จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 760
การแข่งประกอบด้วย 13 ด่าน แต่ละด่านจะมีบอสพิเศษปกป้องอยู่
ผู้เล่นต้องฝ่าทุกด่านเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ใครที่ทำสำเร็จคนแรกจะเป็นผู้คว้าเหรียญทองไป
นี่คือกฏเบื้องต้นของการแข่งรายการ ‘ฝ่าด่านมอนสเตอร์’
หากการแข่งดึงดาบอริยะต้องใช้สติปัญญาและพละกำลัง
การแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์ก็ต้องใช้ค่าเรี่ยวแรงและพละกำลังมหาศาล
เมื่อต้องล่าบอสติดต่อกันมากถึง 13 ตัว อาการเหนื่อยล้าคือสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก
ใช่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของการแข่งประเภทนี้คือค่าเรี่ยวแรง
ไม่เพียงต้องสู้รบปรบมือกับบอสที่เก่งฉกาจ แต่ยังรวมถึงการเดินทางข้ามผ่านภูมิประเทศหลากหลายชนิด ทั้งสองสิ่งล้วนทำให้ค่าเรี่ยวแรงลดลงในระดับมหาศาล
สิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนพึงมี คือค่าเรี่ยวแรงในปริมาณที่สูง และมันสมองในการบริหารจัดการมันให้ดี
โดยทั่วไปแล้ว การแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์มักเป็นหน้าที่ของผู้เล่นอันดับหนึ่งในแต่ละประเทศ
แต่น่าแปลกมาก…
ในปีนี้ กิลด์มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างโอเวอร์เกียร์ กลับมีเพียงจิสึกะเท่านั้นที่ลงแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์
ถึงกระนั้น ผู้ชมทางบ้านก็ยังคาดหวังให้เป็นการแข่งที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม
“โบยบิน!”
กรี๊—
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม
“อะไรกัน…?”
“บ้าน่า! ว๊ากกก!!”
พลังทำลายอันน่าเหลือเชื่อ
จิสึกะปืนป่ายขึ้นไปบนตัวบอสด่านที่สาม ‘พิงกี้ดรากอน’
ในวินาทีที่ผู้เข้าแข่งคนอื่นอยู่ในระยะการมองเห็นของจิสึกะ การแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์ก็จบลงอย่างเป็นทางการ
พลังพิเศษของคันศรฟินิกซ์แดงได้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับผู้เข้าแข่งทุกคน
แถมยังมีลมหายใจพิงกี้ดราก้อนที่คอยซ้ำเติมและปิดฉากให้บางส่วนไปสู่ความตาย
“ยืนบนตัวพิงกี้ดราก้อนได้โดยไม่ถูกเผา…ขี้โกงฉิบ”
“คิดถูกแล้วที่พวกเราไม่เข้าร่วมรายการนี้…คุคุ”
สมาชิกโอเวอร์เกียร์จากแต่ละชาติกำลังแสยะยิ้มชั่วร้าย
ไม่มีใครโง่พอจะเผชิญหน้ากับจิสึกะในการแข่งประลองค่าเรี่ยวแรง
เมื่อเห็นจิสึกะลงแข่ง ทุกคนต่างถอนสิทธิ์รายการฝ่าด่านมอนสเตอร์โดยไม่คิดให้มากความ
พวกเขาต่างรู้จักออปชั่นและทักษะติดตัวของคันศรฟินิกซ์แดงเป็นอย่างดี
ในที่สุดผู้บรรยายก็ประกาศบทสรุป
『 จ…จิสึกะคว้าชัยชนะไปได้ครับ!! บราซิลครอบครองเหรียญทองแรกที่แสนมีค่าสำเร็จ!! 』
ผู้เล่นทั่วไปจะยิ่งแสดงอาการเหนื่อยล้าเมื่อยิ่งผ่านไปแต่ละด่าน
แต่กับจิสึกะนั้นไม่
เมื่อผ่านด่านที่ 13 ได้อย่างไม่ยากเย็น สีหน้าและรอยยิ้มของเธอยังคงสดใสแบบเดียวกับก่อนเริ่มแข่ง
กล้องหลายร้อยตัวต่างรุมถ่ายภาพจากทุกมุมรอบตัว
ไม่ว่าจะองศาใด ความงดงามและความเซ็กซี่ของจิสึกะก็ไม่เสี่อมคลาย
มนุษย์เพศชายทั่วโลกต่างถูกสะกดจนแทบลืมหายใจ
“กริด…ขอนายให้ชนะทุกรายการแข่งที่เหลือนะ จุ๊บ! ♥”
บุคคลเดียวที่เธอให้ความสนใจคือกริด…
“โห่!! โห่—!!”
“ไปตายซะกริด!!”
บรรยากาศภายในโตเกียวโดมรวมถึงทั่วโลกพลันเดือดดาลเ
ขณะเดียวกัน
“ดีจังเลยนะมีสาวสวยคอยให้กำลังใจ…พุดดิ้งชอคโกแลตวันนี้คงหวานมากสินะ”
“…?”
ณ พ้องพักนักกีฬาเกาหลีใต้
กริดที่ก้มหน้าก้มตากินพุดดิ้งชอคโกแลตราคาแสนแพงอยู่พักใหญ่ เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเหตุใดยูร่าถึงหงุดหงิดใส่ตน
***
วันสุดท้ายของการแข่งซาทิสฟายนานาชาติ
ตรงกันข้ามกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ กาลเวลาได้เลือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันที่สามจบลงไปแล้วสี่รายการจากทั้งหมดเก้า งานใหญ่ประจำปีกำลังจะจบลงในไม่ช้า
“ผมขอโทษ…”
ทูนเดินคอตกกลับมาพร้อมกับสองเหรียญทองแดง เขารีบกล่าวขอโทษกริดด้วยสีหน้าเศร้าสมอง
กริดขมวดคิ้วอย่างสับสน
“นายขอโทษฉันทำไม? ได้มากถึงสองเหรียญก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ เหรียญรางวัลของนายมีค่ากับทุกคนมาก”
“ใช่แล้วทูน! นายเจ๋งเป้ง!! พวกเราทุกคนล้วนมีความสุขมาก”
“แต่ว่า…”
ทูนหันไปมองอันดับตารางคะแนนรวม
ใจกลางโตเกียวโดมจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ที่แสดงอันดับเหรียญรางวัลในปัจจุบัน
สหรัฐอเมริกา : 5 - 7 - 3
แคนาดา : 5 - 5 - 4
จีน : 4 - 2 - 1
สหราชอาณาจักร : 3 - 2 - 4
เกาหลีใต้ : 3 - 1 - 2
บราซิล : 1 - 0 - 1
มองโกเลีย : 1 - 0 - 0
ญี่ปุ่น : 0 - 2 - 3
อิตาลี : 0 - 2 - 3
ฝรั่งเศส : 0 - 1 - 4
เหรียญทองแดงแทบไร้ความหมายบนตารางอันดับ หนึ่งเหรียญเงินมีค่ามากกว่าหลายสิบเหรียญทองแดง
นั่นคือสาเหตุที่ทูนมิได้แสดงท่าทีดีใจ
แม้ตนจะคว้าได้ถึงสองเหรียญ แต่อันดับของเกาหลีใต้ก็ไม่ขยับขึ้นแม้แต่น้อย
“ผมอยากให้เกาหลีใต้คว้าแชมป์ ผมต้องการให้คุณกับครอบครัวมีความสุข…”
ทูนคือเด็กกำพร้าที่ถูกแกงค์มาเฟียอิตาลีเก็บมาเลี้ยง
เขาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ตัวเอง
ทูนเข้าสู่ด้านมืดของโลกตั้งแต่ยังเล็ก เขาทำงานต่ำทรามให้แกงค์มาเฟียมานานหลายสิบปีจนกระทั่งได้พบซาทิสฟาย
ในอิตาลีมีแต่คนรังเกียจทูนที่เคยเป็นสมาชิกแกงค์มาเฟีย
แต่ครอบครัวของกริดแตกต่างออกไป
ทูนย้ายมาอยู่เกาหลีใต้และทำงานเป็นบอร์ดี้การ์ดให้กริดตามคำแนะนำยูร่า
แม้จะมีร่างกายใหญ่โตจนน่ากลัว
แต่ครอบครัวของกริดก็ปฏิบัติต่อทูนเป็นอย่างดี พวกเขามองทูนเป็นสมาชิกครอบครัวอีกคนหนึ่ง
ทูนคือเพื่อนคนสำคัญของกริด
ลูกชายและพี่ชายของพวกเขา
ครอบครัวกริดจึงปฏิบัติต่อทูนประหนึ่งบุตรชายและพี่ชายของตัวเอง
ทูนได้รู้จักความอบอุ่นจากครอบครัวที่แท้จริงเป็นครั้งแรก
หลายครั้งหลายหนที่เขานอนหลับพร้อมกับน้ำตาแห่งความสุข
ความสุขที่ทูนได้สัมผัสช้ากว่าผู้อื่นหลายสิบปี…
มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา
ทูนต้องการตอบแทนครอบครัวกริด
เขาอยากมอบความสุขกลับคืนทุกคนด้วยสองมือของตน
เป็นความต้องการจากก้นบึ้งหัวใจ
แต่น่าเสียดายที่ผลงานส่วนตัวมิได้ช่วยทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมากนัก
“ผมทราบว่ามิสยูร่าแข็งแกร่งมาก…แต่การแข่งทำลายวัตถุให้ชนะจิสึกะที่ครอบครองคันศรฟินิกซ์แดง คุณก็รู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก”
“…”
“แล้วก็พีคซอร์ด…เอ่อ ต่อให้กริดชนะทั้งสองรายการที่เหลือ แต่เกาหลีใต้ก็ยังไม่ดีพอจะคว้าแชมป์ในปีนี้…ผมขอโทษที่แข็งแกร่งไม่มากพอ”
“เดี๋ยว! ทำไมไม่นับเหรียญจากฉัน?”
พีคซอร์ดรีบโพล่งขึ้น
แต่ทูนก็ไม่ได้ยิน เขากำลังจมอยู่กับความทุกข์
ทูนเอาแต่กล่าวโทษตัวเองพร้อมกับก้มศีรษะลงอย่างหดหู่ เป็นท่าทีที่เปี่ยมด้วยความเจ็บปวด
กริดเดินเข้าไปจับบ่าด้วยฝีมือที่ใหญ่และหนา
“เงยหน้าขึ้นเถอะ บอร์ดี้การ์ดจะปกป้องฉันได้อย่างไรถ้าหากเอาแต่ก้มหน้า”
กริดอมยิ้ม
“นายไม่ต้องห่วงพีคซอร์ดกับยูร่า…พวกเขาจะกวาดเหรียญทองให้เราได้แน่”
“…?”
ในทางทฤษฏี เกาหลีใต้แทบไม่มีโอกาสคว้าแชมป์โลกได้เลย นักกีฬาทุกคนต่างเข้าใจและยอมรับสภาพ
ดังนั้นเมื่อกริดประกาศกร้าว สายตาของทุกคนจึงพุ่งมาหาอย่างพร้อมเพรียง
น้ำเสียงของกริดไม่เหมือนกับคนพูดเล่นเลยสักนิด
ชายหนุ่มอมยิ้ม
“แต่ก่อนอื่น พวกนายสองคนล็อกอินซาทิสฟายตามฉันมา”
กริดชี้นิ้วไปยังแคปซูลที่มุมห้อง จากนั้นก็หันไปพูดกับยูร่าและพีคซอร์ด
“มาทำให้เกาหลีใต้เป็นแชมป์โลกกันเถอะ ฉันเบื่อที่สองแล้ว…คิดเหมือนกันไหม?”
“…?”
***
“ราชาโอเวอร์เกียร์ห่วงใยพวกพ้องมาทีเดียว”
เมื่อได้เห็นสิ่งที่กริดทำกับยูร่าและพีคซอร์ด วีโอล่าอมยิ้มพลางหันไปพูดกับสวาปามจกบัลเผ็ด
“นายเองก็ชอบเขาใช่ไหม? คุณสวาปามจกบัลเผ็ด”
“เลิกพูดจากไร้สาระได้แล้ว”
แม้สวาปามจกบัลเผ็ดจะปฏิเสธเสียงแข็ง แต่เขาก็ไม่ละสายตาจากกริดแม้แต่น้อย
ทุกการกระทำของกริดเริ่มสั่นคลอนจิตใจชายคนนี้
***
หนึ่งในงานแข่งใหญ่และได้รับความนิยมสูงสุดของทุกปี
ทำลายวัตถุ
มันคือการแข่งแรกที่ตัวตนของกริดปรากฏสู่สายตาคนทั่วโลก
เขากลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวช่วยยูร่าได้ในวินาทีสุดท้าย จากนั้นก็พาเธอคว้าเหรียญทองแรกของเกาหลีใต้อย่างยิ่งใหญ่และสง่างาม
ในปีที่สอง การแข่งทำลายวัตถุเป็นเวทีให้กริดสำแดงฝีมืออีกครั้ง
เปิดเกมด้วยการถูกรุมล้อมจากชาติพันธมิตรจำนวนมาก
และผลก็คือ…กริดส่งทุกคนออกจากสนามอย่างไร้ความปราณี
ในช่วงหลัง เขาต้องต่อกรนักกีฬาของทีมชาติรัสเซียที่เป็นตัวเต็งตามลำพัง
กริดเพียงคนเดียวสามารถถล่มทีมรัสเซียได้อย่างราบคาบ
ยกเว้นครอเกลซึ่งทำหน้าที่ลอบสังหาร
แต่ปีนี้ กฏใหม่ได้ปรับเปลี่ยนให้ทำลายวัตถุเป็นการแข่งประเภทบุคคล
และเมื่อเป็นเช่นนั้น
ตัวเต็งอันดับหนึ่งจึงเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากจิสึกะ
เฉกเช่นการแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์
สมาชิกโอเวอร์เกือบทั้งหมดเลือกที่จะไม่เสี่ยงเข้าร่วมทำลายวัตถุ
ยกเว้นแต่เพียงคนเดียว
ยูร่า
เหตุใดเธอถึงกล้าเผชิญหน้ากับปีศาจผู้ครอบครองคันศรฟินิกซ์แดง?
จิสึกะสามารถทำลายวัตถุทั้งหมดได้ในพริบตาขอเพียงแค่อยู่ในระยะมองเห็น
ในทางทฤษฏี ผู้ชนะจะเป็นใครอื่นนอกจากจิสึกะไม่ได้เลย
『 จริงอยู่ที่ยูร่าเป็นเจ้าแม่ของการแข่งนี้และคว้าเหรียญทองมาแล้วสองปีติดต่อกัน… 』
『 แต่ผมคิดหาเหตุผลที่จิสึกะจะพ่ายแพ้ไม่ได้เลยครับ 』
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนล้วนคิดแบบเดียวกัน
ไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์จากทั่วโลก
น้ำเสียงของผู้บรรยายฝั่งเกาหลีใต้ไม่ค่อยสู้ดีนัก
『 พวกเราต้องการหลายปัจจัยเพื่อให้เกาหลีใต้กลายเป็นจ้าวเหรียญทอง 』
『 ประการแรก แคนาดาและสหรัฐต้องไม่คว้าเหรียญทองใดเลยในรายการที่เหลือ 』
『 ประการที่สอง เกาหลีใต้ต้องคว้าสี่เหรียญทองจากห้ารายการที่เหลือ 』
『 ถูกต้องครับ…แต่นั่นฟังดูแทบเป็นไปไม่ได้เลย 』
『 จิสึกะแข็งแกร่งเกินไปครับ ยูร่าคงทำได้เพียงเหรียญเงินในรายการที่สองของเธอ 』
『 ส่วนพีคซอร์ด เขาเป็นผู้เล่นชั้นแนวหน้าก็จริง แต่ด้วยขีดจำกัดของคลาส ผมไม่คิดว่าเขาสามารถคว้าเหรียญทองในรายการที่ลงแข่งได้ 』
『 แต่ผมก็พึงพอใจกับผลงานทีมชาติเราในปีนี้ครับ ไม่จำเป็นต้องคว้าตำแหน่งจ้าวเหรียญทองก็ยังได้ นักกีฬาทุกคนล้วนแสดงฝีมือที่น่าทึ่งเหนือความคาดหมาย 』
『 ใช่ครับ ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ พวกเขาสวมควรถูกยกย่อง 』
ก่อนเริ่มแข่งซาทิสฟายนานาชาติในปีนี้
ผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงได้วิเคราะห์ว่าทีมเกาหลีใต้จะมีอันดับที่ไม่สูงนัก
แต่ผลงานปัจจุบันกลับตอกนักวิจารณ์เหล่านั้นจนหน้าหงาย
เกาหลีใต้เกาะกลุ่มผู้นำจนกลายเป็นอีกหนึ่งทีมเต็งเหรียญทอง
แค่ไม่ได้แชมป์ คงไม่มีใครถึงกับด่าทอว่าไร้ความสามารถ
“ขอโทษด้วยนะกริด แต่เรื่องส่วนตัวกับส่วนรวมต้องแยกออกจากกัน”
การแข่งทำลายวัตถุเริ่มขึ้นแล้ว
จิสึกะรีบมุ่งหน้าเข้าไปในป่าหนาทึบ จากนั้นก็ปีนป่ายยอดเขาสูง
เธอหวังจะใช้คุณสมบัติพิเศษของ ‘โบยบิน’ เพื่อทำลายวัถตุทั้งหมดในการมองเห็น
ขอเพียงโบยบินถูกปลดปล่อยออกไป เหรียญทองก็จะกลายเป็นของเธอทันที
『 จิสึกะปีนถึงยอดเขาแล้วครับ!! 』
『 เธอกำลังจะมองเห็นทุกเป้าหมายบนพื้นดินและบนท้องฟ้า!! 』
การแข่งทำลายวัตถุที่ดุเดือดและสูสีในสองปีที่ผ่านมา บัดนี้กำลังจะได้ผู้ชนะเพียงชั่วพริบตาที่เกมเริ่มต้น
พรืด…
ในวินาทีเธอที่ง้างคันศรฟินิกซ์แดง
ทุกคนมั่นใจว่า ชัยชนะได้อยู่ในกำมือจิสึกะเรียบร้อย
แม้แต่ตัวจิสึกะเองก็คิดแบบเดียวกัน
‘ฉันต้องครอบครองลมหายใจฟินิกซ์แดงให้มากที่สุด…’
จิสึกะกำลังมองเห็นวัตถุเป้าหมายจำนวน 120 อัน เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการคว้าเหรียญทอง
ขณะที่จิสึกะปล่อยมือจากสายรั้งเพื่ออัญเชิญเทพฟินิกซ์แดง…
ปังงง—!!
เสียงปืนดังจากป่าทึบใต้ตีนเขาที่จิสึกะกำลังยืนอยู่
ผู้ครอบครองคันศรฟินิกซ์แดงพลันประหลาดใจสุดขีดกับเหตุการณ์ตรงหน้า
ภาพการมองเห็นของเธอกลายเป็นสีเทาดำในพริบตา
[ ท่านถูกยิง ]
[ ท่านเสียชีวิต ]
‘อะไรกัน…?’
ซู่ววว—
จิสึกะตายไปโดยที่ไม่ทราบว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ร่างของเธอกลายเป็นหมอกเทาปลิวฟุ้งกระจายไปทั่วเกาะทีร่า
แกร๊ก!
หลังจากข้อความระบบยืนยันว่าจิสึกะเสียชีวิต ยูร่าทำการสลับโหมดสไนเปอร์กลับเป็นไรเฟิล
ในมือของเธอกำลังถือปืนวิศวกรรมเวทมนตร์อเล็กซ์ (สร้างโดยแพ็กม่า)
ไอเท็มสุดพิเศษของคลาสนักล่าอสูรที่กริดดรอปจากอัศวินความตายอเล็กซ์
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนทั่วโลกได้ประจักษ์กับอานุภาพของสไนเปอร์
พลังแห่งไอเท็มก็ต้องเจอกับพลังแห่งไอเท็มด้วยกัน
***
“เทพธิดาของพวกเราทำสำเร็จ!!”
“เฮ—!!”
“ยูร่า!! ยูร่า!! ยูร่า!!”
ผู้ชนะในการแข่งทำลายวัตถุคือยูร่า
เธอคือเจ้าแม่รายการนี้อย่างแท้จริง
ยูร่าเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถคว้าเหรียญทองในรายการเดิมได้สามปีติดต่อกัน
แถมในปีนี้ยังไม่ต้องพึ่งพาพลังของกริด
บรรยากาศภายในประเทศเกาหลีใต้กำลังคึกครื้นราวกับอยู่ในช่วงเทศกาลรื่นเริง
ประชากรกว่า 50 ล้านต่างส่งเสียเฮลั่นเมื่อยูร่าเอาชนะไปอย่างพลิกความคาดหมาย
อันดับของเกาหลีใต้กำลังขยับขึ้น
แม้แต่ผู้คนจากประเทศอื่นก็ยังร่วมดีใจไปกับยูร่าด้วย
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น
เธอแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมในการแข่งดึงดาบอริยะ แต่ท้ายที่สุดกลับต้องพ่ายแพ้ครอเกลไปอย่างน่าเสียดาย
ยูร่าเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลกมากมาย
“ถ้าแคนดากับสหรัฐพลาดสี่เหรียญทองที่เหลือ…พวกเรามีโอกาสเป็นแชมป์โลกใช่ไหม?”
“ใช่ แต่เกาหลีใต้ก็ต้องคว้าอีกสามเหรียญทองให้ได้ด้วย”
“เหลือแค่พี่กริดกับพีคซอร์ดแล้วใช่ไหม?”
“อา…”
“…หมดหวังแล้วล่ะ”
“พี่กริดเหลืออีกแค่รายการเดียวเท่านั้น”
“น…นั่นสิ พีคซอร์ดคงไม่ได้เหรียญทองหรอกมั้ง”
ทุกคนต่างยกย่องให้พีคซอร์ดเป็นแรงเกอร์ท็อปสามของเกาหลีใต้
หากไม่นับสวาปามจกบัลเผ็ดและพวกพ้อง พีคซอร์ดเป็นหนึ่งในสามสุดยอดแรงเกอร์ของเกาหลีใต้อย่างไร้ข้อกังขา
พีคซอร์ดคือขุนพลโอเวอร์เกียร์อันโด่งดังที่มีฝีมือระดับโลก
แต่ความแข็งแกร่งในฝีมือต่อสู้ต้องแยกแยะกับฝีมือในการคว้าเหรียญทอง
ปัญหาคือ รายการที่พีคซอร์ดลงแข่งล้วนเต็มไปด้วยแรงเกอร์ระดับหัวกะทิไม่แพ้
ไม่ใช่แค่ไม่ด้อยไปกว่า
แต่ยังเหนือกว่าพีคซอร์ดหลายขุม
ชื่อชั้นแต่ละคนล้วนหน้าสะพรึงกลัว
คู่แข่งประกอบด้วยขุนพลโอเวอร์เกียร์มากมาย ทั้งแค็ทซ์ ไอเบลลิน แถมยังมีสันตะปาปาดาเมี่ยน
จึงไม่มีใครคาดหวังกับพีคซอร์ดมากนัก
ท่ามกลางความกังวลใจของทุกคน
“…”
แตกต่างจากทุกครั้ง
พีคซอร์ดผู้ร่าเริงสดใส บัดนี้ย่างกรายเข้าสนามแข่งด้วยสีหน้าสงบนิ่งเคร่งขรึม
บริเวณเอวกำลังเหน็บฝักดาบโปร่งแสงสีแดงทับทิม มันส่องประกายระยิบระยับอย่างงดงาม
นี่คือสุดยอดฝักดาบที่กริดสร้างขึ้นกับมือเมื่อไม่นานมานี้
ฝักดาบที่ต้องใช้คู่กับยารุกต์เท่านั้น
สร้างขึ้นจากศิลาโลหิตแห่งขุมนรก
ทั่วโลกจะต้องตกตะลึงกับคุณสมบัติเหนือจินตนาการของมัน
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,196
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุกมากเลยขอบคุณครับ
ReplyDeleteไอเท็มเทพปรากฎสู่สายตาคนทั้งโลกอีกครั้ง
ReplyDeleteเหมือนงันโชวไอเท็มอ่ะ เอาจริงๆ.. 555+
Delete