จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 752

    『 ขอต้อนรับผู้ชมทุกท่านเข้าสู่งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติปีที่สาม!!  คงอดใจรอไม่ไหวแล้วใช่ไหมครับ?  เช่นนั้นไปชมการแข่งประเภทแรกกันเลย!! 』

    “เฮ้—!!”

    รายการเปิดสนามของงานแข่งนานาชาติในปีนี้คือ ‘ดึงดาบอริยะ’
    แรกเริ่มเดิมที  การแข่งดึงดาบอริยะจะเปี่ยมด้วยความจืดชืดและน่าเบื่อหน่าย
    
    แต่ปีนี้กลับต่างออกไป

    ด้วยความเป็นที่รายการแรกหลังจากผู้ชมทั่วโลกรอคอยมาแสนนาน   
    ณ โตเกียวโดม  ผู้คนจำนวนมากกำลังหลั่งไหลเข้ามาในสนามด้วยสีหน้าคาดหวัง  
    งานแข่งในปีถูกเลื่อนให้นานกว่าปรกติราวสามเดือน  
    คนดูต่างกระหายจะสัมผัสความตื่นเต้น  
    ขอเป็นงานแข่งประเภทใดก็ได  พวกเขาพร้อมรับชมโดยไม่เกี่ยง

    ยิ่งไปกว่านั้น  หนึ่งในนักกีฬาเข้าแข่งคืออริยดาบครอเกล
    
    ===  พวกเราจะได้เห็นฝีมือครอเกลตั้งแต่รายการแรกเลย!  อดใจรอไม่ไหวแล้ว!

    ===  เปิดรายการด้วยก็อดครอเกล…สมกับเป็นพระเอกซะจริง ㅎㅎ

    ===  การแข่งประเภทนี้จะวัดกันที่ว่า  ใครเป็นผู้ดึงดาบอริยะได้ก่อนใช่ไหม?  เช่นนั้นแล้ว  ครอเกลที่เป็นอริยดาบ  ก็น่าจะถูกดาบอริยะยอมรับตั้งแต่ต้นไม่ใช่หรือ?  แบบนี้ก็คงชนะได้ง่ายเลยสิ…

    ===  บ้าน่า  ไม่มีทาง  ถ้าเป็นแบบนั้น  การแข่งจะไปมีความหมายอะไร?  

    ===  การแข่งดึงดาบอริยะมีที่มาจาก ‘ตำนานกษัตริย์อาเธอร์’ ต่างหาก  

    ตำนานกษัตริย์อาเธอร์  ส่วนหนึ่งได้กล่าวถึงดาบ ‘เอ็กซ์คาลิเบอร์’ ที่ถูกเสียบปักอยู่ในหินก้อนใหญ่  

    ต้องเป็นผู้ได้รับเลือกเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ดึงดาบออก  

    การแข่งในวันนี้ก็เช่นกัน  ผู้เข้าแข่งต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ดาบอริยะยอมรับ

    แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย  นักกีฬาต้องผ่านบททดสอบสุดหินมากมาย  ใช้ทั้งพละกำลัง  สติปัญญา  และความอดทนอย่างสูง

    การแข่งค่อนข้างยากเพราะต้องพึ่งพาความสามารถทุกด้านอย่างแท้จริง
    แค่ฉลาดยังไม่พอ  ต้องมีภูมิความรู้ของโลกซาทิสฟายในระดับสูง  

    ส่งผลให้ผู้ชมที่ไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกของเกม  จะไม่เกิดอารมณ์ร่วมมากเท่าที่ควร
    
    เป็นสาเหตุหลักที่การแข่งประเภทนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่ารายการใหญ่
    มันทั้งจืดชืดและไร้ความน่าตื่นเต้น 
    
    ด้วยเหตุนี้  จึงมีเพียงน้อยคนที่เลือกลงแข่งดึงดาบอริยะ    
    ในการแข่งปีที่แล้ว  ผู้เข้าร่วมมีเพียงแรงเกอร์นิรนามไร้ชื่อเสียงจำนวนแค่ไม่กี่คน

    แต่น่าประหลาด  การแข่งในปีปัจจุบันกลับมีทั้งอริยดาบครอเกลและนักล่าอสูรยูร่า
    
    ความสนใจของผู้ชมจึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
    
    “การแข่งดึงดาบอริยะต้องน่าสนุกแน่!”

    “ว่าแต่…ครอเกลเป็นอริยดาบ  เขาจึงเหมาะสมกับการแข่งประเภทนี้  แต่ยูร่าเป็นคลาสนักแม่นปืนมิใช่หรือ?  ทำไมเธอถึงไม่ลงแข่งรายการอื่นที่มีลุ้นกว่า?”

    “หืม…อาจเป็นเพราะการแข่งรายการนี้มีคนเข้าร่วมน้อย  โอกาสได้รับเหรียญรางวัลติดมือจึงสูงมาก  ต่อให้ครอเกลคว้าเหรียญทอง  แต่เหรียญเงินก็ต้องเป็นของยูร่าค่อนข้างแน่นอน  เหรียญเงินเพียงเหรียญเดียวก็นับว่าสำคัญต่อเกาหลีใต้มากแล้ว”

    “น่าเสียดายที่รายการเด่นของเธอในปีที่แล้วอย่างวิ่งแข่งขุมนรกถูกยกเลิกไป”

    “เธอคงเลือกแข่งดึงดาบอริยะเพราะเล็งเหรียญทองไว้  แต่ดันมาเจอครอเกลซะได้  โชคร้ายชะมัด”

    ยูร่าคือหนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทเด่นที่สุดในการล่าบีเลียล  
    คนทั่วโลกจึงคาดเดาว่า  คลาสของเธอน่าจะสำแดงพลังที่แท้จริงได้กับแค่จอมอสูรเท่านั้น

    คำพูดนี้เคยถูกต้อง

    แต่เรื่องราวได้เปลี่ยนไปตั้งแต่สองเดือนก่อน

    ***

    เกาะบรูตอน  สนามแข่งดึงดาบอริยะ  
    พื้นที่เกาะถูกแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่

    จุดแรกเป็นเขตปลอดภัย  ผู้เข้าแข่งไม่สามารถฆ่าฟันเอาชีวิตกันได้  เขตปลอดภัยคือจุดใจกลางของเกาะบรูตอนพอดิบพอดี
    ภายในเขตปลอดภัยจะมี ‘ดาบที่ถูกปักในหิน’ วางตั้งอยู่

    จุดที่สอง  เขตหมู่บ้าน
    ผู้เล่นสามารถเข่นฆ่ากันได้  แต่จะถูกหมายหัวให้เป็นฆาตกรทันที
    ผู้เล่นฆาตกรจะถูกยามหมู่บ้านโจมตีเมื่อพบตัว
    เป็นบริเวณที่สามารถต่อสู้ได้ก็จริง  แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดผลเสียตามมา

    ภายในจุดนี้จะมีหมู่บ้านและ NPC คอยบอกใบ้เนื้อหาภารกิจ  
    แถมยังมีศาลเจ้าที่ช่วยเร่งอัตราฟื้นฟูทรัพยากรตามธรรมชาติ

    บนเกาะบรูตอนประกอบไปด้วยหมู่บ้านจำนวนเก้าแห่ง  ระยะห่างแต่ละหมู่บ้านอยู่ที่ราวสามกิโลเมตร  
    ศาลเจ้าจะไม่ถูกทำเครื่องหมายไว้บนแผ่นที่เหมือนกับในสนามต่อสู้

    และจุดสุดท้าย  เขตอันตราย
    เขตอันตรายสามารถฆ่าแกงได้อย่างไร้ขอบเขตโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง    
    นอกจากเขตปลอดภัยและเขตหมู่บ้าน  ทุกจุดที่บนเกาะเหลือล้วนเป็นเขตอันตราย

    ผู้เล่นที่อยู่ในเขตอันตรายต้องคอยระแวดระวังรอบด้าน  เพราะไม่เพียงผู้เล่นด้วยกันเองที่จะเป็นฝ่ายโจมตี  ยังรวมถึงเหล่ามอนสเตอร์ดุร้ายมากมายตามธรรมชาติ
    
    มีแม้กระทั่งบอสพิเศษ

    { ดาบมิใช่สิ่งสำคัญ }

    “...?”

    ณ ใจกลางเขตปลอดภัยบนเกาะบรูตอน
    ผู้เข้าแข่งดึงดาบอริยะทั้ง 42 คนต่างต้องยืนฉงนตั้งแต่เริ่มแข่ง

    ดาบเล่มหนึ่งถูกปักเสียบอยู่ในหินอ่อนระยิบระยับก้อนใหญ่
    ข้อความ ‘ดาบมิใช่สิ่งสำคัญ’ กำลังลอยอยู่เหนือด้ามจับดาบอริยะ
    
    นักกีฬาส่วนใหญ่พากันสับสน
    เหตุใดข้อความที่ประดับบนดาบ  ถึงได้ระบุว่าดาบมิใช่สิ่งสำคัญ?

    ‘มีบางอย่างไม่ถูกต้อง…’

    แม้ส่วนใหญ่จะยังงุนงง  
    แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน

    ‘มันกำลังบอกว่า…ผู้ที่เหมาะสมจะต้องไม่พึ่งพาดาบมากกว่าฝีมือตัวเอง’

    ‘ผู้ที่เหมาะสมต้องแข็งแกร่งตั้งแต่ก่อนจับดาบ  มิใช่จับดาบแล้วจึงแข็งแกร่ง’

    ครอเกลและยูร่าสามารถตีความได้ในพริบตา

    ฟุ่บ!
    
    คนทั้งสองเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกัน

    สิ่งใดคือเครื่องพิสูจน์ความ ‘แข็งแกร่ง’ หากยังไม่เริ่มจับดาบ?
    คำตอบนั้นง่ายมาก

    ฝีมือต่อสู้

    ครอเกลและยูร่ามั่นใจในคำตอบ  พวกเขารีบมุ่งหน้าออกจากเขตปลอดภัยไปยังเขตอันตรายทันที
    เมื่อใช้เส้นทางเดียวกัน  การปะทะย่อมมิอาจหลีกเลี่ยง

    ฉึบ… 

    เป็นครอเกลที่มีสปีดสูงกว่า  เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่มุ่งหน้าออกจากเขตปลอดภัย
    และเมื่อเห็นยูร่าวิ่งเข้าเขตอันตรายหลังจากตน  ครอเกลตัดสินใจชิงลงมือก่อน

    เขาชักอาวุธออกมาพร้อมกับลอบเข้าหายูร่าอย่างเงียบเชียบ
    ดาบในมือกำลังส่องประกายแสงสีเงิน  มันคือศาสตราที่ถูกสร้างจากกระดูกมังกร
    
    เขี้ยวขาว
    
    ‘เธออันตรายเกินไป’

    ยูร่ารั้งอันดับท็อปสิบของโลกได้เป็นเวลานาน  สิ่งนี้คือเครื่องพิสูจน์ฝีมือและสติปัญญาได้เป็นอย่างดี
    ครอเกลยอมรับในฝีมือของเธอ  ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกว่ายูร่าเป็นภัยคุกคาม

    หากจัดการยูร่าได้ตั้งแต่ต้น  เหรียญทองรายการดึงดาบอริยะก็จะตกเป็นของเขาโดยปริยาย

    ฟุ่บ!

    ก่อนที่ยูร่าจะหนีหายเข้าไปในป่าทึบ  
    ครอเกลตัดสินใจใช้ ‘ก้าวย่างแสงขาว’ เพื่อหายตัวเข้าไปในระยะประชิด  
    
    ดวงอาทิตย์กำลังส่องสว่างเจิดจ้าด้านบนเกาะบรูตอน

    “ไม่นะ!  ยูร่า!!”

    ผู้ชมรอบอัฒจันทร์ต่างส่งเสียงหวั่นวิตก
    ทุกคนล้วนมั่นใจ  ยูร่าต้องถูกส่งออกจากการแข่งเป็นคนแรกแน่

    “ครอเกล!!  นายมันไม่มีหัวใจ!!”

    “บางครั้งก็ต้องอำมหิตกันบ้าง!  ฆ่าเธอซะครอเกล!!”

    บ้างตำหนิติเตียน 
    บ้างส่งเสียเชียร์อย่างสะใจ

    แต่ทั้งสองฝ่ายล้วนคิดเหมือนกัน
    ยูร่าคงชะตาขาดแน่แล้ว

    ถูกต้อง  ไม่มีใครคิดว่ายูร่าจะรอด
    ครอเกลมีฝีมือการดวลเป็นอันดับหนึ่งของโลกมายาวนาน  แถมยังเขาเปิดฉากด้วยการโจมตีล่องหนที่ได้เปรียบ
    ยูร่าผู้ไม่ทันระวังตัว  เธอคงถูกเปิดศึกด้วยบาดแผลฉกรรจ์
    
    นักกีฬาทีมเกาหลีใต้จ้องมองภาพเหตุการณ์ด้วยสีหน้าหวั่นวิตก

    “มีไม่กี่คนที่สามารถรับมือการโจมตีจากครอเกลทัน…ยูร่าจบสิ้นแน่หากปล่อยให้ครอเกลเข้าประชิดตัวสำเร็จ”

    พีคซอร์ดกัดเล็บด้วยสีหน้าตึงเครียด
    เขาได้แต่ภาวนาให้ยูร่ารีบรู้ตัวและชักปืนออกมา

    ทางรอดเดียวคือการปัดป้องให้ทัน    
    ไม่มีคำตอบอื่นอีกแล้ว  
    พีคซอร์ดคิดเช่นนั้น

    แต่กริดกลับเห็นต่าง

    ‘แสดงให้ฉันดูหน่อย…’

    กริดยังคงเชื่อมั่นในตัวยูร่าอย่างเต็มเปี่ยม  
    ยูร่าคือเพื่อนคนสำคัญที่กริดมีความรู้สึกพิเศษให้เสมอ

    ‘เธอทำได้แน่!’

    ยูร่าหมกตัวในขุมนรกนานหลายเดือน  
    เธอย่อมต้องมีพัฒนาการมหาศาล
    และนี่คือช่วงเวลาอันเหมาะสม  ที่เธอต้องแสดงให้ทุกคนประจักษ์

    หากยูร่าพิสูจน์ตัวเองไม่สำเร็จ  คนที่บาดเจ็บทางจิตใจอย่างหนักคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวเธอเอง

    กริดไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเลย  
    เขาเชื่อมั่นในตัวยูร่าจนถึงที่สุด

    ...

    ‘ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวัง’
    
    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตานำพา… 

    ขณะกำลังย่างกรายเข้าเขตอันตราย  
    ยูร่าพลันนึกถึงคำสัญญาที่ตัวเองได้กล่าวไว้กับกริด

    ทันใดนั้น… 

    ฉากเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างผิดแผก  
    ตรงกันข้ามที่ทุกคนคาดไว้โดยสิ้นเชิง
    
    ในวินาทีที่ครอเกลประชิดตัวยูร่าสำเร็จ

    “มิติขุมนรก”

    ซู่ว— 

    ยูร่าตอบสนองราวกับรู้ว่าครอเกลกำลังประชิดตัวจากด้านหลัง
    ร่างของเธอถูกรายล้อมด้วยแสงสีแดงประหลาด  จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

    ‘พรางตัว?’

    ไม่มีทางที่คนผู้หนึ่งจะหายตัวโดยสมบูรณ์ได้  นอกเสียจากเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติของจอมเวท
    แต่เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติคือสิทธิพิเศษของคลาสจอมเวทเท่านั้น

    ด้วยเหตุนี้  ครอเกลจึงประเมินว่าการหายไปของยูร่าเป็นเพียงกลลวง
    เขาตัดสินใจเหวี่ยงเขี้ยวขาวใส่จุดที่ยูร่าเคยยืนโดยปราศจากความลังเล
    
    ครอเกลคาดหวังว่าเธอจะถูกโจมตีจนต้องเผยตัวอีกครั้ง
    
    แต่… 

    วืดด— 

    “...?!”

    คมเขี้ยวขาวฟาดฟันสัมผัสเพียงอากาศอันว่างเปล่า  เกิดเป็นแสงติดตาสีขาวเลือนลาง

    ครอเกลขมวดคิ้วฉงน

    ขณะเดียวกัน

    —!!

    ประตูมิติอุบัติขึ้นจากความว่างเปล่าด้านหลังครอเกล
    
    ไม่มีสิ่งบอกเหตุ  ปราศจากสุ้มเสียงโดยสิ้นเชิง  
    
    ครอเกลไม่มีวันรู้ตัว  
    นอกเสียจากเขาจะมีตาหลังของจริง

    ยูร่าปรากฏกายจากประตูมิติลึกลับ

    “?!”

    เมื่อสัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนของมวลอากาศ  ครอเกลรีบกวัดแกว่งดาบไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ

    ฉึก—!

    ครอเกลมิใช่ปีศาจ
    ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ทุกคนเข้าใจ  
    เขาไม่ได้มีตาหลัง    

    ปัญหาคือ  ค่าสถานะ ‘อ่านใจ’ ของครอเกลยังมีระดับต่ำ  ทำให้สัมผัสถึงตัวยูร่าในยามที่สายเกินไป

    กลับกัน  ดาบในมือยูร่าทั้งแม่นยำและเฉียบคมราวกับเธอฝึกฝนมาอย่างหนัก

    “…!!”

    “!!!”

    『 !!!! 』

    ทั้งนักกีฬา  ผู้ชมในสนาม  ผู้ชมทางบ้าน  รวมถึงพิธีกรผู้บรรยาย  
    ทุกคนต่างตื่นตะลึงพร้อมกับอ้าปากค้าง

    เหนือสิ่งอื่นใด  บุคคลที่ประหลาดใจที่สุดคงหนีไม่พ้นตัวครอเกลเอง

    นี่ตนถูกเล่นงาน…? 

    เหตุใดศัตรูถึงรู้การเคลื่อนไหวล่วงหน้า?  
    ทั้งที่เขาลงมืออย่างสมบูรณ์แบบและไร้ร่องรอย

    ทักษะเมื่อครู่คืออะไรกัน?

    เหตุการณ์นี้แตกต่างจากเมื่อครั้งลอเอลและป็อนลอบประชิดตัวในสนามต่อสู้

    ที่นี่คือซาทิสฟาย
    บนโลกแห่งนี้  ตนคืออริยดาบ  
    สิ่งมีชีวิตทรงพลังอันดับหนึ่ง
    ฟ้าเหนือฟ้า
    ตัวตนไร้พ่าย

    และฉายาอีกมากมายที่ผู้คนมอบให้

    แต่กลับต้องเสียท่าในศึกดวลที่ตัวเองเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน

    ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นกับเขาไม่บ่อยนัก    

    ฟุ่บ!

    ขณะครอเกลกำลังทึ่ง  ยูร่ารีบดึงดาบกลับพร้อมกับหมุนตัวหนึ่งรอบ
    ท่าทีกิริยาชดช้อยงดงามราวกับพญาหงส์สยายปีก

    การจ้วงแทงอันทรงพลังซึ่งเกิดจากแรงเหวี่ยง  ปลายดาบเล็งเสียบทะลุร่างครอเกลซ้ำสอง

    นับเป็นการใช้ดาบที่ช่ำชองยิ่งกว่าแรงเกอร์สายดาบแถวหน้าของโลกหลายคน
    นี่คือผลจากการฝึกฝนในนรกอย่างหนักหน่วงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

    เคร้ง!

    ครอเกลปัดป้องไว้ได้อย่างเต็มกลืน
    เมื่อเผชิญหน้ากับยูร่าได้สักพัก  ทักษะติดตัว ‘อ่านใจ’ เริ่มแสดงผลชัดเจนมากขึ้น
    
    หลังจากดาบของทั้งสองปะทะกัน  
    ได้เวลาครอเกลแสดงพลังที่แท้จริงของอริยดาบ
    
    ทักษะใหม่ของอริยดาบนามว่า ‘กลืนศาสตรา’  มันสามารถดูดอาวุธทุกชนิดให้ติดกับดาบของผู้ใช้ได้ระยะเวลาหนึ่ง
     เขาใช้มันเพื่อดูดดาบยูร่าให้ติดกับดาบของตัวเองประหนึ่งแม่เหล็ก

    ครอเกลออกแรงกระชากดาบเข้าหาตัว
    ส่งผลให้ยูร่าเสียการหลักและเริ่มล้มเซเข้าหาครอเกล

    ร่างกายคนทั้งสองแนบชิดติดกัน  
    ด้วยมุมกล้องที่ไม่ชัดเจน  คงไม่แปลกหากจะมีคนจินตนาการว่าทั้งคู่กำลังจุมพิต

    “โอ้—!!”

    “คราวนี้เป็นครอเกล!  ไม่ใช่กริด!”

    ผู้ชมบนอัฒจันทร์ต่างตื่นเต้นกับภาพที่เกิดขึ้น

    แต่บรรยากาศระหว่างยูร่ากับครอเกลมิได้โรแมนติกดั่งภายนอก

    การดวลเดือดระหว่างสองบุคคลแสนเย็นชา  พวกเขามิได้คิดเรื่องอื่นในหัวนอกจากการต่อสู้ตรงหน้า

    ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์  คนทั้งคู่ส่งเสียงกระซิบหากัน

    “นอกจากกริด…ฉันไม่เคยเสียท่าให้ใครขนาดนี้มาก่อน”    

    “ยองวูไม่ใช่ของนาย…เขาคือคนพิเศษของฉันคนเดียว”

    “หา…?”

    กริ๊ก…!

    ยูร่านั้นกำลังเสียหลักจากทักษะกลืนศาสตราของครอเกล
    ผู้คนจึงคิดว่าครอเกลคงปิดฉากเธอได้ไม่ยาก

    ครั้งแรกเป็นเพียงเหตุลอบโจมตีที่ไม่คาดฝัน  แต่หลังจากนี้คือพลังที่แท้จริงของอริยดาบ
    
    …น่าเสียดายที่เหตุการณ์เช่นนั้นมิได้เกิดขึ้น

    มือข้างซ้ายของยูร่าที่ว่างอยู่จนกระทั่งเมื่อครู่  บัดนี้มีปืนสั้นกระบอกใหม่ปรากฏขึ้น
    
    ความเร็วกระสุนในระยะประชิด  ย่อมไม่ใส่สิ่งดาบของครอเกลจะพุ่งปัดได้ทัน

    ปัง!

    “อั่ก…!”

    ด้วยการยิงระยะเผาขนเช่นนี้  ไม่มีทางเลยที่ครอเกลจะหลบพ้น
    ยูร่ายิงแสกหน้าผากหนึ่งนัด  โลหิตพวยพุ่งจากรูบาดแผลอย่างสยดสยอง
    มันไหลซึมลงสู่ดวงตาครอเกลทั้งสองข้างจนแดงก่ำ

    ครอเกลจ้องมองยูร่าด้วยทัศนวิสัยที่พร่ามัว

    ยูร่าเป็นราวกับเทพีแห่งความตาย
    มือข้างหนึ่งกำดาบ  ส่วนมืออีกข้างกำลังเหนี่ยวไกปืนสั้น
    
    เมื่อเลเวลอัพถึงระดับ 300  
    ยูร่าได้ครอบครองทักษะที่ชื่อว่า 
    ‘ถืออาวุธสองมือ’
    
    “…น่าสนใจดีนี่”

    หลังจากถูกโจมตีอย่างเสียท่าถึงสองครั้งซ้อน  ร่างกายครอเกลพลันห่อหุ้มด้วยปราณดาบสีฟ้าอันงดงาม
    
    ปัจจุบัน  ครอเกลยอมรับให้ยูร่าเป็น ‘คู่ต่อสู้’ ระดับเดียวกับกริด

    แต่น่าเสียดาบ  ปราณดาบอันทรงพลังของครอเกลกลับต้องไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้ายูร่า

    “มิติขุมนรก”

    ยูร่าประเมินแล้วว่า  ตนมิอาจเอาชนะการดวลกับอริยดาบในระยะประชิดได้แน่
    เธอตัดสินหายตัวเข้าไปในประตูมิติที่กำลังเปิดออก  
    หากสร้างระยะห่างด้วยทักษะมิติขุมนรกที่ลบตัวตนโดยสมบูรณ์  ครอเกลจะไม่สามารถใช้ใช้ทักษะอ่านใจเพื่อชิงความได้เปรียบจากเธอ

    ยูร่าสามารถเคลื่อนย้ายมิติได้ดั่งใจนึก
    ในวินาทีที่แสงสีแดงกลืนกินร่างยูร่าโดยสมบูรณ์  เธอได้หายไปจากโลกนี้ราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

    แถมทักษะดังกล่าวก็มีเงื่อนไขใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก  ไม่ต้องร่ายนาน  สามารถแสดงผลได้ทันทีเมื่อเรียกใช้
    
    “…นักล่าอสูร”    

    ครอเกลพึมพำขณะยืนจ้องมองประตูมิติสีแดงที่กำลังเลือนหายไป

    เขากำลังรู้สึกแบบเดียวกันเมื่อครั้งเผชิญหน้ากริดหนแรก

    ทันใดนั้น…

    “เฮ—!!”

    “ยูร่า!!  ยูร่า!!  ยูร่า!!”

    “เทพธิดาของพวกเรากลับมาแล้ว!!”

    หลังจากกลายเป็นคลาสเกรดเลเจนดารี  ตัวตนของเธอก็เลือนหายไปจากจิตใจผู้คนทีละน้อย  บรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวสมัยเป็น ‘แม่มดโลหิต’ ไม่หลงเหลืออีกต่อไป
    
    แต่ปัจจุบันไม่ใช่ 

    เธอกลับมาผงาดอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่  
    …ด้วยการฝากบาดแผลฉกรรจ์กลางหน้าผากแก่อริยดาบ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,189
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous