จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,104



เชย์ สนิฟเฟอร์ เคิร์บ


สามสหายผู้เล่น PK ชั่วร้าย พวกมันพยายามลอบทำร้ายกริดหนแล้วหนแล้ว แต่เรื่องน่าขบขันคือ กริดกลับชื่นชอบทั้งสามเป็นอย่างมาก


ต้องขอบคุณไอเท็มดรอปจากพวกมัน กริดจึงปราบเดรวิโก้ อดีตสันตะปาปาชั่วร้ายสำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้น การจ้างคาซิมลอบสังหารตนในวินสตัน ยังส่งผลให้คาซิมจดจำแหวนโดรันและเริ่มสนใจในตัวกริด และสุดท้าย สามสหายมีบทบาทอย่างมากในสงครามทะเลทรายกับจักรวรรดิ


ราวกับเป็นนกฟ้าคอยประทานโชค


ความบังเอิญอาจซ้อนทับกันจนยุ่งเหยิง แต่ผลลัพธ์สุดท้ายในเกือบทุกการกระทำของกลุ่มเชย์ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อกริดทั้งสิ้น


ยกเว้นเรื่องเดียว


การเผชิญหน้าแมรีโรส


กริดถูกปาร์ตี้เชย์หลอกล่อให้เข้าไปในดันเจี้ยนผนึกแมรีโรส และบังเอิญทำให้ผนึกหลับใหลของหล่อนคลายออกด้วยผ้าคลุมมาลาคัส จนถูกแมรีโรสหมายตาเข้านับแต่นั้น


กริดมองว่าเธอเป็น ‘อสูร’ ตนหนึ่ง


สุดยอดตัวตนเผ่าอสูรผู้มาพร้อมพลังเวทมนตร์มหาศาลเหนือจินตนาการ


คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ กับการถูกหมายตาโดยสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายถึงขนาดโบสถ์รีเบคก้ายังต้องลงทุนใช้ศาสตร์เทพผนึกไว้ในโลงศพ การถูกหล่อนเพ่งเล็งคงนำหายนะมาให้สักวัน


นั่นคือความเชื่อของกริดตลอดหลายปีก่อน


แต่ปัจจุบัน มันเริ่มเปลี่ยนมุมมอง


เผ่าอสูรไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด และมนุษย์สามารถเป็นมิตรกับแวมไพร์ได้ พวกมันมีความนึกคิดจิตใจ และเหนือสิ่งอื่นใด เทพธิดาแห่งแสงไม่ใช่ตัวตนบริสุทธิ์ผุดผ่องขนาดนั้น


ประสบการณ์มากมายได้ตกผลึกจนกริดมองโลกในแง่มุมแตกต่างจากผู้อื่น


“ฟุดฟิด! ฟุดฟิด! ฟุดฟิด!”


‘กลิ่น’ โหยหาตามคำบอกเล่าของแมรีโรส ไม่มีทางเป็นสิ่งอื่นนอกจากกลิ่นกายตนแน่นอน กริดเชื่อเช่นนั้น และผู้คนส่วนมากไม่ทราบเรื่องนี้


กริดพยายามดมรักแร้ตัวเองบ่อยครั้ง


‘แมรีโรสชื่นชอบเรา… หรือหล่อนจะมองว่าเราคือผู้มีพระคุณช่วยปลดปล่อยจากผนึก’


จากประสบการณ์เคยเผชิญหน้าแวมไพร์ทายาทหลายตน รวมถึงบราฮัมและโนลล์ ชายหนุ่มได้ตระหนักว่า พวกมันมีจิตใจบริสุทธิ์ซื่อตรงจนน่าทึ่ง


อาจเป็นภัยคุกคามกับมนุษย์เนื่องจากพวกมันปรารถนาดื่มเลือดสด แต่นั่นเป็นอิทธิพลจากธรรมชาติโดยกำเนิด ไม่ใช่จิตใจชั่วร้ายหรือเสียสติโดยเนื้อแท้


และอีกเหตุผลสำคัญคือ แวมไพร์ทายาทเป็นศัตรูกับฝ่ายชั่วร้ายอย่างเทพมารยาธาน และจอมอสูรตนอื่น


หลังจากเบริอาเช่ถูกขับไล่จากตำแหน่งจอมอสูร ถูกขับไล่ออกจากขุมนรก รวมถึงการใช้คำสาปเกียจคร้านใส่เผ่าพันธุ์แวมไพร์ทุกตน นับแต่นั้น แวมไพร์และจอมอสูรต่างเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาตลอด


กริดจึงมั่นใจ


‘ผิดจากความกังวลของเนเฟลิน่า ฝ่ายเราไม่มีทางได้รับอันตรายจากแมรีโรสแน่นอน หล่อนคงมองเราเป็นมิตรมากกว่า’


มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว


เพราะไม่อย่างนั้น หากแมรีโรสกลายเป็นศัตรูเข้าจริง อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คงไม่แคล้วถูกทำลายภายในสองสามวัน พลังเวทมนตร์ของเธอยอดเยี่ยมยิ่งกว่าจอมอสูรระดับหัวแถวเสียอีก


‘ดังนั้นมาเป็นเพื่อนกันเถอะ’


“กลิ่นเหงื่อเหม็นอับชะมัด นายไม่คิดไปอาบน้ำสักหน่อยหรือไง”


กริดตรงดิ่งกลับมายังห้องทำงานส่วนตัวทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการตีเหล็ก ส่งผลให้เหงื่อไคลยังชุ่มฉ่ำร่างกาย


มันถูกปลุกจากภวังค์ความคิดโดยเสียงใครบางคน ขณะกำลังใช้จมูกจ่อดมรักแร้ตัวเอง


เมื่อหันไปมอง ชายหนุ่มได้พบลอเอลกำลังยืนใช้มือบีบจมูก


กริดยักไหล่


“ถ้าฉันอาบน้ำล้างมันออกไป แมรีโรสคงไม่ได้กลิ่นกันพอดี”


“หืม… กลิ่นในความหมายของแมรีโรส จะใช่กลิ่นตัวฝ่าบาทจริงหรือ”


“…?”


“จำไม่ได้หรือไง ขณะปลุกเธอจากผนึกเมื่อหลายปีก่อน ฝ่าบาทกำลังสวมผ้าคลุมมาลาคัสไม่ใช่หรือ”


“…”


“ดังนั้น กลิ่นเลือดฉุนกึกจากผ้าคลุมคงกลบกลิ่นกายฝ่าบาทจนมิด หมายความว่า กลิ่นตามลำบอกเล่าของแมรีโรสคงมาจากผ้าคลุมมาลาคัสมากกว่า”


สมเหตุสมผล…


หมายความว่า ผู้มีพระคุณตัวจริงของแมรีโรสและได้รับความชื่นชอบจากเธอ คือผ้าคลุมมาลาคัส ไม่ใช่ตน


ขณะกริดกำลังกระวนกระวาย ลอเอลอมยิ้มอย่างมีเลศนัย


“ฝ่าบาทไม่ต้องคิดมาก เมื่อครู่แค่อำเล่น ฉันเดาว่าฝ่าบาทคงไม่เคยสวมผ้าคลุมมาลาคัสในตอนพบกับดาเมียนหรือเซ็ดนอส ฉะนั้น กลิ่นตัวตามความหมายของเธอคงเป็นกลิ่นกายฝ่าบาทนั่นแหละ”


“บ้าจริง! ทำเอาใจหายหมด ทำไมถึงล้อกันเล่นแบบนี้ ไม่สมกับเป็นนายเลยสักนิด”


“เพื่อปลูกฝังความระมัดระวัง จะได้ไม่มองแมรีโรสในด้านบวกขนาดนั้น”


“…?”


“ตัวตนของหล่อนยิ่งใหญ่เกินไป ฉันยังไม่มีวิธีรับมือ ดังนั้นฝ่าบาทไม่ควรเผชิญหน้าโดยตรงตอนนี้ บางทีเจตนาของหล่อนอาจไม่ได้งดงามขนาดนั้น”


ค่อนข้างน่าประหลาดใจ


กริดเคยคิดว่าลอเอลจะตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของแมรีโรสยิ่งกว่าใครทั้งหมด


“มองโลกในแง่ร้ายไปไหม ทั้งโนลล์และบราฮัมต่างก็เคยเป็นศัตรูมาก่อน แต่ภายหลังก็กลายเป็นพวกเดียวกัน ตรงข้ามกับแมรีโรส ถ้าเธอชื่นชอบฉันแต่แรก การจับมือเป็นมิตรย่อมเป็นเรื่องง่ายไม่ใช่หรือ”


“อย่าเอาโนลล์และบราฮัมมาเทียบ”


“…?”


“ทั้งสองล้วนแข็งแกร่ง แต่พวกเขามีปมทางใจและอารมณ์ไม่มั่นคง ต้องการมีค่าในสายตาใครสักคน กุญแจสำคัญคือความเอาใจใส่และความจริงใจของฝ่าบาท แต่สำหรับแมรีโรส เธอมีจุดอ่อนตรงไหนหรือ จากคำบอกเล่าของบราฮัม แมรีโรสคือตัวตนสมบูรณ์แบบ”


สมบูรณ์แบบหมายถึง ไม่มีช่องว่างทางจิตใจให้เล่นงาน เธอไม่ได้ต้องการความรัก


“สมมติฐานของฉันคือ เธอจดจำกลิ่นกายฝ่าบาทได้ด้วยเหตุผลไม่เกี่ยวกับความชื่นชอบ อาจเป็นความระแวงหรือสงสัยในบางเรื่องเสียมากกว่า เช่นกำลังระแวงว่า เพราะเหตุใดฝ่าบาทถึงไม่ต้องมนตร์สะกดของแวมไพร์ตั้งแต่แรกพบ หรืออะไรทำนองนั้น โดยไม่เกี่ยวกับบุญคุณช่วยปลุกให้ตื่นจากผนึก”


“…”


“และเมื่อความฉงนหายไป ความสนใจของหล่อนก็จะหมดลง อาจเลวร้ายถึงขั้นเปลี่ยนท่าทีกะทันหัน เช่นการเชือดฝ่าบาททิ้งอย่างโหดเหี้ยมและไม่ลังเล”


“ไม่สุดโต่งไปหน่อยหรือ”


“อ้างอิงจากคำบอกเล่าของเซ็ดนอส หล่อนทำร้ายคนสนิทอย่างมาร์ควิสเฟนเรียร์ด้วยสีหน้าเลือดเย็น แมรีโรสอาจไม่เคยมองผู้อื่นมีคุณค่าในสายตาเลยสักครั้ง เป็นสิ่งมีชีวิตเพศหญิงป่าเถื่อนและไร้จิตสำนึกของแท้”


“…”


“อย่าปล่อยให้ความงามของหล่อนครอบงำ จงคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เธอไม่เหมือนกับแวมไพร์ตนใดเลยในความทรงจำของฝ่าบาท ห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด ฝ่าบาทอาจไม่ได้โชคดีเสมอไป”


โชค


คำคำนี้แทงใจดำกริดอย่างมาก


มันปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้รู้จักบราฮัมและโนลล์ล้วนมีอิทธิพลมาจากโชคทั้งสิ้น


“เข้าใจแล้ว”


หลังจากพยักหน้า กริดลุกจากเก้าอี้พลางเดินไปทางห้องอาบน้ำ ชายหนุ่มใช้สบู่ขัดทุกซอกมุมร่างกายอย่างหมดจด จากนั้นก็ล้างน้ำซ้ำอีกหลายหน จนกระทั่งกลิ่นสาบร่างกายหายเป็นปลิดทิ้ง


อย่างไรก็ตาม สีหน้าลอเอลยังคงดำมืด


“เป้าหมายของแมรีโรสคือ การเดินทางไปพบเอลฟ์ในผืนป่า”


มันไม่คิดว่าการเผชิญหน้ากับเอลฟ์ในหนนี้ของแมรีโรสจะเต็มไปด้วยมิตรภาพ เพราะแรกเริ่มเดิมที เผ่าอสูรอย่างแวมไพร์ก็ไม่เป็นมิตรกับเผ่ารักธรรมชาติอย่างเอลฟ์อยู่แล้ว มีโอกาสสูงมาก ว่าแมรีโรสจะเข้าป่าเพื่อทำลายเอลฟ์ให้สิ้นซาก


‘ยอมไม่ได้เด็ดขาด!’


ลอเอลมองเอลฟ์เป็นเครื่องมือทางการเมืองชั้นยอด มันยินดีอย่างมากเมื่อทราบว่า เผ่าเอลฟ์ยอมละเว้นผืนป่าของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และจักรวรรดิ แต่ยึดครองผืนป่าอาณาจักรอื่นจนราบคาบ


แต่แมรีโรสกลับคิดทำให้สิ่งเหล่านั้นหายไป


ลอเอลสวดอ้อนวอนจากก้นบึ้งจิตใจ


‘ถ้ามีจอมอสูรสักตนปรากฏตัวก็คงดี!’


ขอให้เป็นจอมอสูรลำดับสูง ทรงพลังพอจะเบี่ยงเบนความสนใจจากแมรีโรสได้


***


[ได้รับความเสียหายรุนแรง]


[ท่านเสียชีวิต]


[ในฐานะสิ่งมีชีวิตระดับสูงของเผ่าอสูร ท่านอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ความตาย]


[พลังชีวิตกลายเป็นค่าต่ำสุด ท่านยังไม่ตายในทันที เผ่าพันธุ์ถูกเปลี่ยนเป็นอันเดด]


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[กระดูกแขนขวาหัก!]


“บัดซบ…!”


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[กระดูกข้อเท้าซ้ายหัก!]


“บัดซบ!!”


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[กระดูกต้นคอหัก!]


“โธ่เว่ย…!!”


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[กะโหลกแตก!]


สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อันเดดอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์แห่งชีวิตก็จริง แต่มาพร้อมจุดอ่อนใหญ่หลวงหลายด้าน โดยเฉพาะความเปราะบางของร่างกาย


ขีดจำกัดสำหรับรับแรงกระแทกต่ำมาก


[ร่างกายของท่านเสียหายโดยสมบูรณ์จนไม่สามารถขยับได้]


[ดวงวิญญาณของท่านถูกโอนถ่ายยังไปร่างใหม่ ณ ดินแดนของบาเอล]


[ระหว่างการโอนถ่าย ดวงวิญญาณได้รับความเสียหายสถานหนัก]


[สูญเสียค่าประสบการณ์ 38.1%]


[สูญเสียไอเท็ม ‘ผ้าคลุมโศกเศร้า’]


“บัดซบ!!”


มันเสียชีวิตทุกวันติดต่อกัน เป็นเช่นนี้มาแล้ว4 วันรวด โดยเฉพาะเมื่อวาน แอ็กนัสตายสองรอบซ้อนจนถูกระงับการออนไลน์ชั่วคราว


และวันนี้คงไม่ต่าง มันทราบดี แต่มิอาจถอดใจยอมแพ้


เมื่อลืมตาตื่นขึ้นด้วยร่างกายใหม่ แอ็กนัสรีบวิ่งออกจากห้องฟักไข่และเตรียมเปิดประตูห้วงมิติเพื่อกลับไปยังคืนชีพในฐานะมนุษย์


“น่าสมเพช ท่านมหาบาเอลอุตส่าห์มอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้เจ้า แต่กลับไม่สามารถฆ่าเอลฟ์หนึ่งตนได้ ธรรมชาติอ่อนแอของมนุษย์ยังไม่เลือนหายไปสินะ”


เสียงเย้ยหยันจากใครบางคนดังแว่ว


หมับ!


แอ็กนัสกำหมัดแน่นพร้อมกับหันไปมองด้านหลัง มันได้พบ ‘กบ’ ตัวใหญ่สวมมงกุฎ กำลังจ้องมองมาอย่างไม่กะพริบ รูปลักษณ์ของชวนขบขันไม่น้อย


แต่ชื่อเหนือศีรษะเขียนด้วยอักษรสีดำสนิท


<เซพาเดีย>


“มอบพลังอันยิ่งใหญ่? เอาแต่ออกคำสั่งเหลวไหลโดยไม่เคยมอบพลังอะไรให้สักครั้ง!”


เซพาเดียคือหนึ่งในสี่ราชันของบาเอล เป็นตัวตนระดับสูงของขุมนรก สามารถบดขยี้แอ็กนัสได้นับพันครั้งตามใจชอบ


อย่างไรก็ตาม แอ็กนัสมีนิสัยโอหัง ไม่หวาดกลัวสิ่งใดในโลก มันแผดเสียงตวาดเซพาเดียโดยไม่เกรงกลัว


เซพาเดียมิได้ถือสาความก้าวร้าว เพียงแลบลิ้นเข้าออกและยุบพองตัวประหนึ่งไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น


“เพราะเจ้ายังอ่อนแอ ผู้ทำพันธสัญญากับท่านบาเอลคนก่อนได้รับสุดยอดวิชาดาบ ได้รับเวทมนตร์มหาศาล และได้รับสติปัญญาอันเฉียบแหลมสำหรับมองทะลุทุกสิ่ง แต่ร่างกายของเจ้ายังไม่สามารถรับพรอันยิ่งใหญ่ของท่านบาเอลได้ในขณะนี้”


“หุบปาก! ฉันเหม็นกลิ่นคาว!”


ตอนนี้ไม่ใช่เวลามัวทะเลาะกับกบ ต้องรีบกลับไปท้าดวลดาร์คเอลฟ์อีกหน เพราะหากพลาดโอกาส การไล่ตามเบาะแสรอบถัดไปคงไม่ง่ายอีกแล้ว


ขณะแอ็กนัสเมินเฉยเซพาเดียและกำลังย่างกรายไปทางประตูมิติ


พรวด!


ลิ้นยาวเหยียดและเหม็นคาวของเซพาเดียยื่นออกมาหยุดหน้าจมูกแอ็กนัส ปลายลิ้นรัดม้วนหนังสือโบราณไว้หนึ่งเล่ม


“หนังสือแห่งความเกียจคร้าน”


“…?”


“ทายาทผู้ถูกขับไล่ตัวแสบกำลังจะเข้าใกล้เจ้าในอีกไม่ช้า หากเปิดหนังสือเล่มนี้อ่าน พวกมันจะกลับไปนอนในโลงศพทันที”


“ทายาทผู้ถูกขับไล่?”


“แวมไพร์ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะถูกเอลฟ์ย่ำยีสักแค่ไหน แต่เจ้าห้ามปล่อยให้พวกแวมไพร์ชั้นต่ำดูแคลนท่านบาเอลเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่”


“ฮึ่ม!”


แอ็กนัสพ่นลมหายใจฉุนเฉียว แต่ก็เต็มใจรับหนังสือแห่งความเกียจคร้านไว้


แม้ไม่ชอบกบ แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธของฟรีจากมัน


***


ผู้เล่นฝ่ายวิหารยาธานทุกคนได้รับภารกิจใหม่อย่างพร้อมหน้า เนื้อหาเกี่ยวกับการผนึกแวมไพร์เคาต์เทส แมรีโรส ให้กลับไปนอนในโลงศพอีกครั้ง


ถึงภารกิจจะมีความยากระดับ SSS+ แต่สมาชิกผู้เล่นฝ่ายวิหารยาธานก็มีไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน สีหน้าสาวกยาธานมิได้เคร่งเครียด พวกมันเดินทางไปทำภารกิจอย่างสบายใจ


ทุกคนเชื่อมั่น ไม่ว่าภารกิจจะมีระดับความยากเพียงใด แต่คงไม่มีทางล้มเหลวหากผู้เล่นกว่า 5 ล้านผนึกกำลังร่วมมือกัน


“แวมไพร์เป็นเผ่าอสูรใช่ไหม ถ้าจำไม่ผิด พวกมันเป็นศัตรูกับโบสถ์รีเบคก้า ในเมื่อศัตรูของศัตรูคือมิตร หมายความว่า เราก็ควรเป็นพวกเดียวกับแวมไพร์ไม่ใช่หรือ เหตุใดต้องผนึกหล่อนกลับเข้าไปใหม่”


จอมเวทมืดอันดับหนึ่งของโลก


ข้ารับใช้ยาธานลำดับ 8


ผู้เล่น ‘โรส’ หลังจากประสบความสำเร็จในการอัญเชิญจอมอสูรและได้รับกำไรเป็นกอบเป็นกำ เธอกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นทรงพลังของโลกเต็มตัว


นอกเหนือจากอัจฉริยะทั้งห้า รวมถึงราชาโอเวอร์เกียร์กริด ไม่มีใครในโลกสามารถเอาชนะโรสได้อีก


ผู้ตอบคำถามของโรสคือ ‘โฟรโด้’ ข้ารับใช้ยาธานลำดับสี่ ทั้งสองร่วมทางมาด้วยกัน


มันรับตำแหน่งลำดับสี่ต่อจาก ‘ซิลเวนัส’ หล่อนเสียชีวิตในเหตุการณ์บุกถล่มวาติกันเมื่อหลายปีก่อน โฟรโด้แข็งแกร่งกว่าซิลเวนัสผู้พ่ายแพ้ต่อแอ็กนัสมาก


“แวมไพร์คือทายาทเบริอาเช่ผู้ถูกขับไล่ พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ทรงพลัง แถมยังเกลียดชังท่านเทพมารยาธาน การตัดสินใจของท่านผู้นำในคราวนี้ถูกต้องแล้ว”


“อย่างไรก็ตาม ถึงพวกเราไม่ลงมือ แต่โบสถ์รีเบคก้าก็คงไม่ปล่อยไว้ไม่ใช่หรือ เดี๋ยวก็คงนำสามศาสตราเทพมาผนึกเหมือนในอดีต”


“สันตะปาปาคนปัจจุบันของโบสถ์ ถ้าไม่มีหน่วยเทมพลาคอยหนุนหลัง มันก็ไม่ต่างอะไรกับไอ้งั่งคนหนึ่ง ไม่มีพลังพอจะผนึกแมรีโรส”


“…?”


ฝ่ายไหนกันแน่เป็นไอ้งั่ง…


ไม่ใช่ฝ่ายต้องเผชิญหน้ากับแมรีโรสโดยตรงอย่างพวกเราหรอกหรือ


‘หรือหายนะในคำทำนายจะรวมถึงการล่มสลายของฝ่ายวิหารยาธานด้วย…’


โรสผุดคำถามใหม่


เมื่อเคลือบแคลงเช่นนี้ เธอต้องการถอนตัวจากแนวหน้าทันที แต่น่าเสียดาย โรสฉุกคิดช้าเกินไป เธอย่างกรายเข้ามาในผืนป่าพร้อมกับสาวกคนอื่นเรียบร้อย


“ลุยกันเลย”


โฟรโด้เริ่มปลุกระดมฝ่ายผู้เล่นและโรส


ทันใดนั้น


“ห้ามผ่าน!”


อัศวินสวมเกราะแดงกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขวางทางฝ่ายสาวกยาธานไว้ ไม่มีใครไม่ทราบตัวตนของบุคคลเหล่านี้


“อัศวินสีชาด?”


อัศวินของจักรวรรดิซาฮารัน มาทำอะไรในผืนป่าอาณาจักรเก๊าส์กันแน่ แววตาเหล่าสาวกยาธานทุกคนต่างอัดแน่นด้วยความสับสน


“ถ้าขยับเข้ามาใกล้อีกก้าวเดียว ฉันจะตัดสินให้พวกนายเป็นศัตรูและฆ่าทิ้งทั้งหมด”


อีกหนึ่งตัวตนเหนือความคาดหมายปรากฏกายใจกลางกลุ่มอัศวินสีชาด


มันคือผู้เล่น ชื่อตัวละครเหนือศีรษะคือ


<ซีบาล>


หนึ่งในห้าผู้เล่นพรสวรรค์สำหรับโรส เธอประเมินให้ซีบาลเหนือกว่าตนเล็กน้อย และยังเป็นเจ้าของจักรกลเวทมนตร์ทรงพลัง


“ทำไมนายถึง…?”


“เจ้านายใหม่ของฉันกำลังต้อนรับแขกผู้มีเกียรติในป่า คงให้ใครเข้าไปรบกวนไม่ได้”


มันไม่ได้กล่าวออกไปว่าเจ้านายใหม่ของตนคือแกรนมาสเตอร์


ไล่ตั้งแต่โบสถ์รีเบคก้า วิหารยาธาร สี่ราชันของบาเอล รวมถึงแกรนมาสเตอร์ การปรากฏตัวของแมรีโรสได้ส่งผลกระทบต่อโลกกึ่งกลางเป็นวงกว้าง


แน่นอน ด้านกริดก็เช่นกัน…


“ฝ่าบาท วันนี้กลิ่นน้ำหอมของท่านไม่ฉุนไปหน่อยหรือคะ เหมือนกับพยายามกลบเกลื่อนกลิ่นกายหญิงอื่น”


“ไอรีน อย่าเข้าใจผมผิด สิ่งนี้จำเป็นมาก”


“ฝ่าบาทเข้าใจผิดแล้ว ดิฉันมิได้หึงหวง เพียงแค่จะบอกว่า ต่อให้ฝ่าบาทมีภรรยารองสักพันคน ดิฉันก็ยินดีสนับสนุนเคียงข้าง…”


“ไม่มีทาง ผมทำมันได้แค่เดือนละครั้ง เรื่องพันคนย่อมหมดสิทธิ์— หือ? ไอรีน? คุณกำลังจะไปไหน! ไอรีนกลับมาก่อน!!”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,493
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. กริดดดพูดอย่างงั้นกับเมียตัวเองไม่ได้นะ 55555555
    ปล.ขอบคุณสำหรับงานแปลนะครับ

    ReplyDelete
  2. เย้ อ่านทันซักที

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณ​มาก​ครับ​

    ReplyDelete
  4. 555 ดีไม่โดนต่อย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00