จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 736



    ‘หากคำนวนจากเลเวลของครอเกลเมื่อครั้งล่าบีเลียล…’

    งานแข่งนานาชาติกำลังใกล้เข้ามา
    สมาธิของกริดเกือบทั้งหมดจึงเพ่งอยู่กับครอเกลเพียงผู้เดียว
    
    สิ่งนี้เกิดจากความต้องการคว้าชัยชนะในการแข่ง PVP ที่กำลังจะมาถึง

    กริดและครอเกลดวลกันครั้งสุดท้ายเมื่อหนึ่งปีกับอีกสามเดือนก่อน

    ‘ปัจจุบัน  ส่วนต่างของเลเวลคงอยู่ราว 150 ระดับ…’

    จวบจนทุกวันนี้  ผลการดวลระหว่างกริดและครอเกลยังคงเสมอที่หนึ่งต่อหนึ่ง
    
    นี่เป็นเกมที่ต้องหาผู้ชนะให้เด็ดขาด
    ผู้ชนะจะกลายเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างไร้ข้อกังขา

    ‘ไม่สิ…เราไม่ควรประเมินการเก็บเลเวลของครอเกลด้วยวิธีปรกติ  บางทีอาจห่างไม่ถึง 100 ระดับแล้ว’

    ถึงจะห่างกันแค่ 100 ระดับ  
    แต่นั่นก็ยังเป็นปัญหา
    
    ‘ครอเกลยังเลเวลไม่ถึง 300…ย่อมไม่ได้รับโบนัสการตื่นของค่าสถานะระดับสาม’

    ในซาทาทิสฟาย  ส่วนต่างของเลเวลจะส่งผลเด่นชัดอย่างมาก
    ผู้เล่นเลเวลสูงจะได้เปรียบผู้เล่นเลเวลต่ำในทุกประตู

    โดยเฉพาะการตื่นของค่าสถานะในทุก 100 ระดับ  
    สิ่งนี้คือตัวแปรใหญ่หลวง

    สมัยอดีตที่กริดยังเลเวล 299 
    เขาไม่สามารถเอาชนะเอลฟิน·สโตนได้
    แต่พอเลเวล 300  ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป  
    กริดอาศัยโบนัสการตื่นค่าสถานะระดับสามเพื่อล้มหนึ่งในแวมไพร์ทายาทที่แข็งแกร่งที่สุด  
    
    นั่นคือความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจน

    ‘ช่างเถอะ…ห่างแค่นี้คงไม่เป็นไร’

    หมับ!

    กริดกำหมัดแน่น
    ใครบางคนอาจกล่าวว่า  การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ยุติธรรมต่อครอเกล
    
    แต่ไม่ใช่กับกริด
    กริดมองว่า  ความเร็วในการเก็บเลเวลก็เป็นฝีมืออย่างหนึ่งเช่นกัน
    
    การที่เลเวลของกริดสูงกว่าครอเกล  ส่วนหนึ่งเกิดจากพรสวรรค์ของตัวเขาเอง
    
    “ฮุฮุฮุ…ครอเกล  นี่คือความต่างชั้นของทักษะยังไงล่ะ!  อย่าได้กล่าวโทษว่าเป็นเพราะระบบรีเซ็ตเลเวลตัวละคร  เพราะฉันเองก็โดนมาเหมือนกัน”

    กริดโดนรีเซ็ตตอนเลเวล 80 
    แต่กลับกล้านำมาเทียบกับครอเกลที่โดนรีเซ็ตตอนเลเวล 300… 
    หากไม่ใช่กริด  คงไม่มีใครกล้ากล่าวคำไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาแน่

    น่าสมเพชนัก
    ความเสียหายที่ครอเกลได้รับย่อมสูงกว่ากริดอย่างเทียบไม่ติด

    แต่ก็มีหนึ่งสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้

    ‘เราคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด!’

    กริดและครอเกลต่างถูกผลของเลเวลรีเซ็ตเหมือนกัน

    “เทียบกับเราที่แสนโง่เขลาเมื่อเลเวลถูกรีเซ็ต  ครอเกลกลับเลเวลรีเซ็ตโดยมีความรู้ในซาทิสฟายอย่างครบถ้วน”  
    
    กริดแสยะยิ้ม
    
    “แต่ปัจจุบัน  เลเวลของเรากำลังสูงกว่าครอเกลมาก  ย่อมหมายความว่า  เรามีพรสวรรค์มากกว่าครอเกล…ต้องใช่แน่!!”

    ช่างไร้ยางอายนัก…
    หากใครมาเห็นภาพนี้เข้า 
    คงทำเพียงส่ายศีรษะอย่างผิดหวัง 
    
    แต่ไม่ใช่กับฮิวรอย
    เขาพยักหน้าเห็นด้วยทันที
    
    ฮิวรอยไม่ต้องการสร้างความตรึงเครียดให้ผู้เป็นนายไปมากกว่าเดิม
    ปัจจุบัน  กริดกำลังแบกรับเงื่อนไขที่ต้องชนะไว้บนบ่า

    “ฝ่าบาทเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ  สูงส่งเสียยิ่งกว่าท้องฟ้า  กระหม่อมมิเคยเคลือบแคลงสงสัย  ฝ่าบาทต้องเป็นผู้ชนะในศึกการดวลอัน ‘บริสุทธิ์ยุติธรรม’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน”  
    
    ฮิวรอยรัวคำประจบประแจงสถานหนัก
    
    “ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่าบาทของกระหม่อม  ผู้เป็นร่างกลับชาติมาเกิดของเจงกิสข่าน  จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้”

    “นั่นสินะ…สายตาของนายยังเฉียบแหลมเหมือนเคย  สมกับเป็นฮิวรอย  แต่เจงกิสข่านเป็นชาวมองโกลมิใช่หรือ?  ส่วนฉันเป็นชาวเกาหลีใต้”

    “บนโลกที่เป็นปึกแผ่นเดียวกัน  ชาติกำเนิดสำคัญด้วยหรือ?  ในเมื่อฝ่าบาทคือผู้ปกครองทุกสรรพสิ่งบนโลกอยู่แล้ว”

    “นายพูดถูก  ฮิวรอย…มุมมองของนายน่าสนใจมาก!  ฮ่าฮ่าฮ่า!”

    “ฮ่าฮ่าฮ่า!  ฝ่าบาทแข็งแกร่งที่สุด!”

    “…”

    คนหนึ่งกำลังสร้างไอเท็ม  
    ส่วนอีกคนกำลังเตรียมตัวสอบเป็นนักการทูต

    สีหน้าของลอเอลไม่สดใสนักเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า

    “ฝ่าบาท…การมั่นใจเกินไปไม่ใช่เรื่องดี  ต่อให้ส่วนต่างของเลเวลมีมาก  แต่อีกฝ่ายเป็นถึงอริยดาบ  สุดยอดคลาสสายต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด  ปีนี้จะต้องยากกว่าปีที่แล้วแน่  ได้โปรดห้ามประมาทเด็ดขาด”

    เฉกเช่นฮิวรอย  ลอเอลเองก็อยู่ฝ่ายกริด
    เขาสนับสนุนกริดอย่างเต็มกำลังเสมอ
    ลอเอลต้องการให้กริดพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วที่สุด

    แต่ปัญหาคือ  ศัตรูในคราวนี้แข็งแกร่งเกินไป
    ไม่มีช่องว่างให้กริดประมาทได้เลย    

    “ดาบที่สามารถผ่าโลกออกเป็นสองส่วน…ถึงจะเป็นไอเท็มของฝ่าบาท  แต่คงมิอาจรับเข้าไปซึ่งหน้าได้แน่”

    ลอเอลมองว่า  ครอเกลคือคู่ต่อสู้ที่ชนะทางกริดมากเกินไป
    รูปแบบการต่อสู้ของกริดคือการพึ่งพาพลังไอเท็มเป็นหลัก  มิใช่ฝีมือควบคุม
    
    แต่หากนำวิธีนี้ไปสู้กับอริยดาบครอเกล  
    คลาสต่อสู้อันดับหนึ่งของโลก
    พลังของไอเท็มจะแสดงผลได้ไม่มากเท่าที่ควร

    “เงียบน่า”
    
    สิ่งที่ลอเอลพูด  ไม่มีคำใดเลยที่ผิด
    แต่นั่นกลับทำให้กริดโมโห

    คิดว่ากริดไม่รู้หรือ…ว่าการดวลกับครอเกลเป็นเรื่องยากลำบากเพียงใด?
    เขาเพียงต้องการกำลังใจให้ตนฮึกเหิม
    มิใช่ห่อเหี่ยวยิ่งกว่าเก่า

    “นายคิดบั่นทอนจิตใจของฉันใช่ไหม?”

    “หือ?”

    “นายเองก็อยู่ทีมสหรัฐเหมือนครอเกล  นายคิดว่าการบั่นทอนจิตใจของฉันจะเพิ่มโอกาสชนะให้ครอเกลได้สินะ”

    “นั่นมัน…อ๊ะ”

    ลอเอลพลันตระหนักถึงความผิดพลาด
    เขาลืมไปว่ากริดเป็นพวกอ่อนไหวง่าย
    
    กริดร่างที่อยู่หน้าลอเอลตอนนี้…  
    คือกริดผู้บอบบางและคิดเล็กคิดน้อย
    เป็นร่างก่อนสมัยก่อนเป็นกษัตริย์
    
    กริดเวอร์ชั่นนิสัยต่ำทราม

    ฮิวรอยสัมผัสสิ่งนี้ได้ตั้งแต่ต้น
    เขาจึงยกยอปอปั้นกริดจนออกนอกหน้าเกินพอดี

    “ฝ่าบาทไม่ต้องห่วง!  กระหม่อมจะตัดลิ้นชั่วของหมอนี่ออกให้เอง!”

    “นั่นสินะ…ฉันคงพึ่งพาฮิวรอยได้เพียงคนเดียว  ความจงรักภักดีของนาย  ฉันจะตอบแทนด้วยไอเท็มที่มีระดับสูงยิ่งขึ้นไปอีก”

    “นับเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลกระหม่อมอย่างมาก!”

    “ฮิวรอย!  ใจเย็นก่อน!  ฉันแค่ล้อเล่น…อ๊ากก!”

    จุดจบของมือขวา…
    ขณะกำลังถูกฮิวรอยลากตัวออกไป  
    ลอเอลรู้สึกราวกับตนเป็นหนึ่งในตัวละครของหนังมาเฟียที่ถูกทรยษ

    และวันนี้
    อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็สงบสุขเช่นเคย

    ***

    กาลเวลาคือกรดที่สามารถกัดกร่อนได้ทุกสิ่ง
    มันไม่ไหลย้อนกลับ  และผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ

    งานแข่งนานาชาติปีที่สามซึ่งถูกเลื่อนให้นานกว่าปรกติเล็กน้อย
    ปัจจุบัน  เหลืออีกเพียงสามวันเท่านั้น

    แชะ!

    แชะ! แชะ!

    ณ สนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ เคเนดี้  สถานที่แห่งนี้กำลังคราคร่ำด้วยกองทัพนักข่าว
    เป็นงานแถลงใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนที่ทัพนักกีฬาจะออกเดินทางไปยังญี่ปุ่น

    พวกเขาคือเหล่าแรงเกอร์ซาทิสฟายที่แสนโด่งดังของโลก
    นักกีฬาทีมสหรัฐทุกคนล้วนมีมาดองอาจสง่างาม
    เป็นต้นแบบให้ใครหลายคน
    และเป็นที่รักของใครคอีกหลายคน    

    แต่แน่นอน  คนที่เจิดจรัสยิ่งกว่าใครทั้งหมด… 

    ครอเกล

    “นักกีฬาครอเกลครับ!  คุณรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้เป็นนักกีฬาตัวแทนทีมสหรัฐ?”
    
    “ชีวิตในอเมริกาช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างครับ?  ดีใจหรือเสียกับใจการย้ายมาอยู่ที่นี่?”

    “คุณจะลงแข่งรายการใดบ้างคะ?”

    “มีข่าวลือมาว่า  กริดจะลงแข่งทุกรายการที่คุณเข้าร่วม  แถมกริดยังไม่ออกมาปฏิเสธข่าวนี้  คุณคาดหวังการต่อสู้ที่ดุเดือดไว้หรือไม่?”

    และอีกมากมาย
    ครอเกลถูกระดมยิงคำถามใส่โดยไม่หยุดพัก

    ขณะนักกีฬาคนอื่นถูกถามหนึ่งครั้ง  
    ครอเกลจะถูกถามมากถึงสิบ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  กลุ่มนักข่าวสาวสวยผมบลอนด์
    แม้ครอเกลอาจมีเชื้อสายเอเชีย  
    แต่ความสมบูรณ์แบบของใบหน้าก็มัดใจหญิงสาวทั่วโลกได้ไม่ยาก

    “เจ๋งกว่าตอนมีซีบาลตั้งเยอะ…”

    “เห็นด้วย…ครอเกลอยู่คนละมิติ”

    แรงเกอร์ระดับท็อปของทีมสหรัฐที่เข้าร่วมแข่งทุกปี
    พวกเขาทำได้เพียงส่ายศีรษะ
    
    แต่ไหนแต่ไรมา  
    ชายที่ถูกกองทัพนักข่าวรุมล้อมสัมภาษณ์มากที่สุดในโลกคือซีบาล

    แต่เมื่อครอเกลตัดสินใจปรากฏตัวสู่สาธารณะเป็นครั้งแรก
    ความนิยมในตัวเขาได้เพิ่มจำนวนจนแซงหน้าทุกคน

    “ฮะฮะ…ทั้งที่พวกเราเองก็เป็นซุปเปอร์สตาร์เหมือนกัน  แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน…”

    ใช่แล้ว
    แรงเกอร์หัวแถวของโลกล้วนได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
    โดยเฉพาะนักกีฬาของทีมสหรัฐ  
    พวกเขาจะกลายเป็นดาราดังในทุกสถานที่ที่ย่างไป

    แต่เมื่อมีครอเกลยืนเคียงค้าง  ทุกสิ่งพลันกลับตาลปัด
    เหล่าซุปเปอร์สตาร์เป็นได้เพียงฉากตกแต่งที่ไม่มีใครเหลียวแล    

    เกิดเป็นความรู้สึกแปลกประหลาด    
    แต่ก็มิใช่ความเกลียดชัง

    “ก่อนอื่น…ผมชอบชีวิตในอเมริกามาก  ทุกคนใจดีและเป็นมิตร  ผมจะต่อสู้อย่างสุดฝีมือเพื่อนำชื่อเสียงกลับมาให้ทุกคน”

    ครอเกลตอบคำถามกลุ่มนักข่าวอย่างช่ำชองชำนาญ
    เขาปรากฏตัวครั้งแรกในงานแข่งนานาชาติปีที่แล้ว
    ปัจจุบัน  ครอเกลเริ่มคุ้นชินกับชีวิตดาราดังที่ต้องคอยตอบคำถามนักข่าว

    เขามอบคำตอบอันน่าพึงพอใจที่ทุกคนอยากฟัง
    แถมยังรู้จักเล่นหูเล่นตากับกล้อง  
    ถึงขั้นจุมพิตเล็กน้อยเป็นบริการพิเศษส่งถึงคนดูทั่วประเทศ

    “อย่างที่ทุกคนทราบ…หนึ่งในรายการที่ผมจะลงแข่งแน่นอนคือ PVP  ส่วนอีกรายการยังไม่ขอเปิดเผย  ผมคิดว่า  มันคงน่าตื่นเต้นกว่านี้  หากปล่อยให้ทุกคนลุ้นอย่างใจจดใจจ่อจนกว่าจะถึงอีกสามวันให้หลัง”

    ครอเกลเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย

    “ส่วนเรื่องที่กริดจะลงแข่งรายการเดียวกับผม…”
    
    ดวงตาที่ไม่สั่นคลอนของครอเกลกำลังจดจ้องมายังกล้องถ่ายทอดสดเบื้องหน้า
    นัยน์ตาดำกลมโต…ดูลึกลับน่าค้นหาและงดงามในเวลาเดียวกัน     

    ผู้สื่อข่าวทั้งชายและหญิงพลันถูกสะกด
    ด้วยบรรยากาศเช่นนี้  
    ครอเกลกล่าวต่อไป

    “ผมดีใจมาก…และตั้งตารอคอยที่จะได้เผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง”

    “…” 

    เป็นเพราะรูปลักษณ์ที่ได้ทั้งสองเพศของครอเกลงั้นหรือ?
    บรรดานักข่าวจึงพากันคิดว่า…
    ครอเกลกำลังสารภาพรักกับเพศตรงหน้าต่อหน้าคนทั้งโลก 

    ดูเหมือนสายพันธ์ระหว่างกริดกับครอเกลจะลึกซึ้งกว่าที่ทุกคนคิด

    ท่ามกลางบรรยากาศแปลกประหลาด… 

    “เขาไม่ได้เป็นเกย์”

    ลอเอลเดินเข้ามาใกล้พร้อมกล่าวตัดบท
    
    นักกีฬาคนสุดท้ายของทีมสหรัฐเดินทางมาถึงสถามบินเรียบร้อยแล้ว

    “ลอเอล…!”

    รัฐมนตรีแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
    มือขวาของราชาโอเวอร์เกียร์

    ตัวตนลอเอลยิ่งใหญ่ไม่แพ้ครอเกลเลยสักนิด
    การปรากฏตัวของเขาสามารถดึงความสนใจจากนักข่าวได้ไม่น้อย

    เมื่อเห็นกล้องทุกตัวจับภาพมายังตน
    ลอเอลจึงแสยะยิ้ม

    “ครอเกลและราชาโอเวอร์เกียร์เป็นทั้งสหายรักและคู่แข่งของกันและกัน  ผมหวังว่าพวกคุณจะไม่ตีความสายสัมพันธ์อันมีค่านี้ผิดเพี้ยนไป”

    ลอเอลกล่าวเพื่อเคลียปมว่าครอเกลมิได้เป็นเกย์
    
    อาศัยผสมปนเปไปกับอารมณ์ขัน

    ลอเอลไม่เพียงจะช่วยแก้ข่าวให้ครอเกล
    แต่ยังช่วยยกระดับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ด้วยความสัมพันธ์ที่พวกตนมีต่ออริยดาบ

    อริยดาบเป็นสหายที่แน่นแฟ้นของราชาโอเวอร์เกียร์
    หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ…
    ทุกคนที่บังอาจแตะต้องอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  
    พวกมันจะถูกอริยดาบลงทัณฑ์     

    เป็นศัตรูกับราชาโอเวอร์เกียร์
    เทียบเท่าเป็นศัตรูกับอริยดาบคนใหม่

    ลอเอลกล่าวสิ่งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนไม่หลงลืมความจริง
    
    “กริดและครอเกล  การปะทะกันของทั้งสองจะทำให้ทั่วโลกลุกเป็นไฟ”

    แสยะ...

    ลอเอลฉีกยิ้มกว้าง
    แผนการของตนเป็นไปอย่างราบรื่น

    ***

    “พวกคุณสามารถใช้เลาจ์*นี้ได้” 

(เลาจ์ —  ห้องพักรับรองขนาดใหญ่)

    “สุดยอด…”

    งานแข่งนานาชาติปีที่หนึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้  กริดจึงไม่ต้องนั่งเครื่องบิน
    งานแข่งนานาชาติปีที่สองจัดขึ้นที่ฝรั่งเศส  กริดนั่งเครื่องส่วนตัวของยูร่า
    
    และงานแข่งนานาชาติปีที่สาม
    เป็นครั้งแรกที่กริดได้สัมผัสบริการพิเศษจากสายการบิน

    “ว้าว…”

    ชินยองวูพลันอ้าปากค้างเมื่อเดินเข้าไปในเลาจ์ส่วนตัวของผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส
    เป็นห้องที่กว้างขวางยิ่งกว่าสนามเด็กเล่น
    อาหารหรูหราถูกวางเรียงรายอยู่ทุกจุด
    
    ฉากแนวยาวของสนามบินกำลังฉายผ่านกระจกใสเบื้องหน้า
    เป็นภาพที่งดงามจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก

    และเหนือสิ่งใดทั้งหมด
    สุดยอดของสุดยอด...

    “ห—ห้องน้ำส่วนตัว?”    

    ยองวูกำลังตื่นเต้น
    เขาโพล่งขึ้นเสียงดังเมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำ
    
    ท่ามกลางทางเดินยาวภายในห้องน้ำขนาดใหญ่ 
    สองข้างฝั่งล้วนเต็มไปด้วยห้องน้ำส่วนตัวที่สะอาดสะอ้าน
    ในแต่ละห้องส่วนตัวจะมีอ่างล้างหน้า  ส้วม  และห้องอาบน้ำ

    ยาสีฟันและแปรงคุณภาพดีถูกวางเรียงรายโดยไม่หวงแหน
    มันคือแปรสีฟันรุ่นใหม่ล่าสุดที่แม้แต่ยองวูก็ไม่เคยใช้มาก่อน

    “กำไรแล้ว…หือ?”

    ยองวูขโมยแปรงสีฟันใส่กระเป๋า  ก่อนจะย่องกลับออกมาที่โถงเลาจ์
    ระหว่างทางได้สวนกับคังแดฮัน 
    (พีคซอร์ด)

    คังแดฮันแสดงสีหน้าสับสนเมื่อหันไปมองภายในห้องน้ำ

    “นี่มันอะไรกัน?  ป้ายด้านนอกเขียนว่าห้องน้ำ  แต่พอเดินเข้ามากลับไม่เห็นโถฉี่…แล้วห้องซ้ายขวาพวกนี้คืออะไร?”

    “ก็นั่นล่ะห้องน้ำ…”

    “…”
    
    นี่เป็นครั้งแรกของคังแดฮันเช่นกัน
    พีคซอร์ดไม่เคยใช้บริการพิเศษของสนามบินมาก่อน

    เดิมที  ห้องเหล่านี้มิได้มีไว้สำหรับคนทั่วไป  
    ต้องเป็นผู้โดยสารระดับเฟิร์สคลาสเท่านั้น 
    ซึ่งราคาตั๋วจะเพิ่มจากหนึ่งล้านวอนกลายเป็นสิบล้านวอน

    ชินยองวู  คังแดฮัน  และนักกีฬาชาวเกาหลีใต้ที่เหลือ
    สาเหตุหลักที่พวกเขามีโอกาสได้ใช้เลาจ์สุดหรูแห่งนี้
    ต้องขอบคุณการสนับสนุนจาก SA กรุ๊ป

    SA กรุ๊ปจะมอบตั๋วเที่ยวบินเฟิร์สคลาสให้กับนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมแข่งนานาชาติ

    นี่เป็นหนึ่งในข้อบังคับที่ SA กรุ๊ปแจ้งกับผู้เข้าแข่งทุกคนก่อนหน้านี้
    ‘กรุณาโดยสารเที่ยวบินเฟิร์สคลาสที่ทางเราเตรียมไว้ให้’

    นักกีฬาที่เหลือจึงมิได้ออกอาการตื่นเต้นมากนัก  เพราะพวกเขาล้วนรู้อยู่แล้ว

    แต่แน่นอน  ชินยองวูและคังแดฮันย่อมอ่านหนังสือไม่หมด
    พวกเขาจึงมารู้เอาป่านนี้

    “ฉันอยากอยู่ที่นี่ตลอดไป!”

    “ฮุฮุฮุ…ถูกต้อง  จะได้เห็นพี่สาวสุดสวยทุกวัน  ถ้ามีเครื่องแคปซูลรุ่นเพชรด้วยคงจะดีกว่านี้…”

    ยองวูและแดฮันกำลังหัวเราะคิกคักขณะกำลังตักอาหาร
    นักกีฬาคนอื่นต่างจ้องมองมาด้วยสีหน้าสุดทึ่ง

    ‘หืม…? ทำไมทุกคนถึงมองด้วยสายตาแบบนั้น?’

    ชินยองวูและคังแดฮัน
    ทั้งสองถูกจัดให้เป็นหนึ่งในแชโบล*รุ่นใหม่ของเกาหลีใต้
    มีทรัพย์สินอยู่ในความครอบครองมากมายนับไม่ถ้วน
    ยังไม่รวมถึงอาณาจักรในซาทิสฟาย

( แชโบล — กลุ่มตระกูลมหาเศรษฐีของเกาหลีใต้ )
    
    ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนทั้งสองจะโดยสารสายการบินชั้นเฟิร์สคลาสเป็นประจำ
    
    แต่อาการตื่นตูมอย่างออกนอกหน้าเมื่อได้เห็นเลาจ์พิเศษของเฟิร์สคลาสเช่นนี้…
    
    ทุกคนทำเพียงยืนมองด้วยสีหน้าสุดทึ่ง

    “ทำตัวให้ดีกว่านี้ไม่ได้รึไง?  ไม่รู้หรือว่าภาพลักษณ์ของนายสำคัญกับเกาหลีใต้ขนาดไหน?”    

    “นี่นาย…?”

    งั่ม

    ขณะกำลังโซ้ยหมูตงพอเข้าปาก
    ดวงตาชินยองวูพลันเบิกโพลงเมื่อหันไปมองเจ้าของเสียงเมื่อครู่

    ดาร์ค…
    ไม่สิ  สวาปามจกบัลเผ็ด 

    อดีตหัวหน้าบลัดคาร์นิวัลที่ชินยองวูเคยแย่งชิงไข่มังกรคลั่งมาจากมือ
    ชายคนนั้นกำลังปรากฏตัวเบื้องหน้า

    “นายมาที่นี่ทำไม?”

    หรือคิดจะแก้แค้นในชีวิตจริง? 
    ขณะยองวูกำลังลนลาน
    คังแดฮันรีบอธิบาย
    “เขาคือสหายของฉัน…และจะเป็นสหายร่วมรบของพวกเราระหว่างงานแข่งนานาชาติปีนี้”

    “อะไรนะ?”

    นักสร้างดันเจี้ยน
    นี่คือวินาทีที่อีกหนึ่งแรงเกอร์ลับของโลกเข้าร่วมทีมเกาหลีใต้
    พลังอันมหาศาลที่ไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นมาก่อน

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,176
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ดีมั้ยเนี่ยที่มีคนเข้าทีมเพิ่ม

    ReplyDelete
  2. สนุกละทีนี้555

    ReplyDelete
  3. ลงน่อยครับวันนี้ ขอร้องละพี่ไหว้ละ

    ReplyDelete
  4. มันล่ะที่นี้ คลาสใหม่ปรากฎสู่สายตาโลก และยังเป็นทีมของกริดอีก

    ReplyDelete
  5. ให้มันได้อย่างงี้ ตรงเวลาจริงๆไอ้เวร

    ReplyDelete
  6. ต้มยำกุ้งของไทยเข้ามั้ย 555+ พี่เบย์ พี่เอก พี่กล้าคือต้องมาอ่ะ 555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00