จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 749
“คลื่น”
กริดพุ่งปรี่เข้าใส่กลุ่มแรงเกอร์ที่กำลังรายล้อมครอเกลไว้ทุกทิศ
‘ทักษะ?’
ได้ยังไง?
ไหนว่าทุกคนมีจุดเริ่มต้นเท่าเทียม?
ในสนามต่อสู้แห่งนี้ ไม่มีใครเลยสักคนที่สามารถใช้งานทักษะได้
แต่กริดกลับตะโกนชื่อทักษะเสียงดังฟังชัด แถมยังเป็นวิชาดาบแพ็กม่าอันโด่งดังจากซาทิสฟาย
เหตุใดทักษะระดับตำนานถึงกำลังเฉิดฉายในสนามต่อสู้?
‘เป็นบั๊กงั้นหรือ...? ม…ไม่ใช่!’
กริดย่างเท้าเข้าหาศัตรูพร้อมกับเริ่มรำดาบ
ซิวรอนผงะไปครู่ใหญ่เมื่อได้ยินกริดตระโกนชื่อทักษะ บัดนี้มันเริ่มได้สติกลับคืนมา
การโจมตีจากกริดไม่ใช่ทักษะ หากแต่เป็นเพียงการฟันแทงธรรมดา
ใช่แล้ว ทุกสิ่งที่กริดใช้คือการโจมตีธรรมดาแสนพื้นฐาน
เพิ่มเติมคือท่าทางพิสดารประกอบการใช้งาน
“ก็แค่ลูกไม้เด็กเล่น!!”
แสร้งทำเป็นใช้ทักษะเพื่อข่มขู่ศัตรูให้ขวัญผวา
ไม่มีทางที่ทักษะจะมีอยู่จริงในโลกซึ่งปราศจากทักษะ
‘เราจริงจังเกินไปจนเกือบถูกหลอก’
ราชาโอเวอร์เกียร์…
ชายผู้มั่งคั่งย่อมมากับความคิดเจ้าเล่ห์
‘หมอนี่ไม่ใช่กษัตริย์ที่ดี!’
ซิวรอนขยับดาบไปด้านหน้าเพื่อหวังปัดป้องการโจมตีจากริด
แต่ว่า
‘อะไรกัน?’
วิถีดาบกลับเปลี่ยนผันกลางคันอย่างน่าประหลาด
มันพุ่งลงด้านล่างในตอนต้น แต่กลับเสยขึ้นในวินาทีสุดท้ายก่อนจะถึงตัว
ลักษณะเปรียบดั่ง ‘คลื่น’ ซึ่งเป็นนามของมัน
‘บ้าน่า?’
ฉัวะ—
ซิวรอนปัดป้องไม่สำเร็จเพราะวิถีดาบคดเคี้ยวคาดไม่ถึง
แรงเกอร์ที่ยืนไม่ห่างจากซิวรอนมากนัก มันพลอยถูกลูกหลงเข้าไปเช่นกัน
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1 หน่วย ]
นัยน์ตาซิวรอนเริ่มสั่นระริกเมื่อยืนยันข้อความระบบ
‘กริดมีฝีมือควบคุมสูงขนาดนี้เชียว?’
กริดคือราชาโอเวอร์เกียร์
แค่ชื่อที่ใช้เรียกขานตนเองก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่า ชายคนนี้พึ่งพาพลังของไอเท็มเป็นหลัก
ย่อมหมายถึง ฝีมือควบคุมไม่น่าจะอยู่ในระดับสูงนัก
ซิวรอนยอมรับ ทักษะการใช้ไอเท็มอย่างชาญฉลาดของกริดคือสิ่งที่น่าชื่นชม
มันมองกริดด้วยสายตาเช่นนั้นมาตลอด
ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่ผ่านมาของกริดล้วนข้องเกี่ยวกับพลังแห่งไอเท็ม
แต่ปัจจุบัน ความคิดของมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
‘เพียงปีเดียว…ทำไมมนุษย์ถึงมีพัฒนาการมหาศาลขนาดนี้ได้?’
ซิวรอนเริ่มหน้าซีด
‘นี่มัน…ฝีมือควบคุมระดับแถวหน้าของโลก!’
ในสายตาซิวรอน กริดเป็นราวกับตัวตนที่สวรรค์บรรจงสรรสร้าง
ทั้งฝีมือควบคุมและสุดยอดพลังในไอเท็มในคนเดียวกัน เหตุใดมนุษย์หนึ่งคนถึงได้รับอภิสิทธิ์ให้มีทุกสิ่งเพียบพร้อมขนาดนี้?
‘ฟ้าเหนือฟ้าคนใหม่…’
วาบ!
ซิวรอนกำลังรู้สึกเย็นยะเยียบสันหลัง
‘กริดเปิดโลกให้เราอีกครั้ง’
ขณะเดียวกัน ครอเกลกล่าวชื่นชมกริดภายในใจ
เขาได้บรรลุสิ่งใหม่หลังจากเห็นกริดใช้ ‘เทคนิคดาบ’ โจมตีใส่ซิวรอน
สิ่งนี้น่าทึ่งยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่กริดควักคัมภีร์สิบเล่มออกมาถือเสียอีก
‘กริดเลียนแบบท่าทางของทักษะในซาทิสฟาย เพื่อสร้างการโจมตีแปลกใหม่ที่ยากคาดเดา’
เขาหลอมรวมการเคลื่อนไหวจากทักษะในเกมเข้ากับวิชาดาบของจริง
ครอเกลรู้สึกทึ่งอย่างมาก
‘กริดปรับใช้โดยอิงจากความเป็นไปได้’
ทักษะบางชนิดในซาทิสฟายจะปราศจากความสมจริงโดยสิ้นเชิง
ทั้งวิ่งบนน้ำ ป่นทำลายหินด้วยกำปั้น เคลื่อนที่หายพริบตา รวมถึงเวทมนตร์อีกมาก
ไม่มีทางที่ผลของทักษะสุดอลังการเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ในโลกความจริง
แต่สำหรับวิชาดาบ…
ท่วงท่าของทางดาบที่ระบบเกมออกแบบไว้ สิ่งนี้กลับคล้ายคลึงวิชาดาบในโลกจริงอย่างมาก
ทักษะดาบหรือทักษะนักสู้ในซาทิสฟายส่วนใหญ่มีพื้นฐานอ้างอิงจากกฏฟิสิกส์
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มอร์เฟียสจะสร้างทักษะดาบโดยการนำหลักการของวิชาดาบในโลกความจริงมาดัดแปลงให้เหมาะสม
ทักษะภายในซาทิสฟายที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ส่วนใหญ่ มักใกล้มีพื้นฐานเคียงความเป็นจริงอย่างน่าเหลือเชื่อ
‘ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกริดและวิชาดาบแพ็กม่า’
เฮ่อ…
‘กริดสามารถวิเคราะห์และปรับใช้วิชาดาบแพ็กม่าให้เหมาะสมกับความเป็นจริงโดยไม่ติดขัด…นายพัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้วสินะ’
ยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยาย…
ครอเกลยกย่องกริดด้วยถ้อยคำสุดเลิศหรู
‘จดจำการเคลื่อนไหวทั้งหมดลงในสมอง จากนั้นก็หมั่นฝึกฝนจนกระทั่งสามารถขยับร่างกายได้ทันทีเมื่อตะโกนชื่อทักษะ…สิ่งเหล่านี้ถือว่าห่างไกลจากมนุษย์ปรกติไปมาก’
เหตุการณ์เบื้องหน้ากำลังพิสูจน์ความสามารถของกริดให้คนทั่วโลกได้เห็น
เขาคือชายที่มองการณ์ไกลไปข้างหน้าอย่างน้อยสิบก้าวเสมอ
“ครอเกล!!”
ทุกสิ่งเกิดขึ้นในชัวพริบตา
ขณะครอเกลกำลังชื่นชมและครุ่นคิด เสียงเรียกของกริดได้ทำให้เขาตื่นจากภวังค์
สายตากริดกำลังมองไปยังกลุ่มศัตรูด้านขวามือครอเกล
บอกเป็นนัยว่า ครอเกลต้องจัดการกับกลุ่มทางซ้าย
ทันใดนั้น หอกเล่มหนึ่งถูกขว้างแหวกอากาศด้วยความเร็วสูงเข้าใส่กริด
กริดสามารถหลบได้ฉิวเฉียดก็จริง
แต่ครอเกลที่กำลังหันหลังอยู่นั้น…
เขาเองก็โยกตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียดไม่แพ้กัน แถมยังเป็นในสภาพหันหลัง…
“…นายมีตาหลังอย่างที่เขาลือกันจริงสินะ”
กริดทึ่งในวิสัยทัศน์ที่ราวกับมีตาหลังของครอเกล
ครอเกลอธิบายพร้อมอมยิ้ม
“ก็แค่ระวังทุกสิ่งรอบตัวอยู่เสมอและตอบสนองให้ทันท่วงที…ไม่สุดยอดเหมือนกับนายที่มองเห็นอนาคตหรอกนะ”
“มองเห็นอนาคต?”
นี่ตูมองเห็นอนาคตได้ตั้งแต่เมื่อไร?
‘แม้แต่ครอเกลก็ด้วยรึไง…ทำไมถึงมีแต่พวกไม่ปรกติเต็มไปหมด’
หรือว่าหมอนั่นกำลังล้อเราเล่น?
ขณะกริดกำลังขมวดคิ้ว ลูกศรสองดอกกำลังพุ่งมาหาเขาด้วยความเร็วสูงจากมุมอับ
เป็นลูกธนูที่ถูกยิงมาจากอีกฟากฝั่งของตึก
ฉึก! ฉึก!
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1 หน่วย ]
“อั่ก…!”
กริดหลบไม่พ้น เขาไม่มีสมาธิมากพอจะแบ่งความสนใจให้กับพลธนูที่ไม่รู้จะยิงมาตอนไหน
และต่อให้แบ่งสมาธิได้จริง ก็จะเป็นการเปิดช่องว่างให้กับซิวรอนที่กำลังรุกใส่ตนโจมตีอย่างหนัก
“ชิ!”
ซิวรอนออกอาการหงุดหงิดเมื่อกริดยินยอมให้ลูกธนูปักใส่ร่าง มากกว่ายอมถูกมันโจมตีใส่
“ฉันเข้าใจว่านายกำลังหวาดกลัวในตัวนักล่าวิญญาณอย่างฉันเป็นพิเศษ แต่การปล่อยให้ถูกธนูยิงใส่อย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่ดีแล้วจริงหรือ? นายจะกลายเป็นเม่นเอานะ”
‘อ้อ…ซิวรอนนี่เอง’
ซิวรอนมั่นใจในตัวเองมาก
มันเชื่อว่า กริดต้องรู้ตัวตนที่แท้จริงของมันแน่นอน จึงเข้าใจผิดถนัด คิดว่ากริดกำลังหวาดกลัวฝีมือมัน
ซึ่งนั่นไม่จริงเลยสักนิด
กริดไม่ทราบเลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร และเขาไม่สนใจจะหาคำตอบสักนิด
ซิวรอนคือตัวตนที่น่าหวั่นเกรงในซาทิสฟายก็จริง
แต่ที่นี่คือสนามต่อสู้
‘หมอนี่ต่างชั้นกับป็อนหรือเรกัสมาก’
เคร้ง!
กริดปัดดาบซิวรอนพร้อมกับพุ่งเข้าประชิดตัวมัน
“สังหาร”
ฉึก!
“สังหาร สังหาร”
ฉึก ฉึก
“สังหาร สังหาร สังหาร”
ฉึก ฉึก ฉึก!
“อั่ก…?”
“วังวน”
“???”
“หลอก! สังหาร!!”
ฉึก!
การโจมตีของกริดคือท่าแทงพื้นฐาน
แต่บรรยากาศกลับดุดันและทรงพลังยิ่งกว่าท่าแทงปรกติทั่วไป
สิ่งนี้ประกอบด้วยสองเหตุผล
หนึ่งคือ เพราะกริดจะก้าวขาไปด้านหน้าทุกครั้งก่อนแทงสังหาร การบุกเข้าประชิดตัวทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกคุกคาม
และสองคือ สายตาที่เปี่ยมด้วยความอาฆาตชั่วขณะ
‘เจ้าบ้านี่ฝึกท่าแทงธรรมดาหนึ่งหมื่นครั้งต่อวันรึไง?’
เมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวสุดน่าทึ่งของกริด ซิวรอนมั่นใจได้ทันที กริดจะต้องฝึกพื้นฐานดาบทุกวันอย่างหนักหน่วงแน่นอน
เคร้ง!
เคร้งงง!!
“แค่ก!”
ซิวรอนถูกกริดกดดันจนเริ่มเซถอยหลัง
แต่มันมิได้บาดเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว ระหว่างนี้ก็สวนกลับการโจมตีใส่กริดไปหลายหน
ทว่า เรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น
ขณะดวลเดือดกับกริด ซิวรอนพลันร้องเสียหลงด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
มันถูกลูกธนูที่ยิงมาฝึกอีกฝั่งปักเข้ากลางหลัง
‘ยิงพลาดงั้นหรือ?’
ลูกศรที่ควรสนับสนุนฝ่ายตน บัดนี้กลับยิงพลาดจนทำร้ายตัวมัน
พลธนูของฝ่ายพันธมิตรมิใช่เทพีแห่งคันศรเหมือนจิสึกะ ซิวรอนไม่อาจกล่าวโทษความผิดพลาดเพียงหนเดียวได้
มันคิดเช่นนั้น ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจปล่อยผ่าน
ทว่า…
ฉึก ฉึก!
“เจ้าพวกบ้านั่น…!”
ไม่เพียงซิวรอน แต่ฝ่ายพันธมิตรที่เหลือต่างก็ถูกศรจากตึกฝั่งตรงข้ามยิงใส่
เริ่มมีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล
“พวกแกทำบ้าอะไรกัน?”
ซิวรอนโพล่งขึ้นอย่างเดือดดาลขณะกำลังถูกกริดรุกหนัก
เสียงตอบรับจากอาคารฝั่งตรงข้ามได้ดังสวนกลับมาทันควัน
“พวกแกหมดประโยชน์แล้ว จงตายไปพร้อมกันให้หมด!”
เหลือเวลาในสนามต่อสู้อีกเพียงสิบนาที
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ขนาดของเกาะจะหดเล็กลงจากเดิมหลายส่วน
ดูเหมือนตึกเก่าโทรมที่ทุกคนกำลังชุลมุนคือเวทีสุดท้ายที่เหลืออยู่บนเกาะ
ด้วยเหตุนี้ พลธนูทั้งหมดในตึกฝั่งตรงข้ามจึงเห็นพ้องต้องกัน
หากปล่อยเวลาผ่านเลยไป พวกตนจะต้องตายจากการที่เกาะถูกทำลาย ทางรอดเดียวคือการยิงจำกัดผู้เล่นในอาคารฝั่งตรงข้ามให้หมดทุกคน
“ไอ้พวกบัดซบ!”
ซิวรอนสบถอย่างเดือดดาล
ลอเอลก็ไม่ต่างกัน
ขณะกำลังดวลกับจิสึกะที่ในมือมีเพียงคันศร
‘เราไม่คิดว่าจะใช้เวลามากขนาดนี้’
กริดคือตัวแปรเดียวที่อยู่นอกเหนือการคาดคะเน ลอเอลไม่เคยคิดมาก่อนว่า กริดจะบดขยี้ทีมบุกกว่าสิบคนจากชั้นล่างได้ตามลำพัง
ทีมบุกสุดแกร่งที่มีคริสเป็นแกนนำ
ฉึก!
เคร้ง!
เคร้ง!
เกิดเป็นความโกลาหลอย่างแท้จริง
กริดและซิวรอนกำลังดวลกันอย่างดุเดือดไปพลางหลบฝนธนูจากตึกฝั่งตรงข้าม
‘พวกเรายังมีหวัง!’
ซิวรอนไม่ถอดใจยอมแพ้
ปัจจุบัน สีหน้าของกริดย่ำแย่กว่าตัวมันหลายระดับ
‘หมอนี่คงไม่เหลือโพชั่นแล้ว’
หลังจากกริดจัดการทีมบุกชั้นล่างจนหมด เขาก็รีบขึ้นมายังด้านบนทันทีโดยไม่มีเวลารวบรวมโพชั่น
โพชั่นทุกขวดจึงน่าจะถูกใช้ไปหมดแล้ว
กลับกัน ซิวรอนยังมีเหลือสำรองอีกหนึ่งขวด นี่คือความได้เปรียบเพียงเล็กน้อยที่มีค่ามหาศาล
[ สนามต่อสู้จะจบลงในอีก 7 นาที ]
ครืนนนนน!
พร้อมกันกับข้อความประกาศจากระบบ เกาะส่วนที่เหลือเริ่มหายทยอยไปจากการมองเห็น
ปัจจุบัน เวทีต่อสู้เดียวที่หลงเหลืออยู่คืออาคารเก่าโทรมแห่งนี้
ตึกฝั่งตรงข้ามเริ่มถล่มลงพร้อมกับลวดราวตากผ้า
พลธนูฝ่ายพันธมิตรเมื่อครู่ บัดนี้รีบปีนป่ายลวดเหล็กมารวมกับคนอื่นด้วยท่าทีลนลาน
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ซิวรอนส่งเสียงตะโกนทันที
“รีบจัดการพวกมันให้เร็วที่สุด! แล็วค่อยฆ่าพวกทรยศทีหลัง! ฮ…เฮ้ย?”
ต่อให้มันถูกกริดโจมตีสองถึงสามครั้ง แต่มันแค่สวนกลับให้โดนสักครั้งก็เพียงพอแล้ว
สิ่งนี้เรียกว่าการแลกอย่างเท่าเทียม
กริดสร้างความเสียหายได้หนึ่งหน่วย ส่วนมันสร้างได้ถึงสอง
ฝ่ายที่มีโพชั่นมากกว่าจะเป็นผู้คว้าชัยชนะไป
กริดไม่มีโพชั่น แต่มันมี
ขณะที่ซิวรอนกำลังตะโกนปลุกใจฝ่ายพันธมิตร มันพลันชะงักพร้อมกับอ้าปากค้าง
ชิ้ง—
กริดหยิบหนังสือปกสีฟ้าขึ้นเปิดอ่าน
ร่างกายชายหนุ่มพลันส่องแสงสว่างวาบอย่างอบอุ่น
สิ่งนี้มีชื่อว่าคัมภีร์
“ไอ้ปีศาจ!!”
ซิวรอนทราบว่ากริดเป็นนักบวช มันประเมินจากความเสียหายหนึ่งหน่วยที่ได้รับ
และซิวรอนก็ทราบ ว่ากริดใช้คัมภีร์จำนวนมากเพื่อเอาชนะปาร์ตี้บุกถล่มของคริส
แต่มันไม่คิดมาก่อน ว่ากริดจะยังมีคัมภีร์เหลือสำรองอยู่อีก
ขณะที่ซิวรอนกำลังทึ่งจนเปิดช่องว่างใหญ่หลวง ดาบเล่มหนึ่งได้เสียบทะลวงร่างมันจากด้านหลัง
ดาบจากครอเกล
ระหว่างกริดกำลังดวลเดือดกับซิวรอนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมศัตรู ครอเกลฉวยโอกาสจัดการศัตรูที่เหลือจนราบและรีบกลับมาช่วยกริด
“มาทำให้มันจบกันเถอะ”
“แฮ่ก...แฮ่ก…ได้เลย ไปทำให้มันจบกัน!”
สายตาของกริดและครอเกลจ้องมองไปยังบานหน้าต่างอย่างพร้อมเพรียง
ภาพที่เห็นคือพลธนูซึ่งกำลังวิ่งหนีตายมาจากตึกฝั่งตรงข้าม
ฉึกฉึกฉึก—
ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความ กริดและครอเกลหยิบหอกบนพื้นขึ้นมากระหน่ำแทงใส่ผู้โชคร้ายบนราวตากผ้าอย่างโหดเหี้ยม
คนทั้งสองลงมือทำในสิ่งเดียวกันโดยไม่ต้องนัดหมาย เรียกว่ามองตาก็รู้ใจ
ศัตรูคนแล้วคนเล่าร่วงหล่นลงไปเสียชีวิตด้านล่าง
“…ฉันยอมแพ้”
หากไม่นับปาร์ตี้กริด ผู้เล่นคนเดียวที่เหลืออยู่ในสนามต่อสู้คือลอเอล
เมื่อตระหนักได้ว่าหมดโอกาสชนะ เขาตัดสินใจยอมแพ้พร้อมกับทิ้งอาวุธ
ผู้เหลือรอดสามคนสุดท้ายของสนามต่อสู้ถูกประกาศชื่ออย่างเป็นทางการ
กริด ครอเกล และจิสึกะ
หลังจากเครื่องบินโดยสารของทีมนักกีฬาเกาหลีใต้ร่อนลงจอดที่สนามบิน แฟนคลับชาวญี่ปุ่นได้แห่มาต้อนรับอย่างล้นหลามจนสนามบินแทบแตก
เกือบทั้งหมดล้วนเป็นแฟนตัวยงของกริด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,187
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
นี้สิ Godgrid ของแท้
ReplyDeleteทีมเวิร์ค มองตาก็รู้ใจ
ReplyDeleteแงงยูร่าฉันหานไปไหนนน
ReplyDeleteยูร่านั่งบดเคี้ยวอยู่ด้สนนอก
Deleteสังหาร no cooldown
ReplyDeleteหลอก สังหาร 555😂😂