จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 753



ตุ้บ

วัตถุสีดำลักษณะอ่อนนุ่มร่วงหล่นตกใส่พื้นห้องจนเปื้อนเปรอะ
สิ่งนั้นคือพุดดิ้งชอคโกแลตที่กริดกำลังทานเมื่อครู่

“…”

ณ ห้องพักนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้
สีหน้าของกริดกำลังเหม่อลอยราวกับร่างไร้วิญญาณ  ไม่มีท่าทีตอบสนองต่อพุดดิ้งราคาแสนแพงที่เพิ่งจะหล่นลงพื้นแม้แต่น้อย

“ก็อดกริด!  ก็อดกริด!!”

พีคซอร์ดสัมผัสได้ว่ามีกริดมีท่าทีแปลกไป  เขาพยายามใช้มือจับไหล่กริดเขย่าไปมาอย่างมั่วซั่ว

พีคซอร์ดเป็นกังวลอย่างหนัก  

ท่ามกลางขนมทานเล่นมากมายที่ถูกเตรียมไว้ในห้องพักนักกีฬา  กริดสนใจเพียงพุดดิ้งชอคโกแลตที่มีราคาแสนแพง

เขากินมันเข้าไปถึงหกอันติดต่อกัน

“นี่!! กริด!  ฉันบอกแล้วว่าอย่ากินน้ำตาลเข้าไปมากขนาดนั้น!  แต่นายกลับเอาแต่พูดว่า  ของฟรีมักดีเสมอ…!  กริด!  ก็อดกริด!  ได้โปรดตื่นด้วย!!  มองตาฉันเร็วเข้า!”

‘…ไม่เหมือนที่คิดไว้เลยแฮะ’

ในสายตานักกีฬาทีมชาติเกาหลีคนอื่น  ตัวตนของกริดและพีคซอร์ดยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย
คนทั้งสองคือไอดอลของเหล่าแรงเกอร์ซาทิสฟายรุ่นใหม่ชาวเกาหลีใต้

ภาพลักษณ์ที่ทุกคนวาดฝันคล้ายคลึงกับขุนนางผู้สูงสง่า
แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

ดูราวกับเป็นเพื่อนบ้านสมองทึบเสียมากกว่า

พวกเขาผิดหวังงั้นหรือ?
กริดและพีคซอร์ดไม่คู่ควรให้เคารพนับถือรึเปล่า?

คำตอบคือไม่  
ไม่เลยสักนิด

กลับกัน  กลายเป็นว่า  กริดกับพีคซอร์ดเข้าหาได้ง่ายและเป็นมิตรกว่าที่คิด

“พอได้แล้ว…ฉันแค่กำลังคิดเรื่องอื่นอยู่”

ท่ามกลางเสียงดังเอะอะวุ่นวาย  เมื่อกริดได้สติกลับมา  สมาธิของเขาได้เพ่งไปยังหน้าจอถ่ายภาพอีกครั้ง

ชายหนุ่มเฝ้ามองยูร่าสังหารมอนสเตอร์แสนดุร้ายตัวแล้วตัวเล่าเพื่อ ‘พิสูจน์ฝีมือ’

“แข็งแกร่ง…มาก”

แม้กริดอาจไม่ได้แสดงออก  แต่ความจริงแล้ว  เขาแอบเป็นห่วงยูร่าอยู่หลายส่วน

เธอเคยรั้งอันดับท็อปห้าของโลกมาแสนนาน
ชื่อเสียงและความน่าเกรงขามของยูร่าสมัยเป็นแม่มดโลหิต  ไม่มีใครในโลกที่ไม่รู้จัก

เพียงการปรากฏตัวก็สามารถสร้างบรรยากาศกดดันคู่ต่อสู้
เพียงการสบตาก็สามารถสะกดข่มจนศัตรูแทบหยุดหายใจ

แต่หลังจากเธอกลายเป็นนักล่าอสูรพร้อมกับถูกรีเซ็ตเลเวล  ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป

“นักล่าอสูร…”

คลาสลับเกรดเลเจนดารีที่มีเงื่อนไขซับซ้อนในการแสดงพลัง
มันคือคลาสที่เหมาะกับคนสมองทึบเช่นกริดมากกว่า  
นักล่าอสูรมีพลังไม่หลากหลาย  
เก่งกาจเฉพาะทาง  
ซึ่งนั่นเป็นพันธนาการที่คอยฉุดรั้งบุคคลอัจฉริยะอย่างยูร่าไว้

กริดกลัวยูร่าจะเสียใจที่เลือกเล่นคลาสนักล่าอสูร

‘…ถ้าเป็นเราคงอยากลบตัวทิ้ง’

แต่เธอก็มิได้ทำ

ยูร่าตัดสินใจผจญโลกกว้างอย่างโดดเดี่ยวโดยไม่พึ่งพาผู้ใด

เธอตัดสินใจลงไปในขุมนรก… 

และนั่นคือที่มาของสิ่งที่กริดกำลังเห็นในปัจจุบัน
ยูร่ากลับมาพร้อมพลังต่อสู้เหนือจินตนาการในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติปีที่สาม

“เธอสุดยอดมาก…”

กริดคือคนที่พยายามอย่างหนักในทุกเรื่องเสมอ  เขาจึงจินตาการไม่ออก  ว่ายูร่าต้องหลั่งหยาดเหงื่อเป็นโลหิตมากเพียงใด  ถึงสามารถนำพลังที่ควรใช้ได้เพียงในขุนนรก  มาใช้ต่อสู้บนโลกกึ่งกลางได้อย่างน่าทึ่งเช่นนี้

กริดทั้งตะลึงและชื่นชม 

“ก็อดกริด…”

พีคซอร์ดกล่าวด้วยเสียงสั่นระริก  
เขาหยิบยื่นกระดาษทิชชูให้ด้วยใบหน้าจริงจังขึงขัง

ภายในห้องพักนักกีฬาซึ่งไม่มีผ้าเช็ดหน้าเตรียมไว้… 

“ช่วยเช็ดปากด้วย…สกปรกฉิบ”

***

[ ท่านสังหาร ‘โครงกระดูกคริสตัล’ ]
[ ท่านรวมรวบ ‘สัญลักษณ์แห่งฝีมือ’ ครบจำนวนแล้ว  จงเดินทางไปยังหมู่บ้าน ‘แอนดรูว’ และเข้าพบผู้นำผู้บ้าน  เขาจะมอบ ‘วรรคที่สองของบทกวีดาบอริยะ’ ให้ท่าน ]

‘เราไม่ควรปะทะกับครอเกลตอนนี้’

ครอเกลรวบรวมสัญลักษณ์แห่งฝีมือครบจำนวนหรือยัง?
รึว่ายังอยู่ระหว่างการรวบรวม?

จากการคำนวณของยูร่า  โอกาสเป็นข้อแรกสูงกว่ามาก

‘ถ้าเราตรงไปที่หมู่บ้านแอนดรูวตอนนี้  มีโอกาสสูงที่จะได้พบกับครอเกล’

แม้ไม่ต้องการยอมรับ  ทั้งที่นักล่าอสูรและอริยดาบเป็นคลาสเกรดเลเจนดารีเหมือนกัน  แต่พลังต่อสู้ของอริยดาบกลับสูงกว่านักล่าอสูรอย่างเทียบไม่ติด

ความกดดันจากการดวลเมื่อครู่  ยังคงตกค้างอยู่ในสัมผัสของยูร่าจวบจนปัจจุบัน
หากเธอลั่นไกปืนช้ากว่านี้อีกเพียงเสี้ยววินาที  ฝ่ายที่ต้องปางตายคือตัวเธอเอง

ความแข็งแกร่งของครอเกลมากมายถึงเพียงนั้น

‘ถ้ามิติขุมนรกไม่มีผลเสียคงดีกว่านี้…’

มิติขุมนรกคือไพ่ตายที่ยูร่าครอบครองหลังจากสำเร็จภารกิจประจำคลาส

แต่น่าเสียดายที่ผลข้างเสียของมันค่อนข้างเป็นปัญหา
มิติขุมนรกคือทักษะที่จะส่งร่างของผู้ใช้ไปยัง ‘บางแห่ง’ ในขุมนรกเป็นการชั่วคราว

ไม่มีใครรู้ว่าเธอจะถูกส่งไปที่ใด
ในกรณีร้ายแรง  อาจต้องเผชิญหน้ากับจอมอสูรหรือทะเลเพลิงโลกันตร์

อันที่จริง  ราว 30 นาทีก่อน  
ขณะที่ยูร่าใช้มิติขุมนรกระหว่างดวลกับครอเกล  เธอสุ่มตกไปยังหน้าปราสาทของจอมอสูรลำดับ 15…

ยูร่าถูกมอนสเตอร์ประหลาดสีแดงที่เป็นยามเฝ้าประตูใช้ทักษะสร้างอาการผิดปรกติใส่
มันรุนแรงถึงขนาดทักษะติดตัวของตำนานมิอาจต้านทานลบล้างได้หมด
ส่งผลให้ยูร่าติดสถานะ ‘แข็งเป็นหิน’ ชั่วคราว  ซึ่งทำให้ความเร็วร่ายกายลดลงมาก

“เฮ่อ…”

ยูร่าถอนหายใจอย่างท้อแท้
เธอตัดพ้อที่มิอาจดวลซึ่งหน้าให้ชนะอีกฝ่ายได้  แม้จะเป็นคลาสระดับตำนานเหมือนกันก็ตาม

…เธอพ่ายแพ้ทั้งที่มีเลเวลสูงกว่า 

ยูร่ามีเลเวลเกิน 300 ก่อนงานแข่งจะเริ่มขึ้น  ส่งผลให้เธอได้รับโบนัสการตื่นค่าสถานะระดับสาม
ขณะที่ครอเกลยังมีเลเวลเพียง 200 ตอนกลางเท่านั้น

อริยดาบแข็งแกร่งเกินไป

‘ไม่สิ…นั่นมันแค่ข้ออ้าง’

‘คลาส’ ไม่ใช่ทุกสิ่งของการต่อสู้
ความจริงอันแสนโหดร้ายได้พิสูจน์แล้วแล้วหน  ผู้เล่นคลาสธรรมดาเช่นครอเกลสามารถเอาชนะคลาสระดับตำนานอย่างกริดได้
หรือแม้กระทั่งเฟคเกอร์ที่สามารถล้มแบล็คและปกป้องชีวิตไอรีน

‘ต้องเร่งมือ’

แผนดั้งเดิมของยูร่ามิใช่การรุดหน้าไปถึงหมู่บ้านแอนดรูวก่อนครอเกล
ทว่า  หากเธอเอาแต่หลบเลี่ยงอยู่เช่นนี้  โอกาสคว้าเหรียญทองคงแทบไม่หลงเหลือ
และการเสี่ยงเข้าแข่งดึงดาบอริยะก็จะสูญเปล่า

‘เราหนีครอเกลตลอดไปไม่ได้’

เมื่อเริ่มตาสว่าง  ยูร่ารีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังหมู่บ้านแอนดรูว
เธอเชื่อว่า  แรงเชียร์ของกริดจะช่วยให้โชคชะตาเข้าข้างตน

***

“อ๊ะ…พวกเขาเผชิญหน้ากันอีกแล้ว”

“ยูร่าช่างน่าสงสาร”

“คราวนี้เธอแย่แน่”

การแข่งดึงดาบอริยะผ่านไปแล้วสองชั่วโมงครึ่ง
ผู้เข้าแข่งส่วนใหญ่เพิ่งได้รับวรรคที่สามของบทกวีดาบอริยะ  
แต่ครอเกลกลับยูร่าต่างได้รับวรรสุดท้ายมาแล้วทั้งคู่  การเผชิญหน้ากันคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป

การดวลครั้งที่หก

ไม่ว่ายูร่าจะเป็นฝ่ายบาดเจ็บหนักเพียงใด  แต่เธอก็ไม่ลดละที่จะไล่ตามครอเกล
ยิ่งการดวลผ่านไปนาน  ครอเกลก็ยิ่งรุกหนักอยู่ฝ่ายเดียว

ชายคนนี้จะไม่หลงกลลูกไม้เดิมซ้ำสอง  เขาสามารถปรับใช้สิ่งที่มีให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ครอเกลจับจุดอ่อนของยูร่าได้จากการปะทะกันหนแล้วหนเล่า

ข้อดีข้อเสียของนักล่าอสูรล้วนถูกอ่านออกทั้งหมด  สำหรับยูร่า  แค่ตั้งการรับก็นับว่ายากเต็มกลืนแล้ว

เมื่อปลางทายการดวลไม่มีชัยชนะของเธอรออยู่  ทางเลือกเดียวของยูร่าคือการถอยเพื่อรักษาระยะห่าง
เธอมิอาจเอาชนะอริยดาบได้ในการต่อสู้ระยะประชิด  ชายคนนั้นมีทักษะอ่านใจ

ยูร่าตัดสินใจรักษาระยะห่างด้วย ‘มิติขุมนรก’
และเมื่อกลับออกมาอีกครั้ง… 

“ฮ…เฮ้ย?  นั่นมัน?”

“เธออัญเชิญอสูร?”

ผู้ชมต่างตกตะลึงเมื่อเห็นยูร่าปรากฏตัวจากประตูมิติ
ก่อนหน้านี้  เธอหายตัวไปพร้อมแสงสว่างสีแดง  จากนั้นก็โผล่กลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับหลุมดำและสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดบนหัวไหล่

ในทางสามัญสำนึก  ผู้คนย่อมคิดว่ามันคือสัตว์เลี้ยงของยูร่า
แต่อสูรตนดังกล่าวกำลัง…

‘แทะ’ หัวไหล่ของเธออยู่ 

'อะไรกัน?'

ผู้บรรยาย  ผู้ชม  รวมถึงครอเกล  ทุกคนต่างพากันมีสีหน้าฉงน
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น  

ยูร่าหายตัวไปทำอะไรมา?

แต่เพียงไม่นาน  ครอเกลก็เริ่มคาดเดาความจริงออก

‘บ้าน่า…นี่เธอเข้าสู่ขุมนรกทุกครั้งที่ใช้ทักษะงั้นหรือ?’

เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ต้น…
เมื่อยูร่าหายตัวไปและปรากฏอีกครั้ง  
ครอเกลจะสัมผัสได้ว่า  เธอมักได้รับบาดเจ็บ  หรือไม่ก็ถูกอาการผิดปรกติเล่นงานเสมอ 

ค่อนข้างแน่ชัดแล้ว  ทักษะเคลื่อนย้ายมิติของยูร่า  ไม่ใช่ทักษะย้ายตำแหน่งในพริบตาตามปรกติ

“ไม่เสี่ยงไปหน่อยรึไง?”

ครอเกลถามราวกับเข้าใจบางสิ่ง
แต่สีหน้าของยูร่ายังคงเรียบเฉย

“ฉันไม่เข้าใจความหมายของนาย”

ฉัวะ— 

ยูร่าใช้ดาบเชือดอสูรที่กำลังแทะไหล่ทิ้ง  จากนั้นก็เล็งปืนสั้นไปทางครอเกล
ด้วยสถานการณ์ตอนนี้  เธอต้องรักษาชีวิตให้ได้จนกว่าระยะหน่วงครั้งต่อไปของมิติขุมนรกจะมาถึง

ครอเกลย่อมอ่านพฤติกรรมของเธอออก  เขารีบใช้ทักษะพุ่งเข้าประชิดตัว

แต่อย่าลืมว่ายูร่าคือฟ้าเหนือฟ้าของฝ่ายหญิง  การเข้าประชิดคลาสเกรดเลเจนดารีที่เธอควบคุมไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น

***

“ครอเกล!!  นายมันใจดำที่สุด!!”

กริดเฝ้ามองการแข่งด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ
ครอเกลไล่ล่ายูร่าแทนที่จะรีบทำภารกิจให้จบ  ฉากนี้ทำให้กริดโกรธเคืองไม่น้อย

“ทำไมไม่ยอมแบ่งเหรียญทองกับเงินอย่างสันติ…ทำไมนายต้องแย่งชิงทุกสิ่งไปจากเธอ”

“เพราะครอเกลยอมรับให้ยูร่าเป็นภัยคุกคาม  โอกาสชนะของครอเกลจะลดลงหากยูร่ายังอยู่ในการแข่ง”

เฉกเช่นผู้เล่นอื่น  สวาปามจกบัลเผ็ดเองก็เฝ้ามองการแข่งอย่างไม่ละสายตา
วีโอล่า  สาวสวยในชุดฮันบกที่นั่งติดกับเขา  เธอพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเห็นด้วย

“คุณผู้หญิงฝ่ายเราแข็งแกร่งจนน่าทึ่ง”

จริงอยู่ที่ทุกคนต่างทราบว่าครอเกลแข็งแกร่งกว่ายูร่าหนึ่งก้าว
คนเดียวในงานแข่งนานาชาติที่สามารถล้มครอเกลได้…

มีเพียงกริดเท่านั้น

แต่ในการดวลกับยูร่า  ครอเกลกลับเหนือกว่าไม่มากอย่างที่ทุกคนคิด

“ทักษะมิติขุมนรกคืออะไรกันแน่?”

“สงสัยเหมือนกัน…ตอนแรกนึกว่าจะเป็นทักษะเคลื่อนย้ายมิติที่แสนโกง  จนกระทั่งได้เห็นมอนสเตอร์ตามออกมาด้วย”

ภายบหน้าจอ  เป็นอีกครั้งที่ยูร่าตัดสินใจถอยให้ห่างจากครอเกล
เธอหลบหนีเข้าไปในผืนป่าทึบสำเร็จ  
รอดตัวจากการถูกส่งออกจากสนามอย่างฉิวเฉียด

กริดตื่นเต้นจนคอแห้ง  เขาโล่งใจทันทีเมื่อเห็นยูร่าปลอดภัย
ขณะกำลังเปิดขวดเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการนำมาให้

“คุณกริด  มีแขกมาหาครับ…”

“แขก? ใครกัน?”

จะมีใครบ้างที่ต้องการพบนักกีฬาเกาหลีใต้ขณะเกมการแข่งกำลังดำเนินอยู่?
เมื่อเห็นกริดขมวดคิ้ว  เจ้าหน้าที่ฝ่ายความปลอดภัยจึงแก่กริด

“แพนเมียร์จากทีมสหรัฐครับ”

“…?”

ผู้เล่นคลาสช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของโลกนับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัวจวบจนปัจจุบัน
เป็นบุคคลที่ท้าทายให้กริดลงแข่งตีเหล็กในปีที่แล้ว  

‘หมอนั่นจะมาท้าให้เราลงแข่งอีกรึไง?’

หลังจากครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในปีก่อน  กริดอมยิ้มพร้อมกับเดินออกจากห้องพักนักกีฬา

แพนเมียร์เป็นคู่แข่งที่กริดไม่คิดเมินเฉย
เขาไม่ได้กลัว  แต่ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมในความพยายามของอีกฝ่าย

กริดและแพนเมียร์ล้วนหลงไหลในงานฝีมือ   เป็นสายสัมพันธ์ของช่างตีเหล็กอย่างแท้จริง

เขาเข้าใจถึงสาเหตุที่แพนเมียร์ไม่พอใจเมื่อกริดกลายเป็นช่างตีเหล็กในตำนานได้โดยไม่ต้องออกแรงพยายาม

กริดไม่เคยคิดประมาทคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแพนเมียร์

“ไง…ไม่เจอกันนานเลยนะ”

เมื่อเห็นแพนเมียร์ยืนรออยู่ที่โถงทางเดิน  กริดเป็นฝ่ายกล่าวทักทาย
เส้นผมสีเทาของแพนเมียร์เริ่มขาวโพลนมากกว่าปีก่อน

แต่ร่างกายกำยำบึกบึนและแววตาที่ดุดันยังคงเดิมอย่างครบถ้วน
แม้อายุจะมากขึ้น  แต่แพนเมียร์ก็มิได้ดูแก่ชราไปตามวัย

หากข่านเด็กกว่านี้สัก 15 ปีก็คงจะมีรูปลักษณ์ไม่ต่างจากแพนเมียร์สักเท่าไร

“ขอเข้าประเด็นเลยแล้วกัน”

แพนเมียร์ไม่รีรอเมื่อรู้ว่าตนกำลังรบกวนเวลากริด

“ในปีนี้  ฉันจะชนะนายอย่างแน่นอน”

“…” 

อะไรอีกล่ะนั่น?
หมอนี่มาเพื่อพูดแค่นี้เนี่ยนะ?

ตนกำลังให้กำลังใจยูร่า  แต่กลับถูกเรียกออกมาฟังเรื่องราวไร้สาระ
กริดขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ  เขาแสดงออกทางสีหน้าชัดเจน

แพนเมียร์กล่าวเสริม
“ถึงฉันจะชนะนาย  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันเก่งกว่านาย  ทักษะสร้างไอเท็มด้วยมือของนายมีระดับสูงกว่าฉัน  แต่ก็มีเหตุผลสำคัญที่ทำให้ฉันกล้าประกาศว่าจะเอาชนะ”

แพนเมียร์หยุดกล่าว  เขาเพียงนำหนังสือเล่มบางออกมา
เป็นหนังสือที่ระบุกฏกติกาการแข่งตีเหล็กในปีนี้อย่างครบถ้วนชัดเจน

“ฉันจะชนะนาย…เพราะนายกำลังถูก SA กรุ๊ปกลั่นแกล้ง”

ในปีนี้  กฏการแข่งตีเหล็กเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

สำหรับปีก่อน  ผู้เข้าแข่งต้องสร้างไอเท็ม ‘ชนิดเดียวกัน’ ด้วย ‘สูตรการผลิต’ ที่เหมือนกัน
ผลแพ้ชนะจะตัดสินด้วย ‘มูลค่า’ ของไอเท็ม

แต่ในปีนี้  ผู้เข้าแข่งทุกคนสามารถสร้างไอเท็มได้อย่างอิสระ  ไม่จำกัดประเภทและสูตร

สิ่งที่เปลี่ยนไปมีเพียงเกณฑ์การตัดสินของคณะกรรมการ

ไม่เหมือนปีก่อนที่ตัดสินใจมูลค่าไอเท็ม  
การแข่งตีเหล็กปีนี้วัดผลแพ้ชนะกันที่ ‘เกรด’ ของไอเท็มเพียงอย่างเดียว

ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มที่มีมูลค่าต่ำแค่ไหน  แต่หากมีเกรดสูงที่สุด  ผู้เข้าแข่งรายนั้นก็จะได้รับชัยชนะไป
ไอเท็มชนิดเติบโตจึงหมดสิทธิ์โต้แย้งด้วยประการทั้งปวง  ถึงแม้มันจะมีปลายทางเป็นเกรดเลเจนดารีก็ตาม

หากสร้าได้งไอเท็มเกรดทั่วไป  ผู้เข้าแข่งจะรับประกันความพ่ายแพ้ 100% เต็ม

แพนเมียร์หันมากล่าวกับกริดด้วยแววตาซื่อตรง

“นายเองก็คงรู้สินะ…กฏของการแข่งนานาชาติถูกเปลี่ยนทุกปี  และเกือบทั้งหมดก็เปลี่ยนเพื่อสะกดพลังของนายไว้”

หากไอเท็มออกมาเป็นเกรดเดียวกัน  ไอเท็มจากกริดย่อมมี ‘ประสิทธิภาพ’ สูงกว่าใครทั้งหมด
แต่น่าเสียดายที่ประสิทธิภาพไม่ใช่หลักเกณฑ์ในการตัดสิน  

ทางผู้จัดงานเปลี่ยนกฏเพื่อมิให้กริดได้เปรียบผู้เข้าแข่งรายอื่นเกินไป

“เปลี่ยนกฏทั้งหมดเพื่อกลั่นแกล้งผู้เล่นคนเดียว…หากฉันเป็นนาย  ฉันคงคับแค้นใจไม่น้อย”

“นายต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”

“ฉันอยากจะบอกว่า…ต่อให้นายแพ้ฉันในการแข่งนี้  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านายแย่กว่าฉัน  อย่าได้คิดท้อใจไป  นายแค่พ่ายแพ้ต่อความอยุติธรรมที่ผู้จัดงานมอบให้”

“…”

หมอนี่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
แต่กริดก็มองออกว่าแพนเมียร์พูดกับตนด้วยเจตนาหวังดี

กริดไม่อยากกล่าวสิ่งใดเพื่อทำลายน้ำใจอันมีค่า

แพนเมียร์อมยิ้มอย่างขมขื่น

“หลังจากมีเลเวลสูงถึง 280…ฉันบรรลุภารกิจลับของคลาสช่างตีเหล็กมากถึงสามชนิด  ทำให้ในปัจจุบัน  โอกาสสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารีของฉันอยู่ที่ 0.01%  และยิ่งไปกว่านั้น  เกรดขั้นต่ำที่ฉันสร้างได้คืออีปิก…ฉันสามารถสร้างไอเท็มคุณภาพสูงได้ไม่ยาก”

“…”

“จงเตรียมใจไว้ให้ดี  แล้วพบกัน”

เมื่อแพนเมียร์จากไป  กริดถูกทิ้งไว้ตามลำพังด้วยสีหน้างุนงง

“สรุปคือ…หมอนั่นเป็นห่วงเราสินะ?”

กริดรู้อยู่แล้วว่าแพนเมียร์มีจิตวิญญาณที่ยอดเยี่ยมของช่างฝีมือ
แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า  แพนเมียร์จะรู้สึกเห็นใจศัตรูมากขนาดนี้

‘ฉันต้องขอโทษด้วย…’

กริดไม่คิดปราณีแพนเมียร์แม้แต่น้อย
แพนเมียร์คงไม่มีวันรู้  กริดยังมีไพ่ตายสุดโกงซึ่งเตรียมไว้ใช้ในการแข่งตีเหล็กปีนี้

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,190
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สนุกมาก ขอบคุณแอดครับ

    ReplyDelete
  2. ไอ้ไพ่ตายเนี่ย ใช่อันที่เพิ่มเกรดไอเทมใช่มั้ย

    ReplyDelete
  3. กรุว่าคันศรฟรีนิกชัว เกรด มิธ

    ReplyDelete
  4. Replies
    1. 10 เปอ เซน สำหรับกริดคือ 0.01ึครับ สกิลติดตัวความซวยของยองวูคือ 99.99เปอ 5555

      Delete
    2. 1%ไม่ใช้10% แต่"1%"ของกริดก็มากกว่าของแพนเมียร์100เท่า

      Delete
  5. สีหน้าคนอ่านก็จะบับ อืม....มาเอาไรอ่ะ มาเพื่อแค่นี้หรอ

    ReplyDelete
  6. สกิล อีโก้...แน่นวล

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00