จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 619



    "อึก... ไอแดดอันร้อนระอุนับเป็นของแสลงร้ายแรงสำหรับดวงวิญญานอันสูงส่งของข้า"

    "คุคุคุคุ!  นี่คงเป็นชะตากรรมของเผ่าเนตรมารผู้ยิ่งใหญ่สินะ  ทั่วโลกกำลังจับตามองพวกเราอยู่  แรงกดดันมหาศาลส่งผลให้พวกเรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย"

    "คงยอดเยี่ยมไม่น้อยหากมีโอกาสได้นั่งพักใต้ร่มเงาเย็นสบาย  และอ้าแขนรับคำอวยพรจากเทพวายุ... ฮุฮุ"

    ในอีกความหมายหนึ่ง  พวกมันต้องการหยุดพัก  
    หลังจากใช้ชีวิตร่วมกับเผ่าเนตรมารสี่วันเต็ม  กริดได้รับทักษะในการแปลความหมาย
    สิ่งนี้เกิดขึ้นได้โดยมีรากฐานการอยู่ร่วมกับลอเอลมานานหลายปี

    "พวกแกคิดจะพักถี่ขนาดไหนกัน...  อดทนให้มากกว่านี้หน่อยสิฟะ"

    เนตรมารคือเผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายอ่อนแอมาก
    การเดินทางของกริดต้องหยุดพักในทุก 10 กิโลเมตร  ส่งผลให้ความเร็วเดินทางช้าลงกว่าปรกติหลายเท่า

    'เมื่อไรจะถึงหมู่บ้านเนตรมาร...'

    หมู่บ้านเนตรมารตั้งอยู่ใต้ดินในเขตอาณาจักรเก๊าส์
    เมื่อเนตรมารระบุพิกัดบนแผนที่ให้กริด  ชายหนุ่มแสดงท่าทางดีอกดีใจ  เพราะมันเป็นจุดที่ไม่ไกลจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์นัก  
    ทว่า  สิ่งนี้กลับไม่มีประโยชน์อันใดเมื่อพวกมันเหนื่อยหอบทุกสิบก้าวเดิน  
    ไม่ว่าจะใกล้แค่ไหน  แต่ก็นับว่าไกลแสนไกลสำหรับกริด

    'เคยคิดว่าสามวันคงถึง  แต่ผ่านมาแล้วสี่วัน  ยังไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ'

    หากรู้เช่นนี้  ตนคงขอร้องให้สติกส์ช่วยส่งไปถึงที่หมาย
    ขณะกริดกำลังนึกเสียดายเวทเคลื่อนย้ายมิติ  บราฮัมส่งเสียงกระซิบ

    'จงมีความสุขกับการร่วมทางไปพร้อมเผ่าเนตรมารเสียเถอะ...  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่มนุษย์จะได้ใช่ชีวิตร่วมกับเนตรมาร  แม้ตอนนี้อาจดูน่ารำคาญไปบ้าง  แต่จะเกิดผลดีกับนายภายหลังแน่'

    "นายก็รู้จักเนตรมารรึไง..."

    'แน่นอน  เฉกเช่นแวมไพร์อย่างฉัน  พวกมันคือเผ่าอสูรที่ถูกขับไลจากขุมนรก  ถึงสาเหตุที่ถูกขับไล่จะต่างกันอยู่บ้างก็เถอะ...'

    กริดตอบบราฮัมเป็นเชิงขำขัน

    "ถูกถีบส่งออกมาเพราะปากแน่เลย"

    'ใช่แล้ว... จอมอสูรพยายามเลี่ยงการสนทนากับพวกมัน  จนท้ายที่สุดจึงทนไม่ไหว  ตัดสินใจขับไล่ออกมา'

    "จ--จริงดิ..."

    กริดมองว่า  นี่คือเหตุผลไร้สาระที่สุดในการขับไล่เผ่าพันธุ์หนึ่งออกจากนรก
    บราฮัมแสยะยิ้ม

    'เป็นเช่นนี้ดีแล้ว... พลังของเนตรมารทั้งสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสูง  หากไม่ถูกขับไล่จากขุมนรกล่ะก็  เกรงว่าจอมอสูรจะมีกองทัพที่มนุษย์ไม่อาจต้านทานได้เลย'

    'บราฮัมไม่เคยชมใครส่งเดช...'

    เป็นอย่างที่คาด  เนตรมารคือสิ่งมีชีวิตชั้นสูง
    แต่น่าเสียดายที่พวกมันเป็นเพียงมดปลวกในสายตากริด

    พึมพำ  พึมพำ

    ขณะให้เนตรมารหยุดพัก  กริดก็ไต่ถามบราฮัมไปเรื่อยโดยการพึมพำคุยกับตัวเอง
    เมื่อเนตรมารเห็นเข้า  พวกเขาจึงแสดงสีหน้าตื่นเต้น

    "สมกับเป็นกริดที่พวกเราตัดสินใจรับใช้!  เขาสุดยอดมาก...  กริดสามารถสื่อสารกับตัวตนที่สองในดวงวิญญาณได้  แม้แต่ในเผ่าเนตรมารของพวกเรา  คนทำเช่นนี้ได้ยังมีไม่มากนัก"

    "ชื่นชม... นี่คือความรู้สึกที่ข้าได้รับหลังจากเฝ้ามองกริด  อาจมีผู้คนไม่น้อยสามารถสัมผัสถึงตัวตนที่สองในดวงวิญญาณได้ก็  แต่การสื่อสารพูดคุยกับมันถือเป็นอีกขั้นที่ยิ่งใหญ่"

    "..."

    เจ้าพวกบ้านี่เหมารวมตนเป็นเผ่าเดียวกันหน้าตาเฉย...
    แม้กริดจะอึดอัด  แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้เลย  ว่าการพูดคุยกับบราฮัม  ไม่ต่างจากคนไข้จิตเวชในโรงพยาบาลเลยสักนิด

    'บ้าจริง...'

    กริดหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย  
    แต่ชายหนุ่มไม่วันรู้เลยว่า  การกระทำเช่นนี้ยิ่งเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับเนตรมารทั้ง 17 ตนได้มากโข  
    ความสามารถในการปรับตัวยอมรับจูนิเบียว  สิ่งนี้ต้องขอบคุณลอเอลและบราฮัมอย่างมาก
    แต่กลับกัน...

    'ท่านแม่... ผมอยากกลับบ้าน'

    ไมเนอร์กำลังเจ็บปวดรวดร้าว
    ทุกครั้งที่ได้ยินกริดและเนตรมารคุยกัน  มือเท้าของเขาจะเกร็งและหงิกงอ  
    เหงื่อไคลชุ่มกาย  ศีรษะวิงเวียน  สิ่งนี้มิได้เกิดความความเหน็ดเหนื่อยหรืออากาศที่ร้อนระอุ
    ย่อมเป็นเช่นนั้น  เนตรมารถือเป็นของแสลงสำหรับมนุษย์ทั่วไปอย่างมาก
    พวกมันไม่ได้เป็น 'อสูร' เพราะโชคช่วย

    ***

    "เราถูกลดยศรึไงนะ  ทำไมถึงถูกส่งมาประจำการที่ป้อมบ้านนอกเนี่ย..."

    อาโมเร่

    มันคือผู้เล่นสังกัดอาณาจักรเก๊าส์  คลาสอัศวิน  
    อาโมเร่มีผลงานโดดเด่นจนได้สังกัดในกองอัศวินเก๊าส์
    หรืออีกความหมายหนึ่ง  มันมีฝีมือต่อสู้ยอดเยี่ยม  
    อาโมเร่ฆ่าทหารโอเวอร์เกียร์ไปมากถึง 34 นายในสงครามชิงป้อมบอร์เนียว  
    ทักษะการยิงธนูขึ้นกำแพงของอาโร่เร่นั้นยอดเยี่ยมจนเป็นที่โด่ดเด่น

    'เราคือยอดนักรบ  แล้วเหตุใดฝ่าบาทถึงส่งมาทำงานหมู่บ้านห่างไกลความเจริญเช่นนี้'

    อาโมเร่ถอนหายใจพร้อมกับกวาดสายตามองรอบหมู่บ้านที่ถูกย้ายมาประจำการ
    เป็นหมู่บ้านเขียวขจี  ทุ่งข้าวสุดลูกหูลูกตา  กลิ่นสาปวัวควายลอยอัดแน่นทุกอนูอากาศ  
    ตัวมันที่เป็นถึงยอดนักรบของอาณาจักรเก๊าส์  ย่อมรู้สึกผิดหวังกับภารกิจนี้ไม่น้อย
    ทันใดนั้น  ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายอาโมเร่

    มันคือ NPC นามว่า <เวสทอน> ผู้มีสมญานาม <ลอร์ดแห่งเรพิโอ>
    บารอนคนนี้คือเจ้าเมืองที่อาโมเร่ถูกย้ายเข้าประจำการ

    "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบเซอร์อาโมเร่"

    "ด้วยความยินดี... ผมเองก็ดีใจที่ได้พบบารอนเวสทอน"

    กฏข้อแรกของอัศวินคือมารยาท  ไม่ว่าจะมีสภาพแวดล้อมเลวร้ายอย่างไร  แต่อาโมเร่ก็ยิ้มสู้
    มันมิได้ปริปากบ่นถึงความย่ำแย่ของหมู่บ้านให้บารอนเวสทอนฟัง  
    ส่งผลให้  บารอนเวสทอนชื่นชอบอาโมโร่ตั้งแต่แรกพบ  
    มันรีบพูดเข้าประเด็น
    
    "ส่วนเหตุผลที่ผมขอความช่วยเหลือจากราชวงศ์...  ในระยะหลังมานี้  หมู่บ้านของพวกเราถูกเผ่าอสูรคุกคามบ่อยครั้ง  ได้โปรดจัดการพวกอสูรให้สิ้นซากด้วย"

    "เผ่าอสูร..."

    เผ่าอสูรคือสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากมอนสเตอร์ปรกติ  พวกมันคือพลเมืองของขุมนรก  ไม่ใช่ข่าวดีนักที่มีเผ่าอสูรป้วนเปี้ยนบนโลกมนุษย์

    "แวมไพร์งั้นหรือ..."

    จากบรรดาเผ่าอสูรทั้งหมด  แวมไพร์คือชนิดที่มนุษย์พบได้บ่อยครั้ง  
    เวสทอนส่ายศีรษะ

    "ไม่เลย  พวกมันเป็นเผ่าอสูรที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน  รูปร่างประหลาด  หัวโตตัวเล็ก"
    
    "หัวโตตัวเล็ก..."

    สายพันธุ์ไหนกันแน่นะ...
    เพียงนึกภาพตามก็สยองแล้ว
    อาโมร่ขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยปากถาม

    "พวกมันสร้างความเสียหายประเภทใดไปบ้าง"

    ปล้นจี้  วางเพลิง  ลักพาตัว  ฆาตกรรม...

    การกระทำชั่วช้าเหล่านี้  สำหรับเผ่าอสูรถือเป็นเรื่องปรกติ 
    อาโมเร่ค่อนข้างพึงพอใจกับรางวัลภารกิจ  มันจึงหวังทำภารกิจนี้ให้เสร็จโดยไว
    สิ่งที่ต้องการคือข้อมูลเพิ่มเติม
    ทว่า...

    "พวกมันทำให้ชาวบ้านอึดอัดใจ… ด้วยถ้อยคำไร้สาระ"

    "..."

    ว่าไงนะ...
    อาโมเร่ไม่มั่นใจความหมายของคำพูดบารอนเวสทอนนัก  
    มันถามย้ำอีกครั้ง

    "เผ่าอสูรใช้เวทมนตร์เสียงเพื่อการสร้างบรรยากาศน่ากลัวให้หมู่บ้านใช่ไหม"

    "ไม่ใช่เวทมนตร์  เป็นเพียงถ้อยคำไร้สาระ...  หากระบุให้ชัด  บรรยากาศที่เกิดขึ้นมิใช่ความหวาดกลัว  แต่เป็นความกระอักกระอ่วน  หลังได้ฟังถ้อยคำของเผ่าอสูร  มือเท้าของชาวบ้านจะหงิกเกร็ง  มิอาจทำกิจวัตรประจำวันได้ชั่วคราว"

    "..."

    นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน...
    อาโมเร่เริ่มสับสนหลังจากได้ยินบารอนเวสทอนอธิบาย

    'เดาไม่ออกเลยว่า  อีกฝ่ายเป็นอสูรประเภทไหนกันแน่'

    อาโมเร่กำลังหงุดหงิดที่ถูกส่งตัวมายังหมู่บ้านทุรกันดาร  
    ยิ่งค้นพบเนื้อหาภารกิจ  ความสับสนยิ่งมีมากขึ้น
    แต่ด้วยความที่เป็นภารกิจเกรด S ซึ่งมอบรางวัลตอบแทนสูงมาก  แถมนี่ยังเป็นภารกิจที่กษัตริย์แห่งเก๊าส์มอบให้โดยตรง
    อาโมเร่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

    "สรุปก็คือ… ต้องเอาชนะเผ่าอสูรให้ได้สินะ"

    "ใช่แล้ว  ผมขอฝากเซอร์อาโมเร่จัดการกับเรื่องนี้ด้วย"

    บารอนเวสทอนกลับไปยังปราสาท  ส่วนอาโมเร่เดินสำรวจหมู่บ้านอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง  มันต้องการตรวจสอบทุกซอกทุกมุม  จากนั้นค่อยออกไปปราบเผ่าอสูรที่อยู่โดยรอบ

    'ไม่มีผู้เล่นอยู่เลยสินะ'

    เป็นหมู่บ้านที่เล็กมาก  ประชากรมีเพียงพันคนเท่านั้น  และไม่มีผู้เล่นอาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว  
    อาโมเร่กวาดสายตามองไปโดยรอบ  จากนั้นต้องชะงัก  เมื่อได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน

    'เวลาแบบนี้เนี่ยนะ...'

    เป็นเวลากว่าครึ่งวันหลังจากแยกทางกับบารอนเวสทอน 
    บัดนี้คือยามรัตติกาลอันเงียบสงัด  ชาวบ้านต่างกำลังหลับใหล  ไม่ใช่เรื่องปรกติที่จะมีผู้มาเยือน 20 คนปรากฏตัวพร้อมกัน
    อาโม่เร่แอบซุ่มมองในตรอกแคบมืดมิด  มันเฝ้าจดจ้องอีกฝ่ายไม่กระพริบ
    เมื่อได้เห็นผู้มาเยือนเต็มสองตา    หัวใจของมันแทบหยุดเต้น

    'หัวโตตัวเล็ก...!'    

    ผู้มาเยือนมีทั้งหมด 19 คน  สองในนั้นคือมนุษย์
    มนุษย์คนหนึ่งเป็น NPC เด็กชายชื่อไมเนอร์  ส่วนอีกคนเป็นชายร่างสูงใหญ่  ใบหน้าถูกปกปิดด้วยหน้ากาก  จึงมองไม่เห็นชื่อ  และไม่ทราบว่าเป็นผู้เล่นหรือ NPC
    แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ  
    ที่น่าหวาดหวั่นก็คือ  สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดทั้ง 17 ตนที่เดินมาพร้อมกัน  พวกมันหัวโตตัวเล็ก  ดวงตากลมโต  ใบหน้าอวบอ้วน 
    ดูคล้ายเด็กน้อยน่ารักน่าชัง

    'นี่คือเผ่าอสูรที่บารอนเวสทอนพูดถึงสินะ'

    ค่อนข้างน่ารักเลยทีเดียว...  ตรงข้ามกับจินตนาการชวนขนหัวลุกก่อนหน้า

    'ช่างเถอะ  จะอย่างไหนก็ไม่สำคัญ'

    ภารกิจของตนคือการกำจัดทิ้งให้หมด  
    ค่อนข้างโชคดีทีเดียว  ที่ได้พบกับตัวปัญหาเพียงครึ่งวันหลังจากรับภารกิจ

    'แถมยังมีมากถึง 17 ตน  เราต้องได้รับรางวัลก้อนโตแน่หากฆ่าได้ทั้งหมด'

    โอกาสทองมาถึงแล้ว… โอกาสในการไต่เต้าตำแหน่งสูงกว่าเดิม! 

    ฉึบ

    สีหน้าอาโมเร่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น  มันเลื่อนมือลงไปจับดาบที่เอว
    อาโมเร่มีแผนจะสำรวจความแข็งแกร่งเผ่าอสูรไปอีกสักพัก  
    หากมองผิวเผิน  ร่างกายของเผ่าอสูรทั้ง 17 ค่อนข้างอ่อนแอ  
    ตัวมันที่มีเลเวล 303 จึงน่าจะจัดการได้หมดในพริบตา
    
    'มนุษย์สองคนนั้นคงเป็นทาส  หากเราช่วยเหลือพวกเขาได้  อาจมีภารกิจต่อเนื่องให้ทำเพิ่มเติม'

    สถานการณ์กำลังเป็นใจ  อาโมเร่ฉีกยิ้มกว้าง

    "ฮุฮุฮุ… บรรยากาศอันเงียบสงบยามค่ำคืนสามารถเยียวยาจิตใจอันแสนอ่อนล้าของนักเดินทางได้เป็นอย่างดี… สัญชาตญาณดิบที่ถูกผนึกไว้ในดวงตาอันมืดมิดข้างนี้ของข้า  มันกำลังถูกกระตุ้นด้วยความงดงามของค่ำคืนรัตติกาล"

    "..."

    "โฮ่...!  หมอกหนาทึบช่วยปลุกเร้าความเย็นยะเยียบภายในดวงวิญญาณข้าได้เป็นอย่างดี  สิ่งเหล่านี้มอบความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเสมอ… ข้าจะกลายเป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังไร้ขีดจำกัดเมื่อจิตใจถูกชำระล้างหมดจด"

    "..."

    "ฮุฮุ  เจ้าควรระวังตัวให้ดี  เปลวเพลิงโลกันตร์อันร้อนรุ่มในดวงตาข้าอาจทำลายน้ำแข็งแห่งบาปในดวงตาเจ้าก็เป็นได้"

    "...!!"

    เป็นความรู้สึกแปลกใหม่มากสำหรับอาโมเร่  
    ร่างกายของมันพลันกระตุก  มือเท้าเกร็งหงิกงอ  
    อาการทั้งหมดเกิดจากการได้ยินบทสนทนาของเผ่าอสูรทั้ง 17 ตนตรงหน้า  
    ฝ่ามืออาโมเร่ชักเกร็งจนมิอาจหยิบดาบออกจากฝักได้

    "อึก… นี่สินะ… คำสาปที่บารอนเวสทอนเคยกล่าวถึง"

    มือไม้ของมันสั่นระริกไม่หยุด
    อาโมเร่สับสนมาก 
    มันมิอาจชักดาบตะลุยเข้าใส่เผ่าอสูรทั้ง 17 ได้ตามที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้า
    ศัตรูอันตรายเกินไป… มันไม่ต้องการเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง 

    'ท--ที่อุดหู'

    อาโมเร่ไม่เคยคิดมาก่อน  ว่าตัวมันต้องพึงพาไอเท็มขยะที่ไม่เคยเหลียวแลเลยสักครั้งในอดีต

    "หือ..."

    เพียงพริบตาเดียว  อาโมเร่ที่กำลังลนลาน  เมื่อได้สติสัมปชัญญะกลับมา  ใบหน้าของมันเริ่มกระตุกเล็กน้อย  เพราะบัดนี้  เผ่าอสูรทั้ง 17 ตนรวมถึงมนุษย์ได้หายตัวไปจากการมองเห็นโดยสมบูรณ์
    ไม่เหลือทิ้งไว้แม้แต่ร่องรอย

    "สมกับเป็นเผ่าอสูร..."

    พวกมันคือภูติผี  
    น่ากลัวฉิบ...!
    อาโมเร่เริ่มพิจารณายกเลิกภารกิจอย่างจริงจัง

    ***

[ ท่านเข้าสู่หมู่บ้านเนตรมาร ]
[ ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่ค้นพบหมู่บ้านเนตรมาร ]
[ หลังจากนี้อีก 10 วัน  โอกาสพบพานภารกิจลับและของรางวัลภารกิจจะเพิ่มขึ้น ]

    'ในที่สุด...!'

    กริดแสดงอาการตื่นเต้นเมื่อได้เห็นข้อความระบบ
    เขารู้สึกภูมิใจ  ที่ตนได้เป็นผู้ค้นพบสถานที่แห่งใหม่กับเขาบ้าง
    เป็นความรู้สึกของผู้นำ  เฉกเช่นครอเกล
    ชายหนุ่มไม่เคยมีโอกาสสัมผัสมันมาก่อน    

    'เป็นหมู่บ้านที่ไม่เลว'

    กริดอมยิ้มอย่างมีความสุข  ไม่เผยความกังวลแม้เพียงเศษเสี้ยว  ทั้งที่กำลังอยู่ในเขตหมู่บ้านของเผ่าพันธุ์อสูร
    ความกล้าหาญและจิตใจที่มั่นคงของกริดทำให้ไมเนอร์รู้สึกอิจฉา
    ตนต้องเป็นแบบกริดให้ได้  ไมเนอร์ลั่นวาจาในใจ
    เขาพยายามสงบสติเพื่อระงับแข้งข้าที่กำลังสั่นระริก
    กริดที่เห็นดังนั้นจึงรู้สึกชื่นชมไมเนอร์

    "นี่คือสถานที่พำนักของราชาเผ่าพันธุ์เรา... ปราสาทดาร์คเฟลมไวท์ไอซ์… ฮุฮุฮุ!"

    "..."

    เป็นเพราะเผ่าเนตรมารตัวเล็กงั้นหรือ...
    ปราสาทที่ตั้งอยู่สุดทางเดินหมู่บ้านมีขนาดไม่ใหญ่นัก  ราวกับแมนชั่นหรูหนึ่งหลังเท่านั้น
    ความสูงของประตูทางเข้ามีเพียง 1.6 เมตร  ส่งผลให้กริดต้องก้มศีรษะเดินเข้าไป
    ทันใดนั้น  เจ้าเมืองเนตรมารที่รออยู่ด้านในเริ่มกล่าวทักทาย

    "ชายผู้นี้คือมนุษย์ที่ช่วยพวกเจ้านำไข่มังกรคลั่งกลับมางั้นหรือ… ได้ยินมาว่า  เป็นมนุษย์ที่ไม่เลวเลยนี่"

    "แต่ข้ายังเคลือบแคลงในความสามารถ… เขามีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าพบองค์ราชาจริงหรือ  องค์ราชาผู้ควบคุมเพลิงทมิฬ  น้ำแข็งพิสุทธิ์  และกระแสกาลเวลาของโลกใบนี้"

    "พวกเรามิได้เป็นศัตรูต่อกัน  ดังนั้นข้าจึงห่วงความปลอดภัยของเจ้า… ราชาของพวกเรามีพลังอำนาจล้นพ้น  เพียงการปรากกฏกายของพระองค์ก็มากพอจะทำให้มนุษย์คนหนึ่งจบชีวิตลง… ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติมากพอ  จะถูกสาปให้ทุกทรมาณอยู่ในห้วงขุมนรกที่ยาวนานก่อนจะจบชีวิตลงอย่างน่าสมเพช… ข้าจำเป็นต้องทดสอบเจ้า… รับไปซะ"

[ ท่านสบตากับเนตรมาร ]
[ ท่านถูกสะกดให้ตกอยู่ในอาการ <อ่อนน้อมถ่อมตน> ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ ทักษะ <บารมีมหากษัตริย์> จากสมญานาม <กษัตริย์คนแรก> แสดงผล ]
[ ท่านสะท้อนกลับอาการผิดปรกติสำเร็จ ]

    "คุคุคุ!  ยินดีต้อนรับเจ้ามนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่  เชิญตามข้ามาเพื่อเข้าเฝ้าองค์ราชา"

    "..."

    พวกมันทำตัวเองทั้งนั้น
    กริดเริ่มชาชินเสียแล้ว  ชายหนุ่มส่ายศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับเดินตามเข้าไปในท้องพระโรง
    นี่คือวินาทีแสนสำคัญที่กริดได้พบพานกับราชาเนตรมารผู้ยิ่งใหญ่
    ตัวตนที่แม้แต่บราฮัมยังให้การยอมรับ

Comments

  1. เผ่านี้พกถุงกาวกันทุกตัวเลยหรอ ถ้าราชาพกด้วยนี้ฮาเลยนะ

    ReplyDelete
  2. อนาคต ลอเอลมีเพื่อนที่เข้าใจภาษาเดวกันแล้ว ไม่เหงาแล้วนะลอเอล 😂😂

    ReplyDelete
  3. ทำไมผมถึงรู้สึกชอบเป่าเนตรมารวะเนี่ย

    ReplyDelete
  4. ปวดหัวชิบหายเวลาอ่านกับเผ่าเนตร555+

    ReplyDelete
  5. นับถือแอดมากเลย ในการแปลให้เป็นไทย แล้วยังแปลเป็นเบียวได้อีก นับถือเลย

    ReplyDelete
  6. เชี้ยไรเนี้ยทำไม่เผ่าถึงอยู่รอดไม่ล่มสลายวะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ปรกติไม่เคยมีใครต้านทานเเละสะท้อน

      Delete
    2. 300 คน เหลือแค่แม่นหนูต้มยำเพียงคนเดียว..ไม่เห็นรึไง

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00