จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,006



ว่ากันว่า ชายแดนเรย์ดันฝั่งจักรวรรดิคือประตูสู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ทางโอเวอร์เกียร์จึงไม่ยอมปล่อยให้ทัพจักรวรรดิทะลวงผ่านด้วยประการทั้งปวง ทหารกล้าที่ประจำการเรย์ดันล้วนสวมเซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมากคุณภาพสูง แถมยังมีท็อปแรงเกอร์ของกิลด์อีกหลายคนคอยยันไว้


ด้วยเหตุนี้ ทัพจักรวรรดิจึงถูกตรึงที่ทะเลทรายมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว


สำหรับทหารจักรวรรดิที่ต้องสู้อยู่เหน็ดเหนื่อยกลางทะเลทราย ยอดหอคอยปราสาทเรย์ดันที่อยู่ห่างออกไปนั้นเป็นราวกับภาพลวงตาที่ไม่มีอยู่จริง


จนกระทั่งวันหนึ่ง ข่าวดีได้แว่วถึงหูพวกมัน ขวัญกำลังใจทัพจักรวรรดิพลันเพิ่มพูนฮึกเหิม


“ศัตรูล่าถอยแล้ว!”


“เฮ—!!”


นับเป็นข่าวที่น่ายินดียิ่ง


ทะเลทราย—ดินแดนที่เป็นราวกับขุมนรกสำหรับทหารเดินเท้าจักรวรรดิ


อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่ชิงความได้เปรียบตลอดหนึ่งเดือนเต็ม เริ่มถอยทัพเป็นหนแรก


“พวกเราต้องรีบเคลื่อนทัพผ่านทะเลทราย!”


“บุกไปให้ถึงปราสาทเรย์ดัน!”


ณ ศูนย์บัญชาการแนวรบชายแดน


ขุนนางระดับสูงต่างแสดงท่าทีตื่นเต้นหลังจากได้รับข่าวน่ายินดี


ทว่า สีหน้าแม่ทัพจักรวรรดิ—ฟูลบาจ ยังคงเรียบเฉย มิได้สนใจความฮือฮาเหมือนคนอื่น มันหันไปปรึกษากับเหล่ากุนซือ


“ทะเลทรายเป็นเวทีที่พวกมันได้เปรียบมาก แล้วทำไมถึงคิดถอย? น่าแปลกมาก… ต้องมีกับดักรออยู่แน่”


“ขอรับ พวกมันคงเตรียมกับดักไว้”


“อาจเป็นการล่อให้ไปในจุดที่มีหนอนยักษ์ทะเลทรายจำนวนมาก”


“น้ำในโอเอซิสอาจถูกวางยาพิษ”


“อาจเป็นการซุ่มโจมตีในจุดที่ทรายลาดชันมาก”


“แต่พวกเราต้องข้ามทะเลทราย เพราะถ้าไม่ข้าม เรย์ดันก็ไม่มีวันถูกยึดครอง”


“ถ้าระวังตัวให้มากพอระหว่างเคลื่อนทัพ ทั้งกับดักและการซุ่มโจมตีคงทำอะไรพวกเราไม่ได้”


เหล่ากุนซือและนายกองต่างช่วยกันออกความเห็น อาจมีกับดักอยู่มากก็จริง แต่พวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเคลื่อนพล


“ต้องสั่งให้ทหารรีบเคลื่อนทัพด้วยความเร็วสูงสุด ฝ่ายโอเวอร์เกียร์อาจถอยกลับเพียงเพราะอ่อนล้าก็ได้”


“ใช่แล้ว ต้องทำเวลา”


หากต้องการชนะ ความเสี่ยงคือสิ่งที่ต้องแบกรับ เหล่ากุนซือและฟูลบาจพยักหน้าพร้อมเพรียง


จักรวรรดิมีทหารจำนวนมาก หน่วยสนับสนุนหน้าใหม่เดินทางมาถึงค่ายพักทุกวัน อาการอ่อนล้าฝั่งจักรวรรดิจึงแทบไม่เกิดขึ้น


แต่กลับกัน ฝ่ายโอเวอร์เกียร์นั้นไม่ใช่ พวกมันมีทหารเพียงหยิบมือ และคงถึงขีดจำกัดความอ่อนล้าแล้ว


เค้าลางแห่งชัยชนะเริ่มปรากฏ


“ออกคำสั่งให้ทหารทุกนายเคลื่อนพลประชิดเมืองศัตรูด้วยความเร็วสูงสุด!”


“ขอรับ!”


“โอ้ส!”


ปัจจุบัน กองทัพจักรวรรดิมีจำนวนมากถึง 250,000 นาย ตามปรกติแล้วยิ่งสงครามยืดเยื้อ ทหารจะยิ่งเหน็ดเหนื่อยและล้มตาย ทว่า ฝ่ายจักรวรรดิกลับเพิ่มจำนวนทุกขณะเพราะมีทัพหนุนในทุกวัน


เทียบกับเรย์ดันที่มีกำลังรบ 80,000 นาย โอกาสชนะเหลือเพียงริบหรี่เต็มที่


“เฮ—!!”


หลังจากแม่ทัพจะโกนปลุกใจ ขวัญกองทัพจักรวรรดิพลันฮึกเหิม ทุกย่างก้าวเปี่ยมด้วยความดุดัน ไม่สนว่าพื้นผิวจะเป็นทะเลทรายที่เคยทำให้เท้าระบม


จุดตั้งค่ายของกองทัพฝ่ายโอเวอร์เกียร์หายไปโดยสมบูรณ์จนยากจะเชื่อว่าเคยสู้รบกันจนถึงเมื่อวาน


กองทัพจักรวรรดิเคลื่อนพลผ่านไปอย่างไม่ยากเย็นนัก พวกมันไม่หยุดขยับเท้า เป้าหมายคือยอดหอคอยสูงตระหง่านของปราสาทเรย์ดัน


โฮกกกกก!!


แน่นอน การเดินทัพมิได้ราบเรียบเสียทีเดียว หนอนยักษ์โผล่ขึ้นจากผืนทรายเป็นระยะ ระหว่างทางมีทหารถูกฆ่าไปหลายร้อย


ไม่เพียงเท่านั้น น้ำในโอเอซิสยังเจือพิษปริมาณเข้มข้นจนไม่สามารถดื่มกิน เสบียงจึงไม่ถูกเติมจนกว่าหน่วยเสบียงด้านหลังจะตามทัน ส่งผลความเร็วในการเคลื่อนทัพเริ่มช้าลงทีละนิด


“พวกโบสถ์รีเบคก้าบ่ายเบี่ยงอีกแล้ว”


ฟูลบาจส่ายศีรษะ


สาเหตุหลักที่จักรวรรดิทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสนับสนุนโบสถ์รีเบคก้านานหลายร้อยปีคืออะไร?


ภายนอกอาจเป็นการแสดงศรัทธาที่มีต่อเทพธิดาแห่งแสง แต่ลึกๆ นั้นต้องการพลังศักดิ์สิทธิ์ที่โบสถ์ครอบครอง


ในยามสงคราม จะมีพลังใดจำเป็นไปกว่า ‘ฮีล’ และ ‘ล้างคำสาป’ อีกบ้าง?


พลังรักษาของโบสถ์คือสิ่งที่กองทัพทั่วทวีปปรารถนา หากมีนักบวชระดับสูงอยู่ในหน่วย อัตราการสูญเสียจะลดลงจากเดิมหลายเท่าตัว


ทว่า โบสถ์รีเบคก้ากลับปฏิเสธคำขอร้องของจักรพรรดิโดยใช้ข้ออ้างที่ว่า—กำลังทำสงครามเต็มรูปแบบกับวิหารยาธาน


จักรวรรดิล้วนทราบดี สาเหตุสำคัญที่สันตะปาปาดาเมี่ยนบ่ายเบี่ยงการแทรกแซงสงครามก็เพราะ—มันมีสายสัมพันธ์อันดีกับราชาโอเวอร์เกียร์


‘ความล้มเหลวของปาสคาลส่งผลขนาดนี้เชียว…’


ช่างน่าเสียดายนัก


นับว่าเป็นการเดินหมากที่พลาดมหันต์เมื่อจักรวรรดิปล่อยให้โบสถ์รีเบคก้าหลุดมือไป


‘องค์จักรพรรดิจะเฉื่อยชาเกินไปแล้ว’


การสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดินีอาเรีย รวมถึงการทรยศของปิอาโร่ สองสิ่งนี้ได้สร้างรูโหว่ที่มิอาจเติมเต็มให้กับจักรวรรดิซาฮารัน


“มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล”


“…?”


ขณะฟูลบาจตัดพ้อเรื่องปัญหาภายใน กุนซือที่ปรึกษาด้านหลังกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก


“หน่วยสอดแนมขาดการติดต่อนานแล้ว”


“…!”


ค่ำคืนคืบคลานใกล้เข้ามาทุกขณะ


ยิ่งความมืดมิดปกคลุม ทะเลทรายร้อนระอุจะยิ่งเปลี่ยนเป็นดินแดนขั้วโลกเหนืออันเย็นยะเยียบ ไม่ว่าอย่างไร พวกมันก็ต้องเร่งฝีเท้าให้ถึงจุดตั้งค่ายโดยไว


ทว่า ภายใต้สถานการณ์บีบคั้นเช่นนี้ หน่วยสอดแนมกลับขาดการติดต่อ?


“สั่งหยดทัพก่อน ส่งหน่วยสอดแนมชุดใหม่ออกไป”


“ขอรับ!”


หน่วยสำรวจชุดใหม่ 100 นายถูกที่ถูกเลือกเฟ้นโดยนายกอง พวกมันรีบขึ้นหลังม้าและควบออกไปจากขบวนทัพ


หน้าที่หลักของหน่วยสำรวจคือการรีบกลับมารายงาน หากมีกับดักหรืออันตรายกีดขวางทางเส้นทางเคลื่อนทัพหลักไว้


ทว่า รายงานไม่กลับมาถึงอีกเช่นเคย


ทหารม้าหนึ่งร้อยนายหายไปราวกับภูตผี


“เตรียมทำศึก!”


เมื่อฟูลบาจตระหนักถึงภัยอันตราย กองทัพกว่า 250,000 นายพลันตั้งขบวนรบอย่างขยันขันแข็ง


ทะเลทรายเย็นยะเยียบยามค่ำคืน


ความตึงเครียดของทหารเริ่มเพิ่มขึ้นทุกขณะ กล้ามเนื้อบิดเกร็งเป็นเวลานานจนเกิดอาการล้า ฝ่ามือสั่นระริก ด้ามอาวุธถูกกำบีบอย่างไม่มั่นคง


หลังจากเวลาผ่านไปนาน ทะเลทรายยังคงเงียบงันเช่นเดิม


ไม่มีสัญญาณศัตรูบุก ไม่มีแม้กระทั่งเสียงร้องของสัตว์ป่าหรือมอนสเตอร์


“…”


เมื่อความเงียบงันผ่านไปนาน ความตึงเครียดและระมัดระวังของทหารก็เริ่มลดลง


ทันใดนั้น


บึ้มม—


“…!?”


เกิดระเบิดดังสนั่นจากจุดใจกลางขบวนรบ


ผืนปฐพีสั่นไหว เม็ดทรายเย็นเฉียบบนพื้นเริ่มกระเพื่อม


ฟูลบาจและเหล่าทหารต่างหันไปมองยังจุดเกิดระเบิด สีหน้าทุกคนพลันงงงวยกับสิ่งที่ได้พบเห็น


“เด็ก?”


อายุราวสิบสามขวบ


หลังจากฝุ่นควันคลุ้งสลายไป เด็กหนุ่มใบหน้างดงามปรากฏตัวจากใต้ดิน แววตาของมันโอหังและเย้ยหยันไม่สมวัยเลยสักนิด


“เรารอเวลานี้มานานแล้ว”


“…!”


ทันทีที่มาร์ควิสฟูลบาจเหลือบเห็นเขี้ยวยาวสีขาวในปาก สีหน้าของมันพลันหวาดผวาสุดขีด


เขี้ยวขาวงดงาม


ดวงตาจ้องมองมนุษย์ราวกับแมลงชั้นต่ำ


เด็กคนนี้ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน


“แวมไพร์…!”


เผ่าอสูรที่ถูกขับไล่จากขุมนรก


แน่นอน จักรวรรดิย่อมทราบว่ามีรังแวมไพร์รอบทะเลทรายเรย์ดันหลายแห่ง


ทว่า แวมไพร์ทุกตนล้วนถูกคำสาปสุดทรงพลังจากเทพชั่วร้ายยาธาน—คำสาปเกียจคร้าน


ชีวิตส่วนใหญ่ของแวมไพร์จึงหมดไปกับการหลับใหล แทบไม่เคยมีข่าวออกอาละวาดบนโลกมนุษย์ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา


เช่นนั้นแล้ว เด็กคนนี้คือแวมไพร์จริงหรือ?


ถ้าจริง มันใช้วิธีใดเอาชนะคำสาปและปรากฏตัวบนโลกมนุษย์?


ขณะคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวฟูลบาจ นายกองคนอื่นกำลังจัดกระบวนทัพล้อมเด็กชายคนดังกล่าวอย่างว่องไวและเป็นระเบียบ


แถวหน้าสุดคือทัพโล่ที่ปิดล้อมทุกทิศทางแน่นหนาหลายชั้น แถวถัดมาเป็นทัพหอกและพลธนูตามลำดับ ศาสตราทุกชนิดกำลังเล็งจ่อไปยังเด็กชายกึ่งกลางเป็นเป้าเดียว


ไม่ว่าเผ่าแวมไพร์จะทรงพลังเพียงใด


หรือต่อให้เป็นถึงแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ ก็ไม่มีทางคุกคามกองทัพ 250,000 ตามลำพังได้แน่


“ฆ่ามัน! จงสำแดงพลังของจักรวรรดิให้อสูรนอกรีต,นอกรีตนอกรอยตนนี้ได้เห็น! โทษฐานที่บังอาจปรากฏตัวบนโลกมนุษย์อย่างไม่รู้กาลเทศะ!”


แม่ทัพตะโกนบัญชาอย่างฮึกเหิม ขวัญกำลังใจทหารเป็นไปอย่างดีเยี่ยม


แทนที่จะหวาดกลัวเมื่อเผชิญกับแวมไพร์ พวกมันกระหน่ำยิงธนูแทงหอกโดยปราศจากความลังเล


นายกองทุกหน่วยออกคำสั่งที่ละเอียดซับซ้อนอย่างแข็งขัน แวมไพร์เด็กหนุ่มมีชะตากรรมต้องร่างพรุนไม่ต่างจากตัวแม่นแน่นอน


ทว่า สีหน้าของมันมิได้เจือความหวาดกลัว


ตรงกันข้าม แวมไพร์กำลังแสยะยิ้ม


เป็นท่าทีของการเย้ยหยัน หากสังเกตโดยละเอียดจะเห็นว่าเกือบหลุดหัวเราะ


“พวกมดปลวก”


บึ้มมม—


มวลพลังเวทปริมาณมหาศาลระเบิดกระจายโดยมีเด็กชายเป็นศูนย์กลาง


เวทโลหิตสีแดงฉานสุดทรงพลังเริ่มแผ่ขยายกลืนกินความมืดมิดของท้องฟ้ายามราตรี


พลังอสูรแผ่ขยายเป็นวงกว้างทั่วผืนทะเลทราย คมหอกและฝนธนูถูกกัดกร่อนจนละลายหายในพริบตา มวลประชาทหารจักรวรรดิมีอันต้องเผชิญหายนะ


“อ๊ากกกก!!”


“อ…อี๋ย!!”


เสียงร้องทหารหลายแสนดังสะท้อนกังวานไม่จบสิ้นประหนึ่งชั่วนิรันดร์


เวทโลหิตกัดกินอาวุธชุดเกราะไปพร้อมกับผิวหนังของทหาร เลือดในกายจะถูกใช้เป็นพลังหล่อเลี้ยงให้เวทมนตร์แผ่ขยายต่อเนื่อง


“อ…อะไรกัน!”


ใบหน้าแม่ทัพพลันขาวซีดเมื่อได้เห็นทหารคนแล้วคนเล่าถูกสูบชีวิตจนร่างกายเหือดแห้งราวกับมัมมี่ไม่ได้พันผ้า


ทหารกล้าที่ถูกฝึกอย่างหนักตลอดหลายปี พวกมันไม่มีโอกาสได้กวัดแกว่งอาวุธแม้แต่ครั้งเดียว ความตายในพริบตามาเยือนอย่างมิอาจขัดขืน คนที่ยังมีชีวิตรอดต่างพากันหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ


ขุนนางบางคนตะโกนขึ้น


“นั่นไม่ใช่แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์…!”


“…?”


แล้วจะเป็นอะไรได้อีก?


แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์คือแวมไพร์ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ทายาทของเบริอาเช่สร้างขึ้นไม่ใช่รึไง?


หรือจะบอกว่าไม่ใช่?


“…!”


ใครบางคนพลันหน้าซีดหลังจากเริ่มตระหนักบางสิ่งได้


แวมไพร์ทายาท


สมัยอดีต เคยมีข่าวลือที่ว่า ‘แมรี่โรส’ คือภัยพิบัติอันดับหนึ่งที่คุกคามการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ความคิดเช่นนี้กำลังแล่นอยู่ในหัวพวกมัน


“ไม่ผิดแน่!!”


ความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจกำลังแผ่ปกคลุมบรรยากาศกองทัพกว่าสองแสนของจักรวรรดิ


“แกเป็นใครกัน?”


มาร์ควิสฟูลบาจคำรามถาม


ทันใดนั้น


“เราน่ะหรือ?”


แวมไพร์เด็กชายใช้มือเสยผมสีเงินระยิบระยับพลางตอบกลับ


“เป็นเอิร์ลน่ะ”


“เอิร์ล…!”


จากบรรดาแวมไพร์เกลื่อนกลาด มีเพียงสิบตนเท่านั้นที่เรียกแทนตนเองด้วยบรรดาศักดิ์ขุนนางระดับสูง


แวมไพร์ทายาย


ใช่แล้ว เด็กชายตรงหน้าเหมือนกับแมรี่โรส


ภัยพิบัติของมวลมนุษย์


แล้วเหตุใด สัตว์ประหลาดตนนี้ถึงหลุดพ้นจากคำสาปเกียจคร้านอันทรงพลังได้?


แล้วเหตุใดถึงปรากฏตัวเพื่อขัดขวางการเคลื่อนทัพอย่างเหมาะเจาะเช่นนี้?


ขณะคำถามมากมายถาโถมฟูลบาจผู้กำลังมีใบหน้าขาวซีด ร่างกายมันกำลังสั่นระริกอย่างหยุดไม่ได้


“เราคือเอิร์ลของราชาโอเวอร์เกียร์… ได้รับอนุญาตให้เล่นสนุกได้เต็มที่”


“…!”


“…?!”


เมื่อสิ้นประโยคแนะนำตัว กองทัพจักรวรรดิหลายแสนรวมถึงบรรดาขุนนางและมาร์ควิสฟูลบาจ พวกมันต่างอ้าปากค้างไม่ยอมหุบ


เอิร์ลของราชาโอเวอร์เกียร์?


เป็นประโยคที่มิอาจทำความเข้าใจได้


ขณะความวุ่นวายเริ่มปะทุถึงขีดจำกัด


“ท…ท่านมาควิสขอรับ!”


รายงานที่ไม่อยากได้ยินกำลังพรั่งพรูจากปากหน่วยข่าวอย่างไม่ขาดสาย


“แม่ทัพม้าที่สอง ไวเคาต์เดลลัวถูกลอบสังหารแล้วครับ!”


“แม่ทัพยานเกราะที่หนึ่ง เอิร์ลคอลลิน่า ถูกลอบสังหารแล้วครับ!”


“รองแม่ทัพสามคนถูกสังหารลอบแล้วครับ!”


“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!?”


***


ทันทีที่แวมไพร์ทายาทปรากฏตัว กองทัพจักรวรรดิได้เกิดการระส่ำระสายหนัก ปาร์ตี้ของเชย์ย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย


เป็นเวลากว่าสิบวันแล้วที่ปาร์ตี้พวกมันซุ่มซ่อนเพื่อรอลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในกองทัพศัตรู


นับเป็นงานลอบสังหารที่โหดหินมาก


ต้องเก่งขนาดไหนถึงแฝงตัวในกองทัพศัตรูได้นานกว่าสิบวันโดยไม่ถูกตรวจพบ?


เป็นงานที่ยากเหนือคำบรรยาย มีหลายต่อหลายครั้งที่พวกมันเฉียดเข้าใกล้ความฉิบหายซึ่งห่างเพียงเอื้อมมือ


เชย์เครียดจนผมแทบร่วงในตอนที่เกือบถูกทหารจับได้ว่าปลอมตัวมา ทุกคืนวันผ่านไปอย่างกดดันและทรมาน


“แต่พวกเราก็ผ่านมาได้”


“ใช่แล้ว! สนุกฉิบ! ไม่ได้ทำภารกิจลอบสังหารที่ตื่นเต้นขนาดนี้นานแค่ไหนแล้วนะ”


“แถมค่าประสบการณ์ทักษะยังเพิ่มขึ้นมากด้วย


“…ชิ”


ปาร์ตี้เชย์ยังคงตัวปลอมตัวเป็นทหารและแฝงปะปนอยู่ภายในกองทัพจักรวรรดิ


เมื่อตระหนักว่ากำลังจะได้รับอิสระกลับคืนมา แทนที่จะยินดี ภายในใจกลับรู้สึกว่างเปล่า


เป็นเพราะกริดบังคับให้พวกมันทำภารกิจสุดโหด ทั้งสามคนจึงต้องพานพบสถานการณ์ตึงเครียดจนผมแทบร่วง


ทุกครั้งความฉิบหายเฉียดใกล้ เชย์จะสาปส่งกริดในใจเสมอ แต่มันพยายามเลี่ยงที่จะทำเช่นนั้น เชย์รู้สึกว่าการสบถกริดจะทำให้อีกฝ่ายอายุยืนเพิ่มจากเดิม 20 ปี


“ไวเคาต์เดลลัวกับเอิร์ลคอลลิน่าถูกลอบสังหารแล้ว!”


เนื่องจากความโกลาหลครั้งใหญ่ นายกองจึงมิอาจระงับการแหกปากของกลุ่มพลทหารได้


ข่าวการถูกลอบสังหารของขุนนางและแม่ทัพระดับสูงเริ่มแพร่กระจายเป็นวงกว้างในเวลาอันสั้น ประหนึ่งเปลวเพลิงลามลุกบนกองฟาง กองทัพกว่าสองแสนตกอยู่ในบรรยากาศหดหู่อย่างรวดเร็ว


“เอ๋?”


แม้แต่ปาร์ตี้ของเชย์ก็ยังประหลาดใจ


ไวเคาต์เดลลัวและเอิร์ลคอลลิน่าไม่ใช่เป้าหมายสังหารของพวกมัน ระบุให้ชัดคือ ขุนนางเหล่านั้นทรงพลังเกินกว่าจะลอบสังหารสำเร็จ


“…ฝีมือเฟคเกอร์หรือ?”


“ไม่มีใครทำแบบนี้ได้นอกจากเฟคเกอร์”


“น่ากลัวชะมัด…”


“หรือสัตว์ประหลาดตัวจริงของกิลด์โอเวอร์เกียร์จะไม่ใช่กริด แต่เป็นเฟคเกอร์? หากเฟคเกอร์อยู่ฝ่ายตรงข้าม แม้แต่กริดก็คงถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า…”


“…”


เมื่อเชย์ลองนึกดูให้ดี การตอบรับคำขอร้องจากกริดในวันก่อน นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต


หากกริดส่งเฟคเกอร์มาลอบสังหารพวกมันวันแล้ววันเล่า… เชย์ไม่กล้าจินตนาการภาพขุมนรกอันโหดร้ายที่จะเกิดกับตน


อาจถึงคราวเลิกเล่นเกมของจริง


***


ณ เขตอุตสาหกรรมตีเหล็กไรน์ฮาร์ท


กริดกำลังใช้ทักษะ ‘การออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนาน’ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


ข้างกายมีแพนเมียร์และหัวหน้าช่างเหล็กจากทวีปตะวันออกทั้งสี่ยืนรุมล้อม


ทุกครั้งที่ออกแบบไอเท็มชนิดใหม่ หลังจากไม่มีข่าน กลุ่มคนเหล่านี้คือที่ปรึกษาแสนสำคัญ


[ต้องการสร้างไอเท็มชนิดใด?]


“ปืนใหญ่”


ใช่แล้ว


กริดมีแผนจะสร้างปืนใหญ่รุ่นผลิตจำนวนมาก และเร่งแจกจ่ายไปตามหัวเมืองสำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์โดยเร็ว


สงครามกับจักรวรรดิจะไม่ยุติจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเผชิญความพินาศล่มจม


ประสบการณ์สร้างปืนใหญ่พาเฟรเนี่ยมในงานแข่งนานาชาติได้ช่วยให้กระบวนการออกแบบเป็นไปอย่างรวดเร็ว

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,395
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สนุก​ มันส์​~
    ขอบคุณ​มากๆครับ😊

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00