จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,156



ศึกแรกจบด้วยชัยชนะของโอเวอร์เกียร์


ความพินาศอันเกิดจากกริด ส่งผลให้กองทัพอาณาจักรเก๊าส์ไม่มีอำนาจพอจะยับยั้งการเข่นฆ่าจากทหารของโอเวอร์เกียร์และออร์ค


แวมไพร์ หนึ่งในความหวังของเก๊าส์เพื่อจะยื้อเวลากองทัพโอเวอร์เกียร์ไว้บนทะเลทราย แท้จริงแล้วกลับเป็นพลเมืองของกริดทั้งหมด


“เฮ—!!”


เสียงโห่ร้องของกองทัพหกแสนดังสนั่นท่วมท้นท้องฟ้ายามค่ำยืน


ขณะทะเลทรายสีเหลืองกำลังถูกปกคลุมด้วยเสียงเชียร์ของผู้ชนะ ดวงดาวเริ่มปรากฏกายให้ยลโฉมบนท้องฟ้า


แสงสุกสว่างคือตัวแทนของหัวใจอันอิ่มเอมจากฝั่งผู้กำชัย


“เราชนะ! พวกเราชนะ!”


“ก็อดกริด! ฉันรักนาย!”


ผู้เล่นเผ่าออร์คร้องตะโกนอย่างตื่นเต้น


สงครามซึ่งมีชีวิตเป็นเดิมพัน


ต่อสู้ท่ามกลางทะเลทรายอันไม่คุ้นเคย


พวกมันคาดหวังว่าจะเป็นสถานการณ์ตึงเครียดและกินเวลานาน แต่เพราะกริด ทุกคนจึงชนะสงครามได้โดยแทบไม่ต้องออกแรงหรือประสบความสูญเสีย ความขุ่นเคืองใจในการเป็นเบี้ยล่างพลันมลายหาย


อย่างไรก็ตาม พวกมันยังกังวลเกี่ยวกับเสียงวิจารณ์จากชาวจีนทั่วโลกอยู่


“…แฮ่ม”


ผู้เล่นออร์คซึ่งออกท่าทางตื่นเต้นยินดีจนกระทั่งเมื่อครู่ พลันปิดปากเงียบสนิทพร้อมกันทั้งหมดด้วยสีหน้าหนักใจ


แววตาอึมครึมไม่เหลือเค้าเดิมของความสุข


จนกระทั่ง


“ทุกคนเห็นหรือไม่ครับ? ศึกแรกจบลงอย่างรวดเร็วและงดงามมาก! กองทัพพันธมิตรโอเวอร์เกียร์-ออร์คปราบกองทัพอาณาจักรเก๊าส์ได้อย่างราบคาบ!”


“เมื่อผนึกกำลังกัน พวกเขาทรงพลังราวกับกองทัพจักรวรรดิเลยทีเดียวครับ…”


“ในทางทฤษฎี วลี ‘หนึ่งผู้เล่นถล่มกองทัพ’ แทบไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย เนื่องจาก NPC ทั่วไปมีศักยภาพเติบโตในระดับเหนือความคาดหมายผู้เล่น หากยังจำกันได้ เมื่อหลายปีก่อน เหล่าทหารราบในกองทัพต้องยำเกรงผู้เล่นเพียงหนึ่งกลุ่ม แต่ปัจจุบัน ผู้เล่นกลับมีระดับไม่ต่างจากทหารราบอีกแล้ว… ถึงกระนั้น กริดก็พิสูจน์ความมหัศจรรย์ของท้องฟ้าให้พวกเราเห็นอีกครั้ง!”


บรรดานักข่าวจากทั่วโลกต่างกรูเข้ามารุมล้อมรอบกองทัพพันธมิตร


แน่นอน หนึ่งในนั้นคือนักข่าวชาวจีน


แต่ท่าทีตอบสนองของมันกลับเหนือความคาดหมายทุกคน


“ท่านผู้ชมเห็นความสุดยอดของผู้เล่นเผ่าออร์คไหมครับ! พวกเขาเป็นกำลังสำคัญช่วยให้กริดชนะสงคราม! ควรค่าแก่การยกย่องเป็นอย่างยิ่งครับ!”


“…?”


เหตุไฉนถึงแสดงท่าทีเป็นมิตรนัก?


ปัจจุบัน ผู้เล่นออร์คซึ่งกรำศึกหนักมาตลอดทั้งวัน ยังไม่ทราบว่าท่าทีของชาวจีนต่อกริดได้เปลี่ยนไปแล้ว สีหน้าพวกมันจึงทวีความเครียด


“ไม่ผิดแน่ ต้องเป็นกลยุทธ์หลอกให้พวกเราตายใจและเปิดเผยตัวตนแท้จริง”


“เจ้าเล่ห์ชะมัด! ทำไมพวกเราต้องใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงทุกวันด้วย!”


“ทุกคนห้ามเผยใบหน้าเด็ดขาด! ปกปิดให้มิดชิด ไม่อย่างนั้น พรุ่งนี้อาจถูกพบเป็นศพ!”


ขณะผู้เล่นออร์คคุยกันเองเสียงเครียด ทหารโอเวอร์เกียร์รีบกีดกันนักข่าวออกจากเขตสนามรบทันที


สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องปรกติ บรรดา NPC เข้มงวดไม่ต้องการให้คนแปลกหน้ากรูเข้ามาพูดจาไร้สาระอยู่แล้ว


แต่ด้วยการตั้งค่าของโลกซาทิสฟาย NPC ทุกคนจึงมองไม่เห็นกล้องถ่ายภาพ และกล้องเหล่านั้นกำลังจับภาพแวมไพร์


กองทัพแวมไพร์ผู้มอบความสิ้นหวังจากก้นบึ้งให้กองทัพเก๊าส์ เดินมายืนด้านหน้ากริดและโค้งศีรษะลง


แม้กองทัพแวมไพร์จะมีไม่ถึงหมื่นตน แต่บรรยากาศคุกคามจากพวกมันกลับสูงกว่ากองทัพโอเวอร์เกียร์และออร์คหกแสน โดยเฉพาะแวมไพร์ชื่อโนลล์กับทีราเม็ทด้านหน้าสุด ทั้งสองพิเศษแตกต่างจากตนอื่นชัดเจน


“ฝ่าบาทเชิญรับสั่ง!”


สงครามคราวนี้เปรียบดังของขวัญจากสวรรค์สำหรับแวมไพร์


สีหน้าพวกมันมีความสุขเสียเต็มประดาขณะจัดการทหารเก๊าส์ชุ่มเลือด


อย่างไรก็ตาม กริดไม่ค่อยสบายใจนัก


เหตุผลก็คือ มันต้องการเก็บสถานภาพพลเมืองของแวมไพร์ไว้เป็นความลับอีกสักพัก


เนื่องจากเคยวางแผนกับเซ็ดนอสไว้ว่า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะล่อลวงให้ผู้เล่นเข้าไปภายในดันเจี้ยนเมืองใต้ดินแวมไพร์ จากนั้นก็รอเก็บไอเท็มดรอปหลังจากผู้บุกรุกโง่เขลาเสียชีวิต


ขณะกริดกำลังขมวดคิ้ว ลอเอลเดินมากระซิบ


“ไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้ถือเป็นจังหวะเหมาะสมแล้ว”


“ทำไมกัน?”


“นายไม่รู้หรือว่าโลกนี้มีคนโง่มากแค่ไหน? พวกงี่เง่าคงบุกโจมตีเมืองแวมไพร์ด้วยความริษยาเมื่อทราบว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรกับโอเวอร์เกียร์ ดังนั้น หลังจากนี้ลืมเรื่องแวมไพร์ขาดแคลนอาหารไปได้เลย”


“นั่นจะไม่ยิ่งเป็นปัญหาหรอกหรือ? แวมไพร์ยังไม่เติบโตถึงขั้นนั้น หากแรงเกอร์บุกถล่มอย่างเต็มกำลัง เหล่าแวมไพร์จะไม่กลายเป็นเหยื่อเสียเองหรือ?”


“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเรานำแวมไพร์ทายาทและแวมไพร์ระดับสูงไปดักรอหน้าทางเข้าของทุกดันเจี้ยน?”


“…!”


แต่ไหนแต่ไร ดันเจี้ยนมีไว้ให้ผู้เล่นพิชิต


เพื่อความสนุกสนาน เกมส่วนมากจึงนำมอนสเตอร์อ่อนแอไว้หน้าทางเข้า และยิ่งลึกลงไป มอนสเตอร์ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง


ผู้ท้าทายจะได้ปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศของดันเจี้ยนทีละนิดด้วยการเข่นฆ่ามอนสเตอร์อ่อนแอจนเริ่มคุ้นเคย


ทว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้ท้าทายได้พบกับมอนสเตอร์บอสตั้งแต่หน้าห้อง?


เหนือสิ่งอื่นใด ดันเจี้ยนเมืองแวมไพร์ใต้ดินจำเป็นต้องปรับสภาพสายตากับความมืดสักพัก ในช่วงเวลาดังกล่าว ถึงผู้ท้าทายจะเป็นแรงเกอร์ระดับท็อป แต่ก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของแวมไพร์ทายาทและแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์แน่นอน


“นายมันอัจฉริยะ!”


กริดสลัดความกังวลเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้ฟังสุดยอดคำแนะนำจากลอเอล ทันใดนั้น ชายหนุ่มหันไปมองแวมไพร์ด้วยดวงตาเปี่ยมสุข


“ให้ทุกคนแยกย้ายกลับเมืองทันทีหลังจากล่ามอนสเตอร์ในทะเลทรายเสร็จ และย้ายเจ้าเมืองกับคนสนิทย้ายมาประจำหน้าทางเข้า”


“น้อมรับบัญชา!”


กองทัพแวมไพร์ขานรับกระฉับกระเฉงและแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง


เป็นเพราะเอฟเฟคของสมญานามราชาโลหิต รวมถึงการหลุดพ้นจากคำสาปเกียจคร้านชั่วคราว พวกมันทุกตนต่างขยันขันแข็งขึ้นมาทันตาเห็น


หลังจากยืนส่งแวมไพร์แยกย้ายกลับ กริดเดินไปจับมือปิอาโร่ด้วยสองมือของตัวเอง


“หลังจากนี้ก็ฝากด้วยนะ ขอให้โชคดี”


“กระหม่อมจะนำอาณาจักรเก๊าส์มาถวายแด่ท่านแทนสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี”


“ห้ามตายอย่างเด็ดขาด ชีวิตของพวกนายทุกคนสำคัญกว่าชัยชนะนับพันเท่า!”


“…น้อมรับบัญชา”


“เพคะฝ่าบาท”


เหล่าอัศวิน รวมถึงเมอร์เซเดสและปิอาโร่ ต่างขานรับพร้อมเพรียง


แน่นอน เป็นเพราะคำสั่งของกริดขัดต่อหลักอัศวินข้อ ‘ยอมตายแทนเจ้านาย’ ส่งผลให้แต่ละคนเริ่มเกิดอารมณ์หลากหลาย เช่น สับสนและทำตัวไม่ถูก


แต่ขณะเดียวกันก็อบอุ่นหัวใจ


“บราฮัม ฝากพวกเขาด้วยนะ”


“คิดจะพูดอีกกี่รอบ?”


บราฮัมตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย


มันกำลังรำคาญ เนื่องจากกริดเอาแต่พูดเรื่องเดิมซ้ำซากตลอดสองสามวันผ่านมา


“ฉันไม่ใช่นกแก้วสักหน่อย… เข้าใจแล้ว นายกำลังเครียดเพราะกลัวว่าจะถูกไล่ฆ่าบนทวีปตะวันออกเยี่ยงสุนัขข้างถนนใช่ไหม?”


“ไม่ปฏิเสธ… นั่นก็เป็นหนึ่งในความกังวล”


ใครบ้างจะไม่กังวล


กาลเวลาเท่าเทียมกับทุกคน ตัวมันแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้ การัมก็คงเช่นกัน


การสู้กับการัมหนหน้าต้องไม่ง่ายแน่


กริดกำลังรักตัวกลัวตาย?


ผิดแล้ว


มันหาได้หวาดกลัวความตาย เพราะเคยเผชิญมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน


เพียงแต่กำลังกังวลว่า ช่องว่างฝีมือระหว่างตนและการัมจะไม่ลดลงจากเดิมเลย


ความพ่ายแพ้คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แต่คงเจ็บใจไม่น้อยถ้าความพยายามตลอดหลายปีมีอันต้องสูญเปล่า


ฆ่าจอมอสูรเฟย์ริส พัฒนาคลาสกลายเป็นมหากาพย์จอมดาบเวท สร้างละโมบ ได้พบสภาแห่งหอคอย ถูกสอนสั่ง และได้กินยามังกร…


ตลอดหลายปีหลัง กริดเติบโตจนน่าตกใจ


แต่เมื่อประเมินว่าการัมเป็น NPC สุดพิเศษ สามารถเติบโตได้สองทาง จากทั้งการเพิ่มขึ้นของเลเวลเฉลี่ยผู้เล่น และจากการฝึกฝนด้วยตัวเอง กริดกังวลว่าวลี ‘ผู้เล่นไม่มีวันไล่ตาม NPC พิเศษทัน’ จะเป็นความจริงขึ้นมา


บราฮัมจ้องเข้าไปในดวงตาอันหดหู่ของราชาโอเวอร์เกียร์ ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม


“สาบานได้ จากบรรดาตำนานทั้งหมด ฉันคือหนึ่งในสุดยอดตำนานอย่างไร้ข้อกังขา”


“หือ? อา… ก็ใช่”


สมกับเป็นบราฮัม


ยังหาเรื่องยกยอตัวเองได้ในเวลาแบบนี้


กริดส่ายหัว ทว่า แววตาบราฮัมยังคงจริงจัง


“ถึงฉันระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายก็ยังตายด้วยฝีมือแพ็กม่า”


“…”


“และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายต่อหลายชิ้น ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ราชาไร้พ่ายมีพรสวรรค์เหนือกว่ามุลเลอร์”


บราฮัมต้องการจะพูดอะไรกันแน่?


ขณะกริดครุ่นคิด สีหน้าพลันอึมครึมเมื่อเริ่มทราบความหมาย


บราฮัมพ่นลมหายใจ


“ในเมื่อนายคือผู้สืบทอดพลังจากอัจฉริยะเหล่านั้น จะรู้สึกกังวลก็ไม่ผิด แต่ห้ามหวาดกลัวโดยเด็ดขาด”


“…ขอบคุณ”


บราฮัมเกลียดชังแพ็กม่าเข้ากระดูก


แต่เพื่อคลายความวิตกของกริด มันยอมเอ่ยชื่อนั้นขึ้นมาในลักษณะยกย่อง


กริดเงียบงันสักพักก่อนจะผงกศีรษะรับ


“ตกลง ฉันจะไม่หวาดกลัว”


“แต่ถ้าสู้กันตอนนี้ นายคงถูกชายชื่อการัมบดขยี้แน่นอน”


บราฮัมทำการดึงผิวหน้าของตัวเองออกและยื่นหน้ากากหนังเฟย์ริสให้กริด


มันอยากให้กริดเตรียมใจไว้ ถึงกริดจะยังห่างชั้นกับอีกฝ่ายมาก แต่ห้ามท้อแท้และล้มเลิกความตั้งใจเด็ดขาด


ยังบันทรงพลัง ใครก็เถียงไม่ได้


นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบราฮัมถึงไม่ติดตามกริดไปยังทวีปตะวันออก


หากตามกริดไปและบังเอิญถูกยังบันรุมเล่นงานจนหมดทางหนี นั่นจะสร้างความหดหู่ให้กริดเหนือพรรณนา อาจร้ายแรงถึงขั้นเลิกเล่นซาทิสฟายถาวร


“แล้วเจอกัน…”


ซู่ว—


ด้วยผลจากม้วนคาถาข้ามทวีปของสติกส์ ร่างกายชายหนุ่มเลือนหายไปจากสายตาทุกคนพร้อมกับเสาลำแสง


บรรดาอัศวินและสมาชิกกิลด์ต่างอวยพรให้กริดโชคดีกับการผจญภัยครั้งใหม่


***


“?”


แพงเจีย เมืองเริ่มต้นของทวีปตะวันออก


เมื่อกริดมองเห็นวิวทิวทัศน์ซากปรักหักพังเรียงรายรอบตัว มันขมวดคิ้ว


ไม่เพียงเท่านั้น ผู้เล่นหลายร้อยคนซึ่งมาถึงก่อนหน้า ทั้งหมดล้วนถูกใส่กุญแจมือ


‘ในคราวก่อน เราถูกส่งมาสู้กับเจียงซือจำนวนมาก’


เป็นเพราะเราสินะ…


ขณะครุ่นคิด กริดยื่นสองมือให้กับทหารผู้กำลังเดินเข้ามาใกล้


กริ๊ก.


กุญแจมือถูกสวมอย่างรวดเร็ว


[ท่านถูกพันธนาการแขนทั้งสองข้าง!]


[กุญแจมือถูกสร้างจากศิลากลืนเวท ท่านไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ในสภาพนี้]


[หากท่านออกแรง กุญแจมือจะถูกทำลาย]


‘คงทำแบบนั้นไม่ได้’


กริดเริ่มอ่านสถานการณ์รอบตัว


มันมั่นใจว่า หลังจากการัมถูกตนทำให้อับอายถึงสองหน มันละทิ้งศักดิ์ศรีและใช้อำนาจพลิกแผ่นดินตามล่าตัว


อาณาจักรนี้คงไม่มีพลังใดไปต่อกรกับคำสั่งของยังบัน จำเป็นต้องตั้งด่านตรวจเพื่อคัดกรองผู้คนจากทวีปตะวันตก


‘มาตรฐานของทวีปตะวันออกสูงมาก’


กริด ผู้เพิ่งเข่นฆ่าทหารเก๊าส์มาได้ไม่นาน ทำการเปรียบเทียบความแข็งแกร่งระหว่างทหารเก๊าส์กับทหารอาณาจักรโชในหัว


ทั้งเลเวลและอุปกรณ์สวมใส่ของทหารอาณาจักรโชล้วนเหนือกว่าพอสวมควร


แต่สำหรับกริด ทั้งทหารโชและทหารเก๊าส์ล้วนไม่ได้อยู่ในสายตาทั้งคู่


“คนต่อไป”


หลังจากยืนเงียบงันอยู่นาน คิวของกริดก็ดำเนินมาถึง


อาศัยพุงนูนยื่นคอยค้ำพื้นทรงตัว ชายหลังค่อมเพ่งมองใบหน้ากริดอย่างละเอียด


แต่น่าเสียดาย มันกลับจดจำไม่ได้ว่ากริดคือกริดในประกาศจับ เนื่องจากชายหนุ่มกำลังปลอมตัวเป็นอัศวิน ‘เคนดริก’ ภายใต้อำนาจของหน้ากากหนังเฟย์ริส


มีเหตุผลมากมายให้ต้องเป็นเคนดริก


ไม่เพียงเคนดริกจะไม่เคยเดินทางมายังทวีปตะวันออก แต่เขายังเคยเป็นคนเร่ร่อนมานานหลายปีระหว่างหลบหนีการตามล่าจากจักรวรรดิ และเหนือสิ่งอื่นใด ร่างกายเคนดริกใกล้เคียงกริดมาก ส่งผลให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ


“…ไม่ใช่ คนต่อไป”


โนบุลดัมหลังค่อมส่ายหัวและปล่อยให้กริดเดินผ่าน


เมื่อเป็นอิสระจากกุญแจมือ ชายหนุ่มเคลื่อนย้ายตัวเองมายังทางออกของหมู่บ้าน


ขณะจ้องมองออกไป กริดได้พบกับผู้เล่นหลายคนกำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากฝูงเจืองซือจำนวนมากบนทุ่งกว้าง


‘เจียงซือเหล็ก’


เจียงซือเหล็กพบได้ง่ายสุดจากบรรดาเจียงซือทั้งห้าชนิด แถมยังอ่อนแอกว่าทุกประเภท


ทว่า คุณสมบัติพิเศษของมันคือ ‘ร่างกายแข็งประหนึ่งสวมเกราะเหล็ก’ และยังฝีมือต่อสู้ค่อนข้างสูง จึงเป็นของแสลงสำหรับคลาสต่อสู้ทางกายภาพเลเวลต่ำ


แต่ในสงครามจริง คลาสจอมเวทกลับเป็นเหยื่ออันดับหนึ่งของเจียงซือเหล็ก


“หืม…”


กริดเบือนหน้ากลับจากทุ่งกว้าง ก่อนจะหยิบแผนผังออกมากางอ่าน


นี่คือแผนผังฉบับสมบูรณ์ของทวีปตะวันออก เขียนขึ้นโดยฮานซอกบงนานหลายวันหลายคืน


รายละเอียดทางด้านภูมิประเทศของอาณาจักรคายา ชิง และปา ถูกเขียนไว้อย่างหยาบ แต่ของอาณาจักรโชนั้นมีข้อมูลละเอียดยิบและครบถ้วนจนน่าชมเชย


‘ก่อนอื่น… คงต้องแวะชุมชนวัวขี้เกียจ’


<ดาวดวงใหม่แห่งแพงเจีย> ขั้นแรก

ขั้นแรก : ท่านจะได้รับข้อมูลข่าวสารจากชาวเมืองแพงเจียง่ายขึ้น

* ทุกครั้งเมื่อท่านทำลายชุมชนมอนสเตอร์ทางทิศเหนือ เลเวลและการแสดงผลของสมญานามจะเพิ่มขึ้น


หนึ่งในสมญานามของกริดเมื่อนานมาแล้ว


ตามชื่อของมัน นี่คือสมญานามซึ่งได้รับจากทวีปตะวันออก และต้องพัฒนาบนทวีปตะวันออกเท่านั้น กริดจึงไม่มีโอกาสได้อัพเลเวล


สมญานามนี้ได้มาจากการทำลาย ‘ชุมชนหนูใหญ่พิษ’ ทางทิศเหนือของเมืองแพงเจีย และเอฟเฟคของมันก็ค่อนข้างน่าผิดหวัง


‘ยิ่งเมื่อแพงเจียถูกทำลายไปแล้ว สมญานามนี้ก็ยิ่งไม่มีประโยชน์’


อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมาเยือนทวีปตะวันออกทั้งที กริดหวังเคลียร์ภารกิจให้มากก่อนจะได้เผชิญหน้ากับการัม


แผนขั้นแรกคือการตระเวนทำลายชุมชนสัตว์


ใครจะไปรู้


บางที สมญานามสุดห่วยอาจมีประโยชน์ในอนาคต ถ้าเลเวลและระดับของมันเพิ่มขึ้น


“หืม?”


กริด ผู้กำลังหันหน้าไปทางชุมชนวัวขี้เกียจ พลันส่ายหัวขณะเก็บกระดาษแผนผังกลับเข้าช่องสัมภาระ


สาเหตุมาจาก มันเหลือบเห็นบุคคลน่าสนใจผู้หนึ่งใกล้กับทางออกของหมู่บ้าน


อีกฝ่ายคือหญิงสาวผู้เอาแต่ตะโกนว่า ‘ฉันเป็นหมอ ฉันจะทดแทนบุญคุณแน่นอน ได้โปรดพาฉันไปกับคุณด้วย’ อย่างไม่หยุดพัก คล้ายกับติดอยู่ตรงนี้มานานหลายวันแล้ว


‘ทำไมคนอื่นถึงใจดำนัก…’


กริดส่ายหัวอีกครั้งพลางเดินเข้าไปใกล้


ชื่อตัวละครเหนือศีรษะเขียนว่า <เฮล่า>


“ถ้าอยากข้ามทุ่งโล่ง เดินตามผมมาก็พอ”


ว่ากันตามตรง กริดมองโลกเปลี่ยนไปมากหลังจากออกหนังสือชีวประวัติของตัวเองไปแล้วมากถึง 54 เล่ม มันจะไม่เมินเฉยเมื่อเห็นคนกำลังเดือดร้อน แต่แน่นอน ต้องคอยระวังไม่ให้ถูกหลอกหรือเอาเปรียบด้วยเช่นกัน


‘ถ้าเมืองหลวงมีหมอสักคนก็คงดี…’


กริดกำลังสนใจคลาส ‘หมอ’


คลาสหมอไม่มีทักษะฟื้นฟูแบบปัจจุบันทันด่วนเหมือนนักบวช แต่ถ้ามีเวลาและอุปกรณ์ให้อย่างเพียงพอ หมอจะรักษาบาดแผลหรือโรคร้ายแรงได้ดีกว่านักบวชมาก แต่เนื่องจากพลังด้านการต่อสู้ต่ำ ปาร์ตี้ส่วนใหญ่จึงไม่ต้อนรับหมอเข้าไปถ่วงแข้งขา


อย่างไรก็ตาม อาณาจักรโอเวอร์เกียร์นั้นเต็มไปด้วยคนขับรถบัส คนขับเครื่องบิน สามารถพาเธอเก็บเลเวลแบบติดปีกได้ทุกเมื่อ


“ข…ขอบคุณมากค่ะ… อ๊ะ!”


จะมีคนใจบุญยื่นมือช่วยเหลือเราโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจริงหรือ?


เฮล่าพลันผงะเมื่อได้รับความช่วยเหลืออย่างไม่คาดฝัน เธอจ้องมองเช่นนั้นเป็นเวลานานโดยไม่กล่าวสิ่งใด


จนกระทั่ง


“ค…คุณเคนดริก ขอบคุณสำหรับน้ำใจ แต่ฉันคิดว่าคุณอาจประเมินเจียงซือต่ำเกินไป”


เฮล่า ผู้กำลังตักเตือนด้วยความเป็นห่วง พลันหุบปากเงียบและไม่ส่งเสียงใดออกมาอีก


เนื่องมาจาก กริดในร่างเคนดริก ได้เดินผ่านไปโดยไม่พูดไม่จาและลงมือเชือดเจียงซือทิ้งในพริบตา


‘ฆ…ฆ่าเจียงซือในดาบเดียว!’


“ด…ได้โปรดรอด้วยค่ะ! คุณแรงเกอร์!”


“…?”


ด้วยฝีมือระดับเรา หล่อนกลับยังเรียกแค่แรงเกอร์เนี่ยนะ?


น่าแปลก


‘หรือว่า… มือใหม่?’


เฮ่อ ช่างเถอะ… หมอก็คือหมอ


กริดรำพันพลางเดินนำหน้า


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,545
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ในที่สุดก็มาแล้ววววว คิดถึงมากๆเลยครับ
    ขอบคุณสำหรับงานแปลครับ

    ReplyDelete
  2. เรื่อง​น่าติดตามเสมอเลยนะครับ
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00