จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 750



    “ขอเบียร์หนึ่งแก้ว”

    ณ เมืองเรดเดียร์ (กวางแดง)
    แคนาดา

    เมืองเล็กทางตอนใต้ของรัฐอัลเบอร์ต้า  มีจำนวนประชากรราวแปดหมื่นคน  
    ในยามปรกติ  รูปลักษณ์ของชายชาวต่างชาติผมสีดำมักเด่นเตะตาผู้คนเสมอ

    แต่วันนี้ผิดแผกแปลกไปจากเดิม  เนื่องด้วยมีการถ่ายทอดสดซาทิสฟายรอบพิเศษ  
    การแข่งสนามต่อสู้ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่อยู่ติดบ้านและเฝ้าหน้าจอ TV
    
    ด้วยเหตุนี้  ชายผมดำจึงสามารถเดินเข้ามานั่งในร้านประจำโดยไม่ตกเป็นเป้าสายตาผู้คน
    ผิวสีขาว  ริมฝีปากบาง  โหนกคิ้วเรียบ  และเส้นผมสีดำสนิท  
    เอกลักษณ์ทุกส่วนล้วนเป็นบ่งชี้ว่า  ชายคนนี้มีเชื่อสายชาวเอเชียอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

    แม้กระทั่งนัยน์ตาที่ถูกซ่อนไว้ใต้แว่นกันแดดก็ยังมีสีดำสนิท
    ชายคนนี้มีชื่อจริงว่า ‘เรย์’
    บิดาของเรย์เป็นชาวเกาหลีใต้  ส่วนมารดาเป็นชาวแคนาดา
    
    ชื่อตัวละครซาทิสฟายคือ ‘เฟคเกอร์’
    แน่นอน  ไม่มีใครในละแวกนี้ที่รู้จักตัวตนแท้จริงของเขา

    “ไม่คิดถอดแว่นกันแดดบ้างหรือพ่อหนุ่ม?  นายมาที่ก็หลายหน  แม้แต่เจนิเฟอร์ยังถามถึงบ่อยครั้ง”

    เจ้าของผับเล็กแห่งนี้เป็นชายวัยกลางคน  เขาส่งเบียร์หนึ่งแก้วให้เฟคเกอร์
    
    เป็นเพราะนิสัยอันเงียบขรึมงั้นหรือ?  
    เขามิได้ชื่นชอบการพูดคุยไร้สาระสักเท่าไรนัก

    “…”

    เฟคเกอร์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะซดเบียร์ลงคออึกใหญ่
    เฉกเช่นคนอื่นในร้าน  สายตาเฟคเกอร์กำลังจ้องมองไปยังภาพบนจอ TV

    “สุดยอด!!  กริดเคลื่อนไหวแบบนั้นได้ยังไง?”

    “แต่เทคนิคของคริสเจ๋งกว่าเยอะ”

    “ฮ่าฮ่าฮ่า!  คริสคือความภูมิใจของชาติเรา!”

    “สู้เค้าคริส!!  ช่วยลืมไปก่อนว่ากริดเป็นกษัตริย์ของนาย!”

    ลูกค้าในร้านต่างส่งเสียงเฮเมื่อคริสเริ่มรุกหนัก
    มีทั้งเสียงชื่นชมที่กริดสามารถยันบันไดแคบไว้ได้ตามลำพัง  ร่วมทั้งเสียงชื่นชมที่คริสกำลังจะนำทีมฝ่าด่านกริดขึ้นไปสำเร็จ

    กริดเปิดคัมภีร์อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า  แต่ถึงอย่างนั้น  เขาก็ยังถูกกดดันอย่างหนักจากศัตรูรอบข้าง
    เทคนิคดาบใหญ่ของคริสไม่เป็นสองรองใคร  และนั่นกำลังทำให้กริดตกที่นั่งลำบากสถานหนัก

    ‘แต่กริดทำได้ดีเกินคาด…หากเขาสูญเสียพลังชีวิตช้าลงกว่านี้  บางทีอาจปกป้องบันไดไว้ได้’
    
    เฟคเกอร์กล่าวชม

    ‘ถ้าเป็นกริดในปีที่แล้ว  เขาไม่มีทางอยู่รอดในสนามต่อสู้นานขนาดนี้แน่’

    ช่างเป็นพัฒนาการที่น่าทึ่ง
    และรากฐานของพัฒนาการนี้มิได้เกิดจากพรสวรรค์  หากแต่เป็นพรแสวง

    ‘ยอดเยี่ยม…’

    เฟคเกอร์อาจไม่รู้ตัว  แต่เขามักอมยิ้มบ่อยครั้งในยามเฝ้ามองกริดจากเงามืด
    หากกริดทราบว่าเฟคเกอร์คิดกับตนเช่นนี้  ชายหนุ่มคงหลั่งน้ำตาอย่างปลื้มปีติ

    เฟคเกอร์เป็นใครกัน...?
    ชายคนนี้คือผู้เล่นคลาสทั่วไปที่สามารถล้มผู้เล่นระดับดวงอาทิตย์
    เฟคเกอร์เหนือกว่าระดับดวงอาทิตย์ไปแล้ว  ท้องฟ้าอย่างกริดจึงกลายเป็นเป้าหมายถัดไปที่เฟคเกอร์หวังก้าวข้าม

    “อะไรกัน?”

    “ทำไมคริสถึงเคลื่อนไหวแบบนั้น?”

    ปัจจุบัน  เบียร์ในแก้วเฟคเกอร์เหลือเพียงครึ่ง
    สนามต่อสู้เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด  กระแสสงครามกำลังพลิกกลับ
    กริดที่ถูกคริสไล่ต้อนฝ่ายเดียวมานาน  บัดนี้เริ่มเปิดฉากตอบโต้กลับคืนราวกับเป็นคนละคน
    
    เมื่อเห็นคริสตกเป็นฝ่ายตั้งรับ  แรงเกอร์ที่เหลือต่างพากันจ้องมองด้วยสีหน้าตกตะลึง
    
    ยิ่งเวลาผ่านไป  ศัตรูรายล้อมก็ยิ่งกลายเป็นแสงสีเทาทีละคนสองคน
    ในสนามต่อสู้แห่งนี้  เมื่อโพชั่นหมดลง  ระบบจะไม่มีการพื้นฟูพลังชีวิตธรรมชาติให้  
    หากไม่สู้จนตัวตายก็จะเป็นได้เพียงท่อนไม้ไร้ค่า  
    
    ต้องเลือกเอา

    สายตาของเฟคเกอร์จ้องมองไปยังหญิงสาวคนหนึ่ง
    ชื่อตัวละครของเธอถูกเขียนไว้ว่า ‘ยูร่า’
    
    นักกีฬาตัวแทนทีมชาติเกาหลีใต้
    
    ‘การเคลื่อนไหวของยูร่าคอยขัดจังหวะคริสอยู่…’

    เฟคเกอร์มองเห็นเจตนาของเธออย่างทะลุปรุโปร่ง
    ยูร่าจงใจขัดแข้งขัดขาคริส
    
    เธอมักยืนเกะกะขวางในจุดที่คริสจำเป็นต้องหลบการโจมตีจากกริด    
    แน่นอนว่า  มันมิได้โฉ่งฉ่างจนน่าเกลียด  
    ตรงกันข้าม  ยูร่าลงมือได้แนบเนียนไร้รอยต่อ  
    การแสร้งผิดพลาดโดยไม่ให้ผู้คนจับได้  สิ่งนี้เป็นพรสวรรค์ที่น่าทึ่งมาก

    มีเพียงน้อยคนบนโลกที่มองออกว่าเธอจงใจขัดขาคริส
    ทุกคนต่างมองเพียงเป็นความชุลมุนวุ่นวายปรกติ    ในยามต่อสู้แบบกลุ่ม

    และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น…
    ภายในกลุ่มผู้เล่นฝ่ายพันธมิตรเอง  มีเพียงคริสเท่านั้นที่ตระหนักถึงสิ่งนี้

    “คุณหนูตกที่นั่งลำบากแล้ว…หัวใจของมิสยูร่ามอบให้กริดเพียงผู้เดียว”

    สุ้มเสียงชายชราดังขึ้นขณะเฟคเกอร์กำลังเพ่งสมาธิกับภาพบนหน้าจอ TV

    เมื่อหันไปมอง  เขาแสดงสีหน้าประหลาดใจไม่น้อย

    ชายชราคนดังกล่าวมีมาดและออร่าของผู้ดีอย่างเปี่ยมล้น  เส้นผมสีขาวถูกหวีเรียบจัดทรงอย่างสง่างาม
    
    เซอร์คาน    

    อดีตผู้เล่นคลาสนักดาบอันดับหนึ่งของโลก
    แต่ในช่วงหลัง  เขาทุ่มเทพละกำลังที่เหลือเพื่อเคี่ยวเข็ญคริสอย่างหนัก

    เซอร์คานเป็นทั้งอาจารย์ของคริส  และยังเป็นหนึ่งในเจ็ดกัปตันของกิลด์ไจแอนต์
    ปัจจุบัน  เซอร์คานถือเป็นอีกหนึ่งขุนพลทรงอำนาจของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์

    “นี่คุณ…ไม่ได้ญี่ปุ่นพร้อมกับคริสหรอกหรือ?”

    เฟคเกอร์มิได้แสดงท่าทีตกใจเมื่อเซอร์คานหาที่อยู่ของตนพบ
    เขาทราบถึงอิทธิพลและความยิ่งใหญ่ของตระกูลคริสในแคนาดาเป็นอย่างดี
    
    ในฐานะหัวหน้าพ่อบ้าน  เซอร์คานย่อมสามารถหยิบยืมอำนาจบางส่วนเพื่อค้นหาที่อยู่ของเฟคเกอร์ได้ไม่ยาก

    “สำหรับชายแก่คนนี้  การเดินทางข้ามซีกโลกไม่ใช่เรื่องดีนัก  แทนที่จะไปเป็นภาระคุณหนู  ผมขอพักผ่อนอยู่บ้านอย่างสบายใจดีกว่า”
    
    เซอร์คานอมยิ้ม  
    เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเฟคเกอร์

    ชายชราวางพิงไม้ค้ำพร้อมกับเลื่อนฝ่ามือไปบนหัวเข่า

    เฟคเกอร์สัมผัสได้ถึงมวลกล้ามเนื้ออันบึกบึนภายใต้เสื้อคลุมหนาที่เซอร์คานสวม

    “กริดคือผู้ที่ถูกพระเจ้าอวยพร…หญิงงามแถวหน้าของโลกต่างพากันหลงรักเขาหมดหัวใจ  หากผมหนุ่มกว่านี้สักสิบปี  คงเกิดความริษยาในตัวกริดไม่น้อย”

    เซอร์คานมิได้แสดงท่าทีโกรธเคืองเมื่อเห็นยูร่าขัดขวางคริส
    ยูร่าเป็นสมาชิกคนสำคัญที่มีค่าต่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์  พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
    และยิ่งไปกว่านั้น  เซอร์คานชื่นชอมความรักที่ยูร่ามอบให้กริด

    “ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ”
    
    เซอร์คานพับเสื้อคลุมเก็บอย่างปราณีตบรรจง  จากนั้นก็หันไปพูดกับเจ้าของร้าน    

    “ผมขอโค้กหนึ่งที่ครับ”

    “ได้เลยครับ”

    เจ้าของร้านตอบกลับเซอร์คานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
    มิใช่เพราะเซอร์คานแก่ชรา  หากแต่เจ้าของร้านกำลังดีใจ  ที่ชายหนุ่มลูกครึ่งเอเชียผู้นี้มีเพื่อนที่สามารถเปิดอกพูดคุยได้

    “มาสเตอร์ของที่นี่เป็นคนดี”
    เซอร์คานหันไปกล่าวกับเฟคเกอร์
    
    ‘นั่นคือเหตุผลที่ฉันมาที่ร้านนี้ตลอดหลายปีให้หลัง’
    เฟคเกอร์คิดจะกล่าวออกไป  แต่ท้ายที่สุดก็กลืนมันลงคอพร้อมกับเบียร์ในแก้ว

    คงดีกว่าหากตัวตนของสถานที่แห่งไม่ถูกเผยแพร่

    “ได้โปรดเข้าใจคนแก่ด้วย  ผมดื่มได้แค่โค้กเท่านั้น  ร่างกายแสนชรามิอาจรับมือแอลกอฮอล์ไหว”

    เซอร์คานกล่าวพร้อมกับอมยิ้มอย่างเคอะเขิน
    
    เฟคเกอร์ถามเสียงห้วน
    “แล้วคุณถ่อจากโตรอนโต้มาถึงอัลเบอร์ต้าด้วยเหตุผลอะไร?”

    “ผมคิดว่าคุณน่าจะกำลังเหงา”

    “...?”

    เป็นคำตอบที่เฟคเกอร์ไม่คาดฝัน
    ชายแก่คนนี้กำลังพูดอะไรออกมา?
    
    เซอร์คานฉีกยิ้มให้กับเฟคเกอร์ที่กำลังขมวดคิ้ว

    “คุณมีพรสวรรค์มากกว่าใคร  และมีความมุ่งมั่นทะเยอทยานที่แรงกล้า…เหมือนกับคริสและกริดไม่มีผิด” 
    
    “…”

    “คุณสามารถเฉิดฉายบนเวทีโลกได้ไม่ต่างจากสองคนนั้น  หากลงแข่ง  คุณต้องมีเหรียญติดไม้ติดมือกลับมาแน่”

    “…”

    “แต่ด้วยหน้าที่และตำแหน่ง  คุณจำต้องเร้นกายในเงามืดอย่างเลี่ยงไม่ได้  นี่คือสาเหตุที่คุณไม่เคยลงแข่งซาทิสฟายนานาชาติเลยสักครั้ง”

    “…”

    “…เลือดกำลังเดือดพล่านอยู่ใช่ไหม?”

    ถูกต้อง…
    เซอร์คานมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง 

    เฟคเกอร์ก็ต้องการโดดเด่นในงานแข่งนานาชาติเหมือนกับแรงเกอร์คนอื่น
    เขาอยากสู้กับกริด  อยากสู้กับครอเกล  ตัวตนที่โดดเด่นในงานแข่งนานาชาติทุกปี

    เฟคเกอร์ต้องการอวดโอ่ฝีมือตนให้ทั่วโลกต้องอ้าปากค้าง
    แต่เขากลับไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น

    โชคดีที่เฟคเกอร์สามารถระงับอารมณ์ตนเองได้อยู่หมัด

    “เป็นความเดือดพล่านที่ผมสามารถควบคุมได้…ผมทราบดี  ต่อให้ไม่ปรากฏตัวในงานแข่ง  แต่คนทั่วโลกต่างก็รู้จักศักยภาพของผมอยู่แล้ว  เท่านี้ก็เพียงพอ”

    “…ยอดเยี่ยมมาก”
    เซอร์คานยิ้มอย่างมีความสุข

    “คุณทำได้ดีกว่าตัวผมเมื่อปีที่แล้ว…ตอนอายุเท่าคุณ  จิตใจของผมยังเข้มแข็งได้ไม่ถึงครึ่งของคุณด้วยซ้ำ”

    เซอร์คานปล่อยวางทุกสิ่งและทุ่มพลังที่เหลือไปกับการสอนสั่งคริส    

    สาเหตุเพราะเขาเริ่มมีอายุมาก

    ในเมื่อไม่อาจท่องไปทั่วโลกได้เหมือนเคย  เซอร์คานจึงผันตัวเองไปเป็นอาจารย์คริสเต็มตัว
    
    กว่าจะรู้ตัวก็สายไป…
    เซอร์คานหลงรักซาทิสฟายมากกว่าที่ตัวเองคิด  เขามีความสุขที่ได้ยืนเด่นตระหง่านท่ามกลางเสียงปรมมือกึกก้องจากคนรอบข้าง

    เซอร์คานนึกเสียใจที่ตนถอนตัวเร็วเกินไป
    
    ในปีที่แล้ว  ทีมชาติแคนาดาแสดงผลงานได้ไม่ดีนัก  รวมถึงตัวเซอร์คานด้วย
    เซอร์คานหงุดหงิดใจที่ฝีมือของตัวเองเริ่มทื่อลงเหตุเพราะร่างกายแก่ชรา
    สิ่งนี้เป็นบ่อเกิดของความตึงเครียดมหาศาล

    และนั่นคือเหตุผลที่เซอร์คานเดินทางไกลมาหาเฟคเกอร์
    เขากังวลว่าเฟคเกอร์อาจประสบความเครียดในแบบเดียวกัน    
    เซอร์คานต้องการเยี่ยวยาจิตใจพวกพ้องคนสำคัญ

    แต่นั่นกลับไม่จำเป็นเลยสักนิด
    เฟคเกอร์มีพลังใจที่แข็งแกร่ง

    ‘ด้วยอายุเพียงเท่านี้  เขากลับสะกดแรงปรารถนาที่ต้องการอวดโอ่พรสวรรค์ได้อย่างอยู่หมัด…นี่คือความยิ่งใหญ่ที่สืบทอดจากสายเลือดของผู้เป็นปู่งั้นหรือ?’

    ราวหลายสิบปีก่อน… 
    ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ยังเป็นมหาอำนาจแห่งวงการเกม  มีตำนานเกมเมอร์ชาวเกาหลีใต้ผุดขึ้นและโด่งดังไปทั่วโลกมากมาย
    
    ในช่วงนั้น  เซอร์คานยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่หลงไหลในเกมออนไลน์เหมือนกับคนอื่น

    และเกมเมอร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างไร้คู่เทียบเคียงในสมัยนั้นคือ…
    
    ปู่ของเฟคเกอร์

    แม้จะยังไม่มีใครทราบข้อมูลนี้  แต่เซอร์คานมั่นใจทันทีเมื่อได้พบเฟคเกอร์ตัวจริง
    ใบหน้าของเฟคเกอร์ถอดแบบจากปู่มาราวกับใช้พิมพ์เดียวกัน

    “…นายมีพรสวรรค์ของปู่อย่างเต็มเปี่ยม”

    สายตาของเฟคเกอร์ยังคงจ้องมองฉากบนจอทีวี
    สีหน้าของเขาไม่ได้แปรเปลี่ยนไป  แม้เซอร์คานจะกล่าวถึงปู่ที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อน

    ภายปัจจุบันในจอฉาย  กริดกำลังอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง

    “เปล่าเลย…ผมเรียนรู้พรแสวงจากกริดต่างหาก”

    นั่นมิใช่คำโกหก
    เดิมที  เฟคเกอร์เป็นเพียงเกมเมอร์อัจฉริยะที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์คนหนึ่ง
    แต่เขาก็มิได้ยอดเยี่ยมที่สุด  
    เฟคเกอร์เคี่ยวกรำตัวเองด้วยกรอบการฝึกที่มีขีดจำกัด  เขาไม่ฝืนธรรมชาติของมนุษย์

    แต่สิ่งนี้เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเฟคเกอร์เห็นพัฒนาการของกริดเต็มสองตา

    กริดคือชายที่มีความพากเพียรในระดับน่าสะพรึงกลัว… 
    ใช่แล้ว  เป็นระดับอันตรายที่มนุษย์ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง    

    เฟคเกอร์ตัดสินใจเดินตามรอยกริดนับแต่นั้น  เขาตัดสินใจปลดขีดจำกัดบทฝึกซ้อมของตัวเอง
  
    ปลดปล่อยกรอบที่พันธนาการฝีมือไว้  
    เฟคเกอร์ฝึกฝนอย่างหนักโดยไม่ย่อท้อต่อความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจ
    
    การฝึกในปริมาณเกินขีดจำกัดย่อมหมายถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตราย
    
    แต่เฟคเกอร์กล้าแบกรับความเสี่ยง

    จนกระทั่งเขาสามารถเอาชนะผู้เล่นเกรดดวงอาทิตย์อย่างแบล็คได้ในการดวล

    “ในเมื่อพรสวรรค์ของกริดกำลังเฉิดฉายไปทั่วโลก…ก็ไม่จำเป็นที่ผมต้องไปซ้อนทับบดบังเขา”

    “…” 

    "หากกริดคือราชาในมุมสว่าง…ผมก็จะเป็นราชาในเงามืด"

    “…แม้แต่จิตวิญญาณก็ยังเหมือนกันขนาดนี้เชียว”
    ดวงตาของเซอร์คานพลันพร่ามัวเมื่อความทรงจำสมัยอดีตหวนกลับมา
    เขาหันไปกล่าวกับเจ้าของร้าน

    “ขอเบียร์หนึ่งแก้วครับ…วันนี้ขอฉลองเป็นพิเศษ  มีโอกาสได้พบสายเลือดในตำนานทั้งที”

    ***

    “กรี๊ดดดด!  กริดซามา!!(ท่านกริด)” 

    “ก็อดกริด!!  ก็อดกริด!!”

    “ยูร่า!!  ยูร่า!!  ยูร่า!!”

    “…”

    เมื่อนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้ถึงคิวลงจากเครื่อง  พนักงานสายการบินรีบกรูเข้ามาอำนวยความสะดวกทันที
    พวกเขาร้องขอให้นักกีฬาหยุดรอสักครู่  เพราะจำเป็นต้องยกระดับความปลอดภัยของสนามบินให้มากขึ้นชั่วขณะ

    ‘เราก็พอจะทราบว่ามีแฟนคลับรอต้อนรับอยู่มาก…’

    พีคซอร์ดกวาดสายตามองฝูงชนพร้อมกับส่ายศีรษะ

    ‘แต่นี่มันไม่มากไปหน่อยหรือ?’

    ไม่ใช่หลักพัน  หากแต่เป็นหลักหมื่น
    แฟนคลับนับหมื่นรวมตัวกันเพื่อรอต้อนรับกริดและยูร่า    
    ทั้งที่พวกเขาเป็นชาวญี่ปุ่น  
    มิใช่เกาหลีใต้
    
    พีคซอร์ดพลันยืดอกภูมิใจ

    ‘เกาหลีใต้เจ๋งที่สุด!  แม้พวกเราจะเป็นประเทศเล็ก!  แต่ยังคงเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการเกมได้จวบจนปัจจุบัน!’

    พีคซอร์ดมิได้ดูแคลนชาวต่างชาติที่มาต้อนรับพวกตน
    เขาเพียงมองว่านักกีฬาชาวเกาหลีใต้ ‘ยิ่งใหญ่กว่า’ กลุ่มแฟนคลับเหล่านี้    

    “อา…”

    ในฐานะประธานองค์กรเกาหลีใต้จงเจริญ  นี่คือนิสัยด้านลบของพีคซอร์ดที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
    เขากำลังอมยิ้มอย่างมีความสุข

    “ผู้เล่นกริดครับ  มีการประเมินไว้ว่า  ฝีมือควบคุมของคุณพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี  พอจะบอกเคล็ดลับในการฝึกซ้อมได้ไหมครับ?”

    “ผมมีฝีมือควบคุมระดับนี้มานานแล้ว  เพียงแต่ถูกไอเท็มบดบังรัศมีมาโดยตลอด”
    
    “อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กลายเป็นอาณาจักรแรกในทวีปตะวันตก  ที่สามารถจับมือเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิซาฮารันสำเร็จ  มีการคาดกันว่า  อาณาจักรของคุณกำลังจะมีเศษรฐกิจที่มั่งคั่งในไม่ช้า…เมื่อมีจักรวรรดิคอยหนุนหลังเช่นนี้  คุณมีแผนจะให้อาณาจักรดำเนินไปในทิศทางใดต่อครับ?”

    “พวกเราไม่ได้เป็นพันธมิตรกันโดยสมบูรณ์  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์และจักรวรรดิทำสัญญาสงบศึกต่อกันเท่านั้น  ไม่ถูกนักที่จะกล่าวว่าจักรวรรดิคอยหนุนหลัง”

    “คุณชื่นชอบวัฒนธรรมใดของญี่ปุ่นบ้างคะ?  อย่างเช่น…มังงะ?(หนังสือการ์ตูน)”

    “อา…เอ่อ…ผมชอบดูวิดีโอการแข่งเบสบอลมากเลย”

    “วิดีโอเบสบอล?  หมายถึงเทปบันทึกภาพการแข่งเบสบอลลีกของญี่ปุ่นหรือคะ?”

    “ถูกต้องครับ…เบสบอลคือกีฬาประจำชาติญี่ปุ่น  สิ่งนี้ช่วยขับเคลื่อนประเทศได้หลายด้าน  ผมสนใจมากทีเดียว”

    “ในฐานะชาวญี่ปุ่น  ดิฉันดีใจมากที่คุณชื่นชอบวัฒนธรรมเบสบอลของเรา  หากไม่ว่าอะไร  กรุณาช่วยบอกทีมที่คุณเชียร์ด้วยค่ะ”

    “เอสโอดีมั้ง? (มั่วแหลก)”

    “หือ?  ไม่มีทีมชื่อนั้นนะคะ”

    “ง…งั้นหรือ  ย…แย่จัง  เอ่อ  ไม่สิ…ผมกำลังสับสนเพราะถูกยิงหลายคำถามพร้อมกัน  ความจริงแล้วผมชอบทุกทีมเลยครับ”

    “คุณไม่ต้องการให้แฟนแต่ละทีมเสียใจใช่ไหมคะ  ถึงได้ตอบเช่นนี้  จิตใจช่างกว้างขวางสมกับเป็นราชาของอาณาจักร”

    “ขอถามถึงอาหารที่ชอบด้วยครับ”

    “ผมชอบอาหารที่ห่อด้วยผัก”

    “จำพวกเนื้อห่อผักกาดใช่ไหมคะ?”

    “ไม่ใช่สิ…ผักกาดต้องทานกับทูน่ากระป๋องไม่ใช่หรือ?”

    “…?”

    “ผมไม่ชอบทานเนื้อกับผัก…หากต้องการลิ้มรสเนื้อวัวมูลค่าสูง  ไม่ควรมีสิ่งใดมาเจือปนให้เสียรสชาติ  การเอาผักมาห่อมันออกจะ…”

    ยังมีคำถามแปลกประหลาดอีกมากมายที่ถาโถมใส่กริด

    หากเป็นสมัยอดีต  เขาคงปฏิเสธที่จะตอบ  และอาจถึงขั้นแสดงสีหน้าหงุดหงิด

    แต่ปัจจุบัน  กริดรู้จุดยืนและความสำคัญของตัวเองดี  
    เขาจำเป็นต้องตอบทุกคำถามเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของผู้นำอาณาจักรโอเวอร์เกียร์

    ซึ่งทุกคำตอบล้วนออกมาจากใจจริงอย่างซื่อตรง

    ผลก็คือ

    【 ผักกาด  ทูน่ากระป๋อง  และโกชูจัง(พริกเผาเกาหลี)  สินค้าขาดแคลนชั่วคราว  ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ 】

    ป้ายประกาศท่คล้ายคลึงกันได้ถูกติดไว้ตามหน้าร้านซุบเปอร์มาเก็ตญี่ปุ่นหลายแห่ง
    นี่คือวินาทีที่วัฒนธรรมอาหารเกาหลีสูตรใหม่(?) กำลังแผร่หลายในประเทศญี่ปุ่น

    เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากอิทธิพลของสุดยอดดาราดังระดับโลกอย่างแท้จริง

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,188
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. แล้วก็ริดเราจะกินอะไรอะ😂😂

    ReplyDelete
  2. นึกว่ายูร่าไปไหน รักก็คือรักอะเนาะ คิคิ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00