[ ทักษะติดตัว <บารมีมหากษัตริย์> แสดงผล ]
[ ท่านสะท้อนอาการผิดปรกติกลับสู่ผู้ร่าย ]

    "อ--อั่ก...!  ร่างกายของข้ากำลังร้อนรุ่ม!  แปลว่าข้าเป็นคนอบอุ่นสินะ!"

    "โลกทั้งใบกลับมืดมิดอย่างฉับพลัน…! ตัวตนที่ยอดเยี่ยมของข้า  กำลังทำให้ทุกสิ่งมืดมนลงยกเว้นตัวข้าเองสินะ!  คุคุคุ..."

    "อุฟ!  อุฟ!"

    "ฟู่ว… เงียบได้สักที"

    กริดกำลังสู้กับมอนสเตอร์หรือกำลังขุดแร่กันแน่...
    จอบสองหัวในมือกริดกวัดแกว่งเฉาะหัวพวกมันอย่างไม่หยุดพัก
    ไมเนอร์ตกใจบ่อยครั้งจนเริ่มเหนื่อยและไร้อารมณ์

Comments

  1. 😂😂 เพราะสมญานามช่วยไว้แท้ ๆ ไม่งั้น คงได้สู้กันจนยืดเยื้ออีกนาน

    ReplyDelete
  2. ไอ้สมยานามนี่มันโกงไปเปล่าวะ ต้านทานสถานะ100%ยังไม่พอยังสท้อนกลับไปอีกโกงชิบหายเลยแบบนี้

    ReplyDelete
    Replies
    1. มันเป็นผลจาก2 สมญานาม ผู้สืบทอดความเป็นตำนาน กับ กษัตริย์คนแรก

      Delete
  3. ถ้าอยู่กับลอเอลจะป่วนขนาดไหนกัน คำพูดคำจา จูนิเบียว ทั้งนั้น

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00