จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 742

    ‘อะไรกัน?'’

    ในวินาทีที่กริดหยิบหนังสือออกมาถือในมือซ้าย  เฮ่าพลันขนลุกซาบซ่านไปทั่วร่าง
    เขารู้จักตัวตนของหนังสือเล่มนี้ดี… 

    ‘คัมภีร์…!’

    ชิ้ง— 

    ร่างกายกริดถูกห้อมล้อมด้วยแสงสว่าง
    บาดแผลจากการดวลอันดุเดือดเมื่อครู่พลันมลายหายไปหลายส่วน
    
    นัยน์ตาเฮ่าเริ่มสั่นระริก

    ‘กริดเป็น…นักบวช?’

    ในหน้าต่างเลือกตัวละคร  เฮ่าประเมินค่านักบวชไว้ต่ำมาก  
    จอมเวทจะเก่งกาจมากหากได้ครอบครองไม้เท้า  ส่วนนักสร้างจะสามารถผลิตลูกธนูได้ไม่มีวันหมด
    
    ทั้งสองคือสุดยอดคลาสที่เฮ่าเล็งไว้

    โดยเฉพาะนักสร้าง  เฮ่ามั่นใจอยู่หลายส่วนว่าคนเช่นกริดต้องเลือกนักสร้าง
    
    ผู้คนทั่วโลกล้วนคิดเช่นนี้
    จะยังมีคลาสใดเหมาะกับช่างตีเหล็กในตำนานไปกว่านักสร้างอีกหรือ?

    แต่ทำไมกริดถึงเลือกนักบวช…? 

    เฮ่าพลันกลืนน้ำลายอึกใหญ่

    ‘กริด…หรือว่านายคาดเดาได้ตั้งแต่แรก?’

    ในหน้าต่างสร้างตัวละคร  เฮ่าอาจประเมินนักบวชไว้ต่ำมากก็จริง  แต่ทันทีที่ถูกส่งเข้าสู่สนามต่อสู้  ความคิดของเฮ่าพลันต้องเปลี่ยนไป
    บนแผนที่มีการแสดงจุด ‘ศาลเจ้า’ ทุกแห่งไว้อย่างครบถ้วน  แถมยังมีจำนวนไม่น้อย

    ด้วยเหตุนี้  นักบวชจึงกลายเป็นคลายที่เก่งที่สุดในช่วงหลังอย่างไร้ข้อกังขา
    ทำไมน่ะหรือ?
    เพราะ ‘คัมภีร์’ ที่ทุกคนคิดว่าต้องพึ่งพาดวงอย่างมาก  กลับสามารถรวบรวมได้เป็นจำนวนมากหากมีกลยุทธ์ที่ดีพอ
    
    นักบวชไม่มีขีดจำกัดจำนวนคัมภีร์ที่พกพาติดตัว  คลาสนี้จึงสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหมด

    แต่ถึงจะรู้ตัวเมื่อสาย  เฮ่าก็ไม่ได้วิตกกังวลมากนัก  เขามั่นใจอยู่หลายส่วน  ว่าคงไม่มีใครในบรรดาแรงเกอร์ระดับท็อปที่เลือกเล่นคลาสนักบวชแน่

    ‘เราเคยคิดว่า…ไม่น่าจะมีใครล่วงรู้ความจริงของคลาสนักบวชตั้งแต่หน้าเลือกตัวละครได้’

    คำอธิบายเดียวเกี่ยวกับคัมภีร์คือ : คัมภีร์จะกระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาะ
    ไม่ได้ถูกระบุไว้ว่า  คัมภีร์สามารถหาได้รอบศาลเจ้าบนแผนที่

    แรงเกอร์คนอื่นคงประเมินค่านักบวชไว้ไม่สูงเหมือนตน
    แต่กริดกลับ… 

    เขาเลือกนักบวช

    ‘กริด…นายอ่านเกมขาดขนาดนี้เชียว  สมแล้วที่ฉันให้การยอมรับ  ขอชื่นชมจากใจจริง’

    เฮ่าทั้งทึ่งและหวั่นวิตกในเวลาเดียวกัน
    
    ปัจจุบัน  พลังชีวิตของเขาเหลือเพียง 7 หน่วย  ส่วนกริดเหลือมากถึง 15 หน่วยหลังจากอ่านคัมภีร์

    ‘เราต้องโจมตีให้โดนอีกถึง 15 ครั้ง’

    สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย  
    เฮ่าเริ่มมองเห็นโอกาสพ่ายแพ้อย่างเลือนลาง

    แต่ถึงกระนั้น  เขาก็ไม่คิดถอดใจ

    ‘ยังมีโอกาส…กริดน่าจะรวบรวมคัมภีร์ได้เพียงเล่มเดียว’

    หากโจมตีแลกกับกริดด้วยอัตราสองต่อหนึ่ง  ตนก็ยังมีโอกาสเป็นฝ่ายชนะ
    และปัจจุบัน  เฮ่าเริ่มคุ้นชินกับจังหวะเท้าของวิชาดาบแพ็กม่าแล้ว

    ‘กริดจะหลบหลีกซ้ายขวาเมื่อใช้ร่ายรำหรือคลื่น  และทำการแทงได้รวดเร็วเมื่อใช้ท่าสังหาร
    ขณะใช้ท่าวังวน  กริดจะไม่โจมตีเข้ามา  ส่วนท่าที่ใช้ประชิดตัวคือทำลายล้าง’

    เฮ่าคือผู้ฝึกศิลปการต่อสู้  เขาเป็นปรมาจารย์ด้านนี้
    อาจรู้สึกเหมือนการต่อสู้ผ่านไปนาน  แต่ทั้งสองเพิ่งโจมตีใส่กันได้เพียงสิบกว่าครั้งเท่านั้น  

    ภายในเวลาที่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีนี้  เฮ่ากลับอ่านการเคลื่อนไหวกริดได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

    เฮ่าฝึกฝนวิชาต่อสู้จนมีสายตาที่สามารถมองเห็นภาพได้ช้ากว่าคนอื่น
    นี่คือสาเหตุที่เฮ่าสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของการดวลในซาทิสฟาย

    เป็นดังที่คนทั่วโลกยกย่อง
    หากไม่พึ่งพาพลังของไอเท็ม  เกรงว่าคงมีเพียงเฮ่าที่สามารถดวลกับครอเกลได้อย่างสูสี

    ปัจจุบัน  เฮ่าเข้าใจรูปแบบการโจมตีของกริดอย่างถ่องแท้
    เขามั่นใจ  ชัยชนะต้องตกเป็นฝ่ายตนแน่นอน

    ขณะเดียวกัน

    ฟุ่บ!

    กริดพุ่งตัวมาด้านหน้า
    การทิ้งน้ำหนักไม่เหมือนกับท่าพุ่งตัวธรรมดา
    คงเป็นจังหวะเท้าของ ‘สังหาร’ หรือไม่ก็ ‘ทำลายล้าง’
    เมื่อตัดความเป็นไปได้ออก  เฮ่าก้าวเท้าขวาไปด้านหน้าเพื่อเตรียมรับมือ
        
    สังหารและทำลายล้างล้วนเป็นท่าโจมตี
    สังหารเป็นการแทง  ส่วนทำลายล้างเป็นการฟันประชิดตัว

    เพียงก้าวเท้าขวา  เฮ่าสามารถรับมือการทั้งสองได้หมดจด
    
    จากนั้น  กริดพุ่งตัวมาด้านหน้าต่ออีกหนึ่งก้าว  เป็นท่าประชิดตัวไม่ผิดแน่

    ‘ทำลายล้าง!’

    เฮ่าอ่านออก  
    แต่ด้วยความที่พลังชีวิตเหลือน้อยกว่า  เขาจึงไม่กล้าเสี่ยงโจมตีแลก  เฮ่าอาศัยการก้าวเท้าถอยหลังเพื่อรักษาระระห่าง

    ขณะเดียวกัน…

    วืด!
     
    ดาบในมือกริดเหวี่ยงโดนอากาศในจุดที่เฮ่าเคยยืน  เมื่อได้ถือดาบยาว  การโจมตีของกริดราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
    ทั้งเฉียบคม  ว่องไว  และไม่สั่นคลอน
    
    เป็นดาบที่ดีมาก  

    เฮ่าฉีกยิ้มเมื่อตนหลบพ้น

    ‘จังหวะนี้แหละ!’

    ได้เวลาสวนกลับ    
    เฮ่าสืบเท้าขวาไปด้านหน้าเพื่อเตรียมแทง  หอกในมือพลันทะลวงเป็นเส้นทรงด้วยระยะทางที่สั้นที่สุด  ปลายหอกถูกเล็งแทงใส่หัวใจกริดอย่างแม่นยำ

    เฮ่ามั่นใจว่าเข้าเป้าแน่นอน  

    แต่ว่า…
    กริดที่ฟันวืดและควรจะเสียการทรงตัวไปชั่วขณะ  ปลายดาบกลับชะงักกลางอากาศอย่างน่าทึ่งราวกับเตรียมยั้งมือไว้ล่วงหน้า

    ขณะเฮ่าส่งตัวเองเข้ามาใกล้กริดเพื่อออกแรงแทงหอก

    ดาบในมือกริดพลันตวัดขึ้นในพริบตา
    เลื้อยแทงใส่ทรวงอกของเฮ่าอย่างแม่นยำราวกับอสรพิษ

    ทำลายล้างสังหาร… 
    วิชาดาบที่ผสานท่าแทงและฟันอย่างลงตัว

    ‘อะไรกัน…?’

    ฉึก!

    หอกในมือเฮ่าแทงทะลวงหน้าอกกริด

    ฉึก!

    ดาบในมือกริดเสียบเข้าหัวใจเฮ่าอย่างแม่นยำ

    แลกกันหนึ่งต่อหนึ่ง
    แต่ของจริงกำลังจะเริ่มจากนี้ 

    กริดได้เปรียมเต็มประตู  เขาประชิดตัวเฮ่าสำเร็จ  เป็นระยะสังหารของดาบและระยะอ่อนแอของหอกในเวลาเดียวกัน

    ก่อนที่เฮ่าจะดึงหอกกลับ  กริดเป็นฝ่ายเปิดการโจมตีหนที่สองก่อน
    สิ่งนี้มิใช่ความเร็วโจมตี  หากแต่เพราะความยาวอาวุธที่แตกต่าง
    
    ฉัวะ—

    “อั่ก…!”     

    เฮ่าพยายามหลบดาบกริดที่ฟันซ้ำเข้าหา  ถึงกระนั้นกลับยังเฉือนโดนหัวไหล่จนเลือดไหลซิบ

    ในสนามต่อสู้  
    ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเพียงแผลถลอก  หรือการโจมตีใส่หัวใจโดยตรง
    ขอให้สัมผัสโดนร่างกายอีกฝ่าย  ระบบจะสร้างความเสียหายแบบตายตัวอย่างเท่าเทียม

    ในระยะพัวพันประชิดตัวเช่นนี้  หากเฮ่าสลัดกริดไม่หลุด  สถานการณ์คงยากลำบากสำหรับเขา

    ขณะกริดกำลังดึงดาบกลับ  เฮ่าพร้อมเตรียมแทงหอกที่สอง

    เขาโดนกริดนำอยู่ครึ่งก้าว 
    เฮ่าพยายามรักษาความเยือกเย็นให้มากที่สุด

    หากการแทงครั้งนี้เข้าเป้า  พวกเขาจะเสมอกันที่ 2 ต่อ 2 ในการดวลระลอกใหม่
    ด้วยเหตุนี้  เฮ่าจึงไม่หวั่นวิตกมากนัก
    
    ทว่า…มันกลับพลาดเป้า

    เคร้งงง— 

    ในวินาทีที่หอกเฮ่ากำลังจะเสียบทะลุหน้าอกกริด  กริดรีบบิดข้อมือตวัดดาบยาวที่ตนกำลังดึงกลับ 
    หอกเฮ่าถูกปัดจนสูญเสียวิถีการแทง

    นี่คือจังหวะเท้าของวังวน

    ‘ได้ยังไง?’

    ดวงตาเฮ่าพลันกระตุก…
    นี่ตนคำนวณความเร็วของกริดผิดไปงั้นหรือ? 

    ไม่เพียงการเคลื่อนไหวจะเฉียบคมมากขึ้น  แม้แต่จังหวะรำดาบก็ยังรวดเร็วขึ้นด้วย… 

    ผู้ชมทางบ้านอาจสัมผัสถึงความแตกต่างไม่ได้จากหน้าจอทีวี

    แต่สำหรับเฮ่าผู้มีดวงตาที่มองเห็นทุกสิ่งช้าลง  มันช่างเด่นชัดจนน่าทึ่งเหนือคำบรรยาย

    เฮ่าอาจลืมไปแล้ว…
    แต่ตัวตนกริดที่เฮ่าวิเคราะห์อย่างทะลุปรุโปร่งก่อนหน้า  นั่นเป็นกริดในร่างกระบอง  
    
    มิใช่ในร่างดาบ
    
    ข้อมูลเก่าไม่สามารถใช้ได้กับเหตุการณ์ปัจจุบัน

    ชายที่คำนวณทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์แบบในหัว  เมื่อมีตัวแปรไม่คาดฝันเกิดขึ้น  เขาจึงถูกลงโทษสถานหนัก
    
    เฮ่าได้แต่ขมวดคิ้วอย่างสับสน

    “ฟู่ว…กะแล้วเชียว  การรำดาบก็ต้องคู่กับอาวุธประเภทดาบเท่านั้น  ไม่เหมาะกับกระบองเลยสักนิด”

    คำพูดจากปากกริดทำให้เฮ่าเริ่มตาสว่าง

    ใช่แล้ว…
     กริดเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อจับดาบ
    นี่คือพรสวรรค์ที่แท้จริงโดยปราศจากไอเท็มซาทิสฟาย

    ‘ถ้าเรามีดาบบ้างล่ะก็…ผลคงออกมาตรงกันข้ามแน่’
    
    เฮ่าตัดพ้อ

    ตั้งแต่ก่อนขอท้าดวล  กริดมั่นใจว่าเฮ่าเป็นศัตรูที่เอาชนะได้ยาก  หากตนยังใช้กระบองอยู่  โอกาสชนะคงเหลือไม่ถึงครึ่ง

    ด้วยเหตุนี้  กริดจึงเล็งดาบไว้ตั้งแต่แรก
    
    กลับกัน  เฮ่าได้ประเมินกริดเป็นดาเมี่ยน  เขาจึงมองว่าอีกฝ่ายมีระดับต่ำกว่าตนพอสมควร

    แค่หอกก็เพียงพอแล้ว  
    เฮ่าเคยคิดเช่นนี้

    ‘ทุกสิ่งเกิดจากความประมาทของเรา’

    เฮ่าเริ่มตระหนักถึงความผิดพลาดที่ตนก่อ
    กริดสู้อย่างถ่อมตนและประเมินศัตรูไว้สูงกว่า  ส่วนเฮ่าสู้โดยทรนงว่าตนเหนือชั้น

    ความแตกต่างในตอนต้น  ได้นำพาให้สถานการณ์ดำเนินมาถึงจุดปัจจุบัน
    เฮ่าคิดและปักใจเชื่อเช่นนี้

    แต่ความจริงนั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย

    เฮ่าคืออัจฉริยะที่สามารถใช้งานอาวุธได้ทุกชนิด  ไม่ว่าจะอาวุธใด  เฮ่าสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญและไม่รู้สึกติดขัด  
    สิ่งนี้คือพรสวรรค์ส่วนตัว
    และนั่นคือเหตุผลที่เฮ่าไม่ใส่ใจว่าตนกำลังถืออาวุธใดในมือ

    ทว่า…กับกริดแล้วไม่ใช่
    แม้จะถืออาวุธได้ทุกชนิดในซาทิสฟายเหมือนเฮ่า  แต่วิชาดาบแพ็กม่าได้จำกัดให้กริดต้องใช้ดาบเพียงอย่างเดียว
    หรือในอีกความหมายหนึ่ง  กริดแทบไม่มีความเคยชินในอาวุธด้านอื่น        

    การกวัดแกว่งกระบองจะทำให้กริดรู้สึกติดขัดและไม่มั่นใจ  เป็นสาเหตุที่ชายหนุ่มขวนขวายหาดาบเหนือสิ่งอื่นใด

    บางที  เขาอาจต้องการดาบมากยิ่งกว่าคัมภีร์

    คนหนึ่งมีพรสวรรค์เปี่ยมล้น
    ส่วนอีกคนหนึ่งปราศจาก

    เส้นกั้นแบ่งคนทั้งสองอยู่ที่ตรงนี้
    ไม่ใช่เพราะกริดถ่อมตนอย่างที่เฮ่าคิด    
    เป็นความจริงที่มีเพียงกริดเท่านั้นที่รู้

    ‘เราชนะไม่ได้แน่…’

    หากเป็นซาทิสฟาย  หลายปัจจัยคงแตกต่างออกไป  แต่ที่นี่คือสนามรบซึ่งสร้างความเสียหายได้ตายตัวทีละหนึ่งหน่วย
    การพลิกสถานการณ์ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น  โดยเฉพาะกับคู่ต่อสู้ที่สูสี

    เฮ่าเริ่มสัมผัสความพ่ายแพ้ได้ชัดเจนขึ้นเมื่อกริดใช้วิชาดาบผสานสองท่า

    กริดไม่เคยทำมันได้ตอนถือกระบอง

    ‘ด้วยร่ายกายเลเวลสิบที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้…เหตุใดกริดถึงสามารถควบคุมดาบได้ดั่งใจนึก?’  

    เฮ่ายิ้มเจื่อน
    
    ‘คงเพราะกริดมีพรสวรรค์ระดับเดียวกับครอเกลกระมัง…’

    เฮ่าอาจไม่รู้  
    แต่บนหมู่เกาะเบเฮนหลัก 30 ที่จำลองเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต
    ทั่วโลกมีเพียงผู้เล่น 2 เท่านั้นที่สามารถผ่านเกาะหลัก 30 ไปได้

    กริดและแอ็กนัส 

    กริดใช้เวลากับร่ายกายสมัยเด็กของซาทิสฟายอยู่หลายวัน  นานถึง 10 เกาะเต็ม
    ทั้งสู้กับกระต่าย  ทั้งฝึกทหารกองหนุน  
    เขาคุ้นชินร่างกายที่ห่วยแตกได้ดีกว่าเฮ่ามาก
    กริดเริ่มหาวิธีปรับใช้วิชาดาบแพ็กม่าในร่างเด็กมาตั้งแต่ตอนนั้น

    แต่เฮ่ากลับคิดว่าเป็นพรสวรรค์ของกริด    

    ไม่ใช่เลยสักนิด…มันคือความพยายามที่ไม่ย้อท้อต่างหาก

    เฮ่าตัดสินใจทิ้งอาวุธ

    “ฉันแพ้แล้ว…ฆ่าฉันได้เลย”

    “หือ?”
    กริดขมวดคิ้วฉงนเมื่อศัตรูตัดสินใจยอมแพ้

    “ทำไมนายถึงรีบยอมนัก?  ถึงจะแพ้ก็จริง  แต่ก็ควรสร้างความเสียหายให้มากที่สุดมิใช่หรือ?”

    “ถ้าฉันเกลียดนาย…ฉันคงทำแบบนั้นแน่”

    เฮ่าชื่นชมในตัวกริดอย่างมาก
    หากครอเกลคือชายที่มีพรสวรรค์เหนือจินตนาการ
    กริดก็เป็นชายที่มีความมุมานะเหนือจินตนาการเช่นกัน

    นั่นคือสาเหตุที่เฮ่าถ่อไปถึงเกาหลีใต้เพื่อขอให้กริดช่วยกล่อมครอเกล
    
    และท้ายที่สุด  ในเมื่อรู้ตัวว่าแพ้แน่
    เฮ่าไม่ต้องการให้กริดได้รับบาดเจ็บไปมากกว่านี้
    เขาต้องการส่งเสริมกริด  มิใช่เหนี่ยวรั้งกริดให้ตกที่นั่งลำบาก    

    เมื่อสัมผัสถึงความจริงใจของอีกฝ่าย  
    กริดพลันฉีกยิ้มกว้าง

    “นายคือป็อนสินะ…ขอบคุณมาก”

    “…”

    อีกฝ่ายไม่รู้ตัวจริงของตนแม้จะสู้กันโดยเอาชีวิตเข้าแลกเนี่ยนะ?
    เฮ่าพลันผิดหวังที่อีกฝ่ายมิได้เอ่ยชื่อตนออกมา

    ‘ทักษะของเรายังบกพร่องอยู่มาก…’

    ในอดีต  เฮ่าเคยดวลกับกริดมาแล้วหนหนึ่ง  หากฝีมือของตนโดดเด่นจริง  กริดก็ต้องจดจำได้ตั้งแต่แวบแรก
    แต่เขากลับไม่เอ่ยชื่อเฮ่าออกมา

    สิ่งนี้หมายความว่า  เพลงหอกของตนมิได้เข้าตากริดเลยสินะ  เฮ่าตำหนิตัวเองอย่างหนักที่ไม่สามารถรีดฝีมือที่แท้จริงด้วยร่างกายแสนเชื่องช้า

    ทำไมกริดถึงทำได้
    แต่เขาทำไม่ได้
    
    ทว่า...นั่นไม่ใช่สิ่งที่กริดต้องการจะสื่อเลยสักนิด  การที่กริดเรียกเฮ่าผิดเป็นป็อน  
    มิใช่เพราะเพลงหอกที่เฮ่าสำแดงออกมาไม่เข้าขั้น

    ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    “ฉันเดาถูกรึเปล่า?  นายคือป็อนใช่ไหม?  ไม่มีใครในโลกที่ใช้หอกเก่งกว่าป็อนอีกแล้ว”

    “…ฮะฮะ  ผิดแล้ว” 

    เฮ่าฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

    “ฉันคือเฮ่า”

    ***

    ===  เฮ่าทำตัวน่าสมเพช!

    ===  ยอมแพ้โดยไม่สู้ให้ถึงที่สุด…แกมันความอับอายของประเทศจีน! 

    ผู้ชมชาวจีนย่อมเดือดดาลเป็นพิเศษ
    เป็นอีกครั้งที่แรงเกอร์อันดับหนึ่งของชาวจีนกล่าวยอมแพ้ผู้เล่นจาก ‘ประเทศเล็ก’
    
    ===  เฮ่าควรถูกขับไล่ออกจากจีน!

    ===  ถูกต้อง!!  ยอมไม่ได้เด็ดขาด!!  เป็นถึงตัวแทนจากพลเมืองกว่า 1.5 พันล้านของจีน  แต่กลับคุกเข่ายอมแพ้ต่อหน้าแรงเกอร์เกาหลีใต้!!  ทั่วโลกกำลังเฝ้ามองฉากนี้ด้วยความดูแคลน!!

    ===  ขับไล่เฮ่า!!

    ===  ส่งมันออกไป!!

    ช่องแชทของรายการถ่ายทอดสดในประเทศจีนกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก  ผู้ชมชาวจีนได้แสดงความเกรี้ยวกราดไปทั่ว

    แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยของชาวจีน  
    มิใช่ว่าทุกคนจะคิดแบบเดียวกัน
    บางส่วนเห็นใจและสงสารเฮ่าที่ถูกชาวจีนรุมถล่ม

    ===  เฮ่าน่าสงสารจัง

    ===  นั่นสิ

    เฮ่าสร้างชื่อเสียงและคุณงามความดีใดให้ชาวจีนบ้าง…?
    คำตอบคือนับไม่ถ้วน 
    
    ก่อนกริดจะปรากฏตัว  เฮ่าคือที่หนึ่งของเอเชียอย่างไร้ข้อกังขา
    ในซาทิสฟายเขาคือจ้าวแห่งการดวล  
    
    จ้าวแห่งการต่อสู้ทั้งปวง
    ฉายา ‘อัจฉริยะแห่งการต่อสู้’ มิได้มาเพราะโชคช่วย
    แม้ยูร่าอาจเคยมีอันดับโลกดีกว่าเฮ่า  แต่นั่นเป็นเรื่องของเลเวล  มิใช่ฝีมือการต่อสู้
    แล้วเหตุใด  เฮ่าถึงถูกคนในประเทศขับไล่อย่างง่ายดายเช่นนี้?
    
    === สาเหตุที่คนกลุ่มนี้โมโหมากเป็นพิเศษ  คงเพราะอีกฝ่ายคือกริดกระมัง?  ชาวจีนบางส่วนมักดูแคลนชาวเกาหลีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
        
    === ทำไมถึงต้องเอาประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย?  นี่มันรายการเดี่ยวที่ไม่ส่งผลต่อเหรียญทองสักหน่อย

    === นั่นสิ  การดวลของคนสองคน  ไม่สมควรนำประเทศมาเกี่ยวอย่างยิ่ง

    ขณะผู้ชมชาวจีนกำลังเกรี้ยวกราดและตำหนิเพื่อนร่วมชาติไปพร้อมกัน
    ทางฝั่งเกาหลีใต้  ผู้ชมภายในประเทศกำลังมีความสุขสุดขีด

    === ก็อดกริดสำแดงเดชอีกแล้ว ㅋㅋㅋㅋ เขาคืออัจฉริยะตัวจริง

    === DNA เกมเมอร์เกาหลีใต้จงเจริญ!!  แม้จะมีประชากรไม่มาก  แต่พวกเราก็มีกริด!!

    === ฉันชอบกริดมาก…เป็นเพราะกริด  ฉันจึงมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูการแข่งนานาชาติ

    === เดี๋ยวนะ…นั่นมัน?

    === แย่ล่ะสิ 

    ผู้ชมที่กำลังรับชมถ่ายทอดสด  บัดนี้เริ่มแสดงสีหน้าหวั่นวิตก
    ขณะเฮ่ากล่าวยอมแพ้  แรงเกอร์ชาวออสเตรเลียคนหนึ่งกำลังซุ่มเล็งธนูไปยังกริดจากพุ่มไม้
    
    และเมื่อกริดเผลอ

    === หลบเร็วเข้า!

    === ข้างหลัง!!

    ไม่ว่าช่องแชททั่วโลกจะพิมข้อความหรือตะโกนเสียงดังเพียงใด  สิ่งเหล่านั้นย่อมส่งไปไม่ถึงกริด

    กริดกำลังลังเลที่จะสังหารเฮ่า  ผู้ซึ่งยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้ว
    
    การแข่งครั้งนี้มีจำนวนผู้ชนะได้สามคน  หมายความว่า  หากตนและเฮ่าร่วมมือกัน… 
        
    ทันใดนั้น
    
    ฟุ่บ!

    ศรลึกลับถูกยิงจากพุ่มไม้  มันเสียบปักหลังกริดอย่างไม่พลาดเป้า

[ ท่านได้รับความเสียหาย 2 หน่วย ]

    “อั่ก…!”

    เป็นความเสียหายที่รุนแรงมาก
    กรีดรีบหันไปมองในทิศทางที่ลูกศรพุ่งออกมา

    “รับนี่ไป…ในเมื่อนายชนะฉันได้  นายก็ต้องชนะการแข่งนี้ให้ได้ด้วย”

    เฮ่ามอบคัมภีร์สีฟ้าเล่มหนึ่งให้กริด  จากนั้นก็ปรี่ไปยังพุ่มไม้ด้วยความเร็วสูง

    ฉึก!

    ศรดอกที่สองปักอกเฮ่าอย่างจัง  พลังชีวิตของเขาเหลือเพียงสามหน่วย
    หน้าจอการมองเห็นของเฮ่ากลายเป็นสีแดงกระพริบวูบวาบ

    ถึงกระนั้น  ชายคนนี้กลับมิได้ชะงักแม้แต่น้อย  หอกในมือรัวแทงใส่แรงเกอร์ปริศนาด้วยความแม่นยำ

    “บัดซบ!!  ทำไมพวกนายถึงไม่ฆ่ากันเอง?”    

    แรงเกอร์ชาวออสเตรเลียโพล่งขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อถูกหอกแทง
    มันเองก็ได้รับบาดเจ็บหนักจากการปะทะกับแรงเกอร์คนอื่นก่อนหน้า
    พลังชีวิตจึงเหลืออยู่ไม่มาก
    
    ฉึกฉึก!

    ฉึก!

    เฮ่าและแรงเกอร์ออสเตรเลียต่างแลกหมัดจนกลายเป็นแสงสีเทาไปพร้อมกัน

    “เฮ่า…!!”

    ต้องขอบคุณเฮ่า  กริดจึงฟื้นฟูพลังชีวิตจนพ้นขีดอันตราย
    
    ปัจจุบัน  เหลือผู้เข้าแข่งในสนามต่อสู้เพียง 400 คน

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,181
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous