จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,108



ณ วังไรนฮาร์ท


เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ดวงตาลอเอลพลันลุกวาวเมื่อได้ฟังเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบจากปากกริด


“นั่นบาเอลไม่ใช่หรือ… ต้องใช่แน่!”


“จะเป็นไปได้ยังไง”


กริดรีบปฏิเสธสมมติฐานของลอเอล


“ตัวตนบาเอลไม่ต่างอะไรกับลาสบอสของเกมซาทิสฟาย ยังเร็วไปจะให้ผู้เล่นเผชิญหน้าตอนนี้ แถมยังกระจอกฉิบ มีดีแค่ความเร็ว”


กริดเองก็มีเหตุผลรองรับ แถมฟังขึ้น


อาจเป็นเพราะเฟย์ริสและบีเลียลสำแดงพลังในระดับน่าหวาดหวั่น ผู้เล่นทุกคนรวมถึงกริดจึงสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังขณะเผชิญหน้า ดังนั้นหากเป็นบาเอล จอมอสูรลำดับหนึ่งแห่งขุมนรก ตนคงทำได้เพียงยืนแข้งขาสั่นเทาโดยมิอาจรักษาความเยือกเย็นไว้ได้ กริดใช้หลักเกณฑ์ข้อนี้สนับสนุนสมมติฐานของตัวเอง เพราะขณะต่อสู้ ตนไม่ได้เกิดความกลัวมากมายนัก


“และคงไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไรถ้าบอสใหญ่ของเกมมาปรากฏตัวในร่างผู้เล่น”


หากมีผู้เล่นคนใดสามารถหยิบยืมพลังของบอสใหญ่มาประทับร่าง สิ่งนั้นคงทำให้ซาทิสฟายเสียสมดุลอย่างมาก และ SA กรุปไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นแน่


“ฝ่าบาทยังยืมพลังบราฮัมได้เลย”


“บราฮัมไม่ใช่บอสใหญ่”


“ในสายตาคนปรกติ ไม่ว่าจะบราฮัมหรือบาเอลต่างก็โกงเหมือนกัน”


“แต่ไม่เหมือนแน่นอน และว่ากันตามหลักการ บราฮัมเป็นแค่ทายาทจอมอสูร ฉะนั้นตัวอะไรสักอย่างในร่างแอ็กนัสต้องไม่ใช่บาเอล”


กริดยืนกราน


“มันอ่อนแอว่าแกรนมาสเตอร์เสียอีก”


ชายหนุ่มไม่ได้พูดพล่อย สิ่งนี้คือความรู้สึกอย่างซื่อตรง จอมอสูรในร่างแอ็กนัสอ่อนแอกว่าเฟย์ริสด้วยซ้ำ


ไม่สิ อ่อนแอกว่าแม้กระทั่งบีเลียล


หากแกรนมาสเตอร์ไม่หลับ แอ็กนัสคงทำได้เพียงตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียวโดยมิอาจตอบโต้


กริดจึงมั่นใจว่าไม่มีทางเป็นบาเอล จอมอสูรลำดับหนึ่ง ต่อให้เสื่อมพลังลงมากจากผลข้างเคียงการผสานร่างมนุษย์ก็ตาม


แน่นอน โอกาสเป็นจอมอสูรหลักเดียวมีค่อนข้างมาก ประกอบด้วยหลายปัจจัยเช่น อีกฝ่ายสามารถสยบพลังอสูรได้พริบตา เติมเต็มปราณต่อสู้รวดเร็วจนเกิดสถิติใหม่ สามารถใช้พลังคล้าย ‘ชุนโป’ บ่อยครั้ง


แต่ถึงจะนำทั้งหมดมาประกอบกัน บาเอลก็ยังเป็นตัวตนเกินเอื้อมและไม่เข้าข่ายอยู่ดี


“แต่มันเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ปกครองสูงสุดแห่งขุมนรกไม่ใช่หรือ”


“นายคิดว่าในนรกมีกี่ขุมกัน คำตอบคือ33 ขุม! จอมอสูรจะแบ่งกันปกครองในแต่ละชั้น ดังนั้นใครก็เป็นผู้ปกครองได้”


“แต่แอ็กนัสเป็นผู้ทำพันธสัญญาบาเอล”


“แค่เป็นผู้ทำพันธสัญญาไม่ได้หมายความว่าต้องผสานวิญญาณกันได้ แม้แต่ฉันยังใช้พลังของเฟย์ริสและบีเลียลโดยไม่ต้องทำพันธสัญญากับพวกมัน แอ็กนัสก็คงมีอักขระของตัวเอง และน่าจะใช้พลังจอมอสูรได้สักตน”


“แต่มันรู้จักแพ็กม่าเป็นอย่างดี หากประเมินจากจอมอสูรทั้งหมด ไม่น่าจะมีตนใดรู้จักแพ็กม่าดีไปกว่าบาเอลแล้ว เพราะพวกมันเคยทำพันธสัญญากัน”


แพ็กม่า…


นี่คือประเด็น จอมอสูรในร่างแอ็กนัสรู้จักแพ็กม่าดีไม่แพ้กริด และเป็นเหตุผลให้ลอเอลเชื่อว่ามันคือบาเอล


อย่างไรก็ตาม กริดก็มีเหตุผลคัดค้าน


“แพ็กม่าคือมนุษย์เพียงคนเดียวในสงครามต่อต้านจอมอสูรบนหมู่เกาะเบเฮ็น เขาขับไล่พวกมันกลับขุมนรกสำเร็จตามลำพัง จะต้องมีจอมอสูรเคยสู้กับแพ็กม่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งหรือสองตนอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่บาเอล บางทีเกือบทั้งหมดของจอมอสูรในสงครามครั้งนั้นอาจรู้จักแพ็กม่าเป็นอย่างดี”


“งั้นหรือ… เข้าใจแล้ว”


ลอเอลยกธงขาว


กริดคือราชาวีรบุรุษผู้ชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นและเคยไปเยือนแอสการ์ดเพื่อแข่งตีเหล็กกับเทพมาแล้ว ความรู้ด้านเทพและจอมอสูร ย่อมเหนือกว่าลอเอลแน่นอน


หากอีกฝ่ายไม่ใช่กริด ลอเอลคงยืนกรานคัดค้านหัวชนฝา


“แล้วฝ่าบาทคิดว่าเป็นจอมอสูรตนใด”


“อาโมแรคมั้ง”


“หมายถึงข้ารับใช้ยาธานลำดับหนึ่งตามคำบอกเล่าของบราฮัมน่ะหรือ”


“ใช่… มีโอกาสเป็นมันมากกว่าใคร”


“แต่เจ้านั่นต้องคอยบงการวิหารยาธานจากในเงามืดตลอดเวลาไม่ใช่หรือ”


“…?”


“ดังนั้นไม่น่าจะมีเวลาสำหรับ ‘หาความสุขใส่ตัวด้วยการเฝ้ามองเทพและมนุษย์กระทำเรื่องน่าขบขัน’ หรอกกระมัง”


“งั้นก็คงเป็นจอมอสูรตนอื่น… แต่เป็นใครแล้วมันสำคัญยังไง?”


อีกฝ่ายก็เศษเสี้ยวแค่วิญญาณจอมอสูร ถูกอัญเชิญโดยใช้ไอเท็มหรือทักษะพิเศษบางชนิดเป็นสื่อกลาง


การใช้พลังผ่านอักขระไม่มีทางทรงพลังเท่าจอมอสูรตัวจริงสมัยยังมีชีวิต ส่วนการผสานวิญญาณแบบเดียวกับบราฮัมก็ไม่ต่างกันมากนัก ขีดกำจัดแต้มสถานะตัวละครผู้เล่นส่งผลให้ใช้พลังได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ กรณีของจอมอสูรในร่างแอ็กนัสก็คงหนีไปจากเหตุผลสองข้อนี้ไม่มาก


(*แปลถึงการผสานวิญญาณกับบราฮัมแล้วเอะใจ สรุปว่าตอน 1107 ผมแปลชื่อทักษะของแอ็กนัสผิด จริงๆ ก็ไม่เชิงผิด เพราะคำว่า 동화 [ดงฮวา] มีความหมายหลักแปลว่า ‘นิทานกล่อมเด็ก’ และมีความหมายสแลงแปลว่า ‘ผสาน’ ดังนั้นผมขอแก้ไขให้เป็นชื่อทักษะ ‘ผสานวิญญาณ’ เหมือนของกริดกับบราฮัมคงเหมาะสมกว่า)


แค่คิดว่าเป็นพลังของแอ็กนัสก็พอแล้วไม่ใช่หรือ จะเป็นวิญญาณจอมอสูรตนใดก็ไม่เห็นสำคัญสักหน่อย ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาขบคิดให้ปวดหัว


ลำพังนึกถึงแอ็กนัสก็ทำให้กริดเกิดความหงุดหงิดและหัวเสีย


“ตอนนี้มีปัญหาอื่นให้ควรกังวลมากกว่า”


กริดแชร์รายละเอียดภารกิจให้ลอเอล


เป็นภารกิจของต้นไม้โลก


<สืบสวน>

ระดับความยาก : SS

ต้นไม้โลกต้องการให้เบเนียลูตาย

จงช่วยต้นไม้โลกตามหาตัวเบเนียลู

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ความตายของเบเนียลู

รางวัลภารกิจ :

- เพิ่มค่าความสัมพันธ์กับต้นไม้โลกเล็กน้อย

- ได้รับภารกิจต่อเนื่อง <ค้นหา>

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : ไม่มีบทลงโทษ

* ท่านบรรลุภารกิจนี้แล้ว


“…??”


ลอเอลขมวดคิ้วสับสน


ต้นไม้โลกเปรียบดังมารดาของทุกชีวิต ดำรงตนมาตั้งแต่ยุคต้นกำเนิด ประโยคระบุว่าหล่อนต้องการความตายของเอลฟ์ ช่างขัดหูขัดตาลอเอลเหลือเกิน


กริดอธิบาย


“ต้นไม้โลกเชื่อว่ามีพลังภายนอกบางชนิดทำให้เบเนียลูถูกความมืดกัดกิน”


แม้เอลฟ์จะเป็นเผ่าพันธุ์จิตใจบริสุทธิ์ แต่พวกมันนับว่าหัวรั้นมาก หากไม่เต็มใจกระทำสิ่งใดก็จะขัดขืนอย่างสุดความสามารถ


ในอดีต กริดเคยช่วยเผ่าเอลฟ์ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของราคาพ่อค้าเคียร์ ทำให้เอลฟ์ส่วนใหญ่ไม่ถูกจับไปขายเป็นทาส เบเนียลูจึงหวังขจัดความมืดมิดออกจากร่างกายให้ได้


“ลองอ่านรายละเอียดภารกิจถัดไป”


ภารกิจ <สืบสวน> บรรลุทันทีเมื่อเบเนียลูเสียชีวิตลง กริดจึงแชร์รายละเอียดภารกิจต่อเนื่องให้ลอเอลอ่าน


<ค้นหา>

ระดับความยาก : S

ต้นไม้โลกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่า ดาร์คเอลฟ์เบเนียลูภายในผืนป่าเก๊าส์เป็นเพียงร่างเสมือน

ต้นไม้โลกตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้อาจเป็นฝีมือของเผ่าพันธุ์โบราณ ‘รัฟเฟลเชีย’

นับตั้งแต่อดีตกาล รัฟเฟลเชียมักล่อลวงสิ่งมีชีวิตภายในป่าให้กลายเป็นเผ่าพันธุ์อสูร จากนั้นพวกมันจะกินความมืดในจิตใจของเหยื่อเป็นอาหาร

จงตามหาตำแหน่งของเผ่ารัฟเฟลเชียให้พบ ร่างจริงของเบเนียลูอาจอยู่กับพวกมัน

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ตามหาเผ่ารัฟเฟลเชียให้พบ

รางวัลสำเร็จภารกิจ :

- ค่าความสัมพันธ์กับต้นไม้โลกเล็กน้อย

- ค่าความสัมพันธ์กับเบเนียลูเพิ่มถึงค่าสูงสุด

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :

- ไม่มีบทลงโทษตัวละคร

- เบเนียลูตาย


“อ้อ… ต้นไม้โลกมองออกแต่แรกแล้วว่าเบเนียลูในป่าเก๊าส์เป็นร่างเสมือน สมกับเป็นสิ่งมีชีวิตบรรพกาลตั้งแต่ยุคต้นกำเนิด”


“ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตโบราณมักรวมตัวรอบป่าต้นไม้โลก และคงเป็นเหตุผลให้พวกเราได้เผชิญหน้าพวกครั้งบ่อยครั้ง… ว่าแต่ นายมีใครจากกิลด์โอเวอร์เกียร์ 2 แนะนำบ้างไหม ฉันไม่มีทักษะค้นหา ต้องการความช่วยเหลือจากมืออาชีพจำพวกนักลอบสังหาร”


ไม่ใช่ภารกิจเข่นฆ่าทำสงคราม แค่หาตำแหน่งให้พบก็พอแล้ว แถมยังมีระดับความยากแค่ S เท่านั้น ไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตายแน่นอน จึงไม่มีเหตุผลให้กริดปฏิเสธภารกิจของต้นไม้โลก การช่วยเบเนียลูจะเป็นไปอย่างราบรื่น


แล้วทำไมถึงต้องช่วยเบเนียลู


กริดไม่ได้ต้องการเพิ่มค่าความสัมพันธ์เพราะเธอคือหนึ่งใน 12 ผู้พิทักษ์สุดแกร่ง นั่นไม่ใช่เหตุผล แต่เป็นเพราะทั้งสองเคยร่วมต่อสู้ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน คอยแบ่งปันความโศกเศร้าและเดือดดาล


กริดต้องการให้หัวใจของเบเนียลูกลับมาเบ่งบานเหมือนดอกแคนารีอีกครั้ง


ลอเอลทราบความจริงดีกว่าใคร จึงอมยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข


“การค้นหารอบป่าต้นไม้โลกไม่ใช่เรื่องง่าย น่าเสียดาย กิลด์โอเวอร์เกียร์ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านค้นหาตัวจริง”


“งั้นหรือ… นายพูดถูก ฉันนึกไม่ออกเลยว่ามีใครชำนาญด้านนี้อย่างจริงจัง”


“แต่มีคนนอกเหมาะสมอย่างมาก”


“คนนอก?”


“ถูกต้อง”


ลอเอลชี้นิ้วไปบนอกกริด


“ชายผู้ตกหลุมรักฝ่าบาทยังไงล่ะ”


“…?”


“สกังค์ นักสำรวจแรงค์หนึ่ง เขาต้องช่วยฝ่าบาทแน่”


***


‘หลังจากได้ไคล์เป็นพวกก็ทำตัวเหมือนกับไม่หวาดกลัวสิ่งใดในโลกอีกเลย’


พักหลัง มันถอนหายใจจนติดเป็นนิสัย


ในฐานะอัศวินรับใช้ดูรันดัล องค์ชายลำดับสองแห่งจักรวรรดิ เลซี่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินบนแผ่นน้ำแข็งเปราะบาง สาเหตุเพราะดูรัลดัลผู้ไม่ยอมปล่อยวางจากบัลลังก์สักที แอบวางแผนลับอยู่เบื้องหลัง


“เราจะคืนอิสระให้ผืนป่าของเจ้า”


ดูรัลดัลเขียนจดหมายเช่นนี้ส่งไปยังหลายอาณาจักรทั่วทวีป


“ด้วยอำนาจขององค์ชายจักรวรรดิ ผืนป่าในอาณาจักรเจ้าจะถูกทวงคืนจากเอลฟ์ จากนั้นก็จะได้ร่วมงานกับเราอย่างใกล้ชิด”


แผนของมันคือการวางรากฐานจากภายนอกจักรวรรดิเพื่อเตรียมศึกชิงบัลลังก์ เนื้อความในจดหมายแฝงเจตนาไว้ชัดเจนจนหลายราชวงศ์ต่างพากันประหลาดใจ


แต่ทุกอาณาจักรล้วนตอบรับข้อเสนอดูรัลดัลโดยแทบไม่คิด พวกมันปรารถนาให้อาณาจักรของตนกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง


พวกมันต้องการผืนป่าคืน ขณะเดียวกันก็ไม่พึงพอใจสถานภาพทางการเมืองในปัจจุบัน


ฝั่งอาณาจักรเล็กกำลังเหี่ยวเฉาใกล้ตายลงทีละนิด แต่ฝั่งจักรวรรดิและมิตรของจักรวรรดิอย่างโอเวอร์เกียร์กลับตักตวงน้ำผึ้งอย่างมีความสุขโดยไม่แบ่งใคร จึงไม่แปลกหากอาณาจักรอื่นจะเกิดความไม่พึงพอใจ


พวกมันเกลียดชังจักรวรรดิผู้เอาแต่ปรนนิบัติเลี้ยงดูโอเวอร์เกียร์ยิ่งกว่าไข่ในหิน


พวกมันเกลียดชังจักรวรรดิผู้ให้อิสระกับสหเผ่าพันธุ์ แต่กลับปล่อยให้อาณาจักรเล็กรับมือภัยคุกคามด้วยตัวเอง


มีการตั้งข้อสงสัยว่า ภายใต้อุดมการณ์ ‘ทุกเผ่าเท่าเทียม’ แท้จริงแล้วจักรวรรดิต้องการให้สหเผ่าพันธุ์ช่วยทำลายอาณาจักรอื่นรอบข้าง


จนกระทั่งองค์ชายดูรัลดัลยื่นข้อเสนอ


ในเมื่อพวกตนถูกกดขี่จากจักรวรรดิยุคใหม่ อดีตองค์ชายจึงขอเสนอตัวและพลังอำนาจเข้าช่วยเหลือ


‘อาณาจักรเล็กตัดสินใจได้สมเหตุสมผล แต่ดูรันดัลก็ละโมบเกินไป’


ภายในจักรวรรดิยังเหลือผู้สนับสนุนฝั่งดูรันดัลจำนวนไม่น้อย ไม่สิ เพิ่มจำนวนขึ้นจากตอนแรกด้วยซ้ำ เพราะบรรดาขุนนางกังฉินคดโกงบ้านเมืองถูกบาซาร่าปราบปรามจนเสื่อมพลังอำนาจ จึงหันมารวมตัวรอบองค์ชายดูรันดัลแทน


เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อไคล์กลับจากโบราณสถานเทพสงคราม ดูรัลดัลคอยเอาอกเอาใจเป็นพิเศษจนไคล์ยอมเป็นพวก ไม่เกินจริงเลยหากจะกล่าวว่าพลังอำนาจของดูรัลดัลได้ก้าวข้ามเหล่าดยุคไปแล้ว


และถ้าได้รับแรงสนับสนุนจากอาณาจักรเล็กเพิ่มเข้าไปอีก มันจะมีพลังถึงขั้นสามารถงัดข้อกับมหาจักรพรรดินี และจักรวรรดิจะตกอยู่ในวังวนพายุสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่


‘ท่านบาซาร่าไม่ทราบเรื่องนี้แน่…’


ผลลัพธ์ในอุดมคติคือ บาซาร่าชิงออกมาตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการสังหารดูรัลดัล


แต่เธอกลับปล่อยให้ดูรัลดัลเคลื่อนไหวได้ตามใจชอบอย่างผิดวิสัย จนถึงกับมีข่าวลือว่า เป็นเพราะมหาจักรพรรดินีทรงเอ็นดูหลานชายในสายเลือดของตัวเอง


ยิ่งไปกว่านั้น การฆ่าบุตรของฮวนเดอร์จะเท่าขัดต่อเจตนารมณ์สุดท้ายของอดีตจักรพรรดิ


‘อย่างไรก็ตาม ดูรัลดัลถือเป็นเสี้ยนหนามใหญ่เกินไปสำหรับมหาจักรพรรดินี บางทีอาจใกล้ถึงคราวผิดคำสัญญาต่ออดีตจักรพรรดิแล้วกระมัง’


เธอคงกำลังชั่งใจว่า ควรปล่อยดูรัลดัล—องค์ชายผู้จะกลายเป็นกบฏแผ่นดินในอนาคต—ไว้ดีหรือไม่ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น บัลลังก์ของตัวเองจะถูกคุกคามอย่างหนัก


หรือจะยอมเสี่ยงปล่อยให้ดูรัลดัลก่อกบฏ เธอจะได้ปราบปรามอย่างชอบธรรมโดยไม่ขัดคำสั่งเสียของอดีตจักรพรรดิ


‘บัดซบ! ระบบปฏิญาณตนรับใช้ของอัศวินเคร่งครัดเกินไปแล้ว! ผลเสียร้ายแรงจนไม่คุ้มกับการเปลี่ยนฝั่ง’


สำหรับอัศวิน คำสาบานสำคัญอย่างมาก


อัศวินไม่รักษาสัตย์ คืออัศวินไม่มีค่า


เจ้านายสามารถทิ้งอัศวินได้ทุกเมื่อ แต่อัศวินห้ามทอดทิ้งหรือทรยศเจ้านายโดยเด็ดขาด สิ่งนี้คือสาเหตุให้ผู้เล่นอัศวินทั่วโลกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมานักต่อนัก


ขณะเลซี่กำลังไตร่ตรองสถานการณ์รอบตัวอย่างละเอียด ข้อความระบบได้แสดงเตือนมุมหน้าจอ


[เจ้านาย ‘ดูรัลดัล’ ได้มอบคำสั่งใหม่แก่อัศวินทุกนาย]


[ภารกิจถูกสร้างขึ้น]


<ทวงคืนผืนป่า>

ระดับความยาก : S

ข้าพเจ้าจะไม่ยอมทนเห็นมนุษย์ด้วยกันเองถูกสหเผ่าพันธุ์แย่งชิงผืนป่าไปครอง

ถึงเวลาลุกขึ้นสู้เพื่อสันติภาพ สิทธิ และศักดิ์ศรีของเผ่ามนุษย์แล้ว!

พวกเราจะร่วมมือกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเพื่อทวงคืนผืนป่าทั่วทั้งทวีปตะวันตก!

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ทวงคืนผืนป่า 3 แห่ง

รางวัลภารกิจ :

- เครื่องราชอิสริยาภรณ์

- ภารกิจต่อเนื่อง <ทวงคืนผืนป่า II>

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : ดูรัลดัลเสื่อมเสียชื่อเสียง


“คึ่ก…”


‘เราคงทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้ามองเหตุการณ์ดำเนินไป’


ภายใต้การนำของอัศวินอาวุโส เลซี่เดินทางออกจากจักรวรรดิด้วยอารมณ์หดหู่


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,497

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ไปเจอกริดในป่า​? ? 🤔?

    ReplyDelete
  2. ใกล้ได้เวลาเลซี่มาอยู่โอเวอร์เกียร์แล้วมั้ง

    ReplyDelete
  3. กริดนี่โง่จริงๆ แต่ก็สุดยอดไปในตัว ที่ทำให้บาเอลยืนกระอักกระอ่วนได้ 55

    ReplyDelete
  4. ทำไมรุสึกไม่ค่อยชอบกริดตอนนี้เลย ดูโง่อะ ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลมันก้ต้องเชิญบาเอลมาปะ จะให้เชิญใครมา ลำดับ2 หรือไง หือ? บางครั้งก้โง่เกินเเต่บางครั้งก้เฉลียวฉลาดเกิน กลางๆบ้างก้ดี

    ReplyDelete
    Replies
    1. คนเขียนพยายามยัดเยียดให้มันดูตลก แต่ดันขัดกับตัวกริดในปัจจุบันที่พัฒนาขึ้นมาก จนไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแค่นี้ไม่ได้ หลังๆอ่านแล้วติดๆขัดไปหมด

      Delete
    2. กริดแม่งโคตรเถี่ยง ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ว่าบาเอลสนุกกับการมองดูคนอื่นทรมาน พอเถียงไม่ได้แม่งก็เปลี่ยนประเด็นอย่างไว

      Delete
    3. แล้วกริดมันมีหอสมุดที่ให้เฉพาะแรงค์1 แต่ดันไม่ใช้เลย คือโคตงง เหมือนกริดเติบโต แต่คนเขียนไม่ได้เติบโตด้วยอ่ะ ผลลัพธ์คือ กริดชอบกลับมาโง่เหมือนเดิม

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00