จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,160



เมื่อเสือครามขยับเข้ามาใกล้ กริดเริ่มมองเห็นร่างกายอันใหญ่โตของอีกฝ่ายเต็มสองตา


ราชาโอเวอร์เกียร์ผู้เป็นเจ้าของส่วนสูง 183 เซนติเมตร จำต้องเงยศีรษะขึ้นเพื่อให้มองเห็นหน้าผากของเสือครามชัดเจน


อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มมิได้สั่นกลัวต่อร่างกายขนาดมหึมา ออกจะตรงกันข้ามด้วยซ้ำ


เสือครามช่างสง่างาม


เส้นขนสีฟ้าจนเกือบเขียว ปลายขนมีสีขาวโพลน ความองอาจของอีกฝ่าย วิจิตรงดงามเทียบเท่ามงกุฎทำมือของกริดเลยทีเดียว


“แพ็กม่า!!”


เสือครามปรี่เข้ามาใกล้พร้อมกับอ้าแขน


กล้ามเนื้อมัดใหญ่ใต้เส้นขนสีฟ้า ได้มอบกลิ่นอายคุกคามสะกดข่มแก่ผู้พบเห็น


แต่กริดมิได้เหวี่ยงดาบในมือออกไป


ซู่วววว…


ปราณกลีบดอกไม้สีฟ้าเต็มบรรยากาศ พลันร่วงโรยลงพื้นอย่างไร้จุดหมาย


ท่ามกลางดงบุปผาโปรยปราย กริดจ้องมองเข้าไปในแววตาของเสือคราม


ประกายดวงตาอันแสนคุ้นเคย


เป็นสายตาเดียวกับข่านขณะได้พบกริด หลังจากชายหนุ่มออกไปผจญภัยนานหลายเดือน


ดวงตาของเสือคราม ผู้ปกปักรักษาผืนป่าและภูเขามานานหลายร้อยปี กำลังอัดแน่นด้วยความตื้นตันเป็นล้นพ้น


“แพ็กม่า!!”


หมับ!


เสือครามกระโจนโผกอดกริดแนบแน่น


ด้วยน้ำหนักตัวมหาศาล ร่างกายกริดเซไปด้านหลังอย่างมิอาจเลี่ยง ชายหนุ่มฝืนเกร็งตัวพยุงร่างไม่ให้ล้ม ในเวลาเดียวกัน เสือครามตัวใหญ่ใช้แก้มอันอ่อนนุ่มของมันถูไถกับใบหน้ากริด


“แพ็กม่า! ท่านยังมีชีวิตอยู่!!”


เสือครามเริ่มฟูมฟาย


ดวงตาดำล้วนกร้านโลกของมัน กำลังเจิ่งนองไปด้วยน้ำตาสีใส ปลายจมูกสามเหลี่ยมสีชมพูกำลังพรั่งพรูของเหลวสีใสขุ่น


หัวไหล่ซึ่งใหญ่กว่ากริดราวสามเท่ากำลังสั่นเทาอย่างมิอาจควบคุม


จนกระทั่ง


“ฮึก…! เฮี๊ยกกก!”


เสือครามตัวใหญ่ผู้กำลังสวมกอดพลางร่ำไห้ขี้มูกโป่ง พลันร้องเสียงหลงผิดคีย์


กว่าเสือครามจะรู้ตัว


“จ…เจ้าไม่ใช่แพ็กม่า! แล้วทำไมไม่รีบบอก!!”


“ฉันกลัวนายเสียจน… ทำอะไรไม่ถูก”


หลังจากชายหนุ่มตั้งหลักยืนตรง มันเริ่มมองเห็นรอยแผลตามลำตัวเสือคราม


ทั้งหมดคือแผลเป็นฉกรรจ์


ร่องลึกมาก และคงมิอาจลบเลือนชั่วชีวิต


เสือครามทำไหล่ห่อเหี่ยว


“เจ้าไม่ใช่แพ็กม่า…”


ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเสือครามจะเข้าใจผิด


ตรงข้ามกับยังบันป่าเถื่อนทั่วไป ท่วงท่าการรำดาบของแพ็กม่าทั้งสุภาพและอ่อนโยน และภาพการรำดาบจากระยะไกลของผู้บุกรุกปริศนา ได้ซ้อนทับเข้ากับแพ็กม่าในความทรงจำเสือครามพอดิบพอดี


อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้ไม่ใช่แพ็กม่า


แม้ตอนแรกจะเข้าใจผิด แต่เมื่อได้สัมผัสในระยะประชิด มันก็มั่นใจว่าเป็นคนละคน


เสือครามไม่มีวันลืมเลือนน้ำเสียงแสนเป็นมิตรและกลิ่นอายอันอบอุ่นของแพ็กม่า ทุกสิ่งส่งผ่านมาถึงตน ผู้เอาแต่กรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานภายในกรงขัง ภาพจำเช่นนี้ได้ฝังลงในสมองนานนับร้อยปีไม่มีจางหาย


“เจ้ามนุษย์ ทำไมท่วงท่ารำดาบถึงได้เหมือนกับแพ็กม่านัก…”


เสือครามเริ่มหวาดระแวงและตั้งท่าป้องกัน แต่มันมิได้โจมตีเข้าใส่ เพียงซักถามอย่างใครรู้


กริดตอบเถรตรงโดยไม่ปิดบัง คำโกหกปลอบโยนมิใช่ความหวังดี แต่เป็นการหลอกลวง


“ฉันคือผู้สืบทอดวิชาดาบของแพ็กม่า… หลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว”


“โฮก! นั่นสินะ แพ็กม่าคงตายไปแล้ว”


ค่อนข้างผิดคาด สีหน้าของเสือครามไม่เผยความเศร้ามากนัก


ต่อหน้าข่าวร้าย ท่าทีตอบสนองค่อนข้างเยือกเย็นสุขุม ประหนึ่งเตรียมใจไว้นานแล้ว


อย่างไรก็ตาม ดวงตาอันเศร้าหมองนั้นยากจะปิดบังได้มิดชิด


ตรงข้ามกับรูปลักษณ์น่าเกรงขาม ใบหน้ากลมกลึงของเสือครามกำลังสั่นเทาแผ่วเบา


“เอ่อ… พวกเรากลับถ้ำกันก่อนไหม?”


“น…นั่นสิ กลับไปกินกระเทียมกันเถอะ”


ท่ามกลางบรรยากาศกระอักกระอ่วน บรรดาเสือเขี้ยวกุดพยายามตีตัวออกจากการบทสนทนาแปลกประหลาดตรงหน้า คงเป็นเพราะพวกมันเคยถูกเสือครามถอดเขี้ยวมาก่อน จึงยังคงหวาดกลัวไม่ลืมเลือน


ทันใดนั้น เสือครามพลันหูตั้งและหันมาเค้นเสียงถามขึงขัง


“โฮก! กระเทียม!? พวกเจ้ากินกระเทียมโดยไม่มีฟันได้อย่างไร?”


ใบหน้าน่าเอ็นดูของเสือครามพลันมลายหาย ทดแทนด้วยสีหน้าขึงขังเกรี้ยวกราดราวกับองค์จักรพรรดิพิโรธ กลิ่นอายคุกคามเข้มข้นแผ่สะกดข่มร่างกายกริดอีกหน


บรรดาเสือเขี้ยวกุดต่างพากันลนลาน


“ส…สะอึก! ข…เขี้ยวปลอม! พวกเรากินกระเทียมด้วยเขี้ยวปลอม”


“เขี้ยวปลอม?”


เสือคราม ผู้ถูกกริดดึงความสนใจไปพักใหญ่ เริ่มสังเกตเห็นฟันปลอมบนปากเหล่าเสือเขี้ยวกุด


“โฮก! พวกเจ้าเอาเขี้ยวปลอมจากไหน?”


“…!”


ว่ากันตามตรง เสือครามประหลาดใจมาก


ด้วยวิวทิวทัศน์บนภูเขาหมีใหญ่ซึ่งครอบคลุมทั่วผืนป่าด้านล่าง เสือครามย่อมมองเห็นผู้บุกรุกได้ไม่ยากเย็น


ทว่า กลับมีผู้บุกรุกปริศนาลอบเข้ามาและมอบเขี้ยวปลอมให้เหล่าเสือเขี้ยวกุด?


มีเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงจะลอบเข้ามาในผืนป่าโดยไม่ให้เสือครามรู้ตัวได้


“โฮก! พวกเจ้าหมายถึงมนุษย์หมวกฟาง?”


“ช…ใช่ เขามาพร้อมกับห่อผ้าใบใหญ่เสมอ”


“เจ้าบ้าฮวางกิลดงนั่น…!”


‘ฮวางกิลดง!’


วีรบุรุษใหญ่แห่งแพงเจีย ผู้แม้แต่ครอเกลยังไม่ทราบชื่อจริงมาตลอดหลายปี แต่ในวินาทีนี้ กริดได้ครอบครองข้อมูลแสนสำคัญ


ชายหนุ่มเพ่งสมาธิฟังบทสนทนาระหว่างเสือ


“ถอดออกมา โฮก!”


“ถอด?”


“เขี้ยวปลอม! ถอดออกเดี๋ยวนี้!”


“…”


เสือครามทำการริบเขี้ยวปลอมไปจากเสือเขี้ยวกุดนับสิบตัว จากนั้น เสือแต่ละตัวได้แยกย้ายกลับไปยังถ้ำของตนด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว


กริดยืนมองอย่างเงียบงัน จนกระทั่งเอ่ยปากซักถามอย่างสงสัย


“ต้องถอดเขี้ยวปลอมเพราะกระเทียม?”


บางที อาจเป็นเพราะกริดคือทายาทของแพ็กม่ากระมัง เสือครามจึงตอบคำถามอย่างอ่อนโยน


“ระบุให้ชัดคือ กระเทียมและจิงจูฉ่าย ย้อนกลับไปเมื่อราวสิบปีก่อน นักพรตชั่วได้ลอบเข้ามาปลูกต้นกระเทียมกับจิงจูฉ่ายไว้รอบป่า จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย… เพื่อไม่ให้สัตว์ในป่ากินกระเทียมกับจิงจูฉ่าย ข้าจึงต้องถอดเขี้ยวทุกคนออกอย่างเลี่ยงไม่ได้… โฮก!”


“จิงจูฉ่ายกับกระเทียม?”


กริด ผู้จับคู่อาหารสองประเภทนี้เข้ากับตำนานปรัมปราของเกาหลีใต้ รีบอุทานในใจอย่างตกตะลึงว่า : อย่าบอกนะว่า…!


“ถ้ากินจิงจูฉ่ายกับกระเทียมครบหนึ่งร้อยวัน สัตว์จะกลายเป็นมนุษย์หรือ?”


“เปล่า หากกินจิงจูฉ่ายกับกระเทียมครบสิบปี สัตว์จะกลายเป็นเซียน”


“เซียน? เซียนเป็นกันง่ายแบบนี้เลยหรือ?”


“เป็นข้อยกเว้นของสัตว์วิเศษ ถ้ามนุษย์หวังจะเป็นเซียน ยังต้องใช้วิธีไต่เต้าบนเส้นทางแห่งพลังเช่นเดิม”


สมองกริดกำลังปั่นป่วนหลังจากได้รับข้อมูลใหม่อย่างต่อเนื่อง


“ฉันได้ยินมาว่า นักพรตชั่วพยายามทำให้สัตว์ป่ารอบแพงเจียดุร้าย แล้วทำไมมันถึงพยายามทำให้สัตว์วิเศษกลายเป็นเซียน? เซียนคือฝ่ายดีไม่ใช่หรือ?”


นักพรตชั่วมีทั้งหมดสองคน


คนหนึ่งไม่ทราบชื่อแซ่ แต่ถูกปราบลงโดยฝีมือฮวางกิลดง


รายนี้คือตัวการทำให้สัตว์ป่ารอบแพงเจียดุร้ายขึ้นกะทันหัน รวมถึงยังแอบปลูกต้นกระเทียมกับจิงจูฉ่ายไว้รอบภูเขาหมีใหญ่


ส่วนอีกคนคือหมอผีอารูบี ผู้ซ่อนตัวอยู่ในดันเจี้ยนใต้ปราสาทแพงเจียมาตลอด


แผนชั่วของอารูบีก็คือ มันต้องการยึดครองแพงเจียด้วยกองทัพ ‘เกราะหนาม’


ในตอนแรก กริดเข้าใจว่านักพรตชั่วนิรนามถูกอารูบีจ้างมาปั่นป่วนแพงเจีย


แต่เมื่อได้ฟังข้อมูลล่าสุด ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว


แผนชั่วของนักพรตนิรนามยิ่งใหญ่กว่าอารูบีหลายเท่านัก บางทีอาจกลับกัน อารูบีเป็นเพียงหนึ่งในตัวหมากของนักพรตดังกล่าว


เสือครามยังคงพรั่งพรูข้อมูลอันน่าตกตะลึงไม่หยุดพัก


“จริงอยู่ เซียนคือตัวตนฝ่ายดี แต่ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์วิเศษ หากกลายเป็นเซียนก็จะเข้าสู่แวดวงแห่งเทพทันที ต้องถูกเทพเฝ้ามองตลอดทุกลมหายใจ ยากจะขัดขืนคำสั่งเทพได้ ในกรณีของสัตว์วิเศษ พวกเรามีสติปัญญาต่ำกว่ามนุษย์ค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีสถานะไม่ต่างอะไรกับเครื่องมือของเทพ”


“…เซียนจะไม่ใช่ฝ่ายดี ถ้าเทพไม่ใช่ฝ่ายดี?”


“ถูกต้อง โฮก! ช่างน่าเสียดาย เทพของพวกเราไม่ใช่ฝ่ายดี”


กริดเองก็ทราบในเรื่องนี้


โดยเฉพาะเทพฝั่งตะวันออก พวกมันคือผู้ปกครองยังบันอีกทอด ย่อมมองเห็นชีวิตมนุษย์ไร้ค่าไม่ต่างจากสุนัข


อย่างน้อยก็ในสายตามนุษย์ เทพเหล่านี้ไม่มีทางเป็นฝ่ายดีไปได้


“โฮก! ตัวตนแท้จริงของนักพรตชั่วคือลิ่วล้อของอาณาจักรฮวาน ภายใต้คำสั่งของเทพ มันพยายามกีดกันมิให้มนุษย์เข้าใกล้สัตว์วิเศษ จากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนสัตว์วิเศษให้กลายเป็นเซียน”


สมเหตุสมผลอย่างมาก


เทพตะวันออก ผู้ต้องการทำสงครามล้างแค้นเทพตะวันตก ย่อมมีแผนซ่องสุมกำลังพล


เฉกเช่นการฟูมฟักยังบัน พวกมันหวังฟูมฟักเหล่าสัตว์วิเศษและถือกำเนิดกองทัพเซียน


แต่มีบางสิ่งยังไม่ชอบมาพากล


“ถ้าอย่างนั้น นักพรตชั่วขโมยคันศรฟินิกซ์แดงไปเพื่อเหตุใด?”


สำหรับทวีปตะวันออก ศาสตราสัตว์เทพทั้งสี่ชิ้นจะถูกวางประจำตามสี่จุดของข่ายเวทมนตร์รอบทวีป เพื่อสร้างเป็นผนึกกีดกันจอมอสูร


และสาเหตุสำคัญให้ชาวทวีปตะวันออกกราบไหว้บูชายังบันกับเทพ เกิดจากกุศโลบายหลอกลวงประชาชน ใจความสำคัญว่า เหล่ายังบันคอยคุ้มกันมิให้ทวีปถูกทำลายด้วยฝีมือจอมอสูร


ในทางกลับกัน หากประชาชนเสื่อมศรัทธาในตัวยังบัน พวกมันก็จะสูญเสียค่า ‘บารมีเทพ’ ทันที สิ่งนี้นับเป็นความเสียหายร้ายแรง ฉะนั้น ไม่อย่างไร ยังบันก็ต้องปกป้องกุศโลบายดังกล่าวไว้อย่างสุดความสามารถ


ทว่า แล้วทำไมลิ่วล้อของอาณาจักรฮวานถึงพยายามทำลายผนึกจอมอสูร?


ไม่เข้าใจเลยสักนิด


เสือครามเอียงคอฉงน


“หือ? คันศรฟินิกซ์แดง? ข้าเป็นคนขโมยมาเองแหละ”


“…!”


“เข้าใจแล้ว พวกมนุษย์คงคิดว่าคันศรฟินิกซ์แดงถูกนักพรตชั่วขโมยไปสินะ”


กลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง


เสือครามล้วงเข้าไปในขนปุยตรงช่องท้อง ก่อนจะหยิบธนูสีส้มรูปทรงเปลวเพลิงออกมาถือ ขนาดคันศรค่อนข้างใหญ่ แต่เมื่ออยู่ในมือเสือครามกลับเล็กลงถนัดตา


“คันศรฟินิกซ์แดง…!”


กริดรีบตรวจสอบรายละเอียดไอเท็มด้วยเนตรแพ็กม่า


ใครจะไปคิดว่า เราบังเอิญพบคันศรฟินิกซ์แดงของจริงภายในชุมชนมอนสเตอร์…


ขณะกริดกำลังจ้องมองธนูสีส้มด้วยสายตาตื่นตะลึง เสือครามเล่าต่อ


“เจ้ามนุษย์ สำหรับข้า แพ็กม่าคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต เขาช่วยปล่อยข้าให้เป็นอิสระจากการทารุณของยังบันจิตใจคับแคบ เฮ่อ… ว่ากันตามตรง ข้าเคยคิดว่าเขาคงต้องตายขณะพยายามข้ามทะเลแดง แต่กลับกลายเป็น เขาข้ามทะเลแดงสำเร็จหรอกหรือ?”


“ใช่… เขาทำสำเร็จ”


“แล้วแพ็กม่าใช้ชีวิตอย่างไร? เขาไม่ได้ถูกมนุษย์ของทวีปตะวันตก ล้อเลียนเรื่องการนำเหล็กไปแช่ไฟแล้วใช้ค้อนทุบหรอกหรือ?”


“แพ็กม่าเขา…”


สำหรับแพ็กม่า มีเรื่องมากมายให้กล่าวขานถึงชายคนนี้


บ้างก็คนทรยศ บ้างก็คนชั่ว


และบ้างก็วีรบุรุษ…


“แพ็กม่าได้รับการยกย่องจากทุกคน เขาช่วยโลกมนุษย์เอาไว้ตามลำพัง…”


“อย่างนั้นเองหรือ…”


เสือครามหลั่งน้ำตาพลางอมยิ้ม


เมื่อเห็นสีหน้าหดหู่เจือความเศร้าของอีกฝ่าย กริดตัดสินใจอัญเชิญโนเอะออกมา


บางที ในสถานการณ์ตรงหน้า โนเอะอาจช่วยเยียวยาจิตใจสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกันได้


“เนี๊ยวฮะฮะฮ่า! สัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกปรากฏตัวแล้ววววว~… แง๊วววว!!”


หงึกหงึก…


โนเอะ แมวขาสั้นป้อมและพุงป่อง รีบหนีไปหลบหลังกริดด้วยร่างกายสั่นเทา


เมื่อประเมินว่าโนเอะเคยหวาดกลัวเพียงมังกรและจอมอสูร หมายความว่าเสือครามก็คงมีระดับตัวตนไม่ต่างกันมากนัก


“ฉันขอโทษ ไม่คิดว่าจะตกใจ”


ขณะกริดอุ้มโนเอะมากอดในอ้อมอกและใช้มือลูบศีรษะกลมเล็กแผ่วเบา เสือครามซักถามเสียงเรียบ


“เจ้ามาทวีปตะวันออกเพื่อสิ่งใด? โฮก!”


มันจ้องมองโนเอะ ขณะเดียวกัน ปลายหางกำลังกระดิกซ้ายขวาโดยไม่รู้ตัว


กริดตอบไปตามตรง


“เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งจนสามารถฆ่าการัมด้วยมือคู่นี้”


ชายหนุ่มไม่มีวันลืม


คนชั่วการัม ผู้ลงทุนหลอกลวงช่างตีเหล็กทุกคนจากทวีปตะวันตก เพียงเพื่อหวังสังหารตนระบายแค้น


การัมหมายปองชีวิตกริดมาตลอด


ชายหนุ่มต้องการจำกัดมันทิ้ง


เพราะถ้าไม่ทำ ตัวเองก็จะถูกกำจัดเสียเอง


“…เหมือนกันไม่มีผิด”


เสือคราม ผู้จ้องมองเข้าไปในแววตาอันไม่สั่นคลอนของกริด เริ่มเกิดความชื่นชม


มันหวนนึกกลับไปในอดีต ขณะแพ็กม่าเอาแต่ตะโกนว่า ‘ฉันจะแก้ไขอาณาจักรฮวานให้ถูกต้อง!’ หากเสือครามไม่เคยทราบเรื่องราวมาก่อน มันคงคิดว่าแพ็กม่าส่งกริดมาทำภารกิจในคราวนี้


หลังจากไตร่ตรองถี่ถ้วน มันมอบคันศรฟินิกซ์แดงของจริงให้ชายหนุ่ม


“มนุษย์อาจเชื่อว่าศาสตราสัตว์เทพคือผนึกข่ายเวทมนตร์สำหรับป้องกันการรุกรานจากจอมอสูร แต่ในความเป็นจริง ศาสตราสัตว์เทพคือผนึกสำหรับกักขังสี่สัตว์เทพต่างหาก ถ้าปลดผนึกได้ครบทุกทิศเมื่อใด สัตว์เทพจะประธานพลังอันยิ่งใหญ่ชนิดสามารถต่อกรกับยังบันให้”


[ท่านได้รับไอเท็มเกรดมิธ <คันศรฟินิกซ์แดงอัดแน่นด้วยพลังเทพ>]


ไอเท็มเกรดมิธ อัดแน่นด้วยพลังเทพ


โฮกกกกกกกก!!


ขณะกริดรับคันศรไร้สายไปถือ เสือครามพลันส่งเสียงคำรามสนั่นกึกก้องผืนป่า


ตามด้วยเสียงพูดซึ่งกริดไม่มีวันลืม


“คึฮ่าฮ่า! สวัสดี… อยู่กันพร้อมหน้าเชียว”


บุรุษผมดำขลับและยาวสลวย สวมอาภรณ์สีฟ้าคราม กำลังลอยตัวด้วยเกลียวสายลมหมุนวน


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!!


บุรุษปริศนาผู้ปรากฏตัวท่ามกลางท้องฟ้าอันว่างเปล่า รอบกายของมันแผ่ออร่ามังกรครามเข้มข้น ขณะเดียวกันก็สร้างแรงลมเกรี้ยวกราดจนทำให้ต้นไม้ทั่วผืนป่าโยกเอน


บุคคลผู้นี้ กริดรู้จักเป็นอย่างดี


“การัม!!!”


“ร…รีบหนีไป! ท่านราชาโอเวอร์เกียร์…”


กร็อบ!!


ชายหลังค่อม พุงใหญ่ นิรนาม


โนบุลดัม ผู้คอยตรวจตราการผ่านเข้าออกจากทวีปตะวันตก พลันมลายกลายเป็นละอองแสงสีเทา


การัมใช้มือเพียงข้างเดียวบีบคอมันจนแหลกละเอียด จากนั้นก็หัวเราะอย่างสะใจด้วยมือเปื้อนเลือด


“กริดเอ๋ย…! เจ้าไม่มีวันเล็ดลอดสายตาของข้าไปได้! ไม่ว่าจะเหนือ ใต้ ออก ตก! นับตั้งแต่เหยียบลงบนทวีปตะวันออก เจ้าก็มีชะตากรรมต้องตายเยี่ยงสุนัขข้างถนน! เฉกเช่นเหล่าขุนนางคิดไม่ซื่อจากอาณาจักรโช พวกมันสนิทชิดเชื้อกับกษัตริย์โชและฮานซอกบง แอบลักลอบช่วยเหลือเจ้าอย่างลับๆ … อีกไม่นาน ข้าจะจัดการเชือดทิ้งให้หมด”


“ไอ้สารเลว!!”


เปรี้ยะ!


ในวินาทีกริดเปิดใช้งานรองเท้ามังกรคราม กลิ่นอายมังกรครามพลันแผ่ขยายเป็นวงกว้าง


“หือ… เจ้าก็มีพลังมังกรคราม?”


ขณะการัมขมวดคิ้ว กริดระเบิดบัฟทุกชนิดภายในตัวโดยไม่หวงแหน ทั้งโทสะช่างตีเหล็ก พลิ้วไหว หรือแม้กระทั่งร่างมืด


แต่เสือครามรีบห้ามไว้


“ทายาทแห่งแพ็กม่า ได้โปรดปลดผนึกของเทพฟินิกซ์แดงให้สำเร็จด้วย…”


ทันใดนั้น เสือครามคว้าข้อเท้ากริด ผู้กำลังลอยขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นก็เหวี่ยงไปทางใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่


“อึก…!”


พละกำลังช้างสารอะไรเช่นนี้


สวนทางกับความปรารถนา กริดถูกส่งลอยมาตกยังจุดไกลจากเดิมหลายร้อยเมตร


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ห่างออกไป เสือครามกับการัมกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด


ขณะเดียวกัน เสือเขี้ยวกุดจำนวนมากรีบปรี่เข้าหากริดจากด้านข้าง


“ขอบคุณมากสำหรับขนมต็อก!”


“ด…เดี๋ยว! พวกนายคิดจะทำอะไร!”


โดยไม่เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มตั้งตัว เหล่าเสือเขี้ยวกุดรีบผลักกริดเข้าไปในหลุมศพหินเก่าแก่


สิ่งนี้คือโบราณสถานสำหรับเคลื่อนย้ายไปยังดินแดนอื่นในพริบตา


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,549
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มีมอนช่วย👏😮
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​

    ReplyDelete
  2. ได้ไอเท็มเกรดมิธอัดพลังเทพฟรีๆ เอาไปขายจิสึกะนี้ได้กี่หมื่นล้านวอนนะ 55555
    ขอบคุณสำหรับงานแปลครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00