จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,164



= ดาเมี่ยน


= ใช่แล้ว ดาเมี่ยนแน่นอน


= เห็นด้วยเลย


<สันตะปาปาดาเมี่ยนประกาศไม่ลงแข่งซาทิสฟายนานาชาติ>


สำนักข่าวหลักทั่วโลกต่างพาดหัวข่าวอันน่าตกตะลึงไปในทิศทางเดียวกัน แต่ท่าทีของสาธารณชนทั่วโลกกลับสุขุมจนน่าตกใจ


นั่นเป็นเพราะว่า พวกเขาได้ทราบทันทีว่าใครคือราชาอสูรของปีนี้


การประกาศไม่เข้าร่วมงานแข่งของสันตะปาปาดาเมี่ยน ไม่ต่างอะไรกับการยอมรับเต็มอกว่าตนคือราชาอสูร


= คิดว่าคนดูโง่นักหรือ? ถ้าเป็นฉันจะออกมาเปิดอกยอมรับตามตรงㅋㅋ


= หมอนั่นเป็นแฟนตัวยงกริด คงพยายามเลียนแบบกริดกระมัง ㅋㅋ


= ดาเมี่ยนน่ารักชะมัด


ว่ากันตามตรง ไม่มีเหตุผลให้ดาเมี่ยนต้องทิ้งงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติในปีนี้เลยสักนิด


ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ถ้าไม่นับกริดและอริยดาบครอเกลซึ่งถือเป็นสองจุดสูงสุดของโลกซาทิสฟาย ดาเมี่ยนคือท็อปแรงเกอร์แถวหน้าผู้ไม่ต้องหวาดกลัวผู้ใด


การแข่งนานาชาติอันปราศจากกริด ดาเมี่ยนย่อมไม่ต่างอะไรกับมัจฉาแหวกว่ายในลำธาร


และเมื่อคิดในมุมกลับ ตำแหน่งราชาอสูรคล้ายกับถูกสร้างขึ้นเพื่อดาเมี่ยนโดยเฉพาะ


หากดาเมี่ยน ผู้มีบัฟเพิ่มแต้มสถานะและค่าการฮีลแบบเปอร์เซ็นต์ ได้รับพลังชีวิตระดับสัตว์ประหลาดของราชาอสูร นั่นจะไม่ยิ่งเท่ากับติดปีกโบยบินหรอกหรือ บางที ฉายาราชาอสูรของดาเมี่ยนอาจเป็น ‘ราชาอสูรผู้ไม่มีวันล้มลง’


= ยิ่งไปกว่านั้น ดาเมี่ยนยังมีบริวารแข็งแกร่งรอบตัวเป็นจำนวนมาก


บุตรีแห่งรีเบคก้า


สามสุดยอด NPC ซึ่งมีระดับใกล้เคียงกับ NPC ระดับสัตว์ประหลาดของกริดและ สำหรับอีกหนึ่งตำแหน่ง ดาเมี่ยนยังสามารถเลือกใช้งานหนึ่งในนักบวชอาวุโสลำดับสูงของโบสถ์


หากมีปีศาจทั้งสี่คอยปกป้องประตูสี่ทิศ เกรงว่าผู้เล่นคงบุกฝ่าเข้าไปไม่ง่าย


= ฉันได้ยินมาว่า ในระยะหลัง หน่วยเท็มพล่าเริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว


เท็มพล่าคือหน่วยอัศวินลับประจำโบสถ์รีเบคก้า ข้อมูลพวกมันถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนเพียงน้อยนิดจนแทบไม่ทราบอะไรนอกจากชื่อ


จากข้อมูลลับซึ่งถูกนำออกมาเปิดเผยโดยฝีมือผู้เล่นภายในโบสถ์ ทุกคนได้ทราบว่า เท็มพล่าเป็นหน่วยลับเก่าแก่ แต่เลือกจะไม่เคลื่อนไหวมานานปลายปี จนกระทั่งเปลี่ยนใจมาสนับสนุนดาเมี่ยนในระยะหลัง


หากหนึ่งในสุดยอด NPC ของหน่วยเท็มพล่ากลายมาเป็นสี่ราชันสวรรค์ให้ดาเมี่ยน ชัยชนะของการแข่งราชาอสูรคงไม่ตกอยู่กับฝ่ายผู้เล่นแน่นอน


เหมือนกับในปีก่อน


= ไม่มีเหตุผลให้ดาเมี่ยนต้องทิ้งงานแข่งนานาชาติแม้แต่ข้อเดียว นอกเสียจากหมอนั่นจะเลอะเลือนไปแล้ว


เหล่านี้คือข้อสรุปของผู้ชมทางบ้าน


ไม่มีใครเคลือบแคลงในตัวตนราชาอสูร


ดาเมี่ยนจึงกำลังผิดหวังรุนแรง


‘เราคิดจะทำให้ทุกคนประหลาดเหมือนกับกริดในปีก่อนอยู่แล้วเชียว!’


แผนการพังครืนตั้งแต่ไก่โห่


ว่ากันตามตรง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของอาเรสและกองทัพ


ขณะวิดีโอเปิดตัวยังไม่ถูกฉาย ตำแหน่งราชาอสูรถูกคาดหมายไว้ว่าจะเป็นอาเรสหรือไม่ก็ดาเมี่ยนแค่สองคน แต่หลังจากวิดีโอเปิดตัวการแข่งถูกฉายออกไป โอกาสเป็นอาเรสคือ 0% ทันที


‘อดทำเซอร์ไพรส์กับทุกคน…’


ไม่ว่าดาเมี่ยนจะเปิดทีวีไปช่องไหน แต่พิธีกรและนักข่าวต่างพูดไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้โอตาคุหนุ่มหงุดหงิดไม่น้อย


ไม่เพียงเท่านั้น บรรดานักข่าวยังพยายามล้อมบ้านขอสัมภาษณ์โดยไม่หยุดพัก


สถานการณ์สืบเนื่องไปถึงโลกซาทิสฟาย


เมื่อออนไลน์เข้าเกม ข้อความจดหมายและข้อความเสียงส่วนตัวจำนวนมากพลันพรั่งพรูเข้าใส่อย่างไม่หยุดหย่อน แถมยังมีการตามมารังควานถึงวาติกัน หรือแม้กระทั่งการใช้นักลอบสังหารพยายามแทรกซึมเข้าไปในห้องทำงานของสันตะปาปา เกือบทั้งหมดเป็นการติดต่อขอสัมภาษณ์สด


‘ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการตกเป็นเป้าสนใจจะเหนื่อยขนาดนี้’


ดาเมี่ยน ผู้เรียกตัวเองว่าโอตาคุ ย่อมมีภูมิคุ้มกันด้านเสียงวิจารณ์จากคนรอบข้างค่อนข้างมาก


ไม่ว่าจะถูกตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรงสักเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นโลกจริงหรือออนไลน์ แต่ดาเมี่ยนก็ไม่เคยแยแสหรือเก็บมาคิด


แม้จะอาศัยอยู่ในสังคมญี่ปุ่นซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มคนต่อต้านกริด แต่ดาเมี่ยนก็กล้าสรรเสริญก็อดกริดออกสื่ออยู่เสมอ


อย่างไรก็ตาม การได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกนั่นเป็นคนละเรื่อง


เมื่อต้องถูกจดจ้องทุกฝีก้าวและการกระทำ ดาเมี่ยนจึงเกิดความอึดอัดใจเหนือคำบรรยาย


‘กริดนี่เจ๋งชะมัด…’


กริด ราชาโอเวอร์เกียร์ ท้องฟ้า หรืออะไรก็ตามแต่ผู้คนจะสรรเสริญ ต้องเผชิญความสนใจจากสาธารณชนทั่วโลกไม่เว้นแต่ละวันมานานหลายปี


เมื่อตระหนักได้ ดาเมี่ยนจึงกัดฟันอดทนโดยหวังจะฝ่าฟันสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้


‘กริดซามา! ฉันจะเดินตามรอยนาย!’


ย้อนกลับไปในเหตุการณ์วันพบกริดครั้งแรก ดาเมี่ยนได้สาบานกับตัวเองอย่างหนักแน่นว่า :


เราจะกลายเป็นอันดับสองรองจากกริด!


‘เพื่อการนั้น เราต้องเอาชนะการแข่งราชาอสูรให้ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม!’


ปัญหาเดียวสำหรับดาเมี่ยนในปัจจุบันก็คือ อาการผิดปรกติ ‘เลือดออก’ และ ‘คำสาป’ บางชนิดซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้เวทฮีลได้


ในฐานะสันตะปาปาและคลาสลับ ‘อัครทูตแห่งเทพธิดา’ ดาเมี่ยนมีค่าต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิดสูงถึง 86% แต่นั่นก็ไม่ยั่งยืนเหมือนทักษะติดตัวของคลาสตำนานเช่นกริด


มันสามารถถูกลดค่าต้านทานได้ชั่วขณะ และจุดอ่อนดังกล่าวจะส่งผลให้ตกอยู่ในภาวะคับขัน


ความหวังเดียวคือ ‘แหวนออบิส’


สุดยอดไอเท็มดรอปจากบอสประจำดินแดนคร่ำครวญ ‘แบนชีควีน*’ ซึ่งจะเกิดใหม่ทุก 36 ชั่วโมงและมีอัตราดรอปต่ำติดดิน


(แบนชี / Banshee — วิญญาณหญิงสาวคร่ำครวญ ต้นฉบับทับศัพท์มา)


แหวนออบิสคือเครื่องประดับเกรดเลเจนดารี มาพร้อมคุณสมบัติ ‘ไม่มีวันถูกขัดขวางการฮีล’ โดยไม่สนใจเงื่อนไขอื่น


ดาเมี่ยนตามล่าแหวนนานสามเดือนเต็ม


อย่างไรก็ตาม มันยังไม่ได้เป็นเจ้าของแหวนออบิสสักที แม้ว่าจะทำถึงขั้น ตัดสินใจใช้อำนาจของสันตะปาปาด้วยข้ออ้าง ‘ชำระล้างดินแดนวิญญาณ’ ในการเคลื่อนกองทัพพาลาดินมาปิดล้อมและผูกขาดดินแดนคร่ำครวญไว้แต่เพียงผู้เดียว


ไม่อย่างนั้น หากมันต้องแก่งแย่งกับท็อปแรงเกอร์กลุ่มอื่นเพื่อล่าแบนชีควีน สถานการณ์คงยากลำบากกว่านี้หลายเท่า


แบนชีควีน หลังจากเธอเสียชีวิตได้ 36 ชั่วโมง บอสแม็ปตนนี้จะสุ่มเกิดใหม่และโจมตีเป้าหมายใกล้เคียงเป็นอันดับแรกเสมอ


‘…ถ้านักข่าวยังเอาแต่ไล่ตาม ความลับเรื่องการปิดแม็ปล่าคงแตกกันพอดี’


และนั่นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่


การมาเยือนอย่างล้นหลามของผู้คน รวมถึงเสียงวิจารณ์ในด้านการใช้อำนาจไม่เหมาะสม


หลายฝ่ายคงพยายามก่อกวนไม่ให้ดาเมี่ยนได้ผูกขาดแบนชีควีน เพื่อจะทำให้ราชาอสูรอ่อนแอลงในการแข่ง


‘เรื่องการเป็นราชาอสูรของเราหลุดไปถึงหูนักข่าวได้ยังไง…’


ข่าวดังกล่าวใหญ่เสียจนดาเมี่ยนถูกสังคมจับต้องจนไม่เป็นอันกระทำสิ่งใด


‘…ต้องมีใครอยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวเพื่อผลประโยชน์บางอย่างแน่!’


ดาเมี่ยนได้แต่ภาวนาให้จอมอสูรรุกรานโลกกึ่งกลางอีกครั้ง ความสนใจทั้งหมดจะได้ไปจากตนเสียที


‘คงไม่มีทางเลือก ต้องปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่าสักพัก ถือโอกาสเที่ยวนอกวาติกันก็แล้วกัน’


แม้ว่าแบนชีควีนรอบถัดไปจะเกิดในอีกหนึ่งชั่วโมงหน้าข้าง แต่มันจำต้องตัดใจเพื่อไม่ให้ข่าวการผูกขาดรั่วไหล


ทันใดนั้น


[ใครบางคนสังหารครึ่งเทพ]


“…??”


ข้อความโลกหนึ่งบรรทัดแสนสั้นกระชับ


“ข่าว!! ข่าวด่วนนน!!!!”


“ค…ครึ่งเทพ? ฝีมือใครกัน? ต้องเป็นกริดแน่! ฝีมือกริดอีกแล้วใช่ไหม?”


นักข่าวซึ่งเคยเบียดเสียดจนเต็มแน่นวาติกัน พลันกรูกันออกไปราวกับพวกมันไม่เคยมีตัวตนมาก่อน


ภาพตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝูงมดแตกรัง


“…”


วิญญาณดาเมี่ยนพลันหลุดลอยชั่วขณะ


หลังจากได้สติกลับมา มันรีบคุกเข่าลงพลางเงยหน้ากางแขนขึ้นฟ้า ตามด้วยการตะโกน :


“ก็อดกริด! ก็อดกริดจงเจริญหมื่นหมื่นปี!”


สันตะปาปาดาเมี่ยน


ผู้นำสูงสุดแห่งศาสนารีเบคก้า


มันกำลังสรรเสริญเทิดทูนเทพองค์อื่น


สมควรถูกฟ้าดินลงโทษด้วยประการทั้งปวง


ฉากตรงหน้าอิสซาเบล คือภาพของบุรุษบาปหนาซึ่งไม่ควรได้รับการอภัยจากบุตรีแห่งรีเบคก้า หญิงสาวผู้คอยเป็นหอก ดาบ และโล่ ให้กับเทพธิดา


แต่อิสซาเบลกลับมิได้ออกปากตำหนิสันตะปาปาดาเมี่ยนแม้แต่คำเดียว


ทำไมน่ะหรือ


เพราะเธอเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าดาเมี่ยน


ต้องอย่าลืมว่า อิสซาเบลคือสาวกตัวยงของ ‘เทพกริด’ คนแรกก่อนใครทั้งหมด


***


ทวีปตะวันออก ชุมชนกระต่ายพากเพียร


“แฮ่ก… แฮ่ก…”


กริด ผู้เพิ่งเอาชนะฮันกยอล กำลังเผชิญหน้ากับความอ่อนล้าสุดขีด


มันมิได้แยแสข้อความระบบตรงมุมสายตา


กล่าวให้ถูกต้องคือ จิตใจกำลังอ่อนล้าจนถึงขีดจำกัด ชนิดสายตาเริ่มพร่ามัวและมิอาจจดจ่อกับสิ่งใด


‘ขีดจำกัดของเรา…’


การพักผ่อนในซาทิสฟาย ไม่ได้แปลว่าสมองของผู้เล่นจะพักผ่อนตามไปด้วย


สมาธิของกริดกำลังจดจ่ออยู่กับรายละเอียดการต่อสู้เมื่อครู่


‘คงถึงเวลาต้องใช้แต้มสถานะคงเหลือและทักษะออกแบบไอเท็มแล้วสินะ…’


สามครั้ง — นั่นคือจำนวนการแสดงผลของ ‘บัญชาเทพ’ ตลอดการต่อสู้กับฮันกยอล


แถมยังแสดงผลในทักษะสำคัญอย่าง วังวนสะพรั่งและดาบสลายทัพสองแสน สถานการณ์จึงเป็นไปใจเชิงบวก


‘ถ้าไร้โชค เราคงตึงมือกว่านี้’


เดิมที กริดคาดว่าตนคงเอาชนะยังบันผู้ปราศจากบารมีเทพได้ไม่ยากเย็น


ถึงจะมีเลือดของเทพไหลเวียน แต่ยังบันประเภทนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับตัวเบี้ยใช้แล้วทิ้ง


ถูกต้อง เบี้ยใช้แล้วทิ้ง


ยังบันไร้บารมีเทพจะมีสถานะแตกต่างจากยังบันอย่างการัมโดยสิ้นเชิง


ในแผนทำสงครามแก้แค้นเทพทวีปตะวันตกของห้าอาวุโส ยังบันไร้บารมีเทพนั้นเป็นได้เพียงตัวหมากทหารเลว


แตกต่างจากแกรนมาสเตอร์แห่งทวีปตะวันตก ถึงจะเป็นร่างจุติของมารผู้ปราศจากบารมีเทพเช่นกัน แต่รายนั้นมีเนื้อเรื่องซับซ้อนรองรับ ย่อมต้องพัฒนาตัวเองไปได้ไกล


กริดเพิ่งตระหนักได้ไม่นาน แต่มันเชื่อว่าอริยดาบครอเกลคงทราบเรื่องนี้นานแล้ว


‘นายถึงบอกให้ฉันต่อสู้กับพวกมันเมื่อมีเลเวลสูงกว่า 500 สินะ…’


NPC พิเศษของจริงจะมีศักยภาพการเติบโตสูงกว่าผู้เล่น


ถ้าครอเกลมองยังบันเป็นเพียงเหนือมนุษย์ธรรมดา เขาคงไม่มีทางทราบความจริงแน่


แต่หลังจากจบงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติปี 3 ครอเกลได้กล่าวกับกริดไว้อย่างชัดเจนว่า :


‘ยังบันมิได้แข็งแกร่งเหมือนบันเฮเลียร์ แค่มีเลเวลถึง 500 ก็สู้ได้ไม่ยาก’


และกริดก็พยายามพัฒนาตัวเองจนเข้าเงื่อนไขตรงตามคำบอกเล่าของครอเกล


ในสภาพปราณต่อสู้เต็มพิกัด แต้มสถานะของกริดจะเพิ่มขึ้น 50% จนมีค่าสถานะรวมสูงกว่าผู้เล่นเลเวล 500 ธรรมดาค่อนข้างมาก


‘แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พอ…’


ชัยชนะชี้ขาดกันเพียงเส้นกั้นบาง


หากบัญชาแห่งเทพไม่แสดงผลเลย กริดมั่นใจว่าฝ่ายพ่ายแพ้ต้องเป็นตนแน่นอน


ชายหนุ่มจึงตัดสินใจแน่วแน่


‘ศัตรูของเราในคราวนี้ แข็งแกร่งจนไม่สามารถออมมือได้อีกแล้ว’


ปัจจุบัน หลังจากปราบเฟนเรียร์และมีเลเวลสูงถึง 405 ระดับ กริดจึงมีแต้มสถานะคงเหลืออีก 606 หน่วย


สำหรับผู้เล่นทั่วไป การอัปเลเวลหนึ่งครั้งจะได้รับทั้งหมด 10 แต้มสถานะ


หมายความว่า ก่อนจะสู้กับฮันกยอล กริดซ่อนเลเวลของตัวเองไว้มากถึง 60 ระดับ


เคยมีวลีอันโด่งดังกล่าวไว้ว่า ‘คมในฝัก’ หมายถึงการเก็บซ่อนพลังแท้จริงของยอดฝีมือ


แต่กริดมิได้เป็นเช่นนั้น มันไม่ได้จงใจเก็บซ่อนฝีมือหรือประมาทคู่ต่อสู้


เพียงแต่ว่า มันยังตัดสินใจไม่ได้


ตนควรทำให้ค่าพละกำลังและความว่องไวมีอัตราส่วน 1:1 โดยการนำไปอัปค่าความว่องไว 400 แต้มดีไหม?


จะไม่เสียใจภายหลังจริงหรือ?


ในเมื่อปัจจุบันสามารถทำค่าความเร็วโจมตีได้ถึงขีดจำกัดร่างกายจากความช่วยเหลือของถุงมือเพิ่มความว่องไว


หรือตนควรนำแต้มไปอัปค่าความอดทน?


ไม่เพียงเท่านั้น กริดยังสามารถนำแต้มไปอัปค่าสติปัญญาเพื่อให้เวทมนตร์แฝงของบราฮัมทรงพลังขึ้นได้ด้วย


และอื่นๆ อีกมากมาย


ในอดีต ชายหนุ่มเคยวิตกกับปัญหาโลกแตกเหล่านี้นับครั้งไม่ถ้วน ส่งผลให้ต้องทิ้งแต้มสถานะค้างคาเช่นนี้มาตลอด


ปัญหาก็คือ มันขาดต้นแบบ


ผู้เล่นส่วนมากมักหาต้นแบบเป็นท้องฟ้าหรือไม่ก็ผู้เล่นแรงค์หนึ่งภายในคลาสตัวเอง


แต่กริดเป็นคลาสในตำนาน แถมยังเป็นท้องฟ้าเสียเอง จึงไม่มีใครให้ลอกเลียนแบบ


สมัยอดีต กริดพยายามเลียนแบบแต้มสถานะของปิอาโร่และเมอร์เซเดส แต่เมื่อลองไตร่ตรองดู ปัจจุบันคงมิอาจทำเช่นนั้นได้แล้ว


หลังจากปิอาโร่กลายเป็นชาวนาในตำนาน รูปแบบของแต้มสถานะจึงไม่เหมือนเดิม และในส่วนของเมอร์เซเดส แต้มสถานะของเธอถูกออกแบบเพื่อความสมดุลและใช้งานเนตรมองทะลุเป็นหลัก ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้


มันต้องคิดค้นเส้นทางใหม่ด้วยตัวเอง


นี่คืออีกหนึ่งความยากลำบากของท้องฟ้า


‘เมื่อลองทบทวนดูให้ดี การทำให้ค่าพละกำลังและความว่องไวมีอัตราส่วน 1:1 นั้นค่อนข้างน่าสนใจ’


กริดไม่มีวันลืมความยอดเยี่ยมของปิอาโร่สมัยยังเป็นมหาจอมดาบ


เมื่อค่าพละกำลังและความว่องไวทัดเทียมกัน ไม่เพียงพลังทำลายจะมหาศาล แต่ความเร็วเคลื่อนไหวร่างกายก็ยังอยู่ในระดับน่าทึ่ง


การต้องนำแต้มคงเหลือจำนวน 400 หน่วย ไปอัปค่าความว่องไวโดยไม่ได้รับสปีดในการโจมตีเพิ่ม สิ่งนี้ทำให้เคยกริดนึกเสียดายมาตลอดก็จริง แต่เมื่อลองไตร่ตรองหลังจากเพิ่งได้รับชัยชนะฉิวเฉียด ชายหนุ่มกลับพบว่า การเพิ่มค่าความว่องไวแม้สปีดโจมตีจะตัน นั้นไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนัก มันยังคงได้รับความเร็วเคลื่อนไหวร่างกายด้านอื่นๆ อยู่ดี


‘หลังจากนั้นก็นำไปอัปความอดทน’


กริดมองว่า พลังโจมตีในปัจจุบันของตนมีเหลือเฟือ ประกอบกับ เมื่อย้อนนึกกลับไปถึงบอสแข็งแกร่งมากมายในอดีต เกือบทั้งหมดรับมือได้ยากเพราะพวกมันมีพลังชีวิตสูงลิบจนน่าหงุดหงิด หาใช่เพราะพลังโจมตีหรือป้องกัน


‘การยื้อชีวิตออกไปได้ จะทำให้เราสร้างความเสียหายเพิ่มเติมได้’


หลังจากถูกโอเวอร์เกียร์คอร์นเลียแก้มมาสักพักเพื่อฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรง กริดเริ่มเหม็นกลิ่นน้ำลายของมัน


เมื่อสายตากลับมาคมชัด ชายหนุ่มรีบอ่านข้อความระบบตรงมุมหน้าจอ


[ท่านสังหาร ยังบัน ‘ฮันกยอล’]


[เลเวลอัป]


[ได้รับไอเท็ม <ลมหายใจฟินิกซ์แดง>]


[ได้รับไอเท็ม <ลมหายใจเสือขาว>]


[ได้รับไอเท็ม <ลมหายใจมังกรคราม>]


[ได้รับไอเท็ม <ลมหายใจเต่าดำ>]


[ได้รับไอเท็ม <กระบี่อ่อนยังบัน>]


[ได้รับไอเท็ม <เสื้อคลุมยังบัน>]


[ได้รับไอเท็ม <หมวกคัดยังบัน>]


“…!”


ดวงตากริดพลันสั่นระริก


ถึงเราจะมั่นใจว่าหมอนี่ต้องดรอปลมหายใจสัตว์เทพแน่… แต่ไม่ใช่ว่าควรดรอปแค่ชนิดเดียวหรอกหรือ?


แล้วยังดรอปเซตเครื่องแต่งกายเสร็จสรรพอีก


ดรอปได้หรูหราสมกับเป็นครึ่งเทพชะมัด…


ขณะหัวใจชายหนุ่มกำลังเต้นโครมครามจากความยินดีปรีดา


ข้อความระบบได้ปรากฏขึ้นเพิ่มเติม


[‘พุงซา’ มองเห็นท่านข้างศพฮันกยอล]


[★ สำคัญ ★ อัศวินของท่าน ‘ดันเต้’ กลายเป็นศัตรูกับอาณาจักรฮวาน]


“…?”


[ท่านได้รับสมญานาม <ผู้สังหารครึ่งเทพ>]


[ดวงวิญญาณครึ่งเทพถูกดูดกลืนเข้าไปใน <ศิลาเวทมนตร์ปริศนา> วัตถุชนิดดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงทางรายละเอียด]


[สมญานาม <ผู้สังหารครึ่งเทพ> ได้เพิ่มค่า ‘บารมีเทพ’ 1 แต้ม]


[กระต่ายพากเพียรจำนวนมากประจักษ์ความสำเร็จของท่าน ค่าบารมีเทพเพิ่มขึ้น 1 แต้ม]


[ค่าบารมีเทพของท่านครบ 10 แต้ม เหตุการณ์พิเศษกำลังจะเกิดขึ้น]


“…?!”


ซู่ววว…


แสงสว่างเจิดจ้ากำลังแผ่ออกจากร่างกริด


แสดงศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าทำให้เหล่ากระต่ายต่างพากันหมอบกราบไปกับพื้นโดยไม่ต้องมีใครออกคำสั่ง


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,553
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอใหปีใหม่นี้ พบแต่ความสุข​ความเจริญ​สมหวัง​ใน​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​คิด
    เฮง เฮง รวย รวย
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete
    Replies
    1. เช่นกันนะครับคุณ BSS ขอให้สุขภาพแข็งแรงๆ

      Delete
    2. ขอให้มีความสุขมากๆนะคับคุณBss

      Delete
  2. HNY นะครับทุกๆคน
    ขอบคุณงานแปลๆดีๆอีกเช่นเคย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00