จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 745
28 นาทีก่อนสนามต่อสู้จะจบลง
เกาะซึ่งเป็นสนามต่อสู้ถูกทำลายไปแล้วเกือบหมด เหลืองเพียงเมืองเดียวที่มีชื่อว่า ‘ทรีออน’
ทรีออนเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีอาคารสูงหกชั้นจำนวนห้าหลัง และบ้านหนึ่งชั้นอีกราว 40 หลัง
ตามตรอกข้างอาคารมีกล่องและลังวางอยู่มากมาย ใจกลางจัตุรัสเป็นบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ ถนนสองข้างทางเปี่ยมด้วยจุดหลบและกำบัง
ตึกหกชั้นทั้งห้าหลังมีราวตากผ้าเป็นลวดขึงโยงเชื่อมระหว่างกัน บนราวมีผ้าผืนใหญ่กำลังถูกตากไว้มากมาย
เฉกเช่นผู้เหลือรอดคนอื่น กริดจำจ้องหลบซุ่มในพุ่มไม้อย่างไม่มีทางเลือก
‘โอกาสชนะมีต่ำมาก’
ทำไมน่ะหรือ?
เพราะทีมของกริดมีเพียงจิสึกะ แต่ทีมอื่นล้วนจับกลุ่มกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป
บางทีมมีมากถึงห้าคน
‘คงเหลือแต่แรงเกอร์ระดับท็อปแล้ว…’
หากคำนึงว่ายังมีครอเกล คริส หรือป็อน ลำพังกริดมิอาจพลิกสถานการณ์จากคนเหล่านี้ได้แน่
ปัจจุบัน จำนวนคนคือสิ่งสำคัญที่สุดในสนามรบอย่างไร้ข้อกังขา
และเหนืออื่นใดทั้งหมด ขนาดของเกาะที่เหลืออยู่นั้นแสนคับแคบ
‘แทบไม่มีจุดซุ่มยิงเลยแฮะ…’
กริดเป็นนักบวช
ผู้ทำหน้าที่ซุ่มยิงจึงเป็นอื่นไปมิได้นอกจากนักรบจิสึกะ เธอมีลูกศรในครอบครองมากถึง 136 ดอก
ในทางทฤษฏีตัวเลข ลูกศรจำนวนเท่านี้สามารถรับมือกับผู้เล่นที่เหลือได้ไม่ยาก
แต่ธนูคืออาวุธที่ต้องรักษาระยะห่างเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
‘หากหวังให้จิสึกะแสดงฝีมือ…พวกเราหาทางต้องขึ้นตึกสูง’
การลอบเข้าตึกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ทันทีที่จิสึกะเริ่มซุ่มยิงจากชั้นบน ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือย่อมไม่มีทางปล่อยให้เธอให้ลอยนวล
‘เรามีหน้าที่ปกป้องบันได’
ทว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บันไดเพียงอย่างเดียว
ลวดที่ขึงราวตากผ้าระหว่างตึก สิ่งนี้สามารถใช้ปีนป่ายเพื่อเข้าถึงตัวจิสึกะได้จากอาคารอีกฝั่ง
ลำพังคนเดียวกริดไม่สามารถรับมือได้ทุกทางพร้อมกันแน่
‘ให้ปกป้องบันไดอย่างเดียวยังยาก…’
ทีมกริดเสียเปรียบด้านจำนวนคน ส่งผลให้จิสึกะไม่สามารถแสดงฝีมือธนูได้ถนัดนัก
ลงเอยด้วย กริดตัดสินใจหลบซ่อนต่อไปอีกสักพัก
‘ต้องซ่อนตัวเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม…’
แม้กระทั่งการซ่อนตัว จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จก็ไม่ง่ายนัก
มีหลายปาร์ตี้กำลังเล็งโจมตีกริดและจิสึกะเป็นลำดับแรก
เหตุผลก็ง่ายมาก เพราะปาร์ตี้พวกเขามีเพียงสอน ถือเป็นกลุ่มที่ถูกจัดการได้ง่ายที่สุด ณ เวลานี้
ทันทีที่เกิดความโกลาหล กริดและจิสึกะจะตกเป็นเหยื่ออารมณ์ทันที
‘ไอ้พวกชั่ว…ทำไมถึงได้เจ้าเล่ห์กันนัก?’
ปัจจุบัน กริดไม่ได้แสดงออกในทุกสิ่งที่ตนเองกำลังรู้สึก เขาเรียนรู้สิ่งนี้เมื่อต้องถูกกล้องของนักข่าวแอบถ่ายภาพอยู่บ่อยครั้ง
ไม่ว่าภายในใจจะเดือดดาลเพียงใด แต่ภายนอกกลับยังสงบนิ่งเยือกเย็น
ทันใดนั้น จิสึกะเริ่มพึมพำบางสิ่ง
“นั่นสินะ…ผู้เล่นที่เหลือรอดมาถึงจุดนี้ได้ ทุกคนล้วนมีฝีมือมากพอจะรวมกลุ่มกันต่อสู้…พวกเราลำบากแน่”
“มีฝีมือ?”
การจับกลุ่มสำเร็จหมายถึง ‘มีฝีมือ’ ไปได้อย่างไร?
“ทำไมการจับกลุ่มถึง…อ๊ะ!”
กริดพลันตระหนัก
‘เธอพูดถูก…การจับกลุ่มรวมกันได้ แปลว่าพวกเขาทุกคนล้วนมีความสามารถ’
ในสนามต่อสู้แห่งนี้ ไม่มี ‘กฏ’ ที่ห้ามรวมกลุ่มต่อสู้ และนั่นคือสาเหตุที่กริดตัดสินใจจับมือกับจิสึกะ
‘แต่ความจริงแล้ว…การตั้งทีมไม่ใช่เรื่องง่าย’
ศัตรูที่ไม่รู้จักตัวตนซึ่งกันและกัน จะต้องพูดจาชักจูงอย่างไรถึงจะยอมเชื่อใจ?
ไม่มีทางที่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง จะยอมร่วมมือกับคนแปลกหน้าอีกคนหนึ่งอย่างสนิทใจได้แน่
นอกเสียจากทั้งคู่ได้เห็นฝีมืออันน่าทึ่งของอีกฝ่าย จนเกิดความยอมรับในตัวของกันและกัน
จะเป็นฝีมือในรูปแบบก็ได้ทั้งสิ้น ไม่จำกัดว่าต้องเป็นด้านต่อสู้หรือกลยุทธวางแผน
ส่วนคนที่ไร้ฝีมือ กลุ่มเหล่านี้ย่อมไม่มีใครชักชวนเข้าทีมแน่…
กริดพลันสั่นระริกเมื่อเขาเริ่มตระหนักความจริง
‘เราเคยคิดมาตลอด…ว่าการจะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ เราต้องแสดงฝีมือควบคุมอย่างโดดเด่นเท่านั้น’
กริดขมวดคิ้ว
‘แต่ความเป็นจริงแล้ว การพิสูจน์ตัวเองสามารถแสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ’
กริดต้องการพิสูจน์ตัวเองมาโดยตลอด
ใช่แล้ว สนามต่อสู้แห่งนี้คือเวทีที่แรงเกอร์ระดับท็อปทุกคนใช้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
เกมการแข่งขันที่มีจุดเริ่มต้นเท่าเทียม
ในตอนต้น กริดต้องการพิสูจน์ตัวเองโดยการแสดงฝีมือควบคุมตัวละครอันโดดเด่น
แรงเกอร์ระดับอัจฉริยะคนอื่นก็ล้วนมีจุดประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน
กริดคิดมาตลอดว่า การแสดงทักษะต่อสู้ที่น่าทึ่ง คือสิ่งที่จะพิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็น ว่าตัวเขาก็มีฝีมือควบคุมไม่แพ้แรงเกอร์ระดับท็อปคนอื่น
ช่างโง่เขลา…
นี่ตนถูกผูกมัดกับคำว่า ‘ฝีมือควบคุม’ มาตั้งแต่ต้นงั้นหรือ…
กริดบังคับตัวเองให้ก้มหน้าก้มตาแสดงฝีมือด้านต่อสู้มาตลอด
แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว
ทักษะที่จำเป็นของแรงเกอร์ระดับท็อป มิใช่การทักษะด้านต่อสู้เพียงสิ่งเดียว
มันหลากหลายกว่า และมีมิติมากกว่านั้น
‘ฉันจะแสดงให้พวกนายเห็นเอง’
ตนมิได้อ่อนหัด
เขาจะแสดงให้คนทั้งโลกได้รับชมอย่างเต็มสองตา ว่าเหตุใด ‘ราชาโอเวอร์เกียร์’ ถึงมีสิทธิ์ยืนบนจุดสูงสุดของโลกซาทิสฟาย
กริดแสยะยิ้มชั่วร้ายเมื่อได้พบคำตอบที่ตัวเองตามหามาแสนนาน
ชายหนุ่มส่งเสียงตะโกนกึกก้องไปทั่วเมืองทรีออน
“ทุกคนจงฟัง!! ฉันจะสร้างไอเท็มให้กับทุกคนที่ยอมถอนตัวตั้งแต่ตอนนี้!!”
“…?”
ความเงียบสงัดพลันเข้าครอบงำสนามต่อสู้ ผู้เล่นที่หลบซ่อนหลังต้นไม้ต่างพากันขมวดคิ้วฉงน
พวกเขาหันมองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงง
‘เรื่องเหลวไหลอะไรกัน?’
‘หมอนั่นเสียสติแล้วรึไง?’
“ฉันคือราชาโอเวอร์เกียร์!!”
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย กริดตัดสินใจเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
เขาประกาศความเป็นช่างตีเหล็กในตำนานออกไป
กริดหวังจะใช้พลังนี้ในการพลิกกระแสสงครามปัจจุบัน
นี่คือ ‘สิ่งที่กริดทำได้เพียงผู้เดียว’
และเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ‘เหตุใดกริดถึงสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของผู้เล่นซาทิสฟาย’
“โอกาสหายากเช่นนี้…พวกนายมัวลังเลอะไรกันอยู่?”
กริดมั่นใจมาก มีน้อยคนในโลกที่กล้าตอบปฏิเสธไอเท็มจากตน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง
เริ่มเกิดเสียงฮือฮาในกลุ่มผู้เข้าแข่งที่เหลืออยู่
‘นั่นกริดหรือ?’
‘เจ้าบ้านั่น…อยากชนะจนต้องทำขนาดนี้เชียว?’
‘แต่ลองคิดดูให้ดี…กับการแข่งที่ไม่รับประกันชัยชนะ การยอมแพ้และได้รับไอเท็มจากกริดคงดีกว่าไม่ใช่หรือ?’
‘ถูกต้อง…โอกาสได้รับไอเท็มจากกริดไม่ใช่เรื่องง่าย มีโอกาสสูงที่จะเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารี’
‘กริดเก่งกาจขนาดสามารถสร้างไอเท็มชนิดเติบโตได้เชียวนะ…’
อึก…!
เหล่าแรงเกอร์ระดับไม่สูงมากต่างออกอาการลังเลอย่างหนักหนัก
พวกเขากำลังจะงับเหยื่อที่กริดวางไว้
『 … 』
ผู้บรรยายยังคงนิ่งเงียบ
หากมองจากสีหน้าของแรงเกอร์ที่เหลือรอดส่วนใหญ่ พวกเขาเตรียมใจยอมแพ้เรียบร้อยแล้ว
แต่จะไปกล่าวโทษคนเหล่านี้ก็ไม่ถูก โอกาสที่กริดหยิบยื่น สิ่งนี้หากันไม่ได้ง่ายนัก
『 ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้…? 』
ผู้บรรยากาศคนหนึ่งกล่าวแสดงความเห็นเพื่อทำลายความเงียบงัน
เขาต้องการบรรยกาศฉากการต่อสู้สุดระทึกและตื่นเต้นอย่างเร่าร้อน จึงไม่แปลกที่จะหัวเสียกับการกระทำของกริด
ุถึงกระนั้น เขาก็ไม่คิดต่อว่ากริด
กลยุทธ์ของกริดสามารถสยบผู้เข้าแข่งขันคนอื่นได้อย่างอยู่หมัด
สิ่งนี้ควรถูกชื่นชมและยกย่อง
『 ถึงจะไม่ชอบใจและไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น…แต่ผมก็ยอมรับในสติปัญญาของกริด 』
『 กริดฉลาดและมั่งคั่งมากพอที่จะประกาศกร้าวเช่นนี้ 』
『 เห็นด้วยครับ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าทักษะสร้างไอเท็มจะถูกนำมาใช้ซื้อใจศัตรูได้ด้วย ผมคิดไม่ถึงเลย 』
ปัจจุบัน ผู้เหลือรอดทุกคนกำลังอยู่ในการแข่งที่มีชื่อว่า ‘สนามต่อสู้’
มันจะไม่เอาเปรียบไม่หน่อยหรือ หากใครสักคนนำเรื่องราวในซาทิสฟายมาเป็นประเด็นต่อรอง?
ผู้คนมากมายขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย
แต่ว่ากันบนหลักพื้นฐานความเป็นจริง กฏมิได้ระบุไว้ว่าห้ามกระทำเช่นนี้
ขนาดฮิวรอยที่ตะโกนว่า ‘พ่อมึงตาย’ ก็ยังไม่ได้รับการลงโทษประการใด
ผู้เข้าแข่งทั้งหมดล้วนเป็นแรงเกอร์ซาทิสฟาย พวกเขาล้วนปรารถนาไอเท็มในเกม
และนั่นคือเหตุผลหลักที่ทุกคนเข้าร่วมการแข่งสนามรบ ซึ่งมีรางวัลเป็นไอเท็มจากซาทิสฟาย
กริดรับรู้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของคนเหล่านี้ เขาจึงนำมันมาใช้สั่นคลอนจิตใจผู้คน
=== ไม่มีใครทำแบบนี้ได้นอกจากกริด…
=== ต่อให้คนอื่นรู้วิธี แต่พวกเขาก็ทำตามไม่ได้
=== ถ้าไม่ใช่กริด จะมีใครที่สามารถสะกดผู้คนได้มากมายพร้อมกันเช่นนี้อีก?
=== เห็นด้วย
=== สุดยอด…กริดกำลังจะชนะโดยไม่ต้องออกแรงสู้
=== แม้ฉันจะพูดตั้งมาแต่ต้นแล้ว แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ากริดนั้นสุดยอด…ใครจะบอกว่ากริดไร้ฝีมือควบคุม? เขาเอาชนะเฮ่ามาได้เชียวนะ!! ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง กริดมีพร้อมทั้งความแข็งแกร่งและสติปัญญา เขาคือคนพิเศษในหมู่แรงเกอร์ระดับท็อป!!
=== สิ่งนี้เรียกว่าบารมีของจ่าฝูง มันคือรากฐานที่ทำให้กริดได้เป็นกษัตริย์คนแรก ดูเหมือนกริดที่พวกเรารู้จักกับกริดตัวจริงจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
=== นายพูดถูก วิดีโอเพียงไม่กี่วินาทีของกริดในการแข่งปีที่แล้ว ไม่สามารถบรรยายความสุดยอดของชายคนนี้ได้หมด
=== กริดคือจ่าฝูงที่มีบริวารระดับสุดยอดคอยเคียงข้าง…
=== ทุกคนต่างจงรักภักดีต่อกริด ไม่เชื่อลองดูเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์สิ พวกเขาไม่เคยคิดทรยศกริดแม้แต่คนเดียว
=== ถ้าจำไม่ผิด สันตะปาปาดาเมี่ยนก็ชื่นชอบกริดสินะ?
คำสรรเสริญเยินยอยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณค่าที่แท้จริงของกริดกำลังถูกสำแดงให้เห็นไปทั่วโลก
=== ฉันคิดว่าคงไม่มีใครโง่พอจะตอบปฏิเสธข้อเสนอนี้…
กริดถือกำเนิดใหม่ในฐานะตัวตนที่ทุกคนยกย่อง ระดับเดียวกับครอเกลที่เขาไล่ตามมาแสนนาน
***
“ว่ายังไง? จะยอมแพ้หรือสู้กันต่อ?”
กริดไม่มีทางรับรู้สถานการณ์ภายนอก
สมาธิทั้งหมดกำลังเพ่งอยู่กับสนามต่อสู้เบื้องหน้า กริดคาดหวังให้ผู้เล่นทั้ง 30 คนนอกจากจิสึกะยอมจำนนแต่โดยดี
‘คงมีเพียงส่วนน้อยที่กล้าปฏิเสธ’
กริดมั่นใจว่าไอเท็มจากตนมีมูลค่าสูงถึงเพียงนั้น เขาจึงกล้าใช้มันเป็นเครื่องต่อรองและสยบแรงเกอร์ทุกคนจนอยู่หมัด
มันต้องสำเร็จแน่
ไม่มีผู้เล่นคนใดกล้าปฏิเสธไอเท็มที่ช่างตีเหล็กในตำนานสร้าง
แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายดาย
หากไม่นับจิสึกะ จากบรรดาทั้ง 30 คนที่เหลือรอด มีผู้เล่นที่เป็นขุนพลโอเวอร์เกียร์มากถึง 14 คน
เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์สามารถจ้างกริดสร้างไอเท็มได้ทุกเมื่อ
ต่อให้ไม่ยอมแพ้ในตอนนี้ก็ตาม
และนั่นคือจุดที่กริดมองข้ามไป เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เขายังประเมินสถานการณ์ไม่รอบด้านมากพอ
ความสำเร็จคือสิ่งที่ต้องไขว่คว้าแย่งชิง
เฉกเช่นกริดที่ต้องการชัยนะ เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ก็ไม่ต่างกัน
“นั่นเป็นกริดตัวปลอม!”
ลอเอลโพล่งขึ้นเสียงดัง
“ไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ว่านั่นคือกริด!! ทุกคนห้ามถูกหลอกเด็ดขาด!!”
ลอเอลชื่นชอบกริดมาก เขาต้องการเป็นลูกน้องกริดไปชั่วชีวิต
นี่คือความจริงจากส่วนลึกของหัวใจลอเอล และเป็นสาเหตุที่ลอเอลอยู่เคียงข้างกริดมาตั้งแต่ต้น เขาคือผู้เนรมิตรให้กริดมีทุกสิ่งทุกอย่างเฉกเช่นปัจจุบัน
แต่ลอเอลสามารถแยกแยะความสำคัญระหว่างเรื่องส่วนตัวและภาระหน้าที่ เขาไม่คิดจะโยนชัยชนะในสนามรบให้กริดอย่างง่ายดายเพียงเพราะตนชื่นชอบ
ลอเอลเองก็ต้องการชัยชนะ
ความพ่ายแพ้ของกริดไม่ได้ทำให้ตัวกริดตกต่ำลง และมิได้ทำให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถึงกับล่มสลาย
ลอเอลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งนี้ เขาคือกุนซือจ้าวกลยุทธ์ที่ไม่เคยยอมแพ้ในศึกใดหากไม่จำเป็น
ลอเอทำเพื่อตัวเองและชาวอเมริกัน
ไม่ใช่เฉพาะลอเอล
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลือก็ไม่ต่างกัน
“ใช่แล้ว!! กริดไม่มีทางใจดีขนาดนั้นแน่!!”
"อะไรกัน…?"
เพียงพริบตาเดียว ข่าวลือถูกผิดได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
กริดพลันลนลานเมื่อเหตุการณ์เริ่มไม่เป็นไปถามที่คาดฝัน
เหล่าผู้เล่นที่ถูกสะกดเมื่อครู่ บัดนี้เริ่มคล้อยตามเมื่อมีหลายคนพูดย้ำกรอกหู
พวกเริ่มโมโหและโกรธแค้นกริดตัวปลอม
“นั่นสินะ…ต้องมีใครแกล้งปลอมตัวเป็นกริดแน่ เกือบพลาดไปแล้วเชียว”
“และถึงจะเป็นกริดตัวจริง เขาจะยอมสร้างไอเท็มให้เรา ‘ฟรี’ งั้นหรือ?”
“เดี๋ยว! ฉันไม่เคยบอกว่าจะสร้างให้ฟรี…”
“หมอนั่นไม่ใช่กริด!”
“ผ…ผิดแล้ว”
“โอ้สสส!!”
กริดไม่มีโอกาสได้แก้ตัวแม้แต่น้อย
ทุกครั้งที่เริ่มอ้าปาก เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์จะฉวยโอกาสขัดจังหวะ
จิสึกะพลันอมยิ้ม
“สมกับเป็นพวกบ้านั่น…เด็กของเราฉลาดเอาเรื่อง”
“อะไรนะ? กลุ่มคนพวกที่ก่อกวนคือสมาชิกโอเวอร์เกียร์งั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว…ลองดูให้ดีสิ”
“ไอ้พวกบัดซบบบ!!”
แม้จะหงุดหงิดใจที่แผนไม่เป็นไปตามต้องการ แต่กริดกลับอมยิ้มอย่างภาคภูมิ
ลูกน้องของตนสามารถจัดการปัญหาตรงหน้าได้อย่างแยบยล แถมไม่คิดอ่อนข้อให้เพียงเพราะตนคือกริด
‘ก็ได้…ถ้าพวกนายต้องการ มาลองสู้กันซักตั้ง!’
กริดตัดสินใจต่อสู้อย่างยุติธรรมตามที่พวกพ้องต้องการ ขณะกริดเตรียมตัวรับมือการต่อสู้ที่หนักหน่วง
“ฉันคงยอมแพ้การแข่งนี้ไม่ได้…แต่ขอเข้าร่วมทีมนายแทนได้ไหม แบบนี้ยังจะสร้างไอเท็มให้ฉันอยู่รึเปล่า?”
“…?”
ท่ามกลางเสียงเอะอะโกลาหล ชายคนหนึ่งเปิดปากพูดขึ้น
เขาไม่มีทีม
แตกต่างจากผู้เหลือรอดคนอื่น ชายคนนี้เข้าสู่เมืองทรีออนตามลำพัง
สายตาทุกคู่พลันจดจ้องไปยังทิศทางเดียวกัน
เมื่อตกเป็นจุดสนใจ ชายคนดังกล่าวรีบพุ่งตัวเข้าหากริด
“พวกนายมีสองคน ให้ฉันร่วมทีมอีกคนคงได้สินะ…?”
ชายปริศนาเดินมายืนด้านขวามือกริดพร้อมกับตั้งท่าต่อสู้
กริดเอ่ยปากถาม
“ไม่เป็นไรแน่หรือ? ฉันกำลังตกเป็นเป้ารุมโจมตีจากทุกฝ่าย คิดดีแล้วรึไง?”
ชายคนดังกล่าวพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยัน
“ถ้ามีนายกับฉัน บนโลกนี้ยังต้องกลัวอะไรอีกหรือ?”
“…?”
หมอนี่ใครกัน?
กริดได้แต่เอียงคอสงสัย
=== บ…บ้าน่า มันบ้ามาก…!!
=== คาดไม่ถึงเลยแฮะ…
=== นี่มันทีมในฝัน!!
ผู้ชมต่างพากันตื่นเต้นสุดขีด เว็บไซต์ทั่วโลกถูกข้อความจำนวนมหาศาลถล่มใส่ ราวกับโลกกำลังจะล่มสลายก็มิปาน
พิธีกรรีบส่งเสียงบรรยายโดยพลัน
『 ค…ครอเกล!! อริยดาบครอเกลครับ!! เขาเพิ่งประกาศว่าจะเข้าร่วมทีมกับกริด…ราชาโอเวอร์เกียร์กับอริยดาบจับมือกันแล้วครับ!! 』
ใช่แล้ว…บุคคลเดียวที่ไม่ปฏิเสธไอเท็มจากช่างตีเหล็กในตำนาน
ฟ้าเหนือฟ้า
อัจฉริยะที่มีขีดจำกัดเหนือมนุษย์
***
“นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…?”
กริดเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าสุดทึ่ง
เหล่าผู้เข้าแข่งที่เหลือต่างเริ่มสัมผัสได้ถึงลางร้าย
การแข่งขันพิเศษที่มีชื่อว่าสนามต่อสู้
เวทีแห่งนี้กำลังจะจบลงในไม่ช้า
ผู้ชนะสามคนสุดท้ายได้ถูกกำหนดตัวเรียบร้อยแล้ว
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,184
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
โอ้ มีทีมที่สุดยอดมาก ใครจะไปนึกว่าครอเกลจะเข้าร่วมทีมเดวกันกับกริด มีพรีกกว่านี้ไหม
ReplyDelete