จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 748



    ‘พวกเขาเล็ดลอดสายตาเรามาได้ยังไง…?’

    ระบบเกมไม่อนุญาติให้ลวดราวตากผ้าระหว่างตึกถูกทำลาย
    ครอเกลจึงต้องยืนบริเวณหน้าต่างเพื่อคอยโจมตีคนที่หวังประชิดตัวจิสึกะจากอีกฝั่ง

    ในอีกความหมายหนึ่ง  เขาได้สำรวจเส้นทางราวตากผ้าทั้งหมดอย่างครบถ้วน
    จึงไม่มีผู้เล่นใดสามารถเล็ดลอดสายตาครอเกลไปได้

    แต่แล้วเหตุใด  เขาถึงมองไม่เห็นป็อนและลอเอลเลยจนกระทั่งเมื่อครู่
    
    ทั้งสองปรากฏตัวที่บานหน้าต่างอย่างฉับพลันราวกับภูติผีที่หายตัว
    
    ‘หรือว่า…’

    ครอเกลขมวดคิ้วครุ่นคิด  
    เมื่อกวาดสายตามองลงไป  เขาได้พบกับหอกโทรมถูกปักอยู่กับผนังกำแพงภายนอกอาคาร
    เป็นหอกเก่าเสื่อมสภาพที่ใกล้พังเต็มที  

    ‘สองคนนี้ใช้หอกช่วยปีนขึ้นมาจากกำแพงด้านนอก’

    ตึกห้าชั้นหลังที่พวกตนหลบหนีเข้ามา  มันมีสภาพทั้งเก่าและเสื่อมโทรม  ผนังภายนอกเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวผุผัง

    ด้วยโครงสร้างเอื้ออำนวยเช่นนี้  ผู้เล่นสามารถปืนป่ายได้ไม่ยากหากมีเครื่องมือช่วยสนับสนุน
    แต่การจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ  ความอดทน  และสมาธิระดับมหาศาล

    ฉึบ

    ครอเกลกวาดสายตามองชายสองคนที่กำลังล้อมต้นไว้

    หนึ่งในนั้นถือหอก  ส่วนอีกหนึ่งถือพัดเหล็ก

    ‘ใครกันนะ?’

    ขณะครอเกลกำลังครุ่นคิดถึงตัวตนที่เป็นไปได้  อีกฝ่ายกลับแนะนำตัวอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา

    “ฉันคือรัฐมนตรีลอเอลแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  อ๊ะ…ยังเป็นนักกีฬาตัวแทนทีมชาติสหรัฐอเมริกาด้วย”

    “...”

    “น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมชาติอย่างนายกับฉันต้องห้ำหั่นกันเอง  แต่นี่เป็นการแข่งเดี่ยวที่ไม่มีเหรียญทองเข้ามาเกี่ยวข้อง…”

    ยังไม่ทันที่ลอเอลจะกล่าวจบ

    ฟุ่บ!

    ครอเกลตวัดดาบแทงใส่ลอเอลโดยปราศจากความลังเล  
    เขาพิจารณาแล้วว่า  ลอเอลต้องถูกจำกัดโดยเร็วที่สุด

    เมื่อรู้ว่าทางนี้คือลอเอล  ชายถือหอกจึงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากป็อน

    ‘ป็อนแข็งแกร่ง’

    กลับกัน  ลอเอลคือกุนซือจอมบงการ
    ทักษะด้านการต่อสู้มิอาจเทียบเท่านักรบแนวหน้า

    ครอเกลจึงตัดสินใจสังหารลอเอลเป็นอันดับแรก  จากนั้นค่อยจัดการป็อนในภายหลัง
    
    เขาไม่ลังเลที่จะลอบโจมตีขณะอีกฝ่ายเผลอ

    ทว่า

    เคร้งง!!

    “…!” 

    ลอเอลใช้พัดเหล็กบล็อคดาบครอเกลได้อย่างหมดจดราวกับอ่านออกล่วงหน้า
    ในวินาทีที่ปลายดาบกำลังจะทะลวงร่าง  เขาคลีกางพัดเพื่อปัดป้องอย่างง่ายดาย
    
    ครอเกลตกตะลึงในความว่องไวของจ้าวกลยุทธ์ผู้นี้

    แม้ดวงตาจะขยายกว้างขึ้นเล็กน้อย  แต่สีหน้ายังคงสุขุมเยือกเย็นอยู่เช่นเดิม
    
    ลอเอลหุบพัดเหล็กกลับไปอยู่ในสภาพเดิมพร้อมกับกล่าว

    “ฉันเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี…โดยเฉพาะการเผชิญหน้าปีศาจที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของผู้เล่นสองพันล้านแบบนาย”

    ราวสามปีก่อน  
    หลังจากตำนานของครอเกลและซีบาลโด่งดังไปทั่วโลก
    หลังจากกิลด์ตำนานเซดากาห์เริ่มอุบัติขึ้น  พวกเขาแย่งชิงอันดับท็อปของหัวตาราง

    ในยุคสมัยนั้น  มีสิบอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่สามารถสั่นคลอนบัลลังก์เหล่าแรงเกอร์ยุคเก่า
    แม้พวกเขาจะเริ่มเล่นซาทิสฟายช้ากว่าคนทั่วไป  แต่ฝีไม้ลายมือกลับโดดเด่นและมีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างมาก

    กลุ่มคนเหล่านั้นถูกเรียกขานว่า 
    ‘สิบรุคกี้รุ่นแรก’
    และลอเอลคืออันดับหนึ่งของกลุ่มผู้เล่นอัจฉริยะอย่างไร้ข้อกังขา

    เขาได้รับคำยกย่องมากมาย  และยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับแรงเกอร์ที่ยอดเยี่ยมอีกหลายคน
    
    แต่หลังจากเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์  ลอเอลได้ผันบทบาทของตนมาเป็นนักกลยุทธ์เต็มตัว  คลาสที่เขาเลือกเล่นคือ ‘ราชันย์แห่งกระแส’ ซึ่งสามารถบันดาลลมฝนได้ดั่งใจนึก  
    
    นับเป็นคลาสที่เกิดมาเพื่อทำศึกมหาสงครามระดับอาณาจักร

    “แต่ฉันฝีมือของฉันยังไม่ขึ้นสนิมหรอกนะ”

    ราชันย์แห่งกระแสอาจอ่อนแอในซาทิสฟาย  เพราะนั่นไม่ใช่คลาสที่ถูกออกแบบเพื่อการดวล  แต่หากเป็นสนามต่อสู้ที่ทุกคนเท่าเทียม  ฝีมือควบคุมของลอเอลจะถูกจัดให้อยู่ระดับแนวหน้าของโลก

    “คุคุคุ…”

    ลอเอลหัวเราะโดยใช้พัดเหล็กคลี่กางปิดบังใบหน้า

    “นอกเหนือจากฝีมือควบคุม…มันสมองสุดอัจฉริยะของฉันยังช่วยให้มองเห็นการเคลื่อนไหวของนายล่วงหน้า  ครอเกลเอ๋ย…นายเจอศึกหนักเข้าแล้ว  เลือดในกายฉันกำลังเดือดพล่าน  ฮุฮุฮุ!”

    “…”  

    ทำไมขุนพลโอเวอร์เกียร์ต้องมีนิสัยไม่ปรกติกันทุกคนด้วยนะ…
     
    ขณะครอเกลกำลังตึงเครียด  หอกปริศนาได้แทงใส่เขาจากอีกฝั่งด้วยความรวดเร็ว
    
    หอกจากป็อน

    ครอเกลกลิ้งตัวหลบ  จากนั้นก็ดีดตัวขึ้นหวังโจมตีสวนกลับ
    แต่ลอเอลอ่านออก  เขาใช้พัดเหล็กปัดป้องดาบในมือครอเกลได้อย่างสมบูรณ์แบบ    

    เคร้งเคร้งเคร้ง!!

    ดาบครอเกลเล็งแทงทางใด  พัดเหล็กในมือลอเอลเล็งปัดป้องทางนั้น
    หอกในมือป็อนพุ่งแหวกอากาศใส่ท้ายทอยครอเกลจากมุมอับ

    แต่ครอเกลหมุนตัวกลับไปปัดป้องด้วยดาบได้อย่างน่าทึ่ง
    ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนยากจะมองตามทัน

    ลอเอลและป็อนรุมโจมตีหน้าหลังได้อย่างไร้จุดบอด

    ฉึก!    
    
    ในที่สุด… 
    ครอเกลร่างกายครอเกลเกิดบาดแผลจนเลือดไหลซิบ  ฉากนี้ทำให้ผู้ชมทั่วโลกต่างขนลุกไปพร้อมกัน

    『 ครอเกลเลือดออกเป็นครั้งแรกครับ…!! 』 

    『 ม…ไม่น่าเชื่อ!  』 
    
    ผู้บรรยายจากทุกช่องข่าวทั่วโลกต่างพากันปลุกเร้าบรรยากาศ
    ตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาของสนามต่อสู้  ครอเกลแทบไม่เคยถูกโจมตีมาก่อน
    
    “ครอเกล!!”

    จิสึกะอยากช่วยเหลือ  แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  
    เธอไม่รู้ว่าครอเกลจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด  หากยิงสุ่มสี่สุ่มห้า  เกรงว่าอาจทำร้ายพวกเดียวกัน
    สนามต่อสู้แห่งนี้ไม่มีระบบปาร์ตี้  การยิงธนูใส่ฝ่ายเดียวกันจึงนับเป็นความเสียหาย
        
    และที่แย่ไปกว่านั้น

    ฉึก!  ฉึกฉึกฉึก!

    “ชิ…!”

    พลธนูจากฝั่งตรงข้ามยังคงรอดักยิงใส่จุดกำบังของจิสึกะ  ส่งผลให้เธอไม่สามารถลงมือได้ถนัดนัก
    จิสึกะถูกกดดันให้ต้องหลบหลังโซฟาเก่าโทรมเป็นเวลานาน

    ‘บ้าจริง!’

    เธอโมโหในความไร้พลังของตัวเอง

    หน้าที่ของเธอคืออะไรกัน?
    งานของจิสึกะงั้นแสนง่ายดาย  
    สังหารศัตรูให้ได้มากที่สุดขณะกริดและครอเกลคอยยื้อเวลาให้
    แต่สถานการณ์กลับยากลำบากขึ้นหลายเท่าเมื่อศัตรูทั้งหมดเริ่มจับมือเป็นพันธมิตร
    
    ‘เราอยากชนะไปพร้อมกับกริด…’
    จิสึกะอยากโผกอดกริดในพิธีรับรางวัลขณะที่คนทั่วโลกกำลังเฝ้ามอง
    หากบรรยากาศเป็นใจ  บางทีเธออาจจุมพิตเขาต่อหน้าทุกคน

    แต่ดูเหมือนสิ่งเหล่านั้นกำลังเลือนลางลงทุกขณะ    

    ‘ทำไมเราถึงไร้ฝีมือแบบนี้…ทำไมกัน!!’

    ฉึก!  ฉึกฉึก!

    ขณะจิสึกะกำลังตัดพ้อ  ฝนธนูถูกกระหน่ำยิงมาจากตึกฝั่งตรงข้ามอย่างไม่หยุดพัก
    โซฟาที่เธอใช้เป็นกำบัง  บัดนี้พรุนไปด้วยลูกธนูราวกับตัวเม่น  
    ศรบางส่วนแทงละทุโซฟาจนหัวโลหะโผล่ออกมา

    ‘คงใกล้พังเต็มที…และถ้าหากตัวเราไร้จุดกำบัง  คงไม่แคล้วได้พรุนเป็นเม่นแน่’

    ตึกหลังนี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งมากนัก  แถมบนผนังยังมีหน้าต่างเปิดโล่งอยู่หลายบาน
    
    หลักการเล็งธนูยิ่งให้แม่นยำ  สิ่งสำคัญคือการมองเห็น  
    แต่หากจิสึกะโผล่ศีรษะออกไปมองตอนนี้  เธอจะกลายเป็นเม่นในพริบตา

    ‘เราไม่สามารถใช้ตามอง…’

    ถ้าอย่างนั้น…

    ‘ก็ต้องใช้หูฟัง’

    จิสึกะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะหลับตาลง  
    เธอเริ่มจับจังหวะเสียงฝีเท้าของป็อน  ลอเอล  และครอเกล  

    จิสึกะทำการโก่งง้างคันศรในมือไปด้านหลัง

    แต่ทันใดนั้น… 

    ฉึกฉึกฉึก!

    เป็นการยิงขู่จากตึกอีกฝั่ง  ลูกธนูจำนวนมากถูกยิงดักรอบโซฟาที่เธอหลบซ่อน

    ‘นั่นสินะ…อีกฝั่งคงเห็นการเคลื่อนไหวของเราได้จากภาพสะท้อนในกระจกเงา’

    ทำไมตึกร้างที่แทบไม่มีอะไรเลย  ถึงได้มีกระจกเงาเป็นเครื่องตกแต่งภายในมากมาย?
    
    “คนออกแบบแผนที่คงมีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ผู้ใช้ธนูเป็นพิเศษ…เฮ่อ”

    จิสึกลดคันธนูลงพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
    แต่ไม่ใช่เพราะเธอท้อแท้สิ้นหวัง

    ‘ไม่เป็นไร…ใจเย็นเข้าไว้  จำนวนลูกธนูต้องมีจำกัดแน่’

    หลังจากรวมทีมกับกริด  ทั้งสองออกค้นหาลูกธนูและคัมภีร์อย่างบ้าคลั่ง
    ตลอดเวลาหลายชั่วโมง  จำนวนไอเท็มที่รวบรวมได้กลับมีน้อยกว่าที่คิด
    จิสึกะมั่นใจ  ลูกธนูไม่ได้หาง่ายขนาดนั้นแน่

    นานครั้งถึงจะพบลูกธนูสักแห่ง  แถมแต่ละจุดยังเพียงสองถึงสามดอก
    ลูกธนูคือไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไป  
    หากมันหาได้ยากล่ะก็… 
        
    คนอื่นต้องประสบปัญหาเดียวกันแน่
    และอีกไม่นาน  การยิงขู่เหล่านี้จะสิ้นสุดลง

    ส่วนเธอล่ะ?
    
    ‘เราครอบครองลูกธนูมากมายชนิดที่ไม่มีทางใช้หมด’
    
    ภาพในกระจกเงากำลังสะท้อนรอยยิ้มอันงดงามของเทพีแห่งคันศร
    ยิ่งโซฟาและกำแพงพรุนไปด้วยลูกธนูมากเพียงใด  เธอก็ยิ่งมองเห็นชัยชนะมากขึ้นเท่านั้น

    ***

    ‘โชคดีที่ทีมเรามีจิสึกะ’

    ฝนธนูจากตึกอีกฝั่งไม่ได้เล็งไปทางครอเกลแม้แต่นัดเดียว
    ครอเกลอาจมั่นใจการทักษะหลบหลีกของตน  แต่คู่ต่อสู้อย่างป็อนและลอเอลสามารถฉวยโอกาสโจมตีขณะที่เขากำลังหลบลูกธนู

    โชคดีมากที่ความสนใจของพลธนูทั้งหมดพุ่งตรงไปยังจิสึกะ

    ‘แต่ปัญหาคือ…’

    ผู้เล่นคลาสโจมตีระยะประชิดที่อาศัยลวดตากผ้าเพื่อเข้าใกล้จิสึกะ

    ก่อนหน้านี้  มีผู้เข้าแข่งมากมายถูกครอเกลสังหารเมื่อครั้งพยายามบุกเข้ามาทางหน้าต่าง
    อีกฝ่ายจึงหวาดกลัวและไม่กล้าโถมบุกเข้ามาอย่างไร้ความหมาย

    แต่ปัจจุบัน  ขณะครอเกลกำลังถูกป็อนและลอเอลตรึงไว้  คนเหล่านั้นอาจเปิดฉากบุกใส่จิสึกะอีกระลอก
    
    เขาต้องรีบจัดการสองคนนี้ให้เร็วที่สุด
    
    แต่เรื่องนั้นก็ไม่ง่ายเลยสักนิด

    เคร้ง!  เคร้ง!

    พัดเหล็กที่มีความยาวไม่ถึง 30 เซนติเมตร  ลอเอลใช้มันตั้งรับครอเกลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
    
    ฟุ่บ!

    ป็อนรักษาระยะห่างพร้อมกับคอยแทงหอกก่อกวนให้ครอเกลเสียจังหวะ
    ยิ่งเวลาผ่านไป  ลอเอลและป็อนก็ยิ่งประสานงานได้ไร้รอยต่อ
    
    ฉึก!

    ผัวะ!

    ลอเอลที่ถูกดาบแทงพลันแสยะยิ้มราวกับผู้มีชัย  เขายอมแลกพลังชีวิตตนเองเพื่อใช้กำปั้นลดพลังชีวิตครอเกล

    “ความเสียหายหนึ่งหน่วยคงไม่ใช่เรื่องใหญ่…แต่นายเริ่มตะหนักได้แล้วใช่ไหม  ยิ่งเวลาผ่านไป  ฝ่ายที่ได้เปรียบจะเป็นทางนี้ต่างหาก”

    ลอเอลมั่นใจเมื่อเห็นพวกพ้องของตนเริ่มบุกมาทางลวดตากผ้าอีกครั้ง
    อีกเพียงไม่นาน  ครอเกลต้องกระวนกระวายใจจนสูญเสียความเยือกเย็นแน่

    เขาไม่ใช่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์  หากแต่เป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่ยังถูกอารมณ์ครอบงำจิตใจ  
    ลอเอลเรียนรู้สิ่งนี้จากกริด  แม้กริดจะมีสมาธิอันน่าเหลือเชื่อในยามตีเหล็ก  แต่เขาก็เป็นมนุษย์  มีหลายครั้งหลายหนที่กริดสูญเสียความเยือกเย็นและพ่ายแพ้

    ‘นายจบสิ้นแค่นี้แหละ…อ…เอ๋?’
    ลอเอลพลันตะลึงขณะที่เขากำลังแกว่งพัดเหล็กเพื่อปัดป้องดาบยาวซึ่งกำลังพุ่งหา
    
    ภาพการมองเห็นพลันหมุนเคว้ง  ร่างกายส่วนล่างถูกกระแทกอย่างแรงจนเสียหลัก

    “อะไรกัน…?”

    ครอเกลเคลื่อนไหวร่างกายแบบนี้ได้ยังไง?
    ลอเอลสัมผัสถึงลางร้ายทันทีที่ร่างกายล้มกระแทกพื้น

    เขาอยู่ในสภาพไร้การป้องกัน  และครอเกลได้แทงดาบซ้ำโดยไม่รีรอ

    ฉึก!

    “แค่ก!”

    ในวินาทีที่หน้าอกลอเอลถูกดาบเสียบทะลุ  หอกของป็อนได้พุ่งใส่ครอเกลจากด้านหลังเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
    
    แต่คมหอกกลับถูกบล็อคไว้โดยบางสิ่ง… 
    
    ฉึก!

[ ท่านบล็อคสำเร็จ ]
[ ความเสียหายที่ได้รับลดลงครึ่งหนึ่ง ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1 หน่วย ]
[ ค่าความคงทนของโล่เหล็กลดลง 1 หน่วย ]
    
    โล่เหล็ก…ไอเท็มพิเศษสำหรับคลาสนักรบเท่านั้น 
    ครอเกลพบเข้าโดยบังเอิญระหว่างไล่สังหารผู้เล่นในทางเดินใต้ดิน

    โล่เหล็กจะปัดป้องการโจมตีจากศัตรูได้แน่นอน  แต่ค่าความคงทนจะลดลงทันที 1 หน่วย 
    
    ซึ่งความคงทนสูงสุดของโล่เหล็กมีเพียง 10 หน่วยเท่านั้น

    เขาจึงเก็บมันไว้ใช้ยามจำเป็น
    และนี่คือเหตุจำเป็นที่ว่า  ช่วงเวลายากลำบากซึ่งกำลังถูกลุมล้อมด้วยสองแรงเกอร์ระดับท็อปของโลก  
    การสอดประสานโจมตีของป็อนและลอเอลยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น

    ครอเกลมองว่า  ไม่มีโอกาสใดเหมาะกับการใช้โล่ไปมากกว่านี้แล้ว    

    เป๊าะ!

    เมื่อเห็นคมหอกของป็อนทิ่มปักเข้าไปในโล่เหล็ก
    ครอเกลรีบบิดข้อมือซ้ายเพื่อหักปลายหอกทิ้ง  จากนั้นก็ปล่อยมือขวาจากดาบที่แทงใส่ลอเอล  
    
    เขาชักมีดสั้นที่อยู่ในช่องสัมภาระออกมาพร้อมกับใช้มันแทงใส่ป็อนที่ไร้อาวุธ

    ฉึก!

    ฉึกฉึกฉึก!

    ด้วยระยะอาวุธที่สั้นของมีด  ความเร็วจ้วงแทงแต่ละครั้งย่อมมีสูง
    ครอเกลไม่สนใจดาบซึ่งถูกปักใส่ลอเอลที่ล้มลง  เขาเลือกใช้งานมีดสั้นในมือเพราะมันสามารถสร้างความเสียหายได้ถี่กว่าดาบยาว

    การโจมตีแทบจะสองครั้งซ้อนได้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ใส่ช่องท้องป็อน

    “ชิ…!”

    ไม่เกิดจริงเลยหากจะกล่าวว่า  เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในการกระพริบตาเพียงครั้งเดียว

    ลอเอลเริ่มสูญเสียความเยือกเย็น
    สถานการณ์กลับตาลปัดจากแผนที่วางไว้ในตอนต้น  
    สีหน้าของลอเอลไม่ค่อยสู้ดีนัก
    
    ลอเอลพยุงตัวขึ้นโดยหวังจะช่วยป็อน  
    แต่ครอเกลย่อมทราบ  เขารีบผลักป็อนให้ติดบานหน้าต่างโล่ง  จากนั้นก็ก้มลงจับข้อเท้าป็อนยกขึ้น  

    ฟุ่บ!

    ครอเกลหมุนตัวเหวี่ยงป็อนให้กระเด็นตกหน้าต่าง

    “ป็อน!!  ไม่!!!”

    ระบบการต่อสู้มันไม่สมจริงเกินไปหน่อยรึไง?
    ลอเอลพลันต้องหน้าซีดเมื่อถูกทิ้งให้ดวลกับครอเกลตามลำพัง
    ครอเกลโยนมีดที่ค่าความคงทนต่ำทิ้งไป  จากนั้นก็นำดาบยาวเล่มใหม่ออกจากช่องสัมภาระ

    ระหว่างล่าในทางเดินใต้ดิน  ครอเกลรวบรวมดาบยาวสำรองไว้นับไม่ถ้วน

    “ห้องมีขนาดใหญ่  เหมาะแก่การใช้หอกต่อสู้ก็จริง…แต่ก็อย่างที่นายเห็น  สิ่งแวดล้อมโดยรอบยังคงมีสภาพเป็นตึกสูง  โอกาสชนะของพวกนายมีน้อยตั้งแต่ต้นแล้ว”

    “นายมัน…”

    ขณะคำว่า ‘ปีศาจ’ กำลังจะหลุดจากปาก  ลอเอลตัดสินชะงักคำพูดไว้พร้อมหันไปมองนอกหน้าต่าง  
    ปัจจุบัน  กลุ่มพันธมิตรกำลังปีนราวตากมาสมทบจากด้านนอก

    ไม่เพียงเท่านั้น    

    ฟุ่บ!
    
    พลธนูเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาโจมตีครอเกลบ้างแล้ว
    สถานการณ์พลิกผันทันทีเมื่อมีการยิงสนับสนุนจากด้านหลัง

    ลอเอลคิดไวทำไว  เขารีบพุ่งปรี่เข้าหาจิสึกะโดยไม่รีรอ  เพื่อมิให้จิสึกะลงมือทำสิ่งใดขณะพลธนูเปลี่ยนเป้าหมาย

    ด้วยเหตุนี้  ครอเกลจึงต้องเผชิญหน้ากับฝนธนูตามลำพัง    
    และนั่นเปิดการเปิดโอกาสให้หน่วยปีนลวดตากผ้าบุกจู่โจมสำเร็จ

    ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!

    ครอเกลประเมินว่า  ตนคงไม่มีทางหลบหลีกทั้งหมดพ้น
    เขาตัดสินใจใช่โล่รับความเสียหายจากลูกธนูทั้งหมดไว้
    โล่เหล็กแตกกระจายเป็นหลายเสี่ยงและใช้การไม่ได้อีก  มันถูกทำลายถาวร

    ครอเกลดื่มโพชั่นพร้อมกับพุ่งโจมตีใส่หน่วยปีนลวดตากผ้าที่เข้าใกล้หน้าต่าง
    แต่ท้ายที่สุด  ด้วยความที่เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง  เขาสามารถโจมตีได้ทีละเป้าหมายเท่านั้น  
    ส่งผลให้มีแรงเกอร์จำนวนหกคนหลุดเข้ามาในอาคารสำเร็จ

    “เจ้าบ้าลอเอล!!”

    จิสึกะโพล่งขึ้นอย่างเดือดดาลขณะรับมือพัดเหล็กจากลอเอล
    แม้จะถูกประชิดตัวพัวพันอย่างหนักหน่วง  แต่จิสึกะกลับสามารถหาโอกาสยิงธนูได้สำเร็จ

    ลอเอลถึงกับทึ่ง

    “สนามต่อสู้คือเวทีฝึกซ้อมชั้นเลิศ  หลังจากจบการต่อสู้ในวันนี้  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนจะมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดแน่นอน  กรุณานำจุดอ่อนของตัวเองไปแก้ไขในอนาคต”

    “มันเป็นการฝึกตรงไหนมิทราบ!?  นายมันจอมวางกลอุบายชั่วช้า!!  ไม่ละอายใจบ้างรึไง?  ถึงได้กล้ารวมผู้เข้าแข่งทั้งหมดมาถล่มปาร์ตี้ของกริดแบบนี้!”

    “…นี่เป็นอิทธิพลจากฝ่าบาทกริดงั้นหรือ?  จิสึกะ…ทำไมเธอถึงด่าเป็นภาษาเกาหลีได้คล่องแคล่วนัก?  แต่ช่างเถอะ…ก็ยังดีกว่าซึมซับมาจากฮิวรอย”

    ลอเอลกลับมาสุขุมได้อีกครั้ง
    ยิ่งเวลาผ่านไป  ลอเอลก็ยิ่งจับจุดอ่อนของจิสึกะได้มากขึ้น
    ไม่มีทางที่ธนูจะเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ระยะประชิดตั้งแต่ต้น
    
    ขณะเดียวกัน  ครอเกลกำลังถูกล้อมจากทุกทิศทางภายในห้องที่ไม่กว้างมากนัก

    ‘พวกเราชนะแน่!’

    ลอเอลฉีกยิ้มขณะจ้องมองชายคนหนึ่งที่กำลังแผ่จิตสังหารใส่ครอเกลอย่างรุนแรง
    มันคือนักล่าวิญญาณ ‘ซิวรอน’
    
    “ฉันจะฆ่าแก…ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!!”    

    เคร้ง!

    เคร้งเคร้ง!!

    การรุกหนักจากซิวรอนส่งผลให้ครอเกลตึงมืออย่างหนัก
    แถมครอเกลยังต่อสู้ยื้อเยื้อมาเป็นเวลานาน  ทั้งจิตใจและร่างกายจึงเริ่มอ่อนล้า

    ในช่วงก่อนหน้านี้ของสนามรบ  ครอเกลได้สังหารผู้เล่นไปกว่าร้อยคน
    พอเข้าสู่ช่วงสุดท้ายที่เมืองทรีออน  
    ครอเกลก็ยังจัดการไปได้อีกกว่าสิบ
    
    ผู้เล่นเพียงคนเดียวต้องฆ่าคนมากมายเท่าไรกันถึงจะได้รับชัยชนะ?
    
    ปัจจุบัน ศัตรูกว่า 20 กำลังรายล้อมครอเกลจากทุกทิศ
    ไม่ว่าจะเก่งกาจขนาดไหน  แต่ด้วยสภาพที่เท่าเทียมของสนามต่อสู้  ครอเกลจึงไม่มีทางเอาชนะทุกคนได้หมด
    คนพวกนี้ไม่ใช่ตัวตนธรรมดาดาษดื่น  หากแต่เป็นแรงเกอร์ระดับท็อป 50 ท็อป 100 ของโลก

    การมายืนในจุดนี้  ลำพังโชคชะตาอย่างเดียวไม่มีทางทำสำเร็จแน่

    ‘กริด…ฉันขอโทษ’

    จิสึกรู้สึกสิ้นหวังเมื่อได้เห็นจำนวนบาดแผลของครอเกลเพิ่มขึ้นในทุกขณะ
    เธอละอายใจตัวเองที่ไม่เคยเป็นประโยชน์ให้กริดได้เลย

    กลับกัน  มีแต่ต้องพึงพาชายคนนั้นอยู่เสมอ

    ขณะกำลังตัดพ้ออย่างขื่นขม

    ทันใดนั้น

    “อ๊ากกกก!!”

    “นายมันปีศาจ!!”

    เสียงร้องโอดครวญของศัตรูทำให้จิสึกะได้สติกลับคืนมา
    เธอเงยหน้าขึ้นมองไปยังต้นเสียง… 
    ครอเกลกำลังมุ่งมั่นต่อสู้ด้วยจิตใจที่ไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย 

    หากต้องตาย…ก็ขอตายเยี่ยงตำนาน

    แม้จะมีพลังชีวิตเหลือเพียงหลักเดียว  แต่ครอเกลก็ไม่เคยแสดงสีหน้าถอดใจ
    เข้ามุ่งมั่นมองหาเส้นทางการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดอยู่เสมอ

    ครอเกลเพ่งสมาธิอยู่กับการต่อสู้รอบตัวจนราวกับมีตาหลัง
    ประสาทสัมผัสหูและตาถูกรีดเร้นจนถึงขีดจำกัด

    สิ่งนี้คือรากฐานที่ทำให้ครอเกลครองบัลลังก์ฟ้าเหนือฟ้าจวบจนทุกวันนี้

    การโจมตีถามโถมใส่ครอเกลจากทุกทิศทาง  
    ด้านบนคือฝนธนูที่ยิงใส่  รอบกายมีหกแรงเกอร์ลุมล้อมทุกทิศ

    ทุกครั้งที่บาดเจ็บ  ครอเกลจะสร้างความเสียหายกลับคืนไปได้สองถึงสามเท่า
    
    ‘เราเองก็…’

    จิตใจที่เคยอ่อนล้าของจิสึกะเริ่มถูกเยียวยา
    ในเมื่อครอเกลไม่ยอมถอดใจแม้กำลังเผชิญสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าตน
    
    จิสึกะเริ่มฮึกเหิม
    เธอไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของกริดต้องมัวหมอง
    ขุนพลของราชาโอเวอร์เกียร์จะถูกตราหน้าว่าอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด

    เธอกลับมามีไฟต่อสู้อีกครั้ง
    
    ขณะเดียวกัน… 

    แกร่ก!

    ประตูชั้นล่างที่ปิดตายไว้มิดชิด  บัดนี้ถูกเปิดออกจากด้านนอก

    มันคือประตูบานติดกับบันได  
    หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ… 

    ประตูบานที่กริดเฝ้าอยู่
    ประตูบานที่ศัตรูต้องการเปิดออกมามากที่สุด

    “กริด…!”
    
    จิสึกะและครอเกลต่างหันไปมองเป็นตาเดียว  พวกเขาภาวนาให้ผู้ที่เดินเข้ามาเป็นกริด

    ศัตรูสิบกว่าคน…กริดจัดการหมดแล้วงั้นหรือ?

    นั่นเป็นความเฟ้อฝันที่ไม่คำนึงถึงสามัญสำนึกเลยสักนิด
    
    “…ให้ตายสิ”

    คนที่เดินเข้ามากลับไม่ใช่กริด    
    หากแต่เป็นชายถือดาบใหญ่

    “คริส!!”
    ลอเอลเรียกขานอย่างตื่นเต้น

    ‘กริดถูกฆ่าแล้วหรือ?’

    ‘คงต้องยอมรับสินะ’

    จิสึกะและครอเกลมิอาจฝืนปฏิเสธความจริงได้อีก
    
    กริดคงไม่รอดแล้ว
    รูปการณ์นำพาให้ทั้งสองคิดเช่นนั้น

    ต่อให้มีคัมภีร์นับสิบเล่มแล้วอย่างไร?  
    คลาสนักบวชทำได้เพียงสร้างความเสียหายหนึ่งหน่วย  ต่อให้ยื้อชีวิตได้แสนนาน  แต่นั่นย่อมไม่เกิดประโยชน์  เพราะเขาไม่สามารถดับลมหายใจศัตรูได้ง่ายเช่นกัน

    แรงเกอร์สิบกว่าคนไม่ใช่จำนวนที่กริดจะล้มได้ง่ายนัก

    สีหน้าของจิสึกะพลันดำมืดอย่างหดหู่
    ทางด้านครอเกลยังคงกวัดแกว่งดาบโดยไม่กล่าวสิ่งใดต่อ

    “ขอให้นาย…โชคดี...แค่ก!”

    คริสที่เดินเข้ามาด้านใน
    เขาล้มพุบไปและกลายเป็นแสงสีเทา

    จากนั้น

    “พวกนายจะให้ฉันรออีกนานแค่ไหน?  เมื่อไรจะลงมาช่วยกันสักที?  นี่ฉันต้องฆ่าทุกคนตามลำพังรึไง?  เฮ่อ…ช่างมันเถอะ”

    ท่ามกล่าวหมอกสีเทาที่กำลังกระจัดกระจาย  กริดเดินเข้ามาด้านในด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ

    “คลื่น”

    แสงคมดาบสว่างวาบเชือดเฉือนใส่ศัตรูหลายคนในเวลาไล่เลี่ยกัน

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,186
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. โอ้ พระเอกเรามาช่วยแล้ว เล่ามาๆ รออ่านอยู่กำลังสนุก ขอบคุณที่แปลครับแอด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00