จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,161



ท้องฟ้าด้านบนมืดสนิท


กลางคืน?


ไม่ใช่ เรากำลังอยู่ใต้ดิน…


กริดตัดสินใจเปิดใช้งานภูตแสง


‘…ถ้ำหรอกหรือ’


ถ้ำอันคับแคบ หากไม่ห่อไหล่ก็จะเดินติดขอบหินด้านข้าง หากไม่โน้มตัว ศีรษะก็จะโขกเข้ากับเพดานด้านบน


กริดตัดสินใจเดินไปตามทางทิศกระแสลมพลางสันนิษฐานว่า นี่อาจเป็นถ้ำของมดตัวใหญ่หรือไม่ก็กระต่าย


“เมี๊ยว! ปลอดภัย ไม่มีกับดัก ไม่มีมอนสเตอร์ ขอเอาเกียรติของโนเอะผู้ยิ่งใหญ่เป็นประกัน!”


โนเอะกลับมาหากริดหลังจากแยกตัวไปสำรวจเส้นทาง ด้วยพลังระดับสัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรก ประสาทหยั่งรู้ถึงอันตรายของโนเอะจึงอยู่ในระดับสูง


กริดผงกหัวรับด้วยสีหน้าอึมครึม


[ท่านเข้ามายังประตูหมายเลขสามบนดินแดนตอนเหนือของแพงเจีย!]


[ต้องขอบคุณเสือคราม ผู้มอบความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวท่าน]


[ภารกิจลับถูกสร้างขึ้นจากไอเท็ม <คันศรฟินิกซ์แดงอัดแน่นด้วยพลังเทพ>]


<ผู้พิทักษ์ฟินิกซ์แดง>

★ภารกิจลับ★

ฟินิกซ์แดงคือเทพผู้ปกปักรักษาดินแดนตอนทิศใต้ของทวีปตะวันออกนับตั้งแต่โลกมนุษย์ถือกำเนิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม พลังของเทพฟินิกซ์แดงได้ถูก ‘เทพตกสวรรค์’ ผนึกไว้และช่วงชิงไปเป็นเวลานาน จนกระทั่งเริ่มเสื่อมถอยและใกล้ดับมอด คล้ายกับแสงสุดท้ายอันเลือนรางของตะเกียง

จงปกป้องดวงวิญญาณเทพฟินิกซ์แดงภายในคันธนู รอจนกระทั่งเทพฟินิกซ์แดงฟื้นคืนพลังกลับมาได้ดังเดิม

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ :

- เก็บ ‘คันศรฟินิกซ์แดงอัดแน่นด้วยพลังเทพ’ ไว้ในช่องสัมภาระนาน 2 ปีเต็ม

รางวัลสำเร็จภารกิจ :

- ได้รับหัวใจฟินิกซ์แดงลำดับ 1,000

- ค่าความสัมพันธ์กับเสือครามเพิ่มขึ้นมาก

เงื่อนไขภารกิจล้มเหลว :

- ตายครบ 3 ครั้งภายใน 2 ปี

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :

- อาณาจักรฮวานจะช่วงชิง ‘คันศรฟินิกซ์แดงอัดแน่นพลังเทพ’ กลับไป

★เงื่อนไขการสำเร็จภารกิจ (ทางเลือก) ★ :

- มอบลมหายใจฟีนิกซ์แดง 20 ชิ้นให้ ‘คันศรฟินิกซ์แดงอัดแน่นพลังเทพ’

*ฟินิกซ์แดงจะเป็นอิสระทันทีเมื่อภารกิจสำเร็จ

รางวัลตอบแทนภารกิจ :

- ดูดซึมลมหายใจฟินิกซ์แดงเข้าไปในร่างกาย

- ได้รับหัวใจฟินิกซ์แดงลำดับ 999

- ค่าความสัมพันธ์กับฟินิกซ์แดงและเสือครามเพิ่มขึ้นอย่างมาก


ชาวตะวันออกมักใช้คำว่า ‘สี่สัตว์เทพ’ แทนการเรียกว่า ‘สี่เทพ’


แน่อน ‘สัตว์เทพ’ ย่อมหมายถึงสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์วิเศษชั้นสูง สิ่งนี้หมายความว่า ชาวตะวันออกมิได้นับถืออะไรในตัวสัตว์เทพมากนัก


‘เราจึงเข้าใจมาตลอดว่า สัตว์เทพคงมีลำดับตัวตนต่ำกว่าเทพพอสมควร’


แต่เมื่อได้ซึมซับเรื่องราวมากขึ้น ดูเหมือนสี่สัตว์เทพเองก็มีระดับชั้นไม่ต่างจากเทพสักเท่าไร


‘หมายความว่า สาเหตุทำให้ประชาชนทั่วไปไม่มองสี่สัตว์เทพเป็นเทพ เพราะได้รับอิทธิพลจากห้าอาวุโสและยังบัน’


กริดขมวดคิ้วพลางหวนนึกถึงคำเสือคราม :


ผนึกทั้งสี่ทิศของศาสตราสัตว์เทพ แท้จริงแล้วมิได้มีไว้เพื่อผนึกจอมอสูร หากแต่การผนึกพลังของสี่สัตว์เทพต่างหาก


เข้าใจแล้วว่าทำไมยังบันถึงมีลมหายใจสัตว์เทพไว้ในครอบครอง…


ยังบันมิได้รับการอวยพรจากสัตว์เทพ แต่พวกมันผนึกสัตว์เทพและแย่งชิงพลังมาเป็นของตัวเอง!


‘ถึงกับกุเรื่องผนึกป้องกันจอมอสูรเพื่อหลอกลวงผู้คน… แกรนมาสเตอร์กำลังหวังพึ่งพาคนแบบนี้อยู่หรือ’


ทำเอาเทพฝั่งตะวันตก ผู้ใช้อารมณ์ส่วนตัวโดยไม่แยแสผลกระทบตามหลัง ดูเป็นคนดีขึ้นมาทันที


แน่นอน ในส่วนของเทพมาร ยาธาน และเทพธิดาแห่งแสง รีเบคก้า ยังคงต้องรอดูความจริงกันต่อไป ไม่ควรรีบตัดสินใจด้วยข้อมูลอันน้อยนิดในมือ บางที อาจใช้สามัญสำนึกของมนุษย์ประเมินไม่ได้


‘เลิกคิดเรื่องไร้สาระ… แล้วรีบจัดการปัญหาตรงหน้าให้เสร็จก่อน’


กริดสลัดความคิดฟุ้งซ่านและหันมาตรวจสอบรายละเอียดสมญานามใหม่


<ดาวดวงใหม่แห่งแพงเจีย> ขั้น 3


* ขั้น 1 : ได้รับข้อมูลจากชาวเมืองแพงเจียง่ายขึ้นกว่าเดิม


* ขั้น 2 : ได้รับภารกิจในดินแดนแถบแพงเจียง่ายกว่าเดิม


* ขั้น 3 : สัตว์วิเศษทุกตัวในดินแดนแพงเจียจะชื่นชอบท่าน


* หลังจากกวาดล้างชุมชนมอนสเตอร์ สมญานามนี้จะถูกยกระดับ


ยังคงอยู่ในขอบเขตแพงเจียเช่นเคย


แต่สิ่งนี้ต้องมีประโยชน์มากแน่…


กริดพลันทำสีหน้าอึมครึมเมื่อหวนนึกถึงสถานการณ์ภายในชุมชนเสือเขี้ยวกุด


‘พวกนาย… จะไม่เป็นอะไรกันใช่ไหม?’


ว่ากันตามตรง ถึงกริดจะไม่ใช่ทายาทของแพ็กม่า แต่ชุมชนเสือเขียวกุดก็คงต้อนรับขับสู้มนุษย์ในเชิงบวกอยู่ดี


ชุมชนเสือเขี้ยวกุดเป็นเส้นทางบังคับถัดจากชุมชนวัวขี้เกียจ ไม่ว่าใครก็ต้องผ่านถ้าชุมชนวัวขี้เกียจกับหนูใหญ่พิษถูกกวาดล้าง แต่เสือครามกลับไม่มีเจตนาทำร้ายมนุษย์


‘เสือทุกตัวนิสัยดี…’


กริดยิ่งทวีความกังวล


ฉากการัมไล่ฆ่าเสือเขี้ยวกุดและต่อกรกับเสือครามอย่างดุเดือดยังคงตราตรึงในใจชายหนุ่ม


‘…เขาต้องไม่เป็นอะไรแน่’


เสือครามมีพละกำลังแขนมากพอจะเหวี่ยงกริดให้ลอยไกลหลายร้อยเมตร ในฐานะทายาทของหนึ่งในสี่เทพ ระดับของมันคงไม่ต่างจากยังบันการัมมากนัก


ไม่ว่าการัมจะแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่คงยังเอาชนะเสือครามไม่ไหว…


เมื่อเกิดความเชื่อมั่น ชายหนุ่มเลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าอย่างแผ่วเบา


ทันใดนั้น หน้ากากหนังเฟย์ริสเริ่มทำงานและแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์รวมถึงขนาดร่างกาย


คราวนี้ มันเลือกแปลงเป็นอัศวินเฒ่าดันเต้


‘ไอ้ระยำนั่น…’


กริดนึกถึงรอยยิ้มแสนชั่วร้ายของการัม


เดิมที การัมเคยเรียกกริดจนติดปากว่า ‘สามัญชนผู้โง่เขลา’ แต่การเผชิญหน้าครั้งล่าสุด มันกลับเปล่งเสียงเรียก ‘กริด’ อย่างชัดเจน


ราวกับต้องการเย้ยหยัน ไม่ว่ากริดจะปลอมตัวเป็นใครหน้าไหน มันก็จะดูออกเสมอ


‘ไอ้สุนัข!’


แต่จะว่าไป… ถ้าตัวเราในอดีตได้รับพลังอันยิ่งใหญ่เหมือนการัม ก็คงทำตัวเลวทราบแบบเดียวกันกระมัง…


ทันใดนั้น กริดพลันผุดคำถามใหม่


‘การัมระบุตำแหน่งของเราถูกต้องได้อย่างไร? แถมสีหน้าของมันยังมั่นใจมาก…’


กริดไม่เคยคิดอยู่แล้วว่า หน้ากากเฟย์ริสจะช่วยปิดบังตัวจริงจากการัมได้มิดชิด เพราะไม่ว่าจะพยายามเก็บซ่อนออร่าอย่างไร แต่ก็คงมิอาจเล็ดลอดจากสายตาการัม ผู้มีสายเลือดแห่งเทพไหลเวียนในร่างกายไปได้


แต่นั่นเป็นในกรณีของการ ‘พบกันซึ่งหน้า’


อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์เมื่อครู่ การัมเดินทางมายังภูเขาหมีใหญ่อย่างมั่นใจ แม้ว่าจะไม่เคยพบกริดซึ่งหน้ามาก่อน


ขณะเดียวกัน โนบุลดัมหลังค่อม ผู้สัมผัสถึงเราไม่ได้เลยในตอนแรก กลับสามารถระบุพิกัดของเราได้ในภายหลัง แต่ดันโชคร้ายถูกการัมพบเข้าระหว่างทาง…


‘ตัวตนของเราคงถูกเปิดเผย หลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่าง…’


กริดนึกออกเพียงเหตุการณ์เดียว


กวาดล้างชุมชนวัวขี้เกียจ!


บางที อาจมีเครือข่ายเฝ้าระวังถูกวางไว้ตามชุมชนมอนสเตอร์


แต่ในเมื่อตำแหน่งของเราถูกตรวจพบแล้ว การมัวลังเลก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น มีแต่ต้องเร่งมือกวาดล้างชุมชนมอนสเตอร์ถัดไปให้ครบโดยเร็ว


‘ขณะเสือครามกำลังยื้อเวลาให้ เราต้องตีฝ่าไปให้ถึงอาณาจักรโช!’


เมื่อไปถึง เราต้องยืนยันให้ได้ว่า อาณาจักรโชมีเจตนาช่วยเหลือเราจริง รวมถึงรอดูท่าทีตอบสนองของกษัตริย์โช


อาณาจักรโชคือบ้านเกิดแสนสำคัญของฮานซอกบงและซูเอ


กึก.


กริดเดินพ้นเขตถ้ำวงกตอันซับซ้อนและมองเห็นทุ่งนาเบื้องหน้า


ภายในทุ่งนา กระต่ายตัวใหญ่แต่งกายคล้ายมนุษย์จำนวนมากกำลังก้มหน้าทำงานอย่างขยันขันแข็ง


ชิ้ง~


[ท่านเข้าสู่ชุมชนกระต่ายพากเพียร]


ถ้ำเมื่อครู่คงเป็นถ้ำกระต่ายสินะ…


ขณะกริดชักดาบอัสนีฯ ออกมาเตรียมกวาดล้างชุมชนกระต่ายพากเพียรให้สิ้นซาก


“ถึงพวกหนูสกปรกจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม 12 จักรราศีตั้งแต่แรก เพราะแอบขี่หลังวัวโดยไม่ได้ใช้ความสามารถของตัวเอง แต่การล้มวัวดำมาได้ก็นับว่าไม่ธรรมดา… ยอดเยี่ยมมาก!”


เสียงดังแว่วจากด้านบน


กริด ผู้เตรียมตัวทำสงครามเต็มอัตราศึก เงยหน้าขึ้นไปมองและได้พบกระต่ายตัวหนึ่งกำลังนั่งบนต้นไม้ด้วยกิริยาท่าทางสง่างาม


จากนั้น กระต่ายปริศนากระโดดลงมาหากริด


“ประสาทสัมผัสของเจ้าช่างเฉียบแหลม สามารถแยกแยะก้อนหินสีดำท่ามกลางความมืดสนิทได้แม่นยำ และเหนือสิ่งอื่นใด เจ้าได้รับความชื่นชอบจากเสือคราม”


“หนู. วัว. เสือ. กระต่าย…”


หรือว่า?


“12 จักรราศี!”


กริดพลันกระจ่าง


ชุมชนมอนสเตอร์ทางทิศเหนือของเมืองแพงเจียล้วนประกอบด้วยสัตว์ตามปีนักษัตร


“เดิมที พวกเราเคยเป็นข้าราชบริพารของเหล่าสี่เทพมาก่อน แต่หลังจากพลังของท่านเทพทั้งสี่ถูกยังบันผนึกและลิดรอน บรรดาสัตว์วิเศษจำนวนมากจึงเริ่มสูญเสียสติปัญญาและกลายเป็นมอนสเตอร์ทั่วไป”


“…”


“อย่างไรก็ตาม เสือคราม ทายาทแห่งเสือขาว, มังกรดิน ทายาทแห่งมังกรคราม, และผู้ได้รับความรักจากเทพทั้งสี่ โทซุนคนสวยผู้นี้ พวกเรายังรักษาสติปัญญาและพลังไว้ได้ จึงพยายามควบคุมเหล่าสัตว์ 12 จักรราศีให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ในภายหลัง สถานการณ์เริ่มตึงเครียดเมื่อเสือครามถูกยังบันจับตัวไป”


“โทซุนคนสวย?”


“โทซุนคือชื่อของข้า”


“แล้วทำไมถึงต้องเป็น…”


“ข้าเพศเมีย”


“…ตกลง”


ไม่จำเป็นต้องตั้งคำถาม ว่าทำไมถึงได้มีชื่อสมชายชาตรีขนาดนั้น


กริดสลัดความคาใจทิ้ง · โทซุนยังคงเล่าต่อ


“ขณะเสือครามถูกจับตัวไป เสือจำนวนมากได้กลายเป็นมอนสเตอร์และออกไล่ล่ามนุษย์ แต่กลับตกเป็นเหยื่อเสียเอง ขณะเดียวกัน เสือสัตว์วิเศษราวสิบตัวเริ่มสูญเสียความทรงจำเก่า ส่งผลให้มังกรดิน ผู้เข้าสู่การจำศีลเป็นเวลานาน เกิดความเสียใจเป็นอย่างมาก และเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของตน ชุมชนเสือจึงได้รับความเสียหายอย่างหนัก… ส่วนข้าเองก็แทบเอาตัวไม่รอดเช่นกัน ปกป้องเผ่าพันธุ์ไว้ได้เพียงครึ่ง”


โทซุนยักไหล่และมองเข้าไปในทุ่งนา


ในนามีกระต่ายราว 50 ตัว แต่ละตัวมิได้แสดงท่าทีมุ่งร้ายต่อกริด บ้างก็ยิ้มแย้มและโบกมือให้อย่างเป็นมิตร มองปราดเดียวก็ทราบทันทีว่าพวกเขาคือสัตว์วิเศษ มิใช่มอนสเตอร์


“สถานการณ์กำลังเลวร้าย นอกเหนือจากเสือคราม มังกรดิน และชุมชนกระต่ายแห่งนี้ เหล่าสัตว์วิเศษจาก 12 จักรราศีคงมิอาจหลุดพ้นจากคำสาปของนักพรตชั่ว และมีชะตากรรมต้องกลายเป็นมอนสเตอร์กันหมดในตอนสุดท้าย นั่นคือความจริงซึ่งมิอาจเลี่ยง”


ความปรารถนาของโทซุนไม่ซับซ้อน


“มนุษย์ผู้ได้รับความไว้วางใจจากเสือครามเอ๋ย… เบื้องหน้ามีเพียงความสับสนอลหม่าน เจ้าจะไม่ได้รับสิ่งใดกลับไปจากชุมชนมังกรดินขี้เซา มีเพียงความมุ่งร้ายของมอนสเตอร์ไร้สติปัญญารออยู่ ฉะนั้น จงย้อนกลับไปเถิด ช่วยเอาชีวิตรอดจากสายตายังบันให้ได้นานสองปีและปลดผนึกเทพฟินิกซ์แดง”


“…”


เราคิดตลอดว่ามันแปลก กับการได้รับไอเท็มเกรดมิธมาฟรีโดยแทบไม่ต้องออกแรง…


แต่ความเป็นจริง ชายหนุ่มกลับต้องแบกภาระอันยิ่งใหญ่ไว้กับตัวอย่างมิอาจเลี่ยง


หากเป็นกริดคนก่อน มันคงหัวเสียหนัก


แต่กริดคนปัจจุบันได้เปลี่ยนสิ่งนั้นให้กลายเป็นแรงผลักดัน


ส่วนหนึ่งเพราะศัตรูคือยังบัน


ด้วยความสัตย์จริง ชายหนุ่มไม่ต้องการเผชิญหน้าตัวตนระดับเทพตนใดเลย ยกเว้นยังบันเพียงชนิดเดียว


ไม่เพียงแต่จะเกลียดขี้หน้าเป็นการส่วนตัว แต่ในฐานะผู้สืบทอดแพ็กม่า มันเชื่อว่าตนมีชะตาต้องบรรจบกับยังบันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


‘ลองคิดเข้าสิ…’


กริดทบทวนเนื้อหาภารกิจ


…ต้องเก็บคันศรฟินิกซ์แดงไว้ในช่องสัมภาระนานสองปีเต็มโดยเสียชีวิตไม่เกินสามครั้ง


ระดับความยากของภารกิจ <ผู้พิทักษ์ฟินิกซ์แดง> สูงจนยากจะเชื่อว่ามีไว้ให้ผู้เล่นทำ


ตลอดสองปี กริดต้องคอยใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน แต่ไม่ว่าจะแอบได้ดีสักเพียงใด ก็ไม่มีวันหลบพ้นยุทธการตามล่าตัวจากยังบันได้ตลอดรอดฝั่ง


ในทางทฤษฎี จึงเป็นไม่ได้เลย กับการตายน้อยกว่าสามครั้งในสองปี


แต่เงื่อนไขสำเร็จมิได้มีเพียงข้อเดียว


ภารกิจจะบรรลุทันทีเมื่อเรารวบรวมลมหายใจฟินิกซ์แดงได้ครบ 20 ก้อน…


หากเป็นมุมมองของบุคคลอื่น การเอาตัวรอดนานสองปีย่อมง่ายกว่าการหาลมหายใจฟินิกซ์แดงจำนวน 20 ก้อน แต่สำหรับกริดนั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง


มันมีพวกพ้องมากมายยินดีจะถวายรางวัลเหรียญทองจากงานแข่งนานาชาติให้ถึงมือ


ไม่เพียงเท่านั้น หนทางครอบครองลมหายใจฟินิกซ์แดงยังไม่จำกัดเฉพาะงานแข่งนานาชาติเพียงอย่างเดียว


“ถ้าฉันฆ่ายังบัน พวกมันจะคายลมหายใจสัตว์เทพติดตัวออกมาหรือไม่?”


“…!”


“สรุปว่าได้ใช่ไหม?”


“อ…อย่าบอกนะว่า…! เจ้าคิดจะต่อสู้กับเทพตามลำพัง?”


โทซุนประหลาดใจหนักหน่วง


ไม่ว่ามนุษย์ผู้นี้จะถูกเสือครามเลือกหรือไม่ แต่มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ และการริอ่านท้าทายยังบันตามลำพัง ไม่มีคำใดสามารถอธิบายความโง่เขลาเช่นนี้ได้เห็นภาพชัดเจน


ทว่า ประกายในดวงตากริดหาได้สั่นคลอน


“แผนของฉันไม่มีวันแปรเปลี่ยน ต้องกวาดล้างชุมชนมอนสเตอร์จนตัวเองแข็งแกร่ง และเอาชนะยังบันให้จงได้”


“น…นั่นมันอุดมคติเกินไปแล้ว! อนาคตข้างหน้ามีแต่ความว่างเปล่าและเหน็ดเหนื่อยอย่างได้ไม่คุ้มเสีย!”


ทันใดนั้น


บึ้มมมมม!


โพรงกระต่ายซึ่งกริดเพิ่งผ่านออกมา เกิดระเบิดพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้ไล่ล่า


เพศชาย สวมอาภรณ์สีฟ้าครามแบบเดียวกับการัมทุกประการ และใบหน้าโทซุนพลันอึมครึมเมื่อเห็นอีกฝ่ายชัดเจน


“ยังบัน…!”


ยังบัน ‘ฮันกยอล’ แสยะยิ้ม


“ข้าแอบตามการัมมาเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องน่าสนุก… สามัญชนผู้โง่เขลาเอ๋ย เจ้าทำให้การัมอับอายในเรื่องใด? แล้วการัมเคยสร้างความขุ่นเคืองใจใดให้เจ้ามาก่อน? หมอนั่นเอาแต่เฝ้ารอจะได้แก้แค้นเจ้าทุกลมหายใจ… ได้โปรดไขความกระจ่างให้ข้าฟังด้วย!”


“รีบถอยไป! ข้าจะยื้อเวลาให้!”


โทซุนและกองทัพกระต่ายพลันกระโดดมาขวางหน้ากริด


แม้ทุกคนจะเตรียมสู้อย่างถวายชีวิต แต่ยังบันฮันกยอลกลับหาได้แยแส


“ได้โปรด! ช่วยเล่าความโง่เขลาของการัมให้ข้าฟังด้วยเถิด! แล้วข้าจะแย่งชิงตำแหน่งของมันมาเป็นของตัวเอง!”


จากบรรดายังบันทั้งหมด มีเพียงผู้มากพรสวรรค์เท่านั้นจึงจะถูกรับเลือกให้เปิดเผยตัวตนและได้รับ ‘บารมีเทพ’ จากประชาชน


แผนแก้แค้นของห้าอาวุโสคือ เน้นพัฒนายังบันจำนวนน้อยให้มีฝีมือทัดเทียมเทพ เพื่อไปต่อกรกับเทพของทวีปตะวันตก


“ฮะฮะ! รีบเล่ามาเร็วเข้า!”


หลังจากฮันกยอลแอบตามการัมออกจากอาณาจักรวานอย่างรีบร้อน เมื่อจินตนาการว่าตัวเองจะได้แทนตำแหน่งการัม มันระเบิดเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข


กริดพ่นลมหายใจ


“เด็กน้อย”


“…?”


“…?”


กระต่ายทุกตนต่างไม่เชื่อหูตัวเอง


และยิ่งตกตะลึงหนักกว่าเก่าเมื่อได้เห็นฉากถัดไปอย่างเต็มสองตา


กริด ผู้เปิดใช้งานรองเท้ามังกรคราม พลันหายตัวไปโผล่ในจุดเปิดโล่งด้านหลังฮันกยอล


“ท…เทคนิคนี้มัน…!? อ๊ากกกก!!”


ยังบันผู้ปราศจากบารมีเทพ


บุรุษผู้ประมาทกริดและปล่อยให้ชายหนุ่มได้โอกาสลงมือก่อน ร่างของมันถูกคมดาบเชือดเฉือนอย่างทารุณ โดยขณะเดียวกัน บรรดากระต่ายต่างพากันหูตั้งเป็นแถบๆ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,550
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. การัม ยังบันระดับ 5 / ฮันกยอล ยังบันระดับ 1 ใครเห็นก็ว่าตาย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00