จ้าวแห่งยุทธภัณฑื 751

    『 พิธีเปิดการแข่งซาทิสฟายนานาชาติ ณ กรุงโตเกียว  ถือเป็นงานกีฬาที่มีผู้เข้าชมและนักท่องเที่ยวสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ครับ!! 』

    『 โตเกียโดมกำลังลุกเป็นไฟ!!  นักกีฬา 1,500 คนจาก 50 ประเทศทั่วโลก…ใบหน้าของพวกเขาล้วนเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะ  กองเชียร์บนอัฒจันทร์ต่างปรบมือให้กำลังใจอย่างกึกก้องครับ!! 』

    『 งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติมักเปี่ยมด้วยมนต์ขลังเสมอ  เป็นโอกาสทองที่ผู้เล่นบางคนได้แจ้งเกิด  หากประสบความสำเร็จในรายการนี้  ทั้งชื่อเสียงและเงินทองก็จะหลั่งไหลอย่างไม่ขาดสาย  และสำหรับผู้ชมทางบ้าน  พวกยังมีสิทธิ์ได้รับบัฟค่าประสบการณ์กับไอเท็มดรอป  ถ้าหากนักกีฬาของชาติตนทำผลงานได้ดี 』

    『 ผมชักอยากรู้แล้วครับ  ว่าประเทศใดจะทำผลงานโดดเด่นขึ้นมาในปีนี้ 』
   
    『 ผมอยากให้มีดาวดวงใหม่ถือกำเนิดขึ้นบ้าง 』

    『 เรื่องนั้นคงไม่ง่ายครับ  เหล่าอัจฉริยะเดิมมีแต่จะยิ่งทิ้งห่างผู้เล่นใหม่ไกลออกไปทุกขณะ 』

    『 อย่าลืมครับว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่  อาจมีแรงเกอร์ปกปิดตัวตนที่ยอดเยี่ยมแอบซ่อนอยู่  เหมือนกับแอ็กนัสและอาเรส 』
   
    ซาทิสฟายคือเกมที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับหนึ่ง  ผู้ชมทั่วโลกต่างเพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ  ซึ่งจัดขึ้นได้ยิ่งใหญ่และอลังการกว่าเดิมทุกปี

    ด้วยเหตุนี้  สีหน้าท่าทีของผู้เข้าแข่งทุกคนจึงมุ่งมั่นและจริงจัง   
    ยิ่งขนาดของงานแข่งใหญ่ขึ้น  รางวัลตอบแทนก็ยิ่งมหาศาลตามไปด้วย 
    แม้จะเป็นเพียงหรียญทองแดง  แต่ก็สามารถพลิกโชคชะตาของแรงเกอร์โนเนมคนหนึ่งได้ในพริบตา

    นักกีฬาเหรียญทองจะได้รับสิ่งตอบแทนเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารี  หรือไม่ก็วัสดุสำหรับสร้างไอเท็มเกรดมิธ
    นักกีฬาเหรียญเงินจะได้รับสิ่งตอบแทนเป็นไอเท็มเกรดยูนีค  หรือไม่ก็วัสดุสำหรับสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารี
    และนักกีฬาเหรียญทองแดงจะได้รับสิ่งตอบแทนเป็นไอเท็มเกรดอีปิก  หรือไม่ก็วัสดุสำหรับสร้างไอเท็มเกรดยูนีค

    หากมองเพียงผิวเผิน  รางวัลสำหรับเหรียญทองแดงจะดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าที่ควร 
    แต่มีสิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาด…
   
    ทาง SA กรุ๊ปมิได้ระบุกฏไว้ว่า
    ‘ห้ามร้องขอไอเท็มชนิดเติบโต’

    ใช่แล้ว…
    การเป็นนักกีฬาเหรียญรางวัลย่อมหมายถึง  อย่างแย่ที่สุดจะได้ครอบครองไอเท็มชนิดเติบโตเกรดอีปิก
    ไอเท็มชนิดเติบโตเกรดอีปิกส่วนใหญ่จะสามารถพัฒนาไปได้ถึงเกรดเลเจนดารี

    ‘เราต้องคว้าเหรียญรางวัลให้ได้!’

    อันดับหนึ่งของโลก  คริส 
    เขากำลังยืนบนลานพิธีปะปะร่วมกับนักกีฬาจากทีมแคนนาดา 
    คริสสัมผัสได้  บรรยากาศของผู้คนรอบข้างกำลังเข้มข้นถึงขีดสุด

    คนส่วนใหญ่กำลังกดดันตัวเอง…

    กริด  ครอเกล  และจิสึกะ 
    สามผู้ชนะการแข่งสนามต่อสู้เมื่อไม่กี่วันก่อน  พวกเขาจะได้รับรางวัลตอบแทนเทียบเท่าการคว้าเหรียญทอง

    การนำหน้าไปหนึ่งก้าวของสามแรงเกอร์ดาราดังระดับโลก  สิ่งนี้สร้างความกดดันและท้อแท้ให้นักกีฬาคนอื่นไม่น้อย
   
    กำแพงที่เคยสูงตระหง่านอยู่แล้ว  บัดนี้กลับต้องปีนป่ายได้ยากขึ้นกว่าเดิมอีกหรือ?

    ‘แต่กรณีของกริดค่อนข้างพิเศษ…’

    การใช้วัสดุระดับสูงสร้างไอเท็ม  จะไม่รับประกันว่าไอเท็มต้องมีระดับสูงตาม
    ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดวง

    ทว่า  ผู้คนภายนอกกลับไม่รู้เรื่องนี้
    พวกเขาล้วนมองกริดเป็นเทพแห่งการตีเหล็ก
    ในฐานะช่างตีเหล็กในตำนาน  กริดคงใช้วัสดุเกรดมิธ  สร้างเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารีได้ไม่ยาก   

    ทุกคนจึงกังวลว่า  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่แข็งแกร่งทรงพลังอยู่แล้ว  หลังจากนี้จะสร้างช่องว่างออกห่างทุกคนมากกว่าเดิม

    แน่นอน  นั่นเป็นการเข้าใจผิดมหันต์

    ‘หรือเราควรขอไอเท็มสำเร็จรูปดี?’
   
    คริสแสดงสีหน้าลังเล
   
    สิ่งที่กริดกำชับไว้กับทุกคนคือ
    ‘หากได้เหรียญทอง  พวกนายต้องขอวัสดุจากสัตว์เทพ’
    วัสดุจากสัตว์เทพหมายถึงไอเท็มที่มีระดับเดียวกับ ‘ลมหายใจฟินิกซ์แดง’

    กริดต้องการสร้างผลงานชิ้นเอกที่คล้ายคลึงกับ ‘คันศรฟินิกซ์แดง’ ออกมาอีกหลายชิ้น
    แต่กริดก็ไม่รับประกันว่า  สิ่งที่ออกมาจะกลายเป็นไอเท็มเกรดมิธทั้งหมด

    ก่อนหน้านี้  แม้บีเลียลจะดรอปวัสดุสร้างไอเท็มในปริมาณมหาศาล  แต่กริดกลับมิอาจสร้างไอเท็มเกรดมิธให้ขุนพลโอเวอร์เกียร์ได้แม้แต่ชิ้นเดียว
   
    หากโชคดีจะออกมาเป็นเกรดเลเจนดารี
    แต่หากโชคร้ายจะออกมาเป็นเกรดยูนีค

    กริดสามารถผิดพลาดได้

    ‘ในทางกลับกัน…ถ้าเราขอไอเท็มสำเร็จรูปเกรดเลเจนดารีชนิดเติบโต  มันจะพัฒนาไปเป็นเกรดมิธได้อย่างแน่นอน’

    หลังจากจบพิธีเปิดการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สาม  จิสึกะรีบปรี่เข้ามาหากริดโดยไม่รีรอ
    ชายหนุ่มกำลังขมวดคิ้วครุ่นคิดถึงวัสดุที่ตนจะขอเป็นรางวัล
   
    ผมสีแดงเพลิงยาวสลวยมาพร้อมกับผิวสีแทนที่งดงามและเรียบเนียน
    มันกำลังส่องประกายอย่างเจิดจ้าภายใต้แสงอาทิตย์ร้อนแรง

    “ฉันจะขอลมหายใจฟินิกซ์แดง  ฉันเชื่อว่านายต้องหาวิธีสร้างไอเท็มเซ็ตที่เข้ากับคันศรฟินิกซ์แดงได้แน่”

    “เธอแน่ใจแล้วหรือ…ถึงจะเป็นวัสดุเกรดมิธ  แต่ฉันก็ไม่สามารถสร้างออกมาเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารีได้ทุกครั้ง”

    “ไม่เป็นไร…ฉันเชื่อใจนาย  ทำให้เต็มที่ก็พอ”

    “…”

    หัวใจกริดพลันเต้นระรัว
    แต่มิได้เกิดจากใบหน้าอันงดงามหรือขนาดหน้าอกคัพ E

    กริดถูกสั่นคลอนอย่างหนักจากความเชื่อใจอันไร้ก้นบึ้งที่จิสึกะมอบให้ตน   
    สิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขมาก

    เป็นเพราะความกล้าหาญที่จิสึกะมอบให้  กริดจึงได้ข้อสรุปเกี่ยวกับรางวัลตอบแทนหลังจากที่ลังเลอยู่นาน
   
    “ดีล่ะ…งั้นฉันจะขอลมหายใจมังกรคราม”

    จากนั้น

    “และหากได้อีกสองเหรียญทอง  ฉันจะขอลมหายใจเสือขาวและลมหายใจเต่าดำ…”

    ชายหนุ่มหันไปฉีกยิ้มกว้างให้จิสึกะ

    “จิสึกะ…เต็มที่กับการแข่งนะ  ฉันจะเอาใจช่วย”

    “ได้เลย…ฉันก็จะเอาใจช่วยนายเหมือนกัน  ขอบคุณมาก”

    รอยยิ้มของจิสึกะทั้งสดใสและร่าเริง
    คำอวยพรเพียงเล็กน้อยจากกริดสามารถแปรเปลี่ยนโลกของเธอได้ทั้งใบ

    จิสึกะเคยยึดติดกับชายใดขนาดนี้มาก่อนหรือไม่?
    คำตอบคือไม่

    เธอกำลังมีความสุขสุดขีด
    ขอเพียงได้อยู่เคียงข้างกริดแบบนี้ไปตลอด…

    “…พวกเราน่าจะแต่งงานกันนะ”

    “หือ?  อะไรนะ?  ฉันได้ยินไม่ชัด  เสียงรอบข้างดังชะมัด”

    “อ๊ะ…ไม่เป็นไร  ช่างมันเถอะ  ฉันพูดกับตัวเอง”
   
    ใบหน้าจิสึกะพลันแดงก่ำ
    เธอประหม่าทุกครั้งที่ได้พบกริดในโลกแห่งความจริง
    แตกต่างจากในซาทิสฟายโดยสิ้นเชิง

    “กริด!”
   
    ขณะกริดและจิสึกะกำลังมีบรรยากาศชื่นมื่น  สาวสวยอีกหนึ่งคนได้เดินเข้ามาร่วมวงสนทนา

    แตกต่างจากจิสึกะที่ร้อนแรงดุจดั่งดวงตะวัน  ยูร่าจะให้บรรยากาศเย็นยะเยียบและสงบนิ่งราวกับดวงจันทร์ยามรัตติกาล

    “รายชื่อนักกีฬาที่จะลงแข่งแต่ละรายการถูกเปิดเผยแล้ว  ทุกคนกำลังหารือว่าใครจะเปลี่ยนไปลงแข่งรายการใดบ้าง”

    ยูร่าใช้สายตาแสนเย็นชาเพ่งพิจารณาจิสึกะตั้งแต่หัวจรดเท้า
    เธอไม่ปลื้มจิสึกะสักเท่าไร  ผู้หญิงคนนี้ชอบแต่งตัวยั่ยยวนเผยเนินอก

    “ทุกคนกำลังรอที่ห้องพักนักกีฬา  รีบไปกันเถอะ”

    จากรายชื่อที่เสนอไว้ตอนแรก  ทุกทีมมีเวลาสามชั่วโมงในการเปลี่ยนตัวนักกีฬาแต่ละรายการ     
    แต่ละทีมจึงจำเป็นต้องประชุมเพื่อหารือและวิเคราะห์แผนการแย่งชิงความเป็นจ้าวเหรียญทองอย่างละเอียด

    กลยุทธ์ต้องถูกปรับเปลี่ยนอย่างเหมาะสม  ใครต้องการเลี่ยงเผชิญหน้ากับใคร  ทำอย่างไรจึงจะมีโอกาสคว้าเหรียญทองได้มากที่สุด 
    สามชั่วโมงหลังจากนี้จะเป็นตัวตัดสิน

    จิสึกะกัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจเมื่อเห็นยูร่าคว้าข้อมือกริด

    แม้ภายนอกยิ้มแย้ม  แต่ภายในกำลังเปี่ยมด้วยแรงอาฆาตแค้นมหาศาล

    “โชคดีจังนะที่ได้อยู่ทีมเดียวกัน”

    “แน่นอน…ต้องดีกว่าการอยู่คนละซีกโลกอยู่แล้ว”

    “ถ้าสนิทกันเพียงเพราะได้อยู่ใกล้กัน  ฉันว่าเธอควรกังวลให้มากนะ  เพราะอีกประเดี๋ยวฉันจะย้ายไปอยู่เกาหลีใต้แล้ว”

    “ด้วยหนี้สินขนาดนั้น…ฉันสงสัยนักเชียว  ว่าเธอสามารถย้ายสิทธิ์พลเมืองได้จริงหรือ?  รึคิดจะเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย?”

    “ชิ…!  ฉันจะคว้าเหรียญทองพร้อมกับปลดหนี้ทั้งหมด!”

    “ใครจะรู้…เธอกับฉันอาจลงแข่งรายการเดียวกัน ‘โดยบังเอิญ’ ก็ได้”

    “คิดจะขัดขวางงั้นหรือ? ฮึ!  ก็เอาสิ!!  ฉันพร้อมทุกเมื่อ!!  อยากจะรู้เหมือนกันว่าขุมนรกทำให้เธอเก่งขึ้นแค่ไหนนักเชียว”

    “แล้วเธอจะต้องตะลึง”

    เปรี้ยะ!

    เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!

    เมื่อดวงตาอันเร่าร้อนของจิสึกะประสานกับดวงตาแสนเย็นชาของยูร่า 
    ราวกับบรรยากาศรอบตัวกลายเป็นสนามไฟฟ้าขนาดย่อม

    กริดยืนขมวดคิ้วเมื่อเห็นสองสาวงามเริ่มแยกเขี้ยวกัดกัน

    ‘เอาอีกแล้ว…’

    กริดไม่มีวันรู้เลย  ว่าบรรยากาศของมนุษย์เพศชายรอบข้างกำลังคุกรุ่นมากเพียงใด

    ***

    ในปีนี้  การแข่งมีทั้งหมด 27 ชนิด
    ไม่มีกฏระบุว่าทุกประเทศต้องส่งนักกีฬาเข้าแข่งให้ครบทุกรายการ
    ส่วนใหญ่มักเลือกลงแข่งในรายการที่ตนเองถนัด  หรือไม่ก็รายการที่มีไม่ค่อยได้รับความสนใจ

    เหตุผลที่ทาง SA กรุ๊ปเปิดให้สามารถแก้ไขรายชื่อนักกีฬาแต่ละรายการได้  นั่นก็เพื่อความหลากหลายของกลยุทธ์ที่แต่ละทีมจะเลือกใช้

    ด้วยเหตุนี้  ฝ่ายผู้เล่นจึงกำลังปวดเศียรเวียนเกล้าสถานหนัก
    รายชื่อชุดแรกที่ทุกทีมส่งได้ไปก่อนหน้า  มันเป็นการสับขาหลอกหรือของจริงกันแน่?
   
    ทุกคนต้องช่วยกันเค้นสมองคิดและวิเคราะห์ความเป็นไปได้
   
    “กริด  นายจะลงแข่งรายการไหนบ้าง?”
   
    ณ ห้องพักนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้
    สายตาทุกคู่กำลังจ้องมองกริดเป็นตาเดียว
   
    ผู้มีสิทธิ์คว้าเหรียญทองย่อมได้เลือกรายการแข่งก่อนใคร

    “อา…”

    ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่ออ่านรายชื่อนักกีฬาทีมสหรัฐ
    บุคคลที่เขาสนใจมิใช่ใครอื่นนอกจากครอเกล
   
    ครอเกลเลือกลงแข่งในรายการที่ค่อนข้างประหลาด

    “ฉันเข้าใจ PVP…แต่การแข่งดึงดาบอริยะคืออะไร?”

    รายการ ‘ดึงดาบอริยะ*’ ได้ถูกบรรจุในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติสามปีซ้อน

( ผู้แปล — ก่อนหน้านี้เคยแปลไว้ว่า ‘การแข่งชักดาบเร็ว’ เพราะตอนนั้นยังอ้างอิงการแปลจากภาษาอังกฤษ  ทางอังกฤษเขียนไว้แค่ ‘Draw Sword’ ซึ่งหมายถึงการชักดาบ
ใครที่เคยอ่านอังกฤษมาก่อนจะทราบดี )

    มันคือรายการแข่งที่ถูกมองว่าไม่สำคัญมาโดยตลอด
    ทั้งน่าเบื่อ  ซับซ้อน  และกินเวลานานมาก  ส่งผลให้ไม่มีใครชื่นชอบที่จะรับชม

    “การแข่งที่ต้องพึ่งพาสมองเป็นหลักใช่ไหม?”

    ถูกต้อง…
    ผู้เข้าแข่งดึงดาบอริยะทุกคนต้องไปรับฟังคำบอกใบ้จาก ‘ดาบอริยะ’
    จากนั้นก็อาศัยคำใบ้ที่มีเพียงเล็กน้อยเพื่อทำให้ตนเองกลายเป็นบุคคลที่ ‘ดาบอริยะ’ เห็นว่าคู่ควร

    ระหว่างการแข่งต้องบรรลุภารกิจที่ยากและซับซ้อนมากมาย 
   
    มีทั้งภารกิจต่อสู้และใช้ความคิดอย่างละครึ่ง  ปูมหลังและพื้นฐานความรู้ด้านซาทิสฟายคือสิ่งที่จำเป็นเทียบเท่ามันสมอง

    มิใช่รายการที่กริดลงแข่งแล้วจะมีโอกาสคว้าชัยได้เลย
    ไม่ต้องมองถึงเหรียญทอง…แม้แต่ทองแดงก็ยังไม่ใกล้เคียง

    “ครอเกลจะลงแข่งไอ้นี่จริงหรือ?”

    รายชื่อผู้เข้าแข่งที่ทุกคนกำลังเห็นคือ ‘ชุดแรก’ ที่แต่ละทีมส่งไปล่วงหน้า
    อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ทั้งนั้น

    กริดมั่นใจมาก  คนเช่นครอเกลไม่มีทางลงแข่งไร้สาระอย่างดึงดาบอริยะแน่
   
    “แต่ทำไมหมอนั่นต้องสับขาหลอก…?  อีกรายการที่ครอเกลลงแข่งจะเป็นอะไรกันแน่”

    กริดต้องการดวลกับครอเกลในทั้งสองรายการ
    สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับถ้อยคำที่ดาเมี่ยนเคยแถลงต่อหน้าสื่อ

    กริดหลงไหลความรู้สึกในชั่วขณะที่ได้ดวลกับครอเกล 

    แม้จะผ่านมาแล้วหนึ่งปีกว่า 
    แต่เขาไม่มีวันลืมวินาทีที่โลหิตทั่วร่างกายกำลังสูบฉีดอย่างเดือดพล่าน

    ในปีก่อน  ครอเกลแย่งชิงเหรียญทองตนไปหนึ่ง
    เช่นนั้นในปีนี้  กริดคิดจะแย่งชิงเหรียญทองจากครอเกลมาสอง

    ขณะกริดกำลังเดาสุ่มอย่างมั่วซั่ว  ยูร่าและพีคซอร์ดเริ่มออกความเห็น

    “ครอเกลเป็นคนหัวดีมาก…แถมยังมีฝีมือต่อสู้สูง  ไม่มีใครเหมาะกับการแข่งดึงดาบอริยะไปมากกว่าเขาอีกแล้ว”

    “เลเวลของครอเกลยังไม่มาก  ทำให้ไม่สามารถรีดเร้นพลังที่แท้จริงออกมาได้  หากต้องการคว้าเหรียญทอง  ไม่มีรายการใดเหมาะไปกว่าการแข่งดึงดาบอริยะแน่  เขาสามารถกลบจุดอ่อนด้านเลเวลได้ด้วยสติปัญญา”

    “…ครอเกลหัวดีจริงหรือ?”

    กริดย้อนนึกไปถึงตอนที่ครอเกลกล่าวชมว่าตนสามารถมองเห็นอนาคต

    “แน่นอน  เขาย่อมมีสติปัญญาเป็นเลิศในฐานะอดีตอันดับหนึ่งของโลก”

    “…”

    เช่นนั้นแล้ว  ตนควรลงแข่งดึงดาบอริยะดาบเหมือนครอเกลรึไง?
    ชายหนุ่มครุ่นคิดด้วยสีหน้าตึงเครียด

    “ฉันลงรายการนี้ได้ไหม?”

    “…อย่า”

    “…”

    ก็ได้…
    ไว้แก้แค้นใน PVP ก็ได้

    กริดทั้งเสียดายและโล่งใจในเวลาเดียวกัน  หากไม่ใช่การดวล  กริดไม่มั่นใจเลยว่าจะเอาชนะครอเกลได้   

    ‘ถ้าอย่างนั้น…เราต้องเลือกรายการที่มั่นใจว่าจะคว้าเหรียญทอง’

    เป็นรายการอะไรงั้นหรือ?
    แน่นอน…

    “ฉันจะแข่ง PVP กับตีเหล็ก”

    ผู้คนอาจเย้ยหยันที่เห็นตนเลือกลงแข่งตีเหล็ก
    บางคนอาจกล่าวว่ากริดจงใจเลี่ยงครอเกลในรายการที่เหลือ

    ‘ช่างเถอะ…อยากพูดอะไรก็เชิญ’

    ไม่ว่ากริดจะทำอะไร  ย่อมถูกผู้คนติฉินนินทาลับหลังอยู่เสมอ
    ไม่มีวันที่เขาจะทำถูกใจคนทั้งโลกพร้อมกันได้

    เมื่อเสร็จของตัวเอง  กริดจึงให้ความสนใจกับตัวเลือกของนักกีฬาคนอื่น

    จากนั้นเขาก็ต้องทึ่ง

    ยูร่าเลือกลงแข่ง ‘ทำลายวัตถุ’ และ ‘ดึงดาบอริยะ’

    ทำลายวัตถุคือรายการแข่งใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก  อาจเป็นรองเพียง PVP เท่านั้น 
    การแข่งทำลายวัตถุจึงมีตัวเต็งระดับท็อปเข้าร่วมอยู่เสมอ

    แต่ยูร่าคือเจ้าแม่ตัวจริงในการแข่งทำลายวัตถุ  เธอสามารถคว้าเหรียญทองได้ถึงสองปีซ้อน  แม้จะพึ่งพาพลังกริดเป็นหลักก็ตาม

    ทว่า  สิ่งที่กริดไม่เข้าใจก็คือ  เหตุใดยูร่าถึงเข้าแข่งดึงดาบอริยะ?
    เธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือว่าครอเกลจะลงแข่งรายการนี้?
    เช่นนั้นแล้ว  จะลดโอกาสคว้าเหรียญทองของตัวเองไปทำไมกัน?

    เมื่อเห็นกริดสับสน  ยูร่าจึงอธิบาย

    “พวกเราต้องเล็งตัดแต้มจากชาติที่เป็นตัวเต็งจ้าวเหรียญทอง  ไม่อย่างนั้นอันดับของเกาหลีใต้จะไม่ขยับขึ้น”

    กริดเข้าใจเจตนาดี

    “แต่โอกาสชนะมีมากน้อยแค่ไหนกัน?  ยูร่า…เธอคือหนึ่งในกำลังหลักของทีมเรา  พวกเราไม่ต้องการให้เธอเสียโอกาสในรายการอื่น  อย่าได้ลงแข่งในรายการที่ไม่ทางคว้าเหรียญทองเด็ดขาด…อุ๊ฟ!  อุฟอุฟ!!”

    เมื่อเห็นพีคซอร์ดเริ่มพูดมาก  กริดจึงใช้มือปิดปากเขาไว้

    จากนั้นก็หันไปมองยูร่าด้วยดวงตาที่เปี่ยมความเชื่อมั่น

    “ขุมนรกทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นมากใช่ไหม?”

    เป็นระดับที่สามารถเทียบชั้นฟ้าเหนือฟ้าได้เชียวหรือ…

    “ฉันเชื่อใจเธอ…พยายามให้เต็มที่”

    กริดไม่เคยเห็นยูร่าอวดโอ่โดยไม่ประมาณตนเลยสักครั้ง
    ความมั่นใจของยูร่าย่อมมีที่มา  และกริดก็เลือกจะเชื่อเธอ

    “ขอบคุณมาก…ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวัง”
   
    ยูร่าฉีกยิ้มกว้างอย่างสดใส  ทั้งน่ารักและชดช้อยงดงามจนกริดพลันหน้าแดงก่ำ

    ทันใดนั้น  สวาปามจกบัลเผ็ดได้พูดขัดบรรยากาศ
    “ฉันกับเพื่อนจะลงแข่งประเภททีมจำนวนสองรายการ”

    “โอ้!  เยี่ยมมาก!”

    พีคซอร์ดแก้มือกริดที่อุดปากพร้อมกับส่งเสียงตื่นเต้นดีใจ
    เขาอยากเห็นพลังของนักสร้างดันเจี้ยนในการแข่งประเภททีมอย่างมาก
   
    ทั่วโลกอาจประเมินเกาหลีใต้ให้มีอันดับต่ำ 
    แต่พีคซอร์ดนั้นคิดต่าง

    ‘เกาหลีใต้จะเฉิดฉายอยู่บนหัวตาราง!’

    และยังมีอีกหนึ่งคนที่สีหน้าเปี่ยมด้วยความมั่นใจ

    “ฉันคิดว่าสามารถคว้าเหรียญทองแดงจากรายการนี้ได้”

    เขาคือ ‘ทูน’ ราชันย์นักล่า
    ทูนเปลี่ยนสัญชาติเป็นเกาหลีใต้เต็มตัวและทำงานรับใช้ตระกูลกริดมาหลายปี

    “วะฮ่าฮ่าฮ่า!!  เกาหลีใต้จงเจริญ!!”

    พีคซอร์ดกำลังเต้นรำอย่างดีอกดีใจ
    แต่ตัวเขากลับยังไม่เลือกลงแข่งแม้แต่รายการเดียว

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,188

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous