จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 760



    การแข่งประกอบด้วย 13 ด่าน  แต่ละด่านจะมีบอสพิเศษปกป้องอยู่  
    ผู้เล่นต้องฝ่าทุกด่านเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย  ใครที่ทำสำเร็จคนแรกจะเป็นผู้คว้าเหรียญทองไป

    นี่คือกฏเบื้องต้นของการแข่งรายการ ‘ฝ่าด่านมอนสเตอร์’
    
    หากการแข่งดึงดาบอริยะต้องใช้สติปัญญาและพละกำลัง
    การแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์ก็ต้องใช้ค่าเรี่ยวแรงและพละกำลังมหาศาล

    เมื่อต้องล่าบอสติดต่อกันมากถึง 13 ตัว  อาการเหนื่อยล้าคือสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก

    ใช่แล้ว  สิ่งสำคัญที่สุดของการแข่งประเภทนี้คือค่าเรี่ยวแรง

    ไม่เพียงต้องสู้รบปรบมือกับบอสที่เก่งฉกาจ  แต่ยังรวมถึงการเดินทางข้ามผ่านภูมิประเทศหลากหลายชนิด  ทั้งสองสิ่งล้วนทำให้ค่าเรี่ยวแรงลดลงในระดับมหาศาล

    สิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนพึงมี  คือค่าเรี่ยวแรงในปริมาณที่สูง  และมันสมองในการบริหารจัดการมันให้ดี
    โดยทั่วไปแล้ว  การแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์มักเป็นหน้าที่ของผู้เล่นอันดับหนึ่งในแต่ละประเทศ

    แต่น่าแปลกมาก…
    
    ในปีนี้  กิลด์มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างโอเวอร์เกียร์  กลับมีเพียงจิสึกะเท่านั้นที่ลงแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์

    ถึงกระนั้น  ผู้ชมทางบ้านก็ยังคาดหวังให้เป็นการแข่งที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม

    “โบยบิน!”

    กรี๊— 

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม

    “อะไรกัน…?”

    “บ้าน่า!  ว๊ากกก!!”
    
    พลังทำลายอันน่าเหลือเชื่อ  
    
    จิสึกะปืนป่ายขึ้นไปบนตัวบอสด่านที่สาม  ‘พิงกี้ดรากอน’
    ในวินาทีที่ผู้เข้าแข่งคนอื่นอยู่ในระยะการมองเห็นของจิสึกะ  การแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์ก็จบลงอย่างเป็นทางการ

    พลังพิเศษของคันศรฟินิกซ์แดงได้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับผู้เข้าแข่งทุกคน    
    แถมยังมีลมหายใจพิงกี้ดราก้อนที่คอยซ้ำเติมและปิดฉากให้บางส่วนไปสู่ความตาย

    “ยืนบนตัวพิงกี้ดราก้อนได้โดยไม่ถูกเผา…ขี้โกงฉิบ”

    “คิดถูกแล้วที่พวกเราไม่เข้าร่วมรายการนี้…คุคุ”

    สมาชิกโอเวอร์เกียร์จากแต่ละชาติกำลังแสยะยิ้มชั่วร้าย

    ไม่มีใครโง่พอจะเผชิญหน้ากับจิสึกะในการแข่งประลองค่าเรี่ยวแรง

    เมื่อเห็นจิสึกะลงแข่ง  ทุกคนต่างถอนสิทธิ์รายการฝ่าด่านมอนสเตอร์โดยไม่คิดให้มากความ
    พวกเขาต่างรู้จักออปชั่นและทักษะติดตัวของคันศรฟินิกซ์แดงเป็นอย่างดี
    
    ในที่สุดผู้บรรยายก็ประกาศบทสรุป

    『 จ…จิสึกะคว้าชัยชนะไปได้ครับ!!  บราซิลครอบครองเหรียญทองแรกที่แสนมีค่าสำเร็จ!! 』

    ผู้เล่นทั่วไปจะยิ่งแสดงอาการเหนื่อยล้าเมื่อยิ่งผ่านไปแต่ละด่าน

    แต่กับจิสึกะนั้นไม่

    เมื่อผ่านด่านที่ 13 ได้อย่างไม่ยากเย็น  สีหน้าและรอยยิ้มของเธอยังคงสดใสแบบเดียวกับก่อนเริ่มแข่ง  

    กล้องหลายร้อยตัวต่างรุมถ่ายภาพจากทุกมุมรอบตัว

    ไม่ว่าจะองศาใด  ความงดงามและความเซ็กซี่ของจิสึกะก็ไม่เสี่อมคลาย
    
    มนุษย์เพศชายทั่วโลกต่างถูกสะกดจนแทบลืมหายใจ    

    “กริด…ขอนายให้ชนะทุกรายการแข่งที่เหลือนะ  จุ๊บ! ♥”

    บุคคลเดียวที่เธอให้ความสนใจคือกริด… 

    “โห่!!  โห่—!!”

    “ไปตายซะกริด!!”

    บรรยากาศภายในโตเกียวโดมรวมถึงทั่วโลกพลันเดือดดาลเ

    ขณะเดียวกัน    

    “ดีจังเลยนะมีสาวสวยคอยให้กำลังใจ…พุดดิ้งชอคโกแลตวันนี้คงหวานมากสินะ”

    “…?”

    ณ พ้องพักนักกีฬาเกาหลีใต้
    กริดที่ก้มหน้าก้มตากินพุดดิ้งชอคโกแลตราคาแสนแพงอยู่พักใหญ่  เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเหตุใดยูร่าถึงหงุดหงิดใส่ตน

    ***

    วันสุดท้ายของการแข่งซาทิสฟายนานาชาติ
    
    ตรงกันข้ามกับความต้องการของคนส่วนใหญ่  กาลเวลาได้เลือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
    
    วันที่สามจบลงไปแล้วสี่รายการจากทั้งหมดเก้า  งานใหญ่ประจำปีกำลังจะจบลงในไม่ช้า
    
    “ผมขอโทษ…”

    ทูนเดินคอตกกลับมาพร้อมกับสองเหรียญทองแดง  เขารีบกล่าวขอโทษกริดด้วยสีหน้าเศร้าสมอง

    กริดขมวดคิ้วอย่างสับสน    

    “นายขอโทษฉันทำไม?  ได้มากถึงสองเหรียญก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว  ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ  เหรียญรางวัลของนายมีค่ากับทุกคนมาก”
    
    “ใช่แล้วทูน!  นายเจ๋งเป้ง!!  พวกเราทุกคนล้วนมีความสุขมาก”

    “แต่ว่า…”

    ทูนหันไปมองอันดับตารางคะแนนรวม
    ใจกลางโตเกียวโดมจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ที่แสดงอันดับเหรียญรางวัลในปัจจุบัน

สหรัฐอเมริกา : 5 - 7 - 3 
แคนาดา : 5 - 5 - 4
จีน : 4 - 2 - 1
สหราชอาณาจักร : 3 - 2 - 4
เกาหลีใต้ : 3 - 1 - 2
บราซิล : 1 - 0 - 1
มองโกเลีย : 1 - 0 - 0
ญี่ปุ่น : 0 - 2 - 3
อิตาลี : 0 - 2 - 3
ฝรั่งเศส : 0 - 1 - 4

    เหรียญทองแดงแทบไร้ความหมายบนตารางอันดับ  หนึ่งเหรียญเงินมีค่ามากกว่าหลายสิบเหรียญทองแดง

    นั่นคือสาเหตุที่ทูนมิได้แสดงท่าทีดีใจ
    แม้ตนจะคว้าได้ถึงสองเหรียญ  แต่อันดับของเกาหลีใต้ก็ไม่ขยับขึ้นแม้แต่น้อย

    “ผมอยากให้เกาหลีใต้คว้าแชมป์  ผมต้องการให้คุณกับครอบครัวมีความสุข…”

    ทูนคือเด็กกำพร้าที่ถูกแกงค์มาเฟียอิตาลีเก็บมาเลี้ยง
    เขาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ตัวเอง

    ทูนเข้าสู่ด้านมืดของโลกตั้งแต่ยังเล็ก  เขาทำงานต่ำทรามให้แกงค์มาเฟียมานานหลายสิบปีจนกระทั่งได้พบซาทิสฟาย

    ในอิตาลีมีแต่คนรังเกียจทูนที่เคยเป็นสมาชิกแกงค์มาเฟีย
    
    แต่ครอบครัวของกริดแตกต่างออกไป

    ทูนย้ายมาอยู่เกาหลีใต้และทำงานเป็นบอร์ดี้การ์ดให้กริดตามคำแนะนำยูร่า    
    แม้จะมีร่างกายใหญ่โตจนน่ากลัว  
    แต่ครอบครัวของกริดก็ปฏิบัติต่อทูนเป็นอย่างดี  พวกเขามองทูนเป็นสมาชิกครอบครัวอีกคนหนึ่ง  
    
    ทูนคือเพื่อนคนสำคัญของกริด  
    ลูกชายและพี่ชายของพวกเขา

    ครอบครัวกริดจึงปฏิบัติต่อทูนประหนึ่งบุตรชายและพี่ชายของตัวเอง

    ทูนได้รู้จักความอบอุ่นจากครอบครัวที่แท้จริงเป็นครั้งแรก

    หลายครั้งหลายหนที่เขานอนหลับพร้อมกับน้ำตาแห่งความสุข

    ความสุขที่ทูนได้สัมผัสช้ากว่าผู้อื่นหลายสิบปี…

    มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา

    ทูนต้องการตอบแทนครอบครัวกริด  
    เขาอยากมอบความสุขกลับคืนทุกคนด้วยสองมือของตน

    เป็นความต้องการจากก้นบึ้งหัวใจ

    แต่น่าเสียดายที่ผลงานส่วนตัวมิได้ช่วยทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมากนัก

    “ผมทราบว่ามิสยูร่าแข็งแกร่งมาก…แต่การแข่งทำลายวัตถุให้ชนะจิสึกะที่ครอบครองคันศรฟินิกซ์แดง  คุณก็รู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก”

    “…” 

    “แล้วก็พีคซอร์ด…เอ่อ  ต่อให้กริดชนะทั้งสองรายการที่เหลือ  แต่เกาหลีใต้ก็ยังไม่ดีพอจะคว้าแชมป์ในปีนี้…ผมขอโทษที่แข็งแกร่งไม่มากพอ”

    “เดี๋ยว!  ทำไมไม่นับเหรียญจากฉัน?”
    
    พีคซอร์ดรีบโพล่งขึ้น  
    แต่ทูนก็ไม่ได้ยิน  เขากำลังจมอยู่กับความทุกข์

    ทูนเอาแต่กล่าวโทษตัวเองพร้อมกับก้มศีรษะลงอย่างหดหู่  เป็นท่าทีที่เปี่ยมด้วยความเจ็บปวด

    กริดเดินเข้าไปจับบ่าด้วยฝีมือที่ใหญ่และหนา

    “เงยหน้าขึ้นเถอะ  บอร์ดี้การ์ดจะปกป้องฉันได้อย่างไรถ้าหากเอาแต่ก้มหน้า”

    กริดอมยิ้ม

    “นายไม่ต้องห่วงพีคซอร์ดกับยูร่า…พวกเขาจะกวาดเหรียญทองให้เราได้แน่”

    “…?”
    
    ในทางทฤษฏี  เกาหลีใต้แทบไม่มีโอกาสคว้าแชมป์โลกได้เลย  นักกีฬาทุกคนต่างเข้าใจและยอมรับสภาพ

    ดังนั้นเมื่อกริดประกาศกร้าว  สายตาของทุกคนจึงพุ่งมาหาอย่างพร้อมเพรียง
    
    น้ำเสียงของกริดไม่เหมือนกับคนพูดเล่นเลยสักนิด

    ชายหนุ่มอมยิ้ม

    “แต่ก่อนอื่น  พวกนายสองคนล็อกอินซาทิสฟายตามฉันมา”

    กริดชี้นิ้วไปยังแคปซูลที่มุมห้อง  จากนั้นก็หันไปพูดกับยูร่าและพีคซอร์ด

    “มาทำให้เกาหลีใต้เป็นแชมป์โลกกันเถอะ  ฉันเบื่อที่สองแล้ว…คิดเหมือนกันไหม?”

    “…?”

    ***

    “ราชาโอเวอร์เกียร์ห่วงใยพวกพ้องมาทีเดียว”

    เมื่อได้เห็นสิ่งที่กริดทำกับยูร่าและพีคซอร์ด  วีโอล่าอมยิ้มพลางหันไปพูดกับสวาปามจกบัลเผ็ด  

    “นายเองก็ชอบเขาใช่ไหม?  คุณสวาปามจกบัลเผ็ด”

    “เลิกพูดจากไร้สาระได้แล้ว”

    แม้สวาปามจกบัลเผ็ดจะปฏิเสธเสียงแข็ง  แต่เขาก็ไม่ละสายตาจากกริดแม้แต่น้อย
    ทุกการกระทำของกริดเริ่มสั่นคลอนจิตใจชายคนนี้

    ***

    หนึ่งในงานแข่งใหญ่และได้รับความนิยมสูงสุดของทุกปี

    ทำลายวัตถุ

    มันคือการแข่งแรกที่ตัวตนของกริดปรากฏสู่สายตาคนทั่วโลก
    เขากลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวช่วยยูร่าได้ในวินาทีสุดท้าย  จากนั้นก็พาเธอคว้าเหรียญทองแรกของเกาหลีใต้อย่างยิ่งใหญ่และสง่างาม

    ในปีที่สอง  การแข่งทำลายวัตถุเป็นเวทีให้กริดสำแดงฝีมืออีกครั้ง
    เปิดเกมด้วยการถูกรุมล้อมจากชาติพันธมิตรจำนวนมาก  
    และผลก็คือ…กริดส่งทุกคนออกจากสนามอย่างไร้ความปราณี
    ในช่วงหลัง  เขาต้องต่อกรนักกีฬาของทีมชาติรัสเซียที่เป็นตัวเต็งตามลำพัง

    กริดเพียงคนเดียวสามารถถล่มทีมรัสเซียได้อย่างราบคาบ  
    ยกเว้นครอเกลซึ่งทำหน้าที่ลอบสังหาร

    แต่ปีนี้  กฏใหม่ได้ปรับเปลี่ยนให้ทำลายวัตถุเป็นการแข่งประเภทบุคคล
    
    และเมื่อเป็นเช่นนั้น  
    ตัวเต็งอันดับหนึ่งจึงเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากจิสึกะ

    เฉกเช่นการแข่งฝ่าด่านมอนสเตอร์  
    สมาชิกโอเวอร์เกือบทั้งหมดเลือกที่จะไม่เสี่ยงเข้าร่วมทำลายวัตถุ

    ยกเว้นแต่เพียงคนเดียว
    
    ยูร่า

    เหตุใดเธอถึงกล้าเผชิญหน้ากับปีศาจผู้ครอบครองคันศรฟินิกซ์แดง?
    
    จิสึกะสามารถทำลายวัตถุทั้งหมดได้ในพริบตาขอเพียงแค่อยู่ในระยะมองเห็น
    ในทางทฤษฏี  ผู้ชนะจะเป็นใครอื่นนอกจากจิสึกะไม่ได้เลย    

    『 จริงอยู่ที่ยูร่าเป็นเจ้าแม่ของการแข่งนี้และคว้าเหรียญทองมาแล้วสองปีติดต่อกัน…  』

    『 แต่ผมคิดหาเหตุผลที่จิสึกะจะพ่ายแพ้ไม่ได้เลยครับ 』

    ผู้เชี่ยวชาญทุกคนล้วนคิดแบบเดียวกัน
    ไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์จากทั่วโลก

    น้ำเสียงของผู้บรรยายฝั่งเกาหลีใต้ไม่ค่อยสู้ดีนัก

    『 พวกเราต้องการหลายปัจจัยเพื่อให้เกาหลีใต้กลายเป็นจ้าวเหรียญทอง  』

    『 ประการแรก  แคนาดาและสหรัฐต้องไม่คว้าเหรียญทองใดเลยในรายการที่เหลือ 』
    
    『 ประการที่สอง  เกาหลีใต้ต้องคว้าสี่เหรียญทองจากห้ารายการที่เหลือ 』

    『 ถูกต้องครับ…แต่นั่นฟังดูแทบเป็นไปไม่ได้เลย  』

    『  จิสึกะแข็งแกร่งเกินไปครับ  ยูร่าคงทำได้เพียงเหรียญเงินในรายการที่สองของเธอ 』

    『 ส่วนพีคซอร์ด  เขาเป็นผู้เล่นชั้นแนวหน้าก็จริง  แต่ด้วยขีดจำกัดของคลาส  ผมไม่คิดว่าเขาสามารถคว้าเหรียญทองในรายการที่ลงแข่งได้  』

    『 แต่ผมก็พึงพอใจกับผลงานทีมชาติเราในปีนี้ครับ  ไม่จำเป็นต้องคว้าตำแหน่งจ้าวเหรียญทองก็ยังได้  นักกีฬาทุกคนล้วนแสดงฝีมือที่น่าทึ่งเหนือความคาดหมาย 』

    『 ใช่ครับ  ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่  พวกเขาสวมควรถูกยกย่อง 』

    ก่อนเริ่มแข่งซาทิสฟายนานาชาติในปีนี้ 
    ผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงได้วิเคราะห์ว่าทีมเกาหลีใต้จะมีอันดับที่ไม่สูงนัก
    
    แต่ผลงานปัจจุบันกลับตอกนักวิจารณ์เหล่านั้นจนหน้าหงาย
    เกาหลีใต้เกาะกลุ่มผู้นำจนกลายเป็นอีกหนึ่งทีมเต็งเหรียญทอง

    แค่ไม่ได้แชมป์  คงไม่มีใครถึงกับด่าทอว่าไร้ความสามารถ

    “ขอโทษด้วยนะกริด  แต่เรื่องส่วนตัวกับส่วนรวมต้องแยกออกจากกัน”

    การแข่งทำลายวัตถุเริ่มขึ้นแล้ว

    จิสึกะรีบมุ่งหน้าเข้าไปในป่าหนาทึบ  จากนั้นก็ปีนป่ายยอดเขาสูง

    เธอหวังจะใช้คุณสมบัติพิเศษของ ‘โบยบิน’ เพื่อทำลายวัถตุทั้งหมดในการมองเห็น

    ขอเพียงโบยบินถูกปลดปล่อยออกไป  เหรียญทองก็จะกลายเป็นของเธอทันที

    『 จิสึกะปีนถึงยอดเขาแล้วครับ!! 』

    『 เธอกำลังจะมองเห็นทุกเป้าหมายบนพื้นดินและบนท้องฟ้า!! 』

    การแข่งทำลายวัตถุที่ดุเดือดและสูสีในสองปีที่ผ่านมา  บัดนี้กำลังจะได้ผู้ชนะเพียงชั่วพริบตาที่เกมเริ่มต้น

    พรืด… 

    ในวินาทีเธอที่ง้างคันศรฟินิกซ์แดง  
    ทุกคนมั่นใจว่า  ชัยชนะได้อยู่ในกำมือจิสึกะเรียบร้อย

    แม้แต่ตัวจิสึกะเองก็คิดแบบเดียวกัน

    ‘ฉันต้องครอบครองลมหายใจฟินิกซ์แดงให้มากที่สุด…’

    จิสึกะกำลังมองเห็นวัตถุเป้าหมายจำนวน 120 อัน  เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการคว้าเหรียญทอง

    ขณะที่จิสึกะปล่อยมือจากสายรั้งเพื่ออัญเชิญเทพฟินิกซ์แดง… 

    ปังงง—!! 

    เสียงปืนดังจากป่าทึบใต้ตีนเขาที่จิสึกะกำลังยืนอยู่ 

    ผู้ครอบครองคันศรฟินิกซ์แดงพลันประหลาดใจสุดขีดกับเหตุการณ์ตรงหน้า

    ภาพการมองเห็นของเธอกลายเป็นสีเทาดำในพริบตา
    
[ ท่านถูกยิง ]
[ ท่านเสียชีวิต ]

    ‘อะไรกัน…?’

    ซู่ววว— 

    จิสึกะตายไปโดยที่ไม่ทราบว่าเกิดสิ่งใดขึ้น  ร่างของเธอกลายเป็นหมอกเทาปลิวฟุ้งกระจายไปทั่วเกาะทีร่า

    แกร๊ก!

    หลังจากข้อความระบบยืนยันว่าจิสึกะเสียชีวิต  ยูร่าทำการสลับโหมดสไนเปอร์กลับเป็นไรเฟิล 

    ในมือของเธอกำลังถือปืนวิศวกรรมเวทมนตร์อเล็กซ์ (สร้างโดยแพ็กม่า)    

    ไอเท็มสุดพิเศษของคลาสนักล่าอสูรที่กริดดรอปจากอัศวินความตายอเล็กซ์
    นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนทั่วโลกได้ประจักษ์กับอานุภาพของสไนเปอร์
    
    พลังแห่งไอเท็มก็ต้องเจอกับพลังแห่งไอเท็มด้วยกัน
    
    ***

    “เทพธิดาของพวกเราทำสำเร็จ!!”

    “เฮ—!!”

    “ยูร่า!!  ยูร่า!!  ยูร่า!!”

    ผู้ชนะในการแข่งทำลายวัตถุคือยูร่า

    เธอคือเจ้าแม่รายการนี้อย่างแท้จริง
    ยูร่าเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถคว้าเหรียญทองในรายการเดิมได้สามปีติดต่อกัน
    
    แถมในปีนี้ยังไม่ต้องพึ่งพาพลังของกริด
    
    บรรยากาศภายในประเทศเกาหลีใต้กำลังคึกครื้นราวกับอยู่ในช่วงเทศกาลรื่นเริง    
    ประชากรกว่า 50 ล้านต่างส่งเสียเฮลั่นเมื่อยูร่าเอาชนะไปอย่างพลิกความคาดหมาย

    อันดับของเกาหลีใต้กำลังขยับขึ้น
    
    แม้แต่ผู้คนจากประเทศอื่นก็ยังร่วมดีใจไปกับยูร่าด้วย    
    
    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น

    เธอแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมในการแข่งดึงดาบอริยะ  แต่ท้ายที่สุดกลับต้องพ่ายแพ้ครอเกลไปอย่างน่าเสียดาย

    ยูร่าเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลกมากมาย

    “ถ้าแคนดากับสหรัฐพลาดสี่เหรียญทองที่เหลือ…พวกเรามีโอกาสเป็นแชมป์โลกใช่ไหม?”

    “ใช่  แต่เกาหลีใต้ก็ต้องคว้าอีกสามเหรียญทองให้ได้ด้วย”

    “เหลือแค่พี่กริดกับพีคซอร์ดแล้วใช่ไหม?”

    “อา…”

    “…หมดหวังแล้วล่ะ”

    “พี่กริดเหลืออีกแค่รายการเดียวเท่านั้น”

    “น…นั่นสิ  พีคซอร์ดคงไม่ได้เหรียญทองหรอกมั้ง”

    ทุกคนต่างยกย่องให้พีคซอร์ดเป็นแรงเกอร์ท็อปสามของเกาหลีใต้

    หากไม่นับสวาปามจกบัลเผ็ดและพวกพ้อง  พีคซอร์ดเป็นหนึ่งในสามสุดยอดแรงเกอร์ของเกาหลีใต้อย่างไร้ข้อกังขา

    พีคซอร์ดคือขุนพลโอเวอร์เกียร์อันโด่งดังที่มีฝีมือระดับโลก

    แต่ความแข็งแกร่งในฝีมือต่อสู้ต้องแยกแยะกับฝีมือในการคว้าเหรียญทอง

    ปัญหาคือ  รายการที่พีคซอร์ดลงแข่งล้วนเต็มไปด้วยแรงเกอร์ระดับหัวกะทิไม่แพ้

    ไม่ใช่แค่ไม่ด้อยไปกว่า
    แต่ยังเหนือกว่าพีคซอร์ดหลายขุม
    ชื่อชั้นแต่ละคนล้วนหน้าสะพรึงกลัว
    
    คู่แข่งประกอบด้วยขุนพลโอเวอร์เกียร์มากมาย  ทั้งแค็ทซ์  ไอเบลลิน  แถมยังมีสันตะปาปาดาเมี่ยน

    จึงไม่มีใครคาดหวังกับพีคซอร์ดมากนัก
    
    ท่ามกลางความกังวลใจของทุกคน

    “…”

    แตกต่างจากทุกครั้ง
    พีคซอร์ดผู้ร่าเริงสดใส  บัดนี้ย่างกรายเข้าสนามแข่งด้วยสีหน้าสงบนิ่งเคร่งขรึม

    บริเวณเอวกำลังเหน็บฝักดาบโปร่งแสงสีแดงทับทิม  มันส่องประกายระยิบระยับอย่างงดงาม

    นี่คือสุดยอดฝักดาบที่กริดสร้างขึ้นกับมือเมื่อไม่นานมานี้
    ฝักดาบที่ต้องใช้คู่กับยารุกต์เท่านั้น
    สร้างขึ้นจากศิลาโลหิตแห่งขุมนรก

    ทั่วโลกจะต้องตกตะลึงกับคุณสมบัติเหนือจินตนาการของมัน

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,196
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สนุกมากเลยขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  2. ไอเท็มเทพปรากฎสู่สายตาคนทั้งโลกอีกครั้ง

    ReplyDelete
    Replies
    1. เหมือนงันโชวไอเท็มอ่ะ เอาจริงๆ.. 555+

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00