จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,162



ณ ชุมชนเสือเขี้ยวกุด


เปรี้ยง! ครืนนนนน!


สุสานโบราณกำลังพังถล่ม


เป็นฝีมือของเสือคราม


“เจ้ามันบ้า…”


การัมใช้มือสางเส้นผมซึ่งเต็มไปด้วยเหงื่อไคลและคราบเลือดเหยื่อ จากนั้นก็นำไปทัดข้างใบหูพลางแสยะยิ้มชั่วร้าย


ดวงตาจดจ้องสลับไปมาระหว่างเสือตัวใหญ่ซึ่งมีบาดแผลชุ่มฉ่ำร่างกาย และหลุมศพโบราณในสภาพพังยับเยิน


“มนุษย์ผู้สร้างความบาดหมางต่อเทพไม่มีทางรอดชีวิตได้อยู่แล้ว กริดมีชะตากรรมต้องตายเยี่ยงสุนัข คิดถ่วงเวลาข้าไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด ต่อให้มันคืนชีพใหม่ได้อีกนับสิบนับร้อยหน แต่กริดก็ทำได้เพียงเต้นรำอยู่บนฝ่ามือของข้าเท่านั้น!”


การเสียสละของเจ้าคือสิ่งโง่เขลา… นั่นคือความนัยของมัน


การัมกำลังฉีกยิ้มกว้างสุดขีด


มันไม่เคยเคลือบแคลงเลยว่า ถึงจะคลาดกันกับกริดในคราวนี้ แต่มันจะได้พบกริดอีกครั้งอย่างแน่นอน


การัมกำลังจินตนาการถึงเรื่องน่าสนุก


ในคราวถัดไป มันจะลองทำตัวเป็นนักล่าเลือดเย็นดูสักครั้ง ทดสอบรมควันรังแรคคูนและรอให้เหยื่อเป็นฝ่ายโผล่หัวออกมาเอง


แผนการไม่ซับซ้อน เพียงใช้อาณาจักรโชเป็นตัวประกัน…


เสือครามคำรามตอบโต้


“โฮก! เจ้าเป็นแค่สิ่งมีชีวิตซึ่งเกิดจากฝีมือของเทพ กล้าเรียกตัวเองว่าเทพได้เช่นไร!”


“…”


สีหน้าการัมพลันอึมครึม


ยังบันและมนุษย์เท่าเทียมกัน พวกเราต้องเห็นคุณค่าชีวิตของพวกเขา… คำพูดของคนบ้าเริ่มหวนกลับมาหลอกหลอนในหัว


การัมมองสลับไปมาระหว่างเสือครามและเสือเขี้ยวกุดรับสิบตัวรอบข้าง


“ถึงจะฆ่ามันให้ตายสนิทไม่ได้ แต่ข้าสามารถฆ่ามันเรื่อยๆ จนสาแก่ใจ เพื่อบรรเทาความเดือดดาลภายในอก”


“การฆ่าอย่างไม่เกิดประโยชน์ เจ้าจะได้สิ่งใดนอกจากการเสียเวลา?”


ขณะเสือครามกำลังยืนขวางทาง การัมพ่นลมหายใจเหยียดหยัน


“ก็บอกไปแล้วนี่… เพื่อความสะใจยังไงล่ะ!”


เพียะ! เพียะ!


การัมสะบัดกระบี่อ่อนต่างแส้ใส่เสือคราม


มันกำลังหวนนึกถึงอดีตด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข อดีตกาลเมื่อครั้งเคยจับเสือครามไปทรมานและขังไว้ในกรง


ขณะบาดแผลตามลำตัวเสือครามทวีจำนวนขึ้นและทำได้เพียงตั้งรับ เสือเขี้ยวกุดด้านข้างรีบโพล่งขึ้นเสียงดัง


“โฮก! ยังบันอีกคนไล่ตามมนุษย์ไปแล้ว!”


“…?”


ดวงตาการัมและเสือครามพลันเบิกโพลงในจังหวะเดียวกัน


เสือเขี้ยวกุดอธิบายต่อไปโดยมิได้เข้าใจสถานการณ์มากนัก


“ขณะพวกท่านทั้งสองกำลังต่อสู้ ยังบันสวมคัด*ได้ลอบเข้าไปในสุสานโบราณแล้ว!”


(*คัด — หมวกแบบโบราณประเภทหนึ่งของเกาหลี สวมโดยผู้ชายพร้อมกับชุดฮันบก ในสมัยโชซอน ‘คัด’ จะทำจากขนหางม้าพร้อมด้วยโครงไม้ไผ่ มักมีสีดำโปร่งแสง)


“พวกท่านจะมัวเสียเวลาอยู่ไม่ได้แล้ว!”


“…!”


เมื่อเสือครามและการัมอ่านภาษากายของเสือเขี้ยวกุด ทั้งสองยืนยันได้ทันทีว่าถ้อยคำเมื่อครู่เป็นความจริง


ตาดำพวกมันพลันระริก


เสือครามกังวลเกี่ยวกับชีวิตกริดและความปลอดภัยของคันศรฟินิกซ์แดง ส่วนการัมกังวลว่าเรื่องราวความน่าอับอายของตนจะถูกเปิดโปง


‘ในบรรดายังบันสวมคัด นอกจากฮันกยอลก็ไม่มีใครสามารถเล็ดลอดสายตาเราไปได้!’


ยังบันสวมคัด


พวกมันคือยังบันผู้ได้รับอันดับต่ำกว่า 8 ในสอบซือโหยว


เนื่องจากเป็นผู้แพ้ในการแข่งขัน ยังบันประเภทนี้จึงไม่สามารถสั่งสมบารมีเทพ ส่งผลให้มีพลังด้อยกว่าการัมและอีกเจ็ดคนพอสมควร


แต่ยังบันก็คือยังบันวันยังค่ำ


กับแค่มนุษย์ คงไม่ต่างอะไรกับการบี้มดปลวก


โดยเฉพาะฮันกยอลผู้ถนัดด้านเก็บซ่อนตัวตนได้มิดชิด ถึงขั้นการัมมิอาจตระหนักถึง อย่างกริดก็คงถูกซุ่มโจมตีจนสิ้นท่าในพริบตา


“ไอ้ระยำนั่น…!”


ป่านนี้ กริดคงถูกกำราบเรียบร้อยแล้ว


จากนั้น มันก็จะเกิดความรักตัวกลัวตายจนคายทุกสิ่งให้ฮันกยอลฟังทั้งหมด


ขณะกำลังคิดฟุ้งซ่าน การัมรีบปรี่ไปยังชุมชนกระต่ายพากเพียรโดยไม่รีรอ


หากมันถูกยังบันลำดับต่ำกว่าเปิดโปงเรื่องราวอันน่าอับอาย เกรงกว่าตำแหน่งยังบันของตนอาจสั่นคลอนสถานหนัก และถึงขั้นถูกปลดจากการสั่งสมบารมีเทพ


การัมก็ต้องปิดปากฮันกยอลให้มิดชิด


ถึงแม้ทางลัดเข้าสู่ชุมชนกระต่ายพากเพียรจะถูกทำลายจนต้องอ้อมเป็นระยะทางไกล แต่การัมก็หาได้แยแส ไม่ว่าอย่างไรมันก็ต้องเร่งมือ


กึก.


เสือครามนั่งลง มันมิได้ไล่ตามการัมไป


ไม่มีเหตุผลให้ต้องขัดขวางอีกฝ่าย


เพราะป่านนี้ กริดคงตายไปแล้ว


เสือครามกำลังนึกเสียดาย ตนไม่น่าใจร้อนด่วนมอบคันศรฟินิกซ์แดงให้กริด


‘แพ็กม่า… ข้าทำให้ทายาทของท่านต้องตกระกำลำบาก…’


เสือครามหลั่งน้ำตาด้วยความสำนึกผิด


***


กริดไม่มีวันลืมเลือนประสบการณ์ขณะได้พบกลุ่มยังบันเป็นครั้งแรก


ตัวตนของพวกมันมีระดับทัดเทียมตำนานตัวจริงจากทวีปตะวันตก ร่างกายชายหนุ่มจึงเกิดการสั่นสะท้านอย่างมิอาจยับยั้ง


ใช่แล้ว ยังบันแข็งแกร่งมาก พวกมันมีโลหิตของเทพไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ย่อมต้องไม่อ่อนแอเป็นธรรมดา


หลักฐานพิสูจน์ก็คือ ในวินาทีฮันกยอลปรากฏกาย ปราณต่อสู้ของกริดพลันเดือดพล่านกะทันหัน


ทว่า


“ทำลายล้างสังหาร”


กริดมองเห็นโอกาสคว้าชัย


แตกต่างจากหลายปีก่อน ชายหนุ่มมิได้ยืนสั่นกลัวอย่างหมดท่า


มันแข็งแกร่งขึ้นมาก แถมยังตระหนักถึงจุดอ่อนของยังบันมาสักพักแล้ว


และก็ไม่ผิดจากความคาดหมาย


ฉึก! ฉึก!


“อั่ก!”


ฮันกยอลถูกกริดโจมตีสองดาบซ้อน


จุดอ่อนใหญ่หลวงของยังบัน… ความโอหัง


ฮันกยอลไม่คาดคิดว่ามนุษย์สามัญชนจะกล้าโจมตีใส่ตน ความประมาทดังกล่าวต้องแลกมาด้วยความอับอาย


“ท่ารำดาบนั่น…! การัมถูกของกระจอกแบบนี้เล่นงานเข้าสินะ! คึฮ่าฮ่า! ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอนั่นถึงได้โกรธแค้นเจ้านัก!”


“…!”


หลังจากเสร็จท่าทำลายล้างสังหาร กริดต้องการใช้ ‘หน่วง’ ตามซ้ำ แต่ก็มีอันต้องรีบขยับตัวถอยหลังแทน


ทันใดนั้น


ฉึบ!


ห้วงมิติในจุดกริดเคยยืนพลันฉีกขาด


เป็นพลังทำลายของสายลมปริศนาซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า


‘พลังนี้มัน…’


ในอดีต ท่าโจมตีชนิดนี้เคยทำให้กริดตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากมาแล้ว


ย้อนกลับไปสมัยการัมล่อลวงช่างเหล็กจำนวนมากจากทวีปตะวันตก มันใช้สายลมซึ่งมองไม่เห็น สยบกริดอย่างง่ายดาย


นี่คืออีกหนึ่งสาเหตุทำให้ชายหนุ่มยังไม่มั่นใจว่าตนจะเอาชนะการัมได้


ผู้เล่นจะไปเอาชนะสัตว์ประหลาดปล่อยพลังล่องหนได้อย่างไร?


แต่นั่นเป็นเพียงความคิดสมัยอดีต


สำหรับปัจจุบัน ชายหนุ่มมองเห็นแจ่มแจ้ง


ตัวตนของสายลมล่องหนซึ่งการัมเคยเรียกสิ่งนี้ว่า ‘อิทธิฤทธิ์แห่งเทพ’ แท้จริงแล้วคือ ‘ปราณไร้ตัวตน’


พลังปราณของผู้สามารถปลุกจิตขั้นสูงให้ตื่น


ยังบันเกิดมาพร้อมพรสวรรค์จิตขั้นสูง พวกมันจึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะตัวเอง


“ไม่เลวนี่”


หลบปราณไร้ตัวตนของเราได้?


คงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแน่…


แม้จะยังไม่ทราบว่ามันเรียนท่ารำดาบของแพ็กม่ามาจากไหน แต่คงก้าวข้ามความเป็นมนุษย์ได้ในช่วงดังกล่าว…


เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮันกยอลเริ่มแสดงสีหน้าเอาจริงพลางเพ่งสมาธิควบคุมสายลมล่องหนอย่างสุดฝีมือ


ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ


สายลมจากฮันกยอลผู้ยืนกอดอก ทวีความเฉียบคมและว่องไวจากเดิมหลายเท่า


มันไม่คิดปลดกระบี่อ่อนตรงเอวออกมาสู้


ปัจจุบัน สายตาฮันกยอลสามารถมองตามการเคลื่อนไหวของกริดทันได้ไม่ยาก แม้จะเคยถูกโจมตีทีเผลอไปสองดาบซ้อนก็ตาม


ไม่ใช่เพราะมันโง่เขลา


เพียงแต่เป็นสัญชาตญาณความมั่นใจเสียเต็มประดาของยังบัน สิ่งมีชีวิตผู้ปกครองมนุษย์มานานหลายร้อยปี


แต่ไหนแต่ไร เผ่าพันธุ์มนุษย์จะประสบความฉิบหายหรือความสุข ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของยังบันเพียงอย่างเดียว


ในมุมมองยังบัน การหวาดกลัวมนุษย์จึงไม่เคยมีอยู่ในเศษเสี้ยวเซลล์สมอง


ไม่เพียงเท่านั้น บาดแผลของฮันกยอลในตอนแรกเริ่มสมานติดกันอย่างรวดเร็ว


สิ่งนี้เป็นผลมาจากลมหายใจฟินิกซ์แดง


ไม่สิ ต่อให้ไม่คำนึงถึงลมหายใจฟินิกซ์แดง บาดแผลจากกริดก็มิได้ฉกรรจ์แต่แรกแล้ว


เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ไม่ว่ามนุษย์สามัญชนจะดิ้นรนอย่างเกรี้ยวกราดสักเพียงใด แต่ก็ยังไม่เพียงพอจะทำให้ยังบันหลั่งเลือด


“คึฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าจะหักขาของเจ้าเป็นอันดับแรกก็แล้วกัน!”


ปฏิกิริยาตอบสนองของฮันกยอลแตกต่างจากการัมโดยสิ้นเชิง


ในกรณีของการัม มันคือผู้ได้รับเลือกให้สั่งสมบารมีเทพ ความโอหังจึงสูงเสียดฟ้าเหนือผู้ใด เมื่อถูกกริดสร้างบาดแผลบนร่างกาย การัมจึงเดือดดาลเป็นฟืนไฟ แต่ด้านฮันกยอลนั้นไม่ใช่ มันอดทนในฐานะยังบันสวมคัดมาตลอด จึงไม่ถือสาอะไรกับบาดแผลเล็กน้อยเพียงเท่านี้


มันรุกโจมตีใส่กริดหนักหน่วงอย่างมีสติ


ฟ้าว! ฟ้าว! ฟ้าว! ฟ้าว!


สายลมล่องหนจำนวนมากพรั่งพรูเข้าหาชายหนุ่มด้วยความเร็วสูง


แทบจะไม่มีโอกาสหลบพ้นได้เลย


‘นี่คืออิทธิฤทธิ์ของเทพยังไงล่ะ! ต่อหน้าพลังอันยิ่งใหญ่ มนุษย์จำต้องศิโรราบอย่างหมดท่า…’


“…เอ๋?”


สีหน้าฮันกยอลพลันประหลาดใจ


เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!


สายลมล่องหนจำนวนมากแหลกละเอียดก่อนจะได้สัมผัสร่างกริด


[พลังจิตอันเข้มแข็งของท่านทำการสลายปราณไร้ตัวตนของศัตรู]


ปราณไร้ตัวตนคือพลังจิตชนิดหนึ่ง


เหมาะสำหรับโจมตีใส่สิ่งมีชีวิตอ่อนแอ หรือประเภทไม่มีจิตนึกคิด แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เหมาะสำหรับเป้าหมายจิตใจเข้มแข็ง


ย่อมไม่มีทางกำราบกริด ผู้ขยายแก่นมานาจากเดิมหลายเท่าด้วยฤทธิ์ยามังกรจนสามารถเปิดการใช้งานค่าสถานะพลังจิต


“บ้าน่า…!”


ขณะฮันกยอลกำลังยืนเหม่อลอย มันรีบชักกระบี่อ่อนออกจากเอวพลางตั้งท่า


สาเหตุเนื่องมาจาก อีกฝ่ายเริ่มรำดาบเมื่อสลายพายุสายลมล่องหนของมันจนหมด


ท่วงท่ารำดาบของกริดไม่ใช่สิ่งแปลกตาสำหรับฮันกยอลนัก


‘มายา!’


หากอีกฝ่ายปลดปล่อยสำเร็จ จะสามารถโจมตีระยะไกลได้อย่างอิสระ


ถ้าไม่รีบเข้าประชิดตัว คงตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบไปอีกพักใหญ่…


เมื่อประเมินว่าไม่ใช่เรื่องฉลาด กับการปล่อยให้กริดโหมกระหน่ำใส่ฝ่ายเดียว ฮันกยอลรีบปรี่เข้าประชิดตัวชายหนุ่มหวังยกเลิกการปลดปล่อย


ทว่า


“มายา—”


กริดสำเร็จท่ารำดาบแทบจะในพริบตา สิ่งนี้ผิดความคาดหมายฮันกยอลไปมาก


“—ร่ายรำทำลายล้างสังหาร.”


และไม่ใช่แค่หนึ่ง


“…!?”


ปลดปล่อยท่ารำดาบผสานสี่ชนิดในคราวเดียว…?


บ้าน่า แม้แต่แพ็กม่าก็ยัง…


ขณะฮันกยอลกำลังเหม่อลอย


คลื่นดาบจำนวนมากพลันพรั่งพรูออกจากคมดาบกริด และเล็งไปยังจุดอ่อนตามร่างกายอย่างรวดเร็วแม่นยำ


เคร้ง—


“อั่ก…!”


ฮันกยอลพยายามวาดกระบี่เป็นวงกลมเพื่อสลายคลื่นดาบจากด้านหน้า แต่ก็ไม่สัมฤทธิผล


อีกหนึ่งจุดอ่อนของยังบัน


พวกมันขาดประสบการณ์ต่อสู้แลกชีวิต


ทันใดนั้น เวทมนตร์ยกระดับของบราฮัมพลันสำแดงฤทธิ์เดชต่อทันที


ยังบันไร้บารมีเทพ ผู้เอาแต่ทระนงตนว่าเก่งกว่าใครมาทั้งชีวิตและขาดการฝึกฝนฝีมือให้ก้าวหน้า ย่อมมิอาจทัดทานการโจมตีจากบุรุษผู้ผสานสองตำนานเข้าเป็นหนึ่งเดียว


[คุณลักษณะ ‘ดิ้นรน’ ของเฟนเรียร์แสดงผล ทำการหักล้างผลข้างเคียงซึ่งเกิดจากส่วนต่างของเลเวลตัวละคร]


เคร้ง—


ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!


กริดในสภาพบัฟเต็มพิกัด โจมตีด้วยทักษะผสานสี่ชนิด โดยไม่คำนึงถึงระบบส่วนต่างของเลเวลตัวละคร ได้ฝังบาดแผลลึกลงบนร่างยังบันฮันกยอลอย่างไร้ความปรานี


เป็นระดับพลังโจมตีซึ่งสามารถทะลวงฝ่าด่านพลังป้องกันของเหนือมนุษย์ผู้มีศักดิ์ ‘ครึ่งเทพ’ ได้อย่างง่ายดาย


“อ๊ากกกก!!”


กริดตามต่อด้วยมายาร่ายรำสะพรั่งทันที


“นี่เจ้า…!”


มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง


หมอนี่จะเป็นผู้สืบทอดแพ็กม่าได้อย่างไร


ในเมื่อมันนำหน้าแพ็กม่าไปหลายขุมเช่นนี้!


ฮันกยอลพลันเย็นสันหลังวาบ ร่างกายเริ่มห่อหุ้มด้วยประกายแสงสายฟ้าสีขาวเนื่องจากใช้ทักษะ ‘ประกายอัสนี’ แห่งมังกรคราม


มันรีบหนีขึ้นฟ้าโดยไม่ต้องการเผชิญหน้าสัตว์ประหลาดเบื้องล่างนานไปกว่านี้


แต่กริดกัดไม่ปล่อย


ลำตัวชายหนุ่มกำลังห่อหุ้มแสงสีขาวในลักษณะเดียวกันทุกประการ


“เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่…!!”


สีหน้าฮันกยอลขาวซีดโดยสมบูรณ์


มันหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ ว่ากริดมีพลังมังกรครามในครอบครองได้เช่นไร


แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดถอดใจ ฮันกยอลรีบสำแดงพลังเสือขาวต่อทันที


ปัจจุบัน พลังฟินิกซ์แดงกำลังเยียวยาบาดแผล พลังมังกรครามกำลังห่อหุ้มร่างกายเพื่อลอยขึ้นฟ้า จึงหมายความว่า ฮันกยอลใช้พลังสามสัตว์เทพออกมาพร้อมกัน


“แค่ก! อึก!”


โลหิตสีดำเข้มกระอักออกจากปาก


แต่มันจะตายด้วยน้ำมือมนุษย์ไม่ได้เด็ดขาด!


ฮันกยอลกัดฟันฝืนใช้พลังเทพตนสุดท้าย ม่านศิลาสีดำสนิทซึ่งไม่มีวันแตกหัก ถูกสร้างปกคลุมร่างกายไว้รอบทิศทางอย่างถ้วนทั่ว


…ก่อนจะหายไปในพริบตา


“ข้าพเจ้าไม่ต้องการเห็นท่านได้ดิบได้ดี”


เพล้ง!


“…!”


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ร่างฮันกยอลร่วงหล่นลงพื้นโดยปราศจากการต่อต้านขัดขืน


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,551
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. พลังแห่งเนตรมารจงเจริญ

    ReplyDelete
  2. สนุก​และ​สุขใจ
    ขอบพระคุณ​เป็น​อย่างยิ่ง​😊🙏

    ReplyDelete
  3. ตัดจบแบบโหดเหี้ยม

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00