จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 745



    28 นาทีก่อนสนามต่อสู้จะจบลง
    เกาะซึ่งเป็นสนามต่อสู้ถูกทำลายไปแล้วเกือบหมด  เหลืองเพียงเมืองเดียวที่มีชื่อว่า ‘ทรีออน’
    ทรีออนเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีอาคารสูงหกชั้นจำนวนห้าหลัง  และบ้านหนึ่งชั้นอีกราว 40 หลัง
    
    ตามตรอกข้างอาคารมีกล่องและลังวางอยู่มากมาย  ใจกลางจัตุรัสเป็นบ่อน้ำพุขนาดใหญ่  ถนนสองข้างทางเปี่ยมด้วยจุดหลบและกำบัง
    ตึกหกชั้นทั้งห้าหลังมีราวตากผ้าเป็นลวดขึงโยงเชื่อมระหว่างกัน  บนราวมีผ้าผืนใหญ่กำลังถูกตากไว้มากมาย

    เฉกเช่นผู้เหลือรอดคนอื่น  กริดจำจ้องหลบซุ่มในพุ่มไม้อย่างไม่มีทางเลือก
    
    ‘โอกาสชนะมีต่ำมาก’

    ทำไมน่ะหรือ?
    เพราะทีมของกริดมีเพียงจิสึกะ  แต่ทีมอื่นล้วนจับกลุ่มกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป
    บางทีมมีมากถึงห้าคน

    ‘คงเหลือแต่แรงเกอร์ระดับท็อปแล้ว…’

    หากคำนึงว่ายังมีครอเกล  คริส  หรือป็อน  ลำพังกริดมิอาจพลิกสถานการณ์จากคนเหล่านี้ได้แน่

    ปัจจุบัน  จำนวนคนคือสิ่งสำคัญที่สุดในสนามรบอย่างไร้ข้อกังขา
    และเหนืออื่นใดทั้งหมด  ขนาดของเกาะที่เหลืออยู่นั้นแสนคับแคบ

    ‘แทบไม่มีจุดซุ่มยิงเลยแฮะ…’

    กริดเป็นนักบวช
    ผู้ทำหน้าที่ซุ่มยิงจึงเป็นอื่นไปมิได้นอกจากนักรบจิสึกะ  เธอมีลูกศรในครอบครองมากถึง 136 ดอก

    ในทางทฤษฏีตัวเลข  ลูกศรจำนวนเท่านี้สามารถรับมือกับผู้เล่นที่เหลือได้ไม่ยาก
    แต่ธนูคืออาวุธที่ต้องรักษาระยะห่างเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

    ‘หากหวังให้จิสึกะแสดงฝีมือ…พวกเราหาทางต้องขึ้นตึกสูง’

    การลอบเข้าตึกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
    แต่ทันทีที่จิสึกะเริ่มซุ่มยิงจากชั้นบน  ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือย่อมไม่มีทางปล่อยให้เธอให้ลอยนวล
    
    ‘เรามีหน้าที่ปกป้องบันได’

    ทว่า  ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บันไดเพียงอย่างเดียว
    ลวดที่ขึงราวตากผ้าระหว่างตึก  สิ่งนี้สามารถใช้ปีนป่ายเพื่อเข้าถึงตัวจิสึกะได้จากอาคารอีกฝั่ง
    ลำพังคนเดียวกริดไม่สามารถรับมือได้ทุกทางพร้อมกันแน่

    ‘ให้ปกป้องบันไดอย่างเดียวยังยาก…’
    
    ทีมกริดเสียเปรียบด้านจำนวนคน  ส่งผลให้จิสึกะไม่สามารถแสดงฝีมือธนูได้ถนัดนัก
    ลงเอยด้วย  กริดตัดสินใจหลบซ่อนต่อไปอีกสักพัก

    ‘ต้องซ่อนตัวเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม…’

    แม้กระทั่งการซ่อนตัว  จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จก็ไม่ง่ายนัก
    มีหลายปาร์ตี้กำลังเล็งโจมตีกริดและจิสึกะเป็นลำดับแรก

    เหตุผลก็ง่ายมาก  เพราะปาร์ตี้พวกเขามีเพียงสอน  ถือเป็นกลุ่มที่ถูกจัดการได้ง่ายที่สุด ณ เวลานี้

    ทันทีที่เกิดความโกลาหล  กริดและจิสึกะจะตกเป็นเหยื่ออารมณ์ทันที    
    
    ‘ไอ้พวกชั่ว…ทำไมถึงได้เจ้าเล่ห์กันนัก?’

    ปัจจุบัน  กริดไม่ได้แสดงออกในทุกสิ่งที่ตนเองกำลังรู้สึก  เขาเรียนรู้สิ่งนี้เมื่อต้องถูกกล้องของนักข่าวแอบถ่ายภาพอยู่บ่อยครั้ง
    ไม่ว่าภายในใจจะเดือดดาลเพียงใด  แต่ภายนอกกลับยังสงบนิ่งเยือกเย็น
    
    ทันใดนั้น  จิสึกะเริ่มพึมพำบางสิ่ง

    “นั่นสินะ…ผู้เล่นที่เหลือรอดมาถึงจุดนี้ได้  ทุกคนล้วนมีฝีมือมากพอจะรวมกลุ่มกันต่อสู้…พวกเราลำบากแน่”

    “มีฝีมือ?”

    การจับกลุ่มสำเร็จหมายถึง ‘มีฝีมือ’ ไปได้อย่างไร? 

    “ทำไมการจับกลุ่มถึง…อ๊ะ!”

    กริดพลันตระหนัก

    ‘เธอพูดถูก…การจับกลุ่มรวมกันได้  แปลว่าพวกเขาทุกคนล้วนมีความสามารถ’

    ในสนามต่อสู้แห่งนี้  ไม่มี ‘กฏ’ ที่ห้ามรวมกลุ่มต่อสู้  และนั่นคือสาเหตุที่กริดตัดสินใจจับมือกับจิสึกะ

    ‘แต่ความจริงแล้ว…การตั้งทีมไม่ใช่เรื่องง่าย’

    ศัตรูที่ไม่รู้จักตัวตนซึ่งกันและกัน  จะต้องพูดจาชักจูงอย่างไรถึงจะยอมเชื่อใจ?
    ไม่มีทางที่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง  จะยอมร่วมมือกับคนแปลกหน้าอีกคนหนึ่งอย่างสนิทใจได้แน่
    นอกเสียจากทั้งคู่ได้เห็นฝีมืออันน่าทึ่งของอีกฝ่าย  จนเกิดความยอมรับในตัวของกันและกัน

    จะเป็นฝีมือในรูปแบบก็ได้ทั้งสิ้น  ไม่จำกัดว่าต้องเป็นด้านต่อสู้หรือกลยุทธวางแผน

    ส่วนคนที่ไร้ฝีมือ  กลุ่มเหล่านี้ย่อมไม่มีใครชักชวนเข้าทีมแน่…   

    กริดพลันสั่นระริกเมื่อเขาเริ่มตระหนักความจริง

    ‘เราเคยคิดมาตลอด…ว่าการจะพิสูจน์ตัวเองให้ได้  เราต้องแสดงฝีมือควบคุมอย่างโดดเด่นเท่านั้น’  
    
    กริดขมวดคิ้ว
    
    ‘แต่ความเป็นจริงแล้ว  การพิสูจน์ตัวเองสามารถแสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ’

    กริดต้องการพิสูจน์ตัวเองมาโดยตลอด
    ใช่แล้ว  สนามต่อสู้แห่งนี้คือเวทีที่แรงเกอร์ระดับท็อปทุกคนใช้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง 

    เกมการแข่งขันที่มีจุดเริ่มต้นเท่าเทียม
    
    ในตอนต้น  กริดต้องการพิสูจน์ตัวเองโดยการแสดงฝีมือควบคุมตัวละครอันโดดเด่น
    แรงเกอร์ระดับอัจฉริยะคนอื่นก็ล้วนมีจุดประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน

    กริดคิดมาตลอดว่า  การแสดงทักษะต่อสู้ที่น่าทึ่ง  คือสิ่งที่จะพิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็น  ว่าตัวเขาก็มีฝีมือควบคุมไม่แพ้แรงเกอร์ระดับท็อปคนอื่น
    
    ช่างโง่เขลา…
    นี่ตนถูกผูกมัดกับคำว่า ‘ฝีมือควบคุม’ มาตั้งแต่ต้นงั้นหรือ…  
    กริดบังคับตัวเองให้ก้มหน้าก้มตาแสดงฝีมือด้านต่อสู้มาตลอด
    
    แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว
    ทักษะที่จำเป็นของแรงเกอร์ระดับท็อป  มิใช่การทักษะด้านต่อสู้เพียงสิ่งเดียว 
    มันหลากหลายกว่า  และมีมิติมากกว่านั้น

    ‘ฉันจะแสดงให้พวกนายเห็นเอง’

    ตนมิได้อ่อนหัด
    เขาจะแสดงให้คนทั้งโลกได้รับชมอย่างเต็มสองตา  ว่าเหตุใด ‘ราชาโอเวอร์เกียร์’ ถึงมีสิทธิ์ยืนบนจุดสูงสุดของโลกซาทิสฟาย 

    กริดแสยะยิ้มชั่วร้ายเมื่อได้พบคำตอบที่ตัวเองตามหามาแสนนาน  
    ชายหนุ่มส่งเสียงตะโกนกึกก้องไปทั่วเมืองทรีออน

    “ทุกคนจงฟัง!!  ฉันจะสร้างไอเท็มให้กับทุกคนที่ยอมถอนตัวตั้งแต่ตอนนี้!!”

    “…?”

    ความเงียบสงัดพลันเข้าครอบงำสนามต่อสู้  ผู้เล่นที่หลบซ่อนหลังต้นไม้ต่างพากันขมวดคิ้วฉงน
    พวกเขาหันมองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงง

    ‘เรื่องเหลวไหลอะไรกัน?’

    ‘หมอนั่นเสียสติแล้วรึไง?’

    “ฉันคือราชาโอเวอร์เกียร์!!”

    ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย  กริดตัดสินใจเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
    เขาประกาศความเป็นช่างตีเหล็กในตำนานออกไป
    กริดหวังจะใช้พลังนี้ในการพลิกกระแสสงครามปัจจุบัน
    
    นี่คือ ‘สิ่งที่กริดทำได้เพียงผู้เดียว’
    และเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ‘เหตุใดกริดถึงสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของผู้เล่นซาทิสฟาย’

    “โอกาสหายากเช่นนี้…พวกนายมัวลังเลอะไรกันอยู่?”

    กริดมั่นใจมาก  มีน้อยคนในโลกที่กล้าตอบปฏิเสธไอเท็มจากตน
    
    แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง
    เริ่มเกิดเสียงฮือฮาในกลุ่มผู้เข้าแข่งที่เหลืออยู่
    
    ‘นั่นกริดหรือ?’

    ‘เจ้าบ้านั่น…อยากชนะจนต้องทำขนาดนี้เชียว?’

    ‘แต่ลองคิดดูให้ดี…กับการแข่งที่ไม่รับประกันชัยชนะ  การยอมแพ้และได้รับไอเท็มจากกริดคงดีกว่าไม่ใช่หรือ?’

    ‘ถูกต้อง…โอกาสได้รับไอเท็มจากกริดไม่ใช่เรื่องง่าย  มีโอกาสสูงที่จะเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารี’

    ‘กริดเก่งกาจขนาดสามารถสร้างไอเท็มชนิดเติบโตได้เชียวนะ…’

    อึก…!

    เหล่าแรงเกอร์ระดับไม่สูงมากต่างออกอาการลังเลอย่างหนักหนัก
    พวกเขากำลังจะงับเหยื่อที่กริดวางไว้

    『 … 』

    ผู้บรรยายยังคงนิ่งเงียบ
    หากมองจากสีหน้าของแรงเกอร์ที่เหลือรอดส่วนใหญ่  พวกเขาเตรียมใจยอมแพ้เรียบร้อยแล้ว
    แต่จะไปกล่าวโทษคนเหล่านี้ก็ไม่ถูก  โอกาสที่กริดหยิบยื่น  สิ่งนี้หากันไม่ได้ง่ายนัก

    『 ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้…? 』

    ผู้บรรยากาศคนหนึ่งกล่าวแสดงความเห็นเพื่อทำลายความเงียบงัน
    เขาต้องการบรรยกาศฉากการต่อสู้สุดระทึกและตื่นเต้นอย่างเร่าร้อน  จึงไม่แปลกที่จะหัวเสียกับการกระทำของกริด
    ุถึงกระนั้น  เขาก็ไม่คิดต่อว่ากริด
    
    กลยุทธ์ของกริดสามารถสยบผู้เข้าแข่งขันคนอื่นได้อย่างอยู่หมัด
    สิ่งนี้ควรถูกชื่นชมและยกย่อง

    『 ถึงจะไม่ชอบใจและไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น…แต่ผมก็ยอมรับในสติปัญญาของกริด 』

    『 กริดฉลาดและมั่งคั่งมากพอที่จะประกาศกร้าวเช่นนี้ 』    

    『 เห็นด้วยครับ  ไม่เคยคิดมาก่อนว่าทักษะสร้างไอเท็มจะถูกนำมาใช้ซื้อใจศัตรูได้ด้วย  ผมคิดไม่ถึงเลย 』

    ปัจจุบัน  ผู้เหลือรอดทุกคนกำลังอยู่ในการแข่งที่มีชื่อว่า ‘สนามต่อสู้’
    มันจะไม่เอาเปรียบไม่หน่อยหรือ  หากใครสักคนนำเรื่องราวในซาทิสฟายมาเป็นประเด็นต่อรอง?

    ผู้คนมากมายขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย    

    แต่ว่ากันบนหลักพื้นฐานความเป็นจริง  กฏมิได้ระบุไว้ว่าห้ามกระทำเช่นนี้
    ขนาดฮิวรอยที่ตะโกนว่า ‘พ่อมึงตาย’ ก็ยังไม่ได้รับการลงโทษประการใด
    
    ผู้เข้าแข่งทั้งหมดล้วนเป็นแรงเกอร์ซาทิสฟาย  พวกเขาล้วนปรารถนาไอเท็มในเกม  
    และนั่นคือเหตุผลหลักที่ทุกคนเข้าร่วมการแข่งสนามรบ  ซึ่งมีรางวัลเป็นไอเท็มจากซาทิสฟาย

    กริดรับรู้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของคนเหล่านี้  เขาจึงนำมันมาใช้สั่นคลอนจิตใจผู้คน

    ===  ไม่มีใครทำแบบนี้ได้นอกจากกริด… 
    
    === ต่อให้คนอื่นรู้วิธี  แต่พวกเขาก็ทำตามไม่ได้  

    === ถ้าไม่ใช่กริด  จะมีใครที่สามารถสะกดผู้คนได้มากมายพร้อมกันเช่นนี้อีก?

    === เห็นด้วย

    === สุดยอด…กริดกำลังจะชนะโดยไม่ต้องออกแรงสู้ 

    === แม้ฉันจะพูดตั้งมาแต่ต้นแล้ว  แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ากริดนั้นสุดยอด…ใครจะบอกว่ากริดไร้ฝีมือควบคุม?  เขาเอาชนะเฮ่ามาได้เชียวนะ!!  ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง  กริดมีพร้อมทั้งความแข็งแกร่งและสติปัญญา  เขาคือคนพิเศษในหมู่แรงเกอร์ระดับท็อป!!

    === สิ่งนี้เรียกว่าบารมีของจ่าฝูง  มันคือรากฐานที่ทำให้กริดได้เป็นกษัตริย์คนแรก  ดูเหมือนกริดที่พวกเรารู้จักกับกริดตัวจริงจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

    === นายพูดถูก  วิดีโอเพียงไม่กี่วินาทีของกริดในการแข่งปีที่แล้ว  ไม่สามารถบรรยายความสุดยอดของชายคนนี้ได้หมด

    === กริดคือจ่าฝูงที่มีบริวารระดับสุดยอดคอยเคียงข้าง… 

    === ทุกคนต่างจงรักภักดีต่อกริด  ไม่เชื่อลองดูเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์สิ  พวกเขาไม่เคยคิดทรยศกริดแม้แต่คนเดียว

    === ถ้าจำไม่ผิด  สันตะปาปาดาเมี่ยนก็ชื่นชอบกริดสินะ?

    คำสรรเสริญเยินยอยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  คุณค่าที่แท้จริงของกริดกำลังถูกสำแดงให้เห็นไปทั่วโลก
    
    === ฉันคิดว่าคงไม่มีใครโง่พอจะตอบปฏิเสธข้อเสนอนี้…

    กริดถือกำเนิดใหม่ในฐานะตัวตนที่ทุกคนยกย่อง  ระดับเดียวกับครอเกลที่เขาไล่ตามมาแสนนาน 

    ***

    “ว่ายังไง? จะยอมแพ้หรือสู้กันต่อ?”

    กริดไม่มีทางรับรู้สถานการณ์ภายนอก  
    สมาธิทั้งหมดกำลังเพ่งอยู่กับสนามต่อสู้เบื้องหน้า  กริดคาดหวังให้ผู้เล่นทั้ง 30 คนนอกจากจิสึกะยอมจำนนแต่โดยดี
    
    ‘คงมีเพียงส่วนน้อยที่กล้าปฏิเสธ’

    กริดมั่นใจว่าไอเท็มจากตนมีมูลค่าสูงถึงเพียงนั้น  เขาจึงกล้าใช้มันเป็นเครื่องต่อรองและสยบแรงเกอร์ทุกคนจนอยู่หมัด
    
    มันต้องสำเร็จแน่
    ไม่มีผู้เล่นคนใดกล้าปฏิเสธไอเท็มที่ช่างตีเหล็กในตำนานสร้าง

    แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายดาย
    
    หากไม่นับจิสึกะ  จากบรรดาทั้ง 30 คนที่เหลือรอด  มีผู้เล่นที่เป็นขุนพลโอเวอร์เกียร์มากถึง 14 คน
    เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์สามารถจ้างกริดสร้างไอเท็มได้ทุกเมื่อ  
    ต่อให้ไม่ยอมแพ้ในตอนนี้ก็ตาม
    
    และนั่นคือจุดที่กริดมองข้ามไป  เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า  เขายังประเมินสถานการณ์ไม่รอบด้านมากพอ
    
    ความสำเร็จคือสิ่งที่ต้องไขว่คว้าแย่งชิง
    เฉกเช่นกริดที่ต้องการชัยนะ  เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ก็ไม่ต่างกัน

    “นั่นเป็นกริดตัวปลอม!”  
    ลอเอลโพล่งขึ้นเสียงดัง

    “ไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ว่านั่นคือกริด!!  ทุกคนห้ามถูกหลอกเด็ดขาด!!”

    ลอเอลชื่นชอบกริดมาก  เขาต้องการเป็นลูกน้องกริดไปชั่วชีวิต
    นี่คือความจริงจากส่วนลึกของหัวใจลอเอล  และเป็นสาเหตุที่ลอเอลอยู่เคียงข้างกริดมาตั้งแต่ต้น  เขาคือผู้เนรมิตรให้กริดมีทุกสิ่งทุกอย่างเฉกเช่นปัจจุบัน

    แต่ลอเอลสามารถแยกแยะความสำคัญระหว่างเรื่องส่วนตัวและภาระหน้าที่  เขาไม่คิดจะโยนชัยชนะในสนามรบให้กริดอย่างง่ายดายเพียงเพราะตนชื่นชอบ
    
    ลอเอลเองก็ต้องการชัยชนะ
    ความพ่ายแพ้ของกริดไม่ได้ทำให้ตัวกริดตกต่ำลง  และมิได้ทำให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถึงกับล่มสลาย 

    ลอเอลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งนี้  เขาคือกุนซือจ้าวกลยุทธ์ที่ไม่เคยยอมแพ้ในศึกใดหากไม่จำเป็น
    
    ลอเอทำเพื่อตัวเองและชาวอเมริกัน

    ไม่ใช่เฉพาะลอเอล
    สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลือก็ไม่ต่างกัน
    
    “ใช่แล้ว!!  กริดไม่มีทางใจดีขนาดนั้นแน่!!”

    "อะไรกัน…?"

    เพียงพริบตาเดียว  ข่าวลือถูกผิดได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
    กริดพลันลนลานเมื่อเหตุการณ์เริ่มไม่เป็นไปถามที่คาดฝัน
    
    เหล่าผู้เล่นที่ถูกสะกดเมื่อครู่  บัดนี้เริ่มคล้อยตามเมื่อมีหลายคนพูดย้ำกรอกหู
    พวกเริ่มโมโหและโกรธแค้นกริดตัวปลอม
    
    “นั่นสินะ…ต้องมีใครแกล้งปลอมตัวเป็นกริดแน่  เกือบพลาดไปแล้วเชียว”
    
    “และถึงจะเป็นกริดตัวจริง  เขาจะยอมสร้างไอเท็มให้เรา ‘ฟรี’ งั้นหรือ?”

    “เดี๋ยว!  ฉันไม่เคยบอกว่าจะสร้างให้ฟรี…”

    “หมอนั่นไม่ใช่กริด!”

    “ผ…ผิดแล้ว”

    “โอ้สสส!!”

    กริดไม่มีโอกาสได้แก้ตัวแม้แต่น้อย
    ทุกครั้งที่เริ่มอ้าปาก  เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์จะฉวยโอกาสขัดจังหวะ

    จิสึกะพลันอมยิ้ม
    
    “สมกับเป็นพวกบ้านั่น…เด็กของเราฉลาดเอาเรื่อง”

    “อะไรนะ?  กลุ่มคนพวกที่ก่อกวนคือสมาชิกโอเวอร์เกียร์งั้นหรือ?”

    “ใช่แล้ว…ลองดูให้ดีสิ”

    “ไอ้พวกบัดซบบบ!!”

    แม้จะหงุดหงิดใจที่แผนไม่เป็นไปตามต้องการ  แต่กริดกลับอมยิ้มอย่างภาคภูมิ
    ลูกน้องของตนสามารถจัดการปัญหาตรงหน้าได้อย่างแยบยล  แถมไม่คิดอ่อนข้อให้เพียงเพราะตนคือกริด

    ‘ก็ได้…ถ้าพวกนายต้องการ  มาลองสู้กันซักตั้ง!’

    กริดตัดสินใจต่อสู้อย่างยุติธรรมตามที่พวกพ้องต้องการ  ขณะกริดเตรียมตัวรับมือการต่อสู้ที่หนักหน่วง

    “ฉันคงยอมแพ้การแข่งนี้ไม่ได้…แต่ขอเข้าร่วมทีมนายแทนได้ไหม  แบบนี้ยังจะสร้างไอเท็มให้ฉันอยู่รึเปล่า?”

    “…?”

    ท่ามกลางเสียงเอะอะโกลาหล  ชายคนหนึ่งเปิดปากพูดขึ้น

    เขาไม่มีทีม  
    แตกต่างจากผู้เหลือรอดคนอื่น  ชายคนนี้เข้าสู่เมืองทรีออนตามลำพัง

    สายตาทุกคู่พลันจดจ้องไปยังทิศทางเดียวกัน

    เมื่อตกเป็นจุดสนใจ  ชายคนดังกล่าวรีบพุ่งตัวเข้าหากริด
    
    “พวกนายมีสองคน  ให้ฉันร่วมทีมอีกคนคงได้สินะ…?”

    ชายปริศนาเดินมายืนด้านขวามือกริดพร้อมกับตั้งท่าต่อสู้

    กริดเอ่ยปากถาม
    “ไม่เป็นไรแน่หรือ?  ฉันกำลังตกเป็นเป้ารุมโจมตีจากทุกฝ่าย  คิดดีแล้วรึไง?”

    ชายคนดังกล่าวพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยัน
    “ถ้ามีนายกับฉัน  บนโลกนี้ยังต้องกลัวอะไรอีกหรือ?”

    “…?”

    หมอนี่ใครกัน?
    กริดได้แต่เอียงคอสงสัย
    
    ===  บ…บ้าน่า  มันบ้ามาก…!! 

    ===  คาดไม่ถึงเลยแฮะ… 

    === นี่มันทีมในฝัน!!

    ผู้ชมต่างพากันตื่นเต้นสุดขีด  เว็บไซต์ทั่วโลกถูกข้อความจำนวนมหาศาลถล่มใส่  ราวกับโลกกำลังจะล่มสลายก็มิปาน

    พิธีกรรีบส่งเสียงบรรยายโดยพลัน

    『 ค…ครอเกล!!  อริยดาบครอเกลครับ!!  เขาเพิ่งประกาศว่าจะเข้าร่วมทีมกับกริด…ราชาโอเวอร์เกียร์กับอริยดาบจับมือกันแล้วครับ!! 』
    
    
    ใช่แล้ว…บุคคลเดียวที่ไม่ปฏิเสธไอเท็มจากช่างตีเหล็กในตำนาน
    ฟ้าเหนือฟ้า
    อัจฉริยะที่มีขีดจำกัดเหนือมนุษย์

    ***

    “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…?”
    กริดเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าสุดทึ่ง

    เหล่าผู้เข้าแข่งที่เหลือต่างเริ่มสัมผัสได้ถึงลางร้าย

    การแข่งขันพิเศษที่มีชื่อว่าสนามต่อสู้
    เวทีแห่งนี้กำลังจะจบลงในไม่ช้า

    ผู้ชนะสามคนสุดท้ายได้ถูกกำหนดตัวเรียบร้อยแล้ว

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,184
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. โอ้ มีทีมที่สุดยอดมาก ใครจะไปนึกว่าครอเกลจะเข้าร่วมทีมเดวกันกับกริด มีพรีกกว่านี้ไหม

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00